ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : :: 14 หมีกับแมว ( 100 %)
อ่า ..ไรท์เตอร์มีเรื่องที่จะแจ้งให้ทราบ คือตอนนี้ต้องบอกจริง ๆ ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการอัพฟิค ชนิดที่ว่าเรียกว่าร้ายแรง ประเด็นของมันคือ ...ไรท์เตอร์อกหัก
โดนแฟนบอกเลิกมาวันนี้นี่เอง ... ด้วยคำว่าเราไปด้วยกันไม่ได้แล้ว
....
ยังช็อกอยู่เลย ....
..............
หมดแรง ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว
ขอลาอัพฟิคซักสี่ห้าวันนะ TT
แล้วก็ อย่างสุดท้าย...
Happy April fool day =w=
ไรท์เตอร์ล้อเล่น ... ไมได้อกหักอะไรทั้งนั้นแหล่ะ คิ (แฟนก็ไม่เคยมี!!)
รู้นะว่าใครที่เชื่อไปแล้วกำลังจะพิมพ์ข้อความปลอบใจ ไม่จริงหรอก 555555
พรุ่งนี้เดี๋ยวกลับมาอัพตามเดิม แอร๊ยยยยยย
//me วิ่งหนีตีน
ลงไปอ่านที่เหลือกันต่อข้างล่างเลย 55555
{ 14 }
หมีกับแมว
แจจุงวิ่งขึ้นมาเตือนซีวอนตอนที่เหตุการณ์เพิ่งเริ่มได้สามวินาที เลยยังไม่เห็นความน่าสะพรึงกลัวของยุนโฮเต็ม ๆ ไม่เหมือนกับที่เพื่อนม้าเคยเห็นเพื่อนหมีถล่มบ้านเสียราบเป็นหน้ากลองมาแล้ว ตอนนี้แจจุงก็เข้าใจตงิด ๆ ว่าทำไมซีวอนถึงได้หลุดชิบหายมาเต็มปากเต็มคำ พอเขาลงมาข้างด้วยการผลักดันของฮีชอลเต็มตัว ก็ได้แต่ยืนเหวอ
ห้องนั่งเล่นที่เคยเรียบร้อย (ถึงแม้จะรกนิดหน่อยเพราะพวกเขาหนีออกจากบ้านไปสามสี่วัน) เละเทะ เละเทะแบบจริงจัง หมอนอิงถูกปากระจายไปทางนั้นทางนี้ แจกันใส่ดอกไม้(ปลอม)นอนตายอยู่บนพื้น โซฟาที่วางไว้ดี ๆ ก็กระจัดกระจาย และอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นฉุนของยาฆ่าแมลง
“ตายซะ!!”เหมือนเดจาวู แจจุงจำได้ และฮีชอลก็จำได้ว่าคนกลัวหนูสุดชีวิตอย่างแจจุงก็เคยแหกปากคำนี้ แต่กิริยาต่างกัน ..ต่างกันมาก แจจุงมุดหลบอยู่หลังที่กำบังและตะโกนคำนี้ แต่ยุนโฮตะโกนคำนนี้พร้อมกับอาวุธในมือ สิ่งมีชีวิตหนวดกระดิกที่คนส่วนใหญ่ร้อยละแปดสิบหวาดผวาหนีอย่างลนลานอยู่บนพื้น และวินาทีต่อมา หนังสือเล่มใหญ่ที่ยุนโฮมักจะใช้รองนอน(อ้าว?)ก็บินลงไปตรงนั้น แมลงสาบที่น่าสงสารถึงกับวิ่งหนีหูตั้งกันทีเดียว”รอดไปได้อีกนะ ตายยยย!!!”
“ไอ้โง่!!”แจจุงทนไม่ได้ ยุนโฮหันมามอง สีหน้าดูเคียดแค้นกับแมลงสาบ”เอาไม้กวาดฟาดสิเฟ้ย!!!!”
“เชอะ!”เวรกรรม ยุนโฮยังคงงอนแจจุงทั้ง ๆ ที่ตอนที่เข้าไปกันน้องชายออกจากพี่ชายยังดูดี ๆ อยู่ แต่ตอนนี้ยุนโฮดู..เอ่อ...แปลก ๆ อีกแล้ว”ชิชะ!!”
“อะไรของมันวะ”คนด่าถึงกับงง ยุนโฮมันเป็นบ้าอีกแล้ว”พอได้แล้วยุนโฮ!!”
“เห็นมั้ยว่ามีแจจุงคนเดียวที่เอายุนโฮอยู่”คนยุน้องพยักเพยิด แล้วอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นแจจุงวิ่งเข้าไปรัดคอยุนโฮอย่างบ้าคลั่ง ซีวอนกวาดตาไปรอบบ้านแล้วถอนหายใจ
“แล้วใครจะเก็บบ้าน?”
“แล้วใครมันเจ้าของบ้าน?”ฮีชอลย้อนกลับไปอีก เท้าก็เตะซากผ้าอะไรซักอย่างที่ถูกฝีมือยุนโฮโยนมาใส่
“ก็ภรรยาเจ้าของบ้านก็ต้องหัดช่วยบ้างสิ เนอะ”คนมีเมียพูดหน้าตาเฉย มือก็คว้าหมับไปที่เอวของภรรยาคนที่ว่า สองคนนี้กำลังน้ำตาลขึ้น บรรยากาศรอบตัวดูเป็นสีชมพู ...ต่างจากอีกคู่เหลือเกิน
“พอได้แล้วยุนโฮ๊!!”แจจุงยังคงพยายามรั้งไม่ให้ยุนโฮเอาของอีกชิ้นในมือที่น่ากลัวกว่าชิ้นก่อนโยนลงพื้น คราวนี้เป็นรูปปั้นตั้งโชว์ขนาดสูงเป็นฟุต ชิบหายแน่ถ้าไอ้หมีมันขว้าง”หยุดเดี๋ยวนี้!!”
“มายุ่งอะไรด้วยแจจุง ชิ!!”ดูเหมือนยุนโฮจะรับวิญญาณทรงเจ้าของสาวน้อยที่ไหนมาก็ไม่รู้แฮะ”ไม่ต้องยุ่ง ไม่ต้องมายุ่งง”
“นี่ยุนโฮ!!”เหมือนแจจุงใกล้จะประสาทกิน หรือไม่ก็ตบะแตก”เป็นอะไรของนาย!!?”
“ไม่รู้เว้ย!!”เออจริง ยุนโฮไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร อาการนี้เรื้อรังตั้งแต่ออกจากบ้านของแมวหมาพวกนั้นมา อารมณ์เสีย หงุดหงิดไม่มีเหตุผล ร่างสูงทำท่าจะเขวี้ยงรูปปั้นประดับใส่แมลงสาบที่ตัวสั่นระริกอยู่บนพื้น แจจุงรีบหยุดแขนข้างนั้นเอาไว้ หงุดหงิดเหมือนกัน แล้วมันเป็นอะไรล่ะเว้ยย
“ก็รู้สิเว้ย!!”
“ก็มันไม่รู้!!”
บทสนทนาของสองคนที่ตีกันไม่เลิกกำลังให้จุดเดือดที่ไม่ได้สูงมากของแจจุงกำลังจะถึงระดับอันตรายอีกครั้งในไม่ช้า ถ้ามองไม่ผิด เหมือนจะเห็นควันจาง ๆ จากตัวแจจุงลอยขึ้นพร้อมจะย่างยุนโฮให้เกรียม เท้าที่ใส่สลิปเปอร์ไว้ยกขึ้น เหยียบแมลงสาบต้นเหตุให้ยุนโฮเป็นบ้าจนมันไส้แตก เละเป็นศพอยู่แบบนั้น
“จะเลิกเล่นได้รึยัง ยุนโฮ”เสียงเยียบเย็นนั่นไม่ได้ทำให้หมีซึนเดเระหวาดผวาได้เหมือนทุกที”งอนเป็นเด็ก ๆ!”
“ไม่ได้งอน!!”เออ ยุนโฮไม่ได้งอนเว้ย มีศักดิ์ศรีพอ ..แต่ทำไมต้องทำปากยื่น สะบัดหน้าหนีแบบนั้นด้วยวะ”อย่ามามั่ว!”
“ไม่ได้งอนแล้วจะทำแบบนั้นทำไมล่ะเว้ย!!”แจจุงถามขึ้นเสียงสูง เริ่มจะโมโห ถ้าเป็นแมวก็จะข่วน แต่นี่กูเป็นคนจะให้เอาตีนสะกิดดีมั้ยวะ”ไอ้ยุนโฮ๊!!!”
“ชิชะ!!!”
คราวนี้แจจุงเริ่มทนไม่ไหว เท้าที่เหยียบแมลงสาบไปแล้วยกขึ้นมาถีบขายุนโฮด้วยความหมั่นไส้ แต่ท่าทางหมีตัวใหญ่สูงร้อยแปดสิบกว่าจะต้านทานได้ กลายเป็นแจจุงเสียเองที่ต้องกุมเท้า กล้ามเนื้อต้นขามันหล่อมาจากเหล็กรึไงวะแม่ง
“งอนอะไรของนาย!”
“ทำอะไรกับชางมิน!!”ยุนโฮเค้นเสียงถามถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไปหยก ๆ แจจุงเลิกคิ้ว แล้วก็นึกขึ้นได้ ใช่ไอ้มหากาพย์สวนหลังบ้านนั่นรึเปล่านะ ไอ้ที่ยืนเถียงกันว่าปล่อย ไม่ปล่อย กลับ ไม่กลับ ปวดหัวจะตาย รื้อฟื้นขึ้นมาอีกทำเกลืออะไรวะ
“ทำไมล่ะ?”
“หึย...ไม่รู้เป็นอะไร แต่มันหงุดหงิดเว้ย หงุดหงิด”ยุนโฮยกมือขึ้นทึ้งหัวเหมือนคนประสาทหลอน เขาคิดไม่ตกจริง ๆ นะ กับอีแค่แจจุงไปกอดคนอื่น จับมือกับคนอื่น ไม่ยอมกลับมากับเขา แล้วไอ้หมอนั่นก็หล่อ หน้าตาดี สูงกว่าแจจุง แจจุงเล่นกับมัน โอ๊ยยย แล้วทำไมต้องไม่สบายใจชิบหายแบบนี้ด้วยวะแม่งเอ๊ย”นายทำอะไรกับฉันเนี่ยแจจุง!?”
“ฉันไปทำอะไรกับนาย!?”แจจุงยืนเท้าเอวมองคนที่ทิ้งตัวลงกับโซฟาแถวนั้นพอดี คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจในอาการของยุนโฮ”ฉันทำอะไรให้นายบ้าง ยุนโฮ หมีงี่เง่า!!”
“ก็...ขนาดเรื่องคุณกาอินฉันยังไม่เสียใจพอเธอมีแฟน แต่พอเป็นนาย...พอเป็นนาย”เสียงนั้นเบา แต่แจจุงก็ได้ยินมันชัดเจน ในหัวเริ่มมีเสียงตุบ ๆ ระรัวอย่างบ้าคลั่ง ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้นด้วยนะ ...”มันหงุดหงิด เข้าใจมั้ยแจจุง!”
“ถ้าฉันเข้าใจฉันคงไม่ถามนายหรอกยุนโฮ”แจจุงข่มสติตอบกลับไป ถึงแม้อะไรบางอย่างที่เขารู้ไม่แน่ชัดกำลังคืบคลานเข้ามาก็ตามที”แล้วเมื่อไหร่นายจะหายบ้า”
ยุนโฮเงยหน้าขึ้นมองแจจุง ใบหน้าหวาน ๆ ที่ถมึงทึงราวกับนางยักษ์ทำให้เขาหยุดมอง ในหัวเป็นสีขาว การกระทำทุกอย่าดูเหมือนจะออกมาเองโดยอัตโนมัติและไม่ผ่านการกรองโดยสมองเสียก่อน
“ไม่รู้สิ...”เสียงของหมีซึนเดเระดูเลื่อนลอย”บางทีฉันอาจจะหึง...”
“อะไรนะ?”แจจุงคงคิดว่าตัวเองกำลังฟังผิดอยู่”ยุนโฮ นายเมา”
“ไม่ได้เมา”หมีรีบยืนยัน สายตายังคงจ้องหน้าแจจุงอยู่แบบนั้น คลื่นความร้อนอันไม่น่าอภิรมย์แผ่ซ่านขึ้นมาบนผิวแก้มใสของแจจุงอย่างไม่ทันได้รู้ตัว”วันหลังอย่าไปกอดใครอีกนะแจจุง”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามฉัน”คนโดนบังคับรู้สึกเหมือนกำลังฝัน แน่นอน เขากำลังฝัน ไอ้หมีนี่ไม่มีทางมาออกกฏบังคับเขาแบบนี้ได้ แล้วเขาก็บ้าไปแล้วที่ไปโต้ตอบกับมันด้วยท่าทางเชิด ๆ แบบนี้ ดูยังไงก็เหมือนคนเป็นแฟนกัน เขากำลังฝัน หรือไม่นี่ก็เป็นเรื่องตอแหล เดี๋ยวคงต้องไปเปิดปฏิทินดูว่าวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเมษาหรือเปล่า
“ห้ามกอดใคร ห้ามจับมือใครด้วย”
“เอ๊ะ ยุนโฮ”บางทีมันอาจจะประสาทกลับ
“ก็...เอ่อ...”นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่ง ยุนโฮมีสีหน้าและแววตาจริงจัง ส่วนแจจุงก็...สีหน้าเปลี่ยนระหว่างเขิน ไม่เข้าใจ สลับกันไปเหมือนสัญญาณไฟจราจร”ฉันหึง...โว้ย แจจุง เข้าใจอะไรง่าย ๆ หน่อยสิ!!”
“แล้วนายก็หัดพูดอะไรให้เข้าใจง่าย ๆ หน่อยสิ”แจจุงตะเบ็งเสียงกลับ ท่ามกลางความรกเละเทะของบ้าน สองคนนี้กำลังยืนเถียงอย่างสนุกสนานด้วยสีหน้าเครียดจัดราวถกประเด็นการเมือง ยุนโฮพูดเข้าใจง่ายแล้วนะ มีประธาน กิริยา กรรมครบถ้วน แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเข้าใจยากมาก ๆ”เป็นอะไรของนายวะยุนโฮ!?!”
“ไม่รู้!!”ยุนโฮลุกพรวดขึ้นยืนประจันหน้ามันซะเลย แจจุงผงะจนท้าวก้าวไปเหยียบซากแมลงสาบดังแกรก คนเหยียบซากสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกับเสียงกรอบแกรบน่าสยองนั่น ร่างบางส่งเสียงหวีดออกมาด้วยความตกใจ..แล้วก็ตามสูตรปกติ แจจุงก็กระโดดกอดยุนโฮเต็ม ๆ
“เฮ้ย...”ยุนโฮนิ่งไป อึ้งไป ขาอ่อนจนล้มลงไปนั่งบนโซฟา แจจุงก็เกาะอยู่แบบนั้น ผิวกายกับความอบอุ่นจากตัวแจจุงทำให้ยุนโฮเริ่มคิดอะไรไปไกล..
ทำไมผิวแจจุงโคตรนุ่ม
ทำไมกูชอบวะ
ยุนโฮ มึงกำลังวิปริตแล้วนะไอ้บ้าเอ๊ย
“เอ่อ.../เอ่อ...”เอ่อกันทั้งคู่ ไม่รู้จะพูดอะไร แต่แจจุงก็ไม่กล้าลุกขึ้น ยุนโฮก็ไม่กล้าผลักซะงั้น ทั้งคู่แนบกันอยู่แบบนั้น นอนทับกัน หนักก็หนัก แจจุงก็เกร็งจนเมื่อย ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าพูดอะไรออกมา ...
มันเขิน ?
“หายบ้ารึยัง?”แจจุงถามขึ้นมาเสียงเบา
“ก็..หายแล้ว..มั้ง”ยุนโฮเองก็ตอบด้วยระดับเสียงเดียวกัน”แจจุง....”
“หืม...?”ร่างบางครางรับในลำคอ เสียงหัวใจเต้นตุบ ๆ รุนแรงอยู่ในหู ยุนโฮขยับตัวหยุกหยิกแล้วดึงแขนให้โอบรอบเอวแจจุงมากขึ้น ลมหายใจอุ่นรดรินลงไปที่ที่บริเวณใบหูของคนถูกกอด”อะไรยุนโฮ...?”
“หนัก”
พลั่ก!!
คำเดียวทำเอาแจจุงลุกพรืดออกจากตัวยุนโฮทันที ใบหน้าหวานแดงก่ำ ยุนโฮกระตุกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันรีหันขวางแล้วจะเดินสะบัดจากไปด้วยความเขินอาย มือใหญ่รีบรั้งอีกฝ่ายไว้แล้ว...ตั้งใจจะดึงลงมานั่งตัก ให้น่ารักเหมือนในนิยายรักหวานแหวว หรือไม่ก็เคยเห็นซีวอนมันทำ
“ยุนโฮ!”เสียงแจจุงดังขึ้นอย่างตกใจ แล้วเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่รั้งร่างเล็กเข้ามาใกล้ แจจุงทำท่าจะด่าซักสามสิบแปดยกก็หุบปากสนิทด้วยความเขินอาย
“ล้อเล่นน่า ... ตัวเล็กจะตายแจจุง”คำพูดนั้นทำให้ร่างบางออกอาการฮึดฮัด แต่ทั้งหู ทั้งคอกลับแดงไปจนหมด ดูก็รู้ว่าเขิน...มาก”ใช่แล้ว...ฉันหึง”
“เหรอ ...”แจจุงตอบรับเสียงเบา แล้วก้มหน้างุด ๆ ลงไป ร่างสูงยกมือขึ้น นิ้วเรียวเชยคางร่างบางขึ้นมาแล้วจ้องลึกลงไปในดวงตาของร่างบาง ระยะห่างของทั้งสองค่อย ๆ ลดลง ในสายตาของเขามีแต่ใบหน้าหวาน ๆ ที่จ้องตอบกลับมาด้วยสายตาเขินอาย....
“ไอ้ห้อย!!!”
ยุนโฮสะดุ้งโหยง ตื่นจากจินตนาการแสนจะเลิศล้ำของตัวเองอย่างมึนงง แจจุงไม่ได้เป็นฝ่ายที่ทำหน้าสะเทิ้นอายในอ้อมกอดของเขา ตอนนี้เขากำลังจับชายเสื้อแจจุงไว้ แล้วก็...
“น้ำลายยืด อุบาทว์จริง”แจจุงปรามาสต่อ อะไรของมันวะ อยู่ดี ๆ ก็คว้าชายเสื้อเขาไว้ด้วยสองนิ้ว น้ำลายก็ยืด หน้าก็เคลิ้มเชียว
เออ ..แล้วทำไมกูไม่เดินไปวะ สองนิ้วสลัดออกง่ายยิ่งกว่าด่ายุนโฮให้เสียชาติหมี รออยู่ตรงนี้ให้เมื่อยตุ้มทำไม ...แจจุงโคตรไม่เข้าใจ แจจุงงง - -
“อ้าว”คนน้ำลายยืดรีบเช็ดน้ำลายมุมปาก สงสัยระดับรอยหยักในสมองซีกขวาที่ใช้สร้างสรรค์ของเขาอาจจะขดตัวเป็นก้นหอยมากไปหน่อยก็ได้ เขาเลยคิดเรื่องเขากับแจจุงออกมาเป็นพล็อตนิยายเป็นตุเป็นตะ โอ้เย”แจจุง ตัดสินให้หน่อยสิ”
“ตัดสินอะไร ถ้าเป็นระดับสมองของนายก็ไม่ต้องทำหรอก ฉันตราหน้ามันไว้แล้วว่าไม่มี”เจ็บจี๊ดบาดลึก แสบยิ่งกว่าเอาน้ำมันก๊าดราดแผลแทงข้างหลังทะลุถึงไส้ใน ยุนโฮกำเสื้อแจจุงแน่นขึ้นแล้วตีสีหน้าจริงจัง เอาคำถามที่คาดว่าน็อกแจจุงได้แน่ ๆ ออกมาใช้..ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ถ้า...ตอนที่ฉันเห็นนายกอดกับชางมิน ฉันไม่พอใจ ฉันเป็นอะไร?”
“เป็นหมี”ขอบคุณสำหรับคำตอบ แต่ยุนโฮก็เห็น..ว่าหูอีกฝ่ายเริ่มมีสีแดงจาง ๆ แผ่ขึ้นมาแล้ว
“...แล้วตอนที่นายหายไป ฉันกระวนกระวาย ซึมเศร้า ไม่เป็นสุข เหงาหงอย ฉันเป็นอะไร?”
“หมีไม่ได้กินเนื้อ”ขอบคุณสำหรับคำตอบอีกครั้ง แต่คราวนี้สีแดงเริ่มลามแผ่มาถึงสองแก้ม ร่างบางเม้มปากแน่น อยากถอนสายตาออกจากหน้าของยุนโฮที่ดูซีเรียสเหลือเกิน ...แต่เขาก็ทำไม่ได้ เครื่องหน้าหล่อเหลาตรึงเขาให้หยุดมองอยู่แบบนั้น สีหน้าจริงจังไม่เหมือนทุกทีทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
“ถ้านายไม่รู้ ...แจจุง ฉันตอบให้ก็ได้”ยุนโฮกระซิบ”ฉันหึง”
“นายเป็นบ้าต่างหาก”แจจุงเริ่มพาออกทะเลด้วยการพาไปเรื่องอื่น แต่ยุนโฮกลับส่ายหัวบอกให้หยุด ร่างบางเชิดหน้าขึ้น กอดอกอย่างมั่นใจในตัวเอง”ไม่แน่เมื่อคืนนายอาจจะตกเตียงแล้วหัวกระแทก”
“ฉันหึงนาย”ยุนโฮย้ำชัด ทฤษฎีของซีวอนได้ผล ถ้าหากเขาพูดตรง ๆ ไม่หาเรื่องเถียงกับแจจุง คนสวยจอมแถก็แถข้างไปไม่หยุด แต่ก็สู้อะไรไม่ได้ ...นี่แหล่ะกลยุทธ์การปราบคิมแจจุงให้อยู่หมัด คนชอบแถอ้ปากเหมือนต้องการจะพูดอะไร แต่ก็หุบปากลงอีกครั้งเพราะคงพูดอะไรไม่ออก
“เออ นายหึงฉัน”แค่สลับประธานกับกรรม แต่แจจุงไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ
“แล้วหนีออกจากบ้านทำไม”ซักไซ้ต่อมาเรื่อย ยุนโฮคงได้ใจที่ถามแจจุงแล้วแจจุงแทบจะอาละวาดทำร้ายร่างกายเขาไม่ได้ เจ้าตัวเพียงแต่ยืนนิ่ง หน้าแดงจัดอยู่แบบนั้น ...เขินชัด ๆ”รู้มั้ยว่าตามหากันนานแค่ไหน”
ยุนโฮกลืนคำว่าเป็นห่วงลงคอไป เขาไม่กล้าพูด ..มันให้ความรู้สึกว่าเขากำลังคิดอะไรแปลก ๆ กับแจจุง
“ถ้าลำบากนักก็ไม่ต้องตามหา”ท่าทางแจจุงคงติดนิสัยอ้อมโลกของคยูฮยอนมา เจ้าตัวคนพูดก็ตีความแบบนั้น แล้วเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่าทำไมถึงได้ใจเต้นแรงแบบนี้ด้วย”ทำอะไรก็เรื่องของนาย”
“หึงฉันหรือเปล่า”วันนี้เขาเพิ่งกินซุปโสมเมื่อกลางวันมาล่ะมั้ง ถึงได้ตีโจทย์แตก”ฉัน..กับคุณฮวังมิยอง”
“เออ!!....เว้ยยยย ไม่ใช่!!”แจจุงตอบรับ แล้วก็นิ่ง แล้วก็ปฏิเสธเสียงหลง”ไม่ได้หึง ไม่ได้ไม่พอใจ!!”
“จริงน่ะ?”ยุนโฮลุกขึ้น ภาพด้านหลังแจจุงคงจะสวยงามกว่านี้ถ้ามันเป็นห้องนั่งเล่นที่เรียบร้อยตามปกติ แต่ดันมีซากแมลงสาบหนึ่งตัว กองแจกันแตกระเนระนาดสองอัน หมอนอิงที่นุ่นกระจายไปหนึ่ง แล้วก็กองหนังสือที่เขาโยนส่ง ๆ ไล่สัตว์ที่เขาเกลียดชัง”นี่แจจุง นายเคยอ่านนิยายมั้ย?”
“เคย!!”ตอบเสียงสะบัดแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยุนโฮก็ก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว แววตาที่ปกติแล้วจะดูเอ๋อเล็กน้อยและซื่อตรงต่อสิ่งรอบข้างของยุนโฮเปลี่ยนไป มันดูเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ ..ทำไมเขารู้สึกบ้า ๆ แบบนี้นะ หัวใจก็เต้นแรงไปแล้ว ยุนโฮมาดแบบนี้ ... เขาแพ้หลุดลุ่ย
“ถ้าแบบตลาด เบสิก ธรรมด๊า...ธรรมดา”ให้ตายเถอะ สีหน้าวิบวับของยุนโฮกับไอ้คำไล่ระดับของมันนี่ แจจุงหมั่นไส้จริง ๆ”มันจะมีฉากที่พระเอกกับนางเอกเจอกันแล้วสะดุดขา หรือชนกัน หรืออุบัติเหตุซักอย่างใช่มั้ย?”
“เออ!!”แจจุงตอบรับ นึกสงสัยอยู่ในใจว่ามันจะถามไปทำเพื่ออะไร
“แล้วก็...มันจะมีฉากพิเศษ”ยุนโฮเกริ่น ในหัวก็นับนิยายที่เขาเคยอ่านถึงฉากประเภทนั้นที่สาวตาหวานส่วนใหญ่ชอบกัน แปดสิบเปอร์เซ็นของเลิฟซี่รี่ส์จะมีฉากนี้”ที่ว่าสะดุดเท้าตัวเองแล้วล้มทับกันใช่มั้ย?”
“ก็ใช่ ...เฮ้ย นายจะทำไมวะ?”แจจุงสะดุ้งเมื่อนึกถึงฉากนั้นขึ้นได้ เท้ารีบถอยหลังไปอย่างว่องไวในทิศที่มั่นใจว่าจะไม่เหยียบแมลงสาบ และก็ตามสูตรเป๊ะที่แจจุงจะสะดุดเท้าตัวเอง”เหวยย!!!”
“แจจุง!”ยุนโฮเรียกชื่อให้สวยงามเสียหน่อย ตั้งใจจะยื่นมือออกไปรับ แต่คนที่ล้มไปแล้วแปดสิบเปอร์เซ็นอย่างแจจุงก็กระชากยุนโฮลงไปอย่างไม่ตั้งใจ และมันก็คงไม่บังเอิญเกินไปขาดปากจะแปะปากอีกฝ่ายพอดี ยุนโฮมองพื้นที่แนบติดอยู่กับปลายจมูกของเขาอย่างเสียดาย องศามันผิดกันไปนิดหน่อย แจจุงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ไอ้ฉากเวรนั่น ..ก็ประเภทสะดุดตีนล้มจูบกันไงเล่า!
ดีนะที่ยุนโฮสะดุดผิดองศา มันเลยเฉียงเอาหน้าแปะพื้นแทน วันนี้คิมแจจุงโชคดีเว้ย
“หนัก”คนโดนทับบอกขึ้นมาบ้าง ยุนโฮเกร็งแขนยันตัวเองขึ้นมา ใบหน้าหวานกับเรือนผมสีบลอนด์ที่เริ่มมีโคนติดเป็นสีดำส่งให้แจจุงดูเหมือนนางเอกนิยายสาวน้อยจริง ๆ ร่างสูงเริ่มสูญเสียสติการควบคุมตัว ในหัวมีแต่ความคิดพิลึกวุ่นวายเต็มไปหมด แจจุงจ้องตาอีกฝ่าย สายตาที่มองเขม็งลงมาก็มีพลังอำนาจบางอย่างบังคับเขาไว้ และสิ่งต่อไปที่เกิดก็ทำให้แจจุงช็อคหนักเป็นครั้งแรก
ไอ้ยุนโฮ ..มันจูบเขา !
สัมผัสนุ่มนิ่มและความความร้อนระอุที่พุ่งแผ่ขึ้นมาบนใบหน้าทำให้แจจุงช็อกค้าง อันที่จริงยุนโฮมันก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายไปมากกว่าการเอาปากแตะปาก แต่ลืมตาแล้วเห็นหน้าของยุนโฮอยู่แบบนี้มัน..เอ่อง..มันบอกไม่ถูก!! แต่ประเด็นสำคัญของวันนี้คือเขากำลังโดนมันจูบ !!
หนึ่งวินาทีราวนานราวกับเป็นปี ยุนโฮเองก็ไม่ใช่พวกร้ายตลอด เขาแค่ขุด ๆ ประสบการณ์ที่เคยแต่ง ๆ ไว้ออกมาใช้บ้าง แล้วก็ทนเขินไม่ไหว ใบหน้าหล่อเองก็แดงไม่แพ้กัน ร่างสูงยันตัวเองลุกขึ้นแล้วดึงตัวคนช็อกให้ลุกตามด้วย
“นาย...ทำติ๊ดอะไร”ภาษาแปลก ๆ ของคนแปลก ๆ อย่างแจจุงทำเอายุนโฮแทบจะล้มลงไปอีกรอบ”ทำเล่นติ๊ดอะไรกับฉัน!”
“อะไรติ๊ด ๆ?”ยุนโฮไม่ได้อยากกวนตีนนะ แต่เขาสงสัยจริง ๆ
“ก็ ..นั่นน่ะ”แจจุงคงหมายถึงจูบ ดูจากหน้าที่แดงระเรื่อได้อย่างน่ารักนั่น ยุนโฮพยักหน้าหงึก ๆ แล้วรีบเอ่ยต่อทันที
“นายจะบอกว่า นี่ !! มาพรากจูบแรกของฉันไปได้ยังไง!! ใช่ป่ะ?”คำพูดเบสิกประจำนวนิยายทั่วไปถูกยุนโฮมาเอาใส่เสียงแหลม ๆ ลงไปจนน่าเกลียด แจจุงหน้าแดงเถือก แล้วส่ายหัวไปมาอย่างรุนแรง
“นี่มันจูบที่เก้าของฉันนะ เลขสวยแบบนี้นายเอาไปได้ยังไง...เฮ้ย”เอาอีกรอบ แจจุงขออนุญาตหลุดอีกรอบ มือบางยกขึ้นปิดปากตัวเองหน้าเหวอ ยุนโฮชะงักค้างแล้วก็ขำก๊ากออกมาทันที
“จูบที่เก้า?”
“เออ ๆ ๆ จบ ๆ พอ จะนอนแล้วโว้ย พอได้แล้ว”คำพูดตัดบทของแจจุงดังขึ้น ตัดบทส่ง ๆ ถ้าอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ใบหน้าของเขาอาจจะไม่ใช่เศษเสี้ยวน่าอาย มันอาจจะต้องเอาไหกิมจิครอบหัวไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ ครั้งแรกที่พ่ายแพ้ชองยุนโฮอย่างหมดรูป แย่จริง ร่างบางหันหลังกลับแล้วโยนข้าวของส่ง ๆ ไปไว้ที่เดิม”มาเก็บนี่เดี๋ยวนี้เลยนยุนโฮ นายมันตัวต้นเหตุ”
“คร้าบ~”ยุนโฮพึมพำรับแล้วเดินไปเก็บซากแจกันอันใหญ่มาถือไว้ อีกมือหนึ่งก็หยิบหนังสือพิมพ์มากางรับเศษนั่นซะ จนกระทั่งเศษชิ้นใหญ่ ๆ ที่บาดเท้าได้หายไปหมดแล้วยุนโฮก็เดินไปหยิบไม้กวาดมากวาดเศษผงให้สะอาด ห้องนั่งเล่นที่โดนพลังหมีทำลายล้างเริ่มสะอาดขึ้นช้า ๆ นาฬิกาตีบอกเวลาห้าทุ่ม แต่แจจุงก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมาย เพราะนู่น แปดโมงเช้าเขาถึงจะคืนร่าง
มือเล็กจัดหมอนอิงให้ตรงที่ แล้วก็นิ่งอยู่แบบนั้น เสียงยุนโฮกำลังดันโซฟาดังอยู่ข้างหลังเบา ๆ แจจุงเม้มปาก ขยุ้มหมอนอิงในมือให้แน่นขึ้น และก่อนที่ยุนโฮจะทันรู้ตัว หมอนอิงสีเขียวเข้าชุดกับโซฟาก็ถูกโยนไปกระแทกศีรษะยุนโฮจนร่างสูงออกอาการเหวอ พอหันมาอีกทีก็เจอแจจุงแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทำเอารู้สึกอยากจะจับคนสวยมาลงโทษเล่นอย่างช่วยไม่ได้
“แจจุง”
“นั่นชื่อฉัน”ตอบดีซะด้วยสิ
หมอนอีกใบถูกปากลับไปอย่างว่องไว ไม่มีคำพูดลิเกทำนองว่า’อย่าหนีนะ’ มีแต่การแก้แค้นด้วยวัตถุยัดนุ่นไม่กี่ใบ ทั้งสองคนแลกเปลี่ยนหมอนกันไปมา แจจุงทำด้วยความแค้นที่อีกฝ่ายช่วงชิงจูบที่เก้าของเขาไป ตั้งใจว่าจูบที่เก้าจะเก็บให้สาวสวยซักคน เอาแบบตัวเล็ก ๆ แล้วก็จูบที่เก้าก็จะให้เกิดบนรถไฟเหาะ (ชิงช้าสวรรค์มันอาจจะน่าเบื่อไปหน่อย) หรือไม่ก็เฮอริเคน เอาแบบเลือดตกหัวเยอะ ๆ
แจจุงเป็นคนแปลก ...
และยุนโฮก็แปลกที่ดันไปจูบคนแปลกอย่างแจจุง ...
“ชองยุนโฮ ไอ้หน้าหมี!”คำด่าอีกคำตามมาพร้อมหมอนใบโตลอยละลิ่ว ยุนโฮหงายหลัง จมูกแทบจะพังไปเพราะแรงอัดมหาศาลจากคนสวยจอมอาฆาต คิมแจจุง
“คิมแจจุง ฟู!!”อีกคำกับหมอนที่ปากลับไป แจจุงทำตาโต คำนั้นคำเดียวบาดลึกไปถึงหัวใจ”คนพิลึก!”
“ฉันพิลึกตรงไหน”แจจุงถือหมอนเต้นเร่า ๆ ลืมปาไปเลยพอโดนประนามว่าแปลกประหลาด แจจุงมีสองแขน สองขา มีตา หู จมูก ปากเหมือนคนอื่น แล้วเขามันประหลาดตรงไหนวะ!!”นายสิแปลก!!”
“นายมันขี้งอน เอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี”ยุนโฮไม่สนใจคำตอบของแจจุง แต่ว่าตะโกนกลับไปด้วยเสียงที่แสนจะดัง แจจุงถลึงตาใส่คำต่อว่าต่อขานนั่น”ปากร้าย ขี้โวยวาย เจ้าคิดเจ้าแค้น”
“ปากห้อย สมองหมี อ้วน ลงพุง!!”พอโจมตีทางนิสัยไม่ได้แจจุงก็เล่นที่กายภาพของยุนโฮแทน แล้วไอ้คำด่านั่นก็ไม่จริงซะครึ่งนึง ยุนโฮมีซิกแพคสวยงาม ในขณะที่แจจุงไม่มีเลยซักนิด หุ่นรึก็บอบบางเกินชาย โอ้เย
“สวยก็ไม่สวย อำมหิตผิดมนุษย์มนา!!”
“อะไรนะ!!!”แจจุงแทบจะหยิบอะไรแถว ๆ นั้นมาขว้างใส่ยุนโฮแทนหมอนนุ่มในมือซะแล้ว
“แต่น่ารัก!”คำเดียวทำเอาคนน่ารักเบรกตัวโก่ง ยุนโฮขมวดคิ้ว หน้าตาเคร่งเครียด นี่กูพูดอะไรอยู่หว่า”แจจุง นายเป็นตัวอะไรกันแน่!?”
“อะไรนะ!?!?!?”คราวนี้กวนโมโหกว่าเดิม มันดีที่ไหนล่ะกับการมีคนมาถามว่านายเป็นตัวอะไรกันแน่ แจจุงทำตาโต ไอ้หมีเวรเอ๊ย”ปากเสีย!!”
“นายเป็นแมว แล้วก็เป็นคน!”ยุนโฮจำแนกชี้ชัด”แล้วนายก็มากวนใจฉัน โอ้เย”
“ต้องถามนายมากกว่าว่านายเป็นอะไร”แจจุงปาหมอนอีกใบใส่ ดูเผิน ๆ อาจจะหวานแหววนะ แต่สีหน้ายุนโฮเวลาพูดเรื่องแบบนี้ ทำยังกะพูดเรื่องการเมือง”บ่นพอรึยังชองยุนโฮ”
“นั่นสิ”ยุนโฮนิ่งลง หมอนในมือร่วงลงไปกับพื้นดังตุบ นัยน์ตาคมจ้องมองเขม็งไปที่ใบหน้าอีกฝ่าย พินิจดูรูปลักษณ์ต่าง ๆ ของแจจุงอย่างละเอียด เรือนผมสีสว่าง โครงหน้าเรียวได้รูป นัยน์ตาสีดำเป็นประกายสดใส พวงแก้มแดงระเรื่อด้วยความอาย รูปร่างผอมบางที่น่ากอด แล้วสุดท้าย..เขาก็ไปหยุดที่ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ
“มองอะไร?”แจจุงตวาดกลับเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องเสียหน้าแทบพรุน แต่ยุนโฮก็ไม่สนคำนั้น ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าวจนคนตัวเล็กเผลอกระชับหมอนในมือแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“แจจุง”คราวนี้มาแปลก ยุนโฮกดเสียงให้จริงจัง จากเดิมที่โคตรจริงจังมาแล้วก็จริงจังหนักเข้าไปอีก”ถ้าฉันพูดอะไรนายห้ามขำ ห้ามหนีด้วยนะ”
“มันก็แล้วแต่เรื่อง”คนถูกสั่งตอบอุบอิบกลับไป มือที่กำหมอนเกร็งแน่นเสียงจนหมอนแทบขาด”แล้วนายจะสื่ออะไร”
ยุนโฮนิ่งไปอีกพัก แล้วเอ่ยเสียงแผ่วคล้ายไม่แน่ใจ
“ฉันอยากจูบนายว่ะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทิ้งระเบิดไว้โครมใหญ่ตามเคย 55 โอ้เย
ยุนแจหวานมั้ย คิก ~
เรื่องนี้วอนฮีหวานต้น ....ปลาย ไม่บอกหรอกมันจะเป็นไง แต่คิมฮี ..เปลืองตัว = =
ส่วนยุนแจ ...ยุนเปลืองตัว คิคิคิ
ชื่อตอนสิ้นคิดมาก ....
ใครหว่าบอกมีนย้ำจังกับฐานะตัวเอง 55555
ปลื้มไม่เลิกจริง ๆ นะ วะฮะฮะฮ่า
ใครขอคยูมินได้แน่ แต่คู่นี้อึมครึมนะเออ - - ไหงคยูมินฉันทุกเรื่องรันทดวะ
แปะ twitter หน่อย เพิ่งเริ่มเล่น (เพราะวอนกะพี่หมูชิน กร๊ากก)
หนุ่มสาวเอย พวกเธอจง following ซะดี ๆ 555
มาต่อและ ฮี่
มีนชอบหย่อนระเบิดจริง ๆ นะ 5555
ยุนแจเริ่มกิ้บกิ้วกิ้วก๊าวก๊องก๋อยกุ่มกิ่มกุ๊บกั๊บกันแล้ว (ขอบคุณพี่ทิพ 555)
คอหอยที่ 1971(SichuL) แหม ตัวเอง เค้าไปโพสแล้วแหล่ะที่ทวิตเตอร์ของที่รัก หลบทรีน
Where’s my lady? รีบตอบ your lady is here 5555 ไม่ใช้ here ใส่ไม้โทนะ - -
อยากอ่านตอนหน้าอ่ะเด้ คิคิคิ
พรุ่งนี้ไปงานหนังสือ คิคิ
ความคิดเห็น