ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำสั่งรักมาเฟียร้าย

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ( 100 ค่ะ )

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 62


    หญิงวัยกลางคนซึ่งยังคงเค้าความงามไม่เปลี่ยนแปลง คือสุภาพสตรีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่กุมหัวใจของอัลเฟรโด้ และกุมหัวใจของทุกคนในตระกูลรอสเซลลินีไว้ทั้งหมด ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งแห่งเมืองนาโปลี ซึ่งทรงอิทธิพลและเป็นที่เกรงขามของทุกคนมาอย่างยาวนาน ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังแล้วสตรีนางนี้คือผู้ชี้เป็นชี้ตายของทุกคนในครอบครัว

            ธุรกิจที่ครอบครัวรอสเซลลินีครอบครองเจริญก้าวหน้า และมีผลกำไรมหาศาล ถึงแม้ว่าจะก้าวขึ้นมาผงาดในฐานะมาเฟียก็ตามแต่ แต่มาเฟียตระกูลนี้ยึดถือความซื่อสัตย์และจริงใจในการทำธุรกิจ จึงเป็นที่ยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากผู้คนมากหน้าหลายตา ที่สำคัญธุรกิจของพวกเขาคือสีขาวที่ถูกต้องการกฎหมายและศีลธรรม นอกจากนี้ในบางโอกาสยังคืนกำไรสู่สังคมอีกด้วย

            "แม่จะมาทำไมไม่บอกผมก่อนล่วงหน้า ผมจะได้..." อัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นไปรับหน้านางสิงห์แห่งรอสเซลลินีที่เพิ่งเดินทางมาถึง การปรากฎตัวของมารดาไม่ใช่เรื่องปกติแต่และเขาก็พอจะเดาสาเหตุที่ทำให้นางอนงค์รัตน์ต้องมาด้วยตัวเองได้ไม่ยาก

            "จะได้หนีแม่ไปตรวจงานที่อื่นใช่ไหมจ้ะ" อนงค์รัตน์ยิ้มหวานดักทางหนีทีไล่ของลูกชายสุดที่รักไว้ได้ โดยที่เจ้าตัวทำได้แค่ยิ้มหวานประจบแล้วก้มลงหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ แล้วประคองนางไปนั่งลงที่โซฟามุมห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของเมืองได้

            "มาเหนื่อยๆ อยากดื่มอะไรไหมครับ วันนี้เรามีน้ำผลไม้สูตรพิเศษที่กำลังเป็นที่นิยมของแขกที่มาพัก แม่จะรับสักแก้วไหมครับ"

            เขารู้ แค่เห็นสายตาที่จ้องมองมาด้วยความรักของนางอนงค์รัตน์แล้ว อัลเฟรโด้ก็เสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที นี่พี่ชายและน้องสาวของเขาอยู่ที่ไหนกันบ้าง และมีใครที่มารดาสุดที่รักแวะเวียนไปหาบ้างแล้วหรือเปล่า หรือมีใครที่ยอมทำตามใจแม่บังเกิดเกล้าแล้วบ้าง

            ไม่ต้องถามอัลเฟรโด้ก็พอเดาได้ไม่ยากว่า นาทีนี้คงไม่มีใครกลับบ้าน จูเซปเป้ รอสเซลลินี พี่ชายสุดที่รักก็คงวุ่นวายอยู่กับการดูแลกิจการเรือเดินสมุทรทุกประเภทจนไม่มีเวลากลับบ้าน ส่วนน้องสาวคนเล็กสุดรายนั้นยิ่งไม่ต้องพูด ลอร่าเป็นสาวน้อยอ่อนหวานน่าเอ็นดูที่ใครอยู่ใกล้ต่างก็พากันหลงรัก แต่รับรองว่าเรื่องนี้เธอจะเป็นคนสุดท้ายที่ถูกมารดาจับคู่ และก็ไม่ต้องสงสัยอีกว่า ทายาทสาวคนสุดท้ายจะไม่มีวันยอมให้เกิดการคลุมถุงชนง่ายๆ แน่

            ส่วนเขาน่ะเหรอ อัลเฟรโด้เริ่มรู้ตัวแล้วว่าคิดช้าเกินไป เพราะมัวแต่วุ่นวายกับงานในโรงแรมจนแทบไม่มีสมองคิดเรื่องอื่น นอกจากนั้นก็เรื่องกิจการใหม่ที่มาจากความชอบส่วนตัว ถึงความสนใจและเวลาที่เหลือจากงานโรงแรมไปจนหมดสิ้น เรียกว่าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท และเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าควรคิดหาทางหลบหลีกป้องกันตัวเองให้พ้นจากความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้ของมารดาเสีย แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสายไปจริงๆ

            "อัลจ๋า ลูกรู้ใช่ไหมว่าแม่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย นับตั้งแต่วันรู้ว่าลูกของแม่กำลังมีเคราะห์ ลูกรู้ไหม แม่กลัวมากแค่ไหน กลัวว่าลูกของแม่จะโชคร้าย กลัวทุกอย่าง กลัวว่าครอบครัวเรา..." นางอนงค์รัตน์เริ่มเรื่องสำคัญอย่างไม่รีรอ

            นางปล่อยให้ลูกทุกคนได้มีเวลาไปครุ่นคิดถึงเรื่องที่บอกไป และผลตอบรับที่ได้ก็คือการหายหน้าไปอย่างพร้อมเพรียงกันของทุกคน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เรื่องนี้เนิ่นนานจนแก้ไขอะไรไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งต้องถูกเคราะห์ร้ายนี้แผ้วพาน นางจึงตัดสินใจแล้วว่าจะต้องกางปีกปกป้องลูกๆ ทุกคนให้รอดพ้นจากโชคร้ายครั้งนี้

            ด้วยวิธีที่เชื่อว่าจะสามารถผ่านเคราะห์และสิ่งไม่ดีคราวนี้ไปได้ด้วยการแต่งงาน และคนแรกที่นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีหมายมั่นปั้นมือที่จะทำให้เข้ารูปเข้ารอยโดยเร็ว ก็คือลูกชายคนเล็กที่ดูจะพูดง่ายและเชื่อฟังแม่มากที่สุดคนนี้

            "เชื่อผมซิว่าเราทุกคนจะต้องปลอดภัย แม่เป็นคนสอนเองไม่ใช่เหรอว่าทำดีก็ต้องได้ดี ทุกวันนี้ครอบครัวเราไม่ได้ทำอะไรในทางเสื่อมเสียหรือทำให้ใครเดือดร้อนไม่ใช่เหรอครับ ผมว่าแม่ทำใจให้สบายและยิ้มหวานๆ ให้พวกเราเห็นบ่อยๆ จะดีกว่า" อัลเฟรโด้ปลอบขวัญมารดาด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน

            "แต่ว่าอัลจ้ะ แม่กลัวจริงๆนะ" สีหน้านางอนงค์รัตน์หวั่นวิตกกัลเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด

            แม้สิ่งที่อัลเฟรโด้พูดจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหน ว่าครอบครัวของนางไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใครหน้าไหนต้องทุกข์ใจ และเชื่อในเรื่องการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมาโดยตลอดก็ตามแต่ กระนั้นนางก็อดที่จะคิดคำนึงถึงฝันร้ายและคำทำนายที่เป็นทางออกเพื่อให้เกิดความสบายใจนั้นไม่ได้

            ถ้าฝันร้ายไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีลูกคนใดที่จะมีเรื่องร้ายแรงในชีวิต จะว่าไปการแต่งงานก็เป็นสิ่งที่สมควรแก่เวลาแล้วไม่ใช่หรือ ในเมื่อทุกคนมีหน้าที่การงานมั่นคงและรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ก็เหมาะสมที่จะสร้างครอบครัวกับผู้หญิงดีๆ สักคนเพื่อมีหลานน้อยๆ มาให้นางและสามีได้ชื่นใจ

            จะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ช่างเถอะ นางอนงค์รัตน์คิดเพียงแค่ว่า การแต่งงานจะทำให้ลูกๆ พ้นเคราะห์ และสิ่งที่ได้เป็นของแถมนั่นก็คือศรีสะใภ้และเขยขวัญที่น่ารัก รวมไปถึงชีวิตน้อยๆ ที่จะลืมตามาดูโลกในอีกไม่ช้า

            "หลวงตาไม่เคยทำนายอะไรพลาด ลูกจำได้ไหมตอนที่ลูกห้าขวบแม่กับพ่อพาลูกไปกราบหลวงตาครั้งแรก ท่านบอกมาว่าลูกจะมีน้องซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ยังคิดกันอยู่เลยว่า หรือเราจะรับเด็กมาอุปการะสักคนเพื่อให้ลูกมีเพื่อน แต่สุดท้ายลอร่าก็กลายมาเป็นน้องสุดท้องของบ้านเรา" นางอนงค์รัตน์เท้าความในอดีต และเอ่ยต่อไปอีกว่า

            "แล้วยังจะเรื่องของจูเซปเป้อีก ลูกรู้ไหมใจแม่แทบจะขาดเมื่อรู้ข่าวว่าลูกชายตัวเองถูกลอบทำร้าย คำทำนายของหลางตาไม่เคยพลาด แล้วแบบนี้จะให้แม่วางใจนอนหลับได้อย่างไร"

            "แต่ว่าแม่ครับ เรื่องพี่เซปเป้เกิดจากความเข้าใจผิด อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็ยืนยันว่าเข้าใจผิด ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด" ท่านประธานหนุ่มปลอบใจ

            เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่พี่ชายคนโตของบ้าน ขอใช้สถานที่ในโรงแรมเรียกประชุมทีมงานทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหาร เพื่อให้เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

            ในระหว่างพักเกิดความเข้าใจผิดระหว่างจูเซปเป้กับแขกสาวชาวไทยที่เข้าพักที่โรงแรม เป็นเหตุให้พี่ชายสุดที่รักถูกสาวเจ้าที่เพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรก ฝากรอยไว้ด้วยกำปั้นหมัดหนักเข้าให้ที่เบ้าตา และเกือบเป็นเรื่องราวใหญ่โตดีที่จูเซปเป้จัดการอธิบายความจริงจนแม่สาวคนนั้นยอมเลิกรา

            แต่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ย้ำความกังวลใจของมารดามากขึ้นไปอีกว่า ลูกๆ ทุกคนของนางกำลังมีเคราะห์ และจะผ่านเคราะห์นี้ไปได้ด้วยการแต่งงานเพียงเท่านั้น

            อัลเฟรโด้รู้ดีว่ามารดาเคารพพระภิกษุนามว่าหลวงตาคงมากแค่ไหน ทุกคนในครอบครัวล้วนเคยพบและประสบมาด้วยตนเองกับคำทำนายที่ขอเรียกว่า ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันออกจะสร้างความลำบากใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

            "อัลจ้ะ ถือว่าแม่ขอร้องได้ไหม ทำเพื่อแม่สักครั้งได้ไหมลูก" อนงค์รัตน์ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบุตรชาย แล้วเอ่ยต่อไปว่า

            "แม่รักลูกทุกคนยิ่งกว่าชีวิต แม่คงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งเกิดเรื่องร้าย อัลเชื่อแม่สักครั้งได้ไหม เห็นแก่แม่คนนี้แม่ที่ไม่อาจทนเห็นลูกของตนต้องพบเคราะห์ร้าย แม่ไม่อยากเห็นใครต้อง..." น้ำเสียงมารดาสั่นเครือเล็กน้อย จนอัลเฟรโด้ต้องรีบเอื้อมมือมากุมมือของนางไว้เพื่อปลอบประโลมใจ

            "แม่ครับ" อัลเฟรโด้พูดไม่ออก ยิ่งเห็นมารดาน้ำตาคลอเบ้าสีหน้าซีดเซียวแสดงให้เห็นว่าไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ความทุกข์ของแม่ที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาทุกข์ใจไม่แพ้กัน

            "แม่ทำใจให้สบายดีกว่า ยิ้มหวานๆ ให้ผมดูหน่อยนะครับ" ลูกชายสุดหล่อส่งเสียงออดอ้อน

            "แม่ยิ้มไม่ออกจ้ะ" นางอนงค์รัตน์ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม

            "ทำเพื่อแม่ไม่ได้สักครั้งเหรอ อัล"

            "แม่ครับ เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ  อีกอย่างตอนนี้ผมไม่ได้คบใครเป็นจริงเป็นจริงทั้งนั้น แล้วถ้าพูดเรื่องแต่งงานมันก็คงเป็นไปไม่ได้" ท่านประธานหนุ่มตัดสินใจพูดตามความจริง

            ใครๆ ก็รู้ว่าอัลเฟรโด้หวงความโสดแค่ไหน ในบรรดาพี่น้องของตระกูลรอสเซลลินี เขานี่แหล่ะที่เป็นข่าวเรื่องผู้หญิงน้อยที่สุด หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้จนครั้งหนึ่งเคยเกือบทำให้พี่ชายคนโตต้องพิสูจน์แล้วว่า น้องชายสุดที่รักเป็นอะไรกันแน่

            ผู้หญิงสวยใครจะไม่ชอบ สเปคเนื้อนมไข่อวบอิ่มอึ๋มอั๋นแบบนั้นเป็นใครก็ต้องอยากเข้าใกล้ แต่เขาอาจจะแตกต่างจากพี่น้องคนอื่น ตรงที่ผู้หญิงที่จะเข้าหาหรือขึ้นเตียงมีความสุขด้วยจะต้องรับกฏเหล็กข้อหนึ่งให้ได้ นั่นก็คือ ไม่เรียกอย่ามาให้เห็น ไม่จำเป็นไม่ต้องมาหา คิดถึงจะให้คนพามา และคงต้องบอกลาเมื่อล้ำเส้นกัน นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงมากเหมือนคนอื่น

            "เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง แม่รู้ว่าอัลเฟรโด้ของแม่เป็นคนอย่างไร ถ้ารอให้ลูกเจอเองแม่ว่ามันอาจจะไม่ทันเวลา แต่ถ้าเป็นคนที่รู้จักกันมาบ้างแล้วและปรับตัวเข้ากันอีกสักนิด แม่เชื่อว่าลูกชายแม่จะต้องมีความสุขมากๆ แน่" นางหมายถึงผู้หญิงที่ตั้งใจจะจับคู่ให้กับอัลเฟรโด้ ไม่ใช่ใครอื่นลูกสาวของเพื่อนรักที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับบุตรชายมากที่สุด

            "ผมรู้ว่าแม่หมายถึงโซเฟีย แต่ผมกับโซเฟียไม่ได้เจอกันร่วมสิบปี ต่างคนต่างมีชีวิต เธออาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ที่สำคัญผมเห็นเธอเป็นน้องเหมือนลอร่าอีกคน" อัลเฟรโด้พูดตามความจริง เมื่อนึกถึงคู่หมายที่มารดากำลังจะชักนำให้มาเป็นคู่ชีวิตตามคำนายที่ได้รับมาก่อนหน้า

            "ถ้าลูกเห็นโซเฟียอีกครั้ง ลูกจะต้องเปลี่ยนความรู้สึก เปลี่ยนความคิดใหม่แน่จ้ะอัลเฟรโด้ เพราะโซเฟียไม่ใช่เด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่วิ่งเล่นกับลอร่าเหมือนตอนเด็กๆ อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้โซเฟียโตเป็นสาวและสวยมากด้วย"

            "แต่ว่าแม่ครับ ผมไม่ได้คิด..."

            "แม่บอกคุณพ่อแล้วว่าเรื่องการซื้อสโมสรทีมฟุตบอลที่กำลังประสบปัญหาเรื่องขาดทุนเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้กับกิจการใหม่ที่เราไม่เคยลงทุนมาก่อนด้วยแล้ว ยิ่งไม่เหมาะสม"

            "แม่" อัลเฟรโด้รู้ตัวแล้วว่ากำลังจะถูกบีบ

            คนทั้งบ้านรู้ดีว่าเขาชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ และมีความใฝ่ฝันที่อยากจะมีสโมสรฟุตบอลเป็นของตนเองสักทีม ทันทีที่เรียนจบอัลเฟรโด้ได้รับมอบหมายจากบิดาให้ดูแลกิจการด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าตลอดหลายปีที่ผ่าน ผลกำไรที่มากมายมหาศาลจากน้ำพักน้ำแรงของตนเป็นที่ยอมรับของทุกคน

            ต้นปีที่ผ่านมาสโมสรฟุตบอลที่อัลเฟรโด้ชื่นชอบประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน เขาให้คริสเตียนผู้ช่วยคนสนิทจัดการสืบจนเหลือเพียงแค่การเจรจารอบสุดท้าย และเมื่อหลายวันก่อนชายหนุ่มเพิ่งปรึกษากับบิดา เรื่องการลงทุนซื้อทีมฟุตบอลนี้มาบริหารภายใต้ปีกตระกูลรอสเซลลินี ซึ่งแม้ว่าจะเป็นธุรกิจตัวใหม่แต่ทุกคนก็ลงความเห็นชอบด้วย เพราะเชื่อมั่นในฝีมือว่าลองถ้าลงมือทำอะไรแล้วย่อมสำเร็จแน่นอน

            "อย่าทำแบบนี้ซิครับ ปกติแม่ไม่เคยบังคับลูกไม่ใช่เหรอ" อัลเฟรโด้ขยับตัวเข้าไปหากุมมือมารดาขึ้นมาจูบเบาๆ แล้วเอ่ยต่อไปว่า

            "มันคนละเรื่องกันนะครับ นี่มันเป็นธุรกิจที่จะทำรายได้มหาศาลให้เราต่อไปในอนาคต"

            "แต่ต้องหลังจากที่ลูกแต่งงานกับโซเฟียแล้วจ้ะ" มารดายื่นคำขาดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังอย่างเห็นได้ชัด

            "แค่ดูแลงานโรงแรมลูกชายของแม่ก็กินนอนไม่เป็นเวลา ดูซิเนี่ย ซูบลงไปตั้งเยอะ ถ้าขืนซื้อทีมฟุตบอลมาบริหาร มีหวังว่าต่อไปเราสองคนแม่ลูกคงไม่ต้องได้เห็นหน้าค่าตากันแล้วมั้ง เพราะมัวแต่ไปคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ไอ้ลูกกลมๆ พวกนั้นมีกำไรกลับมา"

            "โธ่ แม่ครับ มันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก ยังไงผมก็รักแม่ คิดถึงแม่เสมอ" ท่านประธานหนุ่มโอดครวญ

            "ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด ก็ต้องยอมทำตามที่แม่ขอ แต่งงานกับโซเฟียซะ แล้วเรื่องทีมฟุตบอลอีกกี่สิบทีมแม่จะพูดกับคุณพ่อให้ หรืออยากจะลงทุนทำอะไรอีกก็บอกแม่จะจัดการให้ทุกอย่าง แต่ต้องหลังจากที่มีการแต่งงานของลูกกับโซเฟียแล้ว"

            "เรื่องทีมฟุตบอลกับเรื่องโซเฟียคนละเรื่องกันนะครับ แม่" ชายหนุ่มถอนหายใจดังๆ ด้วยความอึดอัดเมื่อถูกยื่นคำขาดเช่นนี้

            "ใครบอกล่ะ มันเรื่องเดียวกันต่างหาก ถ้าอัลจะลงทุนงานใหม่ที่ใช้เงินมหาศาลอย่างนั้น ทำไมไม่ให้หนูโซเฟียมาช่วยดูแลล่ะ งานเยอะแต่มีภรรยามาช่วยดูแลจะได้รู้จักแบ่งเวลาและไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ" นางอนงค์รัตน์ดึงทุกเรื่องให้มาเป็นเรื่องเดียวกันได้หมด

            "แต่ว่า..." อัลเฟรโด้กำลังจะพูดต่อ ก็ถูกนางอนงค์รัตน์ขัดขึ้นว่า

            "ไม่มีแต่จ้ะ การแต่งงานครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้เคราะห์ร้ายในคำทำนายหมดไป หนูโซเฟียจะมาเป็นนางฟ้านำโชคในชีวิตของลูกแม่ จะมาช่วยดูแลสร้างครอบครัวให้อัลของแม่มีความสุขไปตลอดชีวิต เห็นไหม มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น ถ้าอัลรักแม่จริงอย่างที่พูด และอยากเห็นแม่มีความสุขล่ะก็ นี่คือเรื่องเดียวที่แม่อยากได้" มารดายิ้มหวานในขณะที่คนฟังลอบถอนหายใจเบาๆ ด้วยความกลัดกลุ้ม

            ไม่มีครั้งไหนที่อัลเฟรโด้อยากจะขัดใจมารดาเท่าครั้งนี้มาก่อน แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้เพื่อแลกกับทีมฟุตบอลที่ตนเองปรารถนา และทำให้ฝันร้ายที่ทำให้อนงค์รัตน์ไม่สบายใจทุกคืนวันหมดไป ในฐานะลูกสุดที่รักที่รักแม่คนนี้สุดหัวใจ เขาควรโอนอ่อนตามที่ขอมาและยินดีทำตามโดยเร็วที่สุด

            แต่ในฐานะอัลเฟรโด้ รอสเซลลินี ผู้ชายที่เกลียดการผูกมัดที่สุดในชีวิต เขาควรทำอย่างไรดี ระหว่างตามใจตัวเองแต่เห็นแม่สุดที่รักเป็นทุกข์ หรือทำๆ ไปตามคำขอให้มันจบ ด้วยการผูกมัดผู้หญิงที่ไม่ได้รักไว้กับชีวิต เพียงแค่คำว่ารักแม่เท่านั้น

     

              เอาอย่างไหนดีล่ะคะทีนี้ ติดตามกันต่อค่ะ

              สำหรับสายอีบุ๊คไม่ต้องรอ ตอนนี้มีให้โหลดแล้วจ้า

              รักษาสุขภาพนะคะ พี่น้ำเอง

              ฝากลิงค์ค่ะ คำสั่งรักมาเฟียร้าย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×