ลำดับตอนที่ #16
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter14 : ชะตากรรมของอีทึก (NC KangTuek)
Chapter14: ชะตากรรมของอีทึก
ที่ภัตตาคารอาหารอิตาลีสุดหรูภายในห้องวีไอพีถูกจัดไว้อย่างสวยงามและเรียบหรู อาหารหลากหลายเมนูวางเรียงอยู่อย่างละลานตาจนคิดว่าคนเพียงแค่สองคนคงจะทานไม่หมดเป็นแน่
การพูดคุยเริ่มขึ้นพร้อมกับการรับประทานอาหาร ซีวอนทำการแนะนำเมนูอาหารต่างๆให้ฮีชอลลองชิมพร้อมกับตักใส่จานให้ ฮีชอลเองก็ชวนซีวอนคุยไปเรื่องต่างๆนานา และรอเวลาเพื่อจะสนทนาให้หัวข้อที่ตนเองต้องการ
“จริงสิซีวอน ตอนนี้บริษัทของนายเป็นไงบ้าง”
“ผมไม่สนใจเรื่องนี้หรอกครับ” ตอบกลับมาแบบไม่ต้องใช้ความคิด ปกติซีวอนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจของครอบครัวเท่าไหร่ นอกจากจะมีคนมาเล่าให้ฟังเอง ถึงจะสงสารคยูฮยอนอยู่บ้างที่มีพี่ไม่ได้ความอย่างเขา แต่เขาไม่เคยคิดจะเป็นผู้บริหารต่อจากพ่อ ให้คยูฮยอนทำหน้าที่นี้ธุรกิจของครอบครัวน่าจะไปได้ดีกว่า
“ทำไมล่ะ” แกล้งถามออกไปด้วยสีหน้าสงสัย ทั้งที่รู้เหตุผลดีอยู่แล้ว
“ผมไม่สนใจเรื่องทางด้านบริหารหรอกครับ แต่ถึงให้ผมไปทำก็คงไม่มีลูกน้องคนไหนนับถือ เพราะผมมันเสเพตั้งแต่เด็กแล้ว” ตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ตัวซีวอนเองนั้นใช้นามสกุลของแม่ ส่วนคยูฮยอนใช้นามสกุลของพ่อ หลายคนในเครือบริษัทของโจกรุ๊ปจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของฮยอนจิน และที่สำคัญนานๆครั้งกว่าเขาจะโผล่หัวไปที่บริษัทได้
“ถ้างั้นเงินที่นายใช้อยู่ทุกวันเป็นเงินของพ่อนายเหรอ ไม่เคยเห็นนายไปทำงานเลยซักครั้ง” ฮีชอลก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทั้งที่ซีวอนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวเลยแล้วเอาเงินจากไหนมาใช้ เพราะถึงจะเป็นลูกชายคนโตแต่ไม่เคยช่วยงานบริษัทแบบนี้คนเป็นพ่อคงไม่ยอมให้เงินมาใช้ฟรีๆแน่
“เงินพ่อผมนั่นแหละครับ ผมเองก็เพิ่งเรียนจบ พ่อเลยยังส่งเสียให้อยู่ ถ้าหางานทำได้เมื่อไหร่เขาคงปล่อยผมแล้วล่ะ” ฟังจบฮีชอลก็พยักหน้ารับเบาๆ และหัวข้อในการสนทนาก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามอารมณ์และความสนใจของทั้งคู่
ร่างบอบบางของเลขาคนสวยแห่งโจกรุ๊ปถูกอุ้มลงมาจากรถอย่างเบามือเมื่อคังอินขับรถมาถึงที่หมายซึ่งก็คือบ้านของครอบครัวลี ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลยซักคน ฮีชอลออกไปกับซีวอน ส่วนซองมินกับเรียวอุกไปมหาวิทยาลัย
คังอินอุ้มอีทึกขึ้นไปบนห้องที่จัดไว้สำหรับแขก วางลงบนเตียงอย่างเบามือก่อนจะออกไปจากห้องเพื่อลงไปเอากระเป๋าเอกสารกับโน้ตบุ๊กของอีทึกที่อยู่ในรถ
หลังจากขนทุกอย่างขึ้นมาไว้ข้างบนเรียบร้อย คังอินเดินไปนั่งที่ข้างเตียงมองดูอีทึกที่นอนไม่ได้สติอยู่ อีกเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงยาก็คงจะหมดฤทธิ์ และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะพูดกับคนๆนี้อย่างไรดี
สายตาของคังอินละจากอีทึกมาเป็นที่กระเป๋าเอกสารแทนก่อนจะย้ายตัวเองไปที่โต๊ะซึ่งวางกระเป๋าไว้อยู่ มือทั้งสองข้างเลื่อนไปเปิดกระเป๋านั้นออกอย่างช้าๆ แผ่นกระดาษสีขาวมากมายวางซ้อนกันอยู่มากมาย คังอินหยิบมันออกมาทั้งหมดก่อนจะเปิดดูทีละแผ่น และเมื่ออ่านข้อความที่อยู่ในกระดาษเหล่านั้นคิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันทันที
คังอินวางมือจากเอกสารหันไปสนใจกับโน้ตบุ๊กแทน เมาส์ถูกเลื่อนเข้าไปคลิกในโฟลเดอร์ต่างๆ รูปภาพและข้อมูลที่คล้ายกับในแผ่นกระดาษปรากฏขึ้นสู่สายตา เมื่อดูจนแน่ใจแล้วคังอินก็คว้าโทรศัพท์โทรหาใครบางคนทันที
“ฮีชอล พวกโจกรุ๊ปรู้เรื่องหมดแล้ว” เมื่อปลายสายรับคังอินก็กรอกเสียงลงไปทันที ปลายสายเงียบไปซักพักก่อนจะตอบกลับมา
(นายรู้ได้ไงคังอิน) ฮีชอลที่กำลังทานอาหารอยู่กับซีวอนขอปลีกตัวออกมา
“ฉันจับตัวอีทึกมา ค้นดูเอกสารทุกอย่างหมดแล้ว หลักฐานมีทั้งข้อมูลและเอกสารพร้อม นายจะให้ฉันทำลายมันมั้ยหรือจะเอายังไง”
(ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องทำลายเอกสาร แต่...ทำร้ายอีทึกแทน) หัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะตอบกลับไป ทีนี่จะได้สู้กันซึ่งๆหน้าซักที
“ทำร้ายงั้นเหรอ” คังอินถามกลับ คิ้วขมวดกันเป็นปม จะให้เขาทำร้ายอีทึกงั้นเหรอ
(จะวิธีไหนก็แล้วแต่นายแล้วกัน และนายก็ส่งข้อความไปบอกพวกโจกรุ๊ปด้วยนะว่าอีทึกอยู่กับนาย บอกพวกมันว่าขอแสดงความยินดีด้วยที่รู้ความจริงหลังจากที่โง่มามาน)
“อืม” ตอบรับเบาๆ เริ่มรู้สึกหนักใจกับคำสั่งของฮีชอลมากขึ้นเรื่อยๆ ทำร้าย จะให้ทำร้ายยังไง จะทางร่างกายหรือทางจิตใจ
(แค่นี้ก่อนนะคังอิน) พูดจบฮีชอลก็ตัดสายทิ้งไป
คังอินวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะที่เดิม สายตาคมหันไปมองอีทึกที่ยังไม่ฟื้นจากยาสลบ สมองเริ่มประมวลการอีกครั้ง ทำร้ายแบบไหนมันจะเจ็บที่สุดนะ
สายลมยามเย็นของทะเลพัดผ่านใบหน้าขาวใสที่บัดนี้ดูนิ่งสนิท จิตใจมักหาเรื่องเข้ามาให้สมองได้คิดอยู่ตลอดเวลาทั้งที่อยากจะพัก ทงแฮเดินทอดน่องไปตามชายหาดอย่างเหม่อลอย หลังจากกลับมาที่มกโพตามที่อึนฮยอกบอกมันก็ไม่ได้ช่วยความเขารู้สึกดีขึ้นมากนัก
ภาพของผู้ชายที่ชื่อคิมคิบอมผุดเข้ามาให้หัวอีกครั้งพร้อมกับคำถามมากมายที่ยังหาคำตอบไม่ได้ และถ้าหากถึงวันนั้นเขาจะตอบมันออกไปว่าอย่างไร
“หนีผมมาอยู่ที่นี่เอง” เสียงที่แว่วเข้ามาในหูทำให้ทงแฮชะงักไป และเมื่อหันไปมองต้นเสียงหัวใจมันก็หวั่นวูบแปลกๆ
“คิบอมมาได้ไง” ถามออกไปเสียงเบาหวิว ภาพในหัวเหมือนถูกตีแตกกระจายหายไปในพริบตาเมื่อคิบอมตัวจริงมายืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่ว่าทงแฮจะอยู่ไหนผมก็หาเจอได้ทุกที่นั่นแหละครับ” คิบอมตอบแล้วยิ้มตาหยี ก่อนจะพูดต่อ
“ผมมาเอาคำตอบจากทงแฮ”
จบคำพูดทงแฮก็ยืนนิ่งใบหน้าก้มลงมองผืนทรายขาวสะอาด ที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพราะยังหาคำตอบให้กับคิบอมไม่ได้ แต่คิบอมกลับมาหาเขาถึงมกโพเพื่อเอาคำตอบ แล้วเขาควรจะทำยังไงดี จะบอกว่ารักตอนนี้บอกได้เลยว่าไม่ แต่การที่ได้เจอกับคนที่ผ่านอะไรหลายๆอย่างมาเหมือนกันทำให้เขารู้สึกดีกับคิบอมไม่น้อยเลย
“ผม...” ตอบกระอึกกระอักเพราะยังคิดไม่ตก คิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
“ตอบตามที่คุณรู้สึกเถอะครับ ผมไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ผมรู้สึกดีกับทงแฮมากและก็อยากรู้ว่าคุณรู้สึกแบบเดียวกันมั้ย” รอยยิ้มกับคำตอบของคิบอมทำให้ทงแฮรู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูก แต่ความหนักใจกลับไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากเขาตอบปฏิเสธไปคิบอมคงเสียใจจนบางทีความสัมพันธ์ดีๆที่มีต่อกันอาจจะพังทลายลงได้ ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น
“ลองดูก็ได้ครับ เรามาลองคบกัน” เงียบอยู่นานกว่าจะตอบออกมา คิดว่านี่คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
“แล้วซักวันผมจะทำให้คุณรักผมอย่างสนิทใจเอง” เอื้อมมือไปกุมมือทงแฮไว้พูดด้วยความมั่นใจ แต่หารู้ไม่ว่าในใจจริงแล้ว คำที่พูดออกมามากมายนั้นมันโกหกทั้งเพ
ทงแฮไม่พูดอะไรออกมาอีกเพียงแค่ยิ้มตอบกลับไปบางๆ การมีความรักคงช่วยให้ชีวิตที่พบเจอแต่ความลำบากของเขาดีขึ้นได้บ้าง
“งั้นเราอยู่ที่นี่ต่ออีกซักสองสามวันดีมั้ย” คิบอมเสนอ หันมองบรรยากาศรอบๆ ความสวยงามของทะเลที่นี่ทำให้เขาอยากจะอยู่ที่นี่ต่ออีกซักพัก และถือเป็นการกันทงแฮไม่ให้ไปยุ่งเรื่องของโจกรุ๊ปชั่วคราวด้วย
“ครับ” ตอบรับแล้วยิ้มเขินๆเมื่อคิบอมจ้องตากลับมาทงเฮเลยต้องเบือนหน้าหนี คิบอมเลยอดไม่ได้ที่จะแกล้งต่อ ทงเฮจึงเลิกที่จะเดินหนีแทน
ความรู้สึกดีเริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ หากแต่มันกลับเป็นแผนการของอีกคนหนึ่งเท่านั้น แล้วมันจะเร็วไปมั้ยที่นายจะเริ่มหวั่นไหวกับคิบอมซะแล้วทงแฮ
เนื่องจากฉากนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสม
เพราะฉะนั้นให้หาลิงค์อ่านได้บนShoutBoxจ้า
เพราะฉะนั้นให้หาลิงค์อ่านได้บนShoutBoxจ้า
คังอินที่บัดนี้จัดการชำระล้างร่างกายตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาที่เตียงพร้อมกับกล้องวีดีโอภาพทุกอย่างที่เกิดถูกบันทึกไว้ในนี้ทุกการกระทำและคำพูด
“ผมอยากจะรู้จริงๆว่าถ้าโจกรุ๊ปเห็นรูปพวกนี้มันจะทำยังไง”
“คุณ...” ถึงบางอ้อทันทีเมื่อได้ฟังสิ่งที่คังอินพูดออกมา น้ำตาที่เพิ่งจะหยุดไหลไปล้นเอ่อออกมาอีกครั้งเมื่อรู้ตัวว่าโดนศัตรูเล่นงานด้วยวิธีที่สุดแสนสกปรกแบบนี้ ทั้งเจ็บใจและแค้นใจ ที่คังอินแท้ก็เป็นคนของครอบ ครัวลีเองสินะ
“ครับ ผมว่าคุณพักผ่อนก่อนดีกว่านะ แล้วผมจะขึ้นมาหาทีหลัง” ยิ้มรับให้บางๆก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับกล้องวีดีโอ
สายตาของอีทึกมองตามหลังคังอินจนออกจากห้องไปก่อนจะหันกลับไปมองโต๊ะที่มีเอกสารต่างๆกองอยู่รวมไปถึงโน้ตบุ๊กของเขาด้วย อีทึกพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแต่ร่างกายกลับไม่ทำตามจนแล้วจนรอดเลยต้องนอนอยู่เฉยๆอย่างเดิม ปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาจนกว่าจะพอใจ
“พวกแกมีกี่คนกันแน่” พำพึมออกมาเบาๆด้วยความสงสัยที่เขาเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าครอบครัวที่ปองร้ายโจกรุ๊ปอยู่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดกี่คนและมีใครบ้างเลยเป็นการยากที่จะระวังตัว ไม่เช่นนั้นเขาไม่ต้องระแวงทุกคนที่เข้ามาใกล้เลยเหรอ
ตอนนี้เท่าที่รู้ก็มีเพียง ซองมิน คิบอมและคังอินเท่านั้น ส่วนเด็กคนที่เยซองบอกหน้าตาและชื่อจริงก็ยังไม่เคยเห็นและที่สำคัญคือเยซองหายตัวไปไหนยังไม่มีใครทราบได้ และเขาถูกจับมาแบบนี้ทางโจกรุ๊ปจะไม่ยิ่งแย่ไปใหญ่เหรอ ซองมินคงไม่ปล่อยคยูฮยอนไปง่ายๆเป็นแน่
“ท่านครับพวกของซึงฮยอนมาขอพบครับ” ฮยอนจินเลิกคิ้วสูงทันทีเมื่อได้ฟัง พวกของซึงฮยอนงั้นเหรอ เขาได้ข่าวมาว่าซึงฮยอนถูกอึนฮยอกยิงอาการสาหัสและพวกมันก็คงกำลังตามล่าอึนฮยอกอยู่ และตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่ามือปืนฝีมือดีอย่างอึนฮยอกไปหลบอยู่ที่ไหน
“ให้มันเข้ามา” บอกน้ำเสียงเรียบแต่หากทรงพลัง ลูกน้องรับคำก่อนจะวิ่งออกไปด้านนอก เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าที่พวกมันมาหาเขาถึงบ้านแบบนี้เพราะอะไร
ไม่นานพวกของซึงฮยอนสองคนก็เดินเข้ามาภายในห้องรับแขก โดยมีคนอีกจำนวนหนึ่งรออยู่ด้านนอก ฮยอนจินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะผายมือไปที่โซฟา แต่พวกซึงฮยอนกลับปฏิเสธ
“ไม่ต้องมีพิธีมากมายอะไร บอกมาว่าไอ้อึนฮยอกอยู่ไหน” เมื่อกวาดมองไปรอบบ้านแล้วยังไม่พบตัวอึนฮยอก พวกเขาไปหามันที่บริษัท บ่อน และคอนโดก็ไม่เจอ เพราะคราวที่แล้วมีคนมาช่วยไว้จึงคิดว่ามันน่าจะกลับมาที่โจกรุ๊ปแล้ว
“เขาไม่อยู่ หายไปหลายวันแล้ว”
“หายไปไหน”
“ถ้าฉันรู้ฉันคงพาตัวเขากลับมาแล้ว นี่พวกแกมาเพราะเรื่องแค่นี้ใช่มั้ย ฉันก็คิดว่าพวกแกจะเอาเงินมาใช้หนี้ซะอีก” ฮยอนจินตอบกลับด้วยท่าทางที่ดูสบายๆ เพราะยังไงซะพวกซึงฮยอนก็ไม่กล้าทำร้ายเขาอยู่แล้ว ไม่งั้นศพพวกมันคงไม่สวยคาบ้านแน่
“ใช้หนี้งั้นเหรอ!! ถ้าลูกพี่ฉันเป็นอะไรไป พวกฉันไม่เอาไอ้อึนฮยออกไว้แน่!!” พวกซึงฮยอนตะคอกกลับเสียงดัง คนหนึ่งทำท่าจะเข้าไปใกล้ฮยอนจินแต่ก็โดนอีกคนห้ามไว้ก่อน
“ให้มันน้อยๆหน่อย อย่าลืมสิว่าพวกแกเป็นลูกหนี้ฉัน ถ้าไม่จ่ายก็สมควรตายอยู่แล้ว อย่าห้าวให้มากถ้ายังไม่อยากตาย ที่สำคัญถ้าอึนฮยอกเป็นอะไรไปอย่าหวังว่าโจกรุ๊ปจะปล่อยให้พวกแกตายอย่างสงบ” คำขู่ของฮยอนจินทำเอาลูกน้องของซึงฮยอนทั้งสองเงียบไปทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเหนือกว่าใคร ที่ได้มาเรียกร้องแบบนี้ก็ถือว่าได้สิทธิ์พิเศษมากพอแล้ว
“เอาแบบนี้แล้วกันนะ ถ้าไอ้ซึงฮยอนเจ้านายของพวกแกปลอดภัย พวกแกต้องนำเงินมาใช้ต้นให้ครบส่วนดอกเบี้ยฉันจะยกให้ และห้ามมาวุ่นวายกับอึนฮยอกอีก ไม่งั้นตาย” ฮยอนจินบอกข้อเสนอแรกออกมา เมื่อพวกของซึงฮยอนไม่มีท่าทีอะไรเลยพูดต่อ
“แต่ถ้าเจ้านายพวกแกตาย หนี้สินทั้งหมดถือว่าเป็นโมฆะ แล้วห้ามมาวุ่นวายกับอึนฮยอก ไม่งั้นตายเหมือนกัน” จบข้อเสนอพวกของซึงฮยอนก็นิ่งไปซักพักก่อนจะพยักหน้ารับข้อตกลงนี้
“ถ้างั้นก็ออกไปได้แล้ว” คุยธุระเสร็จฮยอนจินก็ทำการไล่แขกทันที พวกซึงฮยอนจึงต้องเดินออกไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะที่พวกเขามาเหยียบที่นี้ ณ เวลานี้ก็อันตรายมากพอแล้ว ไม่อยากจะต่อกรให้มากความและไม่อยากทิ้งชีวิตไว้ที่นี่
“ท่านครับ คุณอึนฮยอกติดต่อกลับมาครับ” เพียงแค่ไม่กี่นาทีที่พวกซึงฮยอนเดินออกไปลูกน้องที่ไปทวงหนี้กับอึนฮยอกก็วิ่งหน้าตาตื่นมา ดูท่าทางจะดีใจไม่น้อยเลย
“อึนฮยอกเหรอ” หันไปถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น ติดต่อไปหลายต่อหลายหนแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ และที่เพิ่งติดต่อกลับมานี่ไม่รู้จะเป็นอะไรไปหรือเปล่า
“นี่ครับ” ลูกน้องคนนั้นยื่นโทรศัพท์ให้กับฮยอนจินก่อนจะถอยออกมายืนอยู่ห่างๆ เพราะตนก็อยากจะทราบข่าวของอึนฮยอกเช่นกัน
“อึนฮยอก” เอ่ยเรียกออกไปเสียงเรียบ แต่ในใจกลับรู้สึกเป็นห่วงไม่น้อยเลย ลูกน้องดีๆอย่างอึนฮยอกนั้นหาได้ง่ายๆซะที่ไหน
(ครับ ตอนนี้ทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ) ไม่ทักทายให้มากความอึนฮยอกก็เอ่ยถามข่าวคราวของทางโจกรุ๊ปทันที เพราะตัวเขาเองถูกฮันคยองบังคับให้อยู่ในห้องตลอดเวลา จนตอนนี้แผลเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่เจ้าตำรวจนั่นกลับไม่ยอมให้ออกไปไหนอยู่ดี
“ฉันควรจะถามนายมากกว่าว่าตอนนี้นายเป็นยังไง เมื่อกี้พวกไอ้ซึงฮอยนเพิ่งมาตามหาตัวนาย”
(ดูท่าพวกมันจะไม่ยอมปล่อยผมซักที แต่ตอนนี้ผมปลอดภัยดีครับ ถ้าแผลที่โดนยิงดีขึ้นแล้วผมจะรีบกลับไปทันที) ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ตอนนี้อึนฮยอกอยากจะกลับไปช่วยงานที่โจกรุ๊ปใจจะขาด แต่ติดตรงฮันคยองนี่แหละ
“ปลอดภัยก็ดีแล้ว ยังไงฉันฝากนายติดต่อทงแฮให้รีบกลับมาด้วย”
(ได้ครับ)
“รักษาตัวด้วยล่ะ ส่วนเรื่องของพวกไอ้ซึงฮยอนไม่ต้องเป็นห่วง ฉันคุยกับพวกมันเรียบร้อยแล้ว”
(ครับ แล้วผมจะรีบกลับไป แค่นี้ก่อนนะครับ) พูดจบอึนฮยอกก็ตัดสายทิ้งไปเพราะฮันคยองเข้ามาพอดี ถ้ารู้ว่าเขาติดต่อกับฮยอนจินต้องทำตัวอยากรู้อยากเห็นเป็นแน่
--------------------------------------------------
kr...Talk
สวัสดีจ้าเพื่อนๆ มาอัพเรียบร้อย
ชื่อตอนนี้ก็บ่งบอกแล้วว่าเรื่องของใคร
ในที่สุดพี่หมีก็ปราบนางฟ้าของเราได้สำเร็จ เสร็จไปอีกนึง
ตอนต่อไปมาอัพวันคยูมินนะจ๊ะ
เรื่องปกอ่ะไม่มีคนส่งมาเลย
แล้วไรเตอร์จะเอาปกจากไหนอ่ะ
ขอนะเพื่อนๆ ถ้าว่างๆอยากทำก็ส่งมานะ
วันนี้วันเกิดคิมฮีสุดสวยของเรา
ก็ขอให้พี่มีความสุขที่สุดในชีวิต
สาวขึ้นทุกวัน สวยขึ้นทุกคืน
เกิงไม่อยู่ด้วยก็หันมาสนใจชเวสุดหล่อของเราบ้างนะ
ไม่ใช่ไปสนใจแต่หนุ่มหล่อคนนั้น
แค่นี้แหละ ถ้าให้พูดคงอีกเยอะเดี๋ยวไม่จบ
13/04/54 อีดิทเอ็นซี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
40ความคิดเห็น