ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Lilo & Stitch Reboot Fanfic : ลิขิตรักข้ามจักรวาล

ลำดับตอนที่ #13 : Mission 12 : นินจาเทคโนไร้เงา I

  • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 62


MISSION 12

นินจาเทคโนไร้เงา (Part 1)



               เช้าวันต่อมา

               ลีโล่ก้าวเท้าออกจากห้องครัวหลังจากทานแพนเค้กมื้อเช้าฝีมือพี่นานี่เป็นที่เรียบร้อย  พร้อมไปโรงเรียนตามปกติ... เพื่อพบปะกับวิคตอเรียและเพื่อน ๆ หมายประชุมเรื่องนิทรรศการศิลปะมีชีวิต

               แต่พอเธอเปิดประตูเตรียมก้าวเท้าออกจากบ้าน  เท้าของเธอก็เผลอเตะถูกของสิ่งหนึ่ง  จึงก้มลงไปหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา

               พบว่าเป็นโดรนลำเล็กลำหนึ่งที่มีโน้ตแนบมา  และโดรนลำนี้ถูกบางสิ่งตัดผ่านจนพังไม่เป็นท่า

               "ฉันเห็นเจ้านี่แอบบันทึกชีวิตของเธอ  ก็เลยสั่งสอนให้หลาบจำ  ฝากบอกหมาน้อยของเธอด้วยว่าให้หูตาไวหน่อย  ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง  ด้วยความปรารถนาดีจากเพื่อนใหม่  คิระ"  ลีโล่อ่านโน้ตที่คิระเขียนขึ้นมา  เธอรู้ในทันที... ว่าโดรนที่เธอเก็บได้เป็นของศัตรู  จึงนำโดรนลำที่อยู่ในมือส่งให้จัมบ้านำไปตรวจสอบโดยเร็ว

               โดรนของศัตรูแปลกหน้า... ตกเป็นภารกิจของสติทช์กับจัมบ้าที่ต้องสืบหาคนร้ายที่เป็นเจ้าของโดรนคอยจับตาดูลีโล่มาตลอดให้เร็วที่สุด  คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับจีจี้ถูกวางยาก็เป็นไปได้  เพียงแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับจีจี้... ต้องรู้กันเฉพาะลีโล่  สติทช์  จัมบ้า  และพรีคลีย์เท่านั้น

               ถ้าจะให้มีคนกระวนกระวายเรื่องจีจี้  ก็หนีไม่พ้นเมอร์เทิลที่หัวเสียสุด ๆ  นึกไม่ถึงว่าจีจี้จะออกไปค้างคืนจนไม่ปรากฎตัวแม้แต่เงา  ในขณะที่เธอไปโรงเรียน... เจสสิก้าจะตามหาจีจี้ด้วยจีพีเอสที่ติดกับปลอกคอสีม่วงลาเวนเดอร์  ด้วยความคิดที่ว่า... จีจี้อาจเดินเล่นที่ใดสักแห่งในเมืองนี้

               ทุกครั้งที่เมอร์เทิลอารมณ์ไม่ดี  เธอมักสรรหาบางสิ่งบางอย่างมาทำให้เธอรู้สึกดี  ซึ่งส่วนมากก็หนีไม่พ้นหาเรื่องแกล้งลีโล่อย่างไม่ทราบสาเหตุ  หรือถ้าจะให้มีสาเหตุ... ก็เป็นเรื่องที่เธอบังเอิญได้ยินในขณะนี้

               "คาลี่จะให้ฉันกับสติทช์เป็นคู่หูต้นแบบของภาพที่เธอจะวาดจริงเหรอ!?"  ลีโล่เอ่ยปากถามคาลี่ด้วยความตื่นเต้น  นึกไม่ถึงว่าเพื่อนใหม่ผู้รักเสียงดนตรีจะให้เกียรติเชิญเธอเป็นนางแบบสร้างสรรค์ผลงานเพื่อนิทรรศการ

               "คนอย่างฉัน... พูดจริงทำจริงเสมอแหละ  ฉันกับฟลุทระดมสมองกันแล้ว... หัวข้อเพื่อนที่ดีที่สุดที่ได้ชื่อว่ามีความแตกต่างกันทั้งสายพันธุ์และถิ่นที่อยู่  แต่มีใจเดียวกันพร้อมร่วมทุกข์สุขเป็นโอฮาน่าของกันและกัน  ทำให้ฉันคิดว่า... อนุสรณ์ลิขิตรักข้ามจักรวาล จะต้องเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในนิทรรศการเป็นอันแน่แท้"  คาลี่ชี้แจงเหตุผลชวนฝันจนลีโล่กับเพื่อน ๆ ฟังแล้วนึกภาพตามไปพร้อมกัน

               "อนุสรณ์ลิขิตรักข้ามจักรวาล  จะสื่อความหมายว่ายังไงมิทราบจ๊ะ"  มาเรียถาม

               "มันซิมเปิ้ล (simple) มากเลยมาเรีย!  อนุสรณ์ลิขิตรักข้ามจักรวาล  เป็นภาพที่บ่งบอกถึงมิตรภาพระหว่างมนุษย์กับเอเลี่ยนในหลายแง่มุมไงจ๊ะ  ลีโล่กับสติทช์ก็เป็นมนุษย์กับเอเลี่ยนคู่แรกที่ผูกมิตรกันได้  แม้สติทช์เคยเป็นจอมทำลายล้างหมายเลข 626 ก็ตาม  แต่ลีโล่กล้าเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว  เขารักเธอ  เธอก็รักเขาจนเป็นโอฮาน่า  เป็นสายลับค้นหาสัตว์ทดลอง  อนุสรณ์ลิขิตรักจึงอุบัติขึ้น!"  คาลี่สื่อความหมายของภาพที่เธอจะวาดเพื่อนำส่งนิทรรศการด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก

               "สติทช์เป็นเอเลี่ยนเหรอ  นังโลเลนึกเพี้ยนอะไรขึ้นมาเนี่ย"  เมอร์เทิลพึมพำออกมาอย่างนึกสมเพชในตัวคู่อริ  คิดว่าลีโล่เพ้อเจ้อไปเรื่อยตามเคย

               "ความคิดเจ๋งอ่ะ!  ภาพของคาลี่ที่ได้รับอินสไปเรชั่นมาจากเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้า... จะต้องเป็นภาพที่สวยงามที่สุดเลยก็ว่าได้  ใช้ความแตกต่างที่ถูกสบประมาทเข้าสู้  เผื่อว่าใครบางคนจะได้สำนึกเสียบ้าง... ว่าสิ่งแปลก ๆ ที่ถูกมองว่าไม่คู่ควรก็มีดีอยู่ในตัว"  วิคตอเรียเปรยถึงเมอร์เทิลให้พวกลีโล่ได้รู้กัน  ด้วยความคิดที่ว่า... การแสดงตัวตนออกมาทางภาพวาด  จะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของมิตรภาพต่างสายพันธุ์เป็นอย่างดี  ทำเอาเมอร์เทิลที่แอบฟังอยู่ถึงกับหมั่นไส้เป็นทวีคูณ

               "แหงสิ  หล่อนก็บ้าจี้เพี้ยนตามมัน  จะพูดอะไรก็ได้"  เมอร์เทิลแอบเบะปากใส่วิคตอเรีย  เธอไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด... ว่าภาพที่คาลี่จะวาดโดยอาศัยลีโล่กับสติทช์เป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจจะเหนือกว่าเธอกับจีจี้ได้

               "วิคตอเรียพูดถูก  ความแตกต่างภายนอก... หากหัวใจได้จูนเข้าหากันก็จะเป็นมิตรภาพที่สวยงาม"  มาวินเห็นด้วยกับวิคตอเรีย  "คาลี่จะให้ลีโล่เป็นต้นแบบช่วยเธอวาดภาพอะไรไปพรีเซ้นต์ล่ะ"  

               "ลีโล่เป็นเพื่อนกับสติทช์มากี่ปีแล้ว"  คาลี่หันไปถามลีโล่

               "3-4 ปีแล้วจ้ะ  ทำไมเหรอ"  ลีโล่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่คาลี่ที่เอ่ยปากถามเรื่องของเธฮ

               "ฉันกับฟลุทคิดอยู่... ว่ากว่าลีโล่จะเปลี่ยนจอมทำลายล้างจากต่างดาวมาเป็นบอดี้การ์ดตัวสีฟ้าที่รักเธอเท่าชีวิต  มีสตอรี่มากมาย  และมีสิ่ง ๆ หนึ่งที่เป็นเครื่องเตือนใจให้สติทช์รู้ซึ้งถึงโอฮาน่าอย่างสม่ำเสมอ  ฉันก็เลยอยากรู้... ว่าของที่สติทช์ครอบครองและรักษาเป็นอย่างดี  คืออะไร"  คาลี่พูดราวกับว่าเธอต้องการล้วงลึกเข้าไปในหัวใจของอีกฝ่าย  ด้วยความคิดที่ว่า... สตอรี่ของลีโล่จะต้องเป็น "อนุสรณ์ลิขิตรัก" ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร

               อนุสรณ์ที่ทำให้ชีวิตทดลองอีกหกร้อยกว่าชีวิตได้ฟื้นคืนชีพบนดาวเคราะห์ที่สวยงามดวงนี้

               เมอร์เทิลแอบฟังต่อ  ได้ยินว่าสติทช์เป็นเอเลี่ยนที่ลีโล่รับเลี้ยงและวิคตอเรียกับเพื่อน ๆ ก็รู้ความจริงเรื่องนี้  ความสงสัยจึงบังเกิดขึ้น

               "ไหนนังโลเลบอกว่าหมามันเป็นหมาพันธุ์หายากที่ใช้สื่อสารกับคนตายตั้งแต่อียิปต์สมัยก่อนไง  นี่คุยกันฟุ้งว่าเป็นเอเลี่ยน  มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ"  เมอร์เทิลพึมพำออกมา... นึกสงสัยลีโล่ขึ้นมาตงิด ๆ  รู้สึกว่าลีโล่มีความลับบางอย่างปกปิด... แต่เปิดเผยให้พวกวิคตอเรียรับรู้ได้

               แต่ก่อนอื่น... เธอรีบปลีกตัวให้ห่างจากพวกลีโล่เป็นอันดับแรก  จากนั้นก็ตั้งเป้าหมายใหม่

               ต้องสืบหาความลับที่ลีโล่ซุกซ่อนไว้ให้จงได้!


------------------------------------------------------------------------


               ยานของจัมบ้า

               สติทช์กับจัมบ้านำซากโดรนที่ถูกตัดครึ่งไปตรวจสอบ  ได้ความว่าเป็นนาโนโดรนที่ถูกผลิตมาจากโรงงานต่างดาว... มีเทคโนโลยีแฝงที่สามารถล่องหนเพื่อความสะดวกต่อการสอดแนม  ทำเอาสติทช์ของขึ้นในฉับพลัน

               "Blitznac!  พวกมันแอบส่องเรามาแต่แรกเลยเหรอเนี่ย!?"  สติทช์โกรธตัวเองที่ไม่เอะใจว่าถูกเจ้าโดรนแปลกหน้าสะกดรอยตามมาเป็นเวลานาน

               "คาดว่าคงเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเจ้าหนูเจอร์บิลนั่นแน่ ๆ  ชีวิตทดลองที่เจ้า 007 เผชิญหน้าในคราบหมาใหญ่สายพันธุ์ดีที่ยัยหนูนิสัยเสียอยากให้คบค้าสมาคมก็เช่นกัน  มันเป็นหนึ่งในสินค้าที่คนของแฮมสเตอร์วิลล์ทำการทดลองใช้ก่อนจะดีลซื้อขายกับผู้สร้าง... หากทำภารกิจลับเสร็จสิ้น  เท่ากับว่ายัยหนูตกเป็นเป้าสังหารของแฮมสเตอร์วิลล์เสียแล้ว"  จัมบ้าเปรยถึงลีโล่ด้วยน้ำเสียงตึงเครียด

               "ผมได้ยินข่าวคราวมาจากเจ้ารูเบ็นแล้วครับ"  สติทช์พูดถึงจอมทำแซนด์วิชที่ถอนตัวจากแฮมสเตอร์วิลล์

               "รูเบ็น!?"  จัมบ้าทวนชื่อที่สติทช์เรียกด้วยความงุนงง

               "จัมบ้าคงยังไม่รู้  ลีโล่เพิ่งตั้งชื่อ 625 ว่ารูเบ็น  เขาบอกว่าแกนตูถอนตัวจากเจ้าหนูโรคจิตนั่นเป็นเพราะมีใบสั่งให้เก็บโอฮาน่าของแองเจิ้ล  จากนั้นก็หายไปทำภารกิจอะไรสักอย่าง  แต่ผมเชื่อแค่... 50/50 ที่ว่าเจ้าปลาเทราต์บิ๊กเบิ้มกลับไปเป็นมือปราบแห่งสหพันธ์  เพราะแม้แต่รูเบ็นยังไม่ได้ข่าวคราวจากเขาอีกเลย"  สติทช์อธิบายให้อีกฝ่ายรับทราบ  จัมบ้าพยักหน้ารับฟังด้วยความตั้งใจ

               "เรื่องนี้มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าที่อัจฉริยะชั่วร้ายจะคาดคิดอีกแฮะ"  จัมบ้าครุ่นคิด

               "ผมไม่ยักรู้ว่าเจ้าหนูเจอร์บิลเป็นตัวร้ายที่ซับซ้อนนะ"  สติทช์เกาหัวแกรก ๆ  เท่าที่จำได้... แฮมสเตอร์วิลล์ทะนงตนเป็นอัจฉริยะเหมือนจัมบ้า  แต่ก็งี่เง่าและขี้ขลาดเป็นที่หนึ่ง

               "จัมบ้าก็ไม่เชื่อเหมือนที่นายรู้สึก  แต่แฮมสเตอร์วิลล์มีคอนเน็คชั่นมากมาย  ตัดขาดจากฉันกับไอ้อดีตมือปราบหน้าโง่แล้ว... มันก็ติดต่อคนอื่นให้ทำเรื่องชั่ว ๆ อยู่ดี  อย่างไอ้เจ้านาโนโดรนนี่... มันทำให้จัมบ้าได้กลิ่นชั่วร้ายลอยมาแต่ไกล  และกำลังจะทำให้ยัยหนูตกอยู่ในอันตรายไม่รู้ตัว"  จัมบ้าพูดถึงลีโล่แล้วมอบหมายภารกิจให้สติทช์ในทันที  "ฉันอยากให้นายแอบไปที่โรงเรียนของยัยหนู  เฝ้าดูสภาพแวดล้อมรอบโรงเรียนให้ดี... เป็นไปได้ว่าเจ้าโดรนแสบนี่ไม่ได้มีแค่ลำเดียว  จัมบ้าลองปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น... เจ้า 007 เป็นแค่ทางผ่านที่ถูกคนของแฮมสเตอร์วิลล์ใช้สอยหมายเข้าถึงตัวยัยหนูก็เป็นไปได้"

               "Okitaka!"  สติทช์รับคำแล้วก้าวเท้าออกจากยานในทันที  จัมบ้ามองตามแล้วหันกลับไปทำงานชิ้นหนึ่งต่อเพียงลำพัง... พร้อมกับตรวจดูอาการป่วยของจีจี้ไปพร้อมกัน

               เผื่อว่ายาสลายพิษเซรั่มจะทำให้โมเลกุลในร่างกายของเธอกลับมาคงที่ดังเดิมในวันสองวันนี้



               แผนร้ายของคุณแอนดรูว์กำลังไปได้สวย  ถึงเซรั่มที่ใส่ลงไปในโยเกิร์ตรสธรรมชาติ... ของโปรดที่ทำให้โมเลกุลในร่างกายจีจี้แปรปรวนจนเกิดอาการชักกระตุก  แม้เมอร์เทิลไม่รู้ความจริงเรื่องชีวิตทดลอง  แต่จีจี้เป็นหนึ่งในผลงานทดสอบของจัมบ้า... หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นก็ต้องพึ่งเขา

               เพียงเท่านี้... โอกาสที่ลีโล่จะอยู่ในกำมือของนายท่านก็อยู่ไกลแค่เอื้อม

               ช่วงที่ลีโล่อยู่ในโรงเรียน... สถานที่เดียวที่เธอจะไม่มีสติทช์อยู่ข้างกาย  เป็นโอกาสเหมาะที่จะจู่โจมลีโล่โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว

               ทุกอย่างเตรียมการเป็นที่เรียบร้อย

               เหลือแค่รอเวลานั้นมาถึง  ซึ่งอีกเพียงไม่กี่อึดใจ... ลีโล่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็คท์ลับของนายท่าน

               โปรเจ็คท์ที่แม้แต่จอมพลังหมายเลข 626 ก็ไม่มีทางต่อกรได้!


                  ------------------------------------------------------------------------


               ช่วงสายของยามเช้าในโรงเรียน  ซึ่งเป็นเวลาเรียนตามปกติ

               แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ปกติ  คือ... นักเรียนนาม "เมอร์เทิล เอ็ดมันด์" ที่กำลังจับผิดลีโล่อยู่ห่าง ๆ

               หลังจากที่เธอได้ยินเรื่องที่ลีโล่คุยกับพวกวิคตอเรีย  สมองของเธอก็หวนนึกถึงเพื่อนฝูงที่ลีโล่กับสติทช์คบหาก่อนที่วิคตอเรียจะย้ายมาที่เกาะนี้  เธอจำได้... ว่าเพื่อนของลีโล่เป็นสัตว์ประหลาดที่มีแต่สติทช์ที่สื่อสารพูดคุยเป็นภาษาเดียวกัน  และสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็เป็นเพื่อนกับลีโล่อีก

               เธอไม่เห็นแค่ครั้งสองครั้ง  ยังเห็นมานับสิบยี่สิบครั้งก็ว่าได้ใน 2-3 ปี  ยิ่งมีพวกวิคตอเรียเป็นเพื่อนที่สื่อสารกับสัตว์ประหลาดได้  ความอยากรู้อยากเห็นถึงได้ถามหาและคิดบทพิสูจน์บางอย่าง  หวังว่าลีโล่เป็นแค่คนเพี้ยน ๆ ธรรมดาคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องสัตว์ประหลาด

               แต่จะพิสูจน์ด้วยอะไรล่ะ!?

               ในขณะที่สมองของเธอกำลังครุ่นคิดถึงลีโล่อยู่  มือของใครบางคนก็ยื่นมาสะกิดไหล่ซ้ายจนสติของเธอกลับมาอยู่กับปัจจุบัน  พบว่าเป็นมือของเทเรซ่าที่พยายามบอกว่าครูมีนาเรียกให้ตอบคำถามวิชาวิทยาศาสตร์  ซึ่งแน่นอนว่าลีโล่กับวิคตอเรียพากันมองเมอร์เทิลด้วยความประหลาดใจ... ที่เหม่อลอยในคาบเรียนวิชาโปรดของเธอ  ทำเอาเมอร์เทิลรู้สึกอายที่ถูกครูต่อว่าเรื่องขาดความใส่ใจในบทเรียน  แต่เธอยังหาโอกาสสืบเรื่องของลีโล่ต่อ

               และแล้ว... โอกาสก็มาถึง

               เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง  ลีโล่และเพื่อนร่วมห้องทุกคน... รวมทั้งลูกไล่ของเมอร์เทิลออกจากห้องไปรับประทานอาหารกลางวัน  เหลือแค่เมอร์เทิลที่อยู่ในห้องตามลำพัง  เป็นเรื่องปกติที่นักเรียนทุกคนจะทิ้งกระเป๋าตัวเองไว้ในห้อง  เมอร์เทิลจึงพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเป้ของคู่อริแล้วรูดซิปเปิดดูของ ๆ เธอด้วยความระมัดระวัง  หวังว่าจะเจอกับความลับที่ซุกซ่อนไว้

               หาได้รู้ไม่... ว่าภัยเงียบกำลังจะมาเยือน ณ โรงเรียนแห่งนี้

               คุณแอนดรูว์ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งอยู่นอกรั้วโรงเรียน... ได้เตรียมของเล่นชิ้นใหม่เพื่อให้ภารกิจลุล่วงโดยเร็ว  ซึ่งบัดนี้... ของเล่นชิ้นนั้นถูกส่งเข้าสู่รั้วโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย  และเป็นของเล่นชิ้นที่ไม่มีเด็กคนไหนสามารถเห็นด้วยตาเปล่าเป็นอันแน่แท้

               มันคือ... หุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตล่องหน  เป็นของเล่นที่สามารถต่อกรกับศัตรูอย่างรวดเร็ว  แต่ไม่ถึงแก่ชีวิต  เพราะกระแสไฟฟ้าที่อยู่ในตัวหุ่นมีฤทธิ์ทำให้ศัตรูเป็นอัมพาต  ซึ่งคุณแอนดรูว์จะใช้มันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการลักพาตัวลีโล่ไปส่งถึงมือนายท่านอย่างรวดเร็วถึงที่สุด  และเขาไม่ได้มีหุ่นยนต์ต่อเพียงตัวเดียว

               พวกมันถูกตั้งโปรแกรมให้มีอิสระในการเคลื่อนไหว  แต่รับคำสั่งด้วยเสียงและภาพที่ถูกคุณแอนดรูว์ส่งไปยังหุ่นยนต์นางพญาต่อ  ลีโล่จึงตกเป็นเป้าหมายของพวกมันโดยไม่รู้ตัว

               การที่จะตามหาลีโล่ท่ามกลางเด็ก ๆ นับร้อยนั้น... ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่จะหาโอกาสเล่นงานลีโล่ได้นั้น... มันยากยิ่งนัก

               พวกมันจึงทำได้แค่สะกดรอยตามลีโล่กับเพื่อน ๆ ต่อไป

               กิจวัตรประจำวันในช่วงพักเที่ยงของลีโล่ขณะอยู่ในโรงเรียน  คือ... เข้าห้องสมุด  แน่นอนว่าวิคตอเรียกับเพื่อน ๆ ก็ตามไปเป็นเพื่อน  เพื่อเยี่ยมชีวิตทดลองอีกตัวที่รับจ๊อบเสริม

               ไฟน์เดอร์ 158  ตัวกินมดกึ่งหนูผีที่มีสกิลหาของหรือคนหาย  กำลังเปิดบู๊ธรับแจ้งหาของหายในโรงเรียน  เพราะทุกวันนี้มีเด็กทำของหายจนต้องพึ่งพาเขาอยู่เรื่อยไป  ทันทีที่พวกลีโล่พบไฟน์เดอร์  ทั้งสองฝ่ายก็ทักทายกัน  คุยสัพเพเหระกันตามปกติ  เพียงแต่... ลีโล่ต้องหยิบหนังสือมาอ่านตบตาบรรณารักษ์เพื่อมิให้เป็นที่ผิดสังเกต


แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นปกติ


               "โอ้ว์... ฉันพึ่งนึกได้ว่าการบ้านเลขยังไม่เสร็จ  ขอตัวกลับไปที่ห้องก่อนนะ"  ลีโล่รีบเร่งฝีเท้ากลับไปยังห้องเรียนของเธอในทันที  โดยที่เธอไม่รู้ตัวว่าถูกหุ่นยนต์ต่อล่องหนของศัตรูติดตามอยู่

               ห้องเรียนของลีโล่อยู่ชั้น 2  อาคาร 1  ซึ่งมี 3 ชั้น  ลีโล่เร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดไปยังห้องเรียนชั้น Grade 3 A เพื่อหยิบการบ้านลงไปห้องสมุด  ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่เมอร์เทิลออกจากห้องไปโรงอาหารพอดี

               ลีโล่เปิดประตูก้าวเท้าเข้าไปในห้อง  พุ่งปรี่ตรงไปยังกระเป๋าเป้ของเธอที่ถูกวางอยู่บนเก้าอี้โต๊ะเรียน  รูดซิปเปิดเพื่อหยิบการบ้านวิชาที่เธอทำค้างออกมาแล้วเตรียมออกจากห้องโดยเร็ว

               แต่พอเธอหยิบการบ้านออกมา  เธอสัมผัสได้ถึงความวังเวงพิลึกที่ก่อตัวขึ้นภายในห้องเรียน  ทั้งที่ห้องเรียนห้องนี้ไม่มีสิ่งใดที่มันพิศวงให้เธอรู้สึกมวนท้องมาก่อน

               เธอกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ อย่างระมัดระวัง  เรียกความมั่นใจให้ตนเองอย่างเต็มที่... หวังว่าความวังเวงที่เธอสัมผัสได้นั้นเป็นแค่ความรู้สึกที่คิดไปเองเพียงคนเดียว

               เมื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้แล้วนั้น... เธอก็หอบการบ้านมาไว้ในมือเตรียมออกจากห้อง  แต่มีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น  ซึ่งทำให้เธอติดอยู่ในห้องเพียงลำพังกับศัตรูที่เธอไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อน

               หุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตล่องหน!

               เหล็กไนของมันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายศัตรูหลังจากจู่โจมด้วยการทิ่มแทง  แต่ก่อนที่ต่อเพชฌฆาตจะบินพุ่งทะยานมาต่อยลีโล่... เธอเอาตำราวิชาคณิตศาสตร์มาฟาดจนหุ่นยนต์ต่อร่วงลงสู่พื้น  จากนั้นก็เอาตำราฟาดมันซ้ำจนหุ่นพังเสียหาย

               แต่หุ่นยนต์ต่อที่พร้อมจู่โจมลีโล่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว  เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำ... ว่าพวกมันเข้ามาได้อย่างไร!?  ทำไมต้องพุ่งเป้ามาที่เธอคนเดียว!?

               สิ่งเดียวที่ลีโล่ทำได้ในตอนนี้  คือ... รีบออกจากห้องเรียนให้เร็วที่สุด  แต่ในขณะที่ลีโล่จะจับลูกบิดประตู... ของประหลาดอีกชิ้นก็พุ่งมาประดับที่ประตูห้อง  มันสร้างม่านไฟฟ้าในทันทีที่มือของเด็กหญิงตัวน้อยสัมผัสถูกลูกบิด  ทำให้มือของเธอถูกไฟช็อตจนถอยออกมาจากประตู

               ของประหลาดที่ว่ามานี้... ถูกโยนมาจากมือขวาของศัตรูแปลกหน้าที่อาศัยอยู่ในห้องเรียน  ซึ่งปรากฎตัวมาได้อย่างไรนั้น... เธอไม่รู้  เธอรู้เพียงแค่... ศัตรูแปลกหน้าไม่ใช่คน!

               "ในที่สุด... ก็ได้พบกันสักทีนะ  สาวน้อยผู้ดัดแปลงโปรแกรมชีวิตทดลอง"  ศัตรูแปลกหน้าผู้มีร่างกายผอมสูง... เอ่ยปากทักทายลีโล่ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย  เมื่อเห็นเด็กหญิงชาวฮาวายตัวน้อยยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

               ลีโล่ดูออก... ว่าศัตรูที่กำลังเผชิญหน้าเป็น "มือสังหาร" ที่ถูกใครบางคนส่งมาเอาชีวิตเธอ  เพราะมันสวมผ้าปิดจมูกและปากปิดบังใบหน้าที่แท้จริง  และชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่... มีรูปแบบเหมือนนินจาสีขาว  แต่เป็นนินจาที่ทันสมัยมากไปหน่อย  สังเกตได้จากลูกกลมหัวแดงที่อยู่ในมือข้างซ้าย  และลูกกลมที่อยู่ในมือก็ถูกขว้างไปยังลูกบิดประตูหลังห้อง  มีตะของอกออกมาครอบลูกบิด... ลูกกลมครอบลูกบิดประตูสร้างม่านพลังไฟฟ้าป้องกันไม่ให้ลีโล่หนีออกไปจากห้อง  ลีโล่จึงตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูโดยปริยาย

               "แกเป็นใคร!?  ต้องการอะไรจากฉัน!?"  ลีโล่เบือนหน้าหนี... ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นว่าเธอหวาดกลัว

               "ฉันเป็นใคร  ต้องการอะไรนะเหรอ  ฉันคงไม่มีความจำเป็นต้องให้คำตอบตอนนี้  เพราะอีกประเดี๋ยว... โปรเจ็คท์ของนายท่านจะเป็นคนชักนำเธอทำความรู้จักกับเราเอง"  มือสังหารยิ้มแสยะก่อนที่จะสั่งการพวกหุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาต  "ช่วยปราบพยศเด็กน้อยคนนี้ด้วย  ได้ยินมาว่าคนนี้แสบนัก  อาจต้องได้รับการอบรมสักหน่อย"

               หุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตนับสิบรับคำสั่งเสียงจากมือสังหารก่อนที่จะพุ่งเข้าโจมตี  ลีโล่ทำได้แค่ก้มตัวหลบเหล็กไนที่พวกมันเล็งมาที่เธอ... รวมทั้งกวาดตามองหาทางหนีทีไล่  ซึ่งบัดนี้เหลือเพียงทางเดียว

               หน้าต่างห้องเรียน

               ลีโล่พยายามหลบหลีกเหล็กไนไฟฟ้าของพวกต่อให้มากที่สุด  แต่ดูเหมือนพวกหุ่นยนต์ต่อจะได้เปรียบกว่า

               "เปล่าประโยชน์ที่จะดิ้นรนหนีให้พ้นจากต่อเพชฌฆาตของฉันได้  หรือต่อให้หนีออกไปได้  เธอจะต้องพบกับฝันร้ายที่ไม่มีวันลืมได้ลงอยู่ดี"  มือสังหารเย้ยหยันเสียงเรียบ... แสยะยิ้มอย่างนึกสมเพชที่เห็นลีโล่ต้องหลบหลีกการโจมตีของหุ่นยนต์ต่อตัวเล็กอย่างทุลักทุเล  ถึงเธอจับทางการเคลื่อนไหวได้  แต่พวกมันไม่ใช่หุ่นยนต์ต่อธรรมดา

               สกิลการเคลื่อนไหวของพวกมันไม่ได้มีดีแค่ความเร็วเหนือกว่าต่อแตนทั่วไป

               พวกมันสามารถเทเลพอร์ตจู่โจมศัตรูอย่างรวดเร็ว!

               มือที่เธอถือตำราไว้ฟาดพวกหุ่นยนต์ต่อ... ถูกพวกมันต่อยจนกระแสไฟเข้าสู่มือขวาจนชาและปวดแสบปวดร้อนจนหนังสือตกพื้น

               "ถ้าไม่เชื่อ... ก็เอาที่สบายใจนะ  อย่าหาว่าผู้ใหญ่ไม่เตือนแล้วกัน"  มือสังหารผายมือเชิญลีโล่ท้าพิสูจน์ที่หน้าต่างชั้นสองของอาคารเรียน  ด้วยความคิดที่ว่า... ต่อให้ลีโล่กระโดดลงไปได้  ขาทั้งสองข้างของเด็กหญิงตัวน้อยก็หักอยู่ดี

               ในเมื่อเด็กหญิงตัวน้อยผู้เป็นสายลับค้นหาสัตว์ทดลองถูกท้าทาย... เธอยิ่งฮึดสู้  ขาซ้ายของเธอถูกหุ่นยนต์ต่อต่อยจนล้มลงฟุบลงบนพื้น  แต่เธอยังดิ้นรนเดินกะเผลกไปยังหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมอย่างรวดเร็วจนถึงที่สุด

               จนกระทั่ง... เธอเอื้อมมือหมายจะปลดล็อกหน้าต่างหมายเลื่อนเปิดเพื่อที่จะหนีออกจากห้องให้จงได้  แต่เพราะเรี่ยวแรงที่หายไปและกระแสไฟจากการโจมตีของพวกหุ่นยนต์ต่อเมื่อสักครู่  ทำให้เธอรู้สึกเวียนหัวจนมิอาจรอดพ้นจากเงื้อมมือของมือสังหารได้

               ก่อนที่เธอจะสลบไป  ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด

               เพล้ง!                       

               กระจกหน้าต่างห้องเรียนแตกกระจาย  ฮีโร่ก็พุ่งถลาเข้ามาประคองตัวเด็กน้อยมิให้ร่วงลงหมอบราบบนพื้นห้อง

               ฮีโร่ที่มีความน่ารักและตัวนุ่มเหมือนเท็ดดี้แบร์  สัมผัสได้ถึงไออุ่นที่คุ้นเคย

               "สติทช์!"  ลีโล่เรียกชื่อเพื่อนรักตัวสีฟ้าที่ถูกใครบางคนเตะเป็นลูกบอลเข้ามาช่วยชีวิตเธอให้พ้นจากอันตรายที่เกิดขึ้น  ซึ่งเขาไม่ได้มาเพียงลำพัง

               "รูเบ็น!  พาลีโล่ออกไปจากที่นี่ที!"  สติทช์เรียกญาติผู้เป็นจอมทำแซนด์วิชปีนขึ้นมารับตัวลีโล่ออกไปจากห้องโดยเร็ว  ก่อนที่เขาจะหันไปสบตากับมือสังหารอย่างไม่เกรงกลัว  "ส่วนไอ้หมอนี่... กูจัดการมันเอง!"

               ทันทีที่รูเบ็นรับตัวลีโล่แล้วกระโดดออกจากห้องทางหน้าต่างลงไปยังสนามเด็กเล่น  สติทช์กับมือสังหารนิรนามผู้มีของเล่นอันตรายรอบตัวก็เข้าสู่การปะทะกันในบัดดล!

               "แหม ๆ ๆ  ไม่นึกไม่ฝันเลย... ว่าชีวิตทดลองจอมทำลายล้างหมายเลข 626 จะกล้ามายังสถานศึกษาของเด็กที่มีกฎห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเพื่อเด็กหญิงตัวน้อยเพียงคนเดียว"  มือสังหารพูดพลางหยิบมีดพร้าคู่ออกมาจากเข็มขัด  ซึ่งเป็นมีดพร้าไฟฟ้าที่พร้อมสังหารศัตรูทุกคนที่ขวางทางโดยเฉพาะ  "ถึงไม่คาดคิดว่าแกจะมา... ฉันก็ฝันมาตลอดว่าจะประฝีมือกับแกสักครั้ง  อยากรู้จริง ๆ ว่าใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์บนดาวดวงนี้... พละกำลังการทำลายล้างของแกจะยังคงกระพันอยู่หรือไม่"

               หุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตรู้งานดี... เทเลพอร์ตหายไปจากห้อง  ทิ้งให้สติทช์กับมือสังหารปะทะกันเพียงลำพัง  และสติทช์แปลงกายจากหมาน้อยตัวสีฟ้ากลายเป็นจอมทำลายล้างพร้อมหักแขนมือสังหารมิให้มันแตะต้องตัวลีโล่ได้อีก

               มือสังหารเปิดฉากปะทะกับสติทช์  พุ่งถลาเงื้อมีดพร้าไฟคู่หมายฟันร่างสิ่งมีชีวิตทดลองตัวสีฟ้าเสียให้สิ้นซาก  แต่สติทช์กระโดดหลบแล้วพุ่งถลาเข้าโจมตีมือสังหารชุดขาวด้วยมือเปล่าทั้งสี่ข้าง  นัยน์ตาของเขาจับทิศทางและการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย  จะพบว่ามือสังหารถนัดในเรื่องการหลบหลีกเป็นองค์ประกอบหลักในการโจมตี  สังเกตได้จากการเทเลพอร์ตจากที่หนึ่งไปยังอีกที่อย่างรวดเร็ว  ซึ่งเป็นการเทเลพอร์ตที่เล่นเอาสติทช์หัวหมุนจนแทบเสียสมาธิตั้งแต่เริ่มต้น  สติทช์จึงทำได้แค่ยกเก้าอี้นักเรียนมาฟาดร่างมือสังหารที่ปรากฎตัวกลางอากาศพร้อมฟาดฟันเขาในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า  ผลลัพธ์ก็คือ... ร่างมือสังหารผู้เป็นคู่ต่อสู้กระเด็นไปกระแทกถูกกระดานดำอย่างแรง

               แต่มีรึ... ที่มือสังหารฝีมือดีจะเสียทีจอมทำลายล้างหมายเลข 626 ได้ง่าย  เขาลุกขึ้นมาแล้วเก็บมีดเข้าฝัก  รอโอกาสให้อีกฝ่ายจู่โจมเข้ามาแล้วตอบโต้ในภายหลัง

               ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ไม่มีผิด

               สติทช์แปลงกายตนเองเป็นลูกบอลหนามกลิ้งเข้าโจมตีมือสังหาร  แต่ถูกอีกฝ่ายโต้กลับด้วยม่านพลังไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากหัวเข็มขัด  ชีวิตทดลองจอมทำลายล้างจึงตกเป็นฝ่ายเสียที... ถูกม่านพลังไฟฟ้าโจมตีจนร่างกระเด็นทะลุล็อกเกอร์และกำแพงปูนหลังห้องไปยังห้องเรียนอีกห้องในทันที

               โครม!!  ตู้มมม!!         

               มือสังหารชุดขาวถอดลูกกลมสร้างม่านพลังไฟฟ้าครอบลูกบิดประตูมาไว้ในมือแล้วใช้วิชาล่องหนเตรียมโจมตีสติทช์อีกระลอก  สติทช์ลุกขึ้นยืนแล้วปรับนัยน์ตาตัวเองเข้าสู่การเอ็กซเรย์หาตัวคู่ต่อสู้ที่ยังล่องหนอยู่  แต่ไม่มีวี่แวว

               กลายเป็นสติทช์ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ  ถูกโจมตีทั้งที่ไม่เห็นตัวคู่ต่อสู้  รู้สึกเหมือนถูกต่อยหน้าและช็อตไฟในเวลาเดียวกัน... ราวกับว่าคู่ต่อสู้ที่กำลังล่องหนอยู่เลือกจู่โจมระยะไกล

               "ประหลาดใจมากสิท่า... ที่นัยน์ตาตรวจจับความร้อนไม่สามารถตามหาฉันได้"  มือสังหารส่งเสียงเข้าสู่ใบหูของสติทช์  ทำเอาจอมทำลายล้างหมายเลข 626 ฟังแล้วถึงกับกัดฟันกรอดที่หาโอกาสต่อกรกับมือสังหารไม่ได้  "ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ  ชุดที่ฉันสวมใส่... ทำจากใยผ้าชนิดพิเศษที่มีความเย็นป้องกันมิให้มีการตรวจจับความร้อนจากร่างกายฉันได้  แกคิดเหรอว่าฉันจะอ่อนด้อยเหมือนชีววุธที่นังเด็กน้อยจะขัดเกลาละลายพฤติกรรมได้  บอกไว้ก่อนว่าคิดผิดแล้วที่บังอาจมาขัดขวางฉัน  หมัดอัสนีไร้เงาจะสอนบทเรียนให้แกเอง!"

               "หมัดอัสนีไร้เงา!?"  สติทช์ทวนชื่อไม้ตายของมือสังหารชุดขาวออกมาเบา ๆ  ถึงแม้เขางุนงงนักกับท่าไม้ตายที่ไม่เคยได้ยิน... แต่ความเจ็บปวดจากการต่อสู้มีมากกว่า  เขาจึงทำได้แค่กวาดตามองและยกใบหูรับฟังการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายเพื่อหาโอกาสเอาคืนโดยเร็ว

               "ใช่!  แกฟังไม่ผิดหรอก  หมัดอัสนีไร้เงา  เป็นหมัดที่อาศัยการแยกจิตเล่นงานแกโดยเฉพาะ  แกจะรู้สึกเจ็บแสบเหมือนไฟช็อตที่ใบหน้า  ฉันต่อยหมัดขวาเข้าที่อากาศ  แกก็จะโดนต่อยไปด้วย  ถ้าไม่เชื่อ... ฉันจะสาธิตให้ดู"  มือสังหารชุดขาวที่ยังล่องหนอยู่... สวมสนับไฟฟ้าแล้วชกต่อยสติทช์รัว ๆ จนอีกฝ่ายได้แต่ปัดป้องจนถึงขั้นยกโต๊ะมาเป็นโล่ป้องกัน  มือสังหารชุดขาวจึงเทเลพอร์ตมาจู่โจมสติทช์ทางข้างหลัง  ชักมีดพร้าจ่อเข้าที่ลำคอของจอมทำลายล้าง... แสยะยิ้มย่ามใจที่เห็นศัตรูเพลี่ยงพล้ำต่อหน้าต่อตาเช่นนี้

               "แต่ความเจ็บปวดที่แกได้รับ... มันแค่ออเดิร์ฟ  เพราะความเจ็บปวดจากหุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตที่พร้อมสร้างความทรมานให้เด็กน้อยที่แกรักมากเท่าชีวิต... จะเป็นอาหารจานหลักให้แกได้ลิ้มลองรสชาติจนมิรู้ลืมไปเลยทีเดียว  ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ"  มือสังหารหัวเราะร่วนด้วยน้ำเสียงชวนขนหัวลุก  สติทช์ถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้น... ที่มือสังหารพูดถึงลีโล่ราวกับว่าเธอจะตกเป็นเหยื่อในอีกมิช้า

               สติทช์ได้แต่ภาวนา... ว่ารูเบ็นและพี่น้องผองเพื่อนจะพาลีโล่ไปยังที่ปลอดภัยในทันท่วงที


      ------------------------------------------------------------------------


               ภายในห้องเรียนก็อันตรายมากพอแล้ว  ภายนอกห้องเรียนกลับอันตรายยิ่งกว่า

               ทันทีที่รูเบ็นอุ้มลีโล่ออกมาจากอาคารเรียน  ต้องมาเห็นภาพที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในโรงเรียน

               เด็ก ๆ ที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานในช่วงพักเที่ยง... ถูกใครบางคนยิงลูกเหล็กพ่นควันสีเหลืองทองอร่ามฟุ้งกระจายจนล้มลงสลบแทบทุกพื้นที่ในโรงเรียน  เท่านั้นยังไม่พอ... หมาไซบอร์กนับสิบและหุ่นยนต์ต่อยังออกตระเวนตามหาลีโล่หมายล่าเธอโดยเฉพาะ  แถมเหล็กไนที่ฝังอยู่ในมือขวาและขาซ้ายของลีโล่ยังปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย  ทำให้รูเบ็นถึงกับคิดหนัก... ต้องหาทางพาเธอกลับไปที่ยานของแกนตูโดยเร็วที่สุด

               ดูเหมือนว่าภารกิจช่วยชีวิตลีโล่ให้พ้นจากเงื้อมมือนินจาขาวท่าจะไม่ราบรื่นเสียแล้ว

               เพราะดวงตาของหมาไซบอร์กมีระบบตรวจจับศัตรูที่กำลังซ่อนตัวอยู่  ซึ่งจะทำงานร่วมกับกับพวกหุ่นยนต์ต่อได้ดี  ตราบใดที่พวกหมาไซบอร์กเจอตัวศัตรู... พวกมันจะเห่าส่งคลื่นเสียงให้พวกต่อเทเลพอร์ตมาพบเป้าหมายในทันที  บัดนี้พวกต่อเพชฌฆาตและหมาไซบอร์กพร้อมรุมทึ้งรูเบ็นอย่างเต็มที่  ในขณะที่รูเบ็นแปลงกายเป็นจอมพลังหมายเลข 625 ที่มีพละกำลังทำลายล้างเทียบเท่าสติทช์พร้อมปะทะกับพวกมันอย่างสุดตัว

               แต่ก่อนที่รูเบ็นจะปะทะกับหุ่นยนต์ไม่ทราบฝ่าย... มีกระแสไฟฟ้าพุ่งทะยานผ่านทะลุเหล่าหุ่นยนต์ต่อจนพวกมันระเบิดกระจายไม่เป็นชิ้น

               ตู้ม!!  บึ้ม!!

               กระแสไฟฟ้าที่ทำลายหุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตของมือสังหารชุดขาว  เป็นกระแสไฟจากร่างของสปาร์คกี้ที่มาเป็นเพื่อนสติทช์ถึงโรงเรียน  แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ลีโล่  สติทช์  รูเบ็น  และสปาร์คกี้ที่รับศึกหนักกับหุ่นยนต์ที่บุกเข้ามาในโรงเรียน


วิคตอเรียและเพื่อน ๆ ก็ต้องรับศึกเช่นกัน!


               มาวินเป็นเด็กผู้ชายคนเดียวในกลุ่มวิคตอเรียที่รอดพ้นจากควันสลบของศัตรูที่ส่งหุ่นยนต์มาตามล่าลีโล่  เป็นความโชคดีที่ในมือมาวินมีไม้กวาดเป็นอาวุธป้องกันตัวและพื้นที่ในห้องสมุดก็กว้างขวางพอที่พวกเธอจะหลบหลีกการโจมตีของพวกหุ่นยนต์ต่อ  แต่ดูเหมือนว่า... พวกหมาไซบอร์กจะแยกเขี้ยวปิดทางหนีเสียแล้ว

               ในขณะที่พวกวิคตอเรียกำลังเข้าตาจน... เกือบเสียทีพวกหุ่นยนต์เพชฌฆาตอยู่นั้น

               แองเจิ้ลกับฟลุทร่างสองก็เข้ามาช่วยชีวิตพวกวิคตอเรียในทันท่วงที  เพราะทั้งคู่มีความสามารถด้านการต่อสู้... การปะทะกับหมาไซบอร์กก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  หนวดผีเสื้อของนางฟ้าสีชมพูปัดหุ่นยนต์ต่อไปให้พ้นจากสองพี่น้องฝาแฝดผู้เป็นโอฮาน่าของเธอได้ดี  แน่นอนว่าสลัชชี่ก็พ่นปืนกลเกล็ดน้ำแข็งจากปากซัดหุ่นยนต์ต่อร่วงลงพื้นเช่นกัน

               ทันทีที่สามชีวิตทดลองสายคอมแบ็ตจัดการศัตรูที่เข้ามาคุกคามพวกวิคตอเรียแล้วนั้น... แองเจิ้ลก็พาเพื่อน ๆ ของลีโล่ออกนอกรั้วโรงเรียนโดยเร็วที่สุด  หวังว่าสติทช์  รูเบ็น  และสปาร์คกี้จะพาลีโล่ไปยังที่ปลอดภัยในทันท่วงที

               แองเจิ้ลได้แต่เก็บงำความสงสัย... ว่าใครกันที่สั่งการเหล่าหุ่นยนต์มาบุกโรงเรียน!?

               แต่เธอรับรู้เซ้นส์สัญชาตญาณของสติทช์ดี

               หุ่นยนต์พวกนี้พุ่งเป้าไปที่ลีโล่เป็นหลัก!



               สติทช์กำลังรับศึกหนักกับมือสังหารชุดสีขาวอยู่  ซึ่งบัดนี้... เขาก้มหน้ากัดมือขวาของเจ้ามือสังหารจนอีกฝ่ายร้องลั่นห้อง  จากนั้นก็แย่งมีดพร้าไฟฟ้ามาไว้ในมือ  สติทช์กับมือสังหารจึงใช้มีดพร้าไฟฟ้าฟาดฟันกันอย่างดุเดือด  คราวนี้สติทช์จับทางการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้  เพราะจุดอ่อนอย่างแรกของมือสังหารชุดขาวจะอยู่ที่มีดพร้า  ถึงมือสังหารจะล่องหนจนสติทช์ไม่สามารถจับได้  แต่มือสังหารก็มีพลาดตรงที่พยายามจะแย่งมีดกลับคืนมาให้จงได้  มือสังหารชุดขาวจึงถูกสติทช์ยกอุ้งเท้าถีบเข้าที่หน้าท้องอย่างแรงจนกระแทกถูกกระดานดำถล่มลงมา

               แต่เซ้นส์มือสังหารชุดขาวรับรู้ได้ถึงความเสียเปรียบที่กำลังจะได้รับ... เจ้าตัวจึงเทเลพอร์ตหายตัวไปทั้งที่เจ็บท้องอยู่  สติทช์จึงกระโดดออกจากห้องเพื่อตามล่ามือสังหารนิรนามในทันที  ด้วยความคิดที่ว่า... ถูกถีบหนักจนคาดว่าน่าจะสะบักสะบอม  อาจหนีไปไม่ได้ไกล  ในเมื่อดวงตาอินฟราเรดไม่สามารถมองเห็นมือสังหารได้  เหลือแค่ประสาทสัมผัสการได้ยินและการดมกลิ่นที่เหนือชั้นกว่าสัตว์ทั่วไป... ที่จะช่วยเขาได้

               มีดพร้าไฟฟ้าที่อยู่ในมือสติทช์จะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะตามตัวมือสังหารได้  แค่ดมกลิ่นก็สามารถจับทิศทางที่มือสังหารใช้หลบหนีได้

               แต่การที่สติทช์จะตามตัวมือสังหารชุดขาวได้... ใช่ว่าจะตามหากันได้ง่าย

               เพราะคนของนายท่านที่มือสังหารชุดขาวรับจ้างลักพาตัวลีโล่ได้เตรียมการหลบหนีเป็นอย่างดี  เหมือนรู้ล่วงหน้าว่าสติทช์ต้องแอบมาที่โรงเรียนเพื่อเฝ้าดูลีโล่เป็นอันแน่แท้  ซึ่งเป็นจริงอย่างที่คนของนายท่านคาดไว้ไม่มีผิด!

               สติทช์ทำจมูกฟุดฟิดตามรอยกลิ่นมือสังหารจากมีดพร้าไฟฟ้าที่อยู่ในมือ  เมื่อรู้ทิศทางที่มือสังหารหลบหนีแล้ว... จึงเร่งฝีเท้าตามล่าตัวโดยเร็วที่สุด  เพื่อที่จะกำราบมันและคาดคั้นหมายรู้ความเรื่องผู้อยู่เบื้องหลังให้จงได้

               ซึ่งการตามล่ามือสังหารฝีมือดีในครั้งนี้  ทำให้เขาติดกับไม่รู้ตัว!

               "ฉันต้องยอมรับ... ว่าสิ่งมีชีวิตทดลองหมายเลข 626 ถูกสร้างมาเป็นนักสู้รอบด้านจริง ๆ  แต่น่าเสียดาย... ที่ความอยากรู้อยากเห็นของแกพาแกไปพบยมบาลในโลกหน้า"  มือสังหารชุดขาวส่ายหน้าเบา ๆ อย่างนึกสมเพชในตัวสติทช์ที่ปล่อยให้การตามล่าหาความจริงเป็นหนทางสู่ความตายในอีกไม่กี่วินาทีต่อจากนี้

               นั่นเป็นเพราะมือสังหารจงใจทิ้งมีดพร้าไฟฟ้าอีกเล่มลงถังขยะในสวนสาธารณะหลังโรงเรียน  เพื่อหลอกล่อให้สติทช์เล่นกับคนของนายท่านอีกกลุ่ม

               คนของนายท่านที่พร้อมจะรุมฟัดสัตว์ประหลาดตัวสีฟ้า  เป็นสุนัขไซบอร์กที่มีไซส์เท่าเซนต์เบอร์นาร์ด  ซึ่งพวกมันมีทั้งหมด 5-6 ตัวก็ว่าได้  แต่ละตัวล้วนดุร้าย... แยกเขี้ยวไฟฟ้าพร้อมฉีกเนื้อสติทช์เป็นชิ้น ๆ  สติทช์เห็นว่าหมาไซบอร์กกลุ่มนี้ถูกทำมาจากเหล็กกล้าและมีความอึดยิ่งกว่าชีวิตทดลองร่างใหญ่ที่เขากับลีโล่เคยเผชิญหน้ามา

               ลำพังสติทช์คนเดียวยังพอฟัดกับพวกไซบอร์กได้

               แต่มือสังหารไม่ปล่อยให้สติทช์รอดไปง่าย ๆ

               ฉึก!!

               "โอ้ว์!!"  สติทช์ร้องลั่นในทันทีที่มือข้างที่เขาถือมีดพร้าไฟฟ้าถูกหุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาตต่อย  มีดพร้าร่วงลงสู่พื้นในบัดดล  ซ้ำร้าย... ถูกมือสังหารชุดขาวเทเลพอร์ตมาเตะจนกระเด็นเฉียดถูกคมเขี้ยวของหมาไซบอร์กเซนต์เบอร์นาร์ดอย่างหวุดหวิด

               บัดนี้... ในมือของมือสังหารกลับมามีมีดพร้าไฟฟ้าคู่ดังเดิม!

               "แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ  อีกประเดี๋ยวนายท่านจะรับเลี้ยงเด็กน้อยที่รักของแกให้มีชีวิตใหม่ที่จะไม่มีวันลืมได้ลงไปเลยทีเดียว"  มือสังหารชุดขาวโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูสติทช์ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นที่เต็มไปด้วยความสะใจเป็นอย่างยิ่ง  ก่อนที่มันจะเทเลพอร์ตหายตัวไปยังที่ใดสักแห่ง  ทิ้งให้สติทช์ตกอยู่ในวงล้อมของหมาไซบอร์กร่างใหญ่เพียงลำพัง

               หากว่าเหล็กไนที่ฝังอยู่ในมือซ้ายของสติทช์เป็นเหล็กไนต่อธรรมดา  ผิวหนังหนาและขนที่นุ่มนวลน่าฟัดจะไม่ทำให้ร่างกายเหน็บชาเพราะถูกแมลงมีพิษต่อย

               แต่นี่... เหล็กไนจากหุ่นยนต์ต่อเพชฌฆาต  มันปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย  ถึงเขาถูกสร้างให้มีความอึดเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตทุกประเภทบนดาวโลก  แต่ถ้ากระแสไฟเข้าสู่ร่างมากเข้า... ร่างกายจะอ่อนแรงลงจนไม่สามารถยืนได้อีก

               สติทช์ตั้งอธิษฐานไว้ในใจ

               ด้วยอำนาจแห่งมิตรภาพกับความรักที่เทพีฮิอาก้า (Hi'iaka) กับมนุษย์นามโลเฮีย (Lo'hiau) มีให้กันและกัน  ช่วยดลบันดาลให้ผมรอดพ้นจากภยันตรายเพื่อเป็นหลักกำลังใจให้ลีโล่ร่วมฝ่าฟันเรื่องเลวร้ายด้วยเถิด

               เขาจะต้องไม่ล้มลง  เขาต้องไม่ตาย

               ศัตรูฝีมือร้ายกาจกำลังมุ่งหน้าไปที่ลีโล่และผองเพื่อน

               เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่... ต้องถูกนำมาใช้เพื่อต่อกรกับหมาไซบอร์กงี่เง่าให้จงได้!



    ç=================è 

   

      

       

  


                      


      


    

      

       


       

 



 

                   


   


              


       





     

         


    

      

                   

                                      

   

  

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture