ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักคุณ...อย่างเป็นทางการ Officially Loving You

    ลำดับตอนที่ #13 : 5 ความวัว (ตัวใหญ่) ยังไม่ทันหาย ความควาย (ตัวยักษ์) ดันเข้ามาแทรก 1/3

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 67


    ท่ามกลางความเหนื่อยล้าต่างๆ นานาที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิตแบบไม่หยุดหย่อน ภูตะวันพบว่าที่พักของหัวใจไม่ใช่ที่ไหนไกล ไม่จำเป็นต้องผ่อนคลายถึงต่างประเทศ ทว่าบ้านใหญ่ในฟาร์มหมูการุณย์กาญจ์นั่นเองที่เป็นดังสถานีเติมความสุข และเขาจะใช้ช่วงวันหยุดนี้ชดเชยเวลาสองอาทิตย์เต็มๆ ที่ไม่ได้กลับบ้าน

    การสื่อสารสมัยนี้ทำให้คนไกลกลายเป็นคนใกล้ แม่โทรถามสารทุกข์สุกดิบเขาทุกวัน พักนี้บ่อยหน่อยเพราะทะเลจันทร์ขอร้องแกมบังคับให้เปลี่ยนเครื่องมือสื่อสารจากหน้าจอขาวดำรุ่นเก๋ากึ๊กมาเป็นสมาร์ตโฟน แรกๆ ทั้งพ่อทั้งแม่ออกอาการต้านเล็กๆ แต่เมื่อลองเล่นโปรแกรมไลน์แชทดันเกิดติดใจ โดยเฉพาะคนหลังนี่เก่งกล้าสามารถ แม่วิดีโอคอลหาคนโน้นคนนี้ในครอบครัวเป็นว่าเล่น

    ภูตะวันรู้ข่าวคราวของทุกคนแม้ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาไม่รู้ความเป็นไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากรู้ เพียงแต่ไม่กล้าถามถึงยุ้งทองเอาจากแม่ก็เท่านั้น หญิงสาวมีความสุขดีในฟาร์ม หรือหนีงานหนักกลับบ้านไปแล้ว อีกสักพักเขาคงได้รู้จากทางใดทางหนึ่ง

    กระจกหน้าต่างรถยนต์ถูกเลื่อนลงจนสุด ภูตะวันปล่อยให้สายลมปะทะใบหน้ายามพาหนะเคลื่อนตัว ผมดำขลับยาวปรกคิ้วปลิวไร้ทิศทาง กระนั้นเจ้าตัวหาได้สนใจว่าจะกระเซอะกระเซิงขนาดไหน ชายหนุ่มฮัมเพลงลูกทุ่งเบาๆ เคล้าคลอเสียงลม สองมือกำพวงมาลัยรถไว้มั่น แต่ไม่วายเคาะนิ้วให้ลงตามจังหวะเพลง นักร้องมือสมัครเล่นเผลอยิ้มปนขำเมื่อนึกหลานสาว หากเจ้าซาลาเปาอยู่ด้วย ปากเขาอาจโดนมือเล็กๆ ปิดกั้นเสียง ตามมาด้วยประโยคที่ได้ยินจนชินหูว่า น้าซันร้องเพลงไม่เพราะเลยค่ะ

    เปรี้ยวหวานไม่มีรสนิยมเอาเสียเลย เขาร้องเพลงไม่เพราะตรงไหน...

    รถจอดหน้าบ้านใหญ่พอดีกับเพลงที่ร้องมาตลอดทางเข้าฟาร์มจบลง ภูตะวันลงจากรถแล้วอ้อมมายังกระบะหลัง มือหนาคว้าเอาเข่งที่สานด้วยไม้ไผ่ขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอด ภายใต้ใบตองตานีสีเขียวเข้มที่ปิดทับไว้เหนือเข่งนี้คือมะละกอพันธุ์เรดเลดี้ซึ่งเขาปลูกไว้ข้างบ้านท้ายไร่ข้าวโพด สีเปลือกกึ่งเหลืองกำลังสวย บ่มให้เข้าที่อีกคืนสองคืนก็ปอกเปลือกหั่นชิ้นยกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะได้พอดี

    “หอบอะไรมาเยอะแยะฮึ” คุณกาญจนาลงบันไดชานเรือนมาดูลูกชายเนื่องจากเสียงรถจอดหน้าบ้านสักพักแล้ว แต่เจ้าลูกคนกลางยังไม่เยี่ยมหน้าให้ท่านเห็นสักที

    “อรุณสวัสดิ์ครับแม่” ภูตะวันยิ้มเท่ “มะละกอครับ ไอ้เผือกมันกลัวช้ำเลยแพคใส่เข่งให้เสียดิบดี”

    “เผือกไปไหนล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรือ”

    “มันลอยตัวแล้วครับ ผมยกให้เป็นนายใหญ่แห่งไร่กาญจ์การุณย์สองวัน” พ่อแม่เผือกเป็นคนงานเก่าแก่ซึ่งช่วยพ่อแม่เขาบุกเบิกฟาร์มหมู จะเรียกว่ากลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้วก็ได้ และเพราะรู้ใจกันจึงไว้ใจฝากงานทางโน้นไว้กับเผือก ซึ่งเจ้าตัวก็เต็มใจด้วยเมื่อสี่ห้าวันก่อนเขาให้หยุดเพื่อกลับมาหาพ่อแม่ที่นี่ “วางในครัวเลยไหมแม่”

    “แล้วเราจะวางตรงนี้ให้แม่หามเข้าไปเองหรือไง”

    ซัดมาหนึ่งดอก นี่แหละแม่

    “โอเคครับคุณนาย”

    “เรานี่นะ แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้เรียกคุณนาย”

    “ไม่เรียกก็ไม่เรียกครับ...คุณนาย” คำหลังสุดภูตะวันเอ่ยเสียงเบาให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียว แม่ไม่ชอบให้เรียกด้วยสรรพนามนี้สักเท่าไร ด้วยทำให้ท่านนึกภาพตัวเองตีผมทรงฟาร่าห์ทุกที ถึงอย่างนั้นทั้งเขา พ่อ รวมถึงทะเลจันทร์ก็แอบเรียกบ่อยๆ

    ภูตะวันวางเข่งมะละกอไว้บนโต๊ะในห้องครัว รื้อใบตองออกให้ผลไม้ด้านในได้หายใจหลังจากที่น่าจะทนอึดอัดมาหลายชั่วโมงตั้งแต่เช้า ชายหนุ่มรินน้ำจากตู้เย็นใส่แก้ว ดวงตาดำสนิทมองสำรวจทั่วห้องครัว ความเงียบผิดปกติทำให้เขาต้องถามมารดาเมื่อกลับมายังห้องนั่งเห็นแล้วเห็นท่านกำลังจัดการนำขนมกลีบลำดวนอบควันเทียนขนาดพอดีคำเรียงเป็นระเบียบในขวดโหลแก้ว

    “ไปไหนกันหมดหรือแม่”

    “พ่อกับพี่สาวเราขลุกอยู่ในเรือนกล้วยไม้โน่น เปรี้ยวหวานก็อยู่ด้วย” คุณกาญจนาเช็ดมือกับผ้าสะอาด ขยับกายให้โซฟามีที่นั่ง ก่อนตบลงเบาๆ เป็นเชิงบอกให้ลูกนั่งด้วยกัน “ส่วนเราน่ะมานั่งนี่ก่อน ให้แม่ดูหน้าค่าตาเสียหน่อย หายหน้าไปหลายวันจนจำหน้าไม่ได้แล้ว”

    ภูตะวันตามใจแม่ ชายหนุ่มโยนกายลงบนโซฟาสีเบจ ไม่วายหยิบขนมกลีบลำดวนจากขวดโหลเข้าปากไปหนึ่งชิ้น รางวัลที่ได้จึงเป็นการถูกตีเพียะบนหลังมือ

    “โห ชิ้นเดียวก็ไม่ได้”

    “ของเราน่ะในถาดโน้น ในขวดโหลแม่เรียงเตรียมไว้จะให้ปราบ ส่วนโหลที่ผูกโบไว้แล้วนั่นน่ะของธรณ์” ท่านชี้อีกขวดโหลแก้วที่มีขนมกลีบลำดวนเต็มขวด

    “อื้อหือ แม่ยายดูแลดีเวอร์ พี่ธรณ์พี่ปราบโชคดีจริงๆ”

    “เอ้า ก็พี่เขยกับน้องเขยเราเขาดูแลลูกสาวหลานสาวแม่ แม่ก็ต้องเอาใจหน่อย”

    ปราบศึกดูแลทะเลจันทร์อย่างกับน้องเขาเป็นเจ้าหญิง ยิ่งท้องไข่ตุ๋นยิ่งดูแลดีเข้าไปใหญ่ จะมีก็แต่ฝั่งธรณ์ที่พักหลังมานี้เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแม้ทรายรุ้งไม่พูดไม่บอก

    “อืม คนอวดลูกเขย”

    “ก็รีบหาลูกสะใภ้ให้แม่สิ แม่จะได้จัดแจงขนมนมเนยให้เมียซัน”

    น้ำเย็นเจี๊ยบที่ภูตะวันกระดกขึ้นไล่เนื้อร่วนๆ ของขนมกลีบลำดวนให้ลงกระเพาะเกือบพุ่ง ดีที่เขากลืนลงคอได้ทันเสียก่อน ทำไมใครๆ ชอบเชียร์ให้เขามีเมีย ตั้งแต่ยายม้าป่าดีดกะโหลกแล้ว

    “สามสิบแล้วไม่ใช่หรือปีนี้”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×