ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Chapter 16: Mission Possible! (โจ๋เรนเจอร์ออกปฏิบัติการอีกครั้ง!) - Part I
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
ตึก ตึก ตึก ตึก
ร่างใหญ่ในชุดสูทวิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าหล่อมีเหงื่อผุดขึ้นมาหลายหยด
เหนื่อย...แทบขาดใจ...แต่ก็ต้องทำ!
ชายหนุ่มเลี้ยวซ้ายก่อนที่มือหนาจะรีบเปิดประตูบานใหญ่สีขาวที่ตั้งตระหง่าอยู่หน้าตน
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“2นาที15วินาที นายช้าไป15วินาทีนะคังอิน!”
เสียงหวานดังแหวขึ้นมาทันทีที่ร่างใหญ่เปิดประตูห้องเข้ามา
เจ้าของชื่อหอบแฮ่กๆก่อนที่จะช้อนสายตามองดูร่างบางผมทอง
ดวงตาคู่สวยของร่างบางมองลอดกรอบแว่นตาสีดำไปยังใบหน้าหล่อ
“ผมขอโทษครับคุณอีทึก”
ปาร์ค จองซูหรืออีทึก ลูกชายคนเดียวของปาร์ค
มยองซู ประธานบริษัทห้า 'ปาร์คตินั่ม' ห้างสรรพสินค้าที่ติดอันดับต้นๆของเกาหลียิ้มนิดๆก่อนที่จะละสายตาออกไป
และด้วยความที่กลัวว่าลูกชายจะโดนลักพาตัวไปจึงต้องจ้างบอดี้การ์ดรูปหล่อฝีมือดีมาเพื่อดูแลอารักขาเจ้าลูกชายหน้าหวานแสนเอาแต่ใจนี้
ซึ่งมันเป็นงานที่ยากเย็นมากๆสำหรับคังอินในการจับตาดูร่างบางตาสวยคนนี้
แต่เขาก็เลือกที่จะทำ...
เพราะเขารัก...หลงรักอีทึกมานานแล้ว
สามปีแล้วสินะ...
“คังอิน! ฉันอยากไปเอ็มโพเลี่ยน!”เสียงหวานดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งมาเกาะแขนบอดี้การ์ดหนุ่ม
“เอ่อ
คุณอีทึกครับ...ผมเกรงว่าคุณท่านมยองซูจะไม่อณุญาตินะครับ =________=lll ท่านบอกว่าคุณอีทึกต้องอยู่ในห้องนี้จนถึงบ่ายโมง”ใบหน้าสวยสลดลงทันทีก่อนที่ร่างบางจะเดินไปทิ้งตัวลงบนโซฟา
“เชอะ!”ตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับสะบัดหน้าหนีเพื่อให้ชายหนุ่มรับรู้ว่าร่างบางอยู่ในอาการ...’งอน’
คังอินเดินไปยืนข้างๆเจ้านายแสนเอาแต่ใจคนสวยของตนก่อนที่จะถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ
ดวงตาคมจับจ้องไปยังใบหน้าหวานที่มองมาทางตนอย่างตัดเพ้อ
“คุณอีทึกครับ คุณท่านเป็นห่วงสวัสดิการของคุณนะครับ”
“เชอะ!”ผู้เป็นเจ้านายสะบัดหน้าพร้อมกับส่งเสียงไปอีกทาง
มือเรียวยกขึ้นกอดอกพร้อมกับนั่งไขว่ห้าง
ร่างใหญ่เดินอ้อมไปประจันหน้ากับร่างบาง
คังอินย่อตัวลงเพื่อให้ระดับใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันก่อนที่จะยิ้มออกมา
“งั้นผมจะพาคุณไปกินสเวนแซ่บถ้าคุณยอมอยู่ในห้องนี้จนถึงบ่ายโมง”
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ
ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มอย่างมีความสุข
“เย้! รักคังอินที่สุดเลย!”
ร่างใหญ่ได้แต่ยิ้มแล้วกอดตอบคนตาสวยที่กระโดดมากอดตน
“ผมก็รักคุณอีทึกเช่นกันครับ”
รักหมดหัวใจเลยหละครับ
แต่คังอินจะรู้ไหมนะ?
ว่าตอนนี้คนที่เขารักนั้นก็รักเขาเช่นกัน
คนตาสวยได้แต่อมยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของร่างใหญ่
รักนะ...รักมานานแล้ว
รู้ไหมคังอิน?
--------10%--------
ตึก Choi Groupตั้งตระหง่ามีราศีอยู่ข้างหน้าทั้งสามคน
วันนี้เป็นวันพุธ คนเลยค่อนข้างจะเยอะเป็นปกติของวันทำงาน
คิมฮีชอล
ลีดงแฮและลีซองมินยืนมองด้วยแววตากระตือรือร้นและนึกสนุก
ในมือข้างซ้ายของทั้งสามคนถือเป้สีดำเอาไว้ ส่วนมือขวาก็ถือสายจูงหมาคนละสองตัวเอาไว้
“วันนี้ต้องสนุกแน่ๆเลย~”ลีซองมินเปรยเสียงใส
“แฟนแกอยู่อีกฝ่ายนะโว้ย
จะมาสนุกอะไรอีก?”ลีดงแฮตวาดแว้ดใส่แฝดของตนเข้าให้
ผู้เป็นฝาแฝดได้แต่หัวเราะเบาๆ
“ก็แบบนี้ไงถึงสนุก
สุดที่รักพวกแกทั้งสองคนก็อยู่ฝั่งนู้นเหมือนกันนั่นแหละ! คิมคิบอมกับชเวซีวอนหนะ!!”
“มันไม่ใช่สุดที่รักฉัน!!”คิมฮีชอลตวาดกลับเสียงดัง
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อเล็กน้อยผิดกับลีดงแฮที่ยิ้มอย่างพึงพอใจเป็นเชิงเห็นด้วย
“ก็เกือบๆแหละวะ เอาเถอะๆ
เราไปกันได้แล้ว เดี๋ยวพวกนั้นรอนาน”พูดจบซองมินก็เดินพาเพื่อนซี้อีกสองคนเข้าไปในตึก
โจ๋เรนเจอร์ออกปฏิบัติการอีกครั้ง!!
“โอ้ะ...จูงหมามาด้วย
จะมาไม้ไหนอีกหละทีนี้”เสียงทุ้มของโจคยูฮยอนดังขึ้นมาหลังจากที่ชะโงกหน้ามองลงไปดูคนรักและลูกศิษย์ของตนจากทางหน้าต่างชั้นบน
ลีซองมิน...อยู่กันคนละฝั่งตลอดเลยนะ
แบบนี้สิถึงน่าสนุก
ชเวซีวอนกระตุกยิ้มแล้วมองดูทีวีขนาดเล็กที่มีหลายจอ
ทั้งหมดนี้เป็นทีวีที่เชื่อมต่อจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ทั่วทุกมุมตึกของตน
ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังหัวโจกผมแดงที่เดินตรงเข้าไปตรงประชาสัมพันธ์
ใบหน้าหวานมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะมาหยุดอยู่ตรงกล้องวงจรปิด
ดวงตากลมโตเพ่งพินิจอยู่นานก่อนที่จะกระตุกยิ้มอย่างท้าทาย
รู้แล้วเหรอ? ว่าฉันจับตาดูนายอยูทุกฝีก้าวในตึกนี้...คิมฮีชอล
นายจะทำอะไรกล้องวงจรปิดได้?
“พวกนายทำแบบนี้ทำไมเนี่ย = =lll”เสียงหวานของคิมคิบอมดังขึ้นมาเบาๆ
ร่างสูงและร่างสูงโปร่งหันขวับมามองแล้วยิ้มให้แห้งๆ
“แค่แกล้งพวกนั้นสักหน่อย”ซีวอนตอบเรียบๆแล้วอมยิ้มอย่างนึกสนุก
อยากรู้...ว่าจะแพ้ในเกมส์ที่ตัวเองเป็นเจ้าบ้านหรือเปล่า
อยากรู้...ว่าคิมฮีชอลจะทำอะไร
จะเอาอะไรแผลงๆมาอีกหรือเปล่า
“ไม่ใช่ว่าอยากอยู่กับพวกนั้นหรอกเหรอ?
ถึงได้จับตัวคิมแจจุงมา”
“นั้นก็เหตุผลอีกข้อ”ร่างสูงตอบแล้วมองไปยังทีวีขนาดเล็กอีกครั้ง
นายเล่นบอกว่าลางานตลอดปิดเทอมเล็กแถมยังบอกว่าเจอกันวันจันทร์ตอนปิดเทอม
รู้ไหมว่ามันทำให้ฉันทนไม่ได้
ไม่ได้เจอนายทำให้ฉันจะบ้าตายจริงๆ
เพราะฉะนั้น
วิธีนี้...อย่างน้อยก็จะได้สนุกกับนายในช่วงปิดเทอมเล็กนี้
คิมฮีชอล...นายทำให้ฉันคลั่งเมื่อไม่ได้เจอนายรู้ไหม?
--------15%--------
“ฮีชอล~ เอาหมาเข้ามาในบริษัทไม่ได้นะ
รู้กฏอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”เสียงหวานของพี่สาวประชาสัมพันธ์คนสวยดังขึ้นมาเรียกสติจากเจ้าของชื่อที่เพ่งมองกล้องวงจรปิดอย่างพินิจพิจารณาให้หันมามอง
“ก็จารย์ซีวอนเขาสั่งให้พวกผมเอามานี่ฮะ
ใช่ไหมเพื่อนยาก?”เหล่า’เพื่อนยาก’ของร่างบางต่างพากันพยักหน้าขึงขัง
“อ่าาาา...ถ้าคุณซีวอนเขาสั่งก็โอเคจ้ะ”
“เอ่อ
พี่สาวฮะ...ไม่ทราบว่าเห็นคุณจุงยุนโฮอุ้มผู้ชายหน้าสวยๆมาหรือเปล่าครับ?”ซองมินเดินตรงปรี่มาถามหญิงสาว
“ผู้ชายไม่เห็นนะจ้ะ
ถ้าผู้หญิงสวยๆที่ใส่เสื้อ’ 'ชั่วร้าย' หนะ พี่เห็น”
ฮีชอลกับดงแฮมองหน้าเลิกลั่นก่อนที่จะหัวเราะกันเบาๆ
“ผู้หญิงสวยๆเหรอวะ?”ร่างบางผมแดงถาม
“Yeah right!”ร่างสูงตอบพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ
“พี่เห็นคุณยุนโฮอุ้มไปชั้น7หนะจ้ะ”
ลีซองมินรีบหันขวับมามองคิมฮีชอลที่เพิ่งมองหน้ากับลีดงแฮแล้วมามองหน้าตนก่อนที่จะอุทานออกมาเบาๆพร้อมกับทั้งสามคน
“สวรรค์ชั้น7?!”
“แค่นี้แหละครับ
ขอบพระคุณพี่สาวคนสวยมากเลยนะครับ^^”ดงแฮฉีกยิ้มโปรยเสน่ห์แล้วเดินพาเพื่อนซี้อีกสองคนเลี้ยวซ้ายเพื่อที่จะขึ้นลิฟต์
บริเวณที่ขึ้นลิฟต์ทั้งสามตัวนั้นอยู่ตรงมุมตึกจึงไม่ค่อยมีคนเห็นอะไรทั้งสิ้น
แถมตอนนี้ยังปลอดผู้คนอีกเสียด้วย ทั้งสามคนยืนประจันหน้ากับลิฟต์คนละตัว
“ดงแฮ ซองมิน”เสียงหวานเรียกชื่อเพื่อนซี้ของทั้งสองคนที่ยืนขนาบอยู่ข้างๆ
เจ้าของชื่อทั้งสองคนหันหน้ามามองอย่างงุนงง
“เรามาทักทายชั้น2กันหน่อยดีกว่า”พูดจบก็เปิดกระเป๋าเป้สีดำหยิบดอกไม้ไฟขนาดเล็กชนิดที่มีสายยาวลากพื้นออกมา
ดงแฮและซองมินทำตาม
มือเรียวเปิดไฟแช็กแล้วนำมาจ่อตรงสายดอกไม้ไฟก่อนที่จะกดเปิดประตูลิฟต์แล้วนำดอกไม้ไฟไปวางเอาไว้โดยตรงหัวของดอกไม้ไฟหันไปที่ลิฟต์
มือเรียวเอื้อมไปกดปุ่มเลข2ตรงแผงกดแล้วรีบกดปิด
ซองมินและดงแฮทำตามแล้วกลับมายืนอยู่หน้าลิฟต์อีกครั้ง
“ชั้น2เละเมื่อไหร่
สงครามเริ่มเมื่อนั้น”
“What is that?!”เสียงหวานของคิบอมดังขึ้นเรียกความสนใจจากชายหนุ่มอีกสองคนให้หันมามองทีวีจอเล็กต่ำสุดตามที่ร่างบางชี้ให้ดู
ดอกไม้ไฟขนาดเล็กโดยที่หัวจ่อไปยังประตูลิฟต์
มีแสงสีเหลืองเป็นจุดวงกลมเล็กๆที่ค่อยๆเคลื่อนไปตามสายเชือกที่ต่อเข้าไปในดอกไม้ไฟ
“ดอกไม้ไฟในลิฟต์? แถมหัวยังต่อไปยังประตูลิฟต์...???”ซีวอนพึมพำออกมาเบาๆอย่างงุนงงกับภาพที่เห็น
จุดสีเหลืองเล็กๆเป็นวงกลมค่อยๆเคลื่อนใกล้เข้าไปในดอกไม้ไฟทุกทีๆ
“ฉิบหายแล้ว!!!”
ก่อนที่คิบอมจะโทรเรียกพนักงานชั้น2 ก่อนที่ซีวอนจะสบถออกมา
ก่อนที่คยูฮยอนจะโวยวายดังลั่น จุดสีเหลืองเล็กๆก็หายเข้าไปในดอกไม้ไฟ
ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับหมายเลขชั้น2บนจอเล็กๆเหนือปุ่มกด
“Holy...shit”
สิ้นเสียงสบถของชเวซีวอน ดอกไม้ไฟก็มีประกายไฟพ่นออกมาจากทางด้านหลังก่อนที่จะพุ่งออกไปจากตัวลิฟต์
ทั้งสามคนรีบหันไปมองจอทีวีขนาดเล็กอีกอันที่ฉายอยู่ในชั้น2
เสียงกรีดร้องอย่างแตกตื่นของเหล่าพนักงานฝ่ายโฆษณาเมื่อดอกไม้ไฟสามอันพุ่งออกมาจากในลิฟต์
ทุกคนต่างพากันย่อตัวลงไปกับพื้นพร้อมกับสายตาที่มองตามดอกไม้ไฟทั้งสามอันที่พุ่งไปยังหน้าต่างที่เปิดเอาไว้ก่อนที่จะระเบิดออกมาพร้อมกัน
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสามคน มีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังระรัว ดอกไม้ไฟระเบิดไปแล้ว แต่ใจกลับเต้นคึกราวกับกลองศึกกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“ยังดีที่ระเบิดนอกตึก”โจคยูฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"แต่เครื่องคอมพิวเตอร์บางเครื่องก็โดนลูกหลงไปด้วยนะ"คิมคิบอมเปรยเบาๆพร้อมกับมองภาพข้างหน้าอย่างหวาดๆ
เล่นงี้เลยเหรอเนี่ย??? ไม่น่าเชื่อ...กล้าทำจริงๆ
“ทักทายได้ดีนี่คิมฮีชอล”ชเวซีวอนพูดเรียบๆก่อนที่จะกระตุกยิ้มอย่างนึกสนุกตามลงไป
Let’s see what you got!
“เอาหละ
ดูท่าทางว่าการทักทายคงจะประสบความสำเร็จแล้วสินะ”เสียงห้าวของลีดงแฮดังขึ้นมาเมื่อหน้าจอบอกตัวเลขชั้นบนลิฟต์ขึ้นเลข2เอาไว้
“สงคราม...เริ่มแล้วสินะ”ลีซองมินเปรยออกมาเบาๆพร้อมกับขยับกระเป๋าเป้อย่างตื่นเต้น
“ชักจะสนุกซะแล้วสิ”คิมฮีชอลพูดพร้อมกับกลั้วหัวเราะเบาๆก่อนที่จะหันไปมองเพื่อนรักร่วมแผนการอีกสองคน
ทั้งสามคนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจกันก่อนที่ดงแฮจะกดลิฟต์
ส่วนซองมินกับฮีชอลก็เดินขึ้นบันไดไป
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด
ร่างสูงโปร่งของดงแฮก็ก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับหมาอีกหกตัวที่ฮีชอลไปหามาก่อนที่จะกดปุ่นชั้น2 ชั้นที่เพิ่งโดนถล่มไปเมื่อสักครู่
ลีดงแฮยิ้มอย่างตื่นเต้นก่อนที่หัวสมองจะประมวลแผนการต่อไป
แวะไปเอาของฝากจากชั้น2เสียหน่อยคงไม่ว่าอะไรนะ
เสร็จแล้วค่อยไปปล่อยเจ้าหมาพวกนี้ให้เป็นอิสระที่ขั้น3ดีกว่า
--------25%--------
เลข3สีแดงตัวใหญ่หน้าประตูทางหนีไฟโชว์หราอยู่เมื่อฮีชอลและซองมินวิ่งขึ้นมาจากชั้น2
ลีซองมินวิ่งตรงไปแล้วเปิดประตูผิดกับคิมฮีชอลที่เลี้ยวขวาเพื่อวิ่งขึ้นไปชั้น4
“ซองมิน”เจ้าของชื่อหันมามองตามเสียงเรียกของฮีชอล
“ฝากตัดระบบกล้องวงจรผิดด้วยนะ”ร่างอวบยิ้มหวานก่อนที่จะตอบไปอย่างมั่นใจ
“วางใจได้เลย!!”
พูดจบก็เปิดประตูเข้าไปพร้อมๆกับที่ร่างบางผมแดงที่วิ่งขึ้นชั้น4ต่อไป
ซองมินเดินเลี้ยวซ้ายไปเพื่อเข้าห้องน้ำผู้ชาย
ร่างอวบตรงตรี่เข้าไปในห้องน้ำห้องสุดท้ายที่ว่างอยู่ก่อนที่จะปิดประตูแล้วลงกลอน
แล้ปท้อปสีดำถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเป้สีดำ
ซองมินปิดฝาชักโครกแล้ววางแล้ปท้อปไว้บนนั้นก่อนที่จะกดปุ่มเปิดแล้ปท้อป
ส่วนตัวเองก็จัดการหยิบสายต่อไปต่อในปลั๊กโทรศัพท์ที่บังเอิญเจอข้างๆชักโครก
“โชคดีจังเราเนี่ย”ร่างอวบบ่นพึมพำในความโชคดีของตนก่อนที่จะจัดการทำการต่อแล้ปท้อปคอมพิวเตอร์ของตนเข้ากับระบบของตึกนี้
ลีซองมินนั่งลงบนฝาชักโครก
บนตักมีแล้ปท้อปสีดำที่หน้าจอมีรายละเอียดและข้อมูลของระบบบริษัทนี้
ไม่นานก็มีหน้าจออีกหน้าจอโผล่ขึ้นมา มือเล็กรีบต่อเฮดโฟนที่ติดไมโครโฟนเอาไว้ข้างๆพอดีกับปากกับแล้ปท้อปพร้อมกับมองหน้าจอข้างหน้าตน
Now Loading!
เพียงไม่นานตัวอักษรก็หายไปแล้วปรากฏภาพของคิมฮีชอลและลีดงแฮขึ้นมาแทน
//Finish hacking?//เสียงห้าวของลีดงแฮผู้เป็นแฝดดังลอดหูฟังขึ้นมา
ซองมินกระแอมอย่างมีความสุขแทนคำตอบ
//อย่าลืม!//
“ตัดระบบวงจรปิดทิ้ง
ฉันรู้แล้วน่าฮีชอล!”เสียงหวานดังขัดบุคคลที่สามในสายขึ้นมาอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับนิ้วเล็กที่รัวนิ้วใส่คีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั่วทุกมุมตึกChoi Groupก็ปรากฏขึ้นมา
ซองมินใช้นิ้วชี้กดปุ่มEnterพร้อมกับภาพจากกล้องวงจรปิดบนหน้าคอมที่ดับวูบไป
ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับดวงตากลมที่สั่นระริกอย่างตื่นเต้น
จะทำยังไงหละคราวนี้ โจคยูฮยอน?!
--------30%--------
พรึ่บบบบบบบบบบบบบบบบ!!
“เฮ้ย!”โจคยูฮยอนตะโกนลั่นเมื่อพบว่าทีวีที่เคยปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวในตึกนี้จู่ๆก็ดับหายไปต่อหน้าต่อตาตน
จะว่าไฟดับก็ไม่ใช่!.เพราะโคมไฟที่ห้อยต่องแต่งเหนือหัวยังให้ความสว่างอยู่เลย
แอร์ก็ยังให้ความเย็นอยู่
หรือว่าจะเป็นฝีมือของ...
ไม่ทันที่ร่างสูงโปร่งจะได้คิดต่อ
เสียงติ๊ดสั้นๆก็ดังมาจากหน้าจอคอมของตัวเอง
คยูฮยอนหันกลับไปดูก็พบกับข้อความที่ถูกส่งมาบนหน้าจอแล้ปท้อปตัวเอง
อาจารย์โจคยูฮยอนที่รักยิ่งของลีซองมิน :)
ตกใจอะเด้ว่าทำไมจู่ๆไอ้หน้าจอกล้องวงจรปิดก็ดับไป
ผมให้เวลาคิดสามวินาทีนะ
...
...
...
ปิ๊งป่องๆๆๆๆ ถูกต้องแล้วคร้าบบบบ !! >___<
ฝีมือผมเองแหละที่รัก! ฮ่าๆๆๆ
แต่ก่อนที่จารย์จะลงมือแก้ ผมจะให้จารย์ดูสภาพชั้น3ก่อนนะ
จากลีซองมินที่รักโจคยูฮยอนสุดหัวใจขาดดิ้น>///<
พรึ่บบบบบบบบบบบบบบบบ!!!
ไม่ทันที่จะได้ทำอะไรต่อไป
ภาพหน้าจอจากกล้องวงจรปิดชั้น3ก็กลับมาใหม่
แต่ภาพที่เห็นเล่นเอาบุคคลทั้งสามคนที่อยู่ในห้องอ้าปากค้างตาโตกันไปเป็นแถวๆ
สภาพชั้น3หรือชั้นห้องครัวของ Choi Group ที่เคยดูเป็นสะอาดเนี้ยบเป็นระเบียบกลับกลายเป็นเละเทะสกปรกไม่เป็นท่า
ข้าวของกระจัดกระจายเพราะฝีมือของ...
“หมา?”คิมคิบอมเปรยขึ้นมาเบาๆกับสิ่งมีชีวิตสี่ขา5-6ตัวที่กระจัดกระจายกันอยู่ในชั้น3
หมาที่พวกลีดงแฮเอามานี่นา! เอาหมามาเพื่อการณ์นี้เองหรือเนี่ย?!?!!
“เหอะ แผนสูงจริง!ชั้น3เป็นเหมือนแหล่งเสบียงของตึกนี้!เอาสัตว์ที่ได้กลิ่นดีแถมแรงเยอะอย่างกับควายมาบุกเนี่ย!เจ้าความคิดจริงๆ”ชเวซีวอนพูดเรียบๆพร้อมกับหัวเราะหึๆในลำคอ
ดวงตาคมเข้มเหลือบไปมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตน
“เออ ฉันมีประชุม ไปก่อนนะ”พูดจบก็เดินเออกไปจากห้องทันที
คิบอมและคยูฮยอนมองร่างสูงเดินออกไปจนประตูปิดก็หันกลับมามองหน้ากัน
“ไม่เข้าใจซีวอนมันจริงๆเลย
รู้อยู่ว่ามีประชุมแต่ก็ยังคิดจะเปิดสงครามกับพวกซองมินอีก”คยูฮยอนโพล่งออกมาเสียงดัง
“ก็ซีวอนเคยบอกว่าไงหละ?”
คิบอมเว้นวรรคไปก่อนที่จะมองหน้าเพื่อนรักที่นั่งหน้าเครียดหน้าคอมอยู่แล้วพูดต่อไป
“ยิ่งยาก ยิ่งน่าตื่นเต้น”
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาแล้วเงียบหายไปเมื่อคิบอมจบประโยค
ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเปิดประตู ทันทีที่เห็นสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้า
คิมคิบอมก็กรีดร้องเสียงดังพร้อมกับเบิกตากว้างอย่างตกใจทันที
คยูฮยอนเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักตะโกนอย่างตกใจก็จ้ำอ้าวมาดูหน้าประตูก่อนที่จะสบถพรืดออกมาอย่างตกใจไม่แพ้กันกับสิ่งที่บุคลปริศนานำมาวางเอาไว้ข้างหน้าห้องบัญชาการ
ซากคอมพิวเตอร์ที่ไหม้เกรียม
คงเปนเศษซากจากคอมพิวเตอร์ที่ถูกแรกระเบิดจากพลุดอกไม้ไฟเมื่อตอนชั้น2แน่ๆ
“ใครกันนะ?!”เสียงหวานเปรยขึ้นมาอย่างแหบพร่า
หยาดน้ำใสก่อตัวขึ้นบนเบ้าตา
โจคยูฮยอนลูบหลังเพื่อนรักที่ยืนหน้าซีดเตรียมร้องไห้ข้างๆ
ใครกันนะ? ที่ทำแบบนี้
เล่นได้ถูกคนเสียด้วย!รู้กันอยู่ว่าคิมคิบอมเป็นคนที่อ่อนไหวที่สุด
ยิ่งมาเจออะไรแบบนี้ยิ่งทำให้คิบอมแทบจะบ้าตาย
ร่างสูงที่แอบยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของตึกแอบชะโงกหน้ามองคนสองคนตรงหน้าที่มีซากคอมพิวเตอร์วางอยู่ก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“ผมขอโทษฮะอาจารย์”
ผมขอโทษ! แต่อาจารย์กลายมาเป็นเหยื่อของพวกเราเสียแล้ว!
เหยื่อของสงครามจิตวิทยาเล่นๆของลีดงแฮไงหละ!
--------35%--------
ร่างบางคลานไปตามช่องแอร์อย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญโดยแทบจะไม่มีเสียงเลยแม้แต่น้อย
คิมฮีชอลหยุดคลานเมื่อพบตะแกรงที่มีแสงออกมาจากข้างล่างพร้อมกับเสียงพูดคุยที่ดูเป็นการเป็นงาน
“ผมเองก็คิดว่าเราควรจะตัดงบประมาณนะครับ”เสียงทุ้มต่ำที่แสนคุ้นเคยพาลทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะดังลอดมาจากตะแกรงข้างล่าง
ใบหน้าหวานชะโงกไปดูก็พบกับชเวซีวอนที่นั่งอยู่ตรงหัวมุมโต๊ะ
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน...ไม่ใช่เพราะว่าคนตรงหน้านั่งเป็นประธานอยู่ แต่มือหนาของซีวอนกลับไปเกาะกุมกับมือเล็กของหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ
หน้าอกด้านซ้ายที่เต้นปกติเกิดความรู้สึกเจ็บแปลบ
เล็บจิกเข้าไปในอุ้งมือเรียวที่กำแน่นเข้าหากัน
“ไอ้หน้าม่อ!”เสียงหวานสบถพึมพำอย่างโกรธแค้น
รู้สึกหงุดหงิดกับภาพทีเห็นเป็นอย่างมากชนิดที่ว่าอยากถีบช่องตะแกรงบ้านี่ให้หล่นลงไปแล้วกระโดดลงไปแยกทั้งสองคนนั้นออก...
นี่เหรอที่เขาเรียกกันว่า...หึง?!
“แล้วคุณชเวซีวอนคิดว่าอย่างไรหละครับ?”เจ้าของชื่อยิ้มหวานพร้อมกับส่งสายตาโลมเลียไปทางหญิงสาวที่โดนกุมมือ
หล่อนยิ้มอายๆพร้อมกับก้มหน้างุด
“ไปตายซะ!”ฮีชอลสบถเบาๆอีกครั้งอย่างหงุดหงิดพร้อมกับมือเรียวที่ค่อยๆหยิบช่องตะแกรงออกมาอย่างแผ่วเบา
มือเรียวอีกข้างคว้าถุงพลาสติกสีม่วงออกมา
ผงระเบิดตด
ร่างบางรีบเปิดซองก่อนที่จะโปรนผงสีขาวนั่นออกไปจากซองพร้อมกับมืออีกข้างที่ปิดจมูกตัวเองแน่น
ไม่กี่อึดใจต่อมาก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาจากด้างล่าง
เหล่าผู้ประชุมที่เคยนั่งหน้าเครียดกันพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนและเอามือปิดจมูกแน่นพร้อมกับสบถด่าทอเสียมากมาย
คิมฮีชอลกระตุกยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับเฝ้ามองภาพเบื้องล่าง
เป็นไงหละผงระเบิดตดชนิดใหม่...
ข้อดีก็ของผงระเบิดตดนี้คือจะมีปฏิกิริยากับอากาศภายในเวลา30วินาที!!!
ดวงตากลมโตเฝ้ามองเหล่าบุคคลข้างล่าง ร่างสูงของซีวอนลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมองขึ้นไปบนช่องแอร์ที่เปิดเอาไว้
เท่าที่จำได้ ตะแกรงมันยังปิดอยู่เลยนี่?!
ตอนนี้ทำไมมันหายไปแล้วหละ??
หรือว่า...
“คิมฮีชอล!”ซีวอนกัดฟันเรียกชื่อคนที่โผล่มาเพียงเสี้ยวเดียวในช่องแอร์
เจ้าของชื่อยิ้มแห้งๆก่อนที่จะโยนซองผงระเบิดตดลงไปข้างล่างแล้วคว้ากระเป๋าเป้สีดำหันหลังกลับคลานกลับทางเดิมไป
ชเวซีวอนยืนมองซองระเบิดตดสีม่วงที่ค่อยๆร่วงลงมาจากช่องแอร์เงียบๆ
หึๆ...เล่นซะแสบเชียวนะคิมฮีชอล
มือหนาหยิบเอาวอที่เหน็บกางเกงของตนเองก่อนที่จะกรอกเสียงเข้าไป
“คยูฮยอน! คิมฮีชอลอยู่ในช่องแอร์! ตามให้ทีว่าอยู่ที่ไหนแล้วตอนนี้”
--------40%--------
แอ๊ดดดดดดดดดด! โครมมมมมมมมมมมม!!!
เสียงปิดประตูดังลั่นพร้อมกับลงกลอนเสียดังลั่น
ลีดงแฮหันหลังแนบประตูบานเมื่อครู่แล้วทิ้งตัวลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“เฮ้ย! หายไปไหนของมันหนะ??”เสียงยามตะโกนโวยวายดังลอดมาจากข้างนอก
ใบหน้าหล่อเริ่มซีดเผือดในระหว่างที่มือหนาเริ่มค้นหาของในกระเป๋า
ไม่น่าขึ้นชั้น4มาตอนนี้เลย
ทันทีที่ลิฟต์เปิดก็เจอพวกยามยืนอยู่ข้างหน้า
แถมพวกนั้นก็เสือกรู้ด้วยว่าเขาเป็นหนึ่งในคนป่วนชั้น2และตัวการทำเละในชั้น3
เลยต้องมาใช้วิชาตีนหมาโกยเผ่นมาหลบหลังประตูนี่ไงหละ!!!
“หืมม์?”ดงแฮส่งเสียงครางอย่างงุนงงในลำคอกับสิ่งที่หยิบขึ้นมาจากในกระเป๋า
ขวดโค้กที่ยังไม่ได้เปิด?
ดวงตาเหลือบไปเห็นแท่งเมนทอสรสมิ้นท์ที่อยู่ในกระเป๋าเป้สีดำของตน
ทันใดนั้นแผนการชนิดรวดเร็วสายฟ้าแลบก็แล่นเข้ามาในหัวของดงแฮทันที!
“เฮ้ย หรือว่าประตูบานนี้!?”
ไม่ได้การละ! พวกนั้นกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว!!!
ไวเท่าความคิด
มือหนาก็เปิดขวดโค้กแล้ววางไว้ข้างๆตนก่อนที่จะรีบแกะแท่งเมนทอสรสมิ้นต์แล้วเทเข้าไปในขวดโค้กที่เพิ่งเปิดแล้วปิดฝา
ดงแฮลุกขึ้นสะพายเป้แล้วเขย่าขวดโค้กที่มีเมนทอสรสมิ้นต์หลายเม็ดบรรจุอยู่อย่างรวดเร็วจนภายในขวดเริ่มมีฟองหนาขึ้นและอัดแน่นขึ้นเรื่อยๆราวกับจะปะทุออกมาอย่างกับภูเขาไฟ
“1...”
ร่างสูงกระโดดถอยหลังแล้วหันหน้าประจัญหน้าเข้ากับประตูข้างหน้าตน
มือหนายังคงเขย่าขวดโค้กบรรจุเมนทอสรสมิ้นต์ต่อไปเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“2!”
มืออีกข้างเอื้อมมาตรงฝาเปิดเพื่อเตรียมตัวเปิด
ขวดโค้กที่ข้างในมีเมนทอสรสมิ้นต์ตีกันจนเปิดฟองอยู่นั้นยังคงโดนเขย่าแรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับฝาขวดที่ชี้ไปทางประตู
“3!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดด!!!
--------43%--------
ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกมา
ดงแฮก็เปิดฝาโค้กที่จ่อไปหน้าประตูทันที
เมนทอสรสมิ้นต์เมื่อเจอกับโค้กที่เพิ่งเปิดแล้วโดนเขย่าอย่างแรงจะเกิดปฏิกิริยาบางอย่างที่ทำให้โค้กมีฟองอากาศมากขึ้นและทำให้มีแรงดันจากภายในที่จะออกมาจากภายนอกเยอะขึ้น
“อ้ากกกกกก!!!”
เสียงยามทั้งหลายแหล่ที่เปิดประตูมาต่างพากันร้องเสียงหลงเมื่อเมนทอสรสมิ้นต์พุ่งออกมาจากขวดโค้กที่ถูกเขย่าอย่างแรงมาโดนเหล่ายามพวกนั้น
และยิ่งเขย่าแรงมากเท่าไหร่
จะยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น...
ยามทั้ง3คนที่โดนปืนอัดเมนทอสรสมิ้นต์ในขวดโค้กอย่างเต็มแรงได้แต่นอนลงไปกับพื้นทันที
ดงแฮรีบใส่เมนทอสรสมิ้นต์อีกแท่งลงไปในขวดโค้กและเขย่าให้แรงและเร็วอีกครั้งก่อนที่จะเปิดฝาแล้วเล็งไปยังเหล่ายามทั้งสามคนที่นอนอยู่ให้โดนอัดอีกทีเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นมา
“กลับไปลูกช้างจะถวายเมนทอสรสมิ้นต์กับโค้กหนึ่งขวดให้เจ้าพ่อ”เสียงทุ้มบ่นพึมพำขอบคุณเจ้าพ่อที่บันดาลให้กระเป๋าเขามีของแบบนี้ในกระเป๋า
ลีดงแฮกระโดดข้ามเหล่ายามที่โดนอัดพวกนั้นก่อนที่จะหันมามองอีกครั้งอย่างพิจารณาเงียบๆ
ทั้งๆที่ซองมินมันจัดการตัดระบบวงจรปิดแล้ว
แล้วทำไมถึงรู้ว่าเขาเป็นคนร้าย? ถ้าเป็นโทรศัพท์ที่ต่อสายในตึกซองมินก็น่าจะดักฟังได้
แล้วมันจะมีวิธีไหนอีกนะ?
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นสิ่งบางอย่างที่เหน็บเอาไว้ตรงสายเข็มขัดของยามเหล่านั้น
ดงแฮหรี่ตาเพื่อเพ่งมองก่อนที่จะสบถพรืดออกมาทันที
“F*ck!”
สิ่งเดียวที่ซองมินไม่สามารถแฮ้กได้
สิ่งเดียวที่ฮีชอลไม่ได้คาดคำนึงถึง
สิ่งเดียวที่พวกเขาสามคนไม่ได้เตรียมมา
วอ!
แล้วแบบนี้ฮีชอลที่อยู่ในช่องแอร์สักแห่งใน Choi Group จะโดนจับไหมเนี่ย?!
--------45%--------
คิมฮีชอลคลานไปตามช่องแอร์ก่อนที่จะพบกับช่องทางลงที่ใหญ่เกินตัวเขาซึ้งง่ายต่อการลง
ร่างบางไม่รอช้ารีบคลานไปก่อนที่จะกระโจนลงมาจากช่องแอร์ด้วยท่าทางชำนาญทันที
ร่างบางกระโดดลงมาจากท่อช่องแอร์นั้นด้วยท่าทีสง่างาม
ทันทีที่เท้าแตะพื้นก็มองไปรอบๆห้องเงียบๆ
เงียบ! เงียบเกินไป!
เงียบเกินไปจนผิดปกติ!!!
“อะแฮ่ม”
เสียงทุ้มต่ำอันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หัวใจหล่นวูบไปอยู่ถึงตาตุ่ม
ร่างบางทั้งร่างสะดุ้งก่อนที่จะรู้สึกว่าลมหายใจเริ่มดับไปกับเสียงและบรรยากาศมาคุที่แผ่ออกมาจากข้างหลังตน
คิมฮีชอลยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ใบหน้าหวานค่อยๆหันกลับไปตามเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา
ดวงตายังคงเบิกกว้าง
จริงๆด้วย คนตรงหน้าเขา...
ชเวซีวอน!!
“ว่าไงคิมฮีชอล”ร่างสูงข้างหน้าทักด้วยน้ำเสียงกวนอารมณ์พร้อมกับรอยยิ้มกวนบาทาให้
ซีวอนยักคิ้วให้ร่างบางผมแดงข้างหน้าข้างหนึ่งพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ
“อ อาจารย์ ร รู้ได้ไง? ป เป็นไปไม่ได้! ก็ซองมิน!”
“ถึงลีซองมินจะแฮ้กเข้ามาได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแฮ้กไอ้นี่ได้นี่”พูดจบมือหนาก็หยิบอุปกรณ์สื่อสารขนาดกลางที่เหน็บติดเอวเอาไว้ขึ้นมาโชว์ให้ดู
ฮีชอลสบถพรืดกับสิ่งที่เห็นในมือของซีวอน
คราวก่อนเขาใช้มันในการโดดเรียน
คราวนี้คนตรงหน้าใช้มันในการจับเขา!!!
ให้ตายเถอะโรบิน! ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงนะว่าไอ้สิ่งนี้จะมาหลอกหลอนเขาในแผนการบุก Choi
Group!!
“อีกสองคนจะว่ายังไงนะถ้าหัวโจกโดนจับไป”ซีวอนเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนอารมณ์คนตรงหน้าสุดขีด
มือแกร่งคว้าข้อมือบางแล้วดึงให้เดินตามตนไป
ร่างบางได้แต่เดินตามไปเพราะสู้แรงที่มากกว่าของคนร่างสูงที่ลากตนไปไม่ได้
ฮีชอลได้แต่นึกด่าในความโง่ของตัวเองเงียบๆ
ทำไม! ทำไมเขาถึงลืมไอ้สิ่งนี้ไป!!!
ทำไม?! อ้ากกกกกกกกก!!!
“นายแพ้แล้วหละคิมฮีชอล”คำพูดจากคนที่จับมือตนอยู่ดังขึ้นมายิ่งกระตุ้นความโกรธของร่างบางมากยิ่งขึ้น
ใบหน้าหวานพยักหน้าอย่างจำยอมรับในความพ่ายแพ้ครั้งแรกของตน!ทั้งๆที่สมัยก่อน
ซีวอนต่างหากที่เป็นคนแพ้เขาตลอด
เขามักจะได้รับชัยชนะเสมอมา...จนกระทั้งเขาลืมนึกถึงไอ้สิ่งๆนั้นที่เหน็บอยู่ตรงเข็มขัดร่างสูง
เพราะมัน! เพราะมันทำให้เขาต้องโดนจับ!!
ทั้งๆที่เขาไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับซีวอนเลย...
เพราะมัน! เพราะมันทำให้เขาแพ้ให้แก่ชเวซีวอนเป็นครั้งแรก!!!
เขาไม่เคยแพ้ให้ซีวอนเลย
ไม่เลยสักครั้งจนกระทั่งวันนี้!เพราะมัน!!!
ไปตายซะ ไอ้วอระยำ!!!
“หืมม์?”เสียงหวานพึมพำในลำคอเมื่อมีข้อความจากคนรักที่อยู่สักแห่งในตึกถูกส่งมาโชว์หราหน้าจอแล้ปท้อปตน
ถึงลีซองมินตัวแสบแต่รักมากของโจคยูฮยอน!
ดวงตากลมเบิกกว้างก่อนที่จะสบถพรืดเบาๆ
นิ้วเล็กรัวลงบนแนคียบอร์ดอย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็มีรูปฝาแฝดของตนลีดงแฮขึ้นมาทันที
มือเล็กจับตรงไมโครโฟนที่ติดอยู่กับเฮดโฟนของตนก่อนที่จะรีบพูดเบาๆแต่รวดเร็ว
“ฮีชอลพลาดท่าโดนอาจารย์ซีวอนจับไปแล้ว”
//เฮ้ย?! ไอ้วอนั่นใช่ไหม?//
“นายรู้?”
คนปลายสายถอนหายใจเฮือกใหญ่
//ฉันเห็นพวกยามมันเหน็บวอเอาไว้ตรงเข็มขัด!ฉันก็ว่ากำลังจะบอก!แต่นึกไม่ถึงว่าฮีชอลจะโดนจับเร็วขนาดนี้//
ความเงียบเข้าปกคลุมการสนทนาทั้งสองคน
ซองมินหน้าซีดเซียวกว่าเก่า
คิมฮีชอล ตัวการและหัวโจกโดนชเวซีวอนจับตัวไปเสียแล้ว!
คิมฮีชอล ขวัญกำลังใจของการบุก Choi Group ครั้งนี้โดนจับตัวไปแล้ว...
//หรือว่าเราจะแพ้?//
ลีดงแฮเปรยเรียบๆแต่สร้างความกลัวได้ไม่น้อย!ซองมินนั่งเงียบเพื่อประมวลความคิดตน
แพ้...ไม่ได้!
ถึงฮีชอลจะพลาดท่าก็เถอะ...แต่ฮีชอลก็คงไม่ชอบหรอกที่ต้องมาแพ้!
“ดงแฮ
นายทำสงครามจิตวิทยานายต่อไป! ฉันจะหาตัวฮีชอลก่อน”พูดจบก็จัดการรัวนิ้วใส่แป้นคียบอร์ดอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ้กเข้าไปในระบบวงจรปิดนั้นกลับสร้างความประหลาดใจให้แก่ร่างอวบเป็นอย่างมาก
ไม่มี! ไม่มีคิมฮีชอลอยู่สักจอ! ไม่มีแม้แต่ชเวซีวอน!!!
หายไปไหนกันนะ?!!
ติ๊ด!
เสียงติ๊ดสั้นๆที่มาพร้อมกับข้อความจากคนรักที่โชว์หราอยู่หน้าจอ
ลีซองมินรีบกดเปิดเพื่ออ่านทันที
ถึงลีซองมิน!รักมากเลยนะรู้ป่าว ^[]^
หาคิมฮีชอลอยู่หละสิ? ขอบอกว่าไม่มีทางหาเจอหรอก
เพราะว่าคิมฮีชอลถูกขังอยู่ในห้องที่มีระบบวงจรปิดที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ของซีวอนคนเดียวโดยตรงซึ่งนายไม่สามารถแฮ้กเข้าไปได้หรอกนะที่รัก
หุหุ และไม่มีใครรู้ว่าคอมพิวเตอร์ซีวอนและห้องนั้นอยู่ไหน แม่้กระทั่งฉันกับคิบอม
ทำใจเถอะนะที่รัก : ' )
เตรียมตัวยอมรับความพ่ายแพ้เถอะลีซองมิน!
จากโจคยูฮยอน...คนที่รักลีซองมินหมดหัวใจ
“ฮีชอล!นายต้องจัดการเองแล้วสินะ!”เสียงหวานพึมพำถึงเพื่อนรักที่อยู่สักแห่งในตึกนี้เบาๆหลังจากที่อ่านข้อความจบ
ซองมินรัวนิ้วลงบนคียบอร์ดแล้ปท้อปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
ดวงตากลมที่เคยฉายแววตื่นเต้นบัดนี้กลับดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้ฉันคงได้แต่ป่วนไปเรื่อยๆ
ดงแฮก็คงทำสงครามจิตวิทยาต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีนาย
ฉันก็ได้แต่ภาวนาขอให้นายรีบหนีออกมาจากห้องบ้านั่นเร็วๆเถอะนะฮีชอล
เพราะพวกเรากำลังจะแพ้!
โจคยูฮยอนสบถพรืดอย่างหงุดหงิดเมื่อหน้าจอคอมพิวเตอร์ข้างหน้าของตนอยู่ดีๆก็มีเหล่าโฆษณา
อีเมล์ขยะปรากฏขึ้นมาไม่ขาดสายจนตัวเองกดปิดแทบไม่ทัน
แสบนักนะลีซองมิน!
คิดจะทำให้กดปิดไปเรื่อยๆจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลยเร้อะ?!?!!
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้ง
คิมคิบอมลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าประตู
ร่างบางลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูห้องแล้วค่อยๆเปิดออก
เอี๊ยดดดดดดดดดดดด...
ร่างสูงโปร่งของคยูฮยอนที่กำลังนั่งลบเหล่าอีเมล์ขยะหรือโฆษณาที่ผุดขึ้นมานับไม่ถ้วนด้วยฝีมือคนรักตนอย่างเมามันส์เริ่มสังเกตุถึงความเงียบหายไปของเพื่อนรักตน
คยูฮยอนตัดสินใจหันไปมองคิบอมที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูแล้วลุกขึ้นโดยคิดว่าจะกลับมานั่งลบพวกอีเมล์ขยะโฆษณาเหล่านั้นต่อ
“คิบอม!”
เจ้าของชื่อค่อยๆหันใบหน้าหวานที่ซีดเผือกมามองหน้าคยูฮยอนที่ยืนมองตนอย่างงุนงงก่อนที่จะค่อยๆหันหน้ากลับไปมองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าตน
คยูฮยอนมองตามไปก่อนที่จะเบิกตากว้าง หัวใจหล่นไปอยู่ถึงตาตุ่ม
ซากนิ้วชี้ที่ขาดออกมาจากมือใครสักคน
“ฝีมือของใครกันนะ? ใจร้ายที่สุด!!!”เสียงหวานบ่นพึมพำอย่างสั่นเครือก่อนที่จะซุกหน้าเข้าอกแกร่งเพื่อนรักแล้วสะอื้นไห้เบาๆ
ลีซองมิน!ป่วนเรื่องคอมพิวเตอร์
ต้องใช้เวลานั่งหน้าคอม ไม่มีเวลามาเดินเพ่นพ่านแน่ๆ
คิมฮีชอล!สมัยก่อนวนเวียนอยู่ในช่องแอร์ราวกับผีช่องแอร์
ปัจจุบันโดนซีวอนควบคุมตัวไปขังอยู่ในห้องที่กล้องวงจรปิดต่อกับคอมพิวเตอร์ของซีวอนโดยตรง
หรือว่าจะเป็น...!
“ลีดงแฮ...”
เพื่อนรักที่ร้องไห้ยิ่งปล่อยโฮเข้าไปอย่างหนัก
คยูฮยอนลูบหลังเพื่อนเบาๆก่อนที่จะก้มลงไปหยิบนิ้วชี้นั่นขึ้นมา
ร่างสูงโปร่งเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“คิบอม! มันเป็นนิ้วยางเอาไว้แกล้งคน”
เจ้าของชื่อสะดุ้งก่อนที่จะคว้าหมับมาดู
เสียงหวานพึมพำด่าทออย่างหงุดหงิด
ทำซะเหมือนจริงเลย ให้ตายสิ!
“ได้ข่าวว่าลีดงแฮเองก็ยำชั้น3ซะเละ แถมยังทำพวกยามชั้น4สลบอีกนะ”
ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะหน้าซีดลงไป
คยูฮยอนลูบหลังเพื่อนรักเป็นเชิงปลอบโยน
“เอาน่า เรามีคิมฮีชอลเป็นแต้มต่อ! เราชนะอยู่แล้วศึกเนี้ย!”
พูดไปเพื่อให้คนที่พยักหน้ารับรู้กับประโยคเมื่อครู่สบายใจขึ้น
แต่ในใจกลับคิดหนัก
คงจะใช้จุดอ่อนเรื่องความอ่อนไหวของคิบอมสินะ
เพราะถ้าคิบอมร้องไห้แบบทนไม่ไหวเมื่อไหร่ คิบอมจะต้องขอร้องให้ซีวอนยกเลิกสงครามนี่...และพวกเขาจะต้องแพ้!
ถึงแต้มต่อจะเป็นคิมฮีชอลที่ทำให้ฝั่งเขามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
แต่ยังอดห่วงไม่ได้ว่าฝั่งคนรักของเขาลีซองมินจะใช้จุดอ่อนที่เป็นด้านความอ่อนไหวง่ายของคิบอมมาทำให้ฝ่ายเขาเสียกำลังใจและหวั่นไหวไปอีกหรือเปล่า
เท่าที่ทำได้ตอนนี้คือภาวนาขออย่าให้คิมฮีชอลหลุดออกมาจากห้องที่โดนจับขังได้
ไม่อย่างงั้น!สถานการณ์พ่ายแพ้ของพวกนั้นจะกลายมาเป็นชัยชนะ!!
ลีดงแฮที่ยืนมองเหตุการณ์ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆกับตัวเองอย่างรู้สึกผิดต่อร่างบางที่ยืนร้องไห้อยู่
ผมขอโทษครับ!
แต่เพราะฮีชอลโดนจับไปทำให้พวกเรากำลังจะแพ้
จุดอ่อนของฝ่ายนั้นคือคิมคิบอม!ความอ่อนไหวง่ายของอาจารย์มันเปิดช่องทางให้พวกเราสามารถพลิกแผลงโอกาสชัยชนะให้กลับมาได้
ผมรู้ว่าอาจารย์คิบอมต้องทนไม่ไหวแน่ๆถ้าผมเล่นสงครามจิตวิทยากับอาจารย์
อาจารย์จะต้องไปขอร้องอาจารย์ชเวซีวอนให้หยุดศึกนี้อย่างแน่นอนเพราะอาจารย์ทนดูไม่ได้...
และนั่นจะทำให้ฝ่ายของเราชนะไป
--------60%--------
ปึง! ปึง! ปึง!
กำปั้นเล็กทุบรัวบนประตูเหล็กอย่างโกรธแค้น
เสียงหวานตะโกนด่าทอพาดพิงไปถึงบุคคลที่ขังตัวเองอยู่ในห้องบ้านี่
“ไอ้บ้า! ไอ้แรงควาย!
แน่จริงปล่อยผมออกไปเซ่จารย์!!!”
//ก็อยากจะปล่อยนะ
แต่เดี๋ยวพวกฉันก็แพ้หนะสิ//
เสียงทุ้มต่ำดังลอดลำโพงสีดำที่ติดอยู่ในห้องเล็กๆนี้
ดวงตากลมโตตวัดกลับไปมองยังลำโพงตัวนั้นอย่างหงุดหงิด
ในใจนึกอยากจะเดินไปแล้วใช้คีมตัดออกเหมือนที่เคยทำให้รู้แล้วรู้รอด!แต่เขาไม่มีหนะสิ!!!
คีมหนะ!!!
“F*ck!”เสียงหวานสบถออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
//เฮ้! คิมฮีชอล!!
อย่าลืมนะว่าฉันเป็นถึงครู ฉันฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องนะ!//
“Oh tell me about it! Puta!” (Puta = Bitch ภาษาสเปน)
//ห้ะ? ไอ้คำหลังๆนายพูดว่าอะไรนะ?
มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษนี่!”
“ก็มันไม่ใช่ไง!
จารย์ปล่อยผมไปเหอะนะขอร้อง!!”
เสียงหวานที่เคยตะโกนด่าอย่างกราดเกรี้ยวกลับกลายมาเป็นอ่อนลงปนอ้อนวอน ดวงตากลมโตหันไปมองที่กล้องวงจรปิดที่ตั้งอยู่มุมห้องเล็กแล้วส่งสายตาอ้อนวอนให้
//ค คิมฮีชอล! อย่ามาอ้อน! เดี๋ยวฉันก็ใจอ่อนปล่อยนายไปหรอก!//
ประโยคสุดท้ายเจ้าของเสียงพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“จารย์หงะ!”
//เป็นเด็กดีอยู่ห้องนี้จนกว่าฝั่งนายจะแพ้ไปก่อนก็แล้วกันนะเด็กดื้อ!!//
'เด็กดื้อ'สบถพรืดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะมองไปรอบๆห้องที่โดนขังอยู่เมื่อครู่
โต๊ะขนาดใหญ่วางบนกลางห้อง ข้างบนมีช่องแอร์
มีลำโพงและมีกล้องวงจรปิดที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ของซีวอนเท่านั้น!
ร่างบางหันหลังกลับให้กล้องวงจรปิดพร้อมกับมือเรียวที่คว้านหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้สีดำของตน
มือเรียวหยิบกล้องวิดีโอขนาดเล็กที่ไปขโมยมาก่อนปีนช่องแอร์ไป
Maximum Recording...30 minutes
ถ่ายได้ทั้งหมด30นาที
ดวงตากลมโตหันกลับไปมองรอบๆห้องอีกครั้งก่อนที่จะไปสะดุดอยู่บนช่องแอร์ที่มีโต๊ะอยู่ข้างล่าง
ฮีชอลละสายตาจากโต๊ะแล้วมองไปยังกล้องวงจรปิด
สมองเริ่มประมวลแผนการคิดหนีพร้อมกับริมฝีปากเรียวที่กระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
จะให้อยู่กว่าฝั่งเขาจะแพ้งั้นเหรอ?
ชาติหน้าสายๆเหอะชเวซีวอน!
--------65%--------
“คิดจะทำอะไรของเขานะ?”
เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อคนในทีวีเดินไปอยู่ข้างล่างมุมกล้องวงจรปิดที่ไม่สามารถส่องถึงก่อนที่จะออกมาจากมุมๆนั้นแล้วเดินไปเดินมา
นั่งลงบนโต๊ะไม่ก็นอนราบลงไปก่อนที่จะลุกขึ้นไปเดินไปเดินมาใหม่อีกครั้ง
แต่ตราบใดที่คิมฮีชอลยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ในห้องนี้ ฝั่งของเขาก็ต้องชนะแน่ๆ
ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าโดนจ้องอยู่
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองกล้องวงจรปิดที่ต่อกับทางตนโดยเฉพาะ
ริมฝีปากเรียวเล็กสีชมพูฉีกยิ้มออกมาทำเอาหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ยิ่งมีดวงตากลมโตที่ส่งสายตามาทำเอาร่างสูงกลืนน้ำลายเอื้อก
ท่องเอาไว้ชเวซีวอน! เพื่อประโยชน์ส่วนรวม!
นี่ถ้าไม่ใช่เพราะส่วนรวมคงกดราบลงกับโต๊ะไปนานแล้ว!!!
“ถ้านายยังไม่พร้อม...ฉันก็จะไม่มีอะไรกับนาย
ฉันไม่ขืนใจนายหรอกเพราะฉันจะรอ...”
“ร รออะไรจารย์?”
“รอวันที่นายยอมมอบทั้งกายและใจให้ฉัน”
ประโยคที่เคยคุยกันกับร่างบางดังก้องขึ้นมาในหัว
ซีวอนกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังร่างบางผมแดงในจอทีวีทีเดินป้วนเปี้ยนไปมา
ยังไงก็จะรอ!รอวันที่ยอมมอบทั้งกายและใจให้
ถึงจะรู้ว่าวันนั้นมันยังอีกยาวไกล บางทีมันอาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
นายรักฉันบ้างหรือเปล่า? คิมฮีชอล?
บางครั้งการกระทำหรือคำพูดของนายมันก็ฟ้องว่านายก็รักฉัน!แต่บางทีมันก็ไม่ใช่
ได้ไหม? ขอฉันคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมฮีชอล?
ว่าคิมฮีชอลรักชเวซีวอนคนนี้?
เหมือนที่ชเวซีวอนคนนี้รักนายหมดหัวใจที่มีอยู่
“ติ๊ด!”
เสียงดังสั้นๆมาจากกล้องวิดีโอที่ถูกติดเอาไว้ข้างๆกล้องวงจรปิด
ร่างบางผมแดงหันมามองก่อนที่จะฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
คิมฮีชอลขึ้นไปบนเก้าอี้แล้วหยิบกล้องวิดีโอที่ถ่ายหมดแล้วก่อนที่จะดึงปลั๊กสายไฟที่ต่อกับกล้องวงจรปิดออกแล้วนำสายต่อทีวีที่มาจากกล้องวีดีโอริมฝีปากเล็กฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ดวงตากลมโตสั่นระริกฉายแววตื่นเต้น
//เฮ้ย!
คิมฮีชอลทำอะไรหนะ!!!//
เสียงทุ้มต่ำของร่างสูงดังลั่นลอดลำโพงเข้ามาเมื่อพบว่าหน้าจอที่เคยปรากฏภาพร่างบางเดินไปเดินมาอยู่กลับดับวูบลง
เจ้าของชื่อเพียงแต่ยิ้มหวานแทนคำตอบเท่านั้น
มือเรียวค่อยๆวางกล้องวิดีโอลงบนเก้าอี้ก่อนที่จะตรวจดูสายวิดีโอที่เชือมต่อกับกล้องวงจรปิด
นิ้วเรียวกดปุ่มเล่นทันทีพร้อมกับหัวเราะเบาๆอย่างสะใจ
เฮ้ย! คิมฮีชอลทำอะไรหนะ!!!
ทำอะไรหนะเหรอ???
ก็ทำสิ่งที่นายไม่สามารถมองเห็นได้ไงหละชเวซีวอน!!!
ความคิดเห็น