ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
• Cruel {Baekhyun ft.sehun chanyeol kris kai luhan} 。

ลำดับตอนที่ #16 : + Cruel + Number Eleven

  • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 57





 

ไม่มีใครตายแล้วนะคะ อยากให้อ่านให้จบน้า <3

Number Eleven

 

            เสียงคลื่นซัดเข้าสู่หาดทรายสีขาวสะอาดตา  ม่านสีครีมฉลุลายลูกไม้กำลังพริ้วไหวตามสายลมที่ขอบหน้าต่าง เช่นเดียวกับเจ้าของบ้านพักที่ทอดสายตาเหม่อมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า

            บยอนแบคฮยอนที่ตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ห่างไกลจากสิ่งเดิมๆ แม้ที่บ้านพักแห่งนี้จะมีความทรงจำที่แสนร้ายกาจของเขากับคริสอยู่ แต่แบคฮยอนก็เลือกที่จะสนใจและจดจำแต่ความทรงจำของเขากับเซฮุน...ว่าเขาและคนรักเคยมีความสุขกันมากแค่ไหน

            ร่างบางลุกขึ้นสาวเท้าไปยังลิ้นชักหัวเตียง มือบางหยิบกรอบรูปไม้สีน้ำตาลอ่อนขึ้นมา นิ้วเรียวสัมผัสไล้รูปภาพของคนในกรอบทีละคน หญิงสาวผมยาวสลวยยกยิ้มอ่อนโยนภายใต้วงแขนของชายหนุ่มรูปหล่อที่แขนอีกข้างโอบไหล่ของเด็กชายตัวน้อยอีกคนเอาไว้ เด็กน้อยตัวเล็กกำลังถืออมยิ้มสีสดยิ้มแฉ่งอย่างมีความสุข

 

          แม่

          พ่อ

          แบคฮยอน

          และอมยิ้มที่ชานยอลให้...

 

          แหมะ~ น้ำสีใสร่วงเผลาะลงบนกรอบรูปที่ตำแหน่งดวงตาของรูปตัวเองวัยเด็ก แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์และกดโทรออกหาคนสำคัญที่ต้องไปทำงานไกลถึงอเมริกา บางทีช่วงเวลาแบบนี้ คนที่แบคฮยอนโหยหามากที่สุดอาจจะเป็นคนที่รักแบคฮยอนมากที่สุดก็เป็นได้

 

            [โอ๊ะโอ...ดูซิใครโทรมาเอ่ย~] เพียงได้ยินเสียงสดใสจากปลายสายก็สร้างรอยยิ้มให้แก่คนตัวเล็กได้ไม่หน่อย แม้มันจะดูเหนื่อยล้ามากมายแค่ไหนก็ตาม

            [ว่าไงครับลูกชายของแม่ โทรมานี่รู้ไหมว่าที่นี่กี่โมง?]

            “กี่โมงแล้วไม่รู้ รู้แต่ผมคิดถึงพ่อกับแม่มากที่สุดครับ”

            [ถ้าพ่อได้ยินคงยิ้มปากฉีกถึงรูหูแน่เลยครับคุณลูกชาย]

            “พ่อไม่อยู่เหรอครับ?”

            [ไปดูงานที่จีนห้าวันครับเด็กน้อย]

            “โห...แบบนี้แม่ก็เหงาแย่สิครับ”

            [ฮ่าๆ แม่ชินแล้ว ว่าแต่เราเถอะโทรมาหาแม่มีอะไรรึเปล่าเอ่ยพ่อตัวดี]

            “โทรหาแมต้องมอะไรด้วยเหรอครับ? แค่คิดถึงได้รึเปล่า”

            [ถ้าคิดถึงก็มาหาสิครับคุณลูกชาย]

            “ผม...”

            [หื้ม?]

            “ผม...ผมไปอยู่กับแม่ได้ใช่ไหม?”

            [ได้สิครับ มาเมื่อไรก็ได้ ถ้าว่างก็มาเลย]

            “ผมหมายถึงไปเรียนต่อที่นั่นด้วยได้ไหม?”

            [...]

            “...”

            [มีเรื่องอะไรรึเปล่า...แบคฮยอน]

            “...”

            [แล้วชานยอลล่ะลูก?]

            “...” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าแม่ของเขาจะถามถึงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา...จะตอบว่าอย่างไรดีล่ะ?

 

          แบคฮยอนคงไม่กล้าตอบคำถามนี้หรอก

 

            “แม่ครับ...”

            [...]

            “ผมเหนื่อย...ให้ผมไปอยู่ด้วยเถอะนะครับ”

            [แบคฮยอน...]

          “ฮึก...ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว...แม่...” จากที่คิดว่าจะไม่อ่อนแอ แต่กลับกลายเป็นกอดรูปครอบครัวไว้กับอกจนแน่น หยดน้ำตาที่ไม่อยากให้มีก็กลับไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนเต็มปรางแก้มใส เขาไม่รู้จะหาที่พึ่งที่ไหน เขาไม่รู้จะหาทางออกทางใด ที่ทำได้ตอนนี้ก็มีทางเดียว...หนี

          [แบคฮยอนครับ...แบคฮยอนยังมีแม่กับพ่อนะครับ ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไร กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่นะลูก...แม่จะรอ]

            “ฮึก...ขอบคุณครับแม่...”

            [แม่รักลูกมากที่สุดนะครับคนดี...] และอีกหลายต่อหลายครั้งที่คำว่า รัก ถูกพร่ำบอกจากคำปลายสายจนกว่าลูกชายตัวน้อยของเธอจะร้องไห้จนหลับไป

 

 

 

            ติ๊ด ติ๊ด

            เสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ข้างกายปลุกให้คนตัวเล็กที่กำลังสลึมสลืออยู่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตา พอกดเปิดอ่านข้อความก็ต้องอดอมยิ้มไม่ได้

 

          ข้อความเข้า 1 ข้อความ

          ‘Omma’

          จองตั๋วจ่ายเงินไว้ให้แล้ว เครื่องออกสี่ทุ่ม รายละเอียดแม่ส่งอีเมลไปแล้ว แล้วเจอกันนะครับคุณลูกชาย ทนคิดถึงแม่หน่อยนะ คึคึ~

 

          “ใครบอกว่าจะคิดถึงแม่กันล่ะ คิก~” หัวเราะจนดวงตาเรียวรีปิดลง แบคฮยอนถอนหายใจเพื่อไล่ความเหนื่อยหน่ายใจที่ยังคงเกาะติดเขาไม่จางหาย บิดกายเล็กน้อยพลางลุกขึ้นอาบน้ำไล่ความกังวลที่ยังคงมีอยู่ในหัวของตัวเองตลอดเวลา

            ร่างเล็กทานอาหารเช้าลองท้องเบาๆ ที่ชิงช้าหน้าบ้านเพราะรู้สึกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร แบคฮยอนรู้สึกอยากขอบคุณพ่อกับแม่ของเขาจริงๆ ที่ซื้อบ้านหลังเล็กที่แสนสงบแห่งนี้เอาไว้ แบคฮยอนเหม่อมองสายลมที่พัดผ่านไป บางทีแบคฮยอนก็คิดว่าเขาไม่ต่างอะไรกับสายลมเหล่านั้น ที่ใครหลายสัมผัสได้ แต่กลับไม่มีใครเป็นเจ้าของมันได้อย่างแท้จริง ถึงจะเป็นที่ต้องการแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครไขว่คว้ามันได้ และตัวมันเองก็ไม่ได้เคียงคู่กับใคร เป็นเพียงสายลมที่แสนว่างเปล่า ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครต้องการ

 

          คิดถึงเซฮุน...

          คิดถึงชานยอล...

          คิดถึงความสุข...

          คิดถึงความทรงจำ...

 

            ใครจะว่าแบคฮยอนเลวร้ายแค่ไหนก็ช่าง แต่ถ้าไม่เป็นเขาก็ไม่มีทางเข้าใจ แบคฮยอนอาจไม่ใช่คนหนักแน่นที่จะเด็ดขาดกับความสัมพันธ์ของเขาและชานยอล แต่เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่จำความได้กลับต้องมาคอยเจ็บปวดเพราะความขี้ขลาดของเขาเองที่ไม่กล้าเลือกทางเดินที่แน่ชัดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต แบคฮยอนไม่ใช่คนดี แบคฮยอนรู้...แบคฮยอนขี้กลัว แบคฮยอนรู้...แบคฮยอนเห็นแก่ตัว แบคฮยอนเองก็รู้...แต่จะทุกอย่างมันกลับผิดพลาดที่คนสนิทอย่างชานยอลต้องตายด้วยน้ำมือของเขาเอง

 

          แค่นี้ก็เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว คิดว่าแบคฮยอนจะไม่เกลียดตัวเองหรือไง?

 

           

 

            วันนี้ทั้งวันแบคฮยอนไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แบคฮยอนใช้เวลาไปกับการทำความสะอาดบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะแบคฮยอนคิดว่าคงต้องให้แม่ขายบ้านหลังนี้ทิ้งไปเสียดีกว่า แบคฮยอนจะได้ลืมเรื่องราวทั้งหมดไป แบคฮยอนคิดว่า...เขาคงจะไม่กลับมาเหยียบที่เกาหลีอีกแล้วล่ะ

            เสียงนาฬิกาจากโทรศัพท์แจ้งเตือนว่าได้เวลาที่เขาต้องออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังสนามบินแล้ว แบคฮยอนกดหยุดการแจ้งเตือน มองไปรอบๆ ห้องนอนที่เขาเคยคิดว่ามันอบอุ่นที่สุด

            “ลาก่อนนะ ทุกสิ่งทุกอย่าง...”

            มือเรียวจับหูหิ้วของกระเป๋าเดินทาง พลางถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายให้กับอดีตที่ตั้งใจไว้ว่าจะทิ้งมันไว้ที่นี่แล้วเริ่มต้นใหม่

 

            แกร๊ก~ ทันทีประตูบานใหญ่เปิดออก สิ่งที่พบเจออยู่หลังประตูทำเอาแบคฮยอนเบิกตากว้างก้าวถอยหลังอย่างตื่นกลัว

            “พะ พี่คริส!

            “สวัสดีเด็กน้อย~” ผู้ชายที่แบคฮยอนเกลียดแสนเกลียดและเป็นคนที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของแบคฮยอนพังไม่เป็นท่ากำลังยืนแสยะยิ้มร้ายอย่างซาตานอยู่ตรงหน้า

            “หืม...จะไปไหนล่ะ แพ็คกระเป๋าซะเรียบร้อยเชียว”

            “อย่าเข้ามานะ!” ถอยหลังจนล้มลงบนเตียงนุ่ม แบคฮยอนลุกขึ้นหวังจะวิ่งหนี แต่กลับถูกคนตัวใหญ่ขวางทางและจับเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียงเช่นเคย คริสไม่ปล่อยให้แบคฮยอนได้มีเวลาหาทางหนี เขาโถมตัวเข้าใส่ร่างเล็กและก้มลงซุกไซ้อย่างหื่นกระหาย

            แบคฮยอนตกใจ พยายามดีดดิ้นขอร้องคนใจร้ายที่จะสร้างรอยแผลในใจของเขาอีกครั้งให้ปล่อยเขาไปจนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถูกฉีกออกหยดน้ำใสๆ ที่ไหลมาตลอดหลายวันนี้ไหลออกมาอีกครั้ง แบคฮยอนแน่นิ่งไปจนคริสสงสัย ผละออกมามองใบหน้าน่ารักที่เขาหลงใหลอย่างใครรู้ แบคฮยอนกำลังร้องไห้โดยกลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้

            “ได้โปรด...ฮึก”

            “...”

            “ปล่อยผมไปเถอะ...ฮึก...ให้ผมได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะ” พยายามเบิกตามองคนที่คร่อมกายตนอยู่ต่อสู้กับหยาดน้ำตาที่คลอเต็มนัยน์ตาสวย คริสชะงักไปเล็กน้อย เกือบจะใจอ่อนให้กับท่าทีที่น่าสงสาร แต่คำพูดจากจิตใจด้านมืดก็ครอบงำความชั่วดีที่เขาไม่เคยมีจนหมด

            “งั้นถือว่าให้ฉันก่อนไปได้ไหมล่ะเด็กน้อย?” ว่าแล้วก็ก้มลงไปดูดดุนลำคอขาวของคนตัวเล็กตามใจอยาก แบคฮยอนแน่นิ่งราวกับคนไม่มีชีวิต ร่างบางรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับ

 

            แล้วทำไมเขาต้องยอมให้กับคนเลวๆ อย่างคริสที่ทำลายชีวิตเขาด้วยล่ะ?

 

            “อ๊าก!” มือเรียวตวัดของมีคมปาดต้นแขนแกร่งจนคริสร้องลั่น แบคฮยอนผลักคริสให้นอนหงายแล้วส่งตัวเองขึ้นคร่อม มีดสั้นที่เขาแอบสอดเอาไว้ใต้หมอนหลังจากเหตุการณ์ที่คริสบุกเข้ามาปล้ำเขาในคืนนั้นยังคงอยู่ และไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ใช้จริงๆ

            “ผมจะไม่ยอมพี่อีกต่อไปแล้ว” ว่าพลางจ่อปลายมีดลงที่คอของคริส

            “ถ้าขยับผมแทงแน่...ถ้าคิดว่าเสี่ยงแย่งมีดไปได้ ผมไม่รับประกันนะว่ามีดจะปักโดนพี่ส่วนไหนอีก” แบคฮยอนไม่เพียงขมขู่ แต่เขากดย้ำปลายแหลมลงไปเพื่อเตือนให้คริสรู้ว่าไม่ควรขัดคำสั่งเขา เพราะสายตาแข็งกร้าวเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าคนตัวเล็กไม่พูดเล่นแน่ๆ

            “แบคฮยอนใจเย็นๆ...พี่...”

            “หุบปาก!

            “อั่ก!” เบ้หน้าหนีความเจ็บปวดเพราะดูเหมือนยิ่งคริสต่อปากต่อคำกับแบคฮยอน ของแหลมสีเงินก็จะยิ่งกดย้ำลึกมากขึ้น กลิ่นคาวเลือดจากแผลที่แขนของคริสปะทะเข้ากับโสตประสาทของแบคฮยอน คนตัวเล็กเอื้อมมือปลดเน็กไทจากคอของคริสโดยที่ไม่ละสายตาไปไหน

            จับแขนอีกฝ่ายขึ้นผูกกับหัวเตียงด้วยเน็กไททีละข้างโดยใช้มือข้างซ้ายกับฟันของตัวเองในการผูกในณะที่มือขวายังจ่ออยู่ที่เดิมและกดแรงขึ้นทุกครั้งที่ต้องโน้มตัวไปใช้ฟันดึงปลายเน็กไท

 

          นึกขอบคุณคริสเหลือเกินที่ปอดแหกไม่กล้าขัดขืน

          ทั้งๆ ที่ถ้าคริสผลักเขาออกคริสเองก็น่าจะรอด

          แต่เพราะแบคฮยอนมีของอันตรายอยู่ในมือ ความผิดพลาดแม้เพียง 0.01% ก็ปลิดชีวิตได้

 

            “ผมกำลังจะไปจากเกาหลี ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่พี่กลับทำให้มันพัง!” แบคฮยอนตวาดลั่นหลังจากที่ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าคริสอยู่จากปลายเตียง

            “ผมเกลียดพี่ที่สุด เกลียด! เกลียดจนไม่อยากหายใจร่วมโลกเดียวกับพี่!

            “...”      

            “พี่ทำให้ชีวิตผมต้องเจอกับความเจ็บช้ำ! พี่เข้ามาในชีวิตผมทำไม! พี่ทำลายความสุขของผมเพื่ออะไร!

            “...”

            “ผม...ฮึก...ผมกำลังจะหนี พี่ตามมาทำไม...ฮึก...”

            “...”

            “บะ แบคฮยอน...”

            “ผมอยากจะฆ่าพี่!” ประกาศกร้าวโดยที่ใบหน้าเนียนใสเปราะเปื้อนน้ำตาของความเจ็บปวดเต็มไปหมด แบคฮยอนปรี่ขึ้นเตียงนั่งคร่อมคริสอีกแล้ว ใช้สองมือจับดามมีด บีบแน่นจนมือเล็กสั่นไปหมด คริสดิ้นและตะโกนร้องขอชีวิตไม่เหลือคราบซาตานที่พรากความสุขของแบคฮยอนไปสักนิด

 

          มีเพียงคริสหมาจนตรอกที่ร้องไห้ขอชีวิตอย่างน่าสมเพช

 

            “อย่า! แบคฮยอนอย่า! ฮือออออ อย่าทำพี่!” แบคฮยอนจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่ที่มีหยดน้ำตาไม่ต่างอะไรจากตัวเขาเอง คนตัวเล็กหลับตาลง ค่อยๆ ลดมือลงอย่างช้าๆ สะอื้นไห้ให้กับการตัดสินใจของตนเอง

 

          แบคฮยอนเลือกที่จะลดมือลงแล้วปล่อยมีดลงกับพื้นข้างเตียง

 

            “ขอบคุณพระเจ้า...” เป็นคริสเองที่เปล่งเสียงออกมาอย่างอ่อนแรงราวกับคนไม่ได้สติ เขาสูดหายใจแรงๆ เพื่อย้ำว่าตนเองยังมีลมหายใจ แบคฮยอนฟุบลงร้องไห้ที่หน้าอกของคริสอย่างอ่อนแรง ความหวาดกลัวกระตุ้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในจิตใต้สำนึกว่าเขาไม่ควรทำ

 

            ...ไม่ควรฆ่าใครอีก แค่ชานยอลคนเดียวเขาก็รู้สึกผิดบาปมากเกินพอแล้ว

 

            “ฮึก...” เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ฉุดให้คนตัวเล็กร้องไห้ตื่นขึ้นจากภวังค์ แบคฮยอนยันตัวขึ้นเช็ดคราบน้ำตาแล้วสบตากับคริสครู่หนึ่ง ขยันตัวลงจากร่างกายของคริส มือเรียวล้วงเข้าไปยังกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา ฉับพลันที่มองเห็นชื่อคนโทรเข้าก็ทเอาคิ้วเรียวขมวดชนกันอย่างแปลกใจ

 

          Voice call…

          ‘Luhan’

 

            แบคฮยอนถือวิสาสะกดรับสายและเปิดลำโพงทันที

            [เป็นไงคริส ทางนั้นเรียบร้อยไหม?] ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นแล้วยื่นโทรศัพท์เข้าไปใกล้ๆ เจ้าของเครื่องเพื่อเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าคริสควรตอบกลับไป

            “อะ อืม..เรียบร้อยดี”

            [ดีมาก จัดการให้มันอับอายไม่กล้าแบกหน้ากลับมาหาเซฮุนอีกเลยนะ ถึงจะมีข่าวมาว่าแบคฮยอนลาออกไปแล้ว แต่เพื่อความชัวร์ต้องกันไว้ก่อน นายจะอัดคลิปแบล็คเมล์มันเหมือนคราวที่แล้วก็ได้ หรือจะเอามันไปนอนกกที่ไหนก็เชิญ เพราะฉันได้เซฮุนมาแล้ว ส่วนนายก็ได้มันสมใจ แต่ขออย่างเดียว อย่าให้มันโผล่หน้ามาอีก]

            “...”

            [หรือฆ่ามันปิดปากดีล่ะคริส?]

            “ละ ลู่หาน...” คริสเริ่มหน้าซีดและเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลู่หานดันโทรเข้ามาพร้อมกับพูดแผนการทั้งหมดออกมาโดยไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร

            [ทำไมคริส? นายไม่กล้าเหรอ? ส่งคนไปรุมโทรมมันไหมล่ะ เดี๋ยวก็หน้าบางฆ่าตัวตายเองนั่นแหละ]

            “...” คริสหลับตาแน่นไม่กล้าสบตากับคนที่ถูกปลายสายพูดถึงอยู่ เขากลัวแบคฮยอนจะเปลี่ยนใจหยิบมีดมาจ้วงแทงเขาจนตาย คริสเลือกที่จะภาวนาอยู่ในใจขอให้เขารอดซ้ำไปซ้ำมา

            [งั้นก็เรื่องของนายแล้วกัน แค่นี้นะ]

 

            ติ้ด~ เพียงปลายสายตัดไปหยดน้ำตาที่ยังไม่แห้งหายดีก็กลับมาอีกรอบ แบคฮยอนทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ชันเข่าซุกใบหน้าลงแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อายใคร

            คริสลืมตาขึ้นแล้วมองดูคนที่นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ข้างเตียง เพียงเพราะความสนุกของเขาแท้ๆ ต้องทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งไป ขนาดเขาเองที่โดนมีดบาดแขนเพียงเล็กน้อยจากแบคฮยอน เขายังรู้สึกเจ็บและแสบจนแทบทนไม่ไหว แล้วแบคฮยอนที่ต้องเสียคนรักและความสุขไป ซ้ำยังต้องมาได้ยินคำพูดร้ายๆ ของอีกฝ่ายด้วยตัวเองอีก...เจ็บข้างในมันเจียนตายยิ่งกว่าแผลภายนอกเสียอีก

            “แบคฮยอน...พี่ขอโทษ”

            “ฮึก...” คริสได้แต่ปล่อยให้แบคฮยอนร้องไห้จนกว่าเจ้าตัวจะพอใจ เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปลอบใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเขาเองเป็นคนสร้างรอยแผลในชีวิตของแบคฮยอนเองกับมือ

            “แบคฮยอน...” คริสพยายามส่งเสียงเรียกแบคฮยอนให้มีสติ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองคนใจร้ายบนเตียงอย่างตัดพ้อ

            “...ผมเกลียดพี่จริงๆ นะ...” มีเพียงประโยคเบาบางที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากคนตัวเล็ก แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์คริสมาพิมพ์ข้อความบางอย่างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองคริสที่ยังคงถูกมัดอยู่ที่เดิมแม้แต่น้อย

 

          ข้อความออก 1 ข้อความ

          To ‘Luhan’

          มีปัญหาเรื่องแบคฮยอนกะทันหัน รีบมาที่บ้านพักแบคฮยอนด่วน!

 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

น้องหมาขอเห่า!~ : ปุ้งงงงง ตอนหน้าตอนจบแล้วนะคะ ;_;

แล้วก็มีสเปฯอีกสองตอน คิดว่าจะลงให้หมดก่อนรวมเล่มดีกว่าเนอะ

หายไปนานขอโทษด้วยค่ะ มันเค้นยากมากจริงๆ ต้องบิ้วอารมณ์ตลอด ฮืออออออ

 

เรื่องรวมเล่มตอนนี้ถ้ามีคนจองถึง 10 เล่มก็จะอยู่ที่ 230 บาทไม่รวมค่าจัดส่งค่ะ

ถ้ามีคนสนใจถึงนะ...แต่ถ้าไม่ถึงก็พับโครงการเก็บไป 555555555

 

Ps.เป็นไปตามสัญญา ไม่มีใครตายแล้วเน้อ อิอิ

#ficcruel

 

G Minor!

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture