ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Art of THE MASK วุ่นรักโรงเรียนหน้ากาก อลหม่านงานวิจิตรศิลป์ [Yoai]

ลำดับตอนที่ #2 : Date today 2

  • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 60


Date today 2
                           How can you see into my eyes
                                     Like open doors 
                          Leading you down into my core
                           Where I've become so numb
     
    "อือออ"
  
     เสียงเพลงจากโทรศัพท์ของใครบางคน ถูกเปิดขึ้นจงใจแกล้งคนตรงหน้า แต่เพลงที่ถูกเปิดท่อนเนื้อเพลงเเรกก็ค่อนข้างจะทำให้พริ้มหลับมากกว่าเดิมเสียอีก...

                                      Without a soul
                   My spirit is sleeping somewhere cold
                  Until you find it there And lead it back
                                           Home

                                     Wake me up!!
                               Wake me up inside!!

     ทำนองเพลงถูกเปลี่ยนเป็นร็อคเเสบหูในทันที เมื่อถึงท่อนฮุคของเพลง ร่างบางบนเตียงที่มีผ้าม่านคลุมอยู่รอบที่นอน เอาหมอนปิดหูสุดแรง ขมวดคิ้วเข้าหากันจนยุ่ง สุดท้ายเเล้วต้องเด้งตัวออกมา

     "พี่!!! ปิดเพลงเดี๋ยวนี้!"
     "ตื่นแล้วสิ เก็บที่นอนแล้วอาบน้ำใส่หน้ากากซะ"

     จริงอยู่ ที่ภายในห้องของแต่ละหอจะเป็นห้องนอนรวมสองคนด้วยกัน รอบๆตัวเตียงจึงมีผ้าม่านคอยคลุมไว้ทั่วทั้งหมด เพื่อป้องกันการรับรู้ภายใต้หน้ากากของแต่ละคน
     ร่างบนที่นอนยังคงนั่งกอดหมอนหน้าหงุดบนเตียง ถึงจะไม่ค่อยเห็นหน้าข้างนอกม่าน แต่เขาเห็นเงาดำยังคงนั่งกดโทรศัพท์เพิ่มเสียงไม่หยุดอยู่

     "พี่ ผมบอกให้พี่ปิดเพลง"
     "นายก็ออกมาก่อนสิ นี่มันตีห้าเเล้วนะ"
     "พี่!! โรงเรียนมันเริ่มเรียนเก้าโมงครึ่ง!? จะรีบไปนอนเฝ้าโรงเรียนหาพระเเสงอะไรกัน หอที่เราอยู่ก็อยู่ในโรงเรียน"

     หน้ากาก ที่ถูกวางข้างที่นอนถูกฝ่ามือเล็กหยิบออกมาอย่างรวดเร็ว จัดแจงใส่บนศีรษะแล้วแหวกม่านออกมายืนเท้าเอว สายตาจ้องมาด้วยความไม่พอใจ

    "รู้อยู่ แต่ไปก่อนก็ไม่เสียหายหนิ"
    "ถ้าไปก่อนพี่ก็ไปคนเดียวสิ! จะมาปลุกผมทำไมเนี่ย!?"
    "ก็ปกติพี่ก็ปลุกระฆังตอนตีห้าอยู้แล้วนี่หน่า"
    "แล้วผมใช่พี่ระฆังมั้ยยยยยยย ถามมมมม"

    รุ่นน้องตัวเล็กบนฟึดฟัด กระทืบเท้าไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ถูกแขวนหน้าห้องน้ำอย่างอารมณ์เสีย ฝ่ายประธานก็ได้เเต่มองเเล็วจัดกระเป๋านักเรียนตัวเองต่อ ทำไมเขาถึงต้องมาปลุกเจ้ารุ่นน้องด้วยนะ? คำถามที่เขาคิดขึ้นเองเเละตอบไม่ได้ก็วนเวียนอยู่ในหัว ทั้งที่หมอนั้นไม่ได้สำคัญอะไรแท้ๆเขาจะไปสนใจทำไมกันนะ?

     "เฮ้อ..."
ก๊อกๆๆ
     "หืม...ใครครับ"
แอ๊ดดด

     เมื่อประตูถูกแง้มเปิดออก ร่างสีทองอารามตาก็เผยขึ้น พ่อพระอย่างระฆังปรากฏตัวขึ้นมาด้วยท่าทีที่แจ่มใสเหมือนทุกๆวัน วันนี้ตอนเช้าถือโอกาสมาเยี่ยมคนต่างห้องซักหน่อย
  
    "ระฆังเองคร้าบ ไม่มีใครปลุกเลยคิดถึงจัง"
    "เหอะ เหรอ? ทุกทีฉันก็เห็นว่าเราตื่นพร้อมกันหนิ หรือฉันปลุกนาย?"
    "ฮ่าๆ นายแหละปลุกฉัน...แล้วไหนน้องทุเรียนล่ะ หรือยังไม่ตื่น"
   
    หนุ่มร่างสูงปิดประตูแล้วเดินมาที่โซฟาใกล้กับร่างสีดำทมิฬ สายตาส่องดูในม่านพร้อมกับเอ่ยถามไปด้วย มือหนาชี้ไปที่ห้องน้ำเป็นเชิงบอก
     
     "โห นายปลุกน้องเค้ายังไงเนี่ย เห็นน้องโจ้เล่าให้ฟังว่าเวลาปลุกน้องทุเรียนเนี่ย ต้องถึงกับเอาเตารีดดาดเลยด้วยซ้ำ ฮะๆ"

     คำพูดติดตลกในลำคอกล่าวถึงเจ้ารุ่นน้องตัวแสบ จากปากคำเล่าของหน้ากากจิงโจ้ ร่างเล็กนั่งกอดอกแสดงถึงความน่าเกรงขาม คำพูดเมื่อครู่ก็ทำเอาเขาหลุดขำมานิดนึงเมื่อกันตอนแรกเขาก็ว่าจะทำอย่างนั้นแหละ แต่ดูแรงไปหน่อย เปิดเพลงเสียดสีหูแทนแล้วกัน

    "ฉันก็แค่เปิดเพลง ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้น"
    "ฮ่าๆ อ๊ะ..จริงสิ เรื่องเมื่อวานที่นายกับน้องเค้าทะเลาะกันน่ะ ตอนนี้ข่าวมันกระจายไปทั่วแล้วนะ"
    "เหรอ"
    "อืม ครูอ้วนกับครูซาร่าก็รู้เเล้วด้วย"

    เมื่อได้ยินว่ารับรู้ไปถึงอาจารย์แล้ว อีกาได้แต่เอามือเท้าคางเเละถอนหายใจทิ้ง ระฆังที่ยังคงยืนอยู่ก็ตบบ่าเบาๆเป็นการให้กำลังใจไปในตัว มือหนายกขึ้นมาจับออกอย่างรำคาญ

    "ไม่ต้องมาตบบ่า"
    "แค่ให้กำลังใจเอง..."
    "ไม่ต้อง"

    ร่างเล็กยังคงทำท่าเหมือนปัดแมลงวันไปเรื่อยๆ ทำเอาระฆังสนุกไม่น้อย ร่างสูงกว่าเลยจับหมับไปที่หัวไหล่ทั้งสองข้างจนคนตัวเล็กข้างล่างมือถึงกับสะดุ้ง ปักษาใจเต้นรัวรีบปัดออกอย่างรวดเร็ว

    "ปล่อย!!"
เพี๊ยะ...
    "อ่ะ..แค่จับไหล่เองนะครับ ไม่ต้องอารมณ์เสียก็ได้"
    "ฉันไม่ชอบให้ใครมาจับบ่า จำไว้!"

    ร่างปักษาลุกขึ้นไปเปลี่ยนที่นั่งให้ไกลกว่าเจ้าเพื่อนตัวป่วน แล้วก็นั่งงมหนังสือตามเดิม ร่างสูงทองอารามที่ยังคงยืนอยู่เห็นบรรยากาศเริ่มเงียบเลยนั่งลงที่เดิมของอีกา แล้วหยิบสมุดเล่มนึงบนโต๊ะมาอ่านเล่น

    "เมื่อวานนายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?"
    "อะไร"
    "ก็เมื่อวานที่น้องเค้าด่านายไง เจ็บไม่น้อยนะนั่น"

   ร่างของอีกาชิดติดกับขอบเก้าอี้เล็กน้อย ท่อนแขนทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นกอด  อก เเล้วถอนหายใจ วันนี้ตอนเช้าเขาถอนหายใจมากี่รอบแล้วนะ? ใบหน้าส่ายไปมาน้อยๆแล้วจดจ้องมาที่ผู้ถามอย่างเอาจริงเอาจัง

    "ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ... อืม..อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน สนใจมั้ง?"
    "หา?คนที่ด่านายทำให้น่าสนใจเนี่ยนะ? นี่สมองนายกระทบกระเทือนอะไรรึเปล่าเนี่ย"

    พลางเอานิ้วชี้ที่หัวตัวเองแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ คนคนนี่เข้าใจยาก ใช่..ยากมากจนเกินบรรยาย แค่อยากจะรู้ว่าชอบกินอะไรยังเข้าใจยากเลย ขนาดที่นั่งกินข่าวด้วยกันนะเนี่ย

   "หืม ที่เจ้าหมอนั่นน่าสนใจมันก็ตรงที่กล้าเถียงฉันนี่แหละ"
   "ฮะๆเหรอ? แน่ใจนะว่าแค่นั้นจริงๆ"
   "อืม..ก็นะ สนใจเรื่องฝีมือการวาดภาพด้วยน่ะ คิดว่าอาจจะวาดรูปสวยช่วยงานได้บ้างล่ะนะ"

   มือบางล่วงไปในกระเป๋านักเรียนแล้วหยิบกระดาษสีน้ำตาลออกมา แล้วเขียนชื่อตัวเองเป็นคนแรกตามมาด้วยชื่อบุคคลตรงหน้า ความสนใจของระฆังบังเกิดขึ้นน้อยๆก่อนจะปลิปากถามออกไป

    "ทำไรน่ะ"
    "เขียนชื่อสมาชิกงานในครั้งนี้..."
    "นี่นายจำได้เหรอว่ามีใครบ้าง?"
    "อือ เมื่อวานท่องจนขึ้นใจแล้วล่ะ"

    ลายมือเเบบวิชาการเริ่มเขียนบรรจงเร็วขึ้น ชื่อหมายเลขที่สิบที่เขียนอย่างรวดเร็วถูกหยุดค้างไว้ซักพัก เรียกความสงสัยจากคนตรงหน้าได้ดี สายตาพยายามเหลือบมองดูชื่อในกระดาษจนรู้ทันที... หน้ากากทุเรียน

   "ทำไมหยุดเขียนซะล่ะ"
   "เจ้าหมอนั่นควรจะเป็นขนุนมากกว่าทุเรียน ราชาผลไม้ซะอีก.."
แกร๊ก...
   "อุ๊บ..ฮ่าๆๆ ฮะๆๆ"

    เมื่อกล่าวถึงบุคคลที่สาม พอพูดถึงก็ออกมาจากห้องน้ำพอดี ร่างที่ชุ้มไปด้วยน้ำหลังจากออกมา แผ่นอกกว้างแน่นในชุดผ้าขนหนูรอบเอวเดินออกมาประเชิญหน้ารุ่นพี่ ในลักษณะที่ไม่ค่อยมีมารยาท อีกาที่ได้เเค่ดูก็ถอนหายใจออกมารอบที่ร้อยกว่า ฝ่ามือถูกยกขึ้นมาเท้าค่างแล้วเหล่ชายตามองเเล้วเบ้ปากเล็กน้อยภายใต้หน้ากาก 

   "ขำไรกันฮะ แล้วนี่พี่ระฆังมาทำอะไรอ่ะ"
    "มาแวะหาคุณอีกาน่ะครับ.. เออ..คุยอะไรนิดหน่อย"
    "เหรอ... แล้วขำอะไรกันครับ"

    ระฆังได้แค่เหล่มองอีกาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เขียนในกระดาษต่อไปเรื่อยๆ ปากขมุบขมิบคิดแก้ตัวไม่ถูกเลยพูดความจริงออกไป ทำไงได้..เขาเป็นคนโกหกไม่เก่งนี่

    "อ่า..ก็เรื่องที่อีกาเปรียบน้องทุเรียนน่ะครับ ฮะๆ..ว่าเหมือน... ขนุนมากกว่าทุเรียน..."
    "อ๋อหรอครับ~อย่าพึ่งกลับนะพี่ นี่ๆฝากเจ้านี่ให้ไอ้โจ้ด้วยฮะ สงสัยตอนย้ายห้องมันลืมไว้"
    "อ..อะไรล่ะครับเนี่ย"
    "ของสำคัญไอ้หมอนั่นฮะ ฝากด้วยนะฮะ"

    ระฆังยื่นไปรับสมุดหน้าปกแข็งอย่างปลงๆ เมื่อรับมาแล้วก็อ่านหน้าปกซักพัก ชื่อเจ้าของสมุดที่เขียนไว้เด่นหรากลางหน้า ขึ้นชื่อ Kangaroo So Cute คนอ่านปลิยิ้มน้อยๆแล้วเปิดหน้าแรกอย่างเบามือ

    "..."
    "..มองขนุนไมพี่ส้นตึก"
    "เปล่านี่"
    "ผมยังเคืองที่พี่เปิดเพลงปลุกผมอยู่นะ"
    "แล้วไงล่ะ"

    ศึกระหว่างรุ่นพี่เเละรุ่นน้องเกิดขึ้นอีกครั้ง ระฆังที่เพิ่งจะเปิดมาได้เเค่หน้าแรก ที่เต็มไปด้วยประวัติส่วนตัวของเจ้าของสมุดก็ปิดมันทันที ใบหน้าภายใต้หน้ากากยิ้มอย่างเจือนๆแล้วลุกขึ้นถอนหายใจยาวเตรียมตัวเดินออกไป

   "กลับแล้วเหรอฮะ พี่ระฆัง"
   "อืม จะไปปลุกน้องโจ้ด้วย"
   "ระวังมันถีบนะพี่...เจ็บนะจะบอกให้"

   หน้ากากระฆังหัวเราะเเห้งๆก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป สายตาจากร่างปักษายังคงจ้องมองเจ้าผลไม้อยู่ไม่ขาดสาย จนคนถูกมองต้องค้อนใส่อย่างอารมณ์เสีย

   "พี่ส้นตึกเป็นไร มองอยู่ได้"
   "...ฉันว่านายควรจะไปแต่งตัวได้แล้วนะ"
   "พี่ส้นตึกเป็นแม่ผมเหรอ?"
   "ไม่ใช่แม่ แต่ก็ต้องสั่งเป็นธรรมดานี่... ใครก็ไม่รู้ไร้มารยาทไม่ใส่เสื้อผ้ามาคัดผู้ใหญ่คุยกัน"

    ร่างในชุดผ้าขนหนูเขม็นใส่ ก่อนจะเดินไปหลังเตียงมุมห้องของตัวเองแล้วรีบจัดแจงเสื้อผ้า ทางด้านอีกาดำที่ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้วก็ลุกขึ้นปัดชายเสื้อยับๆเตรียมตัวเดินออกจากห้อง

   "นี่ เฮียส้นตึกจะไปไหนอ่ะ"
   "ไปห้องสภา"
   "นี่พึ่ง ตีห้าหกนาทีเองนะ...หรือพี่จะไปนอนเฝ้าโรงเรียนจริงๆ? เมื่อคืนไม่หลับรึไงกัน?"

    ร่างเล็กที่เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตูแล้ว หันมาจ้องใส่สักพักแต่ไม่ได้เถียงต่ออะไร ฝ่ามือเริ่มลงมือบิดลูกบิดประตูพร้อมที่เดินออกไป แต่เจ้ารุ่นน้องตัวแสบดันมาดึงมือไว้ก่อนนี่สิ... สายตาภายใต้หน้ากากจดจ้องมาด้วยความสงสัย...

    "นายจะทำอะไรของนายน่ะ...หะ?"
.
.
.
.
ตึก
ตึก
ตึก
ตึก
.
.
   ร่างสีทองหยุดอยู่หน้าห้องตัวเองซักพัก... เมื่อวานเขาค่อนข้างตกใจเลยทีเดียวที่พอกลับหอมาแล้วเห็นเจ้ารุ่นน้องหูยาวอยู่ในห้องถือโอกาสเปิดทีวีแล้วนั่งดูเล่น ตอนแรกๆก็แทบจะบุกไปพังประตูด่าอีกาอยู่เหมือนกัน แต่พอเจ้าตัวโทรศัพท์มาแล้วบอกสาเหตุนี่สิ...

   "ฉันขอย้ายห้องหน่อยละกัน..สาเหตุน่ะเหรอ? อยากเอาคืนกับใครบางคนน่ะ แต่นายไม่ต้องกังวลหรอกนะ ฉันให้หน้ากากจิงโจ้ย้ายไปอยู่ห้องเป็นเพื่อนนายแล้ว"

    กะว่าจะด่าซักหน่อย.. แต่ดันเจอข้อแรกเปลี่ยนเป็นเจ้ารุ่นน้องนี่ก็อดใจอ่อนไม่ได้ ตั้งแต่ที่จิงโจ้เข้ามาเมื่อวานห้องก็ดูมีสีสันมากขึ้น เขาชวนพ่อพระเล่นวีดิโอเกม ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่อะไรเท่าไหร่ ทำเอานอนดึกกันไปเลยห้าทุ่ม ระฆังก็ไม่คิดจะต่อว่าต่อเถียงอะไรเหมือนคู่ห้องนั้นหรอก...ใครมันจะไปยอมเถียงด้วยล่ะ...น่าเอ็นดูขนาดนี้...

แกร็ก...แอ๊ดดด
   ฟุ่บ...
    "น้องโจ้ครับ..ตื่นรึยังเอ่ย"
    "งืมมมม ขออีกห้านาที...คร่อก"
    "ครับๆอีกห้านาทีจะมาปลุกอีกรอบนะครับ ฮิๆ"

   ระฆังแอบย่องเข้าไปในม่านเตียงนอนของจิงโจ้ สิ่งที่เขาเห็นคือร่างเล็กที่กำลังซุกกอดตุ๊กตาจิงโจ้อยู่ ใบหน้าที่ไร้หน้ากาก...ขาวนวลดุจหิมะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นหิมะที่ไทยเลยก็ตาม แต่เขาก็สามารถเทียบได้แค่คำพูด คอขาวระหงส์...จนอยากจะซุกไซร้มัน สัญชาตญาณดิบในตัวเริ่มพลุกพล่านไปทั่วร่างกาย 
    เขาชอบเด็กคนนี้  ใช่..ไม่งั้นเขาจะยอมแหกกฏเหล็กของโรงเรียนแล้วย่องเข้ามาในม่านนี่ทำไมกัน เขาพบและรู้จักกับรุ่นน้องคนนี้ตั้งเเต่เขาอยู่ ม.ต้น ซึ่งคนอายุน้อยกว่าพึ่งจะขึ้น ม.1 มาใหม่ๆ รู้จักกันได้ก็ตอนงานกิจกรรมในเดือนนั้น...งานกิจกรรมในปีนั้นที่เขายอมรับว่าชอบที่สุด... งานที่เขาพบเจ้าเด็กจอมปัญหานั่งอยู่คนเดียว..........
 
    "งื้อ..."
    "?"

    ความคิดย้อนถึงวันเก่าๆถูกกลบด้วยเสียงละเมอของชายหนุ่มบนเตียงนอน ร่างบางพลิกตัวเข้ากอดกับแขนแกร่งจนทิ้งตุ๊กตาจิงโจ้น้อยในมือ ร่างน่ารักๆทำเอาระฆังใจสั่นเล็กน้อย อยากจะกอดและแสดงความเป็นเจ้าของ..แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้...เขาเป็นผู้ชายคนที่เขาชอบก็เป็นผู้ชายด้วยกันเอง มันจะไปมีวันลงตัวกันได้อย่างไร...ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ปวดใจไปพลาง เขาข่มใจตัวเองไว้แล้วขยับแขนจิงโจ้เบาๆเป็นเชิงปลุก

    "จิงโจ้ครับ..ตื่นเถอะน้า"
    "ใครน่ะ...ไม่เอาไม่ตื่น โจ้จะนอน"

    มือถูกปัดไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ ร่างกายของคนที่ยังตื่นไม่เต็มที่พลิกไปพลิกมาอยู่สักพักสุดท้าย..ขาแกร่งก็พุ่งเข้ามาชนกับจุดสำคัญของระฆังทันที Oh!? SHIT!!

    "โอ๊ย!!!???"
ตุบ!...

     ร่างถูกเตะกระเด็นออกมานอกม่านลงกระทบกับพื้นดังลั่น จิงโจ้ที่อยู่บนเตียงเด้งตัวขึ้นมาด้วยความตกใจ พลางหันไปมารอบทิศทางจนเห็นเงาของหน้ากากระฆังนอนกุมจุดอยู่บนพื้นนอกม่าน รุ่นน้องที่ตกใจจนใจแถบหายรีบตั้งใจแหวกม่านออกแล้วมาช่วยพยุง แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่มีหน้ากากเพราะวางไว้ข้างนอกก็ไม่กล้าออกไป

    "พี่กระดิ่ง!! ป..เป็นไงบ้าง โจ้ขอโทษน้าาาา โจ้ไม่ได้ตั้งใจ"
    "ซีด...อ่า..ม..ไม่เป็นไรครับน้องโจ้ อุ๊ยยยย"
    "จ..เจ็บมากมั้ยอ่ะ โจ้ขอโทษนะโจ้ไม่ได้ใส่หน้ากากออกไปให้พี่เห็นตัวไม่ได้หรอก...โจ้ขอโทษน้า"

    รุ่นน้องคิดมากเป็นใหญ่เป็นโต ได้แต่พูดคำว่า ขอโทษๆๆ เป็นร้อยๆรอบ ระฆังที่ยังคงนอนกุมจุดอยู่ก็ได้แต่ร้องบอกความเจ็บออกมาจนลุกไม่ขึ้น คนเจ้าปัญหาได้แต่นั่งกัดฟันอยู่บนเตียง ใจนึงก็อยากไปช่วย ใจนึงก็ไม่กล้าออกไปเพราะไม่มีหน้ากาก สุดท้ายแล้วก็นึกอะไรออก

    "พี่กระดิ่ง..หลับตาไว้นะ"
    "น้องจิงโจ้จะทำอะไร..โอ๊ะ..ซีดดด"
    "ผมจะออกไปหยิบหน้ากาก พี่ห้ามดูเด็ดขาดนะ..ผมจะรีบใส่แล้วมาช่วยพี่"
    "ม..ไม่เป็นไรพี่ไหว แค่นี่เอง โอยย"

    ซะที่ไหน... เขาแค่แกล้งทำเป็นร้องโอดครวญให้ใจเสียเล่นๆเท่านั้นแหละ แต่ถ้าไอ้ตอนร้องเสียงหลงตอนแรกนี่..เจ็บจริงๆไม่ได้แกล้ง
    ความวิตกกังวลของเจ้ารุ่นน้องพุ่งไปไกล ท่าทีที่กังวลจนเหงื่อออกนั้นทำเอาดูดีมีเสนห์ไม่น้อยในสายตาเค้า ทำให้เกิดความน่าแกล้งอีกเป็นสิบๆเท่า

    "ไม่ได้! พี่ห้ามมองเด็ดขาดนะ!! ผมจะรีบไปใส่หน้ากาก"
     "ก็ได้ครับ โอยยย"
ฟึ่บ!ตุบ...

     เสียงกระโดดลงบนพื้นและเสียงวิ่ง... นี่คือสิ่งที่เขาได้ยิน ตาที่ตอนแรกกะว่าหลับลงแต่มันถูกเปิดออกกว้าง ร่างไร้หน้ากากแบบเต็มๆตัวทำเอาใจหายวาบ เหงื่อตรงซอกผมและคอขาวไหลรินไปทั่ว...เสนห์แจกอ้อยของเขานี่แรงดีจริงๆ

    "พี่กระดิ่ง! มา..ผมช่วย"
    "ขอบคุณครับ"
    "ผมขอโทษจริงๆน้าาาา ขอโทษมากๆเลยจริงๆ สาบานต่อพระเจ้าเลยว่าผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆคร้าบ ผมขอโทษ~"

     คำว่าขอโทษรอบที่พันกว่าถูกกล่าวออกมาเป็นชุดๆ ทำให้เรียกเสียงความเอ็นดูและใสซื่อไปไม่น้อย เขาเทคะเเนนให้เลยเต็มที่ถ้าหากมี MISTER AWARD HANDSOME เขาทุ่มคิดไปไกลเลยนะเนี่ย!!

    "บอกแล้วไงครับ ว่าไม่เป็นไรหรอก"
    "จริงๆนะ"
    "อืม"

    กลิ่นกายหอมดอกไม้.. น้ำหอมที่กลิ่นติดตัวลอยฟุ้งเข้าจมูก จนอยากจะสูดดมให้ซะเต็มปอด!! เขาได้แต่คิดในใจว่าใจเย็นๆไว้ ใจเย็นไอ้ฆัง...ไอ้ฆังใจเย็นไว้ น้องเค้าเป็นผู้ชายว้อยยย ผู้ชาย!!!

    "แล้ว... ข้างๆพี่นั่นมันสมุดอะไรน่ะ"
    "อ..อ้อ! เมื่อกี้พี่แวะไปหาอีกาดำมาน่ะ แล้วเจอน้องทุเรียนเข้า เห็นบอกว่าน้องโจ้ลืมไว้"
    "หืม?"
 
    ความคิออกุลศลถูกตัดดับทันทีที่สติกลับคืนมา เขารีบส่งสมุดคืนเจ้าของอย่างรวดเร็ว เมื่อจิงโจ้เห็นปกเข้าก็ตกใจน้อยๆหน้าขึ้นสีโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เขาอายมากยิ่งกว่าอะไรเสียอีก... ไม่ได้อายไว้หน้าเรื่องที่ไปเตะปิ๊กกาจูเขาหรอกนะ เเต่อายไอ้ผลงานวาดรูปในสมุดเล่มนี่เนี่ยสิ!! เขาคงไม่ได้ไปเปิดดูภาพไร้สาระพวกนี้หรอกนะ ยิ่งคิดยิ่งกังวล อยู่ๆฝ่ามือใหญ่ก็เลื่อนมาจับที่สมุดในมือเขา

    "ในนี้เขียนอะไรไว้เหรอครับ เปิดให้ดูหน่อยสิอยากรู้จัง"
    "ม..ไม่ดีกว่าม้างงง มันไม่น่าดูหร๊อก"

    คนตัวเล็กทำเสียงสูงแล้วกอดสมุดเก็บในหน้าอกแน่น ขาลุกขึ้นตั้งเตรียมตัวจะเดินหนีออกมาจากตรงนั้นไปทำธุระส่วนตัว แต่เสียงเสียงหนึ่งก็ลอยมาด้วยความออดอ้อนของคนด้านหลัง

    "หืม.. น่าเสียดายจะนะครับ ระฆังอยากเห็นจังเลย~"
    "อ่า..เออ..คือ..ก็ได้!! เอ้า!พี่เอาไปดูได้เลย แล้วอย่าหัวเราะนะ"
    "ขอบคุณครับ พี่สัญญาพี่ไม่หัวเราะแน่นอน"

    ระฆังยื่นนิ้วก้อยออกมาเป็นเชิงสัญญาแล้วให้อีกฝ่ายรับคำสัญญานั่น จิงโจ้ยื่นมือมาแบบสั่นๆเล็กน้อย นิ้วก้อยที่เกี่ยวประสาน ไอความร้อนจากนิ้วก้อยนิ้วเล็กๆเพียงนิดเดียว...เรียกความร้อนบนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสองต่างหยุดชะงักค้างไปทั้งคู่ นิ้วเดิมที่ยังคาอยู่ไม่มีใครออกก่อนใคร สุดท้ายด้วยความเขินอายจิงโจ้ก็เป็นดึงออกก่อน

    "ผ..ผมไปอาบน้ำก่อนนะ"
    "อ่า..ครับ"

    บรรยากาศเงียบเฉียบจนน่าขนลุก ระฆังลูบฝ่ามือตัวเองไปมาช้าๆเหมือนคนไม่มีสติ หน้าขึ้นสีไปเรื่อยๆจนต้องเอาน้ำแข็งมาประคบ หน้าร้อนฉ่า..แดงระเรื่อ..ความรู้สึกพลุกพล่าน คนในห้องน้ำที่ยังยืนคาประตูอยู่ก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน...
             ความรู้สึกนี่มันอะไรกันนะ....?

   "อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!???"
ตุ๊บ!!
   "อ๊ะ..อ..อีกาเป็นอะไรไป!!??"
ปัง!!ตุบตับ!!

   เสียงห้องข้างๆดังขึ้นเหมือนมีของตกเป็นพักๆ ตามมาด้วยเสียงแหบพร่าของคนที่คุ้นเคยที่ร้องออกมาเสียงหลงดังลั่น ร่างของระฆังรีบวิ่งออกนอกห้องไปเข้าอีกห้องหนึ่งของอีกาทันที เขาถีบประตูเข้าห้องแบบไม่ทันระวัง ของที่หล่นเกลื่อนกลาดเต็มพื้นห้องทำให้ระฆังสะดุดจะล้ม

ตุ๊บ!!
   "โอ๊ยยย ถ้าโดนอีกรอบหลังหักแน่เลย..... อีกา!!??"
    "ปล่อยฉันสิโว้ย!! บอกแล้วไงว่าไม่กินก็คือไม่กิน!!"
    "นี่พี่ส้นตึกจะไม่กินข้าวหน่อยรึไงกัน!! เดี๋ยวก็หิวจนใสขาดหรอก!"
    "หุบปากนะเว้ย! หนึ่งคำก็ส้นตึกสองคำก็ส้นตึก พูดมากอยู่ได้น่ารำคาญไอ้ลูกขนุนเอ๊ยยย!! อุ๊บ!?"

    ระฆังถึงกับนั่งอึ้งสตั๊นไปเกือบชั่วโมง สิ่งที่เขาเห็นก็แค่คนสองคนที่กำลังยัดขนมปังเข้าปากอีกฝ่ายอยู่ก็เท่านั่น ทั้งที่ยังคงนั่งอั้มๆอึงๆอยู่เฉยๆ เจ้าขนมปังเจ้าปัญหานั่นก็กระเด็นมาโดนหัวระฆังที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย วันนี้จะโชคร้ายไปถึงไหน(วะ)ครับเนี่ย!!??

    "โอ๊ยย!!"
    "ร..ระฆัง?"
    "พี่ระฆัง?"
ปั้ง!
    "พี่กระดิ่ง!!??"

    ประตูที่พึ่งจะถูกถีบโดยเขาก็ถูกจิงโจ้ถีบเข้ามากระแทกหัวอีกรอบ ทำเอาระฆังนี่มึนกองไปกับพื้นเลยทันที สายตาที่พร่ามัวจนมองคนตรงหน้าไปค่อยออก... เสียงทุกคนที่ยังดังก้องอยู่แต่ไม่ค่อยได้ยินเหมือนหูจะอื้อไปหมด ร่างสูงนอนกองไปกับพื้นห้องเนื่องจากกระแทกกับประตูเต็มแรงจนเกินไป...สลบไปเกือบวัน
.
.
.
.
.
.
.
.
   12:00 ตี๊ดๆๆ
   "อือ..."
   "พี่กระดิ่ง..ตื่นแล้วเหรอ"

   เปลือกตาเปิดออกมือหนาลูบใบหน้าเบาๆ ก็พบว่าตัวเขานั่นไม่มีหน้ากากและรอบๆตัวก็มีแต่ม่านใสแบบในห้องพยาบาล เขาจึงรู้ได้เลยว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ร่างสูงยกตัวเองขึ้นชิดกับเตียงนอนแล้วคลำหาหน้ากาก
 
   "อ่า..นี่กี่โมงแล้วครับเนี่ย"
   "....เที่ยงตรงครับ"
   "เอ๋!? นี่พี่สลบไปเกือบครึ่งวันเลยเหรอครับเนี่ย? แย่แล้วๆต้องรีบไปห้องสภา"
หมับ...

    เมื่อควานหาหน้ากากได้แล้วใส่เรียบร้อย ระฆังก็เด้งตัวเตรียมตัวเดินออกจากห้องพยาบาลอย่งเร่งรีบ คนนอกม่านเมื่อเห็นว่าคนป่วยกำลังจะไปทำงานต่อก็ฉุดมือเอาไว้ ใบหน้าภายใต้หน้ากากแดงระเรื่อ

   "ไปไม่ได้ครับ...พี่ป่วยอยู่"
   "แหม.. ไม่เป็นไรแล้วครับ แค่นี่เอง"
   "ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน!! พี่โดนผมเตะจนตกเตียง เดินเข้ามาในห้องไอ้ทุก็ลื่นล้มเพราะมีของเกลื่อนกลาดเต็มห้อง แถมซ้ำสามผมเปิดประตูมาฟาดพี่จนเป็นลม!! พี่จะบอกว่าไม่เป็นไรได้ไงกัน!!!???"

    ร่างบางพูดด้วยที่สำนึกผิดขั้นสุด ระฆังยังคงทำท่ายืนอยู่ก็ได้แค่ทำหน้าเหวอมือจากรุ่นน้องที่ยังคงบีบเเน่นจะต้องใจอ่อนนั่งลงที่ริมเตียงเเล้วคลี่ฝ่ามือน้อยๆออกอย่างเบามือ พี่จะบอกอะไรให้นะครับ ก่อนที่น้องโจ้จะเปิดประตูมาฟาดพี่ พี่โดนขนมปังกระเด็นใส่หัวซะก่อนล่ะ รวมเป็นทั้งหมดซ้ำสี่ครับ...

   "ครับๆพี่ไม่ไปแล้วก็ได้... แต่น้องโจ้ครับ"
   "หือ ครับ?"
   "ช่วยพาพี่ไปห้องสภาทีสิ นะ"
   "บอกแล้วไงว่าพี่ป่วยอยู่ จะให้ไปคนเดียวได้ไงล่ะ"
    "งั้นน้องโจ้ก็พาพี่ไปสิ"

    คำขอลวกๆถูกเอ่ยออกมาด้วยสายตาภายใต้หน้ากากที่หวานหยาดเหยิม คนขอหวังผลที่จะได้จับมือก็เท่านั้นแต่ว่าสิ่งที่อีกคนกระทำให้มันค่อนข้างจริงจังมากกว่าที่เขาคิดซะอีก...

ฮึบบบบ
   "น้องโจ้!? ทำอะไรเนี่ย!!??"
   "พาพี่ไปห้องสภาไงครับ"
   "เห้ย พี่เดินได้ไม่เป็นไรหรอก! ค..แค่พาเดินไปเฉยๆก็พอ"
   "ไม่ได้คร้าบบบ"

    ร่างถูกแบกขึ้นด้านหลังของอีกฝ่ายจนลอยฟ้า เจ้ารุ่นน้องรีบแบกขึ้นอย่างรวดเร็วเเละวิ่งออกจากห้องไปด้วยความเร็วแสง ระหว่างทางคนต่างก็มองด้วยสายตาที่มีแววสงสัยเกิน100% บวกกับความอิจฉาเล็กๆที่ได้แบกคนอย่างระฆัง เทพบุตรพ่อพระประจำโรงเรียน

ครืดดดดด
   "ขออนุญาตคร้าบบบบ พาคนป่วยมาส่งห้องสภาครับผม!"
"ระฆัง/คุณระฆัง/พี่ระฆัง!!??"
     
    คำอุทานสรรพนามต่างๆของระฆังถูกกล่าวออกมาด้วยความตกใจ คนด้านหลังก็ได้แต่ซุกไหล่เพราะความเขินอาย หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อจนร้อนฉ่า จิงโจ้เขยิบหัวไหล่เบาๆเป็นเชิงให้ระฆังลง ร่างที่สูงกว่าย่อนขาลงมาก่อนเป็นอันดับแรกแล้วปัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่
   เจ้าของปัญหาทั้งหมด... อีกาและทุเรียนต่างลุกจากเก้าอี้มาแล้วยืนหน้าระฆัง จิงโจ้ทำหน้าเบ้ใส่ทุเรียนน้อยๆและกอดอก ทั้งสองพยักหน้าให้กันเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง

   "พวกเราขอโทษ"
   "...?....ฮะๆๆ"
   "ขำอะไรของนายหะระฆัง!!?? ฉันกับไอ้ขนุนนี่ซ้อมกันมาเพื่อจะขอโทษนายแท้ๆ"
   "ทีหลังผมกับพี่ส้นตึกจะไม่ทำให้พี่อีกแล้ว!!"

   ระฆังเริ่มหลุดขำหนักมากกว่าเดิม คำสรรพนามใหม่แทนชื่อของอีกฝ่ายไฉไลกว่าเดิม ด้วยขนุนกับส้นตึก ตอนแรกขำที่ทั้งสองคนต่งพูดด้วยสีหน้าจริงจังเกินไป แถมยังทำท่าไหว้นิ้วโป้งชิดหางคิ้วแบบทำท่าไหว้พระไม่ได้ไหว้แบบเพื่อนหรือผู้ใหญ่ ฮ่าๆๆ ถึงพวกนายจะให้ฉายาฉันว่าพ่อพระแต่ฉันก็ไม่ใช่พระนะ ทำเอาฮากันทั้งสภาและสมาชิกในกิจกรรม

   "ถ้าหายแล้วก็มาทำงาน! หืม"
   "เชอะ"
"นี่ๆพี่ระฆังรู้ป่ะ สองคนนั้นน่ะกังวลมากกว่าใครเลย"

   เสียงกระซิบนินทาเล็กๆทางด้านหลังบอกเบาๆ ตอนที่เขาเป็นลมไปนั่นก็อีกาเนี่ยเเหละที่แบกมา ที่แม้สังขารจะบอกว่าไม่ไหวแต่ก็ยังแบกมาห้องพยาบาลให้ได้ ส่วนทุเรียนก็นั่งมุมห้องมืดแล้วสำนึกผิดอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ แล้วทั้งสองคนก็มานั่งซ้อมขอโทษกันใหญ่ เอาเป็นว่า...สองคนนี้กังวลมากกว่าใครๆเลยก็ได้ ขนาดจิงโจ้ยังไม่เครียดอย่างนั้นเลย

   "จริงเหรอ? ฮิๆ"
   "บอกให้มาทำงานไง ระฆัง!"
   "ครับๆ"

   ช่วงนี้อยู่ในช่วงพักกลางวัน คนในสภากับสมาชิกในกิจกรรมเลยนัดหมายกันมาประชุมเนื่องในโอกาสจะจัดงานกิจกรรมภายในเดือนนี้ ในหัวข้อเหล็กคือ งานวิจิตรศิลป์ ทำเอาประธานนี่ถึงกับคิดหนักวิ่งวุ่นนอนดึกกันไปเลยทีเดียว อยากจะรีบๆจัดแจงหัวข้อแล้วรีบจัดงานให้เสร็จภายใน 3 สัปดาห์ข้างหน้าให้เร็วที่สุด

  "อะแฮ่ม...งั้นเข้าเรื่องที่เรามาประชุมกันดีกว่า ว่าด้วยเรื่องกิจกรรมประจำเดือนนี่....."
  "ผมคิดว่าน่าจะใช้ผลงานศิลปะของนักเรียนนะ"
   
  ร่างหนามยกมือแสดงความเห็นโดยไม่สนใจใคร เสียงหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างกวนๆทำเอาคนในห้องประชุมพากันหาไปมองเป็นตาเดียว อีกาดำทุบเอกสารลงกับพื้นโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย ร่างดำที่พึ่งนั่งลงไปไม่นานต้องลุกขึ้นมาสั่งสอนเจ้ารุ่นน้องตัวดีเสียก่อน

  "นี่..ไอ้ขนุน ผมสั่งให้คุณแสดงความเห็นรึยัง?"
  "งั้นก็รีบๆพูดต่อสิครับพี่ส้นตึก ผมไม่กวนพี่ต่อแล้วก็ได้"
  "หึ.."

  เสียงอารมณ์เสียงเบาๆในลำคอเอ่ยออกมา ก่อนจะเอนตัวลงนั่งตามเดิม เอกสารที่เกลื่อนโต๊ะเมื่อครู่ถูกหยิบขึ้นมาจัดอีกครั้ง แล้วอีกาก็พูดเกี่ยวกับงานที่จะทำต่อ

   "เฮ้อ..อย่างที่ว่า หัวข้อเดือนนี้ก็คือ งานวิจิตรศิลป์ ทางคุณครูก็ได้ให้โดมและทางผ่านหน้าโรงเรียนในการจัดแจงงานแล้ว ผมคาดว่าการเตรียมงานทั้งหมดนั้นควรจะเสร็จภายในสามสัปดาห์ข้างหน้า แล้วเริ่มทีเดียววันที่ 29 30 แล้วก็ 31 เลย"
   "อ..เอ่อ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอคะ แค่สามสัปดาห์เอง"

    หน้ากากผัดไทพูดอย่างอ้ำๆอึงๆออกมา สายตาดุจพญามารของอีกาดำจดจ้องไปอย่างไม่พอใจ เขารีบ...เขาต้องการให้มันจบ...เขาไม่อยากเห็นภาพจากกระดาษพวกนั้น เพราะอะไรกันนะ?ทำไมเขาถึงคิดรังเกียจศิลปะเเสนสวยงามและมีคุณค่าขนาดนี้กัน

   "ขอโทษด้วยละกันครับ ผมอยากให้มันจบๆไปเร็วๆและเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ นั่นก็คือแค่ในสามสัปดาห์เท่านั้น ใครไม่พอใจก็ช่วยไม่ได้นะครับ พยายามเข้าละกัน"
   "ประธานอะไรกัน ไม่ฟังความคิดเห็นลูกน้องเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่"
   "นี่ไอ้ขนุน..."
   "แต่ฉันก็เห็นด้วยกับผัดไทนะ มันเร็วไปจริงๆ ช่วยเพิ่มเวลาให้หน่อยได้รึเปล่าล่ะ แค่อีกหนึ่งสัปดาห์ก็เพียงพอแล้วล่ะ"

   หน้ากากแมวตาเดียว หนึ่งในสมาชิกชมรมกิจกรรมโรงเรียนเอ่ยเห็นด้วยกับผัดไทอีกคน อีกาเหล่เขม็นเข้าหาเขาด้วยอีกคนพลางถอนหายใจอย่างคิดหนัก เขาคิดไว้ทั้งคืนว่าทุกอย่างต้องจบลงด้วยหนึ่งในวันของสัปดาห์ที่สาม แต่พวกพ้องกลับไม่เห็นด้วยกับเขาซะนี่ ทุกอย่างที่เขาคิดคงต้องดับไว้ก่อนอีกแล้ว

   "...ก็ได้ ตามนั้นก็ได้"
   "ขอบใจมาก"
   "เหอะ~แค่นั้นก็จบ"

   การประชุมดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงคาบที่ห้าที่ต้องจบประชุมลงและเตรียมตัวเริ่มจัดงานต่างๆในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ความคิดเห็นต่างๆของอีกาดำที่ตั้งใจจะนำเสนอให้ง่ายที่สุด ภายในงานของความคิดเขาต้องราบเรียบธรรมดาไม่ต้องหรูหราและเดินชมงานได้ตามปกติ แต่กลับถูกเจ้ารุ่นน้องคัดค้านเพราะเห็นว่าน่าเบื่อเกินไปอาจทำให้ไม่มีคนเดินเข้างานก็ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ควรจะเปลี่ยนแนวทันที จึงสรุปได้ว่าความเห็นของอีกาแทบจะไม่มีประโยชน์
   ผลสรุปของงานที่จะจัดก็คือ ภายในงานนั้นจะมีกิจกรรมประกวดวาดรูปพร้อมกับรางวัลต่างๆมากมายหากได้เป็นผู้ชนะในการประกวดนั้นก็จะได้ของรางวัลไป แล้วก็จะมีซุ้มชมงานศิลปะของเหล่านักเรียนในระดับช่วงชั้นต่างๆมาโชว์ให้ผู้อื่นดู ยังมีซุ้มอาหารมากมายที่ตกแต่งด้วยศิลปะอันสวยงามฝีมือแม่ครัวขนมหวานของโรงเรียนซึ่งวานขอวานแม่ครัวตอนงานกิจกรรมเมื่อหลายปีที่แล้วมาช่วย แถมยังมีงานแสดงละครเกี่ยวกับวิจิตรศิลป์อีกด้วย
 
  "คือทุกอย่างจบแล้วใช่มั้ย? ฉันจะได้กลับซักที"
  "เหอะ..สุดท้ายพี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร"
  "นี่นายหาว่าฉันไม่มีส่วนร่วมรึไง!? ฉันก็แนะนำความเห็นไปแล้วไง พวกนายก็พยายามกันเอาเองก็แล้วกัน!"
   "พี่ทิ้งกันยังงี้เลยเหรอ!?"
   "ก็นี่มันไม่ใช่ความคิดฉันนี่!!"

   ขณะที่กำลังจะลุกออกไป ทุเรียนก็มาพูดพล่อยๆทำเอาโมโหอีก การทะเลาะกันจึงบังเกิดขึ้นอีกครั้งแม้เวลาไหน..เจ้ารุ่นน้องนี่ก็หาเรื่องชวนทะเลาะได้ตลอดเลย ระฆังที่ยืนอยู่ข้างๆต้องเข้ามาดึงตัวอีกาออกไปก่อน จิงโจ้ที่ดูเหตุการณ์มามากเกินไปก็อดที่จะพูดไม่ได้

   "พอกันซักทีเหอะ! ทะเลาะกันตั้งแต่เช้าแล้วจะอะไรกันนักหนาครับ งานก็คืองาน เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว ถ้าเอามาระบายกันตอนที่คนอื่นเขาทำงานกันยุ่ง อย่างนี้ผมไม่โอเคนะ"
   "อีกา ฉันรู้ว่านายไม่ชอบศิลปะและอยากจะรีบทำงานให้มันจบ แต่นายไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปนนะ"
   "โดรน นี่นายเข้าข้างไอ้ลูกขนุนนั่นเรอะ!!"
   "ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับการเข้าข้างนะครับ เขาก็แค่พูดตามความถูกต้อง"

    อีกาเริ่มเหงื่อตกยางแตกทุกๆคนต่างก็เหมือนจะรุมไปเข้าข้างเจ้ารุ่นน้องจอมเอาแต่ใจนั่น ไม่เห็นมีใครเข้าข้างเขาเลยซักคน อารมณ์มันเกินจะบังคับอดกลั้นไว้ไหว แขนที่ถูกดึงอยู่ถูกร่างเล็กๆสะบัดออกอย่างแรงทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว ร่างทมิฬกระทืบเท้าไปผลักเก้าอี้ที่อยู่หน้าสุดเพื่อระบายอารมณ์ โครม! เก้าอี้ที่ถูกผลักกลิ้งล้มทับกันเป็นโดมิโน ยาวไปจนสุดที่ที่หมูป่ายืนอยู่ คนในห้องต่างฮือฮาในสิ่งที่ประธานนักเรียนทำ

   "อ..อีกาทำอะไรเนี่ย!!??"
   "หึย!!"
ปั้ง!
   "อ..อะไรของหมอนั่นกัน!? ทำเหมือนตัวเองเป็นใหญ่อย่างนั้น น่ารำคาญจริง!"
   "ใจเย็นๆน้องโจ้"
   "..."
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
  "น่ารำคาญ! จะหน้าไหนก็น่ารำคาญ!!"
  "บ่นอะไรอุบอิบน่ะ พี่ชาย"
  "ยุ่งน่า ยัยเผือก"
  "เอ๊ะ เรียกอีกาเผือกดีๆสิ"

  ร่างสาวเจ้าที่เรียกนกกาดำทมิฬว่าพี่ชาย เอ่ยออกมาหลังต้นไม้ ทั้งสองคนตอนนี้อยู่ในช่วงหนีเรียนเหมือนกันถ้ามีคนเห็นล่ะก็ได้โดนสวดยับบวกกับการทำโทษเป็นร้อยๆแน่ๆ อ๊ะ คนอย่างอีกาดำถ้าใครมาเห็นเขาในสภาพนี้ก็คงอดตกใจไม่ได้เหมือนกัน ประธานที่เข้มงวดกับทุกสิ่ง นับถือกฎเหมือนพระเจ้าแบบนี้แต่กลับแหกกฎมาโดดเรียนกับน้องสาวซะได้

  "ไหนพี่ถึงชวนหนูมาโดดเรียนแบบนี้ล่ะ มีอะไรบอกหนูก็ได้นะ"
   "...เปล่านี่ แค่เรื่องงานกิจกรรมโรงเรียนบ้าบอเฉยๆเท่านั้นเอง"
   "อ๊ะ จริงสิ เพื่อนของหนูน่ะนะตั้งใจรอผลงานพวกพี่ตอนสิ้นเดือนกันใหญ่เลย ยังไงๆก็พยายามเข้านะพวกเพื่อนๆตั้งตารออยู่"

   อีกาดำฉุดคิดคำว่าเพื่อนอีกครั้ง อ่า..จริงสิ ขณะทำงานเขาไม่ได้นึกคำว่าเพื่อนเลยด้วยซ้ำเขานึกถึงแต่ตัวเองไม่นึกถึงคนอื่นๆเลย อยากจะควบคุมอารมณ์ให้ได้มากกว่านี่...มันอาจจะช่วยได้ก็ได้หากเขามีความใจเย็นซักนิด พลางยิ่งคิดก็เหมือนตัวเองผิดมากขึ้น น้องสาวที่ยิ้มระรื่นเอะใจเล็กน้อยก่อนจะพล่อยตัวนั่งลงที่พื้นต้นไม้ข้างๆอีกาดำ

   "ทำไมพี่เงียบจังล่ะ นี่เป็นอะไรก็บอกกันหน่อยสิ"
   "...ฉันไม่มีความพยายามที่จะทำกิจกรรมนั่นต่อแล้ว บอกเพื่อนเธอว่าตัดใจไปซะเถอะ"
   "เห!? ท..ทำไมเป็นงั้นล่ะ! นี่ไม่ใช่พี่หนูนี่หน่าาา พี่หนูไม่ได้ไร้ความพยายามขนาดนี่ แล้วตัดใจง่ายๆนะ!!"

   ฝ่ามือน้อยๆดึงคอเสื้อฝ่ายพี่แรงๆจนต้องกระจุย แรงของเด็กผู้หญิงคนนี้ชั่งไม่ธรรมดาเหลือเกิน เพราะขนาดตอนอนุบาลยังไปแกล้งเด็กผู้ชายจนต้องร้องไห้กันไปเลย เอ...เหมือนเจ้านั่นจะชื่อหน้ากากแมงมุมมั้งถ้าจำไม่ผิด ซึ่งก็ไม่แปลกที่ผู้ชายคนไหนไม่กล้าข่มเธอ ทั้งเรื่องที่เธอแข็งแกร่งเกินไปแล้วก็..เป็นน้องสาวของอีกาดำด้วย

  "พี่ไม่เคยได้ยินรึไง! ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นน่ะ!!"
  "โอ๊ยๆป..ปล่อยเดี๋ยวนี่นะ!! เคยได้ยินสิใครเค้าจะไม่เคยกันล่ะ!"
  "ความพยายามน่ะ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของคนเรานะคะพี่  หากคนเราไร้ความหมั่นเพียรพยายาม ไร้ซึ่งความมุ่งหวังในส่งที่ทำ มันจะไปมีค่าอะไรล่ะ" 
  "...ร..รู้ตั้งนานแล้วล่ะ ไม่ต้องให้เธอมาสอนฉันก็รู้อยู่แล้วล่ะน่า ค..แค่พูดเล่นไปเท่านั้นแหละ"
  "จริงเหรอ? ฮะๆพี่ใครกันน้าาาปากแข็งจริงๆ"
.
.
.
.
.  
  "..."
  "ศิลปะคือสิ่งที่เรียกว่าความสร้างสรรค์และความสวยงามที่เลอค่า ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆที่อยู่ในแต่ละประเทศ ก็คือจุดเด่นของความงามในประเทศนั้นๆด้วย ไหนใครรู้จักศิลปะอะไรบ้างเอ่ย~?"

  เสียงของครูอ้วนที่อธิบายถามอยู่มันไม่ได้เข้าหูใครบางคนเลย ในหัวของหน้ากากทุเรียนตอนนี้นึกแต่เหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันคาบบ่าย เรา..กวนเขามากเกินไปรึเปล่าเนี่ย หลังจากที่อีกาหายไปในตอนนั้น ทั้งห้องก็ชุลมุนจัดเก้าอี้กันใหม่แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ทุเรียนที่เดินกลับพร้อมกับจิงโจ้เเละระฆังก็ไปผ่านห้องของ ม.6 เข้าให้ ภายในห้องที่เงียบเชียบแต่ไม่มีร่างของปักษาทมิฬเลยซักนิด หรือตอนนั้นอารมณ์เสียจนโดดเรียนกันนะ หรือไปเข้าห้องน้ำ เอ..หรือไปหาครู หืม...

  "ทุเรียน ไหนตอบครูซิ~ ศิลปะของประเทศไหนที่หนูรู้จักบ้าง"
  "อ่า.. ที่พอจะรู้ก็คง... ภาพฝาผนังตามวัดต่างๆของไทยนี่ล่ะฮะ"
  "อ่ะฮ่าๆ ก็ถูกล่ะนะ ไหนโพนี่ล่ะตอบครูซิ"

  เมื่อคำถามถูกตอบกลับไปแล้ว ใบหน้าที่เท้าคางอยุ่ก็เบือนหนีไปทางหน้าต่าง แสงแดดยามเย็นนี่ก็แทงตาเหลือเกิน ท้องฟ้าสีส้มสาดส่องไปทั่วแสงแดดแยงตาจนต้องหันกลับมา แต่ก็เกิดสังเกตุเห็นอะไรเข้า...หน้ากากอีกาดำกำลังเดินอยู่กับใครบางคนนอกหน้ากากนั่น

   "!?"

   'พาไปส่งห้องมั้ย?'
   'โหพี่ หนูโตแล้วเดินกลับไปเองได้ละกันล่ะ'
   'งั้นเหรอ งั้นพี่ไปล่ะ'

   ร่างที่นั่งชิดกับเก้าอี้ยืนขึ้นทำเอาจิงโจ้ที่นั่งอยู่ด้านหลังตกใจเล็กน้อย เนื่องจากคาบบ่ายนั้นเป็นห้องเรียนรวม ทุกคนในชั้น ม.4 จึงมารวมตัวกันเเล้วเรียนไปพร้อมๆกัน ทุเรียนที่ยังคงยืนอยู่เรียกความสนใจให้คนทั้งห้องไปจดจ้องได้เต็มที่

  "นี่ทุเรียน..เธอกำลังดูอะไรอยู่น่ะ กลับมานั่งที่เดี๋ยวนี่!!"
  "เอ่อ..อ่ะฮะ"
   
   พี่ส้นตึกนั่น..มาทำอะไรแถวนี้กันนะ ไม่ได้อยู่ในห้องเรียนหรอกเหรอ
.
.
.
.
.

.
.
.
ก๊อกๆๆ
  "นี่พี่ส้นตึกอยู่รึเปล่า เปิดประตูเดี๋ยวนี่นะ.."

   เหมือนเมื่อวานไม่มีผิด..ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับจากคนในห้อง แต่แปลกที่ไม่มีเสียงของการเคลื่อนไหวจากคนในห้อง ความสงสัยเอ่อล้นจนจะครอบคลุมทุกความรู้สึก ไม่นานมือบางก็ล่วงกระเป๋าควักกุญแจออกมาแล้วไขทันที เมื่อเปิดประตูก็พบเข้ากับร่างทมิฬที่นั่งฟุบอยู่บนโต๊ะ

  "นี่พี่ พี่...พี่ส้นตึก!!"
  "ZzZZzzz"
  "หือ..นี่แกล้งหลับใช่ม่ะ ตื่นเดี๋ยวนี่นะ"

  มือที่เขย่าร่างของคนที่ยังนอนฟุ่บโต๊ะยังคงสั่นไหวต่อไป จนไปสังเกตเห็นเข้ากับสมุดและกระดาษต่างๆบนโต๊ะทำงานเข้า สายตาเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหยิบกระดาษเหล่านั้นขึ้นมาอ่านอย่างรวดเร็ว แผนประกอบงานต่างๆถูกบรรจงลงในกระดาษอย่างเป็นระเบียบ ใบหน้าเจือนๆของทุเรียนคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเลื่อนมือมาลูบส่วนหัวของหน้ากากคนที่นอนอยู่

  "หึ..ทำเป็นปากแข็งบอกว่าจะไม่ช่วย สุดท้ายก็เข้ามาช่วยจนได้นะฮะ พี่อีกาดำ"
  "ZzzZZ อือ..."
ฟึ่บ.....จุ๊บ
  "สู้ๆนะฮะพี่อีกาดำ..ผมจะคอยกวนพี่เองนะฮะ"

............................................................................
คุยกันก่อน
   จบกันไปแล้ววววว กับตอนที่2 เฮ้อออเหนื่อยมากเลยค่ะบอกตงๆ กว่าจะเขียนได้แต่ละตัวเนี่ยใช้เวลาไปเลยอาทิตย์นึงกว่าแหนะ ขอบคุณทุกๆคนที่หลงกันเข้ามาอ่านนะค้า ฝากเม้น แล้วก็กดติดตามกันเยอะๆนะคะ ตอนหน้าจะมาเป็นรายละเอียดตัวละคร SS.1 ทั้งหมดนะคะ ไม่มีแนะนำ SS.2 เนื่องจากยังมาไม่ครบกันนั่นเอง แต่ในตอนนี่ก็มี น้องอีกาเผือก เข้าฉากแล้ว!? วู้วววว~

     "....ความพยายามน่ะ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของคนเรานะคะพี่  หากคนเราไร้ความหมั่นเพียรพยายาม ไร้ซึ่งความมุ่งหวังในส่งที่ทำ มันจะไปมีค่าอะไรล่ะ...." 
                               หน้ากากอีกาเผือกได้กล่าวไว้

ขอขอบคุณเพลง Bring me to life ของ Eavanescence ต้นฉบับแท้ๆเพลงนี่ก็เพราะไม่แพ้กับ หน้ากากอีกาดำ Feat.หน้ากากมังกร เลยนะจะบอกให้ ไปหาฟังกันดูนะ (ชอบมาก)


   
ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

6ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

6ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture