ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14 แฟน[ผม]ตัวร้าย Rewrite 100%%%%%
ตอนที่ 14 แฟน[ผม]ตัวร้าย
เช้าวันนี้น่าจะเป็นสุขกว่านี้ ถ้าเมื่อคืนผมไม่นั่งคิดมากเรื่องของจีมิน จนต้องตื่นสาย เพิ่งรู้วันนี้ไอ้ความหน้าตาดี(มาก)ของตัวเองจะทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวายขนาดนี้ ในระหว่างทางที่ผมกำลังเดินไปเรียนนั้นก็ได้พบกับ อาจารย์ฮีซอง พอดี คนที่รับเด็กมอปลายอย่างผมเข้ามาเป็นนักเรียนที่นี่ ตามที่ได้รับรู้มา ท่านเป็นคนที่ค่อนข้างเจ้าระเบียบและเฮี้ยวสุดๆ จนได้รับฉายา ไม้เรียวปราบเซียน
“สวัสดีครับอาจารย์”
“อื้ม ไม่เจอเสียนาน มัวแต่ไปถเลไถลที่ไหนมา”
“ป่าวครับ ว่าแต่อาจารย์จะไปไหน ผมช่วยถือของไหม”
ผมเอ่ยถามก่อนจะรีบเข้าไปช่วยถือเอกสารมากมายที่อาจารย์ฮีซองถือมา แต่โดนปฏิเสธเสียก่อน
“หยุดเลย นี่มันข้อสอบ เธอจะมาถือสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ นี่มันจะสายแล้วทำไมไม่เข้าเรียนอีก”
“กำลังจะไปเลยครับ อิอิ”
ผมยิ้มตาหยีก่อนจะรีบวิ่งไป เมื่อเห็นคนเป็นครูกำลังหยิบไม้เรียวเตรียมฟาดผม
“จริงๆเลยนะไอ้เด็กพวกนี้ ทำไมไม่ตั้งใจเรียนกันนะ”
หลังจากวิ่งด้วยความเร็วสูงหนีไม้เรียวมานั้น จู่ๆหัวของผมก็ชนกับไหล่ใครสักคน และเขาคนนั้นก็คือ ปาร์คจีมิน!!
“จี..มิน.. โทษที แหะๆ”
ผมเอ่ยขอโทษคนที่กำลังมองผมด้วยสายตาเรียบเฉย พลางลูบหน้าผากของตัวเองปอยๆ
“จีมิน ,มึงจะไป..”
“อืม”
เสียงตอบสั้นๆที่แฝงไปด้วยความไร้เยื้อใย พูดขึ้นตัดบทก่อนที่จีมินจะเดินจากไปราวกับผมเป็นอากาศธาตุ
“ไอ้บ้าเอ้ยย คนคุยด้วยก็ไม่คุย”
ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ผมไม่ชอบแบบนี้เลย มันเหมือนว่าเราทำให้เพื่อนโกรธเราอยู่โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ จะง้อก็ไม่รู้จะง้อยังไง เฮ้ออออ
ณ.ห้องเรียนอันแสนสุข
ผมเดินเข้าห้องมาอย่างเงียบๆพลางกวาดสายตามองหา ใครสักคนที่เมื่อคืนตอนที่คุยโทรศัพท์กันเขาบอกว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์
“หายไปไหนของมันวะ”
“จ๊ะเอ๋!!!!!”
“เชี่ยยย!!”
ผมสบถคำหยาบออกมาเสียงดังจนคนทั้งห้องมาดู หลังจากที่ถูกเจ้าซูก้ามาจั๊กกะจี้จากด้านหลัง
“โหวว วันนี้มึงสายโหด จองกุก”
“เห้ยย โทษทีๆ กูแค่ตกใจ”
ผมปลอบเพื่อนจอมซนที่กำลังทำหน้างอนเหมือนเด็ก ก่อนที่เราทั้งคืนจะเดินไปยังโต๊ะเรียน
“ว่าแต่มึงมองหาใครหรอ?”
ซูก้าที่นั่งข้างๆผมเอ่ยถามในขณะที่หยิบหนังสือการ์ตูนเรื่องใหม่เข้ามาอ่าน
“ป่าวหรอก ว่าแต่วีวี้ แฟนมึงหายไปไหนอะ”
“ทำไมหรอ อย่าบอกนะว่าเกิดสนใจมันขึ้นมา กูยกให้ได้นะ”
“จะบ้าหรอ ที่ถามเนี่ยคือปกติจะเห็นตัวติดกัน ตลอดไง”
คนบ้าอะไรวะ เที่ยวยกแฟนให้เพื่อนง่ายๆ ผมมองพฤติกรรมของซูก้าตอนนี้แล้วอดขำในใจไม่ได้
“ช่วงนี้ติดละครงะ พระเอกกับนางเอกมันแกล้งงอนกัน กูลองอยากลองเล่นบ้าง ว่าแต่มึงสนใจเป็นตัวร้ายไหม”
“ไม่มีทาง!!!! เพราะจองกุก ต้องเป็นนางเอกของกูเท่านั้น”
นั่นไม่ใช่เสียงของผมนะ !! แต่เป็นของซอกจินที่เข้ามาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ก่อนจะโยนมันลงบนโต๊ะผม ทำให้เพื่อนๆทุกคนรอบข้างเริ่มให้ความสนใจกับพวกเรา
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”
“ก็ดอกไม้ไง”
ผมกระซิบกระซาบถามคนหน้าไม่อายด้วยความรู้สึกหน้าชาเล็กน้อย แต่เขากลับตอบอย่างไม่คิด
“แล้วจะเอามาทำไมเล่า”
“เอามาให้ นางเอกของพี่ไง”
“ใครบอก”
“อะไรเนี่ย ที่เมื่อวานเรา….”
ผมรีบเอามือตัวเองอุดปากของซอกจินก่อนที่เขาจะพล่ามอะไรไปมากกว่านี้ ก่อนจะรีบรับดอกไม้ช่อโตนั่น ลงไปวางใต้ลิ้นชักโต๊ะเรียนทันที แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ซูก้าและเพื่อนๆทุกคนในห้องกำลังจ้องมาที่ผมกับเขาราวกับว่าจะเข้นความจริงทั้งหมดออกมา
“บอกมานะว่ามึงสองคนมีอะไรกันหรือป่าว”
“เห้ยยยยย!!!!!!”
ผมตะโกนออกมาด้วยความตกใจกับคำถามที่ตรงเกินไปของซูก้า
“หมายถึงว่า พวกมึงสองคนมีเรื่องอะไรปิดบังกูหรือป่าว”
“อ่อป่าวนิ อ้าววนั่นวีวี้แฟนมึงนิ ไอ้ซูก้า”
ผมรีบปฏิเสธก่อนจะเปลี่ยนประเด็นไปหานายวีที่กำลังเดินเข้ามาอย่างไม่รู้เรื่องราว
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องดีกว่า เอางี้ ซอกจิน เมื่อวานมึงกับเพื่อนกูมีอะไรกัน!!”
แล้วจู่ๆไอ้ซูก้าก็หันไปถามซอกจิน ที่กำลังยืนยิ้มหน้าาระรื่น
"มีดิวะ เสร็จไปหลายน้ำ"
"พ่องงมึงง กูเพื่อนเล่นมึงหรอไอ้จิน"
“งั้นฟังกันตรงนี้เลยนะทุกคน ฉันจะพูดอย่างผู้ชายอกสามศอก ว่า”
“หยุดนะเว้ยยซอกจินน!!!”
มีเพียงแต่เสียงของผมเท่านั้นที่พยายามต่อต้านแต่ร่างกาย กลับถูกไอ้ซูก้ากับเพื่อนอีกคนหนึ่งหนีบเอาไว้ ซอกจินยักคิ้วให้ผมอย่างก่อกวน ไอ้บ้านี่มันกำลังจะทำให้ผมอยากจะมุดแผ่นดินหนี
“จอนจองกุก รหัส7890 เขาเป็นของกู !! ใครที่คิดมายุ่มย่ามกับหมอนี่ กูรับรองว่า มึงจะได้ลองชิมหมัดแน่นอน แต่…”
ซอกจินหยุดชะงักคำพูด ทำให้ทุกคนนั้นยิ่งอยากติดตามขึ้นมาอีกเท่าตัว
“กูไม่ใจร้ายให้คนของกูไม่มีเพื่อนคบหรอกนะ ดังนั้นกูจะยกเว้นไอ้ซูก้าคนเดียว นี่คือคำสั่งในฐานะ เสี่ยจิน”
เงียบบ!! โดยเฉพาะผมที่กำลังอึ้งอยู่กับคำพูดของเขา ไอ้บ้าซอกจินมันเจ้าอำนาจ ไอ้คนนิสัยไม่ดี!!!!
ผมนั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะโดยไม่คิดจะเงยหน้ามารับความอับอาย จนกระทั่งระฆังจากอาจารย์ประจำวิชาก็ช่วยชีวิตของผมไว้ ซอกจินและทุกคนจึงยอมเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
“ว้าวว ร้ายเหมือนกันนะ ปราบเจ้าเสือร้ายซอกจิน จนได้”
ซูก้ากระซิบกระซาบผมเบาๆ ก่อนจะจดจ่อกับหนังสือเรียนบนโต๊ะต่อ เอาไงดีละชีวิตผมหลังจากนี่ที่มีซอกจินเป็นแฟนจะวุ่นวายแค่ไหนกันนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
“จะหนีไปไหน”
ซอกจินกำลังจะทำตัวเป็นผมอีกครั้งหลังจากที่ผมกับซูก้ากำลังรีบวางแผนหลบหน้าไปยังโรงอาหารก่อน แต่โดนหมอนั่นซ้อนแผนสะก่อน ไอ้บ้าจินเอ้ยย จะรู้ไหมเนี่ยว่าคนเราถึงจะชอบกัน รักกันแต่เวลาเห็นหน้าบ่อยๆแล้วมันก็รำคาญใจเหมือนกันนะ
“ย่าห์ คิมซอกจิน นายล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ วันนี้ฉันจะไปกินข้าวกับซูก้า”
“แล้วพี่ละ…?”
“ซูก้า กับโฮป สองคนนี้เท่านั้น โอ๊ะ!! นั่นไง เจโฮปมาพอดี อย่าให้รู้ว่านายมาทำให้ฉันหงุดหงิดอีกนะ”
ผมรีบพูดตัดบททันทีที่รู้ว่าซอกจิกำลังจะเอ่ยอะไรออกมา เห้อไอ้บ้านี่มันชักจะบ้าขึ้นทุกวันจริงๆนะ ถึงเราจะคบกันแล้วก็เถอะ แต่ก็ควรมีเวลาส่วนตัวบ้างสิ
“ย่าห์!!จอนจองกุก คบกันแล้วก็อย่าคบแต่ปากสิ รักแล้วก็ดูแลหน่อย”
“…”
“ดูแลด้วย หัวใจพี่ เห้ยยยยย จอนนนจองกุกกกกก!!!!!!!!!”
ผมไม่สนใจเสียงตะโกนของซอกจินที่กำลังคลุ้มคลั่ง ก่อนจะรีบหนีบตัวสองเพื่อนซี้อย่างซูก้า กับเจโฮปตรงดิ่งไปยังโรงอาหาร อันแสนสุขทันที
หลังจากที่เราสองคนเลิกอาหารที่วางเรียงรายไว้มากมายตามร้านต่างๆ ในที่สุด ทุกคนก็เลิกอาหารที่อยากกินในมื้อเที่ยงนี้ได้สักที จางจังมยอน ละกันน หู้ยยยยย น่ากินที่สุดเลยครับ
“นี่น้ำหวาน ของพวกนาย”
เจโฮปวางน้ำหวานสามแก้มลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งอีกด้านนึงของผมกับไอ้ซูก้า
“กูว่า วันนี้ ต่อให้น้ำหวาน ก็หวานสู้ จินกุก ไม่ได้ละม้างงง”
ผลั๊วะ!!!!
มือหนาๆของผมได้ทำการตบกะบาลของไอ้เพื่อนชอบแซวเป็นที่เรียบร้อย
“ชงอะไรนักหนา น่าหงุดหงิดจังเลย”
“วู้!!อารมณ์เสียสะด้วย ฮ่าๆ”
ซูก้าลูบหัวตัวเองปอยๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“พวกนายหมายความว่าไงหรอ จิน…กุก”
เจโฮปเพื่อนผู้ไม่ได้เรื่องราวเอ่ยถามออกมาอย่างไร้เดียงสา
“ก็ที่ไอ้จิน คบกับจองกุกของเรานี่ไง ไม่รู้เรื่องเลยหรอโฮป งั้มๆๆ อร่อยจังเลยย”
ซูก้าแถลงไขเรื่องราวให้กับเจโฮปฟัง ในขณะที่เพลิดเพลินกับการเคี้ยวอาหารอยู่
“คบกันหรอ!!!”
ผมไม่ได้สนใจกับคำสบถออกมาของโฮปและไม่ทันสังเกต แววตาอันเกรี้ยวกราดคู่นั้น เพราะกำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารในจานตัวเอง
“ซูก้า นี่ปลาหมึก ฉันไม่ชอบกินอะ!!”
ซ่า!!!!!!
“ย่าห์!!! ทำอะไรของนายวะ โฮป”
ซูก้าโวยวายเสียงดัง ทันทีที่น้ำแดงในแก้วราดไปยังกางเกงของตัวเอง
“ขอโทษนะ ฉันซุ่มซ่ามไปหน่อย เดี๋ยวฉันไปเอาทิชชู่มาซับให้นะ”
เจโฮป ก้มหน้าขอโทษซูก้ายกใหญ่ ใบหน้าของเขาดูรู้สึกผิดจริงๆ จึงทำให้ซูก้าไม่ติดใจอะไร
“กูว่ามึงไปล้างในห้องน้ำ ก่อนเถอะ มันเหนียวไปหมดแล้ว”
ผมเสนอแนวทางแก้ไข เพราะตัวนี้กางเกงนักศึกษาของซูก้าเลอะไปทั่ว
“แค่ตกใจนะ อย่าคิดมากนะโฮป”
ซูก้าไม่ลืมทีจะปลอบใจเพื่อนอีกคนที่กำลังรู้สึกผิดต่อเขาอยู่ ก่อนจะรีบวิ่งไปยังห้องน้ำทันที
“จอนจองกุก ซูก้าจะไม่โกรธฉันใช่ไหม”
เจโฮปเอ่ยถามหลังจากที่คนกางเกงเปียกเพิ่งวิ่งไป
“ไม่หรอกน่า นายทำใจให้สบายเถอะ”
“จอนจองกุก”
“หืม?”
“จริงหรอที่นายคบกับซอกจิน”
เพื่อนหน้าหวานเอ่ยถามตรงๆจนเกือบทำผมสำลักน้ำหวานที่กำลังดื่ม
“อ่อ เอ่อ ฉันเองก็ยังแปลกๆเหมือนกัน ว่าแต่นายถามทำไม”
“ป่าวหรอก ฉันอยากให้นายคิดดูดีดี ซอกจินเป็นคนไม่ดี ใครก็รู้ ไม่ใช่แค่เขานะ ฉันหมายถึงครอบครัวของเขาด้วย ฉันเลยเป็นห่วงนาย”
เจโฮปพูดพร้อมเลื่อนมือของเขามากุมมือของผมอย่างเบามือ พลางส่งสายตาอันแสนเศร้ามาหาผม
“ขอบใจนะ แต่ถ้าเขาไม่ดีอย่างที่นายว่าจริงๆ สักวันฉันกับเขาก็คงเลิกกัน นายไม่ต้องกังวลหรอกเจโฮป”
ผมพูดเสร็จ ก่อนจะตักอาหารเข้าปากกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่คิดอะไร
‘แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน จองจองกุก นายมันหาเรื่องใส่ตัวเอง’
มีเพียงเสียงของคิดของใครบางคนที่กำลังส่งถึงผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว
Jin part…..
“ย่าห์!!! จริง ๆเลย มึงดูดิ ไอ้เด็กบ้านั่น มันไม่เคยกินข้าวหรือไงกัน”
ผมที่นั่งอยู่จากโต๊ะที่ห่างจากคนตัวเล็กไม่กี่โต๊ะ กำลังหงุดหงิดที่เจ้าเด็กบ้านั่นมันกินแบบไม่หันมาสนใจผมเลย
“แดกๆเหอะ มัวแต่มองอยู่ได้ ซุปมึงเย็นหมดแล้วครับพ่อ”
ไอ้คู่หูเอ่ยในขณะที่ส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมของผม
“หน้าหล่อๆอย่างกู แม่งสู้ไอ้บะหมี่ดำนั้นไม่ได้ตรงไหน ถึงทำให้เจ้าเด็กนั่นมันไม่เงยหัวขึ้นมาจากจานเลย”
“นี่ไอ้จินเพื่อนรัก ถ้ามึงจะหึงได้แม้กระทั่งจาจางมยอน มึงแม่งเข้าไปฉุดเข้าห้องเลยไหมครับ”
“เออน่าสนใจวะ งั้นมึงไปเรียกร้องความสนใจทำเป็นเข้าไปคุยกับกาก้า หน่อยดิวะ”
“เชี่ยนี่ กูประชดเว้ย เรื่องนี้วีวี้จะไม่ยุ่ง ขืนเข้าไปตอนที่กาก้ากูอารมณ์ไม่ดี คืนนี้ก็อดศึกใหญ่สิวะ ไม่เอาอะกูไม่เสี่ยงกับมึงหรอก”
โธ่เอ้ยย ไอ้ลามก ชีวิตมึงนี่กะทำเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียวกับแฟนหรือไง
“ไอ้เพื่อนใจดำ ตัวก็ดำใจยังเสือกดำอีกนะมึง“
“เห้ยยย มึงแม่งเปลี่ยนไปเยอะนะ คบกันไม่ทันไรนี่ก็ออกแนว ก้มหัวให้จองกุกสะแล้ว”
“ใครบอกกันละ จอนจองกุกต่างหากที่ต้องก้มหัวให้แฟนอย่างกู”
ผมตอกกลับอย่างหัวเสียเมื่อเดินไอ้เพื่อนเกลอสบประมาท ก่อนจะจ้องไปยังคนที่กำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนโลก
“ไหนก็ลองโชว์เพื่อนหน่อยสิครับ ว่าปราบได้”
ไอ้วีมันกระซิบกระซาบอะไรของมันถึงใบหูเนี่ย ขนลุกชะมัด
“แน่นอน หึหึ เดี๋ยวกูมีอะไรสนุกๆให้มึงดู”
ผมกระตุกยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินถือจานข้าวตรงไปยังโต๊ะที่จองกุกนั่งอยู่กับเพื่อนๆ
“วู่วววว!! ลมอะไรหอบมาถึงโต๊ะกูได้เนี่ยไอ้จิน”
เป็นเสียงหมาในปากของไอ้ซูก้าเอ่ยทักทายผมนั่นเอง
“เอานี่ เก็บให้พี่ด้วย เป็นแฟนกันก็ต้องหัดดูแลกันนะ จอนจองกุก”
ผมวางจานทั้งหมดของตัวเองลงตรงจานด้านหน้าของคนตัวเล็กที่ทำหน้าเหวออย่างตกใจ
“คิมซอกจิน!!! นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”
“ไอกูๆๆ จองกุกกี้ของพี่โกรธแล้วสินะ”
ผมพูดอย่างก่อกวน ก่อนจะดึงแก้มของคนด้านหน้าดึงอย่างเอ็นดู ผมละมีความสุขเป็นบ้าเวลาได้กวนประสาทเจ้าเด็กนี้ เวลาที่ตาสองข้างเบิกโต และแก้มป่องๆที่ขยายขึ้น หืมมม น่าจับฟัดชะมัดเลย
“สมองมึงกลับป่าวเนี่ย บ้านมึงสอนให้มีแฟนไว้เป็นทาสหรือไง ไอ้เชี่ยจิน”
“แล้วเจอกันที่ห้องเรียนนะจ้ะ กุกกี้ของพี่”
ผมไม่สนใจคำด่าของไอ้ซูก้า เพราะถือว่ามันเป็นแม่ค้าที่ชอบด่าอะไรน่ารำคาญไปเรื่อย
ตุบบ!!
ผมเดินออกไป ก่อนจะชนกับใครบางคน เอ๋? ไอ้จีมินนี่เอง มันกับไอ้แรปม่อนเพื่อนของมันที่กำลังจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง
“ปาร์คจีมิน”
เสียงของจองกุกที่เอ่ยเสียงแผ่วเรียกเพื่อนที่ผมไม่ชอบพอด้วย
“มีปัญญาแดก แต่ไม่มีปัญญาเก็บ หรอวะ นักศึกษาดีเด่น”
ไอ้จีมินพูดพร้อมกับหันมาจับปกเสื้อของผมอย่างกวนเบื้องล่าง
“แล้วไม่ทราบว่าคุณ นักกีฬาดีเด่น เสือกอะไรกับผมครับ ไม่เห็นหรอว่าแฟนเขากำลังหยอกกัน”
ผมจับปกเสื้อของไอ้คนชอบหาเรื่องใส่ตัวอย่างถนัดมือ ก่อนที่สะแหยะยิ้มอย่างมีชัยชนะให้มัน เพราะยังไงละ ตอนนี้จอนจองกุก ก็เป็นของผม
“ก็อย่างที่บอก ดูแลให้ดี อย่าให้กูแย่งได้ละกัน”
ปาร์คจีมินเลื่อนใบหน้าเข้ามากระซิบผมข้างหู เป็นการข่มขู่
“ไม่มีวันที่จองกุกจะไปจากกู”
ผมพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำให้กับคนตรงหน้าได้มั่นใจ ว่าสิ่งที่มันคิดจะไม่มีวันสมหวังแน่นอน..
“ก็คอยดูละกัน”
ไอ้เตี้ยจีมิน วางระเบิดตูมใหญ่ลงในใจของผม ก่อนที่มันจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างสบายใจ
End Jin part…..
หนึ่งเม้นเท่ากับหนึ่งกำลังใจนะคะ
ห้าเม้นขึ้นไปอัพต่อนะจ๊ะ
ความคิดเห็น