ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : The Vow...16
� � � �“ลู่ฮาน ดึกแล้วขับรถกลับเองคนเดียวมันจะดีหรอ?” ผู้จัดการหน้าคมอย่างเฉินถามคนตัวเล็กที่กำลังเดินไปที่โรงจอดรถของบริษัท “ดีสิ รถจอดอยู่ที่บริษัทนานแล้วขับซะบ้างเดี๋ยวเครื่องมันจะฝืดหมด” ลู่ฮานตอบพร้อมกับส่งซองจดหมายสีขาวให้ผู้จัดการส่วนตัวที่รับไปอย่างงงๆ
� � � �“จดหมายลากิจเฉพาะกิจด้วย..จะไม่มาทำงานสัก15วัน ไม่ต้องตามหาตัวฉันสบายดี” คนตัวเล็กตอบด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยว อธิบายให้ฉันฟังที ขอแบบละเอียดที่สุด” ถึงตอนนี้มือของเฉินจับข้อมือเล็กของลู่ฮานเอาไว้แน่น เพราะเขารู้ดีว่าลู่ฮานไม่ชอบความยุ่งยากวุ่นวาย หากเขาคาดคั้นอะไรบางอย่างจากเจ้าตัว เจ้าตัวจะต้องรีบเผ่นไปจากเขาแน่นอน
� � � ��“ถ้ามีงานสำคัญที่เลื่อนหรือแคนเซิลไม่ได้ก็โทรตามฉันได้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรได้เหมือนกัน ช่วงนี้ฉันจะไม่เข้าบริษัทนะเฉิน ฉันสัญญาว่ามันจะไม่เกิน15วัน ฉันมีเรื่องต้องจัดการให้เรียบร้อย” ลู่ฮานอธิบายด้วยสายตาจริงจัง
� � � � “ลู่ฮาน..ฉันพอจะรู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น ไว้ฉันจะพูดกับประธานให้ ระหว่างนี้ก็ไปจัดการปัญหาของนายให้เรียบร้อยซะล่ะ” เฉินกล่าวพร้อมกับลูบเส้นผมสีอ่อนของคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยนคล้ายเป็นการให้กำลังใจ
� � � �“ฉันไม่รู้..ว่าที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่นี้มันหมายความว่าอะไร..มันคือความรักรึป่าวฉันก็ตอบตัวเองไม่ได้ ฉันกลัวว่าบางทีที่ฉันจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ได้อาจเป็นเพราะฉันไม่อยากจะจำ..” ลู่ฮานยิ้มจางๆให้กับเฉินที่ถอนหายใจออกมาพรืดยาวก่อนจะจับมือบางเอาไว้อย่างแผ่วเบา
� � � � �“บางทีนายอาจจะคิดมากเกินไป..” เฉินพูดกล่าวออกมาพร้อมๆกับรอยยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนที่มัดใจใครต่อใครมานับไม่ถ้วนแล้ว ��
� � � ��“รู้ไหมว่าความรักน่ะมันคืออะไร??..บางทีความรักอาจคือการที่นายรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเขา ความรักคือการที่เราหัวใจเต้นแรงยามเมื่ออยู่ใกล้กันและกระวนกระวายยามเมื่ออยู่ไกลกัน...ลองถามตัวเองดูว่าถ้าไม่มีเขาเราจะรู้สึกยังไง จะอยู่ได้ไหม ความรักมันเป็นสิ่งไม่ตายตัว มันล้ำลึกกว่าที่ใครหลายๆคนเข้าใจ..ฉันให้คำตอบกับนายไม่ได้หรอกว่าความรักคืออะไร..เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ตรงนี้..ไม่ใช่ตรงนี้” นิ้วเรียวชี้ไปที่อกข้างซ้ายของเขาที่มีก้อนเนื้อขนาดเท่ากำปั้นของเขากำลังเต้นอยู่ก่อนจะชี้ไปบริเวณศีรษะ
�
� � � � “ฉันรู้ว่านายใช้สมองในการหาคำตอบของเรื่องนี้มากเกินไป เรื่องบางเรื่องสมองก็ให้คำตอบเราไม่ได้หรอกนะลู่ฮาน” คนตัวเล็กยิ้มกว้างออกมาทันที เขาไมรู้ว่าเฉินรู้เรื่องของเขามาจากไหนแต่ที่แน่ๆในตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเดีจริงๆที่เฉินเป็นอีกหนึ่งคนที่รับรู้เรื่องราวของเขา
� “ขอบคุณนะเฉิน..ฉันคงคิดถึงนาย ว่างๆแวะมาหาที่บ้านบ้างนะ”
� “ฉันมีเวลาว่างมากเลยนะ เสี่ยว ลู่ฮาน ฉันยังต้องดูแลเลย์อีกตั้งคนนึ่งนะ” เฉินหัวเราะอย่างเอือมๆ
� “ฝากดูแลเลย์ด้วยนะ เลย์ชอบทำอะไรเกินตัวฉันเป็นห่วง”
� “ฉันเป็นผู้จัดการพวกนายมากี่ปีแล้ว ทำไมจะไม่รู้นิสับของพวกนายหื้อ??” ว่าแล้วก็บีบจมูกรั้นเบาๆด้วยความมั่นไส้ “ไปได้แล้วเดี๋ยวจะดึกมากไปกว่านี้” ลู่ฮานยิ้มก่อนจะผละจากอ้อมกอดของผู้จัดการคนเก่งแล้วรีบขับรถออกจากบริษัทไป
� ออด...ออด...
� � � �เซฮุนหันไปยังต้นตอของเสียงก่อนจะวางแก้ววิสกี้ที่เพิ่งยกขึ้นดื่มไปได้เพียงนิดเดียวลงกับโต๊ะก่อนจะชะโงกตัวจากเค้าท์เตอร์ในห้องครัวมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ที่ติดอยู่ข้างๆประตูที่กำลังปรากฏใบหน้าหวานของใครบางคนอยู่
�
� � � เซฮุนแทบลืมลมหายใจขณะที่ขายาวๆก็กำลังก้าวเดินตรงไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ให้ใกล้ขึ้น มองดูคนตัวเล็กที่ตอนนี้ดูท่าทางจะสนอกสนใจกับประตูห้องของเขามากหรือไม่ก็กำลังสำรวจอะไรบางอย่างอยู่จึงได้เอียงคอซ้ายทีขวาที มองสูงบ้างต่ำบ้าง จนทำให้เขาอดยิ้มบางๆออกมาไม่ได้
�หัวใจของเขากำลังเต้นแรงด้วยความดีใจ..ดีใจที่คนตัวเล็กยังไม่หายไปจากสายตาเขาอย่างที่เขากำลังกลัวอยู่..
�
�
� �“เสี่ยวลู่ มาที่นี้ได้ยังไง?” เซฮุนเปิดประตูพร้อมกับยิงคำถามใส่คนตัวเล็กที่ผงะตกใจจนถอยหลังออกไปสองก้าวด้วยความที่ไม่คิดว่าอยู่ๆคนตัวสูงจะเปิดประตูออกมาอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียงอย่างนี้
� � “อ่ะ..ถามมาจากคุณแม่น่ะ...ตอนแรกนึกว่าจะไม่ใช่ห้องนี้ซะอีกตกใจหมดเลย..” ลู่ฮานตอบด้วยหัวใจที่ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อย ด้วยตอนแรกนึกว่าตนเองคงมาผิดห้องและกำลังจะเดินลงไปถามเค้าท์เตอร์ข้างล่างอยู่แล้ว แต่จู่ๆประตูก็เปิดออกอย่างเร็วพร้อมกับคนตัวสูงที่ยืนอยู่
� � �“เข้ามาก่อนสิ คงเหนื่อยแล้วสินะ นอนที่นี้ก็ได้เดี๋ยวเช้าแล้วฉันไปส่งที่ทำงาน” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนก่อนจะคว้าเอาถุงกระดาษ2-3ใบกับกระเป๋าสะพายข้างไปถือเอาไว้และเดินนำเข้าไป
� � �“นายกินอะไรรึยัง??” สรรพนามที่ฟังดูสนิทสนมนั้นทำให้เซฮุนชะงักเล็กน้อยก่อนหันไปมองดูร่างเล็กที่กำลังเดินเข้าไปในส่วนของห้องครัวพร้อมกับยกแก้ววิสกี้ที่เขาดื่มค้างเอาไว้ขึ้นมาแกว่งเล่นในมือ
� � �“ดูท่าทางยังไม่ได้กินอะไรสินะ..แล้วก็มาดื่มไอ้นี้...ตัวนายเองยังไม่ดูแลเลย แล้วจะมาดูแลฉันได้ยังไงกันนะ..เซฮุนนา...” เสียงบ่นกระปอดประแปดจบลงด้วยการเรียกชื่อทีแสนแผ่วเบาทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาบางๆ
� ขอบคุณนะเสี่ยวลู่..
� � “ก็ว่าจะลงไปซื้อกินอยู่เหมือนกันแต่มีใครมาซะก่อนเลยยังไม่ได้ลงไปซื้อเท่านั้นเอง”
� � � “ขี้ตู่...ฉันซื้อบะหมี่มา2ถ้วยมากินกันนะ”เสียงใสๆดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มก่อนที่มือเรียวจะเริ่มเทใส่จานเตรียมไว้ในคนตัวสูงที่เดินเข้ามานั่งลงที่โต๊ะทานข้าวขนาดย่อม จนลู่ฮานมานั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามบรรยากาศบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกจึงได้ครอบคลุมคนทั้งคู่เอาไว้
� � �“เรื่องเมื่อวันก่อนฉันขอโทษนะเสี่ยวลู่” เซฮุนเป็นฝ่ายตัดสินใจพูดทำลายบรรยากาศที่แสนแปลก ซึ่งลู่ฮานก็อยากจะขอบคุณมากๆที่ในที่สุดคนตัวสูงตรงข้ามก็ยอมพูดเสียที หลังจากที่ต้องทนนั่งเกร็งมานานเกือบๆสิบนาทีได้ เพราะเขาเป็นฝ่ายที่ทำตัวงี่เง่าเองเมื่อครั้งที่แล้ว..
�
� � ��ลู่ฮานใช้ตะเกียบเขี่ยคนไปมาในชามบะหมี่ของตัวเองก่อนจะตัดสินใจเข้าเรื่องที่ตั้งใจจะพูดเสียที “ฉันปล่อยให้เวลามันผ่านมาอย่างป่าวประโยชน์มานานมากแล้ว..เหลืออีกแค่15วัน..ฉันไมรู้ว่าจะจำเรื่องราวของนายได้เหมือนเดิมรึป่าว..ไม่รู้ว่าจะรักนายได้ไหม..ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ..” มือเล็กสั่นขึ้นมาเสียเฉยๆจนเจ้าตัวก็ยังแปลกใจ
� � “เสี่ยวลู่..มองตาฉันสิ..” ไมใช่การบังคับใดๆแต่คนตัวเล็กกลับค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าคมคายที่ยิ้มให้ตนบางๆอยู่
� “ไม่จำเป็นที่จะต้องจำเรื่องราวทั้งหมดให้ได้...”
� “แค่อยู่ข้างๆฉัน..ไม่หายไปไหนในตอนนี้..ฉันก็มีความสุขที่สุดแล้ว...” ลู่ฮานรู้สึกได้ว่าขอบตาของตนกำลังร้อนผ่าว ยามเมื่อมองคนตรงหน้าที่ยิ้มให้ตนได้
� บอกผมทีได้ไหม??
� ผมต้องทำอย่างไรในเวลาอีกเพียงแค่15วัน..เราถึงจะกลับมารักกันเหมือนเดิมได้อีกครั้ง..
�
�
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////100เปอร์เซนแล้วค่ะ
เหลือเวลาอีกแค่15วันเท่านั้น ลู่ฮานตัดสินใจแล้วว่าจะเอายังไงต่อ><
นับถ้อยหลัง15วันสุดท้ายไปด้วยกันนะค่ะ : )
กิ๊ฟกำลังเตรียมเขียนฟิคเรื่องใหม่อยู่ค่ะ นั้นก็หมายถึงว่าthe vow ที่กิ๊ฟกำลังพิมพ์ต้นฉบับเอาไว้ใกล้จะจบเต็มทีแล้วล่ะค่ะ
เรื่องใหม่เป็นอีกหนึ่งแนวที่กิ๊ฟคิดว่าท้าทายกิ๊ฟมากเพราะว่าเป็นแนวที่ต่างจากthe vow มากค่ะแต่จะต่างไปในทางไหนต้องรอดูกันนะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจค่ะ นักอ่านเงาสามารถคอมเม้นได้นะค่ะ : )
เที่ยวปีใหม่ด้วยความระมัดระวังนะค่ะทุกคน
เอ็นจอยรีดค่ะ : )
50%(30.12.12) 100%(1.01.13)
�
ความคิดเห็น