ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่15 ต้องเคลียร์
บทที่15 ต้องเคลียร์
สามวันผ่านไป
บางครั้งยิ่งไม่อยากเจอก็ยิ่งได้เจอ อริสารู้ซึ้งถึงข้อนี้เป็นอย่างดี ขณะที่เธอภาวนาให้ตัวเองอย่าเจอะเจอศารทูลกลับต้องมานั่งประจัญหน้ากันเสียได้...แถมไม่ได้เจอแค่เขาแต่ยังเจอครบทีม ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งสีหราช และสิรินทรา บางทีหญิงสาวก็รู้สึกว่าตัวเองทำเวรทำกรรมไว้มากเหลือเกินถึงได้เลี่ยงอะไรไม่เคยได้เลย
“นี่กานต์รวี ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอน่ะพามาเปิดตัวใช่มั้ย?” คุณตันหยงส่งเสียงขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าใคร่รู้เมื่อข้างกายของคุณหมอกานต์รวีไม่ใช่ลูกชายลูกสาวแต่เป็นสาวแว่นที่เป็นเพื่อนสนิทของทั้งลูกสาวเธอและลูกชายอีกฝ่าย “คนไหนล่ะ ตาเสือล่ะสิ?”
“เปล่า คนนี้ของหมอสิงห์” คุณหมอกานต์รวีตอบพร้อมกับฉีกยิ้มหน้าบาน “วันก่อนนี่พ่อคุณเพิ่งจะมาบอกว่าคบหากันอยู่ ฉันล่ะตกใจแทบแย่แหน่ะเธอ คิดว่าจะตกล่องปล่องชิ้นกับตาเสือเสียแล้วที่ไหนได้ หมอมาม้ามืดมาก”
“แหม่ หน้าระรื่นเชียวนะเธอ ลูกชายมีแฟนกับเขาสักที แล้วตาเสือล่ะลูก น้องก็เปิดตัวไปแล้วเราไม่มีบ้างเหรอ?” คุณตันหยงแซวภรรยาเพื่อนสามีที่คบหาเป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อกันมาหลายสิบปีก่อนจะหันไปถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามลูกสาวของเธอแต่ตั้งแต่มาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีทีท่าจะเปิดฉากจิกกัดกับลูกสาวของเธอทั้งที่ที่ผ่านมาเจอกันทีไรเป็นต้องทำสงครามกันไม่ทางคำพูดก็สายตา
“ยังไม่บอกครับ บางทีผมอาจจะเปิดตัวให้คุณอาประหลาดใจกว่าไอ้สิงห์ก็ได้” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับลอบมองคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะพ่อเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันจึงมีนัดสังสรรค์กันอยู่บ่อยครั้ง และวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่สองครอบครัวนัดสังสรรค์พร้อมหน้า เป็นการมารวมตัวพร้อมหน้าในรอบหลายปีก็ว่าได้ ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากจะเจอหน้าให้อารมณ์เสียเขาจึงเลี่ยงนัดนี้อยู่บ่อย ๆ อริสาก็เช่นกัน ทว่าวันนี้เขาไม่คิดที่จะเลี่ยงเพราะเขามีเรื่องที่ต้องคุยกับอริสาให้ได้
ทุกอย่างต้องเคลียร์ในวันนี้!!!
“เอ พูดมาแบบนี้อาชักสงสัยแล้วนะเนี่ย” คุณตันหยงเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาใคร่รู้มาให้
“ยังไม่บอกครับ” ชายหนุ่มตอบกลับแม่ของหญิงสาวที่เขาจะต้องเคลียร์ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้คุณอาโฟกัสที่คู่โน่นดีกว่านะครับ ไม่แน่เร็ว ๆ นี้คุณหมอกานต์รวีท่านอาจจะรีบรวบรัดแล้วคุณอาจะต้องเร่งตัดชุดไปงาน”
“ได้ยินนะได้ยิน” คุณหมอกานต์รวีแทรกขึ้นก่อนจะหัวเราะและส่งสายตามีเลศนัยมาทางสองหนุ่มสาวที่พูดถึง “แต่ก็จริงแหละ เธอรีบตัดชุดไว้ก่อนเลยนะ ฉันว่าคู่นี้ไม่เกินปีนี้หรอก”
“โธ่คุณแม่ขา อย่ามองพวกเราด้วยสายตามาดร้ายแบบนั้นสิคะ” นลินญาที่วันนี้ถูกสีหราชพามาด้วยในฐานะแฟนเอ่ยพร้อมกับท่าทีขวยเขินและหวาด ๆ แค่มองสายตาแม่ของหมอหนุ่มก็รู้แล้วว่าท่านอยากให้ลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาขนาดไหน ดูท่าท่านกำลังคิดแผนการจับเธอให้อยู่มัดไม่ผิดแน่
“มาดร้ายตรงไหน แม่แค่อยากมีหลาน ดูสิดู ตันหยงน่ะหลานอายุตั้งสิบสามสิบสี่แล้วแต่แม่สิ หลานสักคนยังไม่มี ขืนรอให้ตกลงปลงใจกันเองมีหวังชาตินี้ทั้งชาติแม่ก็คงไม่มีหลานให้อุ้ม” คุณหมอกานต์รวีพูดด้วยท่าทีน้อยอกน้อยใจ เธอก็อยากจะมีหลานให้เลี้ยงแบบเพื่อนรักบ้างเหมือนกันนะ โอกาสอยู่ใกล้ ๆ จะไม่ให้เธอคว้าไว้ได้ยังไงกันล่ะ
“คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งคะคุณแม่ ฮะฮะ” สาวแว่นได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ อยากจะแย้งเสียจริงว่าท่านไม่ต้องกลัวไม่มีหลานให้อุ้มหรอก ตอนนี้ท่านมีแล้วล่ะเพียงแค่แม่เขาไม่ยอมให้อุ้มเท่านั้นล่ะ ดวงตาใต้กรอบแว่นลอบสบตากับชายหนุ่มข้างกายทว่าชายหนุ่มกลับส่งยิ้มให้ราวกับบอกว่าไม่ต้องห่วงพร้อมกับลอบกระซิบว่ารอดูไปก่อน
ศารทูลมองทุกคนที่นั่งพูดคุยกันอยู่โดยเฉพาะคนที่เงียบเชียบไปอย่างอริสา วันนี้ยัยผู้หญิงใจร้ายแต่งตัวมิดชิดและพอง ๆ จนใครมองรูปร่างไม่ออกใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางหนาเตอะ ปากก็ทาเสียแดงฉ่ำ แต่เขาก็ยังมองออกว่าเธอดูคล้ายคนไม่สบาย เดาได้ไม่ยากว่าคงจะมาจากการอาเจียนอย่างหนักเพราะแพ้ท้องนั่นล่ะ
“ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้อาอรรคให้ผมมารายงานเรื่องที่ให้ไปสืบงั้นผมขอตัวก่อนนะครับเดี๋ยวพ่อกับอาอรรคจะคุยกันเพลินจนผมไม่มีโอกาสบอก” เมื่อสำรวจหญิงสาวอยู่พักใหญ่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจบางอย่างได้และลุกไปหาท่านอาทิตย์ในทันที
เวลาต่อมา
“คุยกันเสร็จแล้วเหรอคะ?” คุณตันหยงเอ่ยถามสามีที่หายเข้าไปคุยกับเพื่อนสนิทและลูกชายของเพื่อนในห้องทำงานเสียนานสองนาน สองสามคนนี้เป็นอย่างนี้หลายครั้งเมื่อมีเรื่องงานต้องคุยกันจนเธอและคุณหมอกานต์รวีชินเสียแล้ว ทว่าครั้งนี้ใบหน้าของท่านอาทิตย์และท่านสัตยาไม่ได้ดีเลยสักนิดและใบหน้าของคนตามไปทีหลังก็มีรอยฟกช้ำผิดจากตอนเข้าไปจนเห็นได้ชัด
“นั่นหน้าไปโดนอะไรมาน่ะเสือ”
“โดนพี่ต่อย” ท่านอาทิตย์เป็นคนเอ่ยกับภรรยาก่อนจะเบนสายตาจากภรรยามาที่บุตรสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ “มีอะไรจะบอกป๊ามั้ยอลิน”
“อะ อะไรคะ?” คนมีเรื่องปิดบังถามอย่างคนร้อนตัว เหงื่อตกเมื่อดวงตาคมกริบของผู้เป็นพ่อมองมา
“นี่หนูจะไม่บอกป๊าเรื่องที่หนูท้องอย่างนั้นเหรอ?” เจอคำพูดของท่านอาทิตย์เข้าไปไม่เพียงแค่อริสาที่ตกใจทว่าคนอื่น ๆ ที่นั่งพูดคุยกันอยู่ในห้องนี้ก่อนหน้านี้ต่างก็ตะลึงไปตาม ๆ กัน
“ท้อง พี่อลินน่ะเหรอครับ?” อินทัชที่ตั้งสติได้ก่อนใครถามออกมาทันทีก่อนจะหันมายังร่างของพี่สาว “พี่อลินท้องเหรอครับ”
“ปะ เปล่า เปล่านะคะ ป๊าเอาอะไรมาพูด”
“เสือบอกป๊า” ท่านอาทิตย์ว่าแล้วก็มองตาขวางไปที่คนคาบข่าวมาบอก ถ้าไม่เห็นแก่เพื่อนเขาอยากจะซัดปากอีกซักหมัดสองหมัดเรื่องเกิดขึ้นมาตั้งหลายเดือนเพิ่งจะมาพูด มันน่านัก
“สะ เสือบอก ป๊าอย่าไปฟังนะคะ นะ นายนี่ใส่ร้ายอลินค่ะ”
“อาทิตย์ก่อนลูกไปซื้อของในร้ายขายยา ป๊าสงสัยเลยให้เสือไปสืบ คำตอบที่ได้มาคือหนูไปซื้อที่ตรวจครรภ์ หนูจะบอกว่าไม่ได้ซื้อไปใช้เองอย่างนั้นเหรอ?”
“คือ คือ”
“เสือมันบอกลุงกับป๊าหนูแล้วว่าตอนไปเที่ยวมันเมาแล้วรังแกหนู” ท่านสัตยาที่เงียบมาตลอดเอ่ยเพื่อให้อริสาได้รู้และไม่ต้องปฏิเสธอะไรอีก “ยังบอกอีกว่าได้ยินหนูสารภาพกับหมอสิงห์แล้วว่าหนูท้อง ไม่ต้องปฏิเสธอะไรแล้วล่ะ ปล่อยให้ลุงจัดการเองนะ”
“เมาแล้วรังแก?” อริสาพึมพำเบา ๆ เช่นเดียวกับสีหราชและนลินญาที่มีสีหน้าไม่เข้าใจทั้งคู่หันไปหาศารทูลแทบจะพร้อมกันแต่ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ตามน้ำไปอย่าพูดมาก
“อรรค ข้าว่าเรามาคุยเรื่อง...”
“ไม่” ท่านอาทิตย์ปฏิเสธเสียงเข้ม “เรื่องนี้ข้าไม่ยุ่ง ปล่อยให้หนุ่มสาวเขากำหนดเส้นทางชีวิตเขาไปแล้วกัน ให้เขาไปตกลงกันเองแล้วค่อยเอาข้อสรุปมาบอกข้ากับเอ็งดีกว่า”
“เฮ้ย เอ็งจะไม่ยุ่งไม่ได้นะเว้ย ขืนให้คิดกันเองหลานก็แย่น่ะสิ” คนเพิ่งรู้ว่าตัวเองจะมีหลานไม่นานแย้งขึ้น ขืนปล่อยให้ลูกชายเขากับลูกสาวอีกฝ่ายคิดกันเองหลานของเขาคงได้ขาดพ่อกันพอดี
“ข้าไม่ยุ่ง เอ็งก็ไม่ต้องยุ่ง หมอกานต์กับตันหยงก็ห้ามยุ่ง เรื่องนี้ให้จัดการเอาเอง ถ้าลูกเอ็งมันรักลูกมากพอเดี๋ยวมันก็จัดการให้เรื่องมันเข้าที่เข้าทางเองนั่นแหละ” ท่านอาทิตย์เอ่ยไม่วายส่งสายตาขุ่นเคืองให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตัวดีที่บังอาจมาขโมยกินน้ำผึ้งเดือนห้าที่เขาทั้งรักทั้งหวง
ศารทูลรู้ดีว่าท่านอาทิตย์เคืองโกรธแค่ไหนและที่บอกว่าจะไม่ยุ่งเพราะอะไรแต่ก็ไม่คิดที่จะเรียกร้องความเห็นใจหรือพูดความจริงออกไป เขาเลือกที่จะให้ทุกคนเข้าใจไปแบบนี้ก็คือแบบนี้
“ตันหยงพาอลินไปพัก ส่วนคนอื่นแยกย้าย บ้านใครบ้านมัน อาหารเย็นคืนนี้ยกเลิก กินบ้านใครบ้านมันไม่เกี่ยวกัน” ท่านอาทิตย์เอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปเป็นคนแรกเป็นอันว่าทุกอย่างยกเลิก วันนี้ท่านยังขุ่นเคืองหวังว่าเพื่อนสนิทจะเข้าใจและรีบพาไอ้ตัวดีออกไปก่อนที่เขาจะซัดมันอีกสักเปรี้ยง
ท่านสัตยาได้แต่ทอดถอนใจก่อนจะยอมถอยทัพกลับ ให้ตายเถอะกำลังซุ่มวางแผนจับคู่สิรินทรากับอธิปไตยอยู่เชียวเจ้าตัวดีดันเข้ามาทำให้ทุกอย่างพังหมด
3ความคิดเห็น