ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ดาวฤกษ์ก็มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย
ทีนี้เรามาดูว่ารายละเอียดของแต่ละขั้นตอนวิวัฒนาการมีอะไรบ้าง เริ่มจากการยุบตัวของกลุ่มแก๊สที่อาจจะมีแรงกระแทกจากดาวระเบิดทำให้กลุ่มแก๊สเริ่มยุบตัว เมื่อมวลมากขึ้น แรงโน้มถ่วงก็มากขึ้นด้วย ทำให้มีมวลมากขึ้นจนหนาแน่นมากและร้อน ถ้าร้อนถึง 10 ล้านองศาเคลวินก็จะเริ่มมีการหลอมรวมไฮโดรเจน ไปเป็นฮีเลียมและปลดปล่อยพลังงานออกมา กลายเป็นดาวฤกษ์ที่สวยงามให้เราเห็นบนท้องฟ้า ดาวฤกษ์จะต้องรักษษสมดุลระหว่างแรงโน้มถ่วงที่จะทหำให้ดาวยุบและแรงดันเนื่องจากการแผ่รังสีที่จะทำให้ดาวขยายตัวออก ถ้าแรงทั้ง 2 อย่างนี้ไม่สมดุล ก็จะทำให้ดาวยุบตัวหรือระเบิดออกก็ได้
สำหรับดวงอาทิตย์ของเรา จะอยู่ในสภาพเป็นดาวกฤษ์อยู่ได้ เป็นระยะเวลาประมาณหมื่นล้านปี ปัจจุบันดวงอาทิตย์ดำเนินสภาพเป็นดาวฤกษ์มาแล้วประมาณเกือบ 5,000 ล้านปี เมื่อเชื้อเพลงบริเวณใจกลางของดาวฤกษ์ (ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของมวลดาวฤกษ์ทั้งหมด) ถูกเผาผลาญหมดไป แรงดันจะหายไป ทำให้แกนกลางของดาวฤกษ์ยุบตัวเนื่องจากผลของความโน้มถ่วงการยุบตัวของแกนกลาง และเปลือกนอกของดาวฤกษ์ขยายตัวออก กลายเป็นดาวยักษ์แดง ที่อุณหภูมิผิวประมาณ 3000 องศาเคลวินเท่านั้น วาระสุดท้ายของดาวจะขึ้นอยู่กับมวล ถ้ามวลน้อยแกนกลางจะกลายเป็นดาวแคระขาว และเปลือกนอกขยายออกเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ ดวงอาทิตย์ของเราก็จะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าเป็นดาวมวลมากก็จะมีการระเบิดอย่างรุนแรงหรือซุปเปอร์โนวาแกนกลางอาจเป็นดาวนิวตรอนหรือหลุมดำก็ได้ ถ้ามีมวลมากพอ อย่างเช่นเนบิวลาปูในกลุ่มดาววัว เป็นซากที่เหลือจากการระเบิดเมื่อประมาณพันปีทีแล้ว ตรงกลายกลายเป็นดาวนิวตรอนที่หมุนเร็วมากและส่งคลื่นวิทยุออกมา หรือที่เรียกว่าพัลซาร์ แต่ถ้าเป็นหลุมดำ เราจะมองไม่เห็นต้องหาวิธีการอื่นในการศึกษา
โดย ฝ่ายวิชาการ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความคิดเห็น