ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวน้อยผู้มั่งคั่ง (จบแล้ว) มี E-BOOK

    ลำดับตอนที่ #19 : เครื่องในย่าง

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 66


    ตอนที่ 19 เครื่องในย่าง

    หลังจากแจกจ่ายให้ทุกคนหมดแล้วก็เหลือไก่ขอทานอยู่ไม่ถึงครึ่ง มนตราไม่ลืมจัดการแบ่งไก่ขอทานบางส่วนให้ครอบครัวลุงหวังได้ลองกิน

    ฉินฉินไม่มั่นใจว่าทหารในเมืองมีกี่คน จึงแบ่งให้จวนท่านเจ้าเมืองไปเพียงห้าตัว และให้สหายอย่างใต้เท้าฉู่อีกห้าตัว

    ส่วนที่เหลือก็จัดการสับแบ่งเป็นสี่ส่วนคละ ๆ กันไปมีไส้บ้างไม่มีไส้บ้าง

    อี้เทียนอาสาจะสับไก่ให้บุตรสาว โดยมีบุตรชายช่วยเป็นลูกมือ พวกเขาเลือกใช้ตอกไม้ไผ่เส้นผูกเป็นปมเวลาแจกจ่ายจะได้หยิบสะดวก

    ในเมื่อถูกพี่ชายกับบิดาแย่งงานไป มนตราก็เพิ่งนึกได้ว่าตนเองลืมไก่สดที่ยังไม่ผ่านการปรุงรสไว้ที่ริมลำธาร ผ่านมานานหลายชั่วยามแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอจะขาดทุนเพราะไก่สดเหล่านั้นถูกสัตว์ป่าคาบไปกินแล้วหรอกนะ

    หญิงสาวหันไปมองน้องชายที่นั่งเล่นดินอยู่หน้าเรือนกับกระต่ายสามสหายของเขา

    "อาเยี่ยนเจ้าอยู่กับท่านพ่อก่อนนะ พี่รองจะไปเอาของแค่ครู่เดียว เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ห้ามดื้อห้ามซน มิเช่นนั้นเจ้าจะไม่ได้กินไก่ขอทานอีก"

    ทันทีที่เด็กชายหยิบน่องไก่เข้าปาก แววตาเขาเปล่งประกายวิบวับทันใด คิดในใจว่าเจ้าไก่ที่น่าสงสารเนื้ออร่อยมาก ไม่เหมือนที่ท่านพ่อย่างให้กินเลย รู้อย่างนี้เขาคงขอให้พี่รองทำให้กินตั้งนานแล้ว

    มนตรายังคงไม่รู้ตัวว่าการค้าขายครั้งแรกของเธอ ได้รับการอนุมัติจากอาเยี่ยนน้อยแล้ว หากเธอรู้เหตุผลที่เขายอมให้เชือดไก่ผู้น่าสงสาร คงนึกสงสารบรรดาไก่ทั้งหลายที่ยังรอดชีวิตอยู่

    ต่อไปนี้อาเยี่ยนน้อยผู้พิชิตไก่ขอทานได้กำเนิดขึ้นแล้ว..

    ขาเล็ก ๆ ของฉินฉินก้าวเดินขึ้นเขาตรงไปยังลำธาร ที่ผูกตะกร้าไว้ด้วยความเร่งรีบ หากไม่ถูกสัตว์ป่ากินยามนี้คงถูกปลาในน้ำแย่งกินแทน

    ทันทีที่หญิงสาวเดินมาถึงริมน้ำก็เห็นเครื่องในไก่อยู่เต็มตะกร้า เมื่อเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

    เธอมองดูพื้นที่ที่ถูกจัดการถางหญ้าปรับหน้าดินเรียบร้อยแล้ว เรือนร้างได้ถูกทำลายทิ้งไปให้ความรู้สึกว่าพื้นที่ตรงนี้กว้างกว่าที่คิดเสียอีก

    "หรือว่าเราจะทำสวนดอกไม้เล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นไว้หน้าเรือนดีนะ อ่า...แต่คงต้องรอให้บ้านสร้างเสร็จก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจอีกที"

    หญิงสาวเดินกลับมาบ้านพร้อมตะกร้าเครื่องในไก่ ทุกคนเห็นเธอถือเจ้าสิ่งนี้ก็พากันทำหน้าสะอิดสะเอียน

    อี้เทียนที่เป็นคนทำครัวแท้ ๆ ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่า ลูกสาวบุญธรรมของตนนำของที่ไม่มีใครกินมาทำไม

    "ฉินฉินเจ้าอย่าบอกนะว่าจะกินเจ้าสิ่งนั้น ไม่ได้นะ! ไม่มีใครเขากินกันเจ้าเอาไปทิ้งเสีย หรือให้พี่ชายเจ้าเอาไปฝังในป่าก็ได้ อย่าไปเสียดายมันเลยลูก"

    หูต้าลู่เดินเข้ามาหมายจะแย่งตะกร้าในมือน้องสาวไปฝังกลบดินให้ แต่ร่างเล็ก ๆ กลับเบี่ยงตัวหลบมือเขา

    "ของดีเช่นนี้จะทิ้งได้อย่างไรกันเล่า ข้าจะทำให้ดูว่าของที่พวกท่านคิดว่ามันกินไม่ได้ แท้จริงแล้วอร่อยมากเพียงใด"

    หญิงสาวพูดจบก็ขอตัวเดินไปหมักเครื่องในไก่ต่อในครัว ก่อนจะตะโกนออกมาให้พี่ชายช่วยก่อไฟด้านนอกให้

    ทหารหญิงอาสาจะเข้ามาช่วย แต่มนตราเห็นว่าแค่หมักเครื่องในไก่ตนทำคนเดียวก็ได้สบาย ๆ จึงขอให้พวกนางช่วยทำไม้เสียบไก่ให้

    ทหารหญิงหันมองหน้ากันไม่เข้าใจที่หญิงสาวสั่ง

    "ไม้เสียบไก่คือสิ่งใด เป็นเครื่องมือลงทัณฑ์แบบใหม่หรือ"

    มนตราได้ยินแบบนั้นก็นิ่งอึ้งไปทันที เครื่องมือลงทัณฑ์อะไรกันเล่า...เธอแค่ต้องการไม้เสียบไก่เท่านั้น แต่ทหารหญิงพวกนี้กลับคิดไปไกลถึงไหนเนี่ย เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะเอาเครื่องมือลงทัณฑ์มาทรมานใครเล่า

    "พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าต้องการไม้ไผ่เหลาปลายแหลมเอามาเสียบเครื่องในไก่เท่านั้น ยามที่นำไปย่างจะได้สะดวก มา ๆ ข้าจะวาดรูปให้ดู"

    มนตราละมือจากสิ่งที่ทำอยู่ แล้วเดินออกมาด้านนอกใช้นิ้ววาดรูปบนดินอธิบายให้พวกนางฟังจนเข้าใจ

    "ข้าต้องการแบบนี้ แต่ที่ข้าวาดมันใหญ่ไป พวกท่านทำแค่เล็ก ๆ พอ ลองทำให้ข้าดูก่อนก็ได้ หากเล็กไปหรือใหญ่ไปจะได้ช่วยกันปรับ"

    ทหารหญิงอับอายมากที่พวกนางเข้าใจผิด ก็พากันเกาหัวเดินไปยังกองไม้ไผ่ที่อี้เทียนเหลือทิ้งไว้จากการทำตอกไม้ไผ่ให้บุตรสาว

    มนตราหมักเครื่องในไก่จนเสร็จก็รอให้น้ำหมักซึมเข้าเนื้อ เธอทดลองใช้กระด้งสานไม้ไผ่ในลักษณะของถาดกลมมีรูเล็ก ๆ มาใช้รองแทนตะแกรงย่างไก่ชั่วคราว ไฟที่ใช้ไม่ได้แรงจนมีเปลวไฟลุกโชนแค่ใช้ไฟจากขี้เถ้าเท่านั้น เพราะหากไฟแรงเกินไปกระด้งอาจจะไหม้ก่อนไก่สุกได้

    สองพ่อลูกที่กำลังสับไก่เตรียมให้บุตรสาวนำไปแจกคนในเมือง พากันเหล่ตามองดูร่างเล็ก ๆ ที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ หยิบไม้มาตอกสี่มุมรอบกองไฟก่อนจะเอากระด้งไม้ไผ่มาวางด้านบน

    หูต้าลู่นึกสงสัยจึงแอบกระซิบถามบิดา..

    "ท่านพ่อนางกำลังทำอะไรหรือขอรับ เอากระด้งไปลนไฟเช่นนี้จะทำสิ่งใดได้ ท่านพ่อรู้หรือไม่"

    "พ่อเองก็ไม่รู้ เจ้าอยากรู้ก็ไปถามนางสิ"

    หูต้าลู่อยากรู้มากจึงตะโกนถามน้องสาวบุญธรรมเสียงดัง

    "น้องรองเจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ"

    "ทำเตาย่างไก่เจ้าค่ะ"

    ฉินฉินตั้งใจทำจนเสร็จ แค่นำปล้องไม้ไผ่มาฝังดินเป็นขาเตา แล้วใช้กระด้งแทนตะแกรงเหล็กเพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

    เธอนี่เก่งจริง ๆ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดชะมัด

    เสร็จแล้วหญิงสาวก็เดินไปดูทหารหญิงที่ช่วยกันเหลาไม้ไผ่ทำไม้เสียบ ทว่ากลับต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นพวกนางกำลังเหลาไม้ใหญ่เท่าแขนคน

    มือเรียวยกมือขึ้นตบหน้าผากตนเอง แล้วขำกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ถ้าจะทำใหญ่ถึงเพียงนั้นเอาไปเสียบกวางย่างทั้งตัวไม่ดีกว่าหรือ

    "พวกท่านทำผิดแล้ว มาข้าจะทำให้ดู"

    สุดท้ายมนตราก็ต้องลงมือทำเอง เธอใช้มีดเหลาไม้ไผ่ให้เรียวเล็ก ก่อนจะทำปลายแหลมตรงหัวตัดส่วนปลายให้ทู่ จะได้ไม่ทิ่มมือแล้วชูขึ้นให้พวกนางดู

    "ข้าต้องการแบบนี้ ไม่ใช่ไม้เสียบไก่ยักษ์ที่พวกท่านทำ"

    กว่าจะได้ลงมือย่างเครื่องในไก่ เวลาก็ผ่านไปนานพอสมควร ทหารหญิงเหลาไม้เสียบไก่ได้มาหนึ่งตะกร้า พวกนางกำลังช่วยกันใช้ไม้เสียบเครื่องในไก่อยู่ ข้าง ๆ กันเป็นร่างเล็กของฉินฉินที่กำลังนั่งย่างไก่ โดยมีคนรอชิมนั่งกดดันพลางน้ำลายไหลจ้องมองมือนางที่พลิกไม้ไปมา

    "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ พวกท่านกินไก่ขอทานไปคนละตัวยังไม่อิ่มอีกหรือ"

    หูต้าลู่จ้องมองน้ำมันที่ไหลหยดลงกองไฟแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ

    "พวกมันย่อยไปหมดแล้ว"

    อาเยี่ยนน้อยก็เอากับเขาด้วย เจ้าเด็กตัวจ้อยเดินมานั่งถือจานตนเองรอเช่นกัน เธอจึงเลือกไม้ที่สุกแล้วให้เด็กน้อยกินเป็นคนแรก โดยไม่ลืมหักปลายแหลมออกให้เขา

    เด็กชายรับมาเป่าให้หายร้อน ก่อนจะส่งเครื่องในไก่ย่างสุกจนส่งกลิ่นหอม ๆ เข้าปากท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของผู้ใหญ่ที่จ้องจะแย่งเด็กกิน

    "อาเยี่ยนของพ่อเป็นเช่นไร อร่อยหรือไม่"

    มนตราลอบขำแล้วส่ายหน้าเบา ๆ กับความอยากกินแต่ไม่กล้าขอของสองพ่อลูกแซ่หู แล้วเลือกเครื่องในไก่อีกสองไม้ส่งให้บิดากับพี่ชาย พวกเขาไม่รอให้มันหายร้อนรีบนำเข้าปากทันที

    "ไม่ร้อนหรือเจ้าคะ"

    "อร่อยมากน้องรอง! ข้าขอเพิ่มอีกสิบไม้"

    ไม้แรกยังกินไม่หมดหูต้าลู่ก็ขอเพิ่มอีกสิบไม้เสียแล้ว

    อี้เทียนไม่เร่งรีบเหมือนบุตรชาย เขาค่อย ๆ เคี้ยวช้า ๆ ลิ้มรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมลงตัว กลิ่นหอมของเครื่องเทศฟุ้งกระจายทั่วปาก

    "อืม...อร่อยมากจริง ๆ ไม่มีกลิ่นคาวสักนิด พ่อไม่เคยคิดมาก่อนว่าเครื่องในไก่จะนำมาทำอาหารได้"

    "ไม่ใช่แค่เครื่องในไก่เท่านั้นเจ้าค่ะที่นำมาทำอาหารได้ เครื่องในหมูก็ทำได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องล้างไส้ด้านในให้สะอาด แล้วนำมาย่างไฟจิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ด อร่อยเลิศอย่าบอกใครเชียว"

    อี้เทียนตาโตเมื่อได้ฟังเช่นนั้น..

    "จริงหรือ ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ให้พี่ใหญ่เข้าเมืองไปซื้อหมูสักตัวมาให้เจ้าทำให้กินได้หรือไม่"

    มนตรายิ้มขำรีบปฏิเสธทันที เพราะพรุ่งนี้เธอจะลองขายไก่ขอทานเป็นวันแรก คงจะไม่มีเวลาว่างมาทำอาหารให้ผู้ใดกิน

    "เอาไว้ข้าว่างเมื่อไหร่จะทำให้พวกท่านกินจนจุกท้องไปเลย"

    ทหารหญิงได้ลองกินเครื่องในย่าง ก็พากันยกนิ้วชมเสียยกใหญ่ ฉินฉินกินอิ่มแล้วปลีกตัวมายกตะกร้าที่ใส่ห่อไก่ขอทานขึ้นรถม้า เตรียมเข้าเมืองทันทีหลังทุกคนกินอิ่ม

    รถม้าเป็นของส่วนตัวที่ท่านเจ้าเมืองไม่ได้ใช้แล้ว เขาจึงยกมันให้เธอเอามาใช้ชั่วคราว

    ทหารหญิงได้ยินน้ำเสียงเล็ก ๆ บ่นถึงเรื่องที่ตนลืมซื้อเกวียนไว้ใช้ จึงพากันเข้าเมืองไปรายงานท่านเจ้าเมือง พอเขารู้จึงยกรถม้าคันเก่าให้ทันที

    แท้จริงแล้วเหล่าทหารหญิงทั้งห้าคนนี้ เป็นถึงองครักษ์ของท่านเจ้าเมืองที่ปลอมตัวมาคุ้มกันหญิงสาวและครอบครัวโดยเฉพาะ

    พวกนางเก่งกาจกว่าทหารหญิงรับจ้างทั่วไปหลายเท่านัก


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×