คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : CRAZY 14 #วายร้าย
CRAZY
14 #วายร้าย
เสียงเครื่องยนต์สี่สูบดังกระหึ่มทั่วสนามแข่งกับเสียงตะโกนโห่ร้องดังสนั่น
สายตาฉันมองตามรถบิ๊กไบค์คันสีแดงเพลิงที่กำลังขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงวนกลับมารอบสอง
หัวใจเต้นระรัวด้วยความลุ้นระทึก มันทั้งตื่นเต้น ทั้งกังวล เพราะว่าคนที่ขี่รถคันนั้นอยู่ก็คือเพื่อนรักของฉันเอง
“ไม่ต้องห่วงหรอก หนาวมันไม่เคยกลิ้งในสนามนี้” น้ำเสียงทุ้มดังแทรกเสียงอึกทึกรอบตัว
ฉันละสายตาจากในสนามกลับมามองเขา เฮียเรนเพิ่งแข่งเสร็จเมื่อครู่ แน่นอนว่าเขาชนะ
ฝีมือระดับเขาไม่มีทางแพ้ให้กับการแข่งเล็ก ๆ นี่อยู่แล้ว
“แต่เคยกลิ้งบนถนนอื่นไงคะ อดห่วงไม่ได้หรอก”
เมื่อปีก่อนน้ำหนาวเคยรถล้มมาครั้งหนึ่ง
อุบัติเหตุครั้งนั้นค่อนข้างสาหัสเอาการ ตอนนั้นพวกเราเรียนอยู่ปีสอง
พอรู้ข่าวก็ใจหายใจคว่ำ กินไม่ได้นอนไม่หลับกันทั้งกลุ่ม ถึงกับแห่กันมานอนเฝ้ามันที่โรงพยาบาลทั้งวันทั้งคืน
ฉันร้องไห้ตาบวมแทบตาย โชคดีที่น้ำหนาวไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง
แต่อุบัติเหตุครั้งนั้นก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจมันมาก
ฉันคิดว่ามันจะเข็ดขยาดจนเลิกจับบิ๊กไบค์หรือกลัวความเร็วไปแล้ว
ทว่ามันกลับไม่รู้จักเข็ดไม่รู้จักจำซะเลยนี่สิ
“หนาวมันโชคดีจังเลยนะที่มีเพื่อนอย่างฟ้า” จู่ ๆ
เฮียเรนก็พูดคำซึ้ง ๆ ขึ้นมา ฉันเลยอดหันมองเขาไม่ได้
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจ้องมองฉันอยู่ สายตาของเราสองคนก็ประสานกันพอดี ฉันอ้ำอึ้งไปชั่วขณะ
รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง
พรึ่บ
ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อถูกท่อนแขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งโอบรัดรอบลำคอกะทันหันจากด้านหลัง
แผ่นหลังสัมผัสถึงความอบอุ่นจากลำตัวแกร่งที่ซ้อนทับเข้ามาแนบชิดอย่างถือวิสาสะ
ฉันคว้าจับท่อนแขนแกร่งใต้คางตนเองด้วยความตื่นตระหนก
ทว่าฝ่ามือกรุ่นร้อนกลับจับหัวไหล่ของฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงยัยตัวแสบ” เสียงกระซิบคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู
น้ำเสียงทุ้มต่ำติดยียวนแฝงแววขี้เล่น
และยังกล้าถึงเนื้อถึงตัวฉันแบบนี้มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ
“ทัณฑ์!”
“ชิ ไม่สนุกเลย ฉลาดเกินไปแล้วนะฟ้า” เขาจิ๊ปากขัดใจ ทั้งที่ยังยืนกอดคอฉันจากด้านหลังไม่ยอมปล่อย
เฮียเรนกำลังมองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง สีหน้าอบอุ่นของเขาเมื่อครู่เวลานี้แฝงแววเย็นเยียบแปลก
ๆ สายตาคมกริบมองไปทางคนด้านหลังของฉัน
“ทัณฑ์ ปล่อยมือ!” นิสัยขี้แกล้งของหมอนี่
ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด มีแต่ทวีคูณขึ้นทุกวัน
เขามันวายร้ายอันดับสองรองจากปืนใหญ่จริง ๆ
“ไม่เอา ไม่อยากปล่อย อยู่แบบนี้อุ่นดีออก” สันดานก็เหมือนกันไม่มีผิด
สมกับเป็นฝาแฝดกันจริง ๆ!
“อย่ามาตลก อึดอัด ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ไม่พูดเปล่า แต่ใช้มือหยิกแขนเขาแรง
ๆ ด้วย เกาทัณฑ์ครางซี๊ดในลำคอก่อนจะยอมปล่อยมือออก พอได้รับอิสระฉันจึงถอยตัวออกห่างจากเขาแล้วหันกลับไปมอง
ถลึงตาดุร้ายใส่ไปทีหนึ่ง “เล่นบ้าอะไรของแกเนี่ย ไม่ใช่เด็ก
ๆ แล้วนะ!”
“มือหนักเป็นบ้า เธอนี่มันยิ่งโตยิ่งดุนะฟ้า ไม่เห็นน่ารักเหมือนตอนเด็ก ๆ
เลยว่ะ”
“ไม่ต้องมาพูดมาก ใครเขาจะเหมือนแกล่ะ กวนประสาทไม่เคยเปลี่ยนอ่ะ ยิ่งโตยิ่งน่าถีบ”
เกาทัณฑ์ลูบแขนตัวเองปอย
ๆ แต่ริมฝีปากกลับเหยียดยิ้มอารมณ์ดีรับคำด่า ไม่ได้มีแววขุ่นเคืองเลยสักนิด
เรื่องหนังหนาหน้าด้านเนี่ยถ้าปืนใหญ่เป็นที่หนึ่ง ไอ้บ้านี่ก็ที่สองนั่นแหละ!
“แล้วมาทำไรที่นี่ แถมยังเอาเสื้อใครมาสวมอีก เสื้อผู้ชายป่ะเนี่ย” มือหนาคว้าจับคอเสื้อนักแข่งสีดำแดงที่ฉันสวมทับชุดนักศึกษาอย่างถือวิสาสะ
ฉันปัดมือเขาออกพลางถลึงตาใส่
เจ้าของเสื้อเขายังยืนอยู่ตรงนี้นะไอ้บ้า!
“อย่ายุ่ง”
“หวงซะด้วย”
ไม่ได้หวงเฟ้ย! แต่เกรงใจเจ้าของเสื้อเขาต่างหาก!
ฉันปรายตามองเฮียเรนพลางยิ้มเจื่อนให้เขาเล็กน้อย
ก่อนหันกลับมาทำตาดุดันใส่เกาทัณฑ์อีกรอบ “พูดมาก หุบปากไปเลย”
เสียงโห่ร้องข้างสนามดังกระหึ่มเรียกความสนใจฉันหันไปมอง
น้ำหนาวเทสรถจบแล้ว มันวนรถเข้ามาจอดไม่ไกลจากจุดที่เราสามคนยืนอยู่
ฉันจึงเลิกสนใจเกาทัณฑ์แล้วเดินไปหาน้ำหนาวทันที
ร่างเพรียวบางวาดขาลงจากรถแล้วถอดหมวกกันน็อกออก
เผยใบหน้าสวยจัดภายใต้แสงไฟจากสปอร์ตไลท์สนาม ดวงตาคู่สวยไม่ได้มองหน้าฉัน แต่มองข้ามไหล่ของฉันไปด้านหลังแทน
สีหน้าเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนือซะอีก
“หมอนั่นมาทำไม?”
ฉันใช้ผ้าขนหนูในมือซับเหงื่อบนหน้าผากให้น้ำหนาว
อีกมือก็ยื่นขวดน้ำดื่มให้ มันรับไปเปิดขวดกระดกดื่ม ขณะที่ฉันยังคงช่วยซับเหงื่อบนใบหน้าสวย
ๆ ของมันจนแห้งสนิท
“ไม่รู้ อยู่ ๆ ก็โผล่มา ยังไม่ทันได้ถามเหมือนกัน”
ความจริงการเจอเกาทัณฑ์ที่สนามแข่งไม่ถือเป็นเรื่องแปลก
เพราะหมอนั่นก็ชอบแข่งรถเหมือนกัน แต่จะไปทางสายรถซูเปอร์คาร์มากกว่า
ฉันจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่นัก
“กูไปคุยเรื่องรถกับพวกเฮียแป๊บ มึงรอก่อนนะ เดี๋ยวขากลับพาไปกินเตี๋ยวเรือ”
“เออ เลี้ยงด้วยนะ” ฉันยิ้มตอบ แล้วมองตามร่างเพรียวบางในชุดนักแข่งสีแดงเข้มเดินไปทางเฮียเรน
น้ำหนาวไม่ได้ชายตามองเกาทัณฑ์สักนิด มันเมินหน้าใส่หมอนั่นราวกับเป็นอากาศธาตุ
ยืนคุยกับเฮียเรนสองสามคำก่อนทั้งคู่จะเดินไปทางเต็นท์สีขาว
เกาทัณฑ์มองตามหลังสองคนนั้นแล้วเดินเข้ามาหาฉัน
“เพื่อนเธอโคตรเย็นชา เจอหน้าฉันแต่ละทีทำเหมือนกับว่าฉันเป็นเชื้อโรค”
“แล้วไม่ใช่?” ฉันเลิกคิ้วมองคนตัวสูง
ใบหน้าหล่อเหลาชักสีหน้าใส่เล็กน้อย
“ปากคอเราะรายนักนะฟ้า” เขากลอกตาหนึ่งที
ก่อนจะชะงักมองด้านหลังฉัน จากนั้นมุมปากยกยิ้มร้าย
สีหน้าหงุดหงิดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายขึ้นมา “มาไวเหมือนกันนี่กว่า”
ไม่รู้ทำไม
แต่ฉันมั่นใจว่าประโยคนี้เขาไม่ได้พูดกับฉัน จู่ ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา
ราวกับว่ามีรังสีอำมหิตกำลังพุ่งมาจากด้านหลัง พอหันไปมองก็ต้องอึ้งงัน เมื่อสบเข้ากับดวงตาดุร้ายราวกับสัตว์ป่าที่กำลังจ้องมา
บ้าเอ๊ย… ปืนใหญ่โผล่มาที่นี่ได้ยังไง?!
เฮียทัณฑ์จอมวายร้ายเป็นคนฟ้องแน่เลยยยย ฟ้าจัดการเฮียทัณฑ์เดี๋ยวนี้! ไม่งั้นไรท์จัดเองนะ 555
ฝากแท๊ก #เพื่อนเล่นจะเล่นเพื่อน ทวีตกันรัวๆ ได้เลยค่าาาาา ทวีต @Pankaow1009 หรือเพจ พันเก้า
อ่านกันแล้วช่วยกันคอมเม้นท์หน่อยนะคะที่รัก ขอฮีลใจจากทุกคนหน่อยค่าาา
ความคิดเห็น