ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ข้อเสนอของพระเจ้า
“เอ้า เอ้า ตื่นได้แล้วทุกคน” หัวหน้าทหารได้ร้องปลุกเหล่าพ่อค้าและทหารที่เฝ้ายามเมื่อคืนให้ลุกขึ้นเตรียมตัวเดินทางต่อ
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ส่องเข้ามาในดวงตาของเด็กสาวและเสียงที่ดังของกลุ่มพ่อค้าได้ปลุกให้เด็กสาวที่กำลังฝันหวานอยู่ได้ค่อยๆลืมตาขึ้น
เด็กสาวได้มองไปที่กลุ่มของพ่อค้าก่อนจะมองมาที่พ่อของตนเองที่กำลังลูบหัวเธออยู่พร้อมพูดออกมาว่า
“สวัสดีตอนเช้า คานาโอะ หลับสบายดีไหม” เสียงกล่าวทักทายได้ดังมาจาก เคนตะ
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ” เด็กสาวได้พูดตอบกลับผู้เป็นพ่อเหมือนกัน
เคนตะ ที่ได้เห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะมองไปที่กลุ่มพ่อค้าและจัดทรงผมให้เด็กสาวเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มพ่อค้าเพื่อไปยังเมืองถัดไป
.
.
.
(ระหว่างการเดินทางที่หน้าเบื่อ เคนตะ และ คานาโอะ ก็ได้พูดคุยเรื่องต่างๆ กับ กิยู เพื่อลดความเบื่อจนในที่สุดเด็กชายก็ได้ร้องตะโกนขึ้น)
“นั่งไงคุณเคนตะ คุณคานาโอะ มองเห็นทางเข้าเมืองแล้ว!” เด็กหนุ่มผมดำได้พูดขึ้นด้วยความดีใจก่อนจะชี้นิ้วไปยังทางข้างหน้าพร้อมหันหน้ามาตะโกนบอก เคนตะ และ คานาโอะ
“พี่สาวจะเป็นยังไงบ้างนา~” เด็กหนุ่มผมดำได้พูดขึ้น
“นี้พี่สาวเจ้าชื่อว่าอะไรหรอ” คานาโอะ ได้เอ่ยถาม กิยู
“พี่สาวข้าชื่อว่า โทมิโอกะ ซึทาโกะ” เด็กชายได้ตอบกลับเด็กสาวก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้า
“นี้คานาโอะใช่ ซึทาโกะ ที่เป็นหัวหน้าหน่วยสืบหาข้อมูลหน่วยที่ 1 ใช่ไหม” เคนตะ ได้หันไปกระซิบกับคานาโอะถึงหน่วยที่พวกเขาตั้งขึ้นเมื่อ 4 เดือนก่อนเป็นหน่วยที่คอยหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลของอสูร หรือข้อมูลทางการเมือง ให้ทางเขากับคานาโอะ
“ไม่รู้สิคะต้องไปดูหน้าตาก่อน” คานาโอะ ได้พูดตอบ เคนตะ
“จะว่าไปนะเจ้าหนูนายชื่อไรหรอ” เคนตะ ได้หันไปหา กิยู ก่อนจะเอ่ยถามถึงชื่อที่เขารู้อยู่แล้ว
“อ่อ! ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะครับ ผมชื่อ โทมิโอกะ กิยู ครับ” กิยูได้ตอบคำถามของ เคนตะ
“พอเข้าเมืองแล้วต้องแยกจากกันสินะ” เคนตะ ได้พูดขึ้น
“ถึงจะแปปเดียวแต่ก็สนุกมากเลยครับไว้ว่างๆ มานั่งดื่มชาที่บ้านผมนะครับ” กิยู ได้กล่าวชักชวนเพื่อนร่วมทางทั้งสองก่อนจะเขียนแผนที่ไปบ้านของเขาให้
“ไว้เจอกันใหม่นะไอ้หนู”
“ไว้เจอกันไหมนะคุณโทมิโอกะ”
“ไว้เจอกันใหม่นะครับทั้งสองท่าน!” กิยู ได้กล่าวอำลาทั้งสองด้วยร้อยยิ้มที่สดใสก่อนที่จะเริ่มวิ่งกลับบ้าน
หลังจากที่ กิยู ได้วิ่งออกไปจนลับสายตาแล้วเคนตะก็ได้ยกมือขึ้นเหนือหัวพร้อมกำมือและแบออก…. ก่อนที่ไม่นานนักก็ได้มีอีกาสีขาวดูแปลกตาได้บินมาเกาะไหล่เขา
“ไปเรียกหัวหน้าหน่วย 1 มาให้ทีบอกว่าให้เจอไปเจอกันที่หน้าบ้านพักดอกฟูจิของเมืองนี้ยามค่ำ” เคนตะ ได้ออกคำสั่งกำอีกาเผือกตัวนั้นทันทีที่รับคำสั่งเสร็จก็ได้บินออกไปยังทิศทางหนึ่งก่อนจะหายออกไปจากการมองเห็นของเขา
“ส่วนเราก็ไปหาที่พักกันเถอะ คานาโอะ”
“ดีเหมือนกันคะตอนนี้หนูอยากแช่ออนเซ็นมากๆ”
ทั้งสองได้เริ่มแยกกันเดินสำรวจหาที่พักดีๆ ตามเมืองก่อนจะมาเจอกันอีกทีที่หน้าร้านขายของชำก่อนจะเริ่มตัดสินใจว่าจะเอาห้องพักที่ไหน แล้วผลก็มาอยู่ที่บ้านพักหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้บ้านพักดอกฟูจิ
“เลือกได้ดีนิ คานาโอะ”
“แน่นอนคะ”
หลังจากที่ทั้งสองได้เข้าจองห้องพักและอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จแล้วก็ได้ไปที่หน้าบ้านพักดอกฟูจิ เมื่อพวกเขาไปถึงก็ได้เจอร่างของสาวสวยตาสีฟ้าผมดำสวมชุดยูกาตะสีขาวลายดอกไม้มัดผมยาวดูมีเสน่ห์และมีอีกาเผือกได้เกาะอยู่ที่ไหล่ของเธอ
“สวัสดีคะนายท่าน สวัสดีคะคุณหนู ไม่ได้เจอกันนานนะคะ แล้ววันนี้มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ” เสียงหวานอ่อนนุ่มของหญิงสาวได้พูดทักทายกับ เคนตะ และคานาโอะ ก่อนจะถามถึงจุดประสงค์ของทั้งสองที่เรียกตนมา
“ชื่อจริงของเธอคืออะไร” เคนตะ ได้เข้าประเด็นทันที อีกฝ่ายที่ได้ยินคำถามที่ไม่คาดคิดว่าผู้เป็นนายจะถามก็ได้ได้แสดงสีหน้างุนงงออกมาก่อนจะรีบตอบถามตามของผู้เป็นนายทันที
“ข้าชื่อ โทมิโอกะ ซึทาโกะ ค่ะ นายท่าน” หญิงสาวรีบตอบออกมาอย่างเร่งรีบพร้อมก้มหัวลงเล็กน้อยเพราะกลัวว่าผู้เป็นนายจะไม่พอใจในการกระทำของเธอ
“เธอมีน้องชายที่ โทมิโอกะ กิยู ใช่ไหม” คำถามที่ถามถึงคนรอบตัวเธอได้ออกมาจากปากของผู้เป็นนายอีกครั้ง
“ชะ ใช่ ค่ะ” เธอได้รีบตอบกลับอีกครั้งพร้อมนึกหาเหตุผลที่ผู้เป็นนายถามถึงคนรอบตัวเธอ แต่คำตอบที่เธอคิดได้ในหัวของเธอนั้นกับเต็มไปด้วยความโหดร้ายเพราะผู้เป็นนายของเธอนั้นมีแต่ข่าวเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับเขา ใช้มนุษย์เป็นเหยื่อล่ออสูรบ้าง กินเนื้อมนุษย์บ้าง และอีกต่างๆ สารพัดจนเธ- ไม่สิทุกคนในหน่วยสืบหาข้อมูลนั้นหวาดกลัวโดยไม่รู้ว่านี้คือเรื่องจริงหรือไม่แต่ที่ทำให้ข่าวลือนั้นดูเหมือนจริงเพราะตัวของเขานั้นเหมือนมีกลิ่นอายแห่งความตายตามร่างกายอยู่ตลอดแม้จะเป็นแค่ความรู้สึกแต่นั้นก็พอที่จะทำให้ทุกคนนั้นเชื่อในข่าวลือโดยไม่สนใจอะไร
“วันนี้พวกเราเจอ กิยู น้องเธอด้วย เลยแค่จะเรียกเธ-” เคนตะ ได้หยุดไปกลางคันเพราะร่างของหญิงสาวนั้นได้ก้มลงกราบเท้าของเขาแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวและกำลังจะร้องไห้ออกมา
“นายท่าน… ได้โปรดปล่อยเด็กคนนั้น… ไปด้วยเถอะคะฉันจะยอมทำทุกอย่าง… ขอแค่นายท่านปล่อยกิยูเขาไปเถอะนะคะ…” หญิงสาวได้พูดออกมาพร้อมเสียงสะอึก สะอื้น
เคนตะที่ เห็นแบบนั้นก็ได้หันไปหา คานาโอะ ด้วยใบหน้าที่ตกใจและไม่รู้ว่าจะทำยังต่อไป คานาโอะ ก็หันใบหน้ามามองที่เขาด้วยใบหน้าแบบเดียวกันกับเขา ก่อนที่ เคนตะ จะเหมือนพึ่งนึกได้ว่าตัวเองนั้นมีข่าวลือไม่ดีอยู่
“เห้อ….ฉันไม่รู้ว่าเธอไปได้ยินอะไรมานะแต่ฉันแค่อยากจะเช็คเฉยๆ ว่าพี่สาวของ กิยู นั้นใช่คนของฉันรึเปล่ามีแค่นั้นจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงเลย เอาละทีนี้ก็เงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว” เคนตะ ได้กล่าวออกมาเพื่อให้หญิงสาวนั้นใจเย็นขึ้น หญิงสาวที่ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าและหันไปมองผู้เป็นนาย
“ท่า..ท่าน พูดจริงหรอคะ” หญิงสาวได้พูดออกมาพร้อมมองไปที่หน้าสีขาวซืดของ เคนตะ
“ข้าเคยพูดเล่นด้วยรึไง” เคนตะ ที่ได้มองไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหญิงสาวก่อนจะพูดขึ้นและเช็ดคราบน้ำตาให้หญิงสาว
หญิงสาวที่ได้ยินคำพูดของผู้เป็นนายก็มีแต่ต้องเชื่อเท่านั้นเพราะเธอก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้เป็นนายของเธอนั้นพูดจริงหรือพูดเล่น
“เอาล่ะข้าเรียกเจ้ามาแค่นี้แหละ เจ้ากลับไปดูแลน้องและอนาคตสามีของเจ้าได้แล้ว อ่อ ใช่พรุ่งนี้ข้ากับคานาโอะจะไปดื่มชาด้วยนะ” เคนตะ ได้พูดขึ้น
“คะ ค่ะ พรุ่งนี้ข้าจะเตรียมชาไว้ให้”
“ไม่ต้องหรอกข้ามีชาอยู่แล้ว” คานาโอะ ได้พูดขึ้นพร้อมยกถุงชาในมือขึ้น
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะหัวหน้าหน่วย 1” คานาโอะ ได้กล่าวลา
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ โทมิโอกะ ซึทาโกะ” เคนตะ ได้กล่าวลา
เมื่อสิ้นคำพูดทั้งสองก็ไม่ได้รอฟังคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าที่พัก หญิงสาวที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มคิดขึ้นมาในใจถึงความลือของผู้เป็นนายก่อนจะเริ่มเดินกลับบ้าน
“เห็นไหมคุณพ่อหนูบอกแล้วให้รีบจัดการกับข่าวลือ” คานาโอะ ได้พูดบ่นผู้เป็นพ่อ
“ปล่อยไว้งั้นแหละเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรก็ได้เดี๋ยวข่าวลือก็หายไปเองแหละ”
“เฮ้อ….ว่าแต่ทำไมคุณพ่อถึงรีบจบการต่อสู้จังคะไม่อยากสู้หรอ” คานาโอะ ได้ถอนหายใจและพูดถามผู้เป็นพ่อ เคนตะ ที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้นึกถึงเมื่อ 4 เดือนก่อนเป็นเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะเริ่มก่อตั้งหน่วยสืบหาข้อมูล
.
.
.
ในตอนค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์ได้มีร่างสีขาวซีดในชุดนักล่าสูรสวมผ้าคลุมไหล่สีขาวลายไม้ไผ่อยู่ด้านหลังได้มีหูยาวและหางสีขาวที่ตอนนี้มีเด็กสาวคนหนึ่งนอนกอดหางนั้นอยู่ ร่างนั้นนั่งอยู่ข้างกองไฟพร้อมลูบหัวเด็กสาวไปมาด้วยความอ่อนโยนก่อนที่จะมีเสียงพูดของชายวัยกลางคนที่น้ำสียงนั้นดูคุ้นเคยได้ดังขึ้น
“เคนตะ”
“ครับ” เคนตะ ได้ขานรับเสียงนั้น
“ข้ามีเรื่องด่วนจะคุยกับเจ้า” น้ำเสียงที่ฟังแล้วเต็มไปด้วยหงุดหงิดได้ดังขึ้น
“เรื่องอะไรหรอครับ”
“ตอนนี้เจ้ามีพระเจ้ามาดูการใช้ชีวิตของเจ้าถึง 40 ตนเลยไง”
“แล้วนั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอครับ”
“ไม่” น้ำเสียงที่แค่ฟังแล้วก็รู้สึกได้ถึงความหงุดหงิดแบบสุดๆ ได้ดังขึ้น
“ขอทราบเหตุผลได้ไหมครับ”
“ยิ่งพระเจ้าได้เฝ้ามองดูเจ้ามากเท่าไหร่ก็จะเริ่มมีพวกบ้าที่เริ่มอยากจะเล่นกับชีวิตเจ้ามากขึ้นไง”
“นั้นฟังดูไม่ดีเลยนะครับ”
“แน่นอนนี้มันแย่แบบสุดๆ เลย มีพวกที่อยากเสนอให้เจ้าสังหาร สึยูริ คานาโอะ เพื่อขออะไรก็ได้หนึ่งข้อด้วยนะ” พระเจ้าได้พูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ
“พระเจ้ามีหลายแบบสินะครับ” เคนตะ ได้พูดออกมาด้วยความไม่พอใจนิดหน่อย
“เพราะงั้นข้าเลยมีเสนอมาให้เจ้าเพื่อกันไม่ให้พวกนั้นทำข้อเสนอกับคนในโลกนี้ได้ เพราะโลกใบหนึ่งจะสามารถรับข้อเสนอของพระเจ้าได้แค่ตนเดียวเท่านั้น หรือก็คือข้าใช้เจ้าเพื่อกันไม่ให้พระเจ้าตนอื่นๆ สามารถยื่นข้อเสนอให้มนุษย์คนอื่นได้”
“ท่าจะบอกว่าท่าข้าไม่รับข้อเสนอของท่านก็จะมีคนใกล้ตัวข้าที่อาจจะได้รับข้อเสนอจากพระเจ้าตนอื่นสินะ”
“ใช่ แต่การที่จะได้รับพลังจากข้อเสนอของพระเจ้าได้นั้นคนคนนั้นจะต้องทำเงื่อนไขที่พระเจ้าตนนั้นสร้างให้สำเร็จก่อนยกตัวอย่างเช่น สังหารเจ้าได้แล้วจะได้รับพร 1 ข้อที่ขออะไรก็ได้ประมาณนี้”
“แบบนี้มันมัดมือชกกันนิท่าน ว่าแต่ข้อเสนอของท่านคืออะไร” เคนตะ ได้พูดออกมาด้วยความไม่พอใจแต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
“เจ้าจะว่าแบบนั้นก็ได้ท่าหากเจ้ายังอยากปกป้องเด็กคนนั้นล่ะนะ ส่วนข้อเสนอของข้าคือ เวลาเจ้าต่อสู้เจ้าจะได้รับสถานะคลั่งซึ่งมันจะทำให้เจ้ารู้สึกอยากฆ่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแต่ความรู้สึกนี้จะหายไปทันทีที่เจ้าจบการต่อสู้โดยที่อีกฝ่ายนั้นยอมแพ้ การยอมแพ้นี้รวมถึงหมดสภาพด้วย นี้คือข้อเสนอของข้า แต่ข้อดีของข้อเสนอนี้คือ เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เจ้าโดนโจมตีหรือโจมตีโดน”
“เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลยนะครับท่าน” หลังจากที่เขาได้ฟังข้อเสนอแล้วนั้นกลับรู้สึกว่ามันดีแต่พระเจ้าก็ได้ขัดขึ้น
“ท่าเจ้าคลั่งเกินไปเจ้าจะเริ่มมองคนรอบข้างเป็นศัตรูเหมือนกันและท่ามันมากเกินไปอีกเจ้าก็จะเป็นแค่เครื่องจักรสังหารเท่านั้นต่อให้คู่ต่อสู้ของเจ้ายอมแพ้เจ้าก็จะไม่หยุดอยู่แค่นั้นและเจ้าก็จะฆ่าทุกอย่างที่เจอแล้วตอนนี้เจ้ายังคิดว่ามันดีอยู่ไหม”
“…” เคนตะ ได้เงียบลง
“ข้อเสนอของข้าดีที่สุดแล้วท่าหากนับรวมพวกข้อเสนอของพระเจ้าตนอื่นล่ะนะ” พระเจ้าได้พูดขึ้นพร้อมยื่นข้อเสนออื่นๆ ของพระเจ้าให้ เคนตะ ดูหลังจากที่เคนตะได้ดูข้อเสนออื่นๆ ก็ได้ตัดสินใจรับข้อเสนอของเทพ โอยาจิ ทันทีเพราะข้อเสนออื่นๆ นั้นมีแต่การสังหารทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น สังหารเสาหลักเพื่อขออะไรก็ได้ตามจำนวณเสาหลักที่สังหารได้ และอื่นๆ อีกซึ่งทั้งหมดนั้นเกี่ยวกับการสังหารเสาหลักไม่ก็คานาโอะทั้งนั้น
“ข้ารับข้อเสนอของท่าน” เคนตะ ได้พูดออกไปยังความว่างเปล่า
“ข้าขอให้เจ้าเจอแต่ความสุข” เสียงของเทพโอยาจิได้ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเคนตะที่ค่อยๆ มีเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามแขนขาก่อนจะหายไป
“เห้อ…..” เคนตะ ได้ถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปที่เด็กสาวที่กำลังกอดหางเขาเอาไว้แน่น
“ชีวิตพวกเราเจอแต่เรื่องแย่ๆ เนาะคานาโอะ”
.
.
.
“ก็ไม่มีอะไรหรอก คานาโอะ พ่อแค่ไม่อยากสู้นานเฉยๆ งั้นพวกเรารีบไปกินข้าวกันดีกว่าเดี๋ยวร้านแถวนี้จะปิดก่อน” เคนตะ ได้พูดตอบเด็กสาวพร้อมเปลี่ยนเรื่อง
“ค่ะ!” เด็กสาวตอบอย่างร่าเริงเพราะเธอนั้นรักการกินมากๆ เคนตะ ที่เห็นแบบนั้นก็ได้ลูบหัวของเด็กสาวอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะพาเด็กสาวไปที่ร้านราเมงอันดับ 1 ของเมือง
******************************************************************************************************
to be continued
ความคิดเห็น