ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 15: One Fine Day (วันธรรมดา ที่แสนจะไม่ธรรมดา)
“ซื้อตัวนี้ไหม?”
“ไม่เอา สีนี้ดีกว่าๆ ฉันชอบสีนี้”
“เฮ้ยๆ สวยๆ มีอีกปะ?”
“มีๆ คราวหน้าใส่ไปเดินไนท์
บ้าซ่ากันเหอะ”
“โอเคเบตง”
บทสนทนาระหว่างร่างบางผมแดงในเสื้อยืดสีขาวสกรีนคำว่า 'สารเลว' กางเกงเด้พสีดำตามแบบฉบับและกระเป๋าผ้าสะพายสีดำที่กำลังยืนถือกางเกงยีนส์เด้พสีอ่อนรุ่นใหม่ให้ร่างบางหน้าสวยที่ใส่กางเกงเหมือนกันแต่เสื้อสีขาวสกรีนตัวอักษรสีดำเขียนว่า 'ชั่วร้าย'
“เสียดายไอ้ดงแฮกับซองมินหวะไม่ได้มาเดินจตุจ้ากกับพวกเรา”เสียงหวานถอนหายใจออกมาพร้อมกับเดินออกมาจากร้านขายกางเกงยีนส์
“ซองมินไปเดทกับจารย์คยูฮยอนส่วนไอ้ดงแฮมันคงไปตามจีบจารย์คิบอมไม่ก็ม่อสาวม่อเคะที่ไหนสักแห่งในโซลนี่แหละ”ร่างบางคนสวย
คิมแจจุงพูดพลางยัดกางเกงที่ซื้อมาใหม่ลงไปในกระเป๋าตน
“งั้นไอ้ดงแฮมันชอบจารย์คิบอมจริงๆอะดิ
เล่นของสูงหวะแม่ง”คิมฮีชอลสบถออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ซองมินโทรมาเล่าให้เขาว่าดงแฮตามหาที่อยู่ของอาจารย์คนสวยคิมคิบอมอยู่ในสมุดเหลืองตั้งแต่ปิดเทอมเล็กยันเมื่อวาน
“มันเอาจริง”แจจุงพูดบ้างพร้อมกับมองหน้าเพื่อนรักที่หัวเราะเบาๆเป็นเชิงเห็นด้วย
“สมมุตินะเว้ยแจจุง
ฉันกับแกเดินจตุจ้ากกันอยู่ดีๆแล้วเราไปเจอจารย์ซีวอนกับจารย์ยุนโฮหละ...”เจ้าของชื่อข้างๆหันขวับมามองตาเขียวทันที
“ฉันก็แค่สมมุติ”ฮีชอลถอนหายใจเบาๆ
“ฉันว่าไม่ใช่แค่สมมุติแล้วหละ”พูดจบก็ชี้ไปยังข้างหน้าตน
ฮีชอลมองตามไปทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับภาพทีเห็น
บุคคลทั้งสองคนที่พูดถึงยืนควงสาวน้อยหน้าตาดีแต่งตัวเซ็กซี่อยู่ข้างหน้าฮีชอลและแจจุง!!!
“ฉิบหายแล้ว...”เสียงหวานของร่างบางผมแดงสบถออกมาเบาๆ
โดยไม่ต้องนัดหมาย
คิมฮีชอลและคิมแจจุงพร้อมใจกันหันหลังกลับแล้วทำท่าว่าจะเดินจากไปทันทีแต่ช้าไปเสียแล้ว...
“คิมฮีชอล!!!/คิมแจจุง!!!”เสียงทุ้มต่ำสองเสียงตะโกนเรียกชื่อร่างบางทั้งสองคนที่กำลังเดินหนีไปเสียงดัง
ฟ้า...สนุกอะไรนักหนา?
ทำไมต้องมาเจอกันด้วย!!!
“เวร!”แจจุงและฮีชอลสบถออกมาพร้อมๆกับพร้อมกับหยุดเดิน
ถอนหายใจอย่างปลงๆแล้วหันหลังกลับไปตามเสียงเรียก
จุงยุนโฮยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีเมื่อพบร่างบางคนสวยทีไม่รู้ทำไมต้องคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
ดวงตาคมจับจ้องไปใบหน้าสวยที่ชักสีหน้าเบื่อโลก
“มาทำอะไรที่นี่หนะ?”ร่างสูงของยุนโฮถาม แจจุงเพียงแต่ยิ้มนิดๆ
“จตุจ้ากมีไว้ทำไมหละจารย์”คำถามตอกกลับชนิดกวนประสาทเช่นเคยดังมาจากปากคิมแจจุงที่พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
“ยุนโฮคะ นี่ใครเหรอคะ?”เสียงดังมาจากหญิงสาวผมสั้นในชุดสายเดี่ยวสีแดงร้อนแรงและกางเกงขาสั้นชนิดเห็นแก้มก้น
“อ่อ คนรู้จักหนะอึนเฮ”พูดยิ้มๆแล้วมองหน้าหญิงสาวที่เกาะแขนตนที่มองหน้าคนตรงหน้าอย่างสมเพชนิดๆ
“จน”คำพูดห้วนๆแต่จี้ใจดำคิมแจจุงดังออกมาจากปากหญิงสาว
“มึง~!”ร่างบางหน้าสวยโวยวายเสียงดังลั่นก่อนที่จะส่งเสียงฮึดฮัดเนื่องจากมือเรียวของร่างบางอีกคนยึดไหล่ตนเอาไว้ไม่ให้ไปซัดโครมหญิงสาวคนนั้น
“แทยองเบื่อพวกคนจนชอบทำตัวเสียงดังจังเลยคะซีวอน”คราวนี้เสียงดังมาจากหญิงสาวเกาะอกดำกางเกงเห็นแก้มก้นอีกคนที่ยืนเกาะแขนร่างสูงอีกคนอยู่
หน้าอกด้านซ้ายของคิมฮีชอลเจ็บแปลบกับภาพที่เห็น
มือเรียวกำแน่นจนเล็บจิกเข้าที่อุ้งมือนุ่ม
“เฮ้ย แจจุง
เบื่อพวกขายตัวชอบแต่งตัวแรดๆสองตัวข้างหน้าฉันหวะ
เอากันเสร็จเมื่อไหร่ก็โดนทิ้งแน่นอนหวะ”เสียงหวานสบถออกมาเสียงดังลั่นทำเอาทุกคนหันมามองยังทั้งหกคนที่ยืนออกันอยู่
แจจุงหัวเราะร่าอย่างรับมุข
“ก็นั่นหนะดิ สงส้ารสงสาร! มีหน้าที่แค่บำเรอความสุขของคนหน้าม่อบางคน!!!”ประโยคสุดท้ายเหลือบไปมองยังจุงยุนโฮทียืนอึ้งอยู่
“คิมแจจุง!”
“เฮ้ย เที่ยงกว่าแล้ว
แจจุงเราไปหาอะไรกินดีกว่า~”พูดจบก็คว้าแขนเพื่อนรักเดินออกไปทันที
“มีเงินพอเหรอ?”
ประโยคที่ไม่น่าเชือว่าดังมาจากร่างสูงอีกคนดังขึ้นมา
คิมฮีชอลหยุดเดินแล้วหมุนตัวมาประจันหน้ากับร่างสูงช้าๆ
ดวงตากลมโตฉายแววปวดร้าวจนคนพูดรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ
ทำไมต้องพูดจาแบบนี้ด้วย...ชเวซีวอน
หญิงสาวนามแทยองยิ้มแสยะยิ้มอย่างมีชัยกับประโยคของร่างสูงเมื่อครู่
หล่อนเอาใบหน้าแนบแขนแกร่งร่างสูงเอาไว้
คราวนี้หน้าอกด้านซ้ายยิ่งเจ็บแปลบเข้าไปใหญ่ ขอบตาร่างบางร้อนผ่าว
“จะไปกินด้วยกันไหมหละ? ฉันกับยุนโฮเลี้ยงนะ”คำพูดตอกย้ำสถานะทางการเงินแบบทางอ้อมดังมาจากปากซีวอนอีกครั้ง
ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังใบหน้าหวานที่ชักสีหน้าเจ็บใจและดวงตาที่ปวดร้าว
คิมฮีชอล...ที๋ฉันพูดไปเพราะว่าฉันอยากให้นายมากินข้าวกับฉัน
ฉันอยากอยู่กับนาย...
คงจะเข้าใจนะ
แจจุงเอื้อมมือไปกุมมือเรียวเพื่อนรักเป็นเชิงให้กำลังใจใบหน้าสวยโน้มมากระซิบเบาๆที่ริมหูเพื่อนรัก
“ฮีชอล...อย่าลืมนะว่าใครเลวมาเราเลวกลับ
ได้เวลาแกล้งคนแล้วหละ..."
ริมฝีปากเรียวกระตุกยิ้มอย่างเห็นด้วย
พลันดวงตาที่เคยฉายแววปวดร้าวกลับกลายมาเป็นเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งและเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก
“ถ้าจารย์เลี้ยงก็โอเคครับ!”เท่านั้นแหละจุงยุนโฮก็ยิ้มร่าอย่างมีความสุขแล้วออกเดินนำที่เหลือไปยังลานจอดรถโดยมีแจจุงและฮีชอลเดินควงแขนกันอย่างมีความสุขตามท้าย
ลานจอดรถจตุจ้าก
“รถสปอร์ตทั้งสองคน!”เสียงหวานของคิมแจจุงดังลั่นขึ้นมา
“เฮ้อออ...ก็มันนึกไม่ถึงนี่ว่าจะมาเจอพวกเธอสองคน”ยุนโฮแก้ตัวเบาๆ
“แล้วชวนมาทำไมเนี่ย...ไม่เป็นไร! เชิญ! เชิญพวกคนรวยนั่งรถรวยๆไป! คนจนจะWALK!!!”ร่างบางหน้าสวยพูดอย่างกระแทกกระทันตรงคนว่า 'รวย' และ 'จน' ก่อนที่จะเดินควงแขนเพื่อนรักตัดหน้ายุนโฮไป
“ฮีชอล!”เสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อร่างบางผมแดง
เจ้าของชื่อหันมามองก็พบกับดวงตาคมเข้มของชเวซีวอนที่จับจ้องมายังตนด้วยสายตาเจ็บปวดอีกครั้ง
“ฉันขอโทษ...”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งหกชีวิต
ฮีชอลยืนอึ้งสักพักกับคำขอโทษจากร่างสูง ร่างบางกระตุกยิ้มอย่างมีความสุข
“คนดีนี่ ทำผิดแล้วยอมรับผิดด้วย”
พูดจบก็กระโดดเดินควงแขนไปจากลานจอดรถพร้อมกับคิมแจจุงทิ้งให้อีกสี่ชีวิตยืนมอง
“ซีวอนคะ?”แทยองเรียกชื่อชายหนุ่มคู่ควงตนก็แทบอึ้งเมื่อเจ้าของชื่อกำลังยืนอมยิ้มอย่างมีความสุขอยู่
เพียงแค่รอยยิ้มและคำให้อภัยของร่างบาง...
หัวใจก็พองโตเสียแล้วหละ!
--------30%--------
“นั่นไง อยู่นั่นไง”เสียงหวานของคิมฮีชอลดังลั่นขึ้นมาเป็นจังหวะเพลงพร้อมกับนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังรถสปอร์ตสีแดงที่ติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าตน
“หา?”คิมแจจุงมองตามไป
“ซีวอนอยู่นั่นไง”
“Over there?”
“นั่นไง อยู่นั่นไง”
“ใครอีก?”
“ยุนโฮอยู่นั่นไง”
“ว้าวววววววววว!!!”ร่างบางหน้าสวยตะโกนเสียงดังลั่น
“นายคิดเหมือนฉันไหมบี1?”เสียงหวานถามเพื่อนรักของตนแจจุงยิ้มแล้วหันมามอง
“ฉันคิดเหมือนนายบี2”
คิมฮีชอลหัวเราะร่าพร้อมกับโอบไหล่เพื่อนรักตน
“ไปก่อกวนความสุขของทั้งสองคนกันบี1!!!!”
ในไม่ช้าทั้งฮีชอลและแจจุงก็เดินมายืนข้างๆรถสปอร์ตีสีแดงที่ติดไฟแดงอยู่
ร่างบางหน้าสวยเดินไปยังรถสปอร์ตสีแดงที่ติดไฟแดงอยู่คนแรก จุงยุนโฮเป็นคนขับ
ร่างบางผมแดงเดินไปยังรถสปอร์ตที่ติดไฟแดงคันที่สอง
ชเวซีวอนเป็นคนขับ
ซีวอนเมื่อหันไปมองก็พบกับร่างบางที่ยืนยิ้มอย่างมีความสุข
ดวงตาคมเข้มเบิกกว้างเล็กน้อยพร้อมกับกระจกรถที่ค่อยๆเลื่อนลง
“เดินเร็วจังฮีชอล”เจ้าของชื่อยิ้มหวานแทนคำตอบก่อนที่จะถามกลับไป
“ใครสั่งให้เอารถสปอร์ตมาเนี่ยจารย์”
“ฉันเอง ทำไมยะ?”เสียงของแทยองที่นั่งข้างๆร่างสูงดังขึ้นมา ร่างบางแสยะยิ้มอย่างสมเพช
“การจราจรมันโคตรจะสะดวกสบายเลยเนอะ!
เอารถมาเนี่ย...นั่งรถไฟฟ้าเอาก็ได้ ฉลาด!!!”
ร่างบางพูดเสียงประชดพร้อมกับสายตาที่จ้องกลับไปอย่างท้าทายไม่เกรงกลัวหญิงสาว
“เอางี้
เรามาเล่นเป่ายิงฉุบกันดีกว่า...ใครแพ้...เดิน!”แทยองเลิกคิ้วอย่างงุนงง
เป่ายิงฉุบ? เล่นกันทำไมเนี่ย?
“อะ ไม่ตอบแสดงว่าเล่นด้วย”ฮีชอลรีบพูดเองเออเองทันที
ร่างสูงแอบกระตุกยิ้มเล็กน้อย
“ป่าววว ยิงงง ฉุบบบ!!!”
แทยองแบมืออกเป็นกระดาษ
หญิงสาวเงยหน้าไปมองฮีชอลที่ทำท่าหัวใจอยู่นอกรถ
“ฉันชนะ! เชิญออก!”ฮีชอลพูดพร้อมกับเดินอ้อมไปยังประตูที่หญิงสาวนั่ง
มือเรียวเปิดประตูออกแล้วกระชากตัวแทยองออกมาก่อนที่จะไปนั่งแทน
“กรี๊ดดดดด ได้ไงยะ!”แทยองกรีดร้องเสียงดังลั่น
มือเรียวของร่างบางใส่เข็มขัด ใบหน้าหวานเงยหน้ามามองแล้วแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ความรักชนะทุกอย่าง!”
ปังงงงงงงงงงงงงง!!
พูดจบก็ปิดประตูรถเสียงดัง
ทิ้งให้หญิงสาวยืนกรี๊ดอยู่คนเดียว กระจกด้านร่างบางเลื่อนลงมาเล็กน้อย
“เดินกลับบ้านไปกับเพื่อนหล่อนก็แล้วกัน...ท่าทางจะแพ้เป่ายิงฉุบเหมือนกัน”แทยองเงยหน้าไปมองก็พบอึนเฮยืนกรี๊ดราวกับคนบ้า
สองคนนี้นี่มัน...ชั่วร้ายสุดๆ!!!
เดทกับหนุ่มหล่อที่รวยติดอันดับของหล่อนต้องล่มไปเพราะคนตรงหน้า!
“โอ้ะ จะไฟเขียวแล้ว~ แล้วเจอกันชาติหน้าบ่ายๆนะจ้ะ”
แล้วรถสปอร์ตทั้งสองคันก็แล่นจากไป
หญิงสาวทั้งสองคนวิ่งมายืนบนทางเดินพร้อมกับกรีดร้องอย่างเจ็บใจเมื่อแพ้ทั้งสองคน
ฉลาดแกมโกง...คิมฮีชอล!!!
--------45%--------
“ฮีชอล...ไอ้เรื่องเมื่อวันศุกร์หนะ...”
ร่างบางสะดุ้งเฮือกทันที
ใบหน้าหวานหันขวับมามองคนขับที่ทำหน้าเครียด
“นายทำฉัน...ต้องช่วยตัวเองเลยนะนั่น
- -lll”ชเวซีวอนพูดออกมาเครียดๆปนอายๆเล็กน้อย
“เอ่อ...แล้วใครมาช่วยจารย์จากกุญแจมือนั่นหนะ?”
“ยุนโฮ
แล้วมันก็ต้องมาเห็นสภาพอนาถารสุดๆของฉัน...เพราะนาย คิมฮีชอล!!!”ใบหน้าคมคายหันขวับมามองเจ้าตัวแสบที่นั่งหน้าซีดอยู่
“เพราะฉะนั้น...นายต้องชดใช้!!!”
ตาย ตาย ตาย ตายแน่ๆคิมฮีชอล!!! เมื่อวันศุกร์ไปทำเขาซะค้างแถมตอนนี้ก็ติดแหงกอยู่กับบุคคลอันตรายต่อเขาสองต่อสองอีก
จะเปิดประตูไปก็เปิดไม่ได้
ไอ้บ้านี่มันล๊อคเอาไว้แถมยังขับรถด้วยความเร็วชนิดเฉียดนรกอีกต่างหาก!!!
คิดสิ คิมฮีชอล...ทำยังไงดีๆๆ
ใช้มันสมองอันดีเยี่ยมของนายคิดเซ่!!!
เอาวะ...ลองไม้ตายนี้ดู!!!
“ผ ผมขอโทษฮะ TT^TT”
ร่างบางเบะปากราวกับเด็กน้อยที๋โดนขัดใจ
หยาดน้ำใสก่อตัวบนเบ้าตากลมแป๋ว
มือเรียวทั้งสองข้างแปะไว้ที่แก้มป่องๆทั้งสองข้างของตน
ดวงตากลมโตช้อนมองร่างสูงด้วยสายตาขออภัยแบบเด็กๆ
เสียงหวานพูดเสียงเบาแต่ใสแจ๋วราวกับเด็กที่กำลังออดอ้อนพ่อแม่
“ผมจะไม่ทำอีกแล้ว
ฮึก...จารย์อย่าทำอะไรผมเลยน้าาาา~ TT[]TT”
ชเวซีวอนเมื่อเจอไม้นี่ถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก
“จารย์ซีวอนอย่าทำอะไรผมเลยน้าาา~
TT____TT ผมยังไม่พร้อมมมม~~”
ร่างสูงอำอึ้งอยู่นานก่อนที่มือหนาจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเปรอะแก้มป่องลมก่อนที่จะประทับจูบบนหน้าผากเนียนเบาๆ
“เด็กบ้า”
คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมามองด้วยแววตางุนงง ซีวอนยิ้มอย่างนึกเอ็นดูแล้วมองใบหน้าหวาน
“ถ้านายยังไม่พร้อม...ฉันก็จะไม่มีอะไรกับนาย
ฉันไม่ขืนใจนายหรอกเพราะฉันจะรอ...”
“ร รออะไรจารย์?”เด็กบ้าคิมฮีชอลถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา รู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัดของตน
มีเพียงจุมพิตที่แผ่วเบาและอ่อนโยนแทนน้ำเสียง ซีวอนผละจูบออกมาแล้วมองหน้าร่างบางด้วยสายตาจริงจัง
“รอวันที่นายยอมมอบทั้งกายและใจให้ฉัน”
จะรอ ถึงแม้ว่าวันที่ว่าจะอีกยาวไกล
อาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำไป..
แต่ก็จะรอคำตอบจากคนตรงหน้า
ความเงียบเข้าปกคลุมหลังจากที่ร่างสูงจบประโยค
มีเพียงสายตาที่จ้องประสานกัน มือหนาที่เกาะกุมมือเรียวบนแก้มเนียน
เสียงลมหายใจดังเป็นระยะๆสม่ำเสมอ แต่เสียงหัวใจเต้นข้างในกลับเต้นระรัวดังก้อง
“จารย์...”เสียงหวานเรียกชื่อคนตรงหน้าแผ่วเบา
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ
'จารย์'ตรงหน้าเอียงคอเป็นเชิงสงสัยเมื่อมือเรียวเอื้อมมาจับใบหน้าคมคายของตน
ริมฝีปากบางเผยอขึ้นเล็กน้อย
“ฮีชอล...”เสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อคนตรงหน้าเบาๆและแหบพร่า
“มองข้างหน้านู่น!!!”เสียงหวานตวาดดังลั่นพร้อมกับมือเรียวที่หันใบหน้าคมคายให้หันไปมองข้างหน้า
ซีวอนหันไปตามแรงผลักของมือเรียวก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อพบว่ากำลังจะชนรถตู้สีขาวข้างหน้า
ร่างสูงหักเลี้ยวแล้วเปลี่ยนเลนส์ทันทีก่อนที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก
มือเรียวตีป้าบเข้าที่ต้นขา ซีวอนสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเหลือบมามองเจ้าตัวแสบ
“จารย์ขับแบบโคตรน่ากลัวอะ!”
“น่ากลัวยังไง?”
“นรกเรียกหาอยู่ลิบๆแล้วรู้ตัวรึเปล่า=[]=“
ซีวอนหัวเราะหึๆในลำคอก่อนที่ความเงียบจะเข้าปกคลุมทั้งสองคน
“เบื่อ”เสียงหวานดังขึ้นมาเบาๆทำลายความเงียบ
ดวงตากลมโตจับจ้องไปยังไม่มีหลังคาสีดันหรู เจ้าของรถที่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อจ้องมามองตนแล้วส่งยิ้มให้
“ทำไม?”ร่างสูงถามไปพร้อมกับหยุดรถจอดตามสัญญาณไฟแดง
เมื่อหน้าคมคายหันไปมองบ้างก็พบกับเจ้าของรถข้างๆที่ส่งสายตาโลมเลียและหื่นกามมาให้ร่างบางข้างๆตน
“รำคาญไอ้รถที่ชอบขับเร็วๆอย่างกับเมืองนอก
ทำอย่างกับจะแข่งรถ!”
คิมฮีชอลกอดอกบ่นพร้อมกับเบ้ปากราวกับเด็กๆ ชเวซีวอนมองยิ้มๆ
ร่างบางถอนหายใจเบาๆ
“ติดไฟแดงทีไรเห็นอยู่ข้างพวกเราสองคนทุกทีเลย!”
“เฮ้
คนสวยผมแดง...นั่งรถกับพี่ไหมจ้ะ”ประโยคคำถามที่ถูกส่งมายังร่างบางผมแดงดังมาจากเจ้าของรถข้างๆรูปหล่อ
“ไอ้...”ซีวอนสบถด่าอย่างโกรธๆ ผิดกับฮีชอลที่สถบพรืดออกมาอย่างหงุดหงิด
มือเรียวกดปุ่มลดกระจุกด้านข้างตน
“นั่งทำห่าทำเหวอะไร!
นั่งแล้วมันจะแล่นได้นานๆมั้ย?”ร่างบางตะโกนด่าออกไปอย่างเหลืออด
“โธ่ น้องสาว...ก็รถมันติดนี่จ้ะ”ชายหนุ่มเจ้าของรถลดเสียงลงแต่ก็ยังส่งสายตาโลมเลียมาให้
“ใครน้องมึง!”คิมฮีชอลตวาดกลับเสียงดังลั่นทำเอาคู่สนทนาสะดุ้งทันที
ชเวซีวอนหลุดหัวเราะเบาๆ
เล่นกับใครมาเล่น...มาเล่นกับคิมฮีชอลเสียแล้ว!!!
“มึงจะขับมาทำไมแถวเนี้ย? ถ้าจะนั่งรถเล่นก็ไปนั่งแถวนอกเมืองนู่น! แถวนี้รถติดมึงไม่รู้หรอ?
ไม่มีใครเขาบอกมึงเหรอ?!?!!!”
พูดจบก็พอดีกับที่ไฟเขียวที่ขึ้นมาพอดี ซีวอนก็จัดการเข้าเกียร์และเหยียบออกไปสุดขีด
รถสปอร์ตสีแดงจากไปแล้วเหลือเพียงรถข้างๆที่เจ้าของรถหน้าเหวอกับคำด่าของร่างบางผมแดงเมื่อครู่
“เมื่อกี้เห็นจารย์ทำท่าโกรธ
เหอะๆ มันแซวผมแล้วจารย์จะมาโกรธทำไม?”ร่างบางถามหลังจากที่ผละออกมาจากรถคันนั้นได้แล้ว
“หึง”
สั้นๆง่ายๆได้ใจความจากปากชเวซีวอน
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกรอบ
“แล้วนายไม่หึงฉันบ้างเหรอ?”หันมาถามร่างบางที่นั่งหน้าแดง
ใบหน้าหวานหันมามองนิดๆก่อนที่จะหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ต ตอนไหนหละ?”
“ก็ตอนที่เจอกันที่จตุจ้ากที่แทยองควงฉัน
และตอนที่นายลากแทยองออกมาจากในรถไง”
ร่างบางก้มหน้านิ่งก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
เอาจริงๆแล้ว...เขารู้สึกหงุดหงิดและเจ็บแปลบที่เห็นซีวอนอยู่กับคนอื่น
เขา...เป็นอะไรไปเนี่ย?!?!!
“ว่าไงหละคิมฮีชอล?”
เจ้าของชื่อยังคงก้มหน้านิ่งแต่ใบหน้าหวานพยักหน้าช้าๆเบาๆแทนคำตอบ
ชเวซีวอนหัวเราะเบาๆแล้วหันไปขับรถต่อ
นายนี่มันน่ารักจริงๆฮีชอล!
--------65%--------
ร้านอาหารอิตาเลียนราคาแพงที่ตกแต่งด้วยสไตล์อย่างหรูทำเอาคนอย่างคิมฮีชอลที่เกิดมาไม่เคยเข้าแทบก้าวขาไม่ออกทันที
“เป็นอะไรไปคิมฮีชอล?”เสียงทุ้มต่ำของคนข้างๆถามขึ้นมาพร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาจับมือเรียวเล็ก
“มันหรู”พูดห้วนๆแต่ดวงตายังคงเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ชเวซีวอนหัวเราะเบาๆอีกครั้งแล้วลากร่างบางไปยังโต๊ะของตนที่มีอีกสองคนนั่งรออยู่แล้ว
“ซองมิน?/ฮีชอล?”ร่างบางเรียกชื่อคนตรงหน้าที่กำลังนั่งหัวเราะร่าอยู่อย่างมีความสุข
เจ้าของชื่อหันมามองพร้อมกับอุทานอย่างตกใจเบาๆเช่นกัน
“อาจารย์คยูฮยอน?”ร่างบางหันขวับไปมองร่างสูงโปร่งที่นั่งยิ้มให้ตน
“แล้วยุนโฮกับคิมแจจุงหละ?”
“แยกตัวออกไปกินที่อื่นแล้ว”
คยูฮยอนพูดไม่ทันขาดคำโทรศัพท์มือถือของซีวอนก็สั่นขึ้นมา
มือหนาหยิบขึ้นมาพร้อมกับดันคนที่อ้ำอึ้งกับความหรูและการพบกันกับเพื่อนรักให้นั่งลงข้างๆซองมินก่อนที่จะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
“เออใช่ฮีชอล!
ดงแฮมันเจอที่อยู่อาจารย์คิบอมแล้วนะเว้ย”ร่างอวบหันมาหาเพื่อนรักตนทันที เจ้าของชื่อเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงอึงทึ่ง
“โอ้ มาย ก้อด! ได้ไงวะนั่น?”
“ก็เจอในสมุดเหลืองเล่มที่ 200 ของปี 2003 หนะสิ
เป็นเจ้าของบริษัทสายการบินอันดับหนึ่งของโลกเลยนะนั่นรวยมาก เก่งมาก...”
“โฮกกก เล่นของสูง~”ร่างบางสบถออกมาพร้อมกับหัวเราะคิกกับซองมิน
“แต่เก่งสู้จารย์คยูฮยอนไม่ได้หรอก”พูดจบก็หันไปสบตาปิ๊งๆกับเจ้าของบริษัทรถยนต์ชื่อดังที่ติดอันดับต้นๆของโลก
โจคยูฮยอนยิ้มหวานให้คนรัก
ซองมินยิ้มกลับแล้วรีบหันมามองร่างบางที่ทำท่าจะอาเจียนกับโลกส่วนตัวอันแสนหวานเลี่ยนของทั้งสองคนข้างหน้าตน
“รู้ป่าว..ดงแฮมันพาอาจารย์คิบอมไปเดทแล้ว”
ปึงงงงงงงงงงงงงง!
มือเรียวตบโต๊ะเสียงดังอย่างลืมตัวทันทีทำเอาทุกคนหันมามอง
ต้นเสียงผงกหัวเป็นเชิงขอโทษขอโพยแต่ในใจตะโกนประโยคเมื่อครู่ที่ได้ยินมาเสียงดังลั่นก้อง
ลีดงแฮพาอาจารย์คิมคิบอมไปเดท???
“แล้วจารย์คิบอมยอมได้ไงวะ?”
ลีซองมินไม่ตอบแต่เบ้หน้าไปอย่างอายๆทางโจคยูฮยอนที่นั่งตรงข้ามตน
คนตรงข้ามร่างอวบยิ้มนิดๆ
“ก็ซองมินขู่เอาไว้ว่าถ้าคิบอมไม่ยอมไปเดทกับดงแฮ
ซองมินก็จะไม่ยอมมาเดทกับฉัน”
อ่อ...มัดมือชกอาจารย์คิบอมว่างั้น =____________=lll
“สุดท้ายคิบอมมันเลยยอมไปเดทกับดงแฮ
ฉันเลยได้มาเดทกับซองมินที่รักของฉันไง”พูดจบมือหนาก็เอื้อมไปกุมมือเล็กพร้อมกับสายตาหวาดเยิ้มที่ส่งไปให้
คนถูกกุมมือได้แต่ก้มหน้างุดอย่างเขินอาย
คิมฮีชอลเบ้ปากก่อนที่จะทำท่าขยะแขยงความรักที่แสดงกันออกนอกหน้าของทั้งสองคน
มือเรียวหยิบเมนูอาหารขึ้นมาก่อนที่จะเบิกตากว้างอย่างตกใจกับราคาที่เห็น
800 วอนขึ้นไป!!!
ให้ตายเถอะโรบิน...อะไรจะแพงขนาดนั้น
“ซีวอนเขาสั่งให้แล้วนะ”เสียงของร่างสูงโปร่งดังขึ้นมา
ใบหน้าหวานหันไปมองอย่างงุนงง
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันหนะจารย์?”
“ก็รู้สึกตอนติดอยู่บนไฟแดงแถวจตุจ้ากหนะ”
ตอนนั้น...เขากับแจจุงยังเดินอยู่บนริมถนนอยู่เลย
ตอนนั้น...ซีวอนกับยัยแทยองยังนั่งอยู่ในรถสปอร์ตอยู่เลย
เอ...แล้วมันรู้ได้ไงวะ?!?!!
“ไอ้หมอนั่นรู้ว่านายจะต้องมาหามันแน่ๆเลยโทรมาสั่งเอาไว้”
ดวงตากลมโตเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจสุดขีด
ชเวซีวอนรู้? รู้ว่าเขาจะต้องพุ่งไปยังรถสปอร์ตและต้องทำให้แทยองออกมาแล้วนั่งแทนให้ได้งั้นเหรอ?
“ล แล้วจ จารย์ซีวอน
เขาสั่งอะไรให้เหรอครับ?”
“สปาเก้ตตี้โบลองเนส((สปาเกตตี้ธรรมดา))”
“ของโปรดแกนี่หว่าฮีชอล”ซองมินโพล่งออกมาพร้อมกับมองหน้าเพื่อนรักที่นั่งตาโตอีกครั้ง
รู้ได้ไง?? ชเวซีวอนรู้ได้ไง?!?!
“ซอสของโบลองเนสเป็นซอสมะเขือเทศสีแดง”
เสียงทุ้มต่ำของบุคคลที่นึกสงสัยอยู่ในใจดังขึ้นมา
ชเวซีวอนเดินมานั่งตรงข้ามกับร่างบางแล้วยิ้มให้
“เห็นโบลองเนสทีไรแล้วนึกถึงผมสีแดงของนายทุกที
ฉันก็เลยคิดว่าโบลองเนส...”
ดวงตาคมเข้มส่งสายตาจริงใจมาให้พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมากุมมือเรียว
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ
“...มันเหมาะกับนาย”
ใบหน้าหวานที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงแจ๋กับคำพูดเมื่อครู่บวกกับมือหนาที่กุมมือตนและสายตาจริงใจที่ส่งมาหาตน
คิมฮีชอลนั่งอ้ำอึ้งอยู่นานอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะทั้งเพื่อนซี้อย่างลีซองมิน
คนรักเพื่อนซี้อย่างโจคยูฮยอนและคนที่ทำให้ตนหน้าแดงและใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างชเวซีวอนต่างจับจ้องมายังตน
ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังซองมินที่ส่งยิ้มแซวๆให้ตนแล้วมองไปยังคยูฮยอนที่อมยิ้มก่อนที่จะมองไปยังคนที่ทำให้อายถึงขีดสุดอย่างชเวซีวอนที่มองหน้าตนแล้วยิ้มอย่างมีชัยให้
คิมฮีชอลเลิกลั่นทำตัวไม่ถูก ดวงตาพลันไปสะดุดกับเมนูบนโต๊ะ
ก่อนที่จะคิดอะไรต่อไปได้อีก
สมองร่างบางก็สั่งให้ทำไปตามใจคิดทันที...
ปึงงงงงงงง!!
ใบหน้าหวานฟาดลงบนโต๊ะอย่างแรงเพื่อไม่ให้เห็นสีหน้าอายๆของตน
มือเรียวคว้าเอาเมนูตั้งโต๊ะมาตั้งฉากบังหน้าตนเอาไว้พร้อมกับมือเรียวที่อีกข้างที่ทำท่าว่าจะชักกลับมาแต่ก็โดนมือหนาของคนที่นั่งตรงข้ามยึดเอาไว้
ลีซองมินมองการกระทำกลบเกลื่อนความอายชนิดคาดไม่ถึงของเพื่อนตน
ร่างอวบหัวเราะนิดๆก่อนที่จะอมยิ้ม
ใบหน้าหวานเอนไปซบลงบนมือหนาที่กุมมือเล็กตนอยู่
มือหนาอีกข้างของโจคยูฮยอนเอื้อมมาลูบหัวคนรักเบาๆอย่างรักใคร่
ชเวซีวอนมองร่างบางที่ตอนนี้โดนเมนูกันเอาไว้ไม่ให้เห็นหน้า
เสียงสบถพรืดของคิมฮีชอลดังอุบอิมมาจากหลังเมนูตั้งฉากนั้น
ร่างสูงได้แต่หัวเราะขำๆกับท่าทีของคนตรงหน้าตน
ความจริงข้อใหม่เกี่ยวกับคนตรงหน้า...
คิมฮีชอล...ถ้าอายถึงขีดสุดต่อหน้าคนอื่นแล้วจะทำตัวไม่ถูก!!!
--------78%--------
“จารย์กินอะไรดีฮะ?”
“เส้นเล็ก ไม่ใส่ถั่วงอก^^”
“โอเค...เฮียชินคร้าบบบ
ออเดอร์หน่อยคร้าบบบบบบ!!!”
ชายหนุ่มร่างท้วมเดินอารมณ์ดีมายังโต๊ะของทั้งสองคน
“มาอีกแล้วนะ ดงแฮ...อ้าว!
อาจารย์คิมคิบอม!”เจ้าของชื่อทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมามองด้วยปฏิกิริยาที่แตกต่างกัน
ลีดงแฮยิ้มร่ากับบุคคลร่างท้วมข้างหน้าตน
ส่วนอีกคน
คิมคิบอมได้แต่ทำตาโตอย่างงุนงงกับการปรากฏตัวของบุคคลข้างหน้าตน
“อ อาจารย์ใหญ่ชินดง?”
เจ้าของชื่อในเสื้อสีขาวและกางเกงเลขาสั้นยิ้มร่า
มืออ้วนเอื้อมไปหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลอ่อน
“แหมๆ
ประธานบริษัทสายการบินที่ดีที่สุดในโลกให้เกียรติมากินร้านก๋วยเตี๋ยวต่ำต้อยของผมเชียวหรือนี่?
ฮะๆ ก็ไม่บอก ผมจะได้ปูพรมแดงเอาไว้ต้อนรับ...ลีดงแฮ!
ทำไมไม่โทรมาบอกฉันก่อนหละ?”ร่างท้วมหันไปแขวะร่างสูงอีกคนที่กำลังนั่งยิ้มอยู่
คิบอมหันไปบ้าง
“ดงแฮ? นายรู้?!?!!”
“โธ่ อาจารย์คิบอม! ไอ้ดงแฮมันหนะ
ลูกค้าประจำผมเลย! พวกคิมฮีชอล คิมแจจงแล้วก็ลีซองมินก็เหมือนกัน”ใบหน้าหวานของคิมคิบอมชักสีหน้าโมโหเล็กน้อย
“แล้วทำไมไม่บอกครู?!?!”เสียงหวานตวาดแว้ดจนคนตรงหน้าที่หัวเราะร่วมกับชินดงสะดุ้งแล้วทำหน้าซีด
“โด่จารย์หงะ TT^TT ก็ผมนึกว่าจารย์จะรู้แล้วนี่ ดูชื่อร้านแล้วน่าจะรู้นะ”คิบอมถอนหายใจแล้วมองไปยังชื่อร้านที่ปักอยู่บนผ้ากันเปื้อน
ก๋วยเตี๋ยวลุงชิน
“ว่าไงหละ
ตกลงเอาอะไรครับอาจารย์คิบอม?”
“เส้นเล็กไม่ถั่วงอก
ผมเอาแบบเดิมนะครับ!”
“โอเค^^”แล้วอาจารย์ใหญ่ชินดงหรือเจ้าของร้าน’ก๋วยเตี๋ยวลุงชิน’ก็เดินจากไป
คิมคิบอมหันขวับมามองหน้าลูกศิษย์ที่พาตนมาเดท ราวกับรู้ว่าโดนจ้องอยู่ ลีดงแฮเงยหน้ามาฉีกยิ้มให้ร่างบางข้างหน้าตน
นี่ที่เขามาเดทก็เพื่อที่คยูฮยอนจะได้ไปเดทกับลีซองมินนะเนี่ย!
แต่ทำไม...ใจต้องเต้นตึกตักเวลาอยู่กับคนตรงหน้าด้วยหละ?!?!
“จารย์...มันอาจจะไม่อร่อยเท่าไอ้พวกอาหารชั้นสูงที่จารย์กินมานะ
แต่ร้านนี้หนะ อร่อยมาก! หมึกดำรับประกัน!!!”ไม่ว่าเปล่าก็ยกนิ้วโป้งพร้อมกับน้ำเสียงมั่นใจสุดขีด
“คือจารย์ก็ทราบนะฮะว่าฐานะการเงินผมมันไม่ค่อยดีหนะฮะ
ที่ผมพามาก็ได้แค่นี้จริงๆ...จารย์ก็รู้...ผมมันจน...”
“ไม่หรอก
ดงแฮเป็นคนแรกที่พาครูมาที่แบบนี้
คนอื่นมักจะพาไปที่หรูๆซึ่งมันดูไม่เข้ากับตัวเองเลย...แต่ดงแฮ...นายเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองนะ
ครูชอบที่นายพามากินร้านแบบนี้...เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มากินเลยหละ”
คิบอมตอบอายๆแล้วมองไปรอบๆร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตกแต่งด้วยสไตล์เรียบๆและบรรยากาศที่ดูเป็นกันเอง
“อาจารย์ชินดงทำงานสองอย่างเลยเหรอ?”
“ครับ!
เฮียชินเป็นทั้งอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแล้วก็เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวนี้หนะครับ”
“ทำไมหละ?”เสียงหวานถาม
“ก็เฮียชินชอบทำก๋วยเตี๋ยวไงหละฮะ!
มันก็เหมือนจารย์นี่ครับ เป็นเจ้าของบริษัท อยู่ดีไม่ว่าดี...ทำไมต้องมาเป็นอาจารย์ด้วยหละครับ?”
คิบอมยิ้มหวาน
ดวงตากลมก้มหน้าลงแล้วอมยิ้มอีกครั้ง
“ครู ยุนโฮ คยูฮยอนและซีวอนเป็นครูมาก่อนที่จะมาเป็นประธานบริษัท
พวกเราสี่คนจบครูมาแล้วเป็นครูมาได้ประมาณ4ปีก็ต้องมารับหน้าที่ประธานบริษัทต่อจากพ่อของแต่ละคน
แต่ถึงยังไง...พวกเรา4คนก็รักการสอนหนังสือมาก...ก็เลยทำงานควบคู่ไปด้วย”
“แล้วงานมันไม่หนักเหรอครับ?”
“มันก็หนัก
แต่มันเป็นงานที่เรารักทั้งสองอย่างเลยนี่...แต่การเป็นครูที่โรงเรียนนี้มันหนักหนาสาหัสกว่าโรงเรียนอื่นๆอีกนะ”
“ทำไมหละครับ?”เสียงห้าวถามงงๆ
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงตรงหน้าแล้วยิ้มให้เศร้าๆ
“เด็กมันดื้อ!
หาเรื่องโดดเรียนไม่ก็ปั่นหัวครูได้ตลอดเวลา
เกิดมาไม่เคยเจอเด็กที่แสบขนาดนี้มาก่อน ทั้งยุนโฮ คยูฮยอน ซีวอนและแม้แต่ครูก็คิดแบบนี้”
ความเงียบเข้าปกคลุมหลังจากที่คิบอมจบประโยค
ดงแฮถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก้มหน้าลง คิบอมมองการกระทำของร่างสูงตรงหน้างงๆ
“เขาว่ากันว่าเด็กที่เป็นแบบนี้แสดงว่าทางบ้านหนะมีปัญหาใช่ไหมฮะ?”
ใบหน้าหวานพยักหน้างงๆ
“พวกผมสี่คน...ไม่มีใครมีครอบครัวที่อบอุ่นเลยสักคน...”
“ดงแฮ...”
“คนที่น่าสงสารที่สุดคือฮีชอล...พ่อแม่เป็นใครมันยังไม่รู้
เป็นเด็กกำพร้าที่มีคนๆหนึ่งเก็บมาเลี้ยง ฮีชอลมันเลยนับถือคนนั้นว่าเป็นแม่
ต่อมาแม่ฮีชอลไปแต่งงานกับพ่อของเรียววุค แล้วก็มีเรียววุคออกมา...”
“...พ่อของเรียววุคมันก็โคตรจะสารเลวเลย
ชอบทำร้ายร่างกายแม่ไอ้ฮีชอลรวมทั้งตัวมันเองด้วย ฮีชอลมันเลยโคตรจะเกลียดพ่อมัน
แต่มันรักเรียววุคมาก โคตรหวงน้องเลยไอ้ฮีชอลหนะ!!!
สุดท้ายแม่ของฮีชอลก็เสียชีวิตไปเมื่อราวๆ2ปีก่อน
ในงานศพมีแค่ฮีชอลกับเรียววุคที่ยืนร้องไห้ พ่อมันหนะเหรอ? ออกไปกินเหล้าที่ไหนแล้วก็ไม่รู้!!!”
“ครูไม่รู้มาก่อนจริงๆ...ฮีชอลเขาดูเข้มแข็งมากเลยนะ
เป็นหัวโจกของแก็งพวกนายเลยนี่”
“เข้มแข็งก็จริงแต่ข้างในหนะอ่อนแอมากเลยฮะ
เพราะสภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้ฮีชอลเป็นคนที่ดูแสบที่สุดในกลุ่มและขึ้นblack
listของโรงเรียนตลอด”
คิมคิบอมพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
“จารย์รู้สาเหตุที่ฮีชอลไว้ผมสีแดงแล้วไม่ยอมย้อมกลับไหม?”
ร่างบางส่ายหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ของดูต่างหน้าแม่มัน...พอน้ำยาเปลี่ยนสีผมมันเหลือแม่ของฮีชอลเลยเอามาย้อมให้ฮีชอล...พอแม่มันตายฮีชอลมันก็เลยไม่ยอมย้อมกลับอีกเลย”
แสดงว่าซีวอนเองก็คงรู้เรื่องนี้ถึงได้ไม่ว่าเรื่องที่คิมฮีชอลยังคงไว้ผมสีแดงต่อไปสินะ
“แจจุงหนะ...พ่อแม่หย่ากัน
มันอยู่กับแม่มัน ส่วนพ่อหายไปอยู่ต่างประเทศ
นานๆทีจะกลับมาแล้วพาแจจุงไปอยู่ด้วยเป็นเวลาอาทิตย์กว่าๆ...แจจุงเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในกลุ่มเราแล้วหละฮะ”
“แล้วนายกับลีซองมินหละ?”
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับแววตาเศร้าสร้อยและปวดร้าวเป็นที่สุด
“พ่อเสีย...แม่แต่งงานใหม่...พ่อเลี้ยงแม่งโคตรระยำเลยจารย์!!!”ดงแฮพูดอย่างโกรธแค้นเป็นที่สุด
ดวงตาแทบจะลุกเป็นไฟเมื่อนึกถึงเรื่องนี้
“ท ทำไมหละ?”
ลีดงแฮหันขวับมามองแล้วถอนหายใจเบาๆ
“ไอ้พ่อเลี้ยงสารเลวนั่นมันข่มขืนซองมินตอน9ขวบ!”
คิบอมใจหายวูบกับประโยคที่ได้ยินมาเมื่อครู่
“มันขืนใจซองมินไปหลายรอบมากจนไอ้ซองมินมันกลายมาเป็นโรคกลัวความมืดเพราะไอ้สารเลวนั่นชอบข่มขืนซองมินในที่มืดๆ...และที่ระยำไปกว่านั้นก็คือตอนซองมินอายุ14ปี มันพาผมกับซองมินไปขายให้ผับเพราะมันติดหนี้เอาไว้
แล้วแม่ก็ไปยอมมันด้วย!!!”
ยิ่งได้ฟัง...ก็ยิ่งนึกสงสารจนน้ำตาคลอเบ้า
ชีวิตของเด็กสี่คนนี้...รันทดและเลวร้ายมามาก
“ซองมินมันชอบมาร้องไห้ให้ผมฟังบ่อยๆว่ามันทนไม่ไหว...แต่ก็ไม่ได้
เพราะเราต้องทำงานหาเงินนี่ครับจารย์...ผมเองก็ต้องทำ...”
“แต่ตอนนี้คยูฮยอนก็ซื้อตัวลีซองมินไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ครับ
ซองมินเลยดูมีความสุขมาก...ผมก็ดีใจไปกับมันด้วย”
และความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งสองคนอีกครั้ง
“ฮีชอลเคยพูดกับพวกผมเอาไว้ครั้งหนึ่ง”ดงแฮเปรยออกมาเบาๆ
“คิมฮีชอลพูดเอาไว้ว่าอะไรเหรอ?”
ลีดงแฮยิ้มเศร้าๆให้
“C'est la vie.”
คิมคิบอมได้แต่ทวนคำที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเบาๆ
ร่างสูงของดงแฮพยักหน้าแล้วยิ้มก่อนที่จะบอกคำแปลให้
“This is life.”
ชีวิต...มีขึ้นและมีลง
มีหลากหลายสีสัน หลากหลายอารมณ์
มีหัวเราะมีร้องไห้ มีทุกข์มีสุข มีรักมีเกลียด
C'est la vie...This is life...
นี่แหละชีวิต
“ต้มยำไม่ผัก เส้นเล็กไม่งอกจ้า~”เสียงทุ้มต่ำของเจ้าของร้านร่างท้วมดังขึ้นมาพร้อมกับอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟข้างหน้าทั้งสองคน
“โอ้ยเฮียชิน!
ลืมเลย...น้ำเปล่าสอง!!!”ลีดงแฮกลับมาโวยวายอย่างร่าเริงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
เฮียชินหันหลังกลับมาแล้วยิ้มให้
“จ้า!”
“ลีดงแฮ”เสียงหวานเรียกชื่อคนตรงหน้าที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยว
เจ้าของชื่อในช้อนดวงตามามองในท่าที่ยังคีบเส้นเข้าปากอยู่
“ครูขอโทษที่ถามเรื่องเมื่อกี้นะ
ขอโทษที่ต้องมานั่งรื้อฟื้นความทรงจำแย่ๆ”ร่างสูงตรงหน้าสูดเส้นเข้าไปแล้วรีบเคี้ยวรีบกลืนลงคอก่อนที่จะยิ้มร่า
“ไม่เป็นไรฮะจารย์^^”
มือเล็กเอื้อมไปจับมือแกร่งของดงแฮ
ใบหน้าหล่อเงยหน้ามามองแล้วกระพริบตาปริบๆ
คิมคิบอมยิ้มหวาน
มือเล็กบีบแน่นๆเป็นเชิงให้กำลังใจ
“I'm always here for you.”
ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมามองพร้อมกับยิ้มให้
มือหนาพลิกกลับมากุมมือเล็กพร้อมกับน้ำเสียงแหบพร่า
“As I wish you will.”
--------90%--------
“มีอะไรก็รีบพูด ผมจะกลับบ้าน!”เสียงหวานโวยวายดังลั่น
ร่างบางหน้าสวยยืนอยู่พิงรถสปอร์ตสีแดง ดวงตากลมมองไปยังร่างสูงหล่ออีกคนที่ยืนยิ้มยั่วอารมณ์ตน
ตั้งแต่แย่งที่นั่งยัยอึนเฮอะไรนั้นแล้ว
ไอ้คนตรงหน้าก็พาเขาไปกินข้าวที่อื่นแทนที่จะเป็นที่เดียวกับฮีชอล
แถมตอนนี้เขาก็ต้องมาติดแหง็กอยู่กับคนตรงหน้าด้วย!
จุงยุนโฮหัวเราะหึๆในลำคอแล้วเดินดุ่มๆมาข้างหน้า
ร่างบางเขยิบหนีโดยสันชาติญาณทันที มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือบางก่อนที่จะดึงตัวร่างบางหน้าสวยมาประกบจูบ
แจจุงรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เข้ามาพร้อมกับลิ้นหนาของร่างสูง
และเขาก็เผลอกลืนไปเสียแล้วด้วย!
“อึ่กกก...อาจารย์ยุนโฮ? เอาอะไรมาให้ผมน เนี่ย???”ร่างบางถามเสียงแหบพร่า
ดวงตาสะลึมสะลือ สติเริ่มเลือนจาง ภาพร่างสูงตรงหน้าเริ่มพร่ามัว
และสรรพสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบไป
ร่างบางของคิมแจจุงล้มวูบไป
มือหนาของร่างสูงคว้าเอาตัวร่างบางก่อนที่จะช้อนตัวแล้ววางไว้บนเก้าอี้ข้างคนขับก่อนที่จะติดเข็มขัดนิรภัยให้เสร็จสรรพ
จุงยุนโฮหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาแล้วกระตุกยิ้มอย่างนึกสนุก
แผนการขั้นแรก...เสร็จสิ้น
“ไม่ Goodbye kiss หน่อยเหรอคิมฮีชอล?”เสียงทุ้มเรียกชื่อร่างบางที่กำลังจะเปิดประตูรั้วบ้านออก
ใบหน้าหวานหันมามองแล้วสบถพรืด
“Kiss แทยองจารย์คนเดียวไปเหอะ”
ไม่ทันที่ขาเรียวจะก้าวต่อไป
แขนแกร่งก็เอื้อมมากอดตนจากทางด้านหลัง ใบหน้าคมคายเกยอยู่บนไหล่บางของคิมฮีชอล
“โอ๋~ขี้หึงจังคนเนี้ย!”
'คนเนี้ย'ได้แต่ยืนหน้าแดงแปร้ดอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของร่างสูง
ชเวซีวอนอมยิ้มที่มุมปากแล้วโน้มใบหน้าไปหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่พร้อมกับปล่อยกอดแล้วดันร่างบางที่หน้าแดงให้เข้าบ้านไป
“ทะลึ่ง!”เสียงหวานสบถออกมาพร้อมกับใบหน้าหวานที่หันมามอง
ฮีชอลเผ่นเข้าประตูบ้านไปทันทีเมื่อร่างสูงทำท่าจะวิ่งไล่ร่างบางอีกครั้ง
ดวงตาคมเข้มจับจ้องไปยังประตูสีขาวที่เพิ่งปิดไปเมื่อครู่แล้วอมยิ้มอีกครั้ง
โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงสั่นอีกครั้ง
เจ้าตัวเอื้อมมือไปเปิดและกรอกเสียงลงไป
“ว่าไง?”
//Mission number one...complete!//เสียงเพื่อนซี้ของตนดังขึ้นมา
“เก่งๆ
แผนมึงนี่สุดยอดเลยหวะยุนโฮ...เดี๋ยวเจอกันวันพรุ่งนี้”พูดจบก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิม
ยังไงซะ...พรุ่งนี้นายก็ต้องมาหาฉันแน่ๆคิมฮีชอล
“ครับ? แจจุงยังไม่กลับบ้านอีกเหรอครับ?”
//ใช่จ้ะ น้าเป็นห่วงแจจุงเขามากเลย
กลัวเขาจะเป็นอะไรไป//
“คุณน้าไม่ต้องห่วงครับ
เดี๋ยวผมลองโทรถามพวกเพื่อนๆดูก่อนก็แล้วกันนะครับ อย่าห่วงเลยนะครับ”พูดจบก็วางสายโทรศัพท์บ้านลงพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
“พี่แจจุงยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”เสียงหวานของคิมเรียววุคที่นั่งมองร่างบางผมแดงคุยโทรศัพท์หน้าตาเคร่งเครียดดังขึ้นมา
คิมฮีชอลถอนหายใจเบาๆพร้อมกับพยักหน้า
“ปกติไม่เคยกลับบ้านดึกขนาดนี้นะ...หรือว่ามัน...”
ไม่ทันที่จะได้พูดต่อ โทรศัพท์มือถือสีแดงในมือเรียวก็สั่นขึ้นมา
ร่างบางรีบเปิดขึ้นมาแล้วกรอกเสียงลงไป
//แก แจจุงยังไม่กลับบ้านใช่ปะ?//เสียงของลีซองมินดังขึ้นมาทันที
“รู้ได้ไงวะ?”
//จารย์คยูฮยอนส่งข้อความมาหาฉันว่าถ้าอยากได้ตัวแจจุงให้มาเอาที่Choi
Group//
ร่างบางนิ่งเงียบก่อนที่จะหัวเราะเบาๆเป็นเชิงเข้าใจทันที
แค่นี้ก็รู้แล้วหละว่าเป็นฝีมือใคร...
แสบมาก ชเวซีวอน!!!
“ซองมินไปเอาพวกอุปกรณ์การช่างการไฟฟ้าใส่กระเป๋าให้หมด
เอาเทปกาวไปด้วยนะ แล้วก็ขอสายดงแฮด้วย!”
//ฮะๆ
ไม่ได้ยืดเส้นยืดสายมานานแล้ว...รับทราบ ดงแฮ~!!!//และเสียงห้าวก็มาแทนเสียงหวานของลีซองมิน
“ดงแฮ ไปซื้อ...”
เรียววุคได้แต่เหลือบมองผู้เป็นพี่ยืนคุยโทรศัพท์สีหน้าเคร่งเครียดอยู่
แต่ดวงตากลมโตของร่างบางกลับฉายแววนึกสนุกและท้าทาย
สงสัยปิดเทอมนี้พี่เขาคงต้องอยู่ไม่สุขแน่ๆ!!!
//ฮีชอล โทรมามีอะไรหรือเปล่า?//เสียงเกาหลีออกเปร่งๆดังลอดสายโทรศัพท์ขึ้นมา
“ขอโทษทีที่โทรมาขัดจังหวะอะจึ้กะดึ้ยของเฮียกับจารย์ฮยอก!
แต่ขอยืมแล้ปท้อปเฮียหน่อยดิ”
//ห้ะ แล้ปท้อป...โอ้ย!
นี่คิดจะทำอะไรแผลงๆอีกแล้วสินะเนี่ย//
“แล้วเฮียจะให้ยืมหรือเปล่า?”
//ให้สิ!
พรุ่งนี้จะให้คนเอาไปให้นะ//
“Thank you~”และมือเรียวก็ปิดโทรศัพท์ก่อนที่จะถอนหายใจ
ริมฝีปากเรียวพึมพำขมุบขมิบก่อนที่คิ้วจะขมวดเข้าหากันเป็นเชิงคิดคำนวน
“เรียววุค!”ใบหน้าหวานหันไปมองร่างเล็กที่สะดุ้ง
“ค ครับ?”
“ไปเอาหมามาให้พี่สัก4-5ตัวหน่อยสิ ตอนนี้เลยได้ไหม?”
“พี่ฮีชอลคิดจะทำอะไรหนะ?”
เจ้าของชื่อยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับมือเรียวที่เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง
“บุก Choi Group”
อยากซ่าไม่เข้าเรื่องนะชเวซีวอน
แสบมา แสบกลับ และจะเอาคืนให้เป็นล้านเท่า!!!
Just wait and see.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
100%แล้ววว ชื่อตอนนี้ค่อนข้างโบราณเล็กน้อยนะนั่น - -*
วันธรรมดาๆที่ไม่ธรรมดา
:P:PPP
โอ้ะๆ ซินพูดว่าอะไรนะ?
จะบุกChoi Group?
ว้าววววว~ >_____<
ความคิดเห็น