ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
I'm not gay!! แต่คนที่ชอบบังเอิญเป็นผู้ชาย (Yaoi)

ลำดับตอนที่ #19 : Rule 14 : ไปเที่ยววววววว

  • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 56


edit : 10/02/13
Rule 14 : ไปเที่ยววววววว



หลังจากนั้นผมก็อยู่จนกระทั่งไอ้คีตะปิดหอเสร็จเรียบร้อย  ผมเพิ่งมารู้อีกอย่างคือถ้าใครกลับมาหลังหอปิดให้ปีนเข้าหอเอาเองแต่จะถูกทำโทษทีหลังเพราะชื่อที่ลงไว้ก่อนออกจากหอยังไม่ได้รับการยืนยันว่าคนคนนั้นเข้าหอมาแล้ว
 

ผมเข้าไปเอาชุดนักเรียนในห้องก่อนจะไปนอนที่ห้องของไอ้คีตะส่วนตัวมันก็ไปนอนที่ห้องของผม  แอบกระวนกระวายใจไม่น้อยเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าป่านนี้สองคนนั้นจะตีกันตายหรือยัง  แล้วพรุ่งนี้ผมกับไอ้วาจะมองหน้ากันติดไหมนะ  แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว



 

 

หลังจากวิ่งตอนเช้าเสร็จผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและลงมารอพวกเพื่อนๆ เหมือนทุกครั้ง  แต่ทุกครั้งที่ว่านี่มักจะมีไอ้วาแต่ครั้งนี้กลับไม่มี  มันจะลงมาพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ ไหมนะ
 

“มารอแต่เช้าเลยนะมึง  แดกไรยัง?” ไอ้พีททักขึ้นพร้อมกันกลุ่มเพื่อนที่เดินตามลงมา  เฮ่อ โล่งอก  ไอ้วาก็เดินลงมาด้วย
 

ไอ้วาเดินปิดปากก้มหน้าตามหลังไอ้มินทร์มา  ผมเห็นจึงรีบเดินไปดึงตัวมันออกมาทันที  ปล่อยไว้แบบนี้แล้วมันค้างคาใจ  ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยไม่งั้นวันนี้ไม่มีอารมณ์เรียนแน่เพราะผมกับมันนั่งข้างกันเสียด้วย
 

“เหวอ!” ผมที่เดินไปดึงแขนไอ้วามาตกใจเมื่อเห็นรอยช้ำที่มุมปากของมัน  มิน่าล่ะ  เดินปิดปากมาเชียว
 

“ตกใจไรเล่า!” ไอ้วาขมวดคิ้วไม่ยอมสบตาผม
 

“มึงไปโดนไปมา  กูจำได้ว่ากูต่อยมึงแค่หมัดเดียวแล้วทำไมมึงถึงมีสองรอยล่ะ” ผมถาม  อย่าบอกนะว่ามันอัดกันกับไอ้คีตะ
 

“เฮียต่อย” กูว่าแล้ว
 

“แล้วนี่มึงเคลียร์รึยัง??” ผมถาม
 

“อืม เข้าใจแล้วครับ  วาจะกลับมาเป็นเพื่อนกับคิทเหมือนเดิม  แต่วาขอเวลาหน่อย” ไอ้วาหลบตาก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากเหมือนเดิม  เสียโฉมเลยสิมึง วะฮะฮ่า
 

“ดีมาก  เป็นเพื่อนกันดีกว่าเนอะ” ผมยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มมันเบาๆ  แบบเพื่อนครับแบบเพื่อน
 

“คิท ทำแบบนี้วาจะตัดใจได้ไงเล่า” ไอ้วาเขินหน้าแดงก่ำ  เฮ้ยๆ ปฏิกิริยาแบบนี้น่ารักนะเนี่ย
 

“ไอ้หอกชำรุด  กูทำแบบนี้เพื่อยืนยันความเป็นเพื่อนของเราเฟ้ย  มึงอย่าคิดว่ามึงได้คนเดียว  ไอ้มินทร์ไอ้พีทก็ถูกกูหอมมาหมดแล้ว” ผมกอดคอไอ้วาก่อนจะลากมันไปรวมกับกลุ่มเพื่อนเหมือนเดิม
 

“จริงอ่ะ! ชิ!” ไอ้วาทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ยิ้มออก
 

“เหลือแต่มึงแล้วนะลิซ คึๆ” ผมขยับไปกอดคอไอ้ลิซพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
 

“ไม่ๆ กูเกรงใจว่ะ  เว้นกูไว้ซักคนก็ได้นะมึง” ไอ้ลิซทำหน้าตื่นๆ พลางขยับออกห่างจากผมอย่างหวาดหวั่น  ผมเท้าเอวอ้าปากหัวเราะอย่างชอบใจ  ปฏิกิริยาของไอ้วาว่าน่ารักแล้วของไอ้ลิซน่ารักกว่าตั้งเยอะ ฮ่าๆ

“เออ เชี่ยคิท  ปากมึงไปโดนไรมาวะ  ช้ำเชียว” ไอ้มินทร์ถามเมื่อสังเกตเห็นริมฝีปากของผม  ผมอึ้ง ไม่รู้จะตอบยังไง  จะให้ตอบว่าโดนผู้ชายดูดมาก็ยังไงๆ อยู่

“หา...หือ...หืม??” ผมอึกอัก
 

“มึงไปโดนใครดูดมา” ไอ้พีทถามเล่นเอามสะอึก

“หา!?! จะบ้าเรอะ  กูแพ้ปลาหมึกต่างหาก  เมื่อวานกูไปซื้อมากิน” ผมรีบแถ
 

“รู้ว่าแพ้ยังจะสะเออะอยากกินอีกนะมึง  คราวหน้าอย่ากิน” ไอ้พีทตบหัวผมเบาๆ  ผมแพ้ปลาหมึกก็จริงแต่สิ่งที่ผมชอบกินมากที่สุดก็ปลาหมึกนี่แหละ
 

“คร้าบๆ” ผมพยักหน้าก่อนจะเอามือปิดปากเหมือนไอ้วา



 

 

ตกเย็นผมก็ไปที่ชมรมเหมือนเคยแต่วันนี้ไอ้คีตะไม่ได้มา  มันก็เป็นปกติที่มันจะไม่มาวันไหนมันมาวันนั้นนั่นแหละแปลก  นึกถึงมันแล้วผมก็โกรธ  ปากบวมๆ ของผมทำให้คนอื่นๆ มองและมีหลายคนเข้ามาถามว่าไปจูบกับใครมา  ผมถูกถามแบบนี้จนไม่รู้จะตอบอย่างไร
 

“คิท ปากไปโดนอะไรมา?” พี่จิ้นเดินเข้ามาทักเมื่อผมเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
 

“ฮึ ไปอ่อยพี่คิทล่ะสิ  คงได้สมใจอยากแล้วใช่ไหมล่ะ” ก่อนที่ผมจะตอบเสียงพูดจิกๆ ก็ดังขึ้น  ผมกับพี่จิ้นหันขวับไปมองจึงรู้ว่าเป็นกลุ่มพวกไอ้เชี่ยบิล 
 

“ใช่ รู้ด้วยเหรอ? แต่เสียใจนะที่กูไม่ได้อ่อยแต่หมอนั่นเข้ามาเอง  ไม่เหมือนมึงที่แม้จะอ่อยจนเปลืองตัวแค่ไหนเขาก็ไม่เข้าหา” ผมแสยะยิ้ม  พี่จิ้นแอบขำที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น
 

“ไอ้เชี่ยคิท! มึง...” เพื่อนที่เป็นลูกสมุนของเชี่ยบิลกำมือแน่นทำท่าจะเข้ามาต่อยผมแต่เพื่อนก็ดึงไว้  พี่จิ้นเองก็ดึงผมไปไว้ด้านหลัง  อ่า..ผมรักพี่คร้าบบบบ
 

“น้องครับ  นิสัยแบบนี้เก็บไปใช้ที่บ้านเถอะ  ที่นี่มันโรงเรียนอย่ามาแสดงสันดานบ้านเกิดของตัวเองแบบนี้” โอ้ ผมเจ็บแทนเลย ฮ่าๆๆ พี่จิ้นด่าได้สะใจฉิบหาย!
 

“มึงเป็นใคร  อย่ามาทำวางก้ามปกป้องคนอื่น  ตัวเล็กอย่างมึงจะทำอะไรได้” ไอ้คนที่ทำท่าจะเข้ามาต่อยผมชี้หน้าพี่จิ้น  สงสัยหมอนี่ไม่รู้ซะแล้วว่าพี่จิ้นเป็นใคร
 

“อย่างน้อยกูก็สูงกว่ามึงแหละไอ้เตี้ย  อย่ามาผยองกับกูถ้ามึงยังไม่รู้ว่ากูเป็นใคร!” พี่จิ้นถลึงตาพูดเสียงเย็น
 

“แล้วมึงคิดว่ามึงเป็นใคร? คิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วจะทำอะไรก็ได้รึไง”
 

“เออสิ อย่างน้อยๆ กูก็มีอำนาจพอที่จะไล่มึงออกจากชมรมได้  เวลาทำอะไรก็หัดมีมารยาทซะบ้าง” พี่จิ้นเริ่มโมโหผมจึงจับแขนพี่จิ้นไว้เบาๆ
 

“ประธานชมรมคือพี่บอลไม่ใช่มึงแล้วมึงมีสิทธิอะไรมาไล่กูออก”
 

“รู้ไหมว่าเชี่ยบอลเป็นประธานชมรมได้เพราะใคร  รู้ไหมว่าเชี่ยนักบาสทั้งหลายมันได้รางวัลมาหลายรางวัลเพราะใคร  แล้วมึงรู้ไหมว่าขนาดไอ้คิทยังเป็นเด็กปั้นของกู” พี่จิ้นแสยะยิ้ม  พอพวกนั้นได้ยินพวกมันก็ถึงกับหน้าซีดแต่ยังทำเป็นเก่ง
 

“อย่ามาตลก!
 

พี่จิ้นได้ยินดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดและโชว์ให้ดูว่าสายที่โทรออกคือของไอ้คีตะ  เสียงสัญญาณดังขึ้นให้ได้ยินเมื่อพี่จิ้นกดเปิดลำโพง  ไอ้พวกนั้นเริ่มซีดลงเรื่อยๆ จนน่ากลัวว่าจะไม่มีเลือดไปเลี้ยงใบหน้า
 

“โทรมาทำเหี้ยไรวะเชี่ยจิ้น!!” ฟังดูเสียงมันรับสายสิ  เกรียนจริงๆ
 

“เชี่ยคิท มึงอยู่ไหน?” พี่จิ้นยิ้มพลางมองไอ้พวกนั้นที่แข้งขาเริ่มจะอ่อน
 

“ถามทำซากไรวะ  กูนอนอยู่” ฟังจากเสียงหอบๆ แบบนั้นน่าเชื่อมากเลยว่ามันกำลังนอน
 

“มึงมาที่ชมรมหน่อยดิ๊  กูจะให้ตารางฝึกซ้อมที่กูเพิ่งทำให้มึงไปทดลองซ้อมดู” พี่จิ้นพูดพลางยืดอกข่มขวัญไอ้พวกนั้น  โอ๊ย  สะใจโว้ย!!
 

“หา?? นี่กูยังต้องซ้อมกับตารางมึงอีกเหรอ?? นี่มึงยังทรมานกูไม่พอใช่ไหม” ไอ้คีตะบ่นเสียงเซ็งๆ
 

“กูพูดเล่นเฉยๆ มึงซ้อมตามตารางกูมาตั้งแต่ม.ต้นจนกูไม่รู้จะให้มึงซ้อมอะไรแล้วแหละ  ไปนอนต่อเถอะไป” พี่จิ้นพูดเน้นถึงความสนิทสนมก่อนจะตัดสายและจูงมือผมเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  สะใจโว้ย สะใจๆๆๆๆ  สะใจจนไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไรแล้ว  ฮ่าๆๆๆ  อยากลองดีกับพี่จิ้นดีนัก  ตายซะเถอะพวกมึง



 

 

“สะใจโว้ย!!” พี่จิ้นเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอ้าหัวเราะด้วยสีหน้าที่โคตรจะสะใจเลย
 

“พี่จิ้นสุดยอด” ผมยกนิ้วให้
 

“ว่าจะไม่แสดงตัวแล้วเชียวแต่พวกนั้นมันวอนส้นตีนชะมัดเลย” พี่จิ้นฮึดฮัด
 

“ผมต้องขอบคุณพี่จิ้นจริงๆ นะครับที่อุตส่าห์ช่วยปกป้องผม” ผมยิ้ม
 

“ไม่เป็นไร  พี่หมั่นไส้พวกมันเหมือนกันต่อหน้าพวกไอ้บอลล่ะทำตัวแสนดี  เฮ้อ” พี่จิ้นส่ายหน้าไปมา
 

“ต่อไปนี้มันคงไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายกับผมมากมายแล้วแหละ  พูดๆ ไปแล้วก็สะใจจริงๆ เลย  หน้าพวกเชี่ยนั่นซีดอย่างกับไก่ต้มตอนรู้ว่าพี่จิ้นเป็นใคร ฮ่าๆ” ผมยังสะใจไม่เลิก  ทำไงได้  ก็มันสะใจ!!
 

“ถ้ามันมายุ่งวุ่นวายอะไรอีกบอกพี่ได้เลย  พี่รู้นะว่าเราน่ะปกป้องตัวเองได้แต่ทางที่ดีขอให้พี่ช่วยเถอะเพราะพี่ว่าเราคงทนคำยั่วยุไม่ไหวแน่” พี่จิ้นตบไหล่ผม
 

“ครับ” ผมพยักหน้ารับ
 

“เอาล่ะๆ อยากเป็นนักกีฬาต้องฝึกซ้อม!!” พี่จิ้นที่เป็นพ่อพระเมื่อครู่หายไปโดยมีเดวิลจิ้นมาแทนที่  อ๊ากกกก!! ซ้อมมหาโหด!!



 

 

หลายวันต่อมา
 

อาจารย์ประจำชั้นเข้ามาบอกข่าวที่น่าดีใจกับห้องของผมนั่นก็คืออีกสองวันข้างหน้าสายชั้นม.4 จะได้ไปเที่ยวปีนเขาที่ภาคเหนือ  ผมไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ เลยจึงดีใจมากเป็นพิเศษ
 

“ดีจังเลยว่ะที่โรงเรียนพาเด็กนักเรียนไปเที่ยวแบบนี้  เจ๋งชะมัด” ผมพูดกับไอ้วาและไอ้ลิซขณะที่กำลังเตรียมตัวจะไปซ้อมที่ชมรม
 

“มีทุกๆ ปีนั่นแหละ  ทั้งม.ต้น ม.ปลาย  ปีหน้าเราก็จะได้ไปอีก  ได้ไปไม่ซ้ำที่ด้วยนะเว้ย” ไอ้ลิซตบอก  มันเองก็ยิ้มหน้าบานเหมือนกัน  นานๆ ทีมึงจะยิ้มซักทีนะลิซนะ  กูดีใจจริงๆ ที่เห็นมึงยิ้ม  ฮ่าๆๆ
 

“แต่มันจะดีมากถ้าพวกหัวหน้ากรรมการนักเรียนไม่ไปด้วย” เสียงไอ้มินทร์พูดขึ้น  มันมาห้องพวกผมตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย  ไอ้กรรมการนักเรียนที่ว่าคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพี่ขิมที่มันเกลียดขี้หน้านักหนา
 

“มึงจะอะไรนักหนาวะเชี่ยมินทร์” ไอ้พีทถอนหายใจเซ็งๆ
 

“มันอาจจะใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดกับมึงก็ได้นะเว้ยไอ้พีท” ไอ้มินทร์หันไปมองไอ้พีท
 

“แล้วมึงคิดว่ากูจะให้พี่แกมีโอกาสรึไงวะไอ้บ้า  โอ๊ย!! กูขี้เกียจพูดกับมึงจริงๆ รำคาญโว้ย!” ไอ้พีทพูดแล้วก็เดินหนีไปชมรมเฉยเลยไอ้มินทร์จึงรีบเดินตาม
 

“สองผัวเมียนี่ทะเลาะกันตลอดเลยว่ะ  กูชักจะรำคาญ” ไอ้วาบ่นก่อนจะชวนไอ้ลิซไปชมรมด้วยกัน  ผมจึงเดินแยกไปชมรมบ้าง



 

 

วันเดินทางไปเที่ยว
 

ผมมองกระเป๋าใบใหญ่ของไอ้วาก่อนจะถอนหายใจอย่างเซ็งเป็ด  มันจะแพ็คกระเป๋าไปอยู่กี่ปีกันเนี่ย  ไปเที่ยวแค่สามวันสองคืนมันทำอย่างกับจะไปค้างแรมปีสองปี  ตอนเตรียมของอยู่ผมเห็นมันหยิบเสื้อผ้าใส่แบบไม่ยั้งเลย  อีกทั้งมันยังยัดรองเท้าไปอีกตั้งสามสี่คู่  มันจะเอาอะไรไปนักหนาก็ไม่รู้  ไม่เหมือนผมที่มีเป้ใบใหญ่ไปแค่ใบเดียว
 

รถบัสที่พวกเรานั่งเป็นรถบัสสองชั้นมีที่นั่งหกสิบที่นั่ง  ซึ่งห้องผมได้นั่งรวมกับห้องไอ้พีท(ห้องสองมี28คน ห้องหนึ่งมี30คน)ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมากเพราะเพื่อนกลุ่มผมทั้งหมดได้มานั่งด้วยกัน  พวกมันนัดการไว้ว่าจะออกไปดิ้นให้สุดเหวี่ยง  เป็นนิสัยของเด็กวัยรุ่นน่ะนะครับที่เวลาไปเที่ยวที่ไหนมันจะต้องเต้นกันในรถ
 

“อ่า นั่งด้วยๆ” เมื่อก้นผมสัมผัสเบาะไอ้คีตะก็เดินมานั่งลงที่นั่งข้างๆ ของผมทันที
 

“เฮ้ย ฉันจะนั่งกับไอ้พีท” ผมพูดพลางผลักไอ้คีตะออก  เนื่องจากในรถแต่ละคันจะต้องมีอาจารย์และกรรมการนักเรียนคุมรถเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายไอ้คีตะจึงได้มานั่งรถคันเดียวกันกับพวกผม  และเนื่องจากว่ากรรมการนักเรียนดันมานั่งรถคันนี้กันหมดจึงไม่มีอาจารย์อยู่คุมรถคันนี้เลย
 

“น้องพีทน่ะเหรอ  มีคนกำลังตีกันแย่งที่นั่งข้างน้องพีทอยู่น่ะ” ไอ้คีตะพยักพเยิดไปที่นั่งด้านหลังซึ่งมีพี่ขิมกับไอ้มินทร์จ้องหน้ากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  ตอนนี้พี่ขิมได้นั่งข้างไอ้พีทแล้วไอ้มินทร์จึงเอาแต่ฮึดฮัดและพยายามจะเข้าไปเบียด
 

“เอาอีกแล้วเหรอ?” ผมส่ายหน้าเบาๆ อย่างระอา
 

“ก็นะ  ไอ้ขิมมันชอบน้องพีทนี่นา  ถ้ามันชอบใครมันก็เป็นแบบนี้แหละ” ไอ้คีตะพูดก่อนจะปรับเบาะเอนลงไปนั่งสบายๆ  ไอ้เบาะข้างหลังพวกเรานั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้วากับไอ้ลิซ
 

“เออ แล้วพี่บอลกับพี่ดินล่ะ  รถที่นั่งไม่พอนี่แล้วพวกพี่แกไปไหนซะล่ะ?” ผมถามพลางมองหาพวกพี่ๆ
 

“ไปนั่งกับคนขับน่ะ” ไอ้คีตะตอบก่อนจะหยิบผ้าปิดตาขึ้นมาและเอนหลังลงนอนเฉยเลย
 

“นี่ ถ้านายจะนอนเข้าไปนั่งด้านในไป  ฉันจะออกไปเล่นกับเพื่อน” ผมพูดพลางลุกขึ้นเพื่อจะเปลี่ยนที่นั่งให้ไอ้คีตะไปนั่งติดกระจกแทน  แต่ขาของมันยาวจนไม่มีช่องให้ผมเดินหลบออกไปผมจึงเดินข้าม
 

กรึ่ก!!
 

ขณะที่ผมกำลังเดินข้ามขาของไอ้คีตะรถก็ออกเดินทาง  ตอนรถบัสกำลังจะวิ่งรถมันจะสั่นและโยกซึ่งนั่นทำให้ผมเสียหลักนั่งคาบลงบนตักของไอ้คีตะทันที  เหวออออ!!
 

“นี่  คิดจะทำอะไรของนายน่ะ” ไอ้คีตะดึงผ้าปิดตาออกก่อนจะมองหน้าผม  มั่นใจได้เลยว่าตอนนี้หน้าผมแดงจนจะระเบิดอยู่แล้ว  อายจังเว้ย!
 

“อ่ะ เอ่อ...รถมันโยก  ไม่ได้ตั้งใจ” ผมจะลุกออกจากตักมันแต่มันกลับดึงผมไว้แถมยังดึงให้เลื่อนเข้าไปใกล้อีกต่างหาก  อ๊ากกก                !! นั่งชิดกันแบบนี้เดี๋ยวมึงก็รู้ไซส์กูหรอก  แอร๊กกก!! ทำไงดีๆๆ ผมรู้สึกอายจนต้องก้มหน้ามุดไหล่ไอ้หมอนั่นเลยทีเดียวเชียว
 

“อ่ะแฮ่ม!! แค่กๆๆ โอย ส้นตีนติดคอ” เสียงไอ้วาไอดังๆ ทำให้ผมรีบลุกออกจากตักของไอ้คีตะทันทีและผลักมันเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง  มันมองหน้าผมก่อนจะยิ้มล้อๆ และเอาผ้าปิดตาลงเหมือนเดิม
 

ผมนั่งนิ่งเพราะยังอายไม่หาย  ไม่กล้าหันไปมองไอ้คีตะเลย  ทำไงดีครับ  หัวใจผมมันเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาเต้นตามเพลงที่กำลังเปิดอยู่ตอนนี้เลย
 

ตุบ!
 

วัตถุแข็งๆ ที่หุ้มด้วยผมนุ่มๆ เอียงตกลงมาซบไหล่ผม  ผมสะดุ้งก่อนจะรีบผลักหัวหมอนั่นไปซบกับหน้าต่าง  ให้ตายเถอะ  กลิ่นแชมพูหอมหวานๆ นั่นทำให้ผมร้อนที่หน้ามากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
 

“คิท เพลงกำลังมัน  เต้นป่ะ” ไอ้วาลุกจากที่นั่งด้านหลังแล้วมาดึงผมให้ลุกขึ้นไปเต้นด้วย  ผมชอบเต้นนะแต่ผมเต้นได้ง้องแง้งด๊องแด๊งที่สุดเลย  เต้นเท่ๆ ไม่เป็นหรอก
 

เอ...ถ้าเรื่องเต้น  ไอ้คีตะเต้นเก่งนี่นา  แต่ช่างเถอะ  อย่าให้มันเต้นเลย -///-


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอชี้แจงนิดนึงนะคะรีดเดอร์ขา
คำว่ารีก็คือ รีอัพนะคะ  พอดีไรเตอร์เอาบทความไปแก้คำผิดแล้วจะลงให้อ่านเรื่อยๆ นะ
ถ้าเห็นคำว่ารีนั่นก็คือยังไม่ได้ลงอ่ะจ้า

ปล.ถ้าเห็นคำผิดเตือนเค้าด้วยน้า ><

 

B B
ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

66ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

66ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture