ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Just for you [3]
หนาวจัง..............
มืดจัง..............
นี่เราเป็นอะไรไปนะ..........
...........จริงสิ..........เราพยายามช่วยอายะที่กำลังจะถูกรถชนพร้อมกับเรา....
อายะจะปลอดภัยรึเปล่านะ.........แล้วนี่ตัวเราตายแล้วงั้นเหรอ.......
ไม่สิ.......ถ้าตายแล้วทำไมเราถึงยังรู้สึกอึดอัดเหมือนกับถูกมัดอยู่อย่างนี้ล่ะ...
เมื่อนานะมองลงมายังปลายเท้าของตนก็เห็นร่างกายของตนนอนไร้สติอยู่บนเตียงคนไข้ภายในห้อง ICU ทั่วร่างกายมีแต่เครื่องช่วยพยุงชีวิตอยู่เต็มไปหมด
‘ตัวเรานี่นา......งั้นเราก็ยังไม่ตายจริงๆน่ะสิ....’ นานะพยายามจะสัมผัสกับร่างกายของตนแต่มือที่ยื่นออกไปนั้นก็กลับทะลุร่างกายไปเหมือนกับว่าสิ่งตรงหน้าเป็นภาพลวงตา แต่ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นกลับกันล่ะ?...
‘อ๊า!! อย่าบอกนะว่านี่คือปรากฏการณ์วิญญาณหลุดออกจากร่างน่ะ! สุดยอด! สุดยอด!’ นานะที่ยังคงไว้ซึ่งความเริงร่านั้นมิวายจะออกอาการหลุดๆไม่เข้ากับสถานการณ์ที่ครึ่งเป็นครึ่งตายของตนในตอนนี้
‘จริงสิ....ไปหาอายะดีกว่าแฮะ’ ว่าแล้วนานะก็ชโงกหน้าออกไปหน้าประตูของห้อง ICU เพื่อที่จะดูว่ามีใครบ้างที่มาดูอาการของตนอย่างสนุกสนาน
แต่สิ่งที่นานะเห็นก็คือ อายาโกะที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นประดับเก้าอี้หน้าห้อง ICU ไม่ยอมขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยถ้าหากไม่จำเป็น อีกทั้งชิอากิกับทาช่าที่มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ท่าทางของชิอากินั้นเหมือนกับว่าไม่ได้ใส่ใจกับอาการของนานะเท่าไหร่นักแต่ถ้าหากสังเกตดีๆแล้วเจ้าตัวมักจะคอยเดินวนเวียนไปมาระหว่างหน้าห้อง ICU และตัวอายาโกะโดยแทบจะไมได้นั่งพักและไม่ได้นอนหลับเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งทั้งที่ทางทาช่านั้นดูเหมือนกับว่าจะหมดแรงแล้วเผลอหลับไปหลายต่อหลายครั้งคงเพราะว่าเพิ่งจะนั่งเครื่องติดต่อกันเป็นเวลานานและร่างกายก็ยังคงปรับเวลาตามไม่ได้
‘...อายะ......นี่! อายะ เป็นอะไรไปน่ะ! บาดเจ็บตรงไหนเหรอ!? อายะ!’ นานะพยายามที่จะแตะต้องร่างกายของอีกฝ่ายแต่ทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม มือที่ยื่นเข้าไปนั่นผ่านร่างกายของอีกฝ่ายเหมือนกับว่าตนเองเป็นเพียงแค่หมอกควันที่ไร้สี ไร้กลิ่น ไม่มีแม้แต่รูปร่างที่จะให้ใครเห็น
อายาโกะยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนและหยดน้ำตาก็เริ่มที่จะรินไหลออกมาอีกครั้งอย่างเงียบๆ ขอบตาที่เกิดอาการช้ำจากการร้องไห้และการที่ไมได้พักผ่อนเป็นเวลานานถึงกับทำให้นานะรู้สึกอยากจะโอบกอดคนตรงหน้าเอาไว้แทบจะขาดใจแต่ก็ม่ามารถที่จะทำได้ เมื่อหันไปทางชิอากิที่ตอนนี้นั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวถัดจากตัวที่อายาโกะนั่งเพียงไม่กี่ตัวนั้นก็แสดงอาการแทบจะไม่แตกต่างกันซักเท่าไหร่นักโดยที่มีทาช่านอนหนุนตักอยู่
‘ชิอากิ นี่ ชิอากิ เธอช่วยอายะหน่อยสิ! นี่!’ นานะพยายามที่จะตระโกนอย่างสุดเสียงแต่กลับไม่มีใครที่จะได้ยินเลยแม้แต่คนเดียว เมื่อพยายามจะสัมผัสร่างของตนก็ทะลุอีกฝ่ายไปเหมือนกับหมอกควันทุกครั้ง
นานะตระหนักถึงความไร้ตัวตนของตัวเองเป็นครั้งแรก...ถึงปกตินั้นเวลาที่อยู่ด้วยกัน 3 คน ตนจะเป็นคนที่ไม่เด่นที่สุดเพราะทั้งอายาโกะและชิอากินั้นรูปร่างหน้าตาก็ดีแถมยังมีฐานะทางบ้านที่จดได้ว่าดีมากๆ แต่ตัวเองล่ะ? รูปร่างหน้าตาถึงจะไมได้น่าเกลียดหรือดูไม่ได้แต่ก็จัดอยู่แค่ในระดับปกติที่หาได้ทั่วๆไป ฐานะทางบ้านก็แค่ขั้นดีเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน เรื่องความฉลาดน่ะหรือ?ก็อยู่ในระดับที่ดีพอควรแต่ก็แทบจะไม่ต่างกับอีกสองคนเท่าไหร่นักไม่เช่นนั้นการสอบทุกครั้งคงจะไม่สลับกันได้ที่ 1-3 ของชั้นปีเสียทุกครั้งหรอก
“น....นานะ...”อยู่ๆชิอากิก็เงยหน้าขึ้นมาหันรีหันขวางเหมือนกับจะหาอะไรบางอย่างเลยพลอยทำให้คนที่หนุนตักอยู่รู้สึกตัวจา
การหลับใหล
“....มีอะไรเหรอคะ?...คุณชิอากิ” ทาช่าที่ยังคงงัวเงียเล็กน้อยถามเจ้านายของตนพลางขยี้ตาไปมา
“ม...ไม่มีอะไรหรอก...แค่รู้สึกเหมือนกับได้ยินเสียงนานะน่ะ ชั้นคงจะหูฝาดไปเอง...นอนต่อเถอะนะ ทาช่า” ชิอากิเสยผมที่ลงมาปรกหน้าและบีบดั้งจมูกเล็กน้อยเพื่อผ่อนคลายอาการเครียด
“.........ไม่เอาค่ะ เมื่อกี้นี้ชั้นได้พักไปบ้างแล้วแต่คุณชิอากิกับคุณอายาโกะยังไม่ได้พักผ่อนเลยซักนิดแบบนี้ชั้นคงจะหลับไม่ลงหรอกค่ะ” ทาช่าแสดงอาการดื้อดึงต่อเจ้านายสาวของตนและพูดเชิงบอกประมาณว่า ถ้าพวกคุณไม่พักผ่อนชั้นก็จะไม่พักผ่อนเหมือนกัน
เมื่อถูกสัตว์เลี้ยงของตนต่อต้านความคิดที่แอบชั่วร้ายเล็กน้อยของชิอากิก็ผุดขึ้นมาอย่างไร้สิ่งเตือน ร่างบางกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของเด็กสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่เหยียดมุมปากบางๆ ทาช่าพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเสียไม่ได้เป็นสัญญาณก่อนที่ชิอากิจะลุกขึ้นและเดินไปที่ไหนซักแห่ง
นานะที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างรู้สึกหนาวสันหลังวูบทันทีที่เห็นรอยยิ้มมุมปากของชิอากิเพราะเจ้าตัวมักจะยิ้มแบบนี้ทุกครั้งที่คิดเรื่องบางอย่างอันไม่น่าพึงประสงค์ต่อใครบางคนและคราวนี้ดูเหมือนว่าใครบางคนคนนั้นจะเป็น อายาโกะ เสียด้วยสิ
นานะไม่ค่อยจะไว้วางใจรอยยิ้มปีศาจนั้นของชิอากิเท่าไหร่นักดึงได้ลองตามอีกฝ่ายไปโดยที่ทิ้งอายาโกะกับทาช่าเอาไว้ตามลำพังเพราะยังไงทาช่าก็ไร้ซึ่งพิษภัยผิดกับอีกฝ่ายที่ตนกำลังตามอยู่อย่างแน่นอน
ชิอากิไปพูดอะไรบางอย่างกับนางพยาบาลและหมอที่ดูแลชั้นนั้นก่อนที่จะรับยาแคปซูลมาและเดินกลับมายังที่อายาโกะอยู่อย่างกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินไปยังคนที่นั่งเป็นรูปปั้นอยู่หน้าห้อง ICU ร่างบางก็เดินไปยังตู้ขายเครื่องดื่มเพื่อที่จะซื้อกาแฟร้อนจากเครื่องและเดินไปยังที่ที่อายาโกะนั่งอยู่
“นี่....ชิอากิ...ถ้าหากนานะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย.....เธอจะโทษว่าเป็นความผิดของชั้นไหม?” อยู่ๆอายาโกะก็พูดขึ้นมาทำเอานานะสะดุ้งเล็กๆ
“.......ไม่หรอก.....ก็ยัยนี่น่ะอุตส่าห์เอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงเพื่อที่จะปกป้องเธอนี่นา....ชั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะไปโทษหรือว่าโกรธเธอเลยซักนิด...........แถมสำหรับชั้น.....ยัยนี่มีพลังชีวิตมากกว่าแมลงสาปซะอีกนะเพราะงั้นก็ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่า” คำพูดของชิอากิในช่วงแรกนั้นนานะเห็นด้วยแต่ว่าพอถึงท้ายประโยคนานะรู้สึกเหมือนกับถูกเอาค้อนยักษ์มาทุบหัวไม่มีผิด
‘นี่...ยัยชิอากิ นี่เธอเห็นชั้นเป็นตัวอะไรกันยะ’ ถ้าหากแตะต้องตัวได้นานะคงจะใช้แขนทั้งสองข้างล๊อกคอของอีกฝ่ายแล้วดึงให้เคล็ดไปเลยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากการยืนมอง เพียงชั่วครู่ที่ชิอากิแสร้งทำเป็นดื่มกาแฟนั้นก็แอบเทยานอนหลับจากหลอดแคปซูลใส่ลงไปในน้ำสีขุ่นนั้นจนหมดก่อนที่จะยื่นให้อายาโกะดื่มอย่างไม่สงสัยอะไร
เมื่อผ่านไปไม่ถึงนาทีอายาโกะก็มีอาการมึนหัวและง่วงนอนอย่างหนักจนทนไม่ไหวจนกระทั่งฟุบหลับไปยังโซฟาที่นั่งอยู่ทันทีที่อายาโกะหลับไปชิอากิก็ส่งสัญญาณให้ทาช่าเข้ามาอุ้มร่างบางของอายาโกะตรงรี่ไปยังห้องพักฟื้นผู้ป่วยที่ไม่รู้ว่าไปเตรียมกันตอนไหน
‘ชิ.....ชิอากิ...ชั้นจะไม่เป็นศัตรูกับเธอแน่ๆ....ตลอดชีวิตเลยล่ะ...’ นานะที่ถึงจะไม่ได้อยู่ในร่างกายแต่ก็เกิดอาการกลัวอีกฝ่ายชนิดที่ว่า ถ้าหากไปเป็นศัตรูด้วยล่ะก็....ดับอนาถชนิดที่ไม่มีใครจินตนาการออกแหงๆ แต่อีกใจหนึ่งนานะก็รู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายอยู่เหมือนกันที่วางแผนทำให้อายาโกะไม่ต้องฝืนร่างกายมากไปกว่านี้
“คุณชิอากิทำแบบนี้แล้ว.....ชั้นรู้สึกผิดต่อคุณอายาโกะยังไงก็ไม่รู้สิคะ” ทาช่าดึงชายเสื้อโค้ทของชิอากิแน่น
“แต่ก็ดีกว่า.....ให้ยัยนั่นฝืนร่างกายตัวเองแบบบ้าๆบอๆนี่นา” ชิอากิตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยเสียจนน่ากลัว
“แต่ว่า..........” “ไม่มีแต่ ทางเดียวที่จะช่วยอายาโกะได้ในตอนนี้ก็มีแค่วิธีนี้นี่นา ชั้นไม่อยากที่จะเสียเพื่อนรักไปพร้อมกันทั้งสองคนหรอกนะ” คิ้วของชิอากิขมวดเข้าหากันแน่นจนเกือบจะชนกันเป็นสิ่งเดียวที่เป็นการแสดงออกถึงอารมณ์อันน่าอึดอัดเสียจนอยากจะอาเจียนในตอนนี้
‘อายะ......อย่าเป็นห่วงชั้นเลยนะ...ชั้นน่ะ....ไม่ตายง่ายๆหรอกนะ...’ นานะยืนมองอายาโกะที่นอนหลับด้วยฤทธิ์ยาที่ถูกใส่ไว้ในถุงน้ำเกลือ มือที่เหมือนกับเป็นอนุอากาศพยายามที่จะสัมผัสแต่ทุกครั้งก็จะผ่านร่างกายของอีกฝ่ายเสียทุกครั้งไป
ความพยายามที่ไร้ทางสำเร็จ.....และ...กำลังใจที่ใกล้จะถึงขีดสุด......ทำให้นานะอยากที่จะร้องไห้ออกมาเสียเหลือเกิน แต่ว่าไม่ว่าจะร้องไห้ยังไงก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยแม้แต่น้อย อยู่ๆการหายใจที่เคยสะดวกไร้การติดขัดมาตลอดก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก เมื่อมองไปที่มือของตนก็เห็นว่าเริ่มโปร่งใสขึ้นเรื่อยๆและร่างกายบางส่วนเริ่มที่จะจางหายไป นานะเริ่มที่จะสับสนลนลานภายในสมองเกือบทั้งหมดขึ้นออกเพียงแค่เกิดอะไรบางอย่างขึ้นและตนกำลังจะตาย สายตาที่กรอกไปมาก็ไปสะดุดตากับเงามืดด้านหลังของตน เงามืดที่กำลังคลืบคลานเข้ามาหวังจะห่อหุ้มร่างกายของตน ร่างกายที่เคยรู้สึกอิสระกลับหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงเอาไว้ด้วยตะกั่ว
เงาเริ่มการกลืนกินร่างกายของนานะที่ไร้หนทางการดิ้นรนหลีกหนี แม้เสียงก็แผดออกมาไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่เห็นก็คือ...อายาโกะที่กำลังนอนร้องไห้อย่างไม่รู้สึกตัว จากนั้น...........ทุกอย่างก็มีเพียงความมืดมิดเท่านั้น
ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยชั้นด้วย! ชั้นยังไม่อยากที่จะตาย ชั้นยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่!.....ชั้นยังอยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะหัวเราะกับอายะ ยังอยากที่จะพูดคุยกับอายะอีกซักครั้ง ได้โปรด! ได้โปรด! ได้โปรดเถอะ! พระเจ้า!
ความคิดเห็น