คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 - Happy Alley ตกหลุมรักครั้งที่สอง (Crush)
Chapter 13
หยาดฝนไหลรินตกกระทบกระจกบานโตหน้ารถเมล์สายประจำ จากแค่โปรยปรายพอให้ได้ชุ่มฉ่ำใจเล่น กลับกลายเป็นฝนเม็ดโตที่สามารถทำให้ใครหลายคนเปียกปอนไปทั้งตัว เต๋าได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า
ฝนตกอีกแล้ว...
ขายาวก้าวลงจากรถเมล์สายประจำก่อนจะรีบกางร่มสีทึบออกอย่างไม่รีรอ เป้ใบโปรดที่เคยอยู่ด้านหลังบัดนี้ได้ย้ายมาอยู่ด้านหน้าเพราะเกรงว่าข้าวของชิ้นสำคัญจะเปียกฝน จุดมุ่งหมายในใจหลังจากก้าวลงจากรถคือร้านชานมไข่มุกของพี่ชาย หากแต่ภาพของเด็กน้อยชุดนักเรียนที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ป้ายรถเมล์ด้านหน้ากลับทำให้จุดหมายเปลี่ยนแปลง
“คชา!” เต๋าตะโกนเรียกคนที่กำลังยืนก้มหน้ายกมือบังศีรษะ ดูเหมือนคชาตั้งใจจะป้องกันความเปียกจากการกระหน่ำของสายฝนแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไหร่นัก
“ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้”
“ลืมเอาร่มมา” ตากลมแป๋วจ้องหน้าพี่ชายคนสนิทที่วิ่งกางร่มมายังตนเอง ก่อนจะตอบเสียงซื่อ มองหน้าคนเป็นพี่ด้วยสายตาเว้าวอนเล็กน้อย มีความรู้สึกบางอย่างว่าต้องโดนพี่เต๋าดุแน่ๆ ...เพราะพี่เต๋ารู้ว่าคชาไม่ชอบพกร่ม หลายครั้งที่พี่เต๋าเตือน หลายครั้งที่พี่เต๋ายื่นร่มให้ด้วยตัวเอง แต่คชาก็ยังลืม
“เดี๋ยววิ่งไปร้านกัน” แขนยาวเอื้อมโอบไหล่เล็กให้ชิดกับตัวเอง ยื่นร่มออกท่ามกลางสายฝนที่ไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงแล้วเร่งนำพาเด็กขี้ลืมวิ่งหนีฝนเคียงข้างกันไป ใจหวังให้ถึงจุดหมายให้เร็วที่สุดเพื่อที่ใครบางคนจะไม่เปียกไปมากกว่านี้
ทันทีที่ถึงร้านชานมไข่มุกประจำซอยมีสุข23 เต๋าวางสัมภาระทั้งของตัวเองและคชาลงบนโซฟาที่เหมือนจะเห็นลางๆว่ามีเฟรมนั่งอยู่ แล้วก็เหมือนจะมีใครอีกสักคนซึ่งเต๋าไม่ได้ตั้งใจมองอะไรมากนักเพราะสิ่งที่สนใจตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว
“ไหนดูซิ เปียกหมดแล้ว” มือหนาล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกง แล้ววางทาบทับสัมผัสมันลงกับหน้าผากมนที่มีเม็ดฝนเกาะติดแล้วค่อยๆบรรจงไล้ลงมายังแก้มเนียน
"ถึงบ้านต้องรีบอาบน้ำรู้ไหม เดี๋ยวจะไม่สบายอีก" ปากก็พร่ำบ่นตามประสาแต่มือยังคงไม่หยุดทำหน้าที่
"อ่าห๊ะ" คชาตอบรับแล้วแย่งผ้าเช็ดหน้าจากมือของร่างสูงไป ช้อนตามองเต๋าเล็กน้อยก่อนจะเช็ดหน้าให้คนตัวสูงกว่าบ้าง
"เด็กดื้อ...ไม่ชอบพกร่ม" เต๋ายิ้มออกมาน้อยๆ นึกหมั่นเขี้ยวแววตาของเด็กรู้สึกผิดที่พยายามทำความดีชดเชยแล้วก็ต้องเผลอจิ้มปลายจมูกรั้นของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
“เช็ดหน้าตัวเองเถอะ พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อน” ไม่นานมือหนาก็รั้งมือของเด็กสำนึกผิดที่กำลังตั้งใจเช็ดเม็ดฝนออกจากใบหน้าของเขา
“ไปด้วย” เด็กน้อยว่าขึ้นทันทีแล้วรีบเกาะหลังพี่ชายคนสนิทเดินตามติดกันเข้าไปยังห้องน้ำ
“มาแสดงซีนโรแมนติคให้ดูแล้วก็ชวนกันไปเข้าห้องน้ำ อะไรของคุณเต๋าวะครับ” น้ำแข็งแอบแซวพอเป็นพิธี โปเต้ลอบมองแล้วส่ายหัวแอบยิ้มขำเล็กน้อย เหตุการณ์ทั้งหมดก่อนหน้านี้น้ำแข็งและโปเต้ได้จัดเก็บบันทึกข้อมูลไว้หมดแล้ว
“นั่นพี่เต๋าใช่ไหมเฟรม?”
“ยังหล่อเหมือนเดิมเลย ไม่ใช่สิ...หล่อกว่าเดิมมากๆ” เฟรมพยักหน้าตอบรับน้ำเสียงร่าเริงสดใสของคนที่นั่งตรงข้าม ลอบมองรอยยิ้มของเพื่อนสมัยมัธยมแล้วนึกย้อนถึงเรื่องราวในวันวาน....ฝ้ายมันเคยแอบชอบพี่เต๋านี่หว่า
---------------------------------------------------------------
ร่างสูงยืนล้างมืออยู่หน้าห้องน้ำรออีกคนที่พึ่งผลัดเปลี่ยนเข้าไป ไม่นานเด็กหัวกลมก็โผล่ออกมายืนยิ้มมองคนที่ยืนตั้งใจล้างมืออยู่ เต๋ากวักมือเรียกให้คชามายืนด้านข้างผ่านกระจกบานใส
“ตัวเล็กจริงๆนะเด็ก” เต๋าเอ่ยขึ้นเมื่อมองเห็นภาพสะท้อนของตนเองและคชาผ่านกระจก
“เล็กอะไร อีกนิดเดียวก็เท่าพี่เต๋าแล้วเห่อะ” คชาเถียง เต๋าได้แต่หัวเราะคนตัวเล็กกว่าที่กำลังพยายามเขย่งปลายเท้าให้สูงเท่าเขา
“ทำยังไงเด็กถึงจะไม่ลืมพกร่มนะ” เสียงทุ้มถามขึ้นแล้วมองใบหน้าด้านข้างของเด็กน้อยที่กำลังก้มตัวล้างมือ
“ไม่ได้ลืม แต่วันที่พกร่มไปฝนมันไม่ตกนี่นา” คชาเถียงเสียงงุ้งงิ้งหันหน้ามองอีกฝ่ายที่กำลังมองมายังตนเอง
“เถียงอีกแล้ว.....”
“ถ้าครั้งหน้าเถียงพี่อีก พี่จะดีดหน้าผากแบบนี้” ไม่ทันขาดคำเด็กน้อยก็ได้หลับตาปี๋เพราะโดนลอบทำร้ายจากพี่ชายขี้แกล้ง
“พี่เต๋า มันเจ็บนะ!” มือเล็กลูบหน้าผากป้อยๆ ริมฝีปากบ่นพึมพำไม่หยุด
“โอ๋ๆ อะ...พี่ให้ทำคืน” ว่าแล้วก็โน้มตัวเข้าใกล้คนตัวเล็กจนแทบจะชิด...อีกนิดหน้าผากก็จะชนกันแล้ว จากที่ตั้งใจจะเอาคืนพี่เต๋ากลับกลายเป็นว่าต้องป้องกันตัวเองจากระยะห่างที่ใกล้กันมากเกินไปแทน
“ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี” สองมือเล็กพยายามดันไหล่พี่เต๋าให้ออกห่างจากตัวเองแต่....
“ตัวอุ่นๆนะ กลับบ้านกินยาด้วยนะครับ” เหมือนแรงผลักของคนตัวเล็กไม่เป็นผลเลยสักนิดเมื่อในตอนนี้หน้าผากของคนตัวสูงกว่าได้แนบชิดกับหน้าผากของตนเองจนรับรู้ซึ่งอุณหภูมิของกันและกันเสียแล้ว จากมือที่คอยดันไหล่หนาตอนนี้จึงทำได้แค่จับแตะไว้เบาๆแทน...อีกนิดจมูกจะชนกันแล้วนะ
คชาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะดันหน้าผากตัวเองเพื่อให้หลุดออกจากระยะแนบชิด เป็นจังหวะเดียวกันที่ปลายจมูกของทั้งสองฝ่ายแตะสัมผัสกันและกันบางเบา เต๋าหัวเราะหึหึมองเด็กหน้าแดงวิ่งดุ๊กๆออกไปหน้าร้าน ยืนสงบสติอารมณ์ส่ายหัวให้กับสิ่งที่ตัวเองทำสักพักก่อนจะเดินตามคชาออกไป
“แกล้งอะไรคุณน้องคชาครับคุณเต๋า”
“เปล๊า” เต๋าตอบไม่มองหน้าคนถาม สายตาเพ่งมองเด็กหน้าแดงที่วิ่งไปเล่นกับลูกค้าประจำตัวน้อยอย่างน้องมังคุด แล้วหันกลับมานั่งพักบนโซฟาตัวนิ่ม สายตาสะดุดกับผู้ไม่คุ้นตาฝั่งตรงข้ามก่อนที่น้องชายจะเป็นฝ่ายแนะนำ
“พี่เต๋า..นี่ฝ้าย เพื่อนสมัยมัธยม”
“พี่เต๋าสวัสดีค่ะ”
“หวัดดีครับ เพื่อนสมัยมัธยมถ้างั้นก็เรียนโรงเรียนเดียวกันกับพี่สิ”
“ว่าแล้วพี่เต๋าต้องจำไอ้ฝ้ายไม่ได้” เฟรมนึกแซวไปตามประสา แอบเห็นแววตาผิดหวังของเพื่อนที่คงจะแอบน้อยใจที่รุ่นพี่ขวัญใจจำตนเองไม่ได้
“ฝ้ายเรียนถึงแค่มอสองก็ย้ายโรงเรียนค่ะ แต่ว่าฝ้ายเคย...”
“เคยไปเล่นบาสกับพี่ใช่ไหม? พี่ว่าพี่จำได้แล้วหละ ที่โรงยิมวันนั้น น้องฝ้ายที่ชู้ตมั่วแล้วได้สามแต้มใช่ไหม? ” ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคดีเต๋าก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน นั่นทำให้หญิงสาวแยมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อรู้ว่าอีกฝ้ายจำเรื่องราวของตัวเองได้
“พี่เต๋ายังเหมือนเดิมเลยนะคะ” ฝ้ายไม่ได้หมายถึงหน้าตาหากหมายถึงรอยยิ้มของเต๋า ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหนแต่รอยยิ้มของรุ่นพี่ร่วมสถาบันคนนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นทุกครั้ง
“แต่ฝ้ายสวยขึ้นนะ พี่จำไม่ได้เลย” เต๋าแกล้งแซวเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ แต่หารู้ไม่ว่าประโยคที่ไม่ตั้งใจนั้นกลับทำให้คนฟังขวยเขิน
นั่งคุยกันได้สักพักก็ได้เรื่องได้ราวว่าฝ้ายย้ายมาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มอสาม ได้กลับมาเจอเฟรมอีกครั้งเพราะเพื่อนนัดแนะกันในเฟ๊ซบุ๊ก ฝ้ายก็พึ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เหมือนกันว่าบ้านของตัวเองอยู่ใกล้กับเฟรม เลยถือโอกาสนัดแนะเจอกันก่อนจะนัดพบปะกันกับเพื่อนร่วมห้องอีกหลายชีวิตในคืนวันพรุ่งนี้
“คชา เข้าบ้านไหม พี่โบกแท็กซี่มา” เสียงพี่มิ้นท์ร้องถามทันทีเมื่อเปิดประตูร้านเข้ามา
“ไป” เสียงใสตอบด้วยความไว ล่ำลามังคุดพอเป็นพิธีก่อนจะร้องถามคนที่เดินตากฝนมาด้วยกัน “พี่เต๋า พี่มิ้นท์มาแท็กซี่..เข้าบ้านด้วยกันไหม?” เต๋าหันหน้าไปหาคชาพยักหน้าเออออให้อีกฝ่ายรับทราบว่าเขาตกลง ก่อนจะรวบข้าวของทั้งของตนเองและของคนตัวเล็กที่รีบวิ่งออกไปขึ้นรถแล้ว .... แล้วก่อนหน้านี้จะถามเขาทำไม?
“พี่กลับก่อนนะฝ้าย ไว้เจอกัน...เจอกันที่บ้านเฟรม”
“ค่ะ..หวัดดีอีกครั้งนะคะพี่เต๋า ดีใจที่ได้เจอพี่เต๋าอีกครั้งนะคะ”
“ครับ..โชคดีนะ” เต๋าโบกมือล่ำลาอีกฝ่ายก่อนจะรีบพุ่งตัวออกจากร้านไป เฟรมแอบลอบมองอาการของเพื่อนก็อยากจะถอนหายใจออกมา ฝ้ายมองตามร่างสูงขาวของรุ่นพี่ตั้งแต่ออกจากร้านจนเข้าไปในตัวรถ อาการยิ้มแย้มเหมือนคนกำลังตกหลุมรักของฝ้ายทำให้เฟรมถึงกับส่ายหัว....หวังว่าแกคงจะไม่ตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้งนะฝ้าย
---------------------------------------------------------------
แกร๊ก!
ร่างสูงเปิดประตูเข้ามายังตัวบ้านเลขที่ 23/2 ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากที่ฝ่าฟันกับการจราจรวันศุกร์สิ้นเดือนร่วมชั่วโมง มือหนาปลดเนคไทบริเวณคอด้วยความเคยชินโดยไม่ได้สนใจมองแขกที่ยืนอยู่ในบ้านสักนิด
“เอ่อ...พี่เต๋าสวัสดีค่ะ”
“อ้าว ฝ้าย” เต๋าตกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนของน้องชายคนเมื่อวานยืนนิ่งมองตนอยู่ “โทษทีๆ พี่ไม่ทันได้มอง” เต๋าหันหลังจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาทางฝ้าย
“พี่เต๋าจะกินน้ำหรอคะ ให้ฝ้ายเทให้ไหมคะ?” เต๋ายังไม่ได้ทันตอบอะไร แก้วน้ำเย็นก็ลอยยื่นมาหน้าเขาเสียแล้ว “ขอบคุณนะ” เต๋ากระดกน้ำรวดเดียวหมดแก้วเนื่องจากอาการเหนื่อยล้า ทำให้คนมองยิ่งชื่นใจ
“นี่จะออกไปข้างนอกกันหรอ?” เต๋าจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเฟรมเกริ่นเรื่องการนัดรวมตัวกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมไว้
“ค่ะ ฝ้ายมารอไปพร้อมเฟรม เฟรมอาบน้ำอยู่ค่ะ”
“เที่ยวกันวันศุกร์สิ้นเดือนแบบนี้ ระวังตัวดีๆนะ” ลมหายใจราวกับสะดุดเมื่อรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงตนเอง เผลอยิ้มออกมามากเกินไปจนเต๋าทำหน้าสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร
“ค่ะ ฝ้ายจะระวังตัว ขอบคุณนะคะพี่เต๋า” เต๋าพยักหน้าเป็นมิตร ยกแก้วน้ำขึ้นจิบอีกรอบส่วนฝ้ายก็ยังคงลอบมองเต๋าไม่วางตา
เสียงเคาะประตูสองสามทีเรียกให้ทั้งเต๋าและฝ้ายหันไปมอง เจ้าบ้านยังไม่ทันได้เดินไปเปิดประตูให้ เด็กน้อยในชุดนักเรียนก็ถือวิสาสะเดินอุ้มแมวเข้ามาในตัวบ้านแถมยังยิ้มกวนให้เขาอีก
“ก๊อก ก๊อก ยังไม่อนุญาตเข้ามาได้ยังไงครับ” ยังเดินไม่พ้นประตูบ้านดีก็ถูกพี่เต๋าล้อมดักไว้เสียแล้ว
“พี่เต๋า อย่าพึ่งแกล้ง...ฝากคะน้าก่อน คชาปวดฉี่” คชาพูดรัวเร็วแล้วรีบส่งแมวให้เต๋า ก่อนจะวิ่งร้อยเมตรเข้าห้องน้ำไป เต๋าลูบหัวแมวน้อยในอ้อมแขนสองสามที นึกขำท่าทางของคนตัวเล็กเมื่อครู่ พึ่งออกจากบ้านตัวเองมาแท้ๆ แต่ดันมายืมห้องน้ำบ้านเขาใช้เสียงอย่างนั้น...เด็กหนอเด็ก
เต๋ายืนอุ้มแมวขนฟูรอคนตัวเล็กหน้าห้องน้ำ ไม่นานเด็กน้อยก็ออกมา “เรียบร้อย...เอาคะน้ามานี่เลย” คชาเช็ดมือลวกๆที่กางเกงนักเรียนแล้วรีบขอแมวสุดที่รักคืนทันที แถมยังดันเต๋าให้พ้นจากทางเดิน
พึ่งรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตนเองและพี่เต๋ายืนอยู่ ดวงตากลมแป๋วจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าแล้วยิ้มให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มให้ตอบกลับไม่ต่างกัน ถึงจะไม่รู้จักแต่รอยยิ้มเป็นสิ่งที่คชาเลือกที่จะมอบให้ฝ้ายเป็นสิ่งแรก
“นี่พี่ฝ้ายเป็นเพื่อนเฟรม” เต๋าเดินมายืนข้างคชาเผลอโอบไหล่บางด้วยความเคยชิน เอ่ยแนะนำแต่ละคนให้รู้จักกัน “นี่น้องคชา บ้านอยู่ข้างๆ” คชายกมือไหว้ฝ้ายทันทีเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นพี่
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะน้องคชา” คชายิ้มให้ฝ้ายอีกครั้ง ก่อนจะคิดได้ถึงสาเหตุที่มาเคาะประตู คิดได้ดังนั้นปลายเท้าเล็กจึงเขย่งขึ้นเพื่อกระซิบบางอย่างให้เจ้าของลำแขนอบอุ่นรับรู้ เต๋าโน้มตัวหาอีกฝ่ายอย่างรู้งาน หัวเราะออกมาน้อยๆหลังจากฟังสิ่งที่คชาพูดจบ .....เด็กขี้อายก็ยังคงเป็นเด็กขี้อาย
“คชาชวนฝ้ายไปกินข้าวเย็นด้วยกัน” เต๋าขยายความให้หญิงสาวที่ยืนมองเหมือนลุ้นอะไรสักอย่างรู้
“เสียดายจัง วันนี้พี่มีนัดกับเพื่อนแล้ว ไว้วันหลังนะน้องคชา” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อย
“ฮะ” คชาพยักหน้ารับยิ้มตอบกลับให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร แอบเอาขาหน้าของแมวสุดที่รักไถไปกับเสื้อพี่เต๋าเหมือนอายอะไรสักอย่าง
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะฝ้าย พาเด็กขี้อายไปกินข้าวก่อน... เที่ยวให้สนุกนะ”
“ค่ะ ทานข้าวให้อร่อยนะคะทั้งพี่เต๋าทั้งน้องคชาเลย” ฝ้ายยืนเหม่อมองตามแผ่นหลังอบอุ่นของรุ่นพี่สุดเท่ห์ ภาพพี่เต๋าที่เดินโอบน้องคชาออกไปทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่นแปลกประหลาด อดใจไม่ได้ที่จะจินตนาการว่า ถ้าหากวันนึงคนที่เดินเคียงข้างพี่เต๋าเป็นตนเองบ้างคงรู้สึกดีไม่น้อย
“พี่เต๋าดูอบอุ่นจังเฟรม ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย” ฝ้ายเพ้อบอกเฟรมที่พึ่งลงจากบันได
“หน้าเคลิ้มไปแล้วฝ้าย...”
“พี่เต๋าบอกให้ฉันดูแลตัวเองด้วยนะแก เขินชะมัด”
“ฝ้าย...นี่แกตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้งหรือไง?” เฟรมเริ่มถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้าฉันบอกว่าใช่แกคิดว่าไง ....ฉันอาจจะไม่ได้ตกหลุมรักพี่เต๋าอีกครั้ง แต่ฉันอาจจะยังไม่เลิกชอบเขาเลยก็ได้”
“แก....” ท่าทางเขินอายของฝ้ายกำลังทำให้เฟรมรู้สึกแปลกๆ เหมือนจะคาดเดาสิ่งที่ฝ้ายกำลังอยากจะถามได้ “.....พี่เต๋ามีแฟนแล้วยัง” แล้วก็เป็นตามที่เฟรมคาดไว้
“ยัง” คำตอบของเฟรมเรียกรอยยิ้มของฝ้ายให้เบิกบานมากขึ้นเท่าตัว แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงฉับพลัน “แต่มีคนที่ชอบแล้ว ทำใจเถอะเพื่อน”
“ใคร? ใครอะเฟรม แกบอกมาก่อน” เฟรมก้มหน้าก้มตาเก็บของ เลี่ยงไม่ตอบคำถาม “ไอ้เฟรม...แกบอกมาก่อน พี่เต๋าชอบใคร สวยไหม น่ารักมากไหม” ฝ้ายเริ่มเขย่าแขนเพื่อนเพื่อเค้นหาคำตอบ
“สายแล้วฝ้าย เดี๋ยวเพื่อนจะรอ”
“แกก็ตอบมาก่อนดิ พี่เต๋าชอบใคร”
“ลองสังเกตดีๆ แกก็น่าจะรู้” เฟรมทิ้งท้ายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เพื่อนยืนนิ่งสงสัย....
พี่เต๋าชอบใคร?
บทสนทนาของเฟรมและฝ้ายควรจะเป็นเรื่องที่มีคนรับรู้เพียงสองคน หากไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อพี่มิ้นท์ใช้คชาให้มาเอาชามที่ลืมไว้เมื่อหลายวันก่อน คนตัวเล็กจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมด
...พี่ฝ้ายชอบพี่เต๋าหรอกหรอ...
---------------------------------------------------------------
“ฝ้าย!”
“พี่เต๋า หวัดดีค่ะ” หญิงสาวตกใจเมื่อได้ยินพี่เต๋าร้องทัก ไม่นึกว่าจะบังเอิญเจอพี่เต๋าแถวนี้
“นี่ฝ้ายกำลังจะไปไหน”
“กำลังจะไปหาเฟรม” แอบตอบน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะยังคงตกใจ
“งั้นขึ้นมาเลย” เต๋าว่าแล้วตบเบาๆที่เบาะจักรยานด้านหลัง ฝ้ายอ้ำอึ้ง ตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆพี่เต๋าก็ชวนซ้อนท้ายจักรยาน…คนที่แอบชอบชวนซ้อนท้ายจักรยานแค่คิดว่าต้องนั่งไปด้วยกันขามันก็สั่นแล้ว
“เดินไปไกลนะ แดดร้อนด้วย ขึ้นมาเถอะ” เต๋าชวนฝ้ายอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ “ค่ะๆ” ฝ้ายตอบรับแล้วขึ้นซ้อนท้ายจักรยานทันที
“ตอนที่พี่ออกมาเฟรมมันยังไม่ตื่นเลย แต่ตอนนี้น่าจะอาบน้ำแล้ว” เต๋าบอกในขณะที่ตนกำลังมุ่งมั่นตั้งใจออกแรงปั่นจักรยาน
“ค่ะ” ตั้งแต่ย้ายตัวเองมานั่งซ้อนท้ายพี่เต๋า ฝ้ายก็ยังไม่พูดอะไรออกมาอาจเป็นเพราะอาการเขินอาย
“แดดเริ่มแรง เกาะดีๆนะฝ้ายเดี๋ยวพี่จะพาซิ่ง” ฝ้ายที่ยังเขินอายอยู่ทำอะไรไม่ถูกนอกเสียจากเกาะไปที่ไหล่กว้างของเต๋า สองตาจ้องมองแผ่นหลังอบอุ่นไม่วางตา พยายามควบคุมตัวเองสุดกำลังไม่ให้ซบลงไป .... เหมือนจะลืมเรื่องที่พี่เต๋ามีคนที่ชอบแล้วไปเสียสนิท
เมื่อถึงที่หมายต่างฝ่ายก็ต่างลงจากรถจักรยาน ร่างสูงยังไม่เข้าบ้านทันที ปลายนิ้วจิ้มกดโทรศัพท์ก่อนจะมองขึ้นไปยังหน้าต่างห้องนอนของคชาที่ยืนเปิดม่านมองออกมาทางเขาพอดี
“เข้าไปรอในบ้านดีกว่าฝ้าย เดี๋ยวพี่หาอะไรเย็นๆให้กิน” เต๋าวางมือจากโทรศัพท์แล้วชักชวนรุ่นน้องเข้าบ้าน
“พี่เต๋าแวะซื้อชานมไข่มุกมาหรอคะ?” ฝ้ายถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นถึงพลาสติกบรรจุชานมไข่มุกห้อยอยู่จักรยาน
“อ่อ ของคชาหนะ” รู้สึกตงิดใจกับความสัมพันธ์ของพี่เต๋าและน้องคชาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น
“ฝ้ายนั่งรอที่โซฟาก่อนเลย เดี๋ยวพี่หาน้ำให้กิน”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เต๋า เดี๋ยวฝ้ายจัดการเอง” เพราะไม่อยากเป็นภาระให้กับอีกฝ่าย ฝ้ายจึงไม่รีรอรีบเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าใส่แก้วด้วยตัวเองทันที ก้มหัวให้เต๋าเล็กน้อยก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งโซฟากลางบ้าน
“ชานม ชานม ชานม ชานม ชานมสตรอเบอร์รี่ของคชาอยู่ไหน?” เสียงใสดังขึ้นก่อนที่ตัวคนพูดจะปรากฏ เด็กน้อยเดิมอุ้มแมวเข้ามาในบ้านแล้วเดินพุ่งตรงไปยังพี่ชายใจดีที่อุตส่าห์เสียสละปั่นจักรยานตากแดดออกไปซื้อชานมไข่มุกรสโปรดมาให้ตนเอง …แค่ไลน์ไปบ่นว่าอยากกินชานมไข่มุกพี่เต๋าก็อาสาออกมาซื้อให้ทันทีเพราะเห็นว่าคชากำลังอ่านหนังสืออยู่
“ถามถึงของกินก่อนเลยนะเด็ก” เต๋าขยี้กลุ่มผมสีดำด้วยความเอ็นดูก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบสิ่งที่คชาต้องการให้ เขย่าแก้วพลาสติกพอให้ชานมกับสตรอเบอร์รี่เข้ากันอีกทั้งยังจิ้มหลอดเป็นเซอร์วิสพิเศษให้อีก.... ใจดีกว่าพี่เต๋าไม่มีอีกแล้วเนาะ
“ขอบคุณครับ” คชาวางแมวตัวกลมลงบนพื้นแล้วรับแก้วชานมรสโปรดมาดูดทันที
“อร่อยไหม?”
“อร่อยที่สุด”
“กินด้วยได้ไหมครับ” สิ้นคำขอร้องหลอดของแก้วชานมก็จ่อเข้าที่ริมฝีปากของเต๋าทันที เต๋าเขยิบตัวให้ชิดเด็กน้อยตรงหน้ามากขึ้นกว่าเดิม ปกติถ้ายืนใกล้กันขนาดนี้คชาต้องแสดงอาการอะไรออกมาบ้างแต่ครั้งนี้ไม่เป็นแบบนั้น ระยะห่างที่ใกล้กันกว่าปกติไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กเลี่ยงหนีแต่อย่างใด แถมยังพูดเชิญชวนแล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆให้เขาอีกต่างหาก
“คนละคำ...คำนี้ของพี่เต๋า....คำนี้ของคชา” เสียงใสบอกแล้วยื่นแก้วชานมสลับกันชิมไปมาระหว่างตนเองและพี่ชายตัวสูง “คำนี้ของเด็ก....คำนี้ของผู้ใหญ่” เสียงใสยังคงเรียกสรรพนามของตัวเองกับร่างสูงสลับไปมา เสียงหัวเราะคิกคักเหมือนเด็กกำลังเล่นสนุกทำให้เต๋าเผลอจ้องอีกคนไม่วางตา ส่วนเจ้าของตากลมก็ได้แต่เลิ่กลั่กไปมาเมื่อสบตาเข้ากับอีกฝ่าย
“ดูดนานนะ แอบกินไข่มุกใช่ไหม?” คชาแกล้งกลบเกลื่อนขู่เสียงฟ่อเหมือนหวงลูกกลมๆสีดำในแก้วหนักหนา “พี่เต๋า พี่เต๋า พี่เต๋า” ทั้งว่า ทั้งทุบ ทั้งตี แต่คนที่ตัวสูงกว่ากลับไม่มีทีท่าจะปล่อยแก้วง่ายๆ อมหลอดเอาไว้ไม่ปล่อยแถมยังจ้องคนตัวเล็กตาไม่กระพริบอีกต่างหาก
“ปล่อยแล้วๆ นี่ทำร้ายร่างกายพี่เพราะชานมไข่มุกหรอ” เต๋าแทบสำลักตอนโดนคชาตี หากคนตัวเล็กไม่ได้สนใจ พยักหน้าให้แล้วยังตีคิ้วให้เขากวนๆอีก
“ของใครใครก็หวง” คนพูดเหมือนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ตนเองเอ่ยออกมามากนัก แต่เต๋ากลับขมวดคิ้วงงเล็กน้อย
“ครับ ขี้หวงจริงๆเลยนะ” ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นเขี้ยวจนต้องหยิกเบาๆที่ปลายจมูกรั้นนั้นสักที
สลับกันลิ้มชิมรสของชานมคนละคำสองคำ เถียงกันไปมาคนละสองสามประโยค ปล่อยเสียงหัวเราะคิกคักกันออกมาสนุกสนานอยู่สองคน ราวกับลืมไปเสียสนิทว่ามีใครอื่นอยู่ด้วย
“คือ คือ...ฝ้ายว่าเฟรมอาบน้ำนานเกินไป ฝ้ายว่าจะขอขึ้นไปตามค่ะ” ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาฝ้ายตลอด หญิงสาวมองดูการกระทำของรุ่นพี่ที่ตนเองแอบชอบกับน้องชายข้างบ้านก็เหมือนจะรู้คำตอบของคำถามที่ถามเฟรมไว้เมื่อวาน
“เดี๋ยวคชาไปตามพี่เฟรมให้ครับ” กลับเป็นคชาที่อาสาไปตามเฟรมแทน ว่าแล้วก็ยื่นฝากแก้วชานมไว้กับร่างสูงโดยไม่ลืมที่จะทิ้งคำขู่แสนน่ากลัวเอาไว้ “ห้ามกินชานมหมด ถ้าพี่เต๋ากินหมดคชาจะกระโดดกัดหู”
“ดุจริงเลยนะ กระโดดให้ถึงหละเด็ก” เต๋าตะโกนไล่ตามหลังคนที่วิ่งขึ้นบันไดไป แล้วเดินมานั่งที่โซฟากลางบ้านเป็นเพื่อนฝ้าย
“น่ารักจังเลยนะคะ” ฝ้ายก้มหน้าแล้วพูดสิ่งที่ร่างสูงไม่เข้าใจ
“ครับ?”
“ก็พี่เต๋ากับน้องคชาเวลาอยู่ด้วยกันดูน่ารักมากเลยค่ะ.....พี่เต๋าดูเอ็นดูน้องคชามากเลยนะคะ น่าอิจฉาน้องคชาจัง” ฝ้ายพูดยาวยืดดั่งเช่นใจคิด ทำให้เต๋าถึงกับอ้ำอึ้งเมื่อรู้ว่าฝ้ายดูออกว่าตนเองคิดยังไงกับน้องชายตัวเล็กข้างบ้าน
“เอ่อ....”
“ฝ้ายดูออกค่ะ แต่อาจจะดูออกช้าเกินไปนิดหน่อย” หญิงสาวก้มหน้าแอบลอบถอนหายใจ พยายามรักษาอาการไว้ไม่ให้ผิดปกติ ความรู้สึกหน่วงๆเหมือนมีอะไรแตกสลายอยู่ภายในแบบนี้ควรจะชินกับมันเสียที
“ดูแปลกๆเหมือนกันนะที่ชอบผู้ชายด้วยกัน”
“ฝ้ายก็ไม่รู้ว่ามันแปลกไหม...แต่อย่าสนใจเลยค่ะ แค่รักกันก็พอ”
“แต่คชายังเด็กพี่ก็ไม่รู้ว่า.....”
“สู้ๆนะคะพี่เต๋า ฝ้ายเอาใจช่วย”
“ขอบคุณครับ...ว่าแต่เขินเหมือนกันนะเนี่ยที่พูดเรื่องอะไรแบบนี้” เต๋ายิ้มขำก่อนจะเกาท้ายทอยแก้เขิน
“ไม่ต้องเขินแล้วค่ะ น่ารักดี” รู้สึกเหนื่อยในใจอยู่มากแต่ฝ้ายก็ต้องทำเป็นฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ...แอบชอบคนที่มีเจ้าของหัวใจอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องผิดปกติเสียหน่อย เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ
เด็กน้อยยืนแน่นิ่งยังไม่ได้ขึ้นไปตามเฟรมตามที่บอกไว้ ลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินบทสนทนาของพี่เต๋าและพี่ฝ้าย ... ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง
“ขอโทษนะครับพี่ฝ้าย”
---------------------------------------------------------------
เฟรมกับฝ้ายออกจากบ้านไปนานพอสมควรแล้ว ตอนนี้จึงเหลือแค่ผู้ใหญ่ขี้แกล้งกับเด็กขี้หวง ที่กำลังนั่งเงียบลูบหัวแมวสุดที่รักมาได้สักพักแล้ว
“เด็ก... เด็ก”
“หือ?”
“เหม่ออะไร เปิดการ์ตูนไว้ทำไมไม่ดู” คชาเงยหน้าขึ้นมองทีวีจอใหญ่ แล้วจู่ๆก็โพล่งถามสิ่งที่อยากรู้โดยไม่ทันคิดออกมา
“พี่เต๋าว่าพี่ฝ้ายสวยไหม?”
“ว่าไงนะ” เต๋าถามออกไปไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่คชาพูดแต่งงมากกว่า
“เปล่าๆฮะ ไม่มีอะไร” คชาตอบเฉไฉเหมือนไม่มีอะไร ส่วนเต๋าก็เหมือนจะจับทางได้แล้วว่าหัวสมองกลมๆนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ คิดได้ดังนั้นก็ไม่รีรอที่จะโน้มตัวลงให้แนบชิดคนข้างกายก่อนจะกระซิบเสียงเบาให้คนฟังใจสั่นเล่น
“พี่ไม่ได้ชอบคนสวย พี่ชอบคนน่ารักครับ” เด็กน้อยนั่งอมยิ้มไม่ยอมหันหน้าไปมองคนพูด เต๋านั่งยิ้มทำได้เพียงเขยิบเข้าใกล้อีกฝ่ายมากกว่าเดิมก่อนจะเอื้อมกุมมือบางไว้
“ให้มันเป็นสีชมพู! ให้โลกใบนี้เป็นสีชมพู!” เสียงร้องเพลงโหวกเหวกดังขึ้นจากหน้าประตู “โลกใบนี้มันชมพูเสียจริง” แล้วซ้ำอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนว่าจะไม่เข้าหูน้องรักเท่าไหร่นัก...ถ้าไอ้เต๋ามันจะจ้องน้องคชาแบบนั้น หมั่นไส้เว้ย!!!
“กลับมาเร็วนะพี่” เต๋าถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ตี๋ตั้งใจร้องเพลงแซว
“กลับมาเร็วหรือกลับมาขัดจังหวะครับน้องเต๋า” ตี๋เลิกคิ้วถามคนเป็นน้องที่แสดงสีหน้าออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย
“ทั้งสองอย่าง..”
“นั่น ...ช่วงนี้น้องพี่ออกตัวแรงจริงๆ พี่กลับมาเอาของแป๊บเดียวเดี๋ยวพี่ตี๋คนนี้ก็จะออกไปแล้วครับน้องเต๋า ขอขัดจังหวะนิดนึงหวังว่าคงจะไม่โกรธกัน” ตี๋ทิ้งท้ายแล้วเดินตรงขึ้นห้องไปทันทีตามที่บอก
ร่างสูงหันหน้ากลับมาอีกครั้งก็พบว่าเด็กที่เขากุมมืออยู่ก่อนหน้านี้ หนีไปอุ้มแมวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เต๋าลอบมองคนตัวเล็กที่กำลังหยอกล้อแมวน้อยตัวกลม...ปลายนิ้วที่แกล้งแหย่จิ้มท้องแมวตัวเองเล่น รอยยิ้มที่ดูมีความสุขทุกครั้งเมื่อเห็นเจ้าตัวกลมสนุกสนานไปกับตนเอง
น่ารัก....
พี่ชอบคนน่ารักจริงๆนะคชา...
---------------------------------------------------------------------------
ตอนที่สิบสาม TwT… ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ฮ่าๆๆ
มีความสุขมากมายเมื่ออ่านคอมเม้นท์ตอนที่แล้ว ขอบคุณที่ยังกลับมาอ่าน ขอบคุณที่คิดถึงกันนะคะ ...ดีใจจริงๆ
ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง? ฝากด้วยนะคะ J
@CHICKIMILK
ความคิดเห็น