ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Mission 15 : ความจริงที่มิอาจเก็บซ่อนได้
MISSION 15
ความจริงที่มิอาจเก็บซ่อนได้
การต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านและโอฮาน่ายังคงดำเนินต่อไป กลุ่มลีโล่ยังหลบอยู่ในบ้าน... ป้องกันไม่ให้แมทธิวเข้าไปฉกฉวยเอาทรัพย์สินของจัมบ้าออกมาอย่างสุดความสามารถ และลีโล่ใช้บริการเจ้ากลิทช์สืบเรื่องแอพประหลาดที่เจาะลึกถึงแหล่งกำเนิดสติทช์ หมายหาทางตลบหลังคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดให้จงได้
สติทช์ สไปค์ และสโปลดี้เฮดยังคงเป็นหน่วยรบแนวหน้าปะทะกับพวกจิ๊กโก๋มีอาวุธและเครื่องทุ่นแรงติดมืออยู่ เจ้าสโปลดี้ตัดสินใจพ่นเปลวไฟจากจมูกเป็นป้อมปราการกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้บ้านแม้แต่ปลายเท้าก็ไม่สามารถแตะตีนบันไดได้ ด้วยความมั่นใจ... ว่าพวกมันไม่สามารถฝ่าเปลวไฟเข้าไปในบ้านได้ สามชีวิตทดลองหนุ่มนักสู้จึงก้าวเท้าเข้าบ้านเพื่อล้มแมทธิวให้เร็วที่สุด
แมทธิวกวาดตามองหาลีโล่กับเพื่อน ๆ ที่กำลังซ่อนตัวตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นจุดหวงห้าม จากห้องนั่งเล่นไปยังทางเดินสู่ห้องต่าง ๆ จุดแรกที่เห็นก็คือ... ลิฟท์ขนาดกะทัดรัดที่ขึ้นไปยังห้องนอนของลีโล่กับสติทช์ แมทธิวจึงคิดลองดี... กดปุ่มเรียกลิฟท์เพื่อที่จะหาตัวลีโล่หรือหลักฐานที่จะทำให้โลกรู้ว่าเอเลี่ยนมีจริง
เช่น คอมพิวเตอร์ของจัมบ้า เป็นต้น
แต่ลีโล่ล็อกลิฟท์ไว้ ลิฟท์จึงไม่ลงมารับแมทธิว ทำเอาแมทธิวหัวเสีย จึงเบนเป้าค้นห้องอื่นต่อ
"Aka taba!" สติทช์กระโดดพุ่งชนแมทธิวจนล้มลง เครื่องช็อตไฟฟ้าหลุดมือ คราวนี้ร่างสติทช์กดทับลงบนสันหลังจนแมทธิวไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก สติทช์หรี่ตาขวาง กำลังเข้าสู่โหมดจอมทำลายล้าง... เห็นว่าโจ๋นรกโดนสั่งสอนแค่แบเบาะเรื่องฟลุทมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นี่มันเล่นบุกรุกบ้านซึ่ง ๆ หน้า เท่ากับว่ามันกำลังรนหาที่ตายอย่างเห็นได้ชัด
"ไงล่ะมึง! อยู่ดีไม่ว่าดี... หาเรื่องตายถึงที่ กูอุตส่าห์ปรานีไม่เชือดคอหอยมึง แต่ดูเหมือนมึงอยากเป็นหน่วยกล้าท้าตาย... ถึงได้บุกมาระรานโอ-ฮาน่าของกู ถ้ามึงอยากเป็นมากนักล่ะก็... กูจะสงเคราะห์ให้!" สติทช์ไม่พูดเปล่า... ยังจิกผมแมทธิวแล้วจับหัวโขกพื้นซ้ำ ๆ จนหน้าผากแบ็ดบอยได้แผลใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาไม่ต้องการสู้กับศัตรูให้ถึงขั้นตาย แค่ใช้ไม้แข็งให้อีกฝ่ายได้แผลเพื่อเป็นการข่มขวัญให้อีกฝ่ายหลาบจำ... ว่าถ้าล้ำเส้นถึงโอฮาน่าอีกครั้ง เรื่องจะไม่จบลงแค่ได้แผลใหญ่กลับบ้าน
อาจส่งกลับบ้านเก่าในคราวหน้าก็เป็นไปได้!
เพื่อให้แมทธิวได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย สติทช์จึงเอาหัวแมทธิวโขกพื้นซ้ำอย่างแรงจนอีกฝ่ายสลบไป ทำเอาสติทช์ถึงกับหอบไปชั่วขณะ นัยน์ตาสีดำของเขากลับมาโตเป็นปกติ
และแล้ว... การต่อสู้ก็จบลง เมื่อพบว่าเหล่าจิ๊กโก๋สมุนแมทธิวถูกจัมบ้ากับพรีคลีย์ที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของ... อัดจนสลบไปไม่นาน
ท่าทางคุณค็อบบร้าต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดอีกรอบเป็นอันแน่แท้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองพี่น้องเพเลไค คุณค็อบบร้ากับจัมบ้าสรุปเหตุการณ์ได้... ว่ามีผู้หวังดีประสงค์ร้ายตั้งใจจะเปิดเผยเรื่องการมีตัวตนของเหล่าเอเลี่ยน เพื่อบีบให้ลีโล่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับโรงเรียน โดยหยิบยกเรื่องการหาบ้านให้เหล่าชีวิตทดลองมาเป็นข้ออ้างสร้างประเด็นโจมตี ซึ่งนานี่ฟังแล้วถึงกับฉุนจัด... เพราะฟังดูไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก รู้สึกได้ว่าวายร้ายต่างดาวตั้งใจปั่นประสาทชาวเกาะคาไวให้โยนบาปไปที่ลีโล่กับเหล่าผลงานของจัมบ้าเพียงฝ่ายเดียว แถมการปั่นประสาทในครั้งนี้... ส่งผลให้ลีโล่กับเพื่อน ๆ ตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง
คุณบริทต้ากับคาร์ล่าเป็นคู่สองแม่ลูกที่ตั้งแง่รังเกียจเจ้าฟลุทแต่แรก เมื่อรู้ว่าเป็นชีวิตทดลองเหมือนสติทช์ ทั้งคู่จึงเฉดหัวคาลี่กับฟลุทออกจากบ้าน เพราะมีหลักฐานเรื่องการกำเนิดของสติทช์อยู่ในมือ หลักฐานในมือแม่... ไม่น่ากังวล เพราะคุณเจมส์สันช่วยนานี่โดยให้เหตุผลว่าคลิปสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนเป็นหลักฐานไม่มีที่มา เหลือแค่แอพประหลาดในมือถือที่ลีโล่ยึดมาจากโมนิก้า... น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง
กลิทช์รายงานผลการแฮ็คเข้าสู่แอพพลิเคชั่นให้ลีโล่ฟัง สรุปความสั้น ๆ ว่าเป็นแอพที่วายร้ายลึกลับนาม... "แอนดรูว์ ไบรเซอร์" เป็นคนผลิตขึ้นมา ซึ่งมีฟังค์ชั่นหลักที่พัฒนามาจากโปรแกรมสเก็ตช์ภาพด้วยเสียงที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนจากสหพันธ์กาแลคติกมักใช้คาดคั้นคนร้ายให้จนมุม พูดง่าย ๆ ก็คือ... ไม่ว่าจะโปรแกรมสเก็ตช์ภาพที่ใช้ในดาวทูโร่หรือแอพประหลาด ถ้าคำบอกเล่าเป็นความจริง ความจริงจากปากคนร้ายจะแปลงเป็นภาพที่จะช่วยคลี่คลายคดีได้
ทำให้ลีโล่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้... ว่าคุณซูซานถูกหลอกให้เล่าเรื่องสติทช์ไม่รู้ตัว แม้เจ้าตัวไม่รู้ว่าสติทช์คือเอเลี่ยนก็ตาม
ตอนนี้ทุกคนมีคำถามคาใจ... "พวกมันรู้จักคนที่ชื่อแอนดรูว์ได้อย่างไร!? แอนดรูว์เป็นใครมาจากไหน!?"
ต้องรอให้แมทธิวฟื้นขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผลโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าระยะประชิดเพื่อป้องกันการหลบหนีเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่แมทธิวทำกับบ้านของลีโล่นั้น... เข้าข่ายคดีอาญาอย่างเห็นได้ชัด ในฐานะที่นานี่เป็นเจ้าของบ้าน... เธอจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด ต่อให้อีกฝ่ายเป็นลูกคนใหญ่คนโตจากเมืองใหญ่ต่างรัฐก็ตาม
ส่วนโมนิก้าที่ถูกหนามพิษทิ่มมือจนเอ๋อรับประทาน ต้องอัดยาสลบยาวจนกว่าพิษจะเสื่อมคลาย ซึ่งต้องใช้เวลา 2 วันกว่านางจะกลับมามีสติดังเดิม
คาร์ล่า เด็กสาวอายุสิบสองหรือสิบสาม ผู้ก่อเหตุขับไล่คาลี่กับฟลุทออกจากบ้าน ถูกแคนนอนบอลกับแซมเปิ้ลจับได้ คุณค็อบบร้าจึงคุมตัวเธอและเรียกคุณบริทต้ากับคุณแอนตั้นมาปรับทัศนคติเรื่องคาลี่ ซึ่งแน่นอนว่าคาลี่จะต้องถูกส่งไปที่สถานสงเคราะห์ชั่วคราวจนกว่าสภาพจิตใจจะได้รับการฟื้นฟู แต่คาลี่เป็นเพื่อนลีโล่ที่ตกเป็นเหยื่อการปองร้ายจากวายร้ายต่างดาว... คาลี่จึงอยู่ภายใต้การดูแลของคุณค็อบบร้าโดยตรง ทำให้ลีโล่รู้จักโอฮาน่าของอดีตซีไอเออีกหนึ่งคน
มีนา บับเบิ้ลส์ ครูประจำชั้นของลีโล่กับผองเพื่อน เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณค็อบบร้า!
ถึงคุณค็อบบร้าคาดโทษคุณแอนตั้นว่าจะตัดสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองของคาลี่ เพราะไม่สามารถปกป้องหลานสาวให้พ้นจากเหตุบุลลี่ (bully) กันในครอบครัวได้ แต่คุณบริทต้ากับคาร์ล่าก็ไม่นำพา เพราะคุณบริทต้ามีหลักฐานยืนยันว่าจัมบ้ากับพรีคลีย์ไม่มีตัวตนในฮาวาย และผู้ปกครองในสมาคมที่ได้รับคลิปสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กในวันที่คนร้ายบุกรมควันสลบเด็ก ๆ ในโรงเรียนก็พากันจับผิดครอบครัวของลีโล่เป็นพิเศษ
ถ้าให้มีคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่บ้าจี้ตามคุณบริทต้า ก็มีแค่คุณพ่ออลันกับคุณแม่มิโอกะ คุณพ่อคุณแม่ของวิคตอเรีย คุณเจมส์สัน (คุณพ่อของคีโอ-นี่) และเบอร์ตั้น (พี่ชายของคาร์ล่า) ที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลูกหลานและพี่น้องที่มีชีวิตทดลองเป็นเพื่อนพลอยเดือดร้อนไปด้วย เริ่มต้นที่คุณเจมส์สันกับเดวิดที่พูดเรื่องคลิปสติทช์เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผู้ปกครองทุกคนในสมาคมฉุกคิด... ว่าหลักฐานที่อยู่ในมือคุณบริทต้าเป็นของจริงหรือถูกเมคอัพขึ้นเพื่อสร้างความแตกแยก
ส่วนคลิปวิดีโอกับคลิปเสียงที่อยู่ในมือถือของสองพี่น้องนรก... จัมบ้าจัดการลบออกจากเครื่อง แต่แอพประหลาดของคุณแอนดรูว์ยังอยู่ เพื่อใช้สอบถามแมทธิวเรื่องแอนดรูว์จนกว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น
คุณค็อบบร้าเห็นว่าลีโล่ตกอยู่ในอันตราย จึงปรึกษากับนานี่เรื่องที่จะให้ลีโล่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาชั่วคราว
"คุณจะให้ลีโล่ไปอยู่เป็นเพื่อนคาลี่... แล้วพี่สาวอย่างฉันต้องย้ายไปอยู่ที่ไหนรึเปล่าคะ!?" นานี่เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน นึกไม่ถึงว่าวันที่สองพี่น้องต้องแยกจากกันจะมาถึง แม้อดีตซีไอเอยืนยันว่าแยกกันอยู่ชั่วคราวก็ตาม
"ตอนนี้คุณเป็นพนักงานประจำโรงแรมวิหคสวรรค์ของคุณเจมส์สัน ทางเจ้านายคุณน่าจะมีสวัสดิการให้เพียบพร้อมสำหรับพนักงานทุกคนนะ" คุณค็อบบร้าประเมินจากชีวิตการงานของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิสูจน์ตนเป็นผู้ปกครองที่สามารถเป็นเสาหลักให้ลีโล่ได้ "ส่วนเรื่องบ้านที่ถูกบุกรุก... ผมมั่นใจได้ว่าคุณจูคิบ้ากับคุณพรีคลีย์ดูแลได้ แต่อาจต้องหลบซ่อนเล็กน้อยจนกว่าทุกอย่างจะเคลียร์"
"เรื่องบ้าน... ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการคลีนนิ่งเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วครับ!" พรีคลีย์ตอบรับด้วยน้ำเสียงเบิกบาน ก่อนที่จะหันไปเหน็บคู่ซี้สี่ตาร่างใหญ่ "แค่อย่าทำอะไรที่มีความเสี่ยงให้เป็นจุดสนใจแล้วกัน"
"อัจฉริยะชั่วร้ายไม่ทำอะไรอย่างที่นายว่าหรอกน่า! อย่างมากก็แค่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านเท่านั้นล่ะนะ" จัมบ้าแว้ดใส่ด้วยความไม่ชอบใจที่เจ้าสามขาพูดราวกับว่าเขาจะทำสิ่งชั่วร้ายยังไงยังงั้น
"จะยังไงก็ช่าง สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ คือ... ทำทุกวิถีทางให้พวกคุณปลอดภัยก็พอ จนกว่าเราจะได้ตัวผู้ต้องสงสัยที่ชื่อแอนดรูว์มาไว้ในมือ ทุกอย่างจะได้กระจ่างสักที" คุณค็อบบร้าสรุปรวบรัด ยืนยันว่าวิธีนี้ดีที่สุดที่จะช่วยครอบครัวลีโล่ให้รอดพ้นจากวายร้ายต่างดาวและผู้คนที่จ้องจับผิดเรื่องแหล่งกำเนิดชีวิตทดลองไปสักพัก ทำเอานานี่ถึงกับหน้าสลด
"ไม่เป็นไรหรอกนานี่ อย่างน้อย... เราก็ไม่ได้สู้เพียงลำพัง ถึงคนทั้งโลกจะมองโอฮาน่าเราแปลก... แต่ความแปลกทำให้ชีวิตคนเรามีสีสันเสมอ สีสันที่ทำให้ลีโล่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากภารกิจหาบ้านให้ญาติของสติทช์ ขอให้เธอไว้ใจคุณค็อบบร้า สติทช์ และญาติของเขาว่าพวกเขาจะปกป้องลีโล่ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม" เดวิดวางมือบนบ่าแฟนสาวพร้อมให้กำลังใจในยามที่เธอเศร้าหมองกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโอฮาน่า นานี่รู้สึกดีที่ได้รับกำลังใจดี ๆ จากเขา เพราะเขาพูดถูกเสมอ
ตั้งแต่ลีโล่รับเลี้ยงสติทช์ ชีวิตของสองพี่น้องเพเลไคก็เข้าไปพัวพันกับเอเลี่ยนจนเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เอเลี่ยนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลีโล่เสียแล้ว และสติทช์ก็มีส่วนที่ทำให้ลีโล่ก้าวออกมาจากความโศกเศร้าจนเชื่อมั่นในโอฮาน่ากับมิตรภาพอีกครั้ง
นานี่ถึงไว้ใจสติทช์ให้เป็นบอดี้การ์ดของลีโล่จนถึงทุกวันนี้
"นายพูดถูก ฉันมัวแต่พยายามทำใจเรื่องลีโล่ว่าจะมีอะไรที่เลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นอีกรึเปล่า ลืมไปว่าลีโล่ไม่ใช่เด็กน้อยเซื่องซึมอีกต่อไปแล้ว เธอมีสติทช์กับญาติที่มีบ้านที่เหมาะสมชี้นำจนมีเพื่อนดี ๆ ที่พร้อมจับมือและเดินไปด้วยกัน ฉันไว้ใจพวกเขา... เหมือนที่ลีโล่ไว้ใจสติทช์ จัมบ้า พรีคลีย์ และคุณค็อบ-บร้าว่าพวกเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้โอฮาน่าของเธอปลอดภัย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้อยู่แล้วนี่" นานี่พูดออกมาอย่างคนปลงตก ทำใจไว้แล้วว่าชีวิตครอบครัวเพเลไคจะต้องพบเรื่องวุ่นวายจากเอเลี่ยนไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่เหล่าชีวิตทดลองยังไม่ถูกค้นพบจนครบ 625 ตัว
เธอได้แต่หวัง... ว่าสองพี่น้องต้องแยกกันแค่ชั่วคราวเท่านั้น
------------------------------------------------------------------------
ขึ้นชื่อว่า "ความจริง" มักเป็นสิ่งไม่ตายเสมอ
โดยเฉพาะความจริงที่เมอร์เทิลเห็นด้วยตาตัวเอง
เธอเชื่อเสมอว่าสิ่งเหนือธรรมชาติที่ลีโล่เชื่อเป็นตุเป็นตะนั้น... ไม่มีจริง
แต่กลับมีจริงจนแทบไม่อยากเชื่อ
เธอไม่อยากเชื่อ... ว่าหมาของลีโล่กับก๊วนสัตว์แปลก ๆ ที่ลีโล่กำลังเลี้ยงดูอยู่ และคุณลุงคุณป้าประหลาดเป็น "เอเลี่ยน" จริง!
ทั้งชีวิตของเธอผู้ได้ชื่อว่ามีพร้อมทุกอย่าง เธอเชื่อเสมอว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในหมู่นักระบำฮูล่าฝึกหัด และลีโล่เป็นเด็กผู้หญิงที่แปลกประหลาดและอับโชคไปเสียทุกเรื่อง
แต่สิ่งที่เห็นกลับตรงกันข้าม
ลีโล่เป็นเด็กผู้หญิงมีโชคเรื่องเพื่อนจริง ๆ
เธอคิดว่าลีโล่มีแค่สติทช์กับสัตว์ประหลาดที่คาดว่าเป็นสปีชีส์เดียวกันเป็นเพื่อน ยังมีเพื่อนมนุษย์ที่หลงเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติที่มองลีโล่เป็นคนอยู่
ที่แท้... พวกวิคตอเรียก็รู้เรื่องที่มาของสติทช์กับเพื่อนเอเลี่ยนนี่เอง ถึงเป็นเพื่อนกับนังโลเลคนเพี้ยนได้!
เธอรู้ได้อย่างไรนะเหรอ!?
เพราะเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อนักเรียนถูกคนร้ายบุกรมควันสลบเพื่อลักพาตัวลีโล่ เป็นลูกสาวคนเดียวที่ดูคลิปเจ้าสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนในมือถือคุณแม่ ทำให้เธอรู้สึกได้... ว่าข้อสงสัยที่คาใจนั้นมีแววเป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด จึงตัดสินใจแอบไปดูลาดเลาที่บ้านของลีโล่
พบว่าสติทช์เป็นเอเลี่ยนจากต่างดาวจริง!
ภาพที่เธอเห็นด้วยตาแถวบ้านของลีโล่... กลายเป็นภาพติดตาที่ทำเอาสมองของเธอนึกถึงตอนที่เธอเห็นลีโล่กับสติทช์คบกับสัตว์แปลก ๆ แต่ละตัว เธอจำได้... ว่าสัตว์แปลก ๆ ล้วนมีพลังหรือความสามารถที่สร้างความวุ่นวายให้คนรอบข้างได้ทุกเมื่อ และคนที่รับมือกับพลังเหล่านี้ก็มีแค่ลีโล่กับสติทช์ บางครั้งเธอได้ยินสติทช์พูดภาษาแปลก ๆ กับสัตว์ประหลาดที่คาดว่าเป็นสปีชีส์เดียวกัน แถมลีโล่ดันเข้าใจภาษาพูดของพวกเขาอีก
เธอถึงได้นอนคิดในห้องนอนตุ๊กตาอยู่อย่างนี้
เธอกำลังคิด... ว่าควรวางตัวอย่างไร หากต้องเผชิญหน้ากับลีโล่อีกครั้ง
แต่อย่างน้อย... เธอยังมีจีจี้ที่เป็นหมาชิสุสายพันธุ์ดีเป็นเพื่อน ไม่มีความแปลกประหลาดเหมือนบรรดาสัตว์เลี้ยงประหลาดของพวกลีโล่แม้แต่น้อย ทำให้เธอรู้สึกว่าหมาชิสุตัวนี้สร้างบารมีให้เธออย่างเหลือล้นจนถึงทุกวันนี้
แต่หาได้รู้ไม่... ว่าความจริงเรื่องจีจี้กำลังจะถูกเปิดเผยโดยใครบางคนผู้ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวเธอ
เจสสิก้าที่ทราบข่าวคนร้ายบุกโจมตีโรงเรียนจนเมอร์เทิลกับก๊วนหญิงจ๋าว่าใช่ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล ตอนแรก... เธอรบเร้าแฟนหนุ่มให้กลับไปนิวยอร์คลูกเดียว มีคุณบริทต้าสนับสนุน... โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัย และเจสสิก้าเป็นลูกสาวเจ้าของแอร์ไลน์ที่เบอร์ตั้นเป็นนักบิน คิดว่าเธอคงจะจัดการเรื่องคิวนักบินไม่ให้กลับไปที่เกาะคาไวเป็นอันแน่แท้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจสสิก้าเปลี่ยนใจกะทันหัน
คงหนีไม่พ้นคลิปเจ้าสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนที่อยู่ในมือถือคุณแม่ของเมอร์เทิล และมีข่าวลือเรื่องคุณลุงคุณป้าของลีโล่ที่คุณบริทต้าค้นพบเมื่อไม่นานมานี้
ทีแรก... เธอไม่สนว่าครอบครัวลีโล่มีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร เพราะคิดว่าต้องด้อยกว่าเมอร์เทิลอยู่แล้ว แต่พอได้ยินว่าสติทช์ไม่ใช่หมาพันธุ์หายากอย่างที่เมอร์เทิลเข้าใจ เธอจึงอาสาตนเป็นตัวแทนผู้ปกครองของเมอร์เทิลที่จะเรียกร้องให้ลีโล่รับผิดชอบต่อบุตรหลานผู้ตกเป็นเหยื่อคนร้ายรมควันสลบ เพียงเพราะลีโล่ตกเป็นเป้าหมายของวายร้ายต่างดาว ซึ่งมีเหตุจากภารกิจหาบ้านให้สัตว์ต่างดาว
เธอเป็นอีกคนที่รับรู้เรื่องการมีตัวตนของเอเลี่ยนจากคุณแอนดรูว์ เพราะแอนดรูว์เป็นหนึ่งในผู้ชมที่อยู่ในงานประกวดความสามารถสุนัขระดับเยาวชนที่โฮโนลูลูเมื่อครั้งที่ลีโล่กับเมอร์เทิลลงแข่ง คาดว่าน่าจะราว ๆ ปีที่แล้ว เขาจำได้ว่าครั้งนั้นมีเหตุขโมยหมาเกิดขึ้นที่งาน และโจรคนนั้นเป็นเอเลี่ยนผู้เป็นอดีตมือปราบจากสหพันธ์กาแลคติกนาม "แกนตู" เขามาเพื่อชิงตัวจีจี้ไป แอนดรูว์แอบถ่ายภาพแล้วเก็บไว้จนกระทั่งได้รับภารกิจลักพาตัวลีโล่อย่างเป็นทางการจากดร.พลาเจียส เมื่อแผนลักพาตัวลีโล่ล้มเหลว จึงใช้วิธีส่งรูปภาพและคลิปวิดีโองานประกวดไปให้เจสสิก้าดู ทำเอาเจสสิก้าเชื่อสนิทใจ... ว่าแกนตูเป็นเอเลี่ยนจริง แต่ไม่เข้าใจมากกว่า... ที่แกนตูมาวุ่นวายกับจีจี้ที่งานประกวดเมื่อปีที่แล้ว
แน่นอนว่าเมอร์เทิลเล่าประสบการณ์ในงานประกวดสุนัขให้แอนดรูว์รับฟัง เรื่องเล่าถูกบันทึกลงในแอพพลิเคชั่นที่แอนดรูว์สร้างขึ้น จากนั้นก็แปลงไฟล์เสียงเป็นคลิปวิดีโอให้ฉายภาพตามคำบอกเล่า สรุปได้ในทันทีว่าจีจี้คือ... "สิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007" ซึ่งเมอร์เทิลไม่รู้ความจริงเรื่องนี้
แค่หลักฐานที่คุณแอนดรูว์ส่งมา... คงไม่เพียงพอที่จะทำให้เมอร์เทิลเชื่อ
เธอจะนำหลักฐานชิ้นนี้ไปใช้ในทิศทางใดกัน... ที่จะทำให้เมอร์เทิลเห็นเต็มตาว่าจีจี้เป็นเอเลี่ยนเหมือนสติทช์ของลีโล่!?
คนที่จะให้คำตอบได้ มีแค่คุณแอนดรูว์คนเดียวเท่านั้น
เธอจึงใช้สมาร์ทโฟนต่อสายไปถึงเบอร์คุณแอนดรูว์เพื่อร่วมวางแผนพิสูจน์จีจี้สักครั้ง
"เจสอยากทราบว่า... มีอะไรเด็ด ๆ อย่างอื่นอีกมั้ยที่จะทำให้น้องฉันเห็นว่าจีจี้เป็นเอเลี่ยนจริง" เจสสิก้าเข้าเรื่องในทันทีที่ต่อสายได้สำเร็จ จากนั้นก็รอฟังคำตอบจากเจ้าของปลายสาย
และคำตอบที่ได้รับนั้น... จะนำพาโอฮาน่าของลีโล่ตกอยู่ในอันตรายอีกเป็นครั้งที่สาม
และอันตรายที่ลีโล่กำลังจะได้รับ... อาจต้องเสียเลือดเนื้อและน้ำตาก็เป็นไปได้!
------------------------------------------------------------------------
บ้านคุณค็อบบร้าเป็นบ้านสองชั้น สามห้องนอน และอยู่ด้วยกันตามประสาพ่อกับลูกสาว แม้ตอนนี้คุณค็อบบร้ามีเจ้าชูชเป็นคู่หูที่ทำงานเป็นหน่วยข่าวกรองของซีไอเอก็ตาม
ลีโล่กับคาลี่ถูกจัดให้พักในห้องรับรองแขก ซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้าน แน่นอนว่ามีสติทช์ ฟลุท และชูชเป็นรูมเมทของพวกเธอ
หลังจากที่เด็กน้อยทั้งสองถูกย้ายเข้ามาพักชั่วคราวแค่คืนเดียว คาลี่ก็จัดเสื้อผ้าใส่ตู้และสิ่งของติดตัวต่าง ๆ นานาบนโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับแขก ด้วยความคิดที่ว่า... หากบ้านคุณลุงแอนตั้นไม่ต้อนรับเธอกับฟลุทอีก เธอก็จะเป็นหลานสาวบุญธรรมของคุณค็อบบร้าโดยปริยาย ผิดกับลีโล่ที่ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจนักกับการมาอาศัยบ้านของอดีตซีไอเอ เพราะเธอหวังว่าจะได้กลับบ้านไว ๆ ถ้าทุกอย่างลงตัว
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อคาลี่กับฟลุทกำลังค้นหาของรักสิ่งหนึ่งในกระเป๋าทั้ง 2-3 ใบของเธอ เป็นของสำคัญที่รู้ดีว่าต้องรักษายิ่งชีพ
"หาเจอรึยัง!?" คาลี่ถามฟลุทที่กำลังค้นหาของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอด้วยน้ำเสียงตึงเครียด
"Naga!" ฟลุทตอบรับ น้ำเสียงของเขาก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน
"หาอะไรกันอยู่เหรอ!?" ลีโล่เอ่ยปากถามในทันทีที่เธอกลับเข้าห้อง... หลังจากที่เธอกับสติทช์ทัวร์บ้านของคุณค็อบบร้ามาไม่นาน
"เครื่องเล่นเทปที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง เทปเพลงของเซลีน มันหายไปไหนก็ไม่รู้" คาลี่ตอบพลางค้นหาของที่ว่าต่อ
"เพลงที่ทำให้ฟลุทหยุดคลุ้มคลั่งใช่มั้ย!?" สติทช์นึกออก จำได้ว่าคาลี่เคยเล่าเรื่องที่ฟลุทถูกญาติใจร้ายรังแกจนเป็นอสุรกายให้ฟัง
"ใช่! ปกติจะเก็บไว้ในห้อง ผมกับคาลี่จะเปิดฟังก่อนนอนทุกคืน แต่ตอนนี้ถูกเฉดหัวออกมา เครื่องไม่ได้ถูกโยนออกมาพร้อมข้าวของด้วยพี่!" เจ้าฟลุทพูดออกมาด้วยความเจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง ถูกคาร์ล่าไล่ออกจากบ้านไม่พอ... ยังยึดเครื่องเล่นเทปเพลงของเซลีนไปอีก
"อาจจะอยู่กับคุณลุง พี่โคดี้ หรือป้าดาร์ลีนของเธอก็ได้" ลีโล่สันนิษฐานในแง่บวก หวังว่าคาลี่จะทำใจให้ร่มขึ้นอย่างรวดเร็ว... หากว่าคนที่ถือเครื่องเล่นเทปนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้ว่าจะดูแลรักษาอย่างดี
"ก็... เป็นไปได้นะ แต่อย่าลืมสิ... ว่าวันที่ฉันถูกเฉดหัวออกจากบ้าน ทุกคนออกจากบ้านหมดเลยนะ คุณลุงทำงาน พี่โคดี้ออกไปซื้อของเป็นเพื่อนป้าดาร์ลีน และพี่เบอร์ตั้นออกเดทกับพี่เจสสิก้า เธอคิดเหรอว่าอีพี่คาร์ล่าจะยอมรับง่าย ๆ ว่าเป็นคนยึดมัน!?" คาลี่เตือนความจำ ทำเอาลีโล่ต้องคิดหนักพอสมควร
"เรายังมี ฟิบเบอร์ เป็นตัวช่วยจับโกหกนี่!" สติทช์เสนอชื่อลูกพี่ลูกน้องที่มั่นใจว่าจะช่วยคาลี่ได้ ลีโล่ฟังแล้วรู้สึกว่าความหวังอยู่ไกลแค่เอื้อมมือคว้าอย่างง่ายดาย
"จริงด้วย! เขาอยู่ สน.โคคาอัวทาวน์ ทำงานสอบสวนผู้ต้องหา ต้องช่วยเราได้แน่ ๆ!" ลีโล่พูดถึงคาร์ล่าในนามผู้ต้องหายึดเครื่องเล่นเทปแล้วถึงกับหน้าสลด "แต่... โรงเรียนชั้นม.ต้นยังไม่หยุดชั่วคราวนะ"
"ไม่ได้มีญาติใจร้ายนั่นคนเดียวที่ถูกสงสัยว่ายึดเครื่องเล่นเทปไป เพื่อนสองพี่น้องนรกนั่นก็เข้าข่ายหัวขโมยเช่นกัน!" สติทช์นึกถึงสองพี่น้องนรกคู่นั้นแล้วของขึ้น... อยากเค้นคอถามแมทธิวหรือโมนิก้าเต็มแก่ แต่ติดตรงที่แมทธิวถูกคุมตัว... จึงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
"ฉันว่า... เรารอคุณค็อบบร้ากลับมาก่อนค่อยระดมสมองกันว่าจะแวะเยี่ยมบ้านคุณแอนตั้นเมื่อไหร่ บางที... เครื่องเล่นเทปของคาลี่อาจถูกเก็บไว้ที่เดิมอ่ะนะ" ชูชตัดบทให้ทุกคนรอเจ้าของบ้านกลับมาจากการสอบสวนผู้ต้องหา พวกลีโล่ทำได้แค่พยักหน้าเห็นด้วย เพราะป่านนี้คุณค็อบบร้าคงเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อสอบสวนแมทธิวอย่างลับ ๆ
หวังว่าการสอบสวนในครั้งนี้... จะได้ข้อมูลที่สาวไปถึงผู้บงการในอีกมิช้า
ผู้บงการที่มีนามว่า... "ดร.แจ็ค วอน แฮมสเตอร์วิลล์"
เพราะผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้านเพเลไคเป็นคนที่คาดว่าจะมีข้อมูลสาวถึงผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด ในฐานะอดีตซีไอเออย่างคุณค็อบบร้า... จึงปรึกษากับทางโรงพยาบาลปิดข่าวไม่ให้คุณพ่อของสองพี่น้องนรกรับทราบจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น แมทธิวถึงได้พักรักพาตัวอยู่ในห้องพิเศษ มีเจ้าหน้าที่คุมตัวเป็นอย่างดี สร้างความโกรธแค้นให้แบ็ดบอยจอมกร่างเป็นอย่างมาก
"พวกมึงจะมาทำอย่างนี้กับกูไม่ได้! มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร! เดี๋ยวพวกมึงหนาวแน่!" แมทธิวโวยใส่เจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ยังเฝ้าไข้อยู่ เกลียดนักที่เขาถูกจับสวมกุญแจมือล่ามติดกับเตียงผู้ป่วยเหมือนคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจ
"ผมว่าคุณต่างหากที่จะหนาว เพราะตัดไหมบนหน้าผากคุณได้เมื่อไหร่ เตรียมถูกดำเนินคดีบุกรุกทำร้ายร่างกายได้เลย ทางเจ้าของบ้านพร้อมเอาเรื่องถึงที่สุดแล้วด้วย" คุณค็อบบร้าสวนกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ... สำแดงความดุดันให้อีกฝ่ายสงบปากสงบคำลง
"เอาเรื่องเหรอ!?" แมทธิวหัวเราะในลำคอ เห็นคุณค็อบบร้าเป็นเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ จึงกร่างใส่ "คุณเป็นใคร! ตำรวจก็ไม่ใช่ เป็นแค่เจ้าหน้าที่... มีสิทธิ์อะไรมาสอบสวนผม!?"
"คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะถามผมว่าทำไมผมต้องมาสอบสวน คุณมีสิทธิ์พูดได้ก็ต่อเมื่อผมตั้งคำถามเท่านั้น" อดีตซีไอเอกำชับเสียงเข้ม
"คุณจะสอบถามอะไรผม!?" แมทธิวถาม
"แค่คำถามเดียว และช่วยตอบตามความจริงด้วย ถ้าอยากนอนพักอย่างสงบแล้วกลับบ้านไว ๆ" คุณค็อบบร้าเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าเรื่อง โดยเอามือถือของโมนิก้ามาเปิดแอพประหลาดของคุณแอนดรูว์เพื่ออัดเสียงแมทธิว "คุณคงจำแอพนี้ได้ใช่มั้ย"
"หึ... คุณคิดจะข่มขู่ผมเพื่อเร็คคอร์ดคำสารภาพนะเหรอ วิธีการแบบนี้มันเอาท์แล้วนะจะบอกให้ ทางที่ดี... อย่าเสียเวลากับผมจะดีกว่า ไม่อย่างนั้น... คุณหนาวแน่" แมทธิวยียวนไม่เลิก แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านต่อคำขู่ใด ๆ
"อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้น... คุณจะหนาวยิ่งกว่าที่คุณขู่ผมเมื่อครู่นี้" คุณค็อบบร้าย้ำเสียงเข้ม... ด้วยท่าทีที่นิ่งสุขุมและเยือกเย็นสมกับเป็นอดีตซีไอเอ ทำเอาแมทธิวกลัวตัวสั่นทีละนิด ๆ เมื่อเห็นสีหน้าที่ดุดันเงียบขรึมบนใบหน้า แม้เขาสวมแว่นดำอยู่ก็ตาม "ผมรู้จักพ่อคุณดี ดีจนเรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุงเลยก็ว่าได้ จะให้ผมพูดเรื่องอะไรดี... ที่อาจส่งผลถึงความเป็นอยู่ของคุณกับน้องคุณในอีกมิช้า"
"เรื่องอะไรมิทราบ" แมทธิวย้อนถาม ทำใจดีสู้เสือเมื่อสบตาอดีตซีไอเอที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"ผมว่าเราเสียเวลามามากพอแล้ว เข้าเรื่องกันดีกว่า คุณรู้จักคุณแอนดรูว์ ไบรเซอร์มานานแค่ไหน ถึงได้มีแอพนี้อยู่ในมือถือคุณ" คุณค็อบบร้าตั้งคำถามในทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามบ่ายเบี่ยงประเด็น จากนั้นก็กดปุ่มทำการอัดเสียง
"คุณแอนดรูว์ ไบรเซอร์" แมทธิวทวนชื่อที่อีกฝ่ายถามก่อนจะยักไหล่ตอบคำถาม "นานแค่ไหนไม่รู้ รู้แค่ว่าเป็นนักธุรกิจผลิตแอพพลิเคชั่นที่ถูกพูดถึงกันทั่วอเมริกา เพิ่งรู้จักกันโดยบังเอิญ"
"รู้จักกันโดยบังเอิญ หมายความว่าไง" คุณค็อบบร้างุนงงกับคำตอบของอีกฝ่าย
"ก็ผมอาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศที่อยู่ใกล้โฮมสเตย์ รู้จักกันหลังจากที่มีคนขับรถมาคืนเมื่อวันอังคารที่แล้ว" แมทธิวตอบ จากนั้นก็เล่าเรื่องต่อจนคุณค็อบบร้าได้ข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบหาตัวแอนดรูว์ต่อไป
ถ้าแอนดรูว์คือ "นินจาเทคโนไร้เงา" ที่จ้องลักพาตัวลีโล่ตามใบสั่งของแฮมสเตอร์วิลล์ เห็นที... เจ้าหนูเจอร์บิลโรคจิตนั่นควรได้รับโทษขั้นสูงสุดเสียแล้วล่ะกระมัง!
------------------------------------------------------------------------
นึกถึงเอเลี่ยน เธอเกือบลืมเรื่องการประกวดสุนัขที่โฮโนลูลูเมื่อปีก่อนเสียสนิทเลย!
เมอร์เทิลจำได้... ว่าจีจี้เกือบถูกโจรหน้าปลาดุกร่างใหญ่ลักพาตัวไป แต่ลีโล่กับสติทช์ก็ช่วยชีวิตจีจี้จนรอดพ้นเงื้อมมือโจรร้ายตัวนั้นได้
จีจี้ถูกมองเป็นหมาชิสุนั้นเป็นเรื่องดี แต่พอมีเรื่องเอเลี่ยนที่ลีโล่เก็บงำไว้กำลังจะถูกเปิดเผย ทำให้เธอนึกถึงโจรหน้าปลาดุกที่พยายามลักพาตัวหมาของเธอเมื่อครั้งยังอดีต ข้อสงสัยที่คาใจจึงกระตุ้นให้เธอตัดสินใจทำสิ่งหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เธอได้รับบทเรียนชีวิตในอีกมิช้า
แวะบ้านลีโล่
เธอปักใจเชื่อ... ว่าลีโล่เป็นคน ๆ เดียวที่น่าจะให้คำตอบทุกอย่าง แต่มีรึ... ที่นังคนเพี้ยนจะให้คำตอบง่าย ๆ
หาทางเข้าบ้าน เป็นหนทางเดียวที่จะได้คำตอบเพื่อไขข้อสงสัยให้กระจ่าง
เมอร์เทิลขึ้นบันไดไปยังระเบียงหน้าบ้าน แอบส่องคนผ่านทางหน้าต่างห้อง เริ่มต้นที่ห้องนอนจัมบ้ากับพรีคลีย์ จะเห็นได้ชัดเจน... ว่ามีเตียงสองชั้น และเตียงชั้นบนมีความยุบแต่ไม่หักลงมาถล่มเตียงชั้นล่าง ซึ่งตอนนี้พรีคลีย์กำลังทำความสะอาดบ้านพร้อมกับฮัมเพลงตามปกติ
เพียงแต่... สิ่งที่เธอพบเห็น ทำเอาเมอร์เทิลตกใจจนรีบเอามือปิดปากก่อนที่จะกรีดร้องออกมา
พรีคลีย์ไม่มีผมที่บ่งบอกว่าเป็น "คุณป้า" !!
เมื่อเห็นว่าพรีคลีย์ไม่ใช่ป้าแท้ ๆ ของลีโล่ตามที่คุณบริทต้าว่าไว้ ทำให้เธอมั่นใจได้ว่าพรีคลีย์ที่ลีโล่แนะนำว่าเป็นป้าคือเอเลี่ยนจริง ๆ จึงตั้งใจว่าจะสืบเรื่องลีโล่ต่อ แต่มีเหตุที่ทำให้ความลับถูกเปิดเผยเฉียบพลัน
มีคนเปิดประตูออกจากบ้าน
ไม่ใช่คนสิ... หมาประหลาดสปีชีส์เดียวกับสติทช์ต่างหาก!
"เธอมาทำอะไรที่นี่!?" คำถามที่พ่นออกมาจากปากรูเบ็น ทำเอาเมอร์เทิลตกใจ... กรีดร้องออกมาก่อนที่นางจะสลบไป
"เกิดอะไรขึ้น!?" พรีคลีย์วิ่งออกมาดูเหตุการณ์ เห็นยัยหัวแดงสวมแว่นกำลังนอนสลบอยู่ "อ้อว์... อย่างนี้นี่เอง"
สุดท้าย... เด็กหญิงหัวแดงผู้น่ารำคาญก็ถูกหามมานอนบนเก้าอี้หน้าทีวี มีพรีคลีย์คอยพัดแทบเมื่อยมือจนเธอรู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบ้านของลีโล่ไม่ได้มีแค่พรีคลีย์ที่ไม่ได้เป็นป้าแท้ ๆ ของลีโล่
จัมบ้าก็ไม่ใช่ลุงแท้ ๆ ของลีโล่อีกเช่นกัน และตอนนี้ลีโล่กับพี่นานี่ไม่อยู่บ้าน
กลับมีรูเบ็น แองเจิ้ล และสปาร์คกี้แวะมาบ้านลีโล่
เมอร์เทิลหยิกแก้มตัวเอง คิดว่าเอเลี่ยนที่ยืนทำหน้างงเป็นแค่ภาพลวงตาหรือแค่ฝันไป แต่ยิ่งหยิกแรงมากเท่าใด... ยิ่งเจ็บเมื่อนั้น เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า คือ... ของจริง!
"สบายดีขึ้นแล้วสินะ" จัมบ้าเอ่ยปากแสดงความเป็นมิตร เมอร์เทิลกวาดตามองซ้าย-ขวา เห็นรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าเอเลี่ยนทั้งห้า จึงลุกพรวดจากเก้าอี้ในทันที
"เห็นแล้วนี่ว่าฉันสบายดี" เมอร์เทิลตอบห้วน ๆ น้ำเสียงแข็งกระด้างจนพรีคลีย์ถึงกับหน้าสลด
"ถ้าสบายดีแล้ว หนูน่าจะอยู่ตอบคำถามป้านะ จะทานอะไรสักหน่อยมั้ยจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปเอาแซนด์วิชมาให้ รูเบ็นเพิ่งทำเสร็จพอดี กำลังร้อน ๆ เลย" พรีคลีย์ตั้งท่าจะกลับเข้าไปในห้องครัว เพื่อที่จะหยิบแซนด์วิชฝีมือรูเบ็นออกมาเสิร์ฟ
"ไม่ต้องหรอก... ฉันยังไม่หิว" เมอร์เทิลปฏิเสธทันควันพร้อมกับเท้าสะเอวหรี่ตามองพรีคลีย์ด้วยสายตารังเกียจ "แต่คนที่ต้องตอบคำถาม... ควรจะเป็นป้ามากกว่านะ ไม่ใช่สิ... จะให้ฉันเรียกว่าอะไรดีล่ะ อาก็ไม่ใช่ น้าก็ไม่เชิง แหม... เล่นละครเก่งนะคะ ปลอมตัวเป็นคุณลุงคุณป้าได้แนบเนียนเหลือเกิน ไม่รู้ว่า... นังโลเลคนเพี้ยนคงเพี้ยนเข้าแล้วจริง ๆ ถึงได้..."
"นี่! จะพูดจะจาอะไร ระวังปากหน่อย พวกเขาแก่คราวพ่อแม่แล้วนะ น่าจะให้ความเคารพกันซะบ้าง" รูเบ็นเอ่ยปากตักเตือนเด็กหัวแดงที่ใช้ถ้อยคำดูถูกเย้ยหยันคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณลุงคุณป้ากำมะลอที่ดูแลลีโล่มาตลอด
"มีอะไรให้น่าเคารพอีกล่ะ!? ทุกอย่างมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าโอฮาน่าของนังคนเพี้ยนนี่หลุดโลกได้โล่จริง ๆ ตั้งแต่หมายันคนที่ถูกทึกทักว่าเป็นลุงป้า... หลุดมาจากดาวดวงไหนมิทราบคะ" เมอร์เทิลย้อนถามเสียงแหลม
"มาจากดาวดวงไหนไม่สำคัญ มันสำคัญตรงที่... เธอมาทำอะไรที่นี่มิทราบ" จัมบ้ายืนกอดอกสอบถามเสียงเข้ม จ้องหน้าเมอร์เทิลราวกับว่านางเป็นนักโทษที่ถูกจองจำไม่มีผิด
"ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วกัน ฉันบังเอิญได้ยินพวกสมาคมคนเพี้ยนพูดถึงหมาประหลาดเป็นเอเลี่ยนอย่างสนุกปาก โดยเฉพาะเจ้าหมาตัวสีฟ้าที่ชื่อ... สติทช์ หมาพันธุ์หายากที่มีต้นตระกูลเป็นหมาที่สื่อสารกับคนตายตั้งแต่อียิปต์สมัยก่อน ตกลงความจริงเป็นยังไงคะ" เด็กหญิงหัวแดงยิงคำถามในทันทีที่มีโอกาส ทำเอาจัมบ้า พรีคลีย์ และพวกรูเบ็นมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าคู่อริของลีโล่จะรู้ความจริงที่เก็บซ่อนไว้
"แล้วเธออยากรู้ทำไม" แองเจิ้ลย้อนถาม สงสัยในตัวเมอร์เทิลที่ถามหาความจริงเรื่องของสติทช์
"ความจริง... ฉันก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้หรอก แต่พอมีคนร้ายบุกถล่มโรงเรียนจนตกเป็นข่าวใหญ่ และมีข่าวลือเรื่องนังโลเลถูกปองร้ายเพราะมีส่วนพัวพันกับ... สัตว์ประหลาดต่างดาวอย่างพวกเธอแพร่สะพัดไปทั่วเกาะ ทำให้ฉันนึกถึงโจรหน้าปลาดุกบิ๊กเบิ้มที่พยายามจับตัวจีจี้ไปจากงานประกวดที่โฮโนลูลูเมื่อปีก่อน และหมานังโลเลก็ช่วยจีจี้ให้พ้นจากโจรได้สำเร็จ ฉันคิดว่าลีโล่ต้องรู้เรื่องทุกอย่าง... ก็เลยอยากถามว่าทำไมโจรคนนั้นต้องมายุ่งกับจีจี้ของฉันด้วย" เมอร์-เทิลชี้แจงเหตุผลให้อีกฝ่ายรับทราบ พวกจัมบ้าถึงกับนิ่งไปอีกยก
พวกเขารู้ดี... แกนตูเป็นโจรขโมยสิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007 ที่กลายเป็นหมาน้อยของยัยหนูนิสัยเสีย!
"เงียบทำไมคะ!? หรือว่าสองเรื่องนี้... มีพวกหมาประหลาดมาเกี่ยวข้องจริง!? สรุปแล้วนังโลเลเป็นตัวอะไรกันแน่!?" เมอร์เทิลเสียงสั่น... สมองนางเริ่มเตลิดไปไกล
"ลีโล่ก็เป็นคนเหมือนเธอนี่แหละ! แต่ต่างกันตรงที่ลีโล่มองเราเข้าถึงก้นบึ้งในหัวใจ ไม่เคยมองเราเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนใครบางคนที่ยืนด่าฉอด ๆ ๆ ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่แบบนี้" รูเบ็นโพล่งออกมาอย่างสุดจะทนกับความคิดของยัยหัวแดงเต็มที
"เฮอะ เป็นคน!? คนดี ๆ ที่ไหนจะนับเอเลี่ยนเป็นโอฮาน่าห๊ะ!?" เมอร์เทิลยอกย้อนน้ำเสียงเย้ยหยัน
"จีจี้ของเธอก็เป็นโอฮาน่าของเธอเหมือนกัน!" สปาร์คกี้สวนกลับ
"อย่าเอาจีจี้ของฉันมาเทียบกับพวกแก!" เมอร์เทิลเดือดดาลจัดที่หมาชิสุของเธอถูกพวกรูเบ็นกล่าวหาว่าเป็นเอเลี่ยน
"หยุดเถียงกันแล้วหันหน้ามาจับเข่าคุยกันแบบคนมีอารยธรรมกันสักที!" พรีคลีย์เป็นฝ่ายห้ามศึกน้ำลายในทันทีที่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายทุ่มเถียงกันจนหัวร้อนขึ้นมา
ในที่สุด... ความเงียบก็เข้าปกคลุม
"ถ้าเธออยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจีจี้ในงานประกวดสุนัขเมื่อปีก่อน หรือไม่ก็เหตุโจมตีโรงเรียนที่ทำให้สติทช์ตกเป็นข่าวพุ่งเป้าโจมตีลีโล่ว่ามีส่วนพัวพันกับเอเลี่ยน ฉันจะตอบคำถามทุกข้อที่เธอสงสัย... ที่บ้านหลังนี้ เวลานี้ ที่เดียว! หวังว่าเธอจะเข้าใจ... และมองลีโล่ในทางที่ดีขึ้นนะ" พรีคลีย์เกริ่นนำให้เมอร์เทิลตั้งใจฟังสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้
"มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ล่ะ... ว่าจีจี้ของฉันเกี่ยวข้องกับเอเลี่ยนจริง" เมอร์เทิลถาม
"กะแล้วว่าต้องการหลักฐาน รออยู่ตรงนี้นะ ถ้าเห็นหลักฐานแล้วอย่าช็อกเป็นลมสลบอีกล่ะ ขี้เกียจเก็บศพ!" สปาร์คกี้แปลงกายตนเป็นกระแสไฟบินไปที่ยานของจัมบ้าแล้วหยิบคอมพิวเตอร์ออกมาส่งถึงมือจัมบ้า อัจฉริยะชั่วร้ายเปิดไฟล์สิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007 แล้วหันหน้าจอให้เมอร์เทิลดูด้วยตาตัวเอง
"นี่ไงหลักฐาน จีจี้ของเธอเหมือนกับสติทช์ของยัยหนูทุกประการ"
ç=================è
ความคิดเห็น