ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : + Cruel + Epilogue บทส่งท้าย
Epilogue
“แบคฮยอนนา...อย่าแกล้งกันสิ”
“คิกคิก คยองซูเขินแล้วน่ารักนี่นา”
“งื้อ! แกล้งบ่อยๆ เราเขินจนจะหายใจไม่ออกแล้วนะ” ริมฝีปากสีชมพูอ่อนของคนถูกแกล้งงองุ้มอยากเง้างอน โดคยองซูที่ปรากฏตัวที่ห้องของโอเซฮุนในวันนั้น วันนี้ได้มาอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับบยอนแบคฮยอนทั้งวัน...จะว่าไปก็ทุกวันเสียด้วยซ้ำ
แบคฮยอนถูกพาตัวมาอยู่ที่อเมริกา พ่อกับแม่ของคนตัวเล็กซื้อบ้านให้ลูกชายสุดที่รักอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของตนเองนัก และแบคฮยอนไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว แต่กลับมีรุ่นน้องคนรักและเพื่อนตาโตที่ขอโอนหน่วยกิตมาเรียนที่อเมริกาด้วย เรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวฐานะทางบ้านโดและโอก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
คนตัวสูงถือถาดใส่แก้วนมอุ่นสำหรับคนรักของเขาอยู่ที่หน้าประตู หน่วยตาคมมองดูรุ่นพี่ตัวเล็กของเขากำลังเล่นหยอกล้ออยู่กับเพื่อนอีกคน เสียงหัวเราะใสแจ๋วเลดลอดออกมานอกประตูจนคนแอบฟังต้องยกยิ้ม
พี่แบคฮยอนสดใสขึ้นมากจริงๆ...
ส่วนรุ่นพี่ตากลมโตนั้นเขาเองก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกันว่าเหตุใดจึงได้ขอร้องอ้อนวอนมาอยู่กับเขาและแบคฮยอนด้วย เพียงแค่สายตาเจือความหวังที่ส่งมาก็ทำให้คนอายุน้อยกว่าใจอ่อนยอมให้มาอยู่ด้วยโดยไม่ถามเหตุผล แต่สิ่งที่โอเซฮุนรับรู้ได้มากที่สุดในตอนนี้คือ...โดคยองซูชอบบยอนแบคฮยอน...
และแฟนตัวดีของเขาก็ชอบแกล้งคนแอบชอบอยู่บ่อยครั้ง
“คุณเซฮุนได้โปรดตอบมาตามความจริงเถอะนะครับ...”
.
.
.
.
“ครับ...พี่แบคฮยอนป่วยมาก่อนที่จะเกิดเรื่องพวกนี้นานแล้วครับ...”
ประโยคจากนายตำรวจคนหนึ่งและคำตอบของผมดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง...คุณรู้เรื่องเกี่ยวกฏหมายไหม? ผมโชคดีมากที่กฏหมายข้อนี้มันค่อนข้างน่าสนใจจนทำให้ผมจดจำมันได้มาถึงทุกวันนี้และได้ใช้มันในชีวิตประจำวัน
ข้อกฏหมายเกี่ยวกับผู้มีสติไม่สมประกอบในคดีฆาตกรรม ตามกฏหมายปกติหากผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลมีสติครบถ้วน การลงโทษจะเป็นไปตามข้อบังคับของกฏหมายอย่างแท้จริง แต่หากผู้กระทำความผิดมีอาการทางจิตหลังจากได้กระทำความผิดไปแล้ว จะต้องถูกส่งเข้าไปรับการบำบัดดูแลรักษา เมื่อหายจากความผิดปกติแล้วก็จะต้องกลับไปรับโทษตามเดิม
สำหรับคำตอบของผม การโกหกว่าพี่แบคฮยอนมีอาการทางจิตมาก่อนเกิดเหตุนั้นทำให้พี่แบคฮยอนไม่ต้องได้รับโทษใดๆ เพราะถือเป็นบุคคลวิกลจริต คดีดำเนินการค่อนข้างง่ายเพราะจิตแพทย์สงสัยว่าพี่แบคฮยอนกำลังป่วยแต่แค่ไม่รู้ว่าพี่แบคฮยอนป่วยก่อนหรือหลัง ส่วนผมเองก็แค่อาศัยจังหวะนี้ช่วยเหลือคนรักของผม
ผมเข้าใจว่าที่พี่แบคฮยอนทำมันผิด
แต่ชานยอลข่มเหงพีแบคฮยอนก่อน
คิมจงอินเองก็วางแผนจะทำร้าย
ส่วนพี่คริสพี่ชายที่ผมไว้ใจก็ร่วมมือกับพี่ลู่หาน
ผมคิดว่าคนพวกนั้นสมควรแล้วกับสิ่งที่พี่แบคฮยอนเอาคืน
ทางตำรวจสืบเรื่องจงอินกับชานยอลจากเพื่อนคนสนิทของจงอินจนทราบข้อมูลที่แท้จริงทั้งหมด ทั้งพยานปากเอกอย่างพี่คริสที่สารภาพอย่างหมดเปลือก ศาลให้การตัดสินว่าที่แบคฮยอนทำร้ายพี่ชานยอลเป็นเพราะป้องกันตนเอง ส่วนจงอินและเพื่อนชั่วๆ ของเขานั้นการตายเป็นอุบัติเหตุหลังจากการชันสูตรศพ ส่วนพี่คริสได้รับโทษจำคุกตามสิ่งที่เขาทำส่วนพี่ลู่หานที่ถูกไฟคลอกเพราะตัวเขาเองนั้น...
“ค่อยๆ เปิดผ้าออกมานะคะคุณลู่หาน”
“โอ๊ย...” ส่งเสียงร้องเบาๆ เมื่อรอยแผลตกสะเก็ดติดไปกับเนื้อผ้าบางส่วน
“หมอ...ผมขอกระจก” เสี่ยวลู่หานเอ่ยปากขอกระจกทันทีหลังจากที่เห็นสีหน้าของพยาบาลสาวข้างกายคุณหมอมีสีหน้าที่แย่ลง คุณหมอและพยาบาลสาวมองหน้ากันเลิกลักแล้วไตร่ตรองว่าควรยื่นให้คนไข้ดีหรือไม่ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด มือที่เคยเรียวสวยยกขึ้นแตะใบหน้าอย่างร้อนรน
“หมอ! แกะผ้าพันแผลที่แขนกับขาให้ผมด้วย!” เสียงหวานแข็งกระด้างอย่างเห็นได้ชัด ยื่นแขนสองข้างให้กับพยาบาล รอยแผลที่โผล่พ้นจากข้อมือเรียวทำเอาเจ้าตัวใจสั่น
“หมอ!” เมื่อผ้าพันแผลถูกแกะออกเผยให้เห็นผิวหนังสีแดงสลับสีขาวเป็นรอยแผลเป็น คนบนเตียงเริ่มเสียงดังโวยวายร้องขอกระจกอย่างเดือดดาน
“จะ ใจเย็นๆ นะคะคุณลู่หาน” พยาบาลสาวพยายามเข้ามาจับตัวคนไข้ให้สงบนิ่ง แต่มีหรือคนที่กำลังโมโหและหวาดกลัวจะยอมแพ้ ลู่หานออกแรงสะบัดตัวหนีแล้ววิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อส่องกระจก ทันทีที่กระจกเงาสะท้อนภาพคนที่ส่องทุกอย่างก็หยุดนิ่ง
“ไม่...”
“คุณลู่หาน...”
“ไม่...”
“...”
“ไม่...”
“...”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
คุณหมอเจ้าของไข้แจ้งมายังโอเซฮุนว่า ลู่หานถูกไฟไหม้ผิวหนังลึกเข้าไปถึงเซลล์ผิวหนังชั้นใน ผ้าเช็ดเท้าที่เซฮุนใช้ช่วยดับไฟมีฝุ่นและสิ่งสกปรกอยู่มาก ทำให้เชื้อโรคซึมเข้าสู่ผิวหนังคนป่วยได้ง่ายและเกิดแผลติดเชื้อในที่สุด และสุดท้ายผลของการกระทำของคนบาปอย่างลู่หานคือใบหน้าและลำตัวที่มีเนื้อเยื่อแสนน่าเกลียดและอัปลักษณ์ที่สุด
และสุดท้ายเสี่ยวลู่หานกลายเป็นผู้ป่วยมีอาการทางจิตที่กลัวกระจกและทุกสิ่งอย่างที่สะท้อนเงาของตัวเอง ใส่เสื้อผ้ามิดชิด ลู่หานมักจะบอกอยู่เสมอว่าตนเองนั้นสวยและงดงาม บอกรักกับหมอนข้างและเรียกหมอนข้างว่า ‘เซฮุน’ คนเคยสวยไม่ยอมอาบน้ำเพราะมักจะกรีดร้องทุกครั้งที่เห็นผิวหนังของตนเอง พ่อกับแม่และน้องชายของลู่หานต้องคอยให้ยานอนหลับชนิดรุนแรงทุกครั้งก่อนจะชำระร่างกายให้ลูกชายคนโต
เสี่ยวลู่หานได้รับผลตอบแทนจากการกระทำของตนเองอย่างแสนสาหัสแล้ว
“อ้าวเซฮุน” เป็นพี่คยองซูที่กำลังจะออกจากห้องเอ่ยเสียงเรียกผม
“มายืนแอบดูพี่กับแบคฮยอนตรงนี้ทำไม?”
“มาดูว่าพี่จะแอบงาบแฟนผมตอนที่ผมไม่อยู่รึเปล่าน่ะ”
“ฮะๆ แฟนนายต่างหากแล้วที่ชอบยั่วพี่ก่อน คิก” พี่คยองซูหัวเราะจนตาหยีแล้วเอ่ยขอตัวกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง ผมสาวท้าวก้าวเขาไปยังเตียงนอนของผมและพี่แบคฮยอน คนตัวเล็กนั่งพับเพียบอยู่กลางเตียงมองหน้าผมพลางยิ้มร่า
“พี่ไปกอดไปหอมพี่คยองซูเขาทำไม ผมหึงนะรู้ไหม” วางถาดนมอุ่นไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วก้าวขึ้นไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ ผมสวมกอดพี่แบคฮยอนแล้วพลิกตัวลงนอนให้สุดที่รักของผมนอนอยู่ใต้ร่างกายของผม
“มันหนักนะเด็กบ้า!” คนถูกทับส่งเสียงร้องเชิงตำหนิแต่พวงแก้มยุ้ยที่ขึ้นสีเลือดฝาดกลับทำให้ผมเลือกที่จะฝังจมูกตัวเองลงบนซอกคอหอม
“ฟอดดดดด”
“ฮื่อออ!” คนถูกหอมย่นคอหนีแต่ฝ่ายจอมตีกลับคิดว่าน่ารัก โอเซฮุนตกหลุมรักบยอนแบคฮยอนในทุกๆ วัน และรักคนตัวเล็กนี้มากขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“นี่ๆ เซฮุนว่าชานยอลจะหายโกรธพี่ไหม” จู่ๆ คนถูกกอดก็ส่งเสียงอู้อี้ถามคำถามออกมา คนโอบกอดถึงกับชะงัก
อีกแล้ว...
พี่แบคฮยอนคิดถึงปาร์คชานยอลอีกแล้ว...
ปาร์คชานยอลผู้ไม่เคยตายไปจากความคิดของบยอนแบคฮยอน...
“ผมไม่รู้”
“แต่ชานยอลไม่ยอมรับโทรศัพท์พี่เลย ปิดเครื่องหนี อีเมลไม่ตอบ คงจะโกรธมากแน่ๆ” เสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบาพร้อมความน้อยใจอย่างปิดไม่มิด หน่วยตาคมจ้องมองคนรักพร้อมหัวใจที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน
“พี่อยู่กับผม พี่พูดถึงเขาทำไม?” ผละตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมเบะปากออกอย่างเอาแต่ใจ
“โถ่...เซฮุนนา...ชานยอลเป็นเพื่อนที่พี่รักมากนะ”
“แต่ผมอยากให้พี่รักผมคนเดียว”
“พูดแบบนี้คยองซูเสียใจแย่”
“ช่างเขาสิ แต่ที่แน่ๆ คือผมไม่อยากให้พี่พูดถึงเขาอีก”
“แต่...”
“หรือพี่จะกลับเกาหลีไปตามหาเขาไหม?” ...กลับไปเยี่ยมเขาที่หลุมศพน่ะ
“เซฮุนนาอย่างอนสิ” แขนเรียวโอบกอดเอวหนาของคนรักพลางซบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างอย่างออดอ้อน
“โอเคไม่พูดถึงชานยอลอีกก็ได้...” พูดแล้วก็เอี้ยวตัวจมพิตลงบนต้นคอของแฟนหนุ่มรุ่นน้อง เซฮุนลอบถอดหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบแก้วนมมาส่งให้คนรัก
“อยากให้หายงอนก็ดื่มให้หมดนะครับ”
“อื้อ...” รับแก้วนมมาแล้วกลั้นใจดื่มจนหมด
“ไม่ชอบกินเลย”
“...”
“ทำไมนมอุ่นของเซฮุนมันขมๆ ก็ไม่รู้ มันบูดรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่บูดหรอกนะครับ แต่เป็นนมพิเศษไงครับ บำรุงร่างกาย ที่รักของผมจะได้ตัวสูงๆ”
“นี่!” ยู่หน้าให้กับคำพูดติดตลกที่ล้อเลียนเรื่องส่วนสูง แต่ถึงจะเบ้หน้าเหมือนไม่ชอบใจ แต่ริมฝีปากบางกลับเอ่ยประโยคตอบกลับไปอย่างแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ
“ตัวเล็กๆ ไม่ดีหรือไง เวลากอดพอดีกันจะตาย...”
หากแต่อีกฝ่ายก็กลับได้ยินมันชัดเจน
และเลือกที่จะมอบจุมพิตแสนหวานให้อย่างอ่อนโยน
ผมรู้ดีว่านมอุ่นที่คนตัวเล็กบอกว่าขมมันเป็นเพราะอะไร เพราะมันใส่ยาผงที่ขอให้หมอสั่งมาให้เป็นพิเศษ ยาระงับประสาทเกี่ยวกับโรคที่พี่แบคฮยอนเป็นอยู่
ผมขอยืนยันว่าคนรักของผมไม่ได้บ้า
แต่พี่แบคฮยอนแค่ปิดกั้นตัวเองเลือกที่จะข้ามความทรงจำบางอย่างเฉยๆ
พี่แบคฮยอนมักจะพูดถึงปาร์คชานยอลอยู่บ่อยครั้ง
เขาจำได้แค่ครั้งสุดท้ายที่เขาเจอเพื่อนสนิทคือคืนที่เขาลืมวันเกิดชานยอล
ทุกอย่างในชีวิตของพี่แบคฮยอนเป็นปกติดีทุกอย่าง พี่แบคฮยอนจำจงอิน พี่คริส และพี่ลู่หานได้ จำได้ทุกอย่างและเขาก็มักจะขอให้ผมพาเขาไปเยี่ยมลู่หานที่ป่วยอยู่บ่อยๆ แต่เรื่องของชานยอลก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ แต่เมื่อไรที่ผมเถียงหรือเลือกที่จะพูดความจริงว่าชานยอลไม่อยู่แล้ว พี่แบคฮยอนที่แสนอ่อนโยนก็จะกรีดร้องและพร่ำเพ้อคำว่า ‘ไม่จริง’
ครั้งล่าสุดที่ผมทนไม่ไหวแล้วพูดถึงชานยอลก็คือเดือนก่อน พี่แบคฮยอนโวยวาย อารมณ์ร้ายและทำลายข้าวของจนต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ผมจึงตกลงกับพี่คยองซูว่าเราจะเออออทำเป็นว่าชานยอลยังอยู่เพื่อพี่แบคฮยอน
เพื่อคนรัก ผมยอมทำให้ได้ทุกอย่าง...แม้ผมจะต้องเจ็บปวดเองก็ตาม
“เซฮุนนาหายงอนนะ” คนตัวเล็กปีนป่ายข้นมานั่งคร่อมหน้าตักของผมอย่างน่ารัก พี่แบคฮยอนไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าตัวเองน่ะยั่วยวนมากเพียงใด
“...”
“งั้น...คืนนี้ให้กอดก็ได้...” ผมเงยหน้ามองคนขี้อายที่เอ่ยประโยคชวนอายจนเขาเองต้องก้มหน้างุด ผมหัวเราะในลำคอดังหึๆ แล้วโอบกอดจนกายเราสองคนแนบชิด เพราะถึงชื่อของปาร์คชานยอลที่ติดอยู่ในความทรงจำของคนรักของผม แต่ความหอมหวานของความรักที่ผมและเขามีให้แก่กันมันกลบความทุกข์ใจเหล่านั้นไปได้
“แน่ใจนะ?”
“อะ อื้อ...”
“ถึงเช้านะ?”
“!!!”
“หึๆ...”
“ชะ เช้า...เช้าก็ได้...”
-------------------------------------------------------------------------------------------------
น้องหมาขอเห่า!~ : ปุ้งงงง จบจริงๆ แล้วนะคะสำหรับเรื่องนี้ บทส่งท้ายมันแหม่งๆ เนอะว่าไหม?
เหมือนมันจะขัดๆ กันอยู่ ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่งยากจริงๆ ไม่ถนัดเลยให้ตายเถอะ lol
เหลือตอนพิเศษสามตอนเนอะ จะค่อยๆ ทยอยลงให้นะคะ
ปิดจองและโอนเงินฟิค 10 มี.ค.นี้ค่ะ ตอนนี้ยอดจองมี 3 เล่ม กิกิ
ถ้าไม่ถึง 10 เล่มคงต้องพับโครงการลงจริงๆ เนอะ
แล้วเจอกันตอนพิเศษนะคะ โนดราม่า~
#ficcruel
ความคิดเห็น