ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มัดใจคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially be Yours

    ลำดับตอนที่ #17 : 6 คืนหวาน พระจันทร์สีชมพูพาสเทล 1/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.51K
      6
      30 มี.ค. 67

    จนแล้วจนรอดทรายรุ้งก็ไม่กล้าทำอย่างที่ทะเลจันทร์แนะนำอยู่ดี ชุดนอนคืนนี้ยังคงใส่แบบเดิมอย่างทุกคืน ไม่ได้นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัว หรือใส่เสื้อคลุมโดยด้านในเปลือยเปล่า วันนี้กว่าธรณ์จะกลับมาถึงบ้านเรือนหอก็เกือบค่ำ ธารณ์เป็นฝ่ายถาม ได้ความว่ามีเคสผ่าตัดด่วนซึ่งกินเวลานานหลายชั่วโมง เขาหอบตำราวิชาการเล่มหนากลับมาด้วยหนึ่งเล่ม กินมื้อเย็นแบบพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัวและส่งเปรี้ยวหวานนอนในห้องธีรดาเรียบร้อยธรณ์ก็ลงบันไดไปด้านล่างแล้วตรงดิ่งเข้าห้องทำงาน

    แผนมัดใจอาจเป็นหมัน...

    ทรายรุ้งคิดเช่นนั้นด้วยเพราะตัวเธอเองที่ไม่กล้าพอ โอกาสต่างๆ นั้นหรือก็ดูไม่เอื้ออำนวย กว่าสามีจะขึ้นมานอนบนห้องเธออาจง่วงจนผล็อยหลับไปแล้วก็เป็นได้ กระนั้นยังหวังลมๆ แล้งๆ ฝากความหวังไว้กับโชคชะตาว่าบางทีอาจเห็นใจ เธอหอบผ้าผ่อนที่ซักเมื่อเช้าใส่ตะกร้าขึ้นมานั่งพับบนพรมขนนุ่มข้างเตียงนอน พับๆ รื้อๆ อยู่หลายครั้งกลับไม่มีทีท่าว่าเขาจะขึ้นห้อง กระทั่งเกือบตัดอกตัดใจ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

    “ค่ะ”

    สิ้นคำอนุญาตประตูจึงถูกเปิดออก ธรณ์พาตัวเองเข้ามาในห้อง ปิดประตูและล็อกลูกบิดตามความเคยชิน เขาวางตำราวิชาการลงบนโต๊ะกลมข้างโซฟาแล้วเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำโดยไม่สนใจทักทายเธอเลยแม้แต่น้อย ช่างแตกต่างกับพี่ธรณ์คนที่จูบและกอดเธอไว้ทั้งคืน

    ทรายรุ้งคิดว่าคืนนี้จะดีกว่าคืนวาน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เหมือนสามีพยายามวางตัวออกห่าง แต่ในความห่างนั้นดูเหมือนเขาพยายามไม่ให้ธีรดาจับสังเกตได้ ซึ่งตรงนี้เขายังไม่รู้ว่าน้องสาวรู้เรื่องทุกอย่างแล้วสิ้น

    ตำราเล่มใหญ่หนาหนักที่เขาวางไว้มีที่คั่นหนังสือคั่นไว้ในหน้าแรกๆ ธรณ์น่าจะเพิ่งได้เล่มนี้มาเพราะเธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอไม่รู้เหตุผลที่เขานำมาในห้องนอนด้วย ทั้งที่ปกติแล้วเรื่องงานทุกอย่างมักจบลงที่ห้องทำงาน เขามักทบทวนตำราที่ห้องนั้น ตรวจงานฟาร์มที่ห้องนั้น

    งานควรทำที่ห้องทำงาน ส่วนห้องนอนมีไว้พักผ่อน

    พี่ธรณ์เคยพูดตอนเธอหอบงานบัญชีของฟาร์มหมูที่ยังคั่งค้างมาจัดการเคลียร์ในห้องนอน

    แต่คืนนี้...เขากลับทำอย่างนั้นเสียเอง

    เธอไม่ควรน้อยใจ แต่พอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ตรงหน้า ทรายรุ้งยอมรับว่าอดน้อยใจไม่ได้เลย สมองกระหวัดนึกถึงเมื่อก่อน ธรณ์ไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ไม่ใช่ผู้ชายที่แสดงความรักแบบเปิดเผย จนเธอรู้สึกเหมือนอกหักเพราะดันคิดว่าเขาคงรักเธอแบบพี่ชายกับน้องสาว สุดท้ายแล้วเมื่อเธอเรียนจบปริญญาตรีและเขายืนยันด้วยคำพูดว่ารัก นั่นแหละเธอจึงมั่นใจว่าไม่ได้รักอยู่เพียงฝ่ายเดียว

    ผ้าที่คลายๆ พับๆ อยู่หลายรอบถูกทรายรุ้งนำมาเก็บในตู้เสื้อผ้า เอาไงก็เอากัน ถึงแผนของทะเลจันทร์ไม่ได้ผล แต่คืนนี้ได้พูดคุยกับสามีเพียงนิดยังดี

    เหมือนโชคชะตาเป็นใจ เพราะหญิงสาวไม่ต้องลงมือ ธรณ์ที่เพิ่งออกจากห้องน้ำหลังแปรงฟันเสร็จก็ถามขึ้นก่อน

    “เพิ่งเห็นว่าเปลี่ยนยาสีฟันใหม่”

    “ค่ะ เพิ่งเปลี่ยนเมื่อเช้า หลอดเก่าหมดไปแล้ว”

    “เบื่อสูตรเกลืออย่างนั้นหรือ”

    มือเรียวกอบกุมกันสองข้างอย่างไม่รู้จะไว้ตรงไหน ดูเหมือนทุกอย่างในร่างกายอยู่ผิดที่ผิดทางไปหมด พี่ธรณ์ก็เถอะ เขาคงลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเธอไม่ชอบยาสีฟันสูตรเกลือ แต่เพราะเขาชอบใช้ หลังแต่งงานและย้ายเข้ามาอยู่บ้านเรือนหอเธอจึงต้องใช้ตามโดยปริยาย ใช้สูตรเกลือมาเรื่อยๆ จนชิน

    “แซนชอบแบบธรรมดามากกว่าค่ะ พี่ธรณ์ไม่อยู่ แซนก็เลยเลิกใช้สูตรเกลือ”

    “อืม”

    “แต่ถ้าพี่ธรณ์อยากกลับไปใช้แบบเดิม พรุ่งนี้แซนซื้อใหม่ให้” ดูท่าแล้ว ธีรดาอยู่ฟาร์มนานกว่ากำหนดการเดิมแน่ๆ อย่างน้อยก็จนมั่นใจว่าแผนมัดใจที่วางกันไว้เดินไปในทิศทางบวก

    “ไม่เป็นไร ลองใช้แบบที่แซนใช้ก็เปลี่ยนอารมณ์ไปอีกแบบ”

    “ค่ะ”

    ทรายรุ้งเลือกเสื้อกับกางเกงสำหรับใส่ไปทำงานในวันพรุ่งนี้แขวนไว้หน้าตู้ให้ธรณ์ หญิงสาวทำเช่นนี้ตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ธรณ์มองภาพตรงหน้าก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาเปลี่ยนไปแต่การกระทำไม่เคยเปลี่ยนสักนิด ไม่ใช่แค่เลือกชุดทำงาน แต่รวมไปถึงชุดนอน

    แล้วถ้าวันใดวันหนึ่ง ไม่มีทรายรุ้งคอยเลือกเสื้อผ้าให้เล่า...

    “เสื้อพี่ธรณ์เริ่มเก่าแล้ว ซื้อตัวใหม่ๆ แขวนไว้ในตู้บ้างก็ดีนะคะ เผื่อมีงานที่ต้องเจอผู้ใหญ่ จะได้ไม่น่าเกลียด”

    “เสื้อพวกนี้น่าเกลียดแล้วอย่างนั้นสิ” ธรณ์นั่งลงบนฟูก ตบฝ่ามือลงบนที่นอนเป็นการบอกว่าให้แม่ของลูกมานั่งลงข้างๆ เธอกับเขาไม่ได้นั่งคุยกันเช่นนี้นานแล้ว

    “แซนไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อยค่ะ” รู้อยู่หรอกว่าเขาน่ะแค่แกล้งพูด พี่ธรณ์ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าแต่ละวันจะแต่งตัวแบบไหน หยิบกางเกงกับเสื้อตัวไหนได้ก็ใส่ ไม่ใคร่สนใจว่าโทนสีจะเข้ากันหรือไม่ “เสื้อในตู้เป็นรอยขาดเพราะหมาแมวข่วน แซนเบื่อจะปะชุนให้แล้วค่ะ หลายแผลเกิน แล้วขืนพี่ธรณ์ใส่เสื้อพวกนี้ไปเจอผู้ใหญ่ แซนต้องโดนดุแน่ๆ ว่าไม่ดูแลสามี”

    “ถ้าอย่างนั้นก็ซื้อใหม่ให้พี่”

    “พี่ธรณ์ยุ่งทุกวัน แซนเลือกให้เองกลัวจะไม่ถูกใจ ทั้งสี ทั้งยี่ห้อ ทั้งคัตติ้ง”

    “แซนก็รู้ว่าถ้าแซนเลือกให้ พี่ใส่ทุกตัว” เพราะอยากคว้าเธอเข้ามากอดทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน จึงต้องทำตัวให้ยุ่งทุกวัน เขาตัดสินใจแล้ว แต่ดวงตากลมโตและเสียงหวานๆ อาจทำให้การตัดสินใจมีปัญหา “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พี่จะทำงานแค่ช่วงเช้า ไว้ช่วงบ่ายจะกลับมารับไปช่วยกันเลือกเสื้อ”

    ใจยังสั่นไม่หายที่วันนี้เขาพูดประโยคยาวๆ และดูผ่อนคลายขึ้นกว่าเมื่อเย็น แต่หัวใจถึงคราวสั่นไหวมากกว่าเดิมเมื่อเขาชวนไปซื้อของด้วยกัน ทรายรุ้งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ ทว่าการไม่คัดค้านคือการตอบตกลงแบบกลายๆ หากปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป เธอคงเป็นผู้หญิงแสนโง่เง่าเต่าตุ่นที่สุดในโลก

    “แซนก็เป็นแค่คนช่วยเลือกเสื้อ”

    “ใครว่า” ธรณ์วางฝ่ามือลงบนศีรษะทุยแล้วลูบผมนุ่มลื่นเบาๆ “แซนเป็นมากกว่านั้น”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×