ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 16: Mission Possible! (โจ๋เรนเจอร์ออกปฏิบัติการอีกครั้ง!) - Part II
พรึ่บบบบบบบบบบ!!
ภาพหน้าจอที่เคยดับมืดกลับมาอีกครั้งเป็นรูปร่างบางเดินไปเดินมาเหมือนเดิมอีกครั้ง
ยังดีที่คิมฮีชอลยังไม่หายไปไหน
ชเวซีวอนเอนตัวพิงเก้าอี้อีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากอยู่คนเดียว
แต่ชเวซีวอนจะรู้ไหมนะ? ว่าคิมฮีชอลที่ตนเห็นในหน้าจอทีวีที่ติดกับกล้องวงจรปิดห้องนั้นหนะ...
เป็นเพียงภาพวิดีโอที่คิมฮีชอลอัดตัวเองเดินไปเดินมาเอาไว้แล้วนำมาต่อกับกล้องวงจรปิด!!!
ตุบบบบบบบบบบบ!
คิมฮีชอลกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างรวดเร็วและแผ่วเบา
มือเรียวดันช่องแอร์ให้ออกไปก่อนที่จะโยนกระเป๋าเป้สีดำของตนเข้าไปแล้วกระโดดตามขึ้นไปบนช่องแอร์อย่างรวดเร็ว
ดวงตากลมโตหันขวับไปมองกล้องวีดีโอบนเก้าอี้ที่มีสายเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด
เหลืออีกประมาณ20นาทีกว่าๆ แค่นี้ก็เหลือแหล่พอที่จะหลอกซีวอนต่อไปได้แล้ว
พอจบวิดีโอนั่นเขาก็คงไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในตึกอีกครั้ง
และแน่นอนชเวซีวอนคงหัวฟัดหัวเหวี่ยงแน่ๆ!!!
สมน้ำหน้า! เล่นกับใครไม่เล่น
ดันมาเล่นกับคิมฮีชอล!!!
หน้าจอที่เคยฉายภาพร่างบางผมแดงเดินไปเดินมาอย่างเรื่อยเปื่อยพร้อมกับใบหน้าหวานที่เบื่อโลกจู่ๆก็ดับไปกลายมาเป็นหน้าจอสีขาวดำแทน
“เฮ้ย!!”ซีวอนกระเด้งตัวอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งออกไปนอกห้องเพื่อไปยังห้องที่คุมขังร่างบางตัวแสบเอาไว้ทันที
คิมฮีชอล!หรือว่านี่จะเป็นแผนของนาย?!?!!
เอี๊ยดดดดดด!!!
ประตูเหล็กถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
ดวงตาคมเข้มกวาดมองไปรอบห้องก่อนที่จะไปหยุดอยู่ตรงกล้องวีดีโอบนเก้าอี้ที่หลบอยู่ข้างล่างกล้องวงจรปิด
มุมตรงนี้...กล้องวงจรปิดไม่สามารถถ่ายได้!เพราะมันอยู่ข้างล่าง!
ชเวซีวอนมองไปยังสายสีแดงที่ต่อเข้ากับกล้องวงจรปิดจากกล้องวีดีโอก่อนที่จะหัวเราะเบาๆอย่างสมเพชตัวเองที่เสียรู้ให้แก่ลูกศิษย์ตัวแสบ
แสดงว่าที่เขาเฝ้ามองตลอดก็คือภาพวิดีโอที่เจ้าตัวแสบมันอัดตัวเองเอาไว้สินะ
แล้วระหว่างที่เขาดูอยู่เพราะนึกว่าเป็นภาพจริง!ฮีชอลก็คงหนีไปโดย...
“แม่งเอ้ย!”ร่างสูงสบถออกมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่นอีกครั้งเมื่อพบกับช่องแอร์ที่เปิดอ้าเอาไว้
ไม่เคยตามแผนของเจ้าเด็กดื้อนี่ทันสักครั้งเลย! ให้ตายเถอะโรบิน!!!
สุดท้ายแล้ว!เขาก็พ่ายแพ้ให้แก่คิมฮีชอลตลอดเลยสินะ!
--------85%--------
เสียงติ๊ดสั้นๆดังขึ้นมาพร้อมกับอีเมล์ขยะและเหล่าโฆษณาที่เคยผุดขึ้นมาให้กดปิดอย่างไม่ขาดสายก็ค่อยๆหายไป
โจคยูฮยอนถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับขยับนิ้วไปมาจนเกิดเสียงดังเพื่อคลายเมื่อย
To whom it may concern...of course! It’s my
darling!
คิมฮีชอลเพื่อนรักตัวแสบของผมหนีออกมาจากห้องขังบ้านั่นได้แล้วนะอาจารย์~
เตรียมตัวเหอะนะจารย์!
PAY BACK TIME!!!
From the one you love : ) That is ME !!!
“เฮ้ย!!!”
กริ๊งงงง กริ๊งงงง กริ๊งงงงง กรี๊งงงงง!
สิ้นเสียงตะโกนสัญญาณไฟก็ดังลั่นขึ้นมาทันที
โจคยูฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะสบถออกมาเสียงดังอย่างหัวเสียพร้อมกับรัวนิ้วลงไปบนคียบอร์ดอย่างรวดเร็วพร้อมกับสบถงึมงำไปอีกด้วย
แสบนักนะ ลีซองมิน!!!
สบถด่าในใจพร้อมกับกดปุ่มEnterอย่างเสียงดังและรุนแรง เสียงสัญญาณไฟดับลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงของซีวอนที่ดังมาจากวอข้างๆแล้ปท้อปตน
//คยูฮยอน คิมฮีชอลหนีไปแล้ว!!//
“เออ กูรู้แล้ว! ซองมินเมล์มาบอก”
//=_=lll...แต่มึงว่าพวกฮีชอลจะรู้หรือเปล่าวะว่าแจจุงจะอยู่ที่ไหน?//
“กูเองยังไม่รู้เลยว่าคิมแจจุงตื่นหรือยัง
มึงก็ไปถามไอ้ยุนโฮเองดิ เฮ้ยๆๆๆ แค่นี้ก่อนนะเว้ย ซองมินส่งเมล์อันใหม่มาแล้ว”
พูดจบก็หันกลับไปจดจ่ออยู่ที่ข้อความใหม่จากคนรักตน
โจ-คยู-ฮยอน-ที่-รัก : )
=_=!!! ผมรู้แต่ว่าแจจุงมันอยู่ชั้น7แต่หาตัวมันไม่ได้เลยเพราะไม่มีระบบกล้องวงจรปิดติดอยู่ชั้น7
เชอะ! เชอะ! เชอะ!!!
ถ้าไม่มาบอกคำตอบผมว่าแจจุงอยู่ที่ไหนผมจะงอนแล้วด้วย!
โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาตินะ! งอน งอน งอน งอน งอน งอน
งอน งอน งอน งอน งอน!!!
จากลีซองมินที่กำลังงอนโจคยูฮยอนอยู่
ปอลอ* ผมอยู่ห้องน้ำชั้น3 มาง้อด้วย!
งอน!!!! :' (
คนโดนงอนได้แต่อ้าปากค้างอย่างงุนงงกับเมล์จากคนรัก
มือแกร่งยกขึ้นเกาหัวแกรกๆเป็นเชิงประมาณว่าผิดด้วยเหรอเนี่ย?
เฮ้ย! เล่นงี้เลยเหรอฟะ?!
โจคยูฮยอนหัวเราะเบาๆพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปนอกห้อง
โทษหวะซีวอน! แต่ที่รักฉันงอนอยู่ นายคงไม่ว่าอะไรนะถ้าจะไปหา
เอี๊ยดดดดดดดดดดด...
“2นาที!! ทำไมมันนานนักนะ ตั้ง2นาทีแหนะ! ถ้าเป็นผมคงแค่เสี้ยวนาที!!!”เสียงหวานตะโกนดังลั่นอย่างหงุดหงิดเมื่อประตูห้องน้ำชั้น3ถูกเปิดออกมา
ลีซองมินนั่งอยู่บนที่ล้างมือ
บนตักมือแล้ปท้อปตัวดีที่ใช้ป่วนChoi
Groupอยู่ ใบหน้าหวานไม่เงยหน้ามามองอาคันตุกะผู้มาใหม่เลยสักนิด
ดวงตากลมจับจ้องไปยังหน้าจอพร้อมกับนิ้วเล็กที่รัวลงบนคีย์บอร์ดเสียงดัง
โจคยูฮยอนอมยิ้มแล้วเดินดุ่มๆมาข้างหน้า
สองมือวางเอาไว้ข้างๆคนรักที่นั่งอยู่บนอ่างล้างมือ ใบหน้าหล่อค่อยๆโน้มมาใกล้ๆ
“งอนเหรอ?”
ร่างอวบพยักหน้าพร้อมกับเบ้ปากเหมือนเด็กโดนขัดใจ
คยูฮยอนหัวเราะหึๆแล้วหอมแก้มข้างซ้ายคนรักไปฟอดหนึ่งแล้วกลับมามองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงฝาดๆใหม่
“หายงอนยัง?”
เมื่อไม่มีคำตอบจากคนรักคยูฮยอนจึงหอมแก้มอีกข้างแล้วกลับมาที่เดิม
“หายยังครับ?”
คนโดนหอมแก้มทั้งสองข้างสะบัดหัวไปมา
ดวงตากลมยังคงจ้องอยู่หน้าคอมนิ้วเล็กก็ยังคงพิมพ์ต่อไปเรื่อยๆเหมือนเดิม
คยูฮยอนถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจเมื่อไม่สามารถง้อคนรักตนได้ ซองมินเหลือบขึ้นมามองแล้วก้มลงมองหน้าจอต่อ
“ผมบอกจารย์ในเมล์ว่าไง?”
“ให้บอกที่อยู่ของคิมแจจุงว่าอยู่ที่ไหนในชั้น7?”
“Yes!”
“ก็เงยหน้าขึ้นมาคุยกันดีๆหน่อยสิครับ”พูดพลางยกคอมพิวเตอร์ออกจากตักคนรัก
ซองมินมองตามไปก่อนที่จะหันมาสบตาคนตรงหน้าเงียบๆ
ร่างสูงโปร่งถอนหายใจแล้วเงยหน้าขึ้นมามองอย่างรู้สึกผิด
“ฉันเองก็รู้เท่านาย...ซองมิน! จริงๆนะ
มีแค่ซีวอนกับยุนโฮเท่านั้นที่รู้ว่าคิมแจจุงอยู่ที่ไหน”
เจ้าของชื่ออ้าปากเหวอเล็กน้อยก่อนที่จะกลายมาเป็นยิ้มหวานยั่วยวน
“งั้นพวกเราก็คงได้แต่ภาวนาให้แจจุงหนีรอดออกมาปลอดภัยสินะ”
คยูฮยอนพยักหน้าแล้วยิ้มบ้าง
ร่างอวบกระโดดลงจากอ่างล่างมือแล้วมองหน้า
“อาจารย์ฮะ
ผมแก้ระบบวงจรปิดให้กลับมาแล้วนะฮะ”
“งั้นเหรอขอบคุณนะที่รัก”
'ที่รัก'ยิ้มหวานหน้าแดงเล่นเอาคนตรงหน้าอดใจไม่ไหวต้องโน้มใบหน้าหล่อไปบดเบียดริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มอย่างดูดดื่ม
//วอ1 เรียกวอ2
วอ1 เรียกวอ2 คยูฮยอนตอบด้วย!!!//
เสียงหวานของคิมคิบอมดังลอดมาจากวอที่เหน็บเอาไว้ตรงเข็มขัดข้างเอว
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของชื่อจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
มือแกร่งจับแก้มเนียนทั้งสองข้างพร้อมกับลิ้นสากที่เกี่ยวตวัดกับลิ้นเล็กที่ตอบสนองในโพรงปากเล็กได้อย่างดี
//หน้าจอทีวีกล้องวงจรปิดมันกลับมาแล้วนะแต่ว่า!//
มือเล็กทั้งสองข้างขยุ้มผมดำพร้อมกับครางเบาๆเมื่อคนรักลากลิ้นจากริมฝีปากไปจนถึงซอกคอสวย
คยูฮยอนขบเม้มเบาๆจนกลายเป็นสีกุหลาบจางๆ
//มันเป็นหนังโป๊แทน!!
แถมมันยังแพร่ไปบนทีวีทุกตัวและคอมพิวเตอร์ในตึกนี้ด้วย!//
คยูฮยอนเบิกตากว้างแล้วผละออกมามองหน้าคนรักที่หัวเราะเบาๆอย่างสะใจ
“ลีซองมิน!ฝากไว้ก่อนเถอะนะ”
สบถด่าได้เพียงเท่านี้ก็ต้องรีบกลับขึ้นไปใหม่เพื่อแก้สิ่งที่คนรักส่งไปให้
ซองมินยิ้มหวานไล่หลังก่อนที่จะหยิบแล้ปท้อปเดินเข้าห้องน้ำห้องเดิมอีกครั้ง
“ฉันเองก็รู้เท่านาย ซองมิน!จริงๆนะ
มีแค่ซีวอนกับยุนโฮเท่านั้นที่รู้ว่าคิมแจจุงอยู่ที่ไหน”
“งั้นพวกเราก็คงได้แต่ภาวนาให้แจจุงหนีรอดออกมาปลอดภัยสินะ”
ประโยคสนทนาเมื่อครู่ดังขึ้นมาในหัวอีกครั้ง
ซองมินยิ้มแห้งๆให้กับตัวเองแล้วถอนหายใจเบาๆ
งานนี้คงต้องปากกัดตีนถีบเสียแล้วหละแจจุงเอ๋ย~
--------100%--------
“อืออ!”เสียงหวานครางออกมาในลำคอเบาๆพร้อมกับดวงตาที่ค่อยๆเปิดขึ้นมาแล้วปิดลงอีกครั้งก่อนที่จะเปิดขึ้นมาใหม่แล้วกระพริบตาเร็วๆเพื่อให้ภาพข้างหน้าชัด
“ตื่นแล้วเหรอคิมแจจุง”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะหันขวับไปมองที่มาของเสียง
จุงยุนโฮ
ตัวการที่พาตนมาที่นี่นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเก้าอี้ข้างๆตน
ร่างสูงอยู่ในเสื้อผ้าสบายๆ กางเกงยีนส์สีอ่อนและเสื้อสีขาวเผยให้เห็นกล้ามเป็นมัด
“จารย์จับผมมาทำไมเนี่ย! ถ้าจะเรียกค่าไถ่ขอบอกว่าจับผิดคนแล้ว!
ไปจับลูกคุณหนูแถวซอย2สิ มาจับผมทำไม!เอ้ะ เดี๋ยวก่อน!เฮ้ยยยยยยยย!
มีที่ไหนอาจารย์จับนักเรียนเรียกค่าไถ่ ไอ้ทุเรศ วิปริต!!! อ้ากกก~”
เสียงหวานตะโกนดังลั่นพร้อมกับชี้ไม้ชี้มือมาทางคนที่โดนด่าว่า
ยุนโฮส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินมาปิดปากร่างบางแล้วนั่งลงข้างๆบนโซฟา
“น่าจะให้กินยานอนหลับอีก! จะได้ไม่ต้องโวยวายขนาดนี้
ฉันจับนายมาเพราะจะเปิดศึกกับพวกคิมฮีชอล”
สิ้นประโยคยุนโฮ
คนโดนปิดปากนิ่งเงียบไปพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างอย่างตกใจก่อนที่จะผละใบหน้าออกจากมือแกร่งที่ปิดปากตนแล้วหัวเราะเสียงดังราวกับประโยคเมื่อเป็นอะไรที่ตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา
“โอ้โห้! คิดได้ไง? เปิดศึกกับฮีชอลมัน?”
ถามอีกทีเพื่อความแน่ใจ ยุนโอพยักหน้าอย่างงุนงง
แจจุงหัวเราะเสียงดังลั่นจนน้ำตาเล็ดก่อนที่จะหยุดแล้วชี้หน้าก่อนที่จะหัวเราะลั่นอีกครั้ง
ไม่นานนักร่างบางก็หยุดหัวเราะได้พร้อมกับใบหน้าหวานที่กลับมาทำหน้าเครียดอีกครั้ง
“จารย์รู้หรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป”
ยุนโฮส่ายหน้า
แจจุงถอนหายใจเบาๆอย่างเหนื่อยใจแล้วพูดต่อเสียงเครียด
“พวกฮีชอลสามารถถล่ม Choi
Group ให้กลายเป็นตึกเละเทะไม่มีชิ้นดีภายในเวลาครึ่งวันโดยวิธีที่ไม่เหมือนชาวบ้าน”
“แค่นี้ก็เละพอแล้วหละ=_=“
ยุนโฮพึมพำเบาๆพร้อมกับนึกย้อนไปถึงเรื่องดอกไม้ไฟถล่มชั้น2 หมาบุกชั้น3จนเละ
ลีดงแฮใช้ปืนเมนทอสรสมิ้นต์เขย่ากับโค้กทำยามสลบไปสามคนแถมยังส่งซากคอมพิวเตอร์จากชั้น2และนิ้วยางมาหลอกคิบอมจนร้องไห้
ลีซองมินที่ตัดระบบวงจรปิด
ส่งเมล์ขยะและโฆษณาป่วนคยูฮยอน ซ้ำยังเปิดหนังโป๊มาแทนบนทีวีทุกจอในChoi
Group
และคิมฮีชอล! ที่ปล่อยระเบิดตดทำลายการประชุมเสียหมด
โดนซีวอนจับขังในห้องที่ลีซองมินไม่สามารถแฮ้กเข้าไปช่วยได้แต่ก็สามารถออกมาได้
ไอ้สามทหารเสือตัวแสบนี่มันน่ากลัวจริงๆ!!!
“บอกเอาบุญเอาไว้ก็แล้วกันนะจารย์!”
แจจุงทิ้งช่วงเอาไว้พร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นมา
ร่างสูงพยักหน้าเป็นเชิงว่ารับฟังและให้พูดต่อไป
“ฮีชอล! ขงเบ้งยุคไซเบอร์ ฉลาดเป็นกรด
เจ้าแผนการ คิดหาแผนการได้ตลอด24ชั่วโมง
แถมแผนแต่ละอย่างนี่ไม่เหมือนชาวบ้านด้วย”
ขงเบ้งยุคไซเบอร์? มิน่าหละ! ถึงได้คิดสรรหาแผนการแสบๆมาตั้งแต่เจอกันครั้งแรกยันตอนนี้
แถมแผนการที่เจ้าตัวแสบคนนั้นคิดมาเป็นอะไรที่ไม่มีใครสามารถคาดคำนึงถึงมาก่อน!
แจจุงยกนิ้วเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งนิ้วแล้วเล่าต่อ
“ซองมิน! ไอ้นี่มันเทพคอม แฮ้กเข้าได้หมด
สามารถทำแฮ้กเข้าไปตัดไฟฟ้าทั้งกรุงโซลได้ภายในเวลาไม่ถึง5นาที!”
แค่แฮ้กตัดระบบวงจรปิดที่มีคยูฮยอนคนเก่งคอมคุมอยู่ก็ประจักษ์แก่สายตาพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วหละ
แจจุงยกนิ้วขึ้นอีกนิ้วพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
“ดงแฮ! แรงฟายที่สุดในแก๊ง เป็นนักจิตวิทยารึเปล่าผมก็ไม่รู้
แต่มันชอบทำสงครามจิตวิทยาเล่นๆ”
ซากคอมและนิ้วยาวที่เล่นเอาคิบอมหน้าซีดแล้วก็ร้องไห้ก็บอกได้แล้วหละว่ามันมีกึ๋น!
“แล้วจารย์จะปล่อยผมไปได้หรือยัง?”เสียงหวานดังขึ้นมาเรียกให้ชายหนุ่มหันกลับมาอยู่กับความเป็นจริง
ยุนโฮยิ้มแห้งๆแล้วเอนหลังพิงโซฟา
“ก็คงจะไม่ได้! เห็นทีนายคงจะต้องหาทางหนีเองเสียแล้ว”
ดวงตากลมโตที่จับจ้องไปยังใบหน้าหล่อบัดนี้เลื่อนมามองแขนแกร่งที่มีกล้ามเป็นมัดๆ
คิมแจจุงกลืนน้ำลายเอื้อกแล้วมองแขนร่างสูงตาเป็นมัน
“จ จารย์!”
ยุนโฮหันมามองก็พบกับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
ดวงตากลมส่อแววยั่วยวนเล็กน้อย ริมฝีปากบางเผยอขึ้น มือเรียวของคนตรงหน้าเอื้อมมาจับที่แขนแกร่งของตนเบาๆอย่างถนุถนอม
“ผ ผม! ผมทนไม่ไหวแล้ว”
“หา?”
คิมแจจุงเอื้อมมืออีกข้างมาแตะแขนพร้อมกับช้อนสายตามามองแล้วถามเสียงหวาน
ยุนโฮกลืนน้ำลายเอื้อกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของร่างบาง
แจจุงกระเถิบเข้ามาใกล้อีกรอบแล้วลูบไล้แขนแกร่งไปมาทำเอาร่างสูงหายใจตัดขัดทันที
“อาจารย์ยุนโฮ...”
เสียงหวานเรียกชื่อตนอย่างยั่วยวนและแหบพร่าทำเอาเจ้าของชื่อแทบหยุดหัวใจพร้อมกับหน้าอกด้านซ้ายที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“แจจุง...”
“...ผมขอโทษนะครับ”
หงับบบบบบบบบบบบบบบบบ!
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
จุงยุนโฮตะโกนร้องเสียงดังลั่นเมื่อคนตรงหน้ากัดงับเข้าที่แขนของตนอย่างแรง! มือเรียวทั้งสองข้างจับแขนแกร่งเอาไว้ไม่ให้ไปไหนพร้อมกับกัดต่อไป
ยุนโฮได้แต่สบถด่าทออย่างเจ็บๆ
กัดกูทำม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย?!!TT[+++++]TT
“แฮะๆ ขอโทษครับ!คือผมเป็นพวกประเภทที่ว่าเห็นแขนใครใหญ่ๆมีกล้ามแล้วมันจะเกิดอาการหมั่นเขี้ยวอยากกัดหนะครับ^^”
เสียงหวานพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดแล้วหัวเราะแหะๆ
คิมแจจุงก้มหัวให้เป็นเชิงขอโทษ
คนโดนกัดได้แต่สบถด่าทอต่อไปก่อนที่จะยกแขนข้างที่โดนกัดขึ้นมาดูก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆเมื่อพบกับรอยกัดสีแดงชนิดที่เห็นฟันครบทุกซี่ฝังลึกลงไปบนแขน
“ชาติที่แล้วเป็นหมาพันธุ์อะไรหนะ?
กัดเจ็บมากคิมแจจุง”
“อ้อ!
น่าจะเป็นไม่บางแก้วก็ล๊อตไวเลอร์หนะครับ^^”เจ้าของชื่อรับมุขด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดำพร้อมกับยิ้มหวาน
“เย้ย~! แล้วกัดคนบ่อยปะ?”
“อันนี้ก็ไม่แน่หนะครับ
เท่าที่รู้มากัดใครไม่มันส์เท่ากัดแขนจารย์หงะ”พูดจบก็จ้องแขนร่างสูงตาเป็นมันจนยุนโฮต้องกระเถิบหนีอย่างหวาดๆ
“ฮะๆ จารย์นี่ตลกดีนะ
ทำหน้าอย่างกับผมเป็นผีหนะ ฮะๆ”ร่างบางหัวเราะเสียงดังพร้อมกับตีป้าบเข้าที่ไหล่กว้าง
ยุนโฮหันมามองแล้วอมยิ้มนิดๆ
แต่นายหนะชอบทำให้ฉันหวั่นไหวนะ รู้ตัวบ้างไหม? คิมแจจุง
--------110%--------
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด..
คิมคิบอมสะดุ้งเฮือกอีกรอบกับสิ่งที่วางอยู่หน้าประตูคราวนี้
หยาดน้ำใสก่อตัวบนเบ้าตาอีกรอบเมื่อคราวนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสุดๆของ Choi Group
เอกสารสัญญากับบริษัทชั้นนำอีกแห่งที่ไหม้ไปกว่าครึ่ง
“ไม่เป็นไร คิบอม พวกเรามีก้อปปี้แล้ว”โจคยูฮยอนทีเพิ่งแก้กล้องวงจรปิดและทีวีที่เคยเปิดหนังโป๊เพราะฝีมือลีซองมินเสร็จเดินมาพูดพร้อมกับลูบหลังเบาๆ
“คยูฮยอน
ขอฉันอยู่คนเดียวข้างนอกหน่อยนะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างแหบพร่าพร้อมกับเจ้าของเสียงที่หันมามองด้วยแววตาอ้อนวอน
“ตามใจนาย”
และประตูก็ปิดตามไล่หลังคยูฮยอนเพื่อนรักตน
ร่างบางของคิบอมหยิบเอกสารที่ไหม้เกรียมแล้วเดินไปทิ้งที่ถังขยะตรงหัวมุม
ทันทีที่เอกสารที่ไหม้เกรียมนั้นตกลงไปอยู่ในถังขยะ
หยาดน้ำใสก็ไหลลงมาอาบแก้มเนียนโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยแม้แต่น้อย
คิมคิบอมยืนร้องไห้เงียบๆพร้อมกับด่าทอตัวการไปด้วย
“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย ฮึก!”
เสียงหวานด่าทอไปมาพร้อมกับมือเล็กที่เช็ดน้ำตาของตนที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุด
ก็น่าจะรู้!ว่าคนอย่างเขาเป็นพวกอ่อนไหวกับอะไรแบบนี้!
แล้วจะใช้เขาเป็นเหยื่อสงครามจิตวิทยาทำไม?
“ฮึก! Why me? ทำไมต้องเป็นฉัน!ทำไมต้องเป็นเหยื่อสงครามจิตวิทยาบ้าๆนั่นด้วย ฮึก”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากข้างหลังแต่ร่างบางยังคงร้องไห้ต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“บ้า! You know I don’t
like it and why you did this to me? ฮึก!”
หมับบบบบบบบบบบบบบ!
แขนแกร่งจากเจ้าของฝีเท้าของหลังเอื้อมมากอดร่างบางจากทางด้านหลังทำเอาคนโดนกอดโดยไม่ทันตั้งตัวถึงกับสะดุ้ง
ใจเต้นตึกๆไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ
“โกรธผมเหรอ?”น้ำเสียงที่ดูคุ้นเคยดังขึ้นมาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่บริเวณใบหู
“ลีดงแฮ!”
เสียงหวานเรียกชื่อเจ้าของชื่ออย่างแหบพร่าและโมโหเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด
แต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนกอดมากยิ่งขึ้น
“โกรธผมเหรอครับ?”
ร่างสูงถามพร้อมกับเกยใบหน้าหล่อลงบนไหล่บาง
คิบอมพยักหน้าเร็วๆ
“ฮึก!โกรธ! โกรธมากเลยด้วย ฮือๆ”
“โอ๋~~ ไม่เอาน่าจารย์!ไม่โกรธน้า ไม่โกรธ”ดงแฮพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพร้อมกับสายตาวิงวอนขอโทษราวกับเด็กน้อยที๋โดนด่า
“ก็ทำไมต้องมาแกล้งกันด้วยเล่า!”ร่างบางตะโกนเสียงดังลั่นอย่างหงุดหงิดพร้อมกับปล่อยโฮอีกระลอก
“แกล้งเล่นๆน่าจารย์”
“แต่ครูไม่เล่นด้วย!!”
คิบอมตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับร้องไห้อีกครั้ง
ร่างสูงจึงได้แต่ยืนกอดเงียบๆ
“แล้วทำไมต้องเป็นครู?! ก็ทำไมไม่เป็นคนอื่นหละ?
ฮึก!why me?”
“เพราะจารย์น่ารักไงรู้ตัวหรือเปล่า?”
คำพูดของดงแฮสวนขึ้นมาทันทีที่เสียงหวานจบประโยค
คิบอมยืนนิ่ง หัวใจเต้นโครมครามกับคำพูดของลูกศิษย์ตน
เมื่อเห็นว่าร่างบางในอ้อมกอดนิ่งเงียบไป
ลีดงแฮจึงถือโอกาสกระชับแขนให้แน่นยิ่งขึ้นพร้อมกับโยกร่างบางในอ้อมกอดไปมาช้าๆเป็นการปลอบโยน
“ไม่โกรธนะ ไม่โกรธ
ไม่โกรธน้าาาาา~”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับโยกคนในอ้อมกอดไปมาช้าๆ
ปากก็พร่ำพูดแต่คำว่าขอโทษไปเป็นเวลานานแต่ร่างบางในอ้อมกอดกลับนิ่งเงียบมีเพียงตัวที่โยกไปตามจังหวะแขนที่โยกตนไปมา
“Anger doesn’t solve anything! Trust me”
“I’m not angry!”เสียงหวานดังขึ้นมาทันทีที่ดงแฮจบประโยคของตน
“Sure?”
ถามอีกครั้งพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปาก
ลีดงแฮกระชับอ้อมกอดอีกครั้งเมื่อใบหน้าหวานพยักหน้าราวกับจะย้ำในตคำตอบที่ว่าตัวเองไม่ได้โกรธ
“ไม่โกรธนะ?”
“ถ้าพูดอีกทีครูจะโกรธนะ!”
ดงแฮปิดปากเงียบพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากทันที
นิ้วยาวเลื่อนมาเช็ดน้ำตาที่เลอะแก้มเนียนให้ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะโน้มมา
จมูกโด่งสูดความหอมจากพวงแก้มแล้วตามด้วยริมฝีปากหนาที่ประทับบนแก้มเนียนเบาๆแล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว
“ลีดงแฮ!”
คนโดนหอมแก้มตะโกนลั่นใส่เจ้าลูกศิษย์ตัวแสบที่ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีพลางกอดตนให้แน่นขึ้นอีกแล้วโยกไปโยกมาอีกครั้ง
ร่างสูงซุกหน้าเข้าที่ซอกคอคิบอมพร้อมกับตะโกนออกมาดังๆ
“น่ารักจังเลยคนเนี้ย!!!”
--------120%--------
ปัง!!!!
เสียงประตูปิดดังลั่นพร้อมกับเสียงกระทืบเท้าโครมคราม
เสียงหวานสบถด่าทออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
ก็ไหนบอกว่าจะพาไปกินสเวนแซ่บถ้าอยู่ในห้องจนถึงบ่ายโมง?!!
แล้วนายก็มาสาย!แล้วมาบอกให้อยู่ในห้องต่อไปจนเย็น!!
ไอ้คนโกหก!
“คังอิน บ้า! บ้าที่สุดในโลก!”
“คุณอีทึก!!”เสียงทุ้มต่ำตะโกนดังลั่นเมื่อประตูห้องที่เพิ่งโดนปิดเปิดออกมา
บอดี้การ์ดหนุ่มวิ่งมาคว้าแขนร่างบางให้หยุดแต่กลับโดนสะบัดออกมาอย่างไม่ไยดี
“คังอินบ้า! ไอ้คนโกหก!
คนผิดสัญญา!!!”
เจ้าของชื่อได้แต่ยืนอึ้งเมื่อพบว่าเจ้านายเอาแต่ใจของตนกำลังร้องไห้อยู่
อีทึกรีบเช็ดน้ำตาออกก่อนที่พยายามที่จะกลั้นน้ำตาของตนไม่ให้ไหลออกมา
“คุณอีทึก! ผม!”
“ฉันเกลียดคนผิดสัญญาที่สุด!
ฉันเกลียดนายคังอิน! อย่ามายุ่งกับฉันอีก!”
คำพูดแต่ละคำกรีดแทงลึกลงไปในหน้าอกด้านซ้ายที่เต้นตุบๆอยู่
ใบหน้าหล่อสลดซีดลงอย่างเห็นได้ชัด คังอินก้มหน้านิ่ง
แต่ผมรักคุณนะ!ที่ผมต้องผิดสัญญา!นั่นเพื่อความปลอดภัยของคุณเองนะ!
ฝ่ายร่างบางที่เห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากคนตรงหน้าก็หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีจากไปสุดฝีเท้า
“เฮ้ย! คุณอีทึก ค คุณ!!!”คังอินตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับทุบประตูลิฟต์ที่เพิ่งปิดไปเสียงดังลั่น
ก็ถ้าบอกได้!ผมก็คงบอกไปแล้ว!แต่คุณท่านกำชับไว้ไม่ให้บอก
เพราะเดี๋ยวคุณจะไม่สบายใจเอา
คุณกำลังโดนพวกศัตรูของคุณท่านหมายตัวเอาไว้นะ
เพื่อความปลอดภัยของคุณ!ผมเลยต้องผิดสัญญา
ผมขอโทษ! แต่ผมรักคุณนะ
เมื่อไหร่กันนะ!ความพยายามของเขา ความรักของเขาที่ทำลงไปจะสื่อไปถึงคนที่เขารักมานาน
อีทึก!
กิ๊งงงงงงงงง!
ร่างบางรีบเช็ดน้ำตาก่อนที่จะเดินออกมาจากตัวลิฟต์แล้วเดินปะปนกับเหล่าผู้คนในห้างของพ่อเขา
‘ปาร์คตินั่ม’
อุตส่าห์ดีใจที่นายจะพาฉันไปเที่ยวสองต่อสอง
ฉันหวังเอาไว้สูงเลยนะ!ฉันอยากอยู่กับนายสองต่อสอง!
แล้วความหวังฉันก็มาพังทลายเพราะนาย
ไอ้คนโกหก!!!
“โอ้ะ คุณหนูแห่งปาร์คตินั่ม”เสียงทุ้มต่ำที่ดูไม่เป็นมิตรดังขึ้นมาจากข้างหลังพร้อมกับมือของใครบางคนที่จับแขนตนเอาไว้
“อ้ะ! พวกนาย!!!”
เสียงหวานตะโกนลั่นอย่างตกใจเมื่อหันไปมองเจ้าของเสียงที่มาเป็นกลุ่ม
พวกนี้! คู่แข่งของพ่อเขานี่นา!
“องค์กรชุดชมพู!!”
ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีชมพูแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจแทนคำตอบพร้อมกับดึงตัวร่างบางให้เดินตามตนมา
อีทึกพยายามฝืนแรงแต่ก็ไม่ไหว!เพราะตัวคนลากนั้นแรงเยอะกว่าเขาอีก
“คังอิน! คังอินช่วยด้วย! คัง...!อั่ก!”
อีทึกงอตัวลงทันทีเมื่อโดนชกตรงท้อง
ดวงตาคู่สวยเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับบอดี้การ์ดหนุ่มที่กำลังเดินมาทางตนอย่างยากลำบากเพราะผู้คนทีเดินกันอย่างขวั่กไขว่
บอดี้การ์ดหนุ่มเจ้าของชื่อเบิกตาโตทันทีที่พบว่าร่างของเจ้านายผู้เอาแต่ใจที่ตนรักถูกลากหายไปในหมู่ผู้คน
ชายหนุ่มหยุดเดินก่อนที่จะเข่าทรุดลงทันที
ราวกับหัวใจแตกสลาย
ทั้งๆที่สัญญาว่าจะปกป้องเอาไว้แท้ๆ! แต่เขากลับทำพลาด!
มีใครบ้าง? ที่พอจะช่วยเขาได้!
คนที่ช่วยได้!
คังอินสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองแล้วรีบลุกขึ้นยืน
ชายหนุ่มรีบเดินออกไปจากห้างปาร์คตินั่มแล้วเดินไปโบกรถแท๊กซี่ทันที
ความหวังสุดท้ายแล้ว!
ขอให้คนๆนี้ช่วยคุณอีทึกได้ด้วยเถอะ!
“ไป Choi Group ครับ”
มือเรียวจ่อไฟแช้กที่มีไฟอยู่บนที่ตรวจจับควันเป็นเวลาเพียงชั่วครู่
เสียงสัญญาณไฟก็ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับก๊อกน้ำดับเพลิงที่ติดอยู่บนเพดานทุกชั้นของ
Choi Group ที่เปิดออกมาตามหน้าที่ของมัน
พรึ่บบบบบบบบบบบ!
เสียงตะโกนโหวกเหวกของเหล่าพนักงานฝ่ายบัญชีชั้น5ดังลั่นขึ้นมาเมื่อจู่ๆมีน้ำจากก๊อกน้ำดับเพลิงเปิดขึ้นมา
ขอโทษนะฮะพวกพี่! แต่ต้องโทษเจ้านายพวกพี่นั่นแหละที่ทำให้งานพวกพี่เป็นแบบนี้
เพียงเวลาไม่นานน้ำก๊เริ่มดับลงพร้อมกับสัญญาณไฟที่เงียบหายไปบ่งบอกว่าโจคยูฮยอน
อาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์หรือยอดรักของลีซองมินได้ทำการแก้ไขระบบก๊อกน้ำดับเพลิงแล้วสัญญาณไฟเสียเรียบร้อยแล้ว
คิมฮีชอลกระโดดลงมาจากเก้าอี้แล้วหุบร่มที่กันน้ำจากก๊อกน้ำดับเพลิงเมื่อครู่ก่อนที่จะเดินลากเท้าอย่างสบายอารมณ์เพื่อจะไปหาแผนการกลั่นแกล้งที่ชั้น6ต่อ
แต่แผนการเหล่านั้นก็ต้องยุติไปเมื่อเสียงหวานของลีซองมินดังมาจากเฮดโฟนที่ต่อกับโทรศัพท์มือถือสีแดงของตน
//ฮีชอล อาจารย์ซีวอนตามหาแกอยู่หวะ//
“ก็เล่นออกหนีจากห้องระยำออกมาแบบนี้ไม่ตามหาก็บ้าแล้วหละ”
//ไม่ใช่หวะ
ฉันเห็นทำหน้าเครียดๆด้วย
ตอนแรกมีผู้ชายตัวใหญ่ๆหน้าตาหล่อมาคุยหน้าเครียดกับอาจารย์แก
แล้วจารย์แกก็เลยทำหน้าเครียดตามไปด้วย ตอนนี้จารย์แกให้ผู้ชายคนนั้นนั่งรอที่ห้องประชุมที่แกทิ้งระเบิดตดอะไรนั่นไปแล้วออกไปตามหาแกหวะ//
ร่างบางนิ่งเงียบไป
นิ้วเรียวม้วนผมสีแดงของตนอย่างเคยชินแล้วอมยิ้มที่มุมปาก
“แกว่าฉันควรจะไปช่วยไหมวะซองมิน?”
//อะๆ
ผัวก็ต้องช่วยเมียเป็นธรรมดา จึงเป็นธรรมดาที่เมียจะต้องช่วยผัวเป็นการตอบแทน//
“ไอ้เวร!”เสียงหวานตะโกนด่าเพื่อนรักอย่างหงุดหงิด
แต่ใบหน้ากลับขึ้นสีแดงระเรื่อแล้วใจก็เต้นไม่ปกติเสียแล้ว
//ตกลงแกจะช่วยไม่ช่วย//
“ช่วย! เพราะเป็นคนดีเว้ย
อย่ามาคิดลึกนะไอ้ห่า!”
มีเพียงเสียงพิมพ์แป้นคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็วดังขึ้นมาก่อนที่จะหยุดไปแล้วตามด้วยเสียงของซองมิน
//โอเค ดีมาก! ตอนนี้จารย์แกอยู่ชั้น4//
“ขอบพระคุณมากเพื่อนยาก
แล้วเจอกัน”
--------130%--------
“คิมฮีชอล! ฮีชอล!!!”เสียงทุ้มต่ำตะโกนเรียกชื่อร่างบางพร้อมกับมือหนาที่ปัดหยดน้ำที่เกาะอยู่บนเสื้อตัวเองเพราะก๊อกน้ำดับเพลิงเมื่อครู่ที่คาดเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของเด็กดื้อคิมฮีชอลไม่ก็ลีซองมิน
ชเวซีวอนเปิดประตูห้องก่อนที่จะมองซ้ายทีขวาทีแล้วปิดประตูห้องเมื่อไม่พบบุคคลที่ต้องการพบเจอ
“เด็กดื้อ! ฮีชอล!
นายอยู่ไหนหนะ!!!”
“เรียกหาผมอยู่เหรอครับ?”เสียงหวานจากบุคคลที่ต้องการเจอที่สุดดังขึ้นมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะกระโดดลงมาจากช่องแอร์ด้วยท่าทางช่ำชองราวกับนินจา
“เป็นอะไรกับช่องแอร์
ผลุบๆโผล่ๆออกมาจากช่องแอร์อยู่ได้ เป็นผีช่องแอร์หรือไง?”ถามทีเล่นทีจริงก่อนที่จะมองคนข้างหน้าแล้วอมยิ้มเงียบๆ
‘ผีช่องแอร์’ผมแดงได้แต่หัวเราะแห้งๆกับประโยคเมื่อครู่แล้วยิ้มหวานชวนให้หัวใจร่างสูงเต้นไม่เป็นจังหวะอีกรอบ
“ก็จารย์เรียกหาผมนี่ มีอะไรเหรอจารย์?”
ชเวซีวอนนิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่จะถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ
มือหนาที่เคยกำหมัดเอาไว้คลายลงทันที
“ฉันจะมาเจรจาสงบศึกกับนาย คิมฮีชอล”
เจ้าของชื่อเอียงคออย่างงุนงงพร้อมชี้มาที่ตน
“ผมคนเดียว?”ซีวอนพยักหน้าช้าๆ
“ว่าแต่จารย์มีอะไรกับผมเหรอ
เห็นซองมินบอกว่าจารย์ทำหน้าเครียดมากเลย”
“ลีซองมินแอบดูฉันคุยกับคังอินด้วยเหรอ?”
“คังอินใครอะ? ไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ๆที่รอจารย์อยู่ในห้องประชุมหนะเหรอ?”
ลีซองมินบอกมาหมดเปลือกเลยสินะ=_=lll
ซีวอนคิดในใจก่อนที่จะพยักหน้า
ใบหน้าคมคายที่เคยมีสีหน้าขี้เล่นกลับกลายเป็นจริงจังและดูเคร่งเครียด
“นั่นแหละสาเหตุที่ฉันตามหานาย”
“แล้วมันเรื่องอะไรหละครับ?”
มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางก่อนที่จะเดินนำไปยังห้องประชุมโดยมีฮีชอลเดินตามไปโดยไม่ขัดขืน
“เป็นเรืองที๋ฉันคิดว่านายน่าจะทำได้พอๆกับพังบริษัทฉันเลยหละ”
--------135%--------
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ...ถ้าผมไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณอีทึกนี่
คุณอีทึกก็คง”
“ไม่โดนจับตัวไป! ให้ตายสิ! นายพูดแบบนี้มาหลายรอบจนฉันชักจะรำคาญแล้วนะ เปลี่ยนประโยคบ้าง!”
เสียงหวานดังขัดชายหนุ่มที่ไม่ทันได้จบประโยคของตนขึ้นมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะโดนร่างสูงข้างๆตีป้าบเข้าที่ไหล่ให้พร้อมกับส่ายหน้าว่าเป็นเชิงเสียมารยาท
“จารย์ ผมรำคาญ! พูดอยู่ได้ว่า ‘ถ้าผมไม่ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณอีทึก คุณอีทึกก็คงไม่โดนจับตัวไป’
มันรำคาญอะจารย์ เข้าใจปะ!?!?!”
คิมฮีชอลหันมาแว้ดใส่คนที่ตีตนเมื่อครู่ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วมองหน้าคังอินที่นั่งหน้าเศร้าข้างหน้าตน
“ผมขอโทษ แต่ถ้าผมไม่ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณอีทึก
คุณอีทึกก็คงไม่โดนจับตัวไป”
“นั่นไง
ประโยคคลาสิกของนายมาอีกแล้ว=[]=llll”เสียงหวานบ่นขึ้นมาอย่างเหนือยๆก่อนที่จะเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองหน้าร่างสูงที่นั่งข้างๆตน
“คุณซีวอนครับ
ได้โปรดช่วยคุณอีทึกด้วยนะครับ!”
เจ้าของชื่อยิ้มแห้งๆพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“คุณปาร์คเป็นเพื่อนของพ่อฉัน
บริษัทฉันกับห้างปาร์คตินั่มก็เป็นเหมือนพันธมิตรกัน
ยังไงซะฉันก็ต้องช่วยอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา แล้วนายหละฮีชอล?”ใบหน้าคมคายหันมามองร่างบางผมแดงที่นั่งม้วนผมตัวเองเล่น
“คุณฮีชอลครับ! ได้โปรด”
“คนกันเองน่า!”
ฮีชอลพูดขัดคังอินขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะกระโดดลุกขึ้นมายืนข้างๆซีวอน
ใบหน้าหวานหันมายิ้มให้ร่างสูงซึ่งยิ้มตอบก่อนที่จะหันมามองบอดี้การ์ดหนุ่มอีกครั้ง
“ว่าแต่องค์กรชุดชมพูนี่คือ??”
“คนจากห้าง ABC ครับ”
“นั่นยิ่งดีเลย!!”เสียงหวานตะโกนดังลั่นอย่างกราดเกรี้ยว
ซีวอนและคังอินหันมามองร่างบางที่มีสีหน้าเดือดจัดอย่างงุนงงทันที
เมื่อกี้ยังท่าทางสบายๆชิวๆอยู่เลย พอพูดถึงห้างABCปุ๊บทำไมกลายมาเป็นโมโหจัดขนาดนี้เนี่ย?!?!!
“ของโคตรแพงเลย!
แถมห้างแม่งก็ไม่ได้เรื่อง!”ฮีชอลตะโกนบอกเหตุผลอย่างหงุดหงิดพร้อมกับกอดอกเบ้ปาก
คังอินและซีวอนมองหน้ากันก่อนที่จะมองไปยังร่างบางผมแดงอีกครั้ง
ของแพงเกินไป! นั่นคือเหตุผลใช่ไหม?!! =________=^
“ข ขอบคุณมากนะครับ...ง งั้นผมออกไปรอข้างนอกก่อนนะครับ^^”พูดจบคังอินก็เดินออกไปจากห้องประชุมทิ้งให้ร่างบางยืนอยู่กับคนข้างๆ
ซีวอนทำท่าว่าจะเดินไปแต่ร่างบางผมแดงก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือตน
ซีวอนหันมามองอย่างงุนงง
“ถ้าผมช่วยเนี่ย จารย์จะอย่าเอาโทษเรื่องที่บุก Choi
Groupนะ! อ้อ แล้วก็..ผมชนะจารย์นะ
ศึกครั้งนี้!”
“ห้ะ? ทำไมหละ?”
คิมฮีชอลสบถออกมาเสียงดังพรืดทันทีอย่างหงุดหงิด
ดวงตากลมโตหันมาค้อนให้
“ก็จารย์เป็นคนเจรจาสงบศึกเองนี่!”
“ก็จารย์เรียกหาผมนี่ มีอะไรเหรอจารย์?”
“ฉันจะมีเจรจาสงบศึกกับนาย
คิมฮีชอล”
ประโยคสนทนาก่อนเข้ามาในห้องประชุมดังขึ้นมาในหัวของร่างสูงอีกครั้ง
ชเวซีวอนยืนนิ่งสักพักก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆเป็นเชิงว่ายอมรับ
ร่างสูงหันมาประจัญหน้ากับคนที่ค่อยๆปล่อยข้อมือตนข้างหน้าก่อนที่จะดึงฮีชอลเข้ามาแล้วจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากเรียวอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
ฮีชอลเบิกตากว้างแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสจากริมฝีปากหนาแต่อย่างใด
ดวงตากลมโตค่อยๆปิดลงช้าๆก่อนที่มือเรียวจะโอบรอบคอร่างสูงเช่นเดียวกับที่มือหนาของซีวอนที่โอบรอบเอวบาง
ทั้งสองคนจูบกันอย่างเนิ่นนานก่อนที่ซีวอนจะผละออกมาอย่างแผ่วเบาแล้วย้ายมาจุมพิตเบาๆบนหน้าผากเนียน
ดวงตาคมเข้มส่งสายตาจริงจังไปให้ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“ไม่ว่าเรื่องไหนๆ นายก็ชนะฉันตลอด...คิมฮีชอล”
เจ้าของชื่อยิ้มหวานอย่างพึงพอใจหลังจากที่นิ่งเงียบไปเมื่อจบประโยคจากปากซีวอนเสียนาน
“งั้นถือว่าศึกนี้ผมชนะนะฮะ”
ชเวซีวอนยิ้มกว้างพร้อมกับปล่อยเอวร่างบาง
“นายคิดว่าไงหละ?”
คนตรงหน้าเพียงแต่ยิ้มหวานให้อย่างรู้ใจกันก่อนที่จะเดินนำร่างสูงออกไปข้างนอก
ดวงตากลมโตสั่นระริกอย่างตื่นเต้น ริมฝีปากเรียวกระตุกยิ้มอย่างนึกสนุก
ปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเจ้าของห้างปาร์ตินั่มเริ่มขึ้นแล้ว
ก็แล้วมาดูกันว่าไอ้องค์กรชุดชมพูอะไรนั่นหรือพวกเขา
ใครจะชนะ
Bring it on!
-------------------------------------------------------------------------------------------
รบกวนผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน ไปอ่าน Author's note กันในตอนต่อไปกันหน่อยนะคะ :-)
ว่าด้วยเรื่องของคิบอมและดงแฮ*
ด้วยความที่ว่าฟิกWonder Boy*นี้มันแหวกจักรวาลสุดๆทำให้คู่บางคู่ก็ต้องแหวกกันไปตามเนื้อเรื่อง
บวกกับด้วยความที่ว่าคิเฮมันเยอะ! มันมีมากในdek-d.com
ซ็องและแฟนฟิกบางคนจริงตกลงกันว่าWonder Boy*จะไม่มีคิเฮ!!!
เพราะWonder Boy*จะมีเฮคิ!!
:P
ความคิดเห็น