ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Rule 14 : ไปเที่ยววววววว
หลังจากนั้นผมก็อยู่จนกระทั่งไอ้คีตะปิดหอเสร็จเรียบร้อย ผมเพิ่งมารู้อีกอย่างคือถ้าใครกลับมาหลังหอปิดให้ปีนเข้าหอเอาเองแต่จะถูกทำโทษทีหลังเพราะชื่อที่ลงไว้ก่อนออกจากหอยังไม่ได้รับการยืนยันว่าคนคนนั้นเข้าหอมาแล้ว
ผมเข้าไปเอาชุดนักเรียนในห้องก่อนจะไปนอนที่ห้องของไอ้คีตะส่วนตัวมันก็ไปนอนที่ห้องของผม แอบกระวนกระวายใจไม่น้อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าป่านนี้สองคนนั้นจะตีกันตายหรือยัง แล้วพรุ่งนี้ผมกับไอ้วาจะมองหน้ากันติดไหมนะ แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
หลังจากวิ่งตอนเช้าเสร็จผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและลงมารอพวกเพื่อนๆ เหมือนทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่ว่านี่มักจะมีไอ้วาแต่ครั้งนี้กลับไม่มี มันจะลงมาพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ ไหมนะ
“มารอแต่เช้าเลยนะมึง แดกไรยัง?” ไอ้พีททักขึ้นพร้อมกันกลุ่มเพื่อนที่เดินตามลงมา เฮ่อ โล่งอก ไอ้วาก็เดินลงมาด้วย
ไอ้วาเดินปิดปากก้มหน้าตามหลังไอ้มินทร์มา ผมเห็นจึงรีบเดินไปดึงตัวมันออกมาทันที ปล่อยไว้แบบนี้แล้วมันค้างคาใจ ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยไม่งั้นวันนี้ไม่มีอารมณ์เรียนแน่เพราะผมกับมันนั่งข้างกันเสียด้วย
“เหวอ!” ผมที่เดินไปดึงแขนไอ้วามาตกใจเมื่อเห็นรอยช้ำที่มุมปากของมัน มิน่าล่ะ เดินปิดปากมาเชียว
“ตกใจไรเล่า!” ไอ้วาขมวดคิ้วไม่ยอมสบตาผม
“มึงไปโดนไปมา กูจำได้ว่ากูต่อยมึงแค่หมัดเดียวแล้วทำไมมึงถึงมีสองรอยล่ะ” ผมถาม อย่าบอกนะว่ามันอัดกันกับไอ้คีตะ
“เฮียต่อย” กูว่าแล้ว
“แล้วนี่มึงเคลียร์รึยัง??” ผมถาม
“อืม เข้าใจแล้วครับ วาจะกลับมาเป็นเพื่อนกับคิทเหมือนเดิม แต่วาขอเวลาหน่อย” ไอ้วาหลบตาก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากเหมือนเดิม เสียโฉมเลยสิมึง วะฮะฮ่า
“ดีมาก เป็นเพื่อนกันดีกว่าเนอะ” ผมยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มมันเบาๆ แบบเพื่อนครับแบบเพื่อน
“คิท ทำแบบนี้วาจะตัดใจได้ไงเล่า” ไอ้วาเขินหน้าแดงก่ำ เฮ้ยๆ ปฏิกิริยาแบบนี้น่ารักนะเนี่ย
“ไอ้หอกชำรุด กูทำแบบนี้เพื่อยืนยันความเป็นเพื่อนของเราเฟ้ย มึงอย่าคิดว่ามึงได้คนเดียว ไอ้มินทร์ไอ้พีทก็ถูกกูหอมมาหมดแล้ว” ผมกอดคอไอ้วาก่อนจะลากมันไปรวมกับกลุ่มเพื่อนเหมือนเดิม
“จริงอ่ะ! ชิ!” ไอ้วาทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ยิ้มออก
“เหลือแต่มึงแล้วนะลิซ คึๆ” ผมขยับไปกอดคอไอ้ลิซพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ๆ กูเกรงใจว่ะ เว้นกูไว้ซักคนก็ได้นะมึง” ไอ้ลิซทำหน้าตื่นๆ พลางขยับออกห่างจากผมอย่างหวาดหวั่น ผมเท้าเอวอ้าปากหัวเราะอย่างชอบใจ ปฏิกิริยาของไอ้วาว่าน่ารักแล้วของไอ้ลิซน่ารักกว่าตั้งเยอะ ฮ่าๆ
“เออ เชี่ยคิท ปากมึงไปโดนไรมาวะ ช้ำเชียว” ไอ้มินทร์ถามเมื่อสังเกตเห็นริมฝีปากของผม ผมอึ้ง ไม่รู้จะตอบยังไง จะให้ตอบว่าโดนผู้ชายดูดมาก็ยังไงๆ อยู่
“หา...หือ...หืม??” ผมอึกอัก
“มึงไปโดนใครดูดมา” ไอ้พีทถามเล่นเอามสะอึก
“หา!?! จะบ้าเรอะ กูแพ้ปลาหมึกต่างหาก เมื่อวานกูไปซื้อมากิน” ผมรีบแถ
“รู้ว่าแพ้ยังจะสะเออะอยากกินอีกนะมึง คราวหน้าอย่ากิน” ไอ้พีทตบหัวผมเบาๆ ผมแพ้ปลาหมึกก็จริงแต่สิ่งที่ผมชอบกินมากที่สุดก็ปลาหมึกนี่แหละ
“คร้าบๆ” ผมพยักหน้าก่อนจะเอามือปิดปากเหมือนไอ้วา
ตกเย็นผมก็ไปที่ชมรมเหมือนเคยแต่วันนี้ไอ้คีตะไม่ได้มา มันก็เป็นปกติที่มันจะไม่มาวันไหนมันมาวันนั้นนั่นแหละแปลก นึกถึงมันแล้วผมก็โกรธ ปากบวมๆ ของผมทำให้คนอื่นๆ มองและมีหลายคนเข้ามาถามว่าไปจูบกับใครมา ผมถูกถามแบบนี้จนไม่รู้จะตอบอย่างไร
“คิท ปากไปโดนอะไรมา?” พี่จิ้นเดินเข้ามาทักเมื่อผมเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ฮึ ไปอ่อยพี่คิทล่ะสิ คงได้สมใจอยากแล้วใช่ไหมล่ะ” ก่อนที่ผมจะตอบเสียงพูดจิกๆ ก็ดังขึ้น ผมกับพี่จิ้นหันขวับไปมองจึงรู้ว่าเป็นกลุ่มพวกไอ้เชี่ยบิล
“ใช่ รู้ด้วยเหรอ? แต่เสียใจนะที่กูไม่ได้อ่อยแต่หมอนั่นเข้ามาเอง ไม่เหมือนมึงที่แม้จะอ่อยจนเปลืองตัวแค่ไหนเขาก็ไม่เข้าหา” ผมแสยะยิ้ม พี่จิ้นแอบขำที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น
“ไอ้เชี่ยคิท! มึง...” เพื่อนที่เป็นลูกสมุนของเชี่ยบิลกำมือแน่นทำท่าจะเข้ามาต่อยผมแต่เพื่อนก็ดึงไว้ พี่จิ้นเองก็ดึงผมไปไว้ด้านหลัง อ่า..ผมรักพี่คร้าบบบบ
“น้องครับ นิสัยแบบนี้เก็บไปใช้ที่บ้านเถอะ ที่นี่มันโรงเรียนอย่ามาแสดงสันดานบ้านเกิดของตัวเองแบบนี้” โอ้ ผมเจ็บแทนเลย ฮ่าๆๆ พี่จิ้นด่าได้สะใจฉิบหาย!
“มึงเป็นใคร อย่ามาทำวางก้ามปกป้องคนอื่น ตัวเล็กอย่างมึงจะทำอะไรได้” ไอ้คนที่ทำท่าจะเข้ามาต่อยผมชี้หน้าพี่จิ้น สงสัยหมอนี่ไม่รู้ซะแล้วว่าพี่จิ้นเป็นใคร
“อย่างน้อยกูก็สูงกว่ามึงแหละไอ้เตี้ย อย่ามาผยองกับกูถ้ามึงยังไม่รู้ว่ากูเป็นใคร!” พี่จิ้นถลึงตาพูดเสียงเย็น
“แล้วมึงคิดว่ามึงเป็นใคร? คิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง”
“เออสิ อย่างน้อยๆ กูก็มีอำนาจพอที่จะไล่มึงออกจากชมรมได้ เวลาทำอะไรก็หัดมีมารยาทซะบ้าง” พี่จิ้นเริ่มโมโหผมจึงจับแขนพี่จิ้นไว้เบาๆ
“ประธานชมรมคือพี่บอลไม่ใช่มึงแล้วมึงมีสิทธิอะไรมาไล่กูออก”
“รู้ไหมว่าเชี่ยบอลเป็นประธานชมรมได้เพราะใคร รู้ไหมว่าเชี่ยนักบาสทั้งหลายมันได้รางวัลมาหลายรางวัลเพราะใคร แล้วมึงรู้ไหมว่าขนาดไอ้คิทยังเป็นเด็กปั้นของกู” พี่จิ้นแสยะยิ้ม พอพวกนั้นได้ยินพวกมันก็ถึงกับหน้าซีดแต่ยังทำเป็นเก่ง
“อย่ามาตลก!”
พี่จิ้นได้ยินดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดและโชว์ให้ดูว่าสายที่โทรออกคือของไอ้คีตะ เสียงสัญญาณดังขึ้นให้ได้ยินเมื่อพี่จิ้นกดเปิดลำโพง ไอ้พวกนั้นเริ่มซีดลงเรื่อยๆ จนน่ากลัวว่าจะไม่มีเลือดไปเลี้ยงใบหน้า
“โทรมาทำเหี้ยไรวะเชี่ยจิ้น!!” ฟังดูเสียงมันรับสายสิ เกรียนจริงๆ
“เชี่ยคิท มึงอยู่ไหน?” พี่จิ้นยิ้มพลางมองไอ้พวกนั้นที่แข้งขาเริ่มจะอ่อน
“ถามทำซากไรวะ กูนอนอยู่” ฟังจากเสียงหอบๆ แบบนั้นน่าเชื่อมากเลยว่ามันกำลังนอน
“มึงมาที่ชมรมหน่อยดิ๊ กูจะให้ตารางฝึกซ้อมที่กูเพิ่งทำให้มึงไปทดลองซ้อมดู” พี่จิ้นพูดพลางยืดอกข่มขวัญไอ้พวกนั้น โอ๊ย สะใจโว้ย!!
“หา?? นี่กูยังต้องซ้อมกับตารางมึงอีกเหรอ?? นี่มึงยังทรมานกูไม่พอใช่ไหม” ไอ้คีตะบ่นเสียงเซ็งๆ
“กูพูดเล่นเฉยๆ มึงซ้อมตามตารางกูมาตั้งแต่ม.ต้นจนกูไม่รู้จะให้มึงซ้อมอะไรแล้วแหละ ไปนอนต่อเถอะไป” พี่จิ้นพูดเน้นถึงความสนิทสนมก่อนจะตัดสายและจูงมือผมเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า สะใจโว้ย สะใจๆๆๆๆ สะใจจนไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรแล้ว ฮ่าๆๆๆ อยากลองดีกับพี่จิ้นดีนัก ตายซะเถอะพวกมึง
“สะใจโว้ย!!” พี่จิ้นเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอ้าหัวเราะด้วยสีหน้าที่โคตรจะสะใจเลย
“พี่จิ้นสุดยอด” ผมยกนิ้วให้
“ว่าจะไม่แสดงตัวแล้วเชียวแต่พวกนั้นมันวอนส้นตีนชะมัดเลย” พี่จิ้นฮึดฮัด
“ผมต้องขอบคุณพี่จิ้นจริงๆ นะครับที่อุตส่าห์ช่วยปกป้องผม” ผมยิ้ม
“ไม่เป็นไร พี่หมั่นไส้พวกมันเหมือนกันต่อหน้าพวกไอ้บอลล่ะทำตัวแสนดี เฮ้อ” พี่จิ้นส่ายหน้าไปมา
“ต่อไปนี้มันคงไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายกับผมมากมายแล้วแหละ พูดๆ ไปแล้วก็สะใจจริงๆ เลย หน้าพวกเชี่ยนั่นซีดอย่างกับไก่ต้มตอนรู้ว่าพี่จิ้นเป็นใคร ฮ่าๆ” ผมยังสะใจไม่เลิก ทำไงได้ ก็มันสะใจ!!
“ถ้ามันมายุ่งวุ่นวายอะไรอีกบอกพี่ได้เลย พี่รู้นะว่าเราน่ะปกป้องตัวเองได้แต่ทางที่ดีขอให้พี่ช่วยเถอะเพราะพี่ว่าเราคงทนคำยั่วยุไม่ไหวแน่” พี่จิ้นตบไหล่ผม
“ครับ” ผมพยักหน้ารับ
“เอาล่ะๆ อยากเป็นนักกีฬาต้องฝึกซ้อม!!” พี่จิ้นที่เป็นพ่อพระเมื่อครู่หายไปโดยมีเดวิลจิ้นมาแทนที่ อ๊ากกกก!! ซ้อมมหาโหด!!
หลายวันต่อมา
อาจารย์ประจำชั้นเข้ามาบอกข่าวที่น่าดีใจกับห้องของผมนั่นก็คืออีกสองวันข้างหน้าสายชั้นม.4 จะได้ไปเที่ยวปีนเขาที่ภาคเหนือ ผมไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ เลยจึงดีใจมากเป็นพิเศษ
“ดีจังเลยว่ะที่โรงเรียนพาเด็กนักเรียนไปเที่ยวแบบนี้ เจ๋งชะมัด” ผมพูดกับไอ้วาและไอ้ลิซขณะที่กำลังเตรียมตัวจะไปซ้อมที่ชมรม
“มีทุกๆ ปีนั่นแหละ ทั้งม.ต้น ม.ปลาย ปีหน้าเราก็จะได้ไปอีก ได้ไปไม่ซ้ำที่ด้วยนะเว้ย” ไอ้ลิซตบอก มันเองก็ยิ้มหน้าบานเหมือนกัน นานๆ ทีมึงจะยิ้มซักทีนะลิซนะ กูดีใจจริงๆ ที่เห็นมึงยิ้ม ฮ่าๆๆ
“แต่มันจะดีมากถ้าพวกหัวหน้ากรรมการนักเรียนไม่ไปด้วย” เสียงไอ้มินทร์พูดขึ้น มันมาห้องพวกผมตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย ไอ้กรรมการนักเรียนที่ว่าคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่ขิมที่มันเกลียดขี้หน้านักหนา
“มึงจะอะไรนักหนาวะเชี่ยมินทร์” ไอ้พีทถอนหายใจเซ็งๆ
“มันอาจจะใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดกับมึงก็ได้นะเว้ยไอ้พีท” ไอ้มินทร์หันไปมองไอ้พีท
“แล้วมึงคิดว่ากูจะให้พี่แกมีโอกาสรึไงวะไอ้บ้า โอ๊ย!! กูขี้เกียจพูดกับมึงจริงๆ รำคาญโว้ย!” ไอ้พีทพูดแล้วก็เดินหนีไปชมรมเฉยเลยไอ้มินทร์จึงรีบเดินตาม
“สองผัวเมียนี่ทะเลาะกันตลอดเลยว่ะ กูชักจะรำคาญ” ไอ้วาบ่นก่อนจะชวนไอ้ลิซไปชมรมด้วยกัน ผมจึงเดินแยกไปชมรมบ้าง
วันเดินทางไปเที่ยว
ผมมองกระเป๋าใบใหญ่ของไอ้วาก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็งเป็ด มันจะแพ็คกระเป๋าไปอยู่กี่ปีกันเนี่ย ไปเที่ยวแค่สามวันสองคืนมันทำอย่างกับจะไปค้างแรมปีสองปี ตอนเตรียมของอยู่ผมเห็นมันหยิบเสื้อผ้าใส่แบบไม่ยั้งเลย อีกทั้งมันยังยัดรองเท้าไปอีกตั้งสามสี่คู่ มันจะเอาอะไรไปนักหนาก็ไม่รู้ ไม่เหมือนผมที่มีเป้ใบใหญ่ไปแค่ใบเดียว
รถบัสที่พวกเรานั่งเป็นรถบัสสองชั้นมีที่นั่งหกสิบที่นั่ง ซึ่งห้องผมได้นั่งรวมกับห้องไอ้พีท(ห้องสองมี28คน ห้องหนึ่งมี30คน)ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมากเพราะเพื่อนกลุ่มผมทั้งหมดได้มานั่งด้วยกัน พวกมันนัดการไว้ว่าจะออกไปดิ้นให้สุดเหวี่ยง เป็นนิสัยของเด็กวัยรุ่นน่ะนะครับที่เวลาไปเที่ยวที่ไหนมันจะต้องเต้นกันในรถ
“อ่า นั่งด้วยๆ” เมื่อก้นผมสัมผัสเบาะไอ้คีตะก็เดินมานั่งลงที่นั่งข้างๆ ของผมทันที
“เฮ้ย ฉันจะนั่งกับไอ้พีท” ผมพูดพลางผลักไอ้คีตะออก เนื่องจากในรถแต่ละคันจะต้องมีอาจารย์และกรรมการนักเรียนคุมรถเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายไอ้คีตะจึงได้มานั่งรถคันเดียวกันกับพวกผม และเนื่องจากว่ากรรมการนักเรียนดันมานั่งรถคันนี้กันหมดจึงไม่มีอาจารย์อยู่คุมรถคันนี้เลย
“น้องพีทน่ะเหรอ มีคนกำลังตีกันแย่งที่นั่งข้างน้องพีทอยู่น่ะ” ไอ้คีตะพยักพเยิดไปที่นั่งด้านหลังซึ่งมีพี่ขิมกับไอ้มินทร์จ้องหน้ากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ตอนนี้พี่ขิมได้นั่งข้างไอ้พีทแล้วไอ้มินทร์จึงเอาแต่ฮึดฮัดและพยายามจะเข้าไปเบียด
“เอาอีกแล้วเหรอ?” ผมส่ายหน้าเบาๆ อย่างระอา
“ก็นะ ไอ้ขิมมันชอบน้องพีทนี่นา ถ้ามันชอบใครมันก็เป็นแบบนี้แหละ” ไอ้คีตะพูดก่อนจะปรับเบาะเอนลงไปนั่งสบายๆ ไอ้เบาะข้างหลังพวกเรานั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้วากับไอ้ลิซ
“เออ แล้วพี่บอลกับพี่ดินล่ะ รถที่นั่งไม่พอนี่แล้วพวกพี่แกไปไหนซะล่ะ?” ผมถามพลางมองหาพวกพี่ๆ
“ไปนั่งกับคนขับน่ะ” ไอ้คีตะตอบก่อนจะหยิบผ้าปิดตาขึ้นมาและเอนหลังลงนอนเฉยเลย
“นี่ ถ้านายจะนอนเข้าไปนั่งด้านในไป ฉันจะออกไปเล่นกับเพื่อน” ผมพูดพลางลุกขึ้นเพื่อจะเปลี่ยนที่นั่งให้ไอ้คีตะไปนั่งติดกระจกแทน แต่ขาของมันยาวจนไม่มีช่องให้ผมเดินหลบออกไปผมจึงเดินข้าม
กรึ่ก!!
ขณะที่ผมกำลังเดินข้ามขาของไอ้คีตะรถก็ออกเดินทาง ตอนรถบัสกำลังจะวิ่งรถมันจะสั่นและโยกซึ่งนั่นทำให้ผมเสียหลักนั่งคาบลงบนตักของไอ้คีตะทันที เหวออออ!!
“นี่ คิดจะทำอะไรของนายน่ะ” ไอ้คีตะดึงผ้าปิดตาออกก่อนจะมองหน้าผม มั่นใจได้เลยว่าตอนนี้หน้าผมแดงจนจะระเบิดอยู่แล้ว อายจังเว้ย!
“อ่ะ เอ่อ...รถมันโยก ไม่ได้ตั้งใจ” ผมจะลุกออกจากตักมันแต่มันกลับดึงผมไว้แถมยังดึงให้เลื่อนเข้าไปใกล้อีกต่างหาก อ๊ากกก !! นั่งชิดกันแบบนี้เดี๋ยวมึงก็รู้ไซส์กูหรอก แอร๊กกก!! ทำไงดีๆๆ ผมรู้สึกอายจนต้องก้มหน้ามุดไหล่ไอ้หมอนั่นเลยทีเดียวเชียว
“อ่ะแฮ่ม!! แค่กๆๆ โอย ส้นตีนติดคอ” เสียงไอ้วาไอดังๆ ทำให้ผมรีบลุกออกจากตักของไอ้คีตะทันทีและผลักมันเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง มันมองหน้าผมก่อนจะยิ้มล้อๆ และเอาผ้าปิดตาลงเหมือนเดิม
ผมนั่งนิ่งเพราะยังอายไม่หาย ไม่กล้าหันไปมองไอ้คีตะเลย ทำไงดีครับ หัวใจผมมันเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาเต้นตามเพลงที่กำลังเปิดอยู่ตอนนี้เลย
ตุบ!
วัตถุแข็งๆ ที่หุ้มด้วยผมนุ่มๆ เอียงตกลงมาซบไหล่ผม ผมสะดุ้งก่อนจะรีบผลักหัวหมอนั่นไปซบกับหน้าต่าง ให้ตายเถอะ กลิ่นแชมพูหอมหวานๆ นั่นทำให้ผมร้อนที่หน้ามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“คิท เพลงกำลังมัน เต้นป่ะ” ไอ้วาลุกจากที่นั่งด้านหลังแล้วมาดึงผมให้ลุกขึ้นไปเต้นด้วย ผมชอบเต้นนะแต่ผมเต้นได้ง้องแง้งด๊องแด๊งที่สุดเลย เต้นเท่ๆ ไม่เป็นหรอก
เอ...ถ้าเรื่องเต้น ไอ้คีตะเต้นเก่งนี่นา แต่ช่างเถอะ อย่าให้มันเต้นเลย -///-
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอชี้แจงนิดนึงนะคะรีดเดอร์ขา
คำว่ารีก็คือ รีอัพนะคะ พอดีไรเตอร์เอาบทความไปแก้คำผิดแล้วจะลงให้อ่านเรื่อยๆ นะ
ถ้าเห็นคำว่ารีนั่นก็คือยังไม่ได้ลงอ่ะจ้า
ปล.ถ้าเห็นคำผิดเตือนเค้าด้วยน้า ><
B B
66ความคิดเห็น