ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Lilo & Stitch Reboot Fanfic : ลิขิตรักข้ามจักรวาล

ลำดับตอนที่ #16 : Mission 15 : ความจริงที่มิอาจเก็บซ่อนได้

  • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 62


MISSION 15

ความจริงที่มิอาจเก็บซ่อนได้



               การต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านและโอฮาน่ายังคงดำเนินต่อไป  กลุ่มลีโล่ยังหลบอยู่ในบ้าน... ป้องกันไม่ให้แมทธิวเข้าไปฉกฉวยเอาทรัพย์สินของจัมบ้าออกมาอย่างสุดความสามารถ  และลีโล่ใช้บริการเจ้ากลิทช์สืบเรื่องแอพประหลาดที่เจาะลึกถึงแหล่งกำเนิดสติทช์  หมายหาทางตลบหลังคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดให้จงได้

               สติทช์  สไปค์  และสโปลดี้เฮดยังคงเป็นหน่วยรบแนวหน้าปะทะกับพวกจิ๊กโก๋มีอาวุธและเครื่องทุ่นแรงติดมืออยู่  เจ้าสโปลดี้ตัดสินใจพ่นเปลวไฟจากจมูกเป็นป้อมปราการกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้บ้านแม้แต่ปลายเท้าก็ไม่สามารถแตะตีนบันไดได้  ด้วยความมั่นใจ... ว่าพวกมันไม่สามารถฝ่าเปลวไฟเข้าไปในบ้านได้  สามชีวิตทดลองหนุ่มนักสู้จึงก้าวเท้าเข้าบ้านเพื่อล้มแมทธิวให้เร็วที่สุด

               แมทธิวกวาดตามองหาลีโล่กับเพื่อน ๆ ที่กำลังซ่อนตัวตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นจุดหวงห้าม  จากห้องนั่งเล่นไปยังทางเดินสู่ห้องต่าง ๆ  จุดแรกที่เห็นก็คือ... ลิฟท์ขนาดกะทัดรัดที่ขึ้นไปยังห้องนอนของลีโล่กับสติทช์  แมทธิวจึงคิดลองดี... กดปุ่มเรียกลิฟท์เพื่อที่จะหาตัวลีโล่หรือหลักฐานที่จะทำให้โลกรู้ว่าเอเลี่ยนมีจริง

               เช่น  คอมพิวเตอร์ของจัมบ้า  เป็นต้น

               แต่ลีโล่ล็อกลิฟท์ไว้  ลิฟท์จึงไม่ลงมารับแมทธิว  ทำเอาแมทธิวหัวเสีย  จึงเบนเป้าค้นห้องอื่นต่อ

               "Aka taba!"  สติทช์กระโดดพุ่งชนแมทธิวจนล้มลง  เครื่องช็อตไฟฟ้าหลุดมือ  คราวนี้ร่างสติทช์กดทับลงบนสันหลังจนแมทธิวไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก  สติทช์หรี่ตาขวาง  กำลังเข้าสู่โหมดจอมทำลายล้าง... เห็นว่าโจ๋นรกโดนสั่งสอนแค่แบเบาะเรื่องฟลุทมาแล้วครั้งหนึ่ง  แต่นี่มันเล่นบุกรุกบ้านซึ่ง ๆ หน้า  เท่ากับว่ามันกำลังรนหาที่ตายอย่างเห็นได้ชัด

               "ไงล่ะมึง!  อยู่ดีไม่ว่าดี... หาเรื่องตายถึงที่  กูอุตส่าห์ปรานีไม่เชือดคอหอยมึง  แต่ดูเหมือนมึงอยากเป็นหน่วยกล้าท้าตาย... ถึงได้บุกมาระรานโอ-ฮาน่าของกู  ถ้ามึงอยากเป็นมากนักล่ะก็... กูจะสงเคราะห์ให้!"  สติทช์ไม่พูดเปล่า... ยังจิกผมแมทธิวแล้วจับหัวโขกพื้นซ้ำ ๆ จนหน้าผากแบ็ดบอยได้แผลใหญ่  ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาไม่ต้องการสู้กับศัตรูให้ถึงขั้นตาย  แค่ใช้ไม้แข็งให้อีกฝ่ายได้แผลเพื่อเป็นการข่มขวัญให้อีกฝ่ายหลาบจำ... ว่าถ้าล้ำเส้นถึงโอฮาน่าอีกครั้ง  เรื่องจะไม่จบลงแค่ได้แผลใหญ่กลับบ้าน

               อาจส่งกลับบ้านเก่าในคราวหน้าก็เป็นไปได้!

               เพื่อให้แมทธิวได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย  สติทช์จึงเอาหัวแมทธิวโขกพื้นซ้ำอย่างแรงจนอีกฝ่ายสลบไป  ทำเอาสติทช์ถึงกับหอบไปชั่วขณะ  นัยน์ตาสีดำของเขากลับมาโตเป็นปกติ

               และแล้ว... การต่อสู้ก็จบลง  เมื่อพบว่าเหล่าจิ๊กโก๋สมุนแมทธิวถูกจัมบ้ากับพรีคลีย์ที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของ... อัดจนสลบไปไม่นาน  

               ท่าทางคุณค็อบบร้าต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาดอีกรอบเป็นอันแน่แท้



               จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองพี่น้องเพเลไค  คุณค็อบบร้ากับจัมบ้าสรุปเหตุการณ์ได้... ว่ามีผู้หวังดีประสงค์ร้ายตั้งใจจะเปิดเผยเรื่องการมีตัวตนของเหล่าเอเลี่ยน  เพื่อบีบให้ลีโล่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับโรงเรียน  โดยหยิบยกเรื่องการหาบ้านให้เหล่าชีวิตทดลองมาเป็นข้ออ้างสร้างประเด็นโจมตี  ซึ่งนานี่ฟังแล้วถึงกับฉุนจัด... เพราะฟังดูไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก  รู้สึกได้ว่าวายร้ายต่างดาวตั้งใจปั่นประสาทชาวเกาะคาไวให้โยนบาปไปที่ลีโล่กับเหล่าผลงานของจัมบ้าเพียงฝ่ายเดียว  แถมการปั่นประสาทในครั้งนี้... ส่งผลให้ลีโล่กับเพื่อน ๆ ตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง

               คุณบริทต้ากับคาร์ล่าเป็นคู่สองแม่ลูกที่ตั้งแง่รังเกียจเจ้าฟลุทแต่แรก  เมื่อรู้ว่าเป็นชีวิตทดลองเหมือนสติทช์  ทั้งคู่จึงเฉดหัวคาลี่กับฟลุทออกจากบ้าน  เพราะมีหลักฐานเรื่องการกำเนิดของสติทช์อยู่ในมือ  หลักฐานในมือแม่... ไม่น่ากังวล  เพราะคุณเจมส์สันช่วยนานี่โดยให้เหตุผลว่าคลิปสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนเป็นหลักฐานไม่มีที่มา  เหลือแค่แอพประหลาดในมือถือที่ลีโล่ยึดมาจากโมนิก้า... น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง

               กลิทช์รายงานผลการแฮ็คเข้าสู่แอพพลิเคชั่นให้ลีโล่ฟัง  สรุปความสั้น ๆ ว่าเป็นแอพที่วายร้ายลึกลับนาม... "แอนดรูว์ ไบรเซอร์" เป็นคนผลิตขึ้นมา  ซึ่งมีฟังค์ชั่นหลักที่พัฒนามาจากโปรแกรมสเก็ตช์ภาพด้วยเสียงที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนจากสหพันธ์กาแลคติกมักใช้คาดคั้นคนร้ายให้จนมุม  พูดง่าย ๆ ก็คือ... ไม่ว่าจะโปรแกรมสเก็ตช์ภาพที่ใช้ในดาวทูโร่หรือแอพประหลาด  ถ้าคำบอกเล่าเป็นความจริง  ความจริงจากปากคนร้ายจะแปลงเป็นภาพที่จะช่วยคลี่คลายคดีได้

               ทำให้ลีโล่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้... ว่าคุณซูซานถูกหลอกให้เล่าเรื่องสติทช์ไม่รู้ตัว  แม้เจ้าตัวไม่รู้ว่าสติทช์คือเอเลี่ยนก็ตาม

               ตอนนี้ทุกคนมีคำถามคาใจ... "พวกมันรู้จักคนที่ชื่อแอนดรูว์ได้อย่างไร!?  แอนดรูว์เป็นใครมาจากไหน!?"

               ต้องรอให้แมทธิวฟื้นขึ้นมา  ซึ่งตอนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำแผลโดยเฉพาะ  มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเฝ้าระยะประชิดเพื่อป้องกันการหลบหนีเกิดขึ้น  เพราะสิ่งที่แมทธิวทำกับบ้านของลีโล่นั้น... เข้าข่ายคดีอาญาอย่างเห็นได้ชัด  ในฐานะที่นานี่เป็นเจ้าของบ้าน... เธอจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด  ต่อให้อีกฝ่ายเป็นลูกคนใหญ่คนโตจากเมืองใหญ่ต่างรัฐก็ตาม

               ส่วนโมนิก้าที่ถูกหนามพิษทิ่มมือจนเอ๋อรับประทาน  ต้องอัดยาสลบยาวจนกว่าพิษจะเสื่อมคลาย  ซึ่งต้องใช้เวลา 2 วันกว่านางจะกลับมามีสติดังเดิม

               คาร์ล่า  เด็กสาวอายุสิบสองหรือสิบสาม  ผู้ก่อเหตุขับไล่คาลี่กับฟลุทออกจากบ้าน  ถูกแคนนอนบอลกับแซมเปิ้ลจับได้  คุณค็อบบร้าจึงคุมตัวเธอและเรียกคุณบริทต้ากับคุณแอนตั้นมาปรับทัศนคติเรื่องคาลี่  ซึ่งแน่นอนว่าคาลี่จะต้องถูกส่งไปที่สถานสงเคราะห์ชั่วคราวจนกว่าสภาพจิตใจจะได้รับการฟื้นฟู  แต่คาลี่เป็นเพื่อนลีโล่ที่ตกเป็นเหยื่อการปองร้ายจากวายร้ายต่างดาว... คาลี่จึงอยู่ภายใต้การดูแลของคุณค็อบบร้าโดยตรง  ทำให้ลีโล่รู้จักโอฮาน่าของอดีตซีไอเออีกหนึ่งคน

               มีนา บับเบิ้ลส์  ครูประจำชั้นของลีโล่กับผองเพื่อน  เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณค็อบบร้า!

               ถึงคุณค็อบบร้าคาดโทษคุณแอนตั้นว่าจะตัดสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองของคาลี่  เพราะไม่สามารถปกป้องหลานสาวให้พ้นจากเหตุบุลลี่ (bully) กันในครอบครัวได้  แต่คุณบริทต้ากับคาร์ล่าก็ไม่นำพา  เพราะคุณบริทต้ามีหลักฐานยืนยันว่าจัมบ้ากับพรีคลีย์ไม่มีตัวตนในฮาวาย  และผู้ปกครองในสมาคมที่ได้รับคลิปสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กในวันที่คนร้ายบุกรมควันสลบเด็ก ๆ ในโรงเรียนก็พากันจับผิดครอบครัวของลีโล่เป็นพิเศษ

               ถ้าให้มีคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่บ้าจี้ตามคุณบริทต้า  ก็มีแค่คุณพ่ออลันกับคุณแม่มิโอกะ  คุณพ่อคุณแม่ของวิคตอเรีย  คุณเจมส์สัน (คุณพ่อของคีโอ-นี่)  และเบอร์ตั้น (พี่ชายของคาร์ล่า) ที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลูกหลานและพี่น้องที่มีชีวิตทดลองเป็นเพื่อนพลอยเดือดร้อนไปด้วย  เริ่มต้นที่คุณเจมส์สันกับเดวิดที่พูดเรื่องคลิปสติทช์เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ผู้ปกครองทุกคนในสมาคมฉุกคิด... ว่าหลักฐานที่อยู่ในมือคุณบริทต้าเป็นของจริงหรือถูกเมคอัพขึ้นเพื่อสร้างความแตกแยก

               ส่วนคลิปวิดีโอกับคลิปเสียงที่อยู่ในมือถือของสองพี่น้องนรก... จัมบ้าจัดการลบออกจากเครื่อง  แต่แอพประหลาดของคุณแอนดรูว์ยังอยู่  เพื่อใช้สอบถามแมทธิวเรื่องแอนดรูว์จนกว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น

               คุณค็อบบร้าเห็นว่าลีโล่ตกอยู่ในอันตราย  จึงปรึกษากับนานี่เรื่องที่จะให้ลีโล่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาชั่วคราว

               "คุณจะให้ลีโล่ไปอยู่เป็นเพื่อนคาลี่... แล้วพี่สาวอย่างฉันต้องย้ายไปอยู่ที่ไหนรึเปล่าคะ!?"  นานี่เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน  นึกไม่ถึงว่าวันที่สองพี่น้องต้องแยกจากกันจะมาถึง  แม้อดีตซีไอเอยืนยันว่าแยกกันอยู่ชั่วคราวก็ตาม

               "ตอนนี้คุณเป็นพนักงานประจำโรงแรมวิหคสวรรค์ของคุณเจมส์สัน  ทางเจ้านายคุณน่าจะมีสวัสดิการให้เพียบพร้อมสำหรับพนักงานทุกคนนะ"  คุณค็อบบร้าประเมินจากชีวิตการงานของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิสูจน์ตนเป็นผู้ปกครองที่สามารถเป็นเสาหลักให้ลีโล่ได้  "ส่วนเรื่องบ้านที่ถูกบุกรุก... ผมมั่นใจได้ว่าคุณจูคิบ้ากับคุณพรีคลีย์ดูแลได้  แต่อาจต้องหลบซ่อนเล็กน้อยจนกว่าทุกอย่างจะเคลียร์"

               "เรื่องบ้าน... ไม่ต้องห่วงหรอกครับ  ผมจัดการคลีนนิ่งเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วครับ!"  พรีคลีย์ตอบรับด้วยน้ำเสียงเบิกบาน ก่อนที่จะหันไปเหน็บคู่ซี้สี่ตาร่างใหญ่  "แค่อย่าทำอะไรที่มีความเสี่ยงให้เป็นจุดสนใจแล้วกัน"

               "อัจฉริยะชั่วร้ายไม่ทำอะไรอย่างที่นายว่าหรอกน่า!  อย่างมากก็แค่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านเท่านั้นล่ะนะ"  จัมบ้าแว้ดใส่ด้วยความไม่ชอบใจที่เจ้าสามขาพูดราวกับว่าเขาจะทำสิ่งชั่วร้ายยังไงยังงั้น

               "จะยังไงก็ช่าง  สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้  คือ... ทำทุกวิถีทางให้พวกคุณปลอดภัยก็พอ  จนกว่าเราจะได้ตัวผู้ต้องสงสัยที่ชื่อแอนดรูว์มาไว้ในมือ  ทุกอย่างจะได้กระจ่างสักที"  คุณค็อบบร้าสรุปรวบรัด  ยืนยันว่าวิธีนี้ดีที่สุดที่จะช่วยครอบครัวลีโล่ให้รอดพ้นจากวายร้ายต่างดาวและผู้คนที่จ้องจับผิดเรื่องแหล่งกำเนิดชีวิตทดลองไปสักพัก  ทำเอานานี่ถึงกับหน้าสลด

               "ไม่เป็นไรหรอกนานี่  อย่างน้อย... เราก็ไม่ได้สู้เพียงลำพัง  ถึงคนทั้งโลกจะมองโอฮาน่าเราแปลก... แต่ความแปลกทำให้ชีวิตคนเรามีสีสันเสมอ  สีสันที่ทำให้ลีโล่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากภารกิจหาบ้านให้ญาติของสติทช์  ขอให้เธอไว้ใจคุณค็อบบร้า  สติทช์  และญาติของเขาว่าพวกเขาจะปกป้องลีโล่ได้  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม"  เดวิดวางมือบนบ่าแฟนสาวพร้อมให้กำลังใจในยามที่เธอเศร้าหมองกับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโอฮาน่า  นานี่รู้สึกดีที่ได้รับกำลังใจดี ๆ จากเขา  เพราะเขาพูดถูกเสมอ

               ตั้งแต่ลีโล่รับเลี้ยงสติทช์  ชีวิตของสองพี่น้องเพเลไคก็เข้าไปพัวพันกับเอเลี่ยนจนเกิดเรื่องขึ้นมากมาย  ไม่ว่าจะดีหรือร้าย  เอเลี่ยนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของลีโล่เสียแล้ว  และสติทช์ก็มีส่วนที่ทำให้ลีโล่ก้าวออกมาจากความโศกเศร้าจนเชื่อมั่นในโอฮาน่ากับมิตรภาพอีกครั้ง

               นานี่ถึงไว้ใจสติทช์ให้เป็นบอดี้การ์ดของลีโล่จนถึงทุกวันนี้

               "นายพูดถูก  ฉันมัวแต่พยายามทำใจเรื่องลีโล่ว่าจะมีอะไรที่เลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นอีกรึเปล่า  ลืมไปว่าลีโล่ไม่ใช่เด็กน้อยเซื่องซึมอีกต่อไปแล้ว  เธอมีสติทช์กับญาติที่มีบ้านที่เหมาะสมชี้นำจนมีเพื่อนดี ๆ ที่พร้อมจับมือและเดินไปด้วยกัน  ฉันไว้ใจพวกเขา... เหมือนที่ลีโล่ไว้ใจสติทช์  จัมบ้า  พรีคลีย์  และคุณค็อบ-บร้าว่าพวกเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้โอฮาน่าของเธอปลอดภัย  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้อยู่แล้วนี่"  นานี่พูดออกมาอย่างคนปลงตก  ทำใจไว้แล้วว่าชีวิตครอบครัวเพเลไคจะต้องพบเรื่องวุ่นวายจากเอเลี่ยนไม่มีที่สิ้นสุด  ตราบใดที่เหล่าชีวิตทดลองยังไม่ถูกค้นพบจนครบ 625 ตัว

               เธอได้แต่หวัง... ว่าสองพี่น้องต้องแยกกันแค่ชั่วคราวเท่านั้น


------------------------------------------------------------------------


               ขึ้นชื่อว่า "ความจริง"  มักเป็นสิ่งไม่ตายเสมอ

               โดยเฉพาะความจริงที่เมอร์เทิลเห็นด้วยตาตัวเอง

               เธอเชื่อเสมอว่าสิ่งเหนือธรรมชาติที่ลีโล่เชื่อเป็นตุเป็นตะนั้น... ไม่มีจริง

               แต่กลับมีจริงจนแทบไม่อยากเชื่อ

               เธอไม่อยากเชื่อ... ว่าหมาของลีโล่กับก๊วนสัตว์แปลก ๆ ที่ลีโล่กำลังเลี้ยงดูอยู่  และคุณลุงคุณป้าประหลาดเป็น "เอเลี่ยน" จริง!

               ทั้งชีวิตของเธอผู้ได้ชื่อว่ามีพร้อมทุกอย่าง  เธอเชื่อเสมอว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในหมู่นักระบำฮูล่าฝึกหัด  และลีโล่เป็นเด็กผู้หญิงที่แปลกประหลาดและอับโชคไปเสียทุกเรื่อง

               แต่สิ่งที่เห็นกลับตรงกันข้าม

               ลีโล่เป็นเด็กผู้หญิงมีโชคเรื่องเพื่อนจริง ๆ

               เธอคิดว่าลีโล่มีแค่สติทช์กับสัตว์ประหลาดที่คาดว่าเป็นสปีชีส์เดียวกันเป็นเพื่อน  ยังมีเพื่อนมนุษย์ที่หลงเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติที่มองลีโล่เป็นคนอยู่

               ที่แท้... พวกวิคตอเรียก็รู้เรื่องที่มาของสติทช์กับเพื่อนเอเลี่ยนนี่เอง  ถึงเป็นเพื่อนกับนังโลเลคนเพี้ยนได้!

               เธอรู้ได้อย่างไรนะเหรอ!?

               เพราะเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อนักเรียนถูกคนร้ายบุกรมควันสลบเพื่อลักพาตัวลีโล่  เป็นลูกสาวคนเดียวที่ดูคลิปเจ้าสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนในมือถือคุณแม่  ทำให้เธอรู้สึกได้... ว่าข้อสงสัยที่คาใจนั้นมีแววเป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด  จึงตัดสินใจแอบไปดูลาดเลาที่บ้านของลีโล่

               พบว่าสติทช์เป็นเอเลี่ยนจากต่างดาวจริง!

               ภาพที่เธอเห็นด้วยตาแถวบ้านของลีโล่... กลายเป็นภาพติดตาที่ทำเอาสมองของเธอนึกถึงตอนที่เธอเห็นลีโล่กับสติทช์คบกับสัตว์แปลก ๆ แต่ละตัว  เธอจำได้... ว่าสัตว์แปลก ๆ ล้วนมีพลังหรือความสามารถที่สร้างความวุ่นวายให้คนรอบข้างได้ทุกเมื่อ  และคนที่รับมือกับพลังเหล่านี้ก็มีแค่ลีโล่กับสติทช์  บางครั้งเธอได้ยินสติทช์พูดภาษาแปลก ๆ กับสัตว์ประหลาดที่คาดว่าเป็นสปีชีส์เดียวกัน  แถมลีโล่ดันเข้าใจภาษาพูดของพวกเขาอีก

               เธอถึงได้นอนคิดในห้องนอนตุ๊กตาอยู่อย่างนี้

               เธอกำลังคิด... ว่าควรวางตัวอย่างไร  หากต้องเผชิญหน้ากับลีโล่อีกครั้ง

               แต่อย่างน้อย... เธอยังมีจีจี้ที่เป็นหมาชิสุสายพันธุ์ดีเป็นเพื่อน  ไม่มีความแปลกประหลาดเหมือนบรรดาสัตว์เลี้ยงประหลาดของพวกลีโล่แม้แต่น้อย  ทำให้เธอรู้สึกว่าหมาชิสุตัวนี้สร้างบารมีให้เธออย่างเหลือล้นจนถึงทุกวันนี้

               แต่หาได้รู้ไม่... ว่าความจริงเรื่องจีจี้กำลังจะถูกเปิดเผยโดยใครบางคนผู้ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวเธอ

               เจสสิก้าที่ทราบข่าวคนร้ายบุกโจมตีโรงเรียนจนเมอร์เทิลกับก๊วนหญิงจ๋าว่าใช่ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล  ตอนแรก... เธอรบเร้าแฟนหนุ่มให้กลับไปนิวยอร์คลูกเดียว  มีคุณบริทต้าสนับสนุน... โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัย  และเจสสิก้าเป็นลูกสาวเจ้าของแอร์ไลน์ที่เบอร์ตั้นเป็นนักบิน  คิดว่าเธอคงจะจัดการเรื่องคิวนักบินไม่ให้กลับไปที่เกาะคาไวเป็นอันแน่แท้

               แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจสสิก้าเปลี่ยนใจกะทันหัน

               คงหนีไม่พ้นคลิปเจ้าสติทช์ปะทะกับหมาไซบอร์กที่สวนหลังโรงเรียนที่อยู่ในมือถือคุณแม่ของเมอร์เทิล  และมีข่าวลือเรื่องคุณลุงคุณป้าของลีโล่ที่คุณบริทต้าค้นพบเมื่อไม่นานมานี้

               ทีแรก... เธอไม่สนว่าครอบครัวลีโล่มีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร  เพราะคิดว่าต้องด้อยกว่าเมอร์เทิลอยู่แล้ว  แต่พอได้ยินว่าสติทช์ไม่ใช่หมาพันธุ์หายากอย่างที่เมอร์เทิลเข้าใจ  เธอจึงอาสาตนเป็นตัวแทนผู้ปกครองของเมอร์เทิลที่จะเรียกร้องให้ลีโล่รับผิดชอบต่อบุตรหลานผู้ตกเป็นเหยื่อคนร้ายรมควันสลบ  เพียงเพราะลีโล่ตกเป็นเป้าหมายของวายร้ายต่างดาว  ซึ่งมีเหตุจากภารกิจหาบ้านให้สัตว์ต่างดาว

               เธอเป็นอีกคนที่รับรู้เรื่องการมีตัวตนของเอเลี่ยนจากคุณแอนดรูว์  เพราะแอนดรูว์เป็นหนึ่งในผู้ชมที่อยู่ในงานประกวดความสามารถสุนัขระดับเยาวชนที่โฮโนลูลูเมื่อครั้งที่ลีโล่กับเมอร์เทิลลงแข่ง  คาดว่าน่าจะราว ๆ ปีที่แล้ว  เขาจำได้ว่าครั้งนั้นมีเหตุขโมยหมาเกิดขึ้นที่งาน  และโจรคนนั้นเป็นเอเลี่ยนผู้เป็นอดีตมือปราบจากสหพันธ์กาแลคติกนาม "แกนตู"  เขามาเพื่อชิงตัวจีจี้ไป  แอนดรูว์แอบถ่ายภาพแล้วเก็บไว้จนกระทั่งได้รับภารกิจลักพาตัวลีโล่อย่างเป็นทางการจากดร.พลาเจียส  เมื่อแผนลักพาตัวลีโล่ล้มเหลว  จึงใช้วิธีส่งรูปภาพและคลิปวิดีโองานประกวดไปให้เจสสิก้าดู  ทำเอาเจสสิก้าเชื่อสนิทใจ... ว่าแกนตูเป็นเอเลี่ยนจริง  แต่ไม่เข้าใจมากกว่า... ที่แกนตูมาวุ่นวายกับจีจี้ที่งานประกวดเมื่อปีที่แล้ว

               แน่นอนว่าเมอร์เทิลเล่าประสบการณ์ในงานประกวดสุนัขให้แอนดรูว์รับฟัง  เรื่องเล่าถูกบันทึกลงในแอพพลิเคชั่นที่แอนดรูว์สร้างขึ้น  จากนั้นก็แปลงไฟล์เสียงเป็นคลิปวิดีโอให้ฉายภาพตามคำบอกเล่า  สรุปได้ในทันทีว่าจีจี้คือ... "สิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007"  ซึ่งเมอร์เทิลไม่รู้ความจริงเรื่องนี้

               แค่หลักฐานที่คุณแอนดรูว์ส่งมา... คงไม่เพียงพอที่จะทำให้เมอร์เทิลเชื่อ

               เธอจะนำหลักฐานชิ้นนี้ไปใช้ในทิศทางใดกัน... ที่จะทำให้เมอร์เทิลเห็นเต็มตาว่าจีจี้เป็นเอเลี่ยนเหมือนสติทช์ของลีโล่!?

               คนที่จะให้คำตอบได้  มีแค่คุณแอนดรูว์คนเดียวเท่านั้น

               เธอจึงใช้สมาร์ทโฟนต่อสายไปถึงเบอร์คุณแอนดรูว์เพื่อร่วมวางแผนพิสูจน์จีจี้สักครั้ง

               "เจสอยากทราบว่า... มีอะไรเด็ด ๆ อย่างอื่นอีกมั้ยที่จะทำให้น้องฉันเห็นว่าจีจี้เป็นเอเลี่ยนจริง"  เจสสิก้าเข้าเรื่องในทันทีที่ต่อสายได้สำเร็จ  จากนั้นก็รอฟังคำตอบจากเจ้าของปลายสาย

               และคำตอบที่ได้รับนั้น... จะนำพาโอฮาน่าของลีโล่ตกอยู่ในอันตรายอีกเป็นครั้งที่สาม

               และอันตรายที่ลีโล่กำลังจะได้รับ... อาจต้องเสียเลือดเนื้อและน้ำตาก็เป็นไปได้!


                                                                         ------------------------------------------------------------------------


               บ้านคุณค็อบบร้าเป็นบ้านสองชั้น  สามห้องนอน  และอยู่ด้วยกันตามประสาพ่อกับลูกสาว  แม้ตอนนี้คุณค็อบบร้ามีเจ้าชูชเป็นคู่หูที่ทำงานเป็นหน่วยข่าวกรองของซีไอเอก็ตาม

               ลีโล่กับคาลี่ถูกจัดให้พักในห้องรับรองแขก  ซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้าน  แน่นอนว่ามีสติทช์  ฟลุท  และชูชเป็นรูมเมทของพวกเธอ

               หลังจากที่เด็กน้อยทั้งสองถูกย้ายเข้ามาพักชั่วคราวแค่คืนเดียว  คาลี่ก็จัดเสื้อผ้าใส่ตู้และสิ่งของติดตัวต่าง ๆ นานาบนโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับแขก  ด้วยความคิดที่ว่า... หากบ้านคุณลุงแอนตั้นไม่ต้อนรับเธอกับฟลุทอีก  เธอก็จะเป็นหลานสาวบุญธรรมของคุณค็อบบร้าโดยปริยาย  ผิดกับลีโล่ที่ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจนักกับการมาอาศัยบ้านของอดีตซีไอเอ  เพราะเธอหวังว่าจะได้กลับบ้านไว ๆ  ถ้าทุกอย่างลงตัว

               แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง  เมื่อคาลี่กับฟลุทกำลังค้นหาของรักสิ่งหนึ่งในกระเป๋าทั้ง 2-3 ใบของเธอ  เป็นของสำคัญที่รู้ดีว่าต้องรักษายิ่งชีพ

               "หาเจอรึยัง!?"  คาลี่ถามฟลุทที่กำลังค้นหาของในกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอด้วยน้ำเสียงตึงเครียด

               "Naga!"  ฟลุทตอบรับ  น้ำเสียงของเขาก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน

               "หาอะไรกันอยู่เหรอ!?"  ลีโล่เอ่ยปากถามในทันทีที่เธอกลับเข้าห้อง... หลังจากที่เธอกับสติทช์ทัวร์บ้านของคุณค็อบบร้ามาไม่นาน

               "เครื่องเล่นเทปที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง  เทปเพลงของเซลีน  มันหายไปไหนก็ไม่รู้"  คาลี่ตอบพลางค้นหาของที่ว่าต่อ

               "เพลงที่ทำให้ฟลุทหยุดคลุ้มคลั่งใช่มั้ย!?"  สติทช์นึกออก  จำได้ว่าคาลี่เคยเล่าเรื่องที่ฟลุทถูกญาติใจร้ายรังแกจนเป็นอสุรกายให้ฟัง

               "ใช่!  ปกติจะเก็บไว้ในห้อง  ผมกับคาลี่จะเปิดฟังก่อนนอนทุกคืน  แต่ตอนนี้ถูกเฉดหัวออกมา  เครื่องไม่ได้ถูกโยนออกมาพร้อมข้าวของด้วยพี่!"  เจ้าฟลุทพูดออกมาด้วยความเจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง  ถูกคาร์ล่าไล่ออกจากบ้านไม่พอ... ยังยึดเครื่องเล่นเทปเพลงของเซลีนไปอีก

               "อาจจะอยู่กับคุณลุง  พี่โคดี้  หรือป้าดาร์ลีนของเธอก็ได้"  ลีโล่สันนิษฐานในแง่บวก  หวังว่าคาลี่จะทำใจให้ร่มขึ้นอย่างรวดเร็ว... หากว่าคนที่ถือเครื่องเล่นเทปนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้ว่าจะดูแลรักษาอย่างดี

               "ก็... เป็นไปได้นะ  แต่อย่าลืมสิ... ว่าวันที่ฉันถูกเฉดหัวออกจากบ้าน  ทุกคนออกจากบ้านหมดเลยนะ  คุณลุงทำงาน  พี่โคดี้ออกไปซื้อของเป็นเพื่อนป้าดาร์ลีน  และพี่เบอร์ตั้นออกเดทกับพี่เจสสิก้า  เธอคิดเหรอว่าอีพี่คาร์ล่าจะยอมรับง่าย ๆ ว่าเป็นคนยึดมัน!?"  คาลี่เตือนความจำ  ทำเอาลีโล่ต้องคิดหนักพอสมควร

               "เรายังมี ฟิบเบอร์ เป็นตัวช่วยจับโกหกนี่!"  สติทช์เสนอชื่อลูกพี่ลูกน้องที่มั่นใจว่าจะช่วยคาลี่ได้  ลีโล่ฟังแล้วรู้สึกว่าความหวังอยู่ไกลแค่เอื้อมมือคว้าอย่างง่ายดาย

               "จริงด้วย!  เขาอยู่ สน.โคคาอัวทาวน์  ทำงานสอบสวนผู้ต้องหา  ต้องช่วยเราได้แน่ ๆ!"  ลีโล่พูดถึงคาร์ล่าในนามผู้ต้องหายึดเครื่องเล่นเทปแล้วถึงกับหน้าสลด  "แต่... โรงเรียนชั้นม.ต้นยังไม่หยุดชั่วคราวนะ"

               "ไม่ได้มีญาติใจร้ายนั่นคนเดียวที่ถูกสงสัยว่ายึดเครื่องเล่นเทปไป  เพื่อนสองพี่น้องนรกนั่นก็เข้าข่ายหัวขโมยเช่นกัน!"  สติทช์นึกถึงสองพี่น้องนรกคู่นั้นแล้วของขึ้น... อยากเค้นคอถามแมทธิวหรือโมนิก้าเต็มแก่  แต่ติดตรงที่แมทธิวถูกคุมตัว... จึงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ 

               "ฉันว่า... เรารอคุณค็อบบร้ากลับมาก่อนค่อยระดมสมองกันว่าจะแวะเยี่ยมบ้านคุณแอนตั้นเมื่อไหร่  บางที... เครื่องเล่นเทปของคาลี่อาจถูกเก็บไว้ที่เดิมอ่ะนะ"  ชูชตัดบทให้ทุกคนรอเจ้าของบ้านกลับมาจากการสอบสวนผู้ต้องหา  พวกลีโล่ทำได้แค่พยักหน้าเห็นด้วย  เพราะป่านนี้คุณค็อบบร้าคงเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อสอบสวนแมทธิวอย่างลับ ๆ

               หวังว่าการสอบสวนในครั้งนี้... จะได้ข้อมูลที่สาวไปถึงผู้บงการในอีกมิช้า

               ผู้บงการที่มีนามว่า... "ดร.แจ็ค วอน แฮมสเตอร์วิลล์"         



               เพราะผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้านเพเลไคเป็นคนที่คาดว่าจะมีข้อมูลสาวถึงผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด  ในฐานะอดีตซีไอเออย่างคุณค็อบบร้า... จึงปรึกษากับทางโรงพยาบาลปิดข่าวไม่ให้คุณพ่อของสองพี่น้องนรกรับทราบจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น  แมทธิวถึงได้พักรักพาตัวอยู่ในห้องพิเศษ  มีเจ้าหน้าที่คุมตัวเป็นอย่างดี  สร้างความโกรธแค้นให้แบ็ดบอยจอมกร่างเป็นอย่างมาก

               "พวกมึงจะมาทำอย่างนี้กับกูไม่ได้!  มึงรู้มั้ยว่ากูเป็นใคร!  เดี๋ยวพวกมึงหนาวแน่!"  แมทธิวโวยใส่เจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ยังเฝ้าไข้อยู่  เกลียดนักที่เขาถูกจับสวมกุญแจมือล่ามติดกับเตียงผู้ป่วยเหมือนคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจ

               "ผมว่าคุณต่างหากที่จะหนาว  เพราะตัดไหมบนหน้าผากคุณได้เมื่อไหร่  เตรียมถูกดำเนินคดีบุกรุกทำร้ายร่างกายได้เลย  ทางเจ้าของบ้านพร้อมเอาเรื่องถึงที่สุดแล้วด้วย"  คุณค็อบบร้าสวนกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ... สำแดงความดุดันให้อีกฝ่ายสงบปากสงบคำลง

               "เอาเรื่องเหรอ!?"  แมทธิวหัวเราะในลำคอ  เห็นคุณค็อบบร้าเป็นเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์  จึงกร่างใส่  "คุณเป็นใคร!  ตำรวจก็ไม่ใช่  เป็นแค่เจ้าหน้าที่... มีสิทธิ์อะไรมาสอบสวนผม!?"

               "คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะถามผมว่าทำไมผมต้องมาสอบสวน  คุณมีสิทธิ์พูดได้ก็ต่อเมื่อผมตั้งคำถามเท่านั้น"  อดีตซีไอเอกำชับเสียงเข้ม

               "คุณจะสอบถามอะไรผม!?"  แมทธิวถาม

               "แค่คำถามเดียว  และช่วยตอบตามความจริงด้วย  ถ้าอยากนอนพักอย่างสงบแล้วกลับบ้านไว ๆ"  คุณค็อบบร้าเกริ่นนำก่อนที่จะเข้าเรื่อง  โดยเอามือถือของโมนิก้ามาเปิดแอพประหลาดของคุณแอนดรูว์เพื่ออัดเสียงแมทธิว  "คุณคงจำแอพนี้ได้ใช่มั้ย"

               "หึ... คุณคิดจะข่มขู่ผมเพื่อเร็คคอร์ดคำสารภาพนะเหรอ  วิธีการแบบนี้มันเอาท์แล้วนะจะบอกให้  ทางที่ดี... อย่าเสียเวลากับผมจะดีกว่า  ไม่อย่างนั้น... คุณหนาวแน่"  แมทธิวยียวนไม่เลิก  แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านต่อคำขู่ใด ๆ

               "อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง  ไม่อย่างนั้น... คุณจะหนาวยิ่งกว่าที่คุณขู่ผมเมื่อครู่นี้"  คุณค็อบบร้าย้ำเสียงเข้ม... ด้วยท่าทีที่นิ่งสุขุมและเยือกเย็นสมกับเป็นอดีตซีไอเอ  ทำเอาแมทธิวกลัวตัวสั่นทีละนิด ๆ  เมื่อเห็นสีหน้าที่ดุดันเงียบขรึมบนใบหน้า  แม้เขาสวมแว่นดำอยู่ก็ตาม  "ผมรู้จักพ่อคุณดี  ดีจนเรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุงเลยก็ว่าได้  จะให้ผมพูดเรื่องอะไรดี... ที่อาจส่งผลถึงความเป็นอยู่ของคุณกับน้องคุณในอีกมิช้า"

               "เรื่องอะไรมิทราบ"  แมทธิวย้อนถาม  ทำใจดีสู้เสือเมื่อสบตาอดีตซีไอเอที่ยืนอยู่ตรงหน้า

               "ผมว่าเราเสียเวลามามากพอแล้ว  เข้าเรื่องกันดีกว่า  คุณรู้จักคุณแอนดรูว์ ไบรเซอร์มานานแค่ไหน  ถึงได้มีแอพนี้อยู่ในมือถือคุณ"  คุณค็อบบร้าตั้งคำถามในทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามบ่ายเบี่ยงประเด็น  จากนั้นก็กดปุ่มทำการอัดเสียง

               "คุณแอนดรูว์ ไบรเซอร์"  แมทธิวทวนชื่อที่อีกฝ่ายถามก่อนจะยักไหล่ตอบคำถาม  "นานแค่ไหนไม่รู้  รู้แค่ว่าเป็นนักธุรกิจผลิตแอพพลิเคชั่นที่ถูกพูดถึงกันทั่วอเมริกา  เพิ่งรู้จักกันโดยบังเอิญ"

               "รู้จักกันโดยบังเอิญ  หมายความว่าไง"  คุณค็อบบร้างุนงงกับคำตอบของอีกฝ่าย

               "ก็ผมอาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศที่อยู่ใกล้โฮมสเตย์  รู้จักกันหลังจากที่มีคนขับรถมาคืนเมื่อวันอังคารที่แล้ว"  แมทธิวตอบ  จากนั้นก็เล่าเรื่องต่อจนคุณค็อบบร้าได้ข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบหาตัวแอนดรูว์ต่อไป

               ถ้าแอนดรูว์คือ "นินจาเทคโนไร้เงา" ที่จ้องลักพาตัวลีโล่ตามใบสั่งของแฮมสเตอร์วิลล์  เห็นที... เจ้าหนูเจอร์บิลโรคจิตนั่นควรได้รับโทษขั้นสูงสุดเสียแล้วล่ะกระมัง!                 


------------------------------------------------------------------------


               นึกถึงเอเลี่ยน  เธอเกือบลืมเรื่องการประกวดสุนัขที่โฮโนลูลูเมื่อปีก่อนเสียสนิทเลย!

               เมอร์เทิลจำได้... ว่าจีจี้เกือบถูกโจรหน้าปลาดุกร่างใหญ่ลักพาตัวไป  แต่ลีโล่กับสติทช์ก็ช่วยชีวิตจีจี้จนรอดพ้นเงื้อมมือโจรร้ายตัวนั้นได้

               จีจี้ถูกมองเป็นหมาชิสุนั้นเป็นเรื่องดี  แต่พอมีเรื่องเอเลี่ยนที่ลีโล่เก็บงำไว้กำลังจะถูกเปิดเผย  ทำให้เธอนึกถึงโจรหน้าปลาดุกที่พยายามลักพาตัวหมาของเธอเมื่อครั้งยังอดีต  ข้อสงสัยที่คาใจจึงกระตุ้นให้เธอตัดสินใจทำสิ่งหนึ่ง  ซึ่งอาจทำให้เธอได้รับบทเรียนชีวิตในอีกมิช้า

               แวะบ้านลีโล่

               เธอปักใจเชื่อ... ว่าลีโล่เป็นคน ๆ เดียวที่น่าจะให้คำตอบทุกอย่าง  แต่มีรึ... ที่นังคนเพี้ยนจะให้คำตอบง่าย ๆ

               หาทางเข้าบ้าน  เป็นหนทางเดียวที่จะได้คำตอบเพื่อไขข้อสงสัยให้กระจ่าง

               เมอร์เทิลขึ้นบันไดไปยังระเบียงหน้าบ้าน  แอบส่องคนผ่านทางหน้าต่างห้อง  เริ่มต้นที่ห้องนอนจัมบ้ากับพรีคลีย์  จะเห็นได้ชัดเจน... ว่ามีเตียงสองชั้น  และเตียงชั้นบนมีความยุบแต่ไม่หักลงมาถล่มเตียงชั้นล่าง  ซึ่งตอนนี้พรีคลีย์กำลังทำความสะอาดบ้านพร้อมกับฮัมเพลงตามปกติ

               เพียงแต่... สิ่งที่เธอพบเห็น  ทำเอาเมอร์เทิลตกใจจนรีบเอามือปิดปากก่อนที่จะกรีดร้องออกมา

               พรีคลีย์ไม่มีผมที่บ่งบอกว่าเป็น "คุณป้า" !!

               เมื่อเห็นว่าพรีคลีย์ไม่ใช่ป้าแท้ ๆ ของลีโล่ตามที่คุณบริทต้าว่าไว้  ทำให้เธอมั่นใจได้ว่าพรีคลีย์ที่ลีโล่แนะนำว่าเป็นป้าคือเอเลี่ยนจริง ๆ  จึงตั้งใจว่าจะสืบเรื่องลีโล่ต่อ  แต่มีเหตุที่ทำให้ความลับถูกเปิดเผยเฉียบพลัน

               มีคนเปิดประตูออกจากบ้าน

               ไม่ใช่คนสิ... หมาประหลาดสปีชีส์เดียวกับสติทช์ต่างหาก!

               "เธอมาทำอะไรที่นี่!?"  คำถามที่พ่นออกมาจากปากรูเบ็น  ทำเอาเมอร์เทิลตกใจ... กรีดร้องออกมาก่อนที่นางจะสลบไป

               "เกิดอะไรขึ้น!?"  พรีคลีย์วิ่งออกมาดูเหตุการณ์  เห็นยัยหัวแดงสวมแว่นกำลังนอนสลบอยู่  "อ้อว์... อย่างนี้นี่เอง"



               สุดท้าย... เด็กหญิงหัวแดงผู้น่ารำคาญก็ถูกหามมานอนบนเก้าอี้หน้าทีวี  มีพรีคลีย์คอยพัดแทบเมื่อยมือจนเธอรู้สึกตัว  ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบ้านของลีโล่ไม่ได้มีแค่พรีคลีย์ที่ไม่ได้เป็นป้าแท้ ๆ ของลีโล่

               จัมบ้าก็ไม่ใช่ลุงแท้ ๆ ของลีโล่อีกเช่นกัน  และตอนนี้ลีโล่กับพี่นานี่ไม่อยู่บ้าน

               กลับมีรูเบ็น  แองเจิ้ล  และสปาร์คกี้แวะมาบ้านลีโล่

               เมอร์เทิลหยิกแก้มตัวเอง  คิดว่าเอเลี่ยนที่ยืนทำหน้างงเป็นแค่ภาพลวงตาหรือแค่ฝันไป  แต่ยิ่งหยิกแรงมากเท่าใด... ยิ่งเจ็บเมื่อนั้น  เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า  คือ... ของจริง!

               "สบายดีขึ้นแล้วสินะ"  จัมบ้าเอ่ยปากแสดงความเป็นมิตร  เมอร์เทิลกวาดตามองซ้าย-ขวา  เห็นรอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าเอเลี่ยนทั้งห้า  จึงลุกพรวดจากเก้าอี้ในทันที  

               "เห็นแล้วนี่ว่าฉันสบายดี"  เมอร์เทิลตอบห้วน ๆ  น้ำเสียงแข็งกระด้างจนพรีคลีย์ถึงกับหน้าสลด

               "ถ้าสบายดีแล้ว  หนูน่าจะอยู่ตอบคำถามป้านะ  จะทานอะไรสักหน่อยมั้ยจ๊ะ  เดี๋ยวป้าไปเอาแซนด์วิชมาให้  รูเบ็นเพิ่งทำเสร็จพอดี  กำลังร้อน ๆ เลย"  พรีคลีย์ตั้งท่าจะกลับเข้าไปในห้องครัว  เพื่อที่จะหยิบแซนด์วิชฝีมือรูเบ็นออกมาเสิร์ฟ

               "ไม่ต้องหรอก... ฉันยังไม่หิว"  เมอร์เทิลปฏิเสธทันควันพร้อมกับเท้าสะเอวหรี่ตามองพรีคลีย์ด้วยสายตารังเกียจ  "แต่คนที่ต้องตอบคำถาม... ควรจะเป็นป้ามากกว่านะ  ไม่ใช่สิ... จะให้ฉันเรียกว่าอะไรดีล่ะ  อาก็ไม่ใช่  น้าก็ไม่เชิง  แหม... เล่นละครเก่งนะคะ  ปลอมตัวเป็นคุณลุงคุณป้าได้แนบเนียนเหลือเกิน  ไม่รู้ว่า... นังโลเลคนเพี้ยนคงเพี้ยนเข้าแล้วจริง ๆ  ถึงได้..."

               "นี่!  จะพูดจะจาอะไร  ระวังปากหน่อย  พวกเขาแก่คราวพ่อแม่แล้วนะ  น่าจะให้ความเคารพกันซะบ้าง"  รูเบ็นเอ่ยปากตักเตือนเด็กหัวแดงที่ใช้ถ้อยคำดูถูกเย้ยหยันคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณลุงคุณป้ากำมะลอที่ดูแลลีโล่มาตลอด

               "มีอะไรให้น่าเคารพอีกล่ะ!?  ทุกอย่างมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าโอฮาน่าของนังคนเพี้ยนนี่หลุดโลกได้โล่จริง ๆ  ตั้งแต่หมายันคนที่ถูกทึกทักว่าเป็นลุงป้า... หลุดมาจากดาวดวงไหนมิทราบคะ"  เมอร์เทิลย้อนถามเสียงแหลม

               "มาจากดาวดวงไหนไม่สำคัญ  มันสำคัญตรงที่... เธอมาทำอะไรที่นี่มิทราบ"  จัมบ้ายืนกอดอกสอบถามเสียงเข้ม  จ้องหน้าเมอร์เทิลราวกับว่านางเป็นนักโทษที่ถูกจองจำไม่มีผิด

               "ไหน ๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว  ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วกัน  ฉันบังเอิญได้ยินพวกสมาคมคนเพี้ยนพูดถึงหมาประหลาดเป็นเอเลี่ยนอย่างสนุกปาก  โดยเฉพาะเจ้าหมาตัวสีฟ้าที่ชื่อ... สติทช์  หมาพันธุ์หายากที่มีต้นตระกูลเป็นหมาที่สื่อสารกับคนตายตั้งแต่อียิปต์สมัยก่อน  ตกลงความจริงเป็นยังไงคะ"  เด็กหญิงหัวแดงยิงคำถามในทันทีที่มีโอกาส  ทำเอาจัมบ้า  พรีคลีย์  และพวกรูเบ็นมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง  นึกไม่ถึงว่าคู่อริของลีโล่จะรู้ความจริงที่เก็บซ่อนไว้

               "แล้วเธออยากรู้ทำไม"  แองเจิ้ลย้อนถาม  สงสัยในตัวเมอร์เทิลที่ถามหาความจริงเรื่องของสติทช์

               "ความจริง... ฉันก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้หรอก  แต่พอมีคนร้ายบุกถล่มโรงเรียนจนตกเป็นข่าวใหญ่  และมีข่าวลือเรื่องนังโลเลถูกปองร้ายเพราะมีส่วนพัวพันกับ... สัตว์ประหลาดต่างดาวอย่างพวกเธอแพร่สะพัดไปทั่วเกาะ  ทำให้ฉันนึกถึงโจรหน้าปลาดุกบิ๊กเบิ้มที่พยายามจับตัวจีจี้ไปจากงานประกวดที่โฮโนลูลูเมื่อปีก่อน  และหมานังโลเลก็ช่วยจีจี้ให้พ้นจากโจรได้สำเร็จ  ฉันคิดว่าลีโล่ต้องรู้เรื่องทุกอย่าง... ก็เลยอยากถามว่าทำไมโจรคนนั้นต้องมายุ่งกับจีจี้ของฉันด้วย"  เมอร์-เทิลชี้แจงเหตุผลให้อีกฝ่ายรับทราบ  พวกจัมบ้าถึงกับนิ่งไปอีกยก

               พวกเขารู้ดี... แกนตูเป็นโจรขโมยสิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007 ที่กลายเป็นหมาน้อยของยัยหนูนิสัยเสีย!

               "เงียบทำไมคะ!?  หรือว่าสองเรื่องนี้... มีพวกหมาประหลาดมาเกี่ยวข้องจริง!?  สรุปแล้วนังโลเลเป็นตัวอะไรกันแน่!?"  เมอร์เทิลเสียงสั่น... สมองนางเริ่มเตลิดไปไกล

               "ลีโล่ก็เป็นคนเหมือนเธอนี่แหละ!  แต่ต่างกันตรงที่ลีโล่มองเราเข้าถึงก้นบึ้งในหัวใจ  ไม่เคยมองเราเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนใครบางคนที่ยืนด่าฉอด ๆ ๆ ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่แบบนี้"  รูเบ็นโพล่งออกมาอย่างสุดจะทนกับความคิดของยัยหัวแดงเต็มที

               "เฮอะ  เป็นคน!?  คนดี ๆ ที่ไหนจะนับเอเลี่ยนเป็นโอฮาน่าห๊ะ!?"  เมอร์เทิลยอกย้อนน้ำเสียงเย้ยหยัน

               "จีจี้ของเธอก็เป็นโอฮาน่าของเธอเหมือนกัน!"  สปาร์คกี้สวนกลับ

               "อย่าเอาจีจี้ของฉันมาเทียบกับพวกแก!"  เมอร์เทิลเดือดดาลจัดที่หมาชิสุของเธอถูกพวกรูเบ็นกล่าวหาว่าเป็นเอเลี่ยน

               "หยุดเถียงกันแล้วหันหน้ามาจับเข่าคุยกันแบบคนมีอารยธรรมกันสักที!"  พรีคลีย์เป็นฝ่ายห้ามศึกน้ำลายในทันทีที่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายทุ่มเถียงกันจนหัวร้อนขึ้นมา

               ในที่สุด... ความเงียบก็เข้าปกคลุม

               "ถ้าเธออยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจีจี้ในงานประกวดสุนัขเมื่อปีก่อน  หรือไม่ก็เหตุโจมตีโรงเรียนที่ทำให้สติทช์ตกเป็นข่าวพุ่งเป้าโจมตีลีโล่ว่ามีส่วนพัวพันกับเอเลี่ยน  ฉันจะตอบคำถามทุกข้อที่เธอสงสัย... ที่บ้านหลังนี้  เวลานี้  ที่เดียว!  หวังว่าเธอจะเข้าใจ... และมองลีโล่ในทางที่ดีขึ้นนะ"  พรีคลีย์เกริ่นนำให้เมอร์เทิลตั้งใจฟังสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้

               "มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ล่ะ... ว่าจีจี้ของฉันเกี่ยวข้องกับเอเลี่ยนจริง"  เมอร์เทิลถาม

               "กะแล้วว่าต้องการหลักฐาน  รออยู่ตรงนี้นะ  ถ้าเห็นหลักฐานแล้วอย่าช็อกเป็นลมสลบอีกล่ะ  ขี้เกียจเก็บศพ!"  สปาร์คกี้แปลงกายตนเป็นกระแสไฟบินไปที่ยานของจัมบ้าแล้วหยิบคอมพิวเตอร์ออกมาส่งถึงมือจัมบ้า  อัจฉริยะชั่วร้ายเปิดไฟล์สิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 007 แล้วหันหน้าจอให้เมอร์เทิลดูด้วยตาตัวเอง

               "นี่ไงหลักฐาน  จีจี้ของเธอเหมือนกับสติทช์ของยัยหนูทุกประการ"



ç=================è

                     

                 

                        


          

    

          

  


  

  


 






                                    

    

          

  





       


  

    

                           

      

 

 


      

    










            

                          

               

                   

             

        

              

                      

        

      

   


ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture