ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Love Light ..ღ [1]
Love Light .. ღ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะะะะะะ!!”
เสียงร้องทรงพลังของเด็กชายตัวใหญ่ ร้องสั่งเพื่อนร่วมห้องตัวแสบ ที่กำลังทำหน้าตาทะเล้น วิ่งหนีตนออกไปยังประตูหลังห้อง ขาที่เกือบจะยาววิ่งหนีอย่างคิดว่าตัวเองเป็นต่อ ยังงัยซะ ไอตัวเบิ้มก็วิ่งไม่ทันเด็กผู้ชายผอมปราดเปรียวอย่างเขาอยู่แล้ว
“เฮ้ย! บอกว่าอย่าหนี”
เชื่อก็บ้าแล้ว. ..
“อย่า!!!!”
.
.
.
.
.
.
กรี๊ดดดดดดดดดดด ด
เพล้งงงงงงงงงง ง!!!
อากาศเย็นยะเยือกในห้องปกครองทำเอาร่างเล็กเสียวสันหลังวาบ ภายในห้องปกครองเงียบฉี่ จะมีก็เพียงเสียงแอร์คอนดิชั่นที่ทำงานดังหึ่มๆ ข่มขวัญเขาตลอดเวลา อาจารย์หน้าโหด กำลังจ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ร่างเล็กก้มหน้างุด ไม่ยอมสบตากับสิ่งมีชีวิตหน้าโหดที่ไว้หนวด ที่ก้มหน้าก็ไม่ได้เพราะกลัวหรอกนะ แค่ไม่อยากจ้องหน้ากลับเพราะกลัวจะเสียมารยาทเท่านั้นแหละ
เสียงเปิดประตูห้องปกครองดังขึ้น เรียกเอาความสนใจจากทั้งสองชีวิต ร่างเล็กเกือบจะฉีกยิ้มแล้วเชียวที่เห็นเสี้ยวหน้าของหญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่ใจดีแบ่งความสวยมาให้เค้าเกือบ 99% ตอนเกิด แต่พอเห็นสายตาดุดันนั้น ร่างเล็กก็รู้ได้ทันที่ว่าคนที่เปิดประตูเข้ามานั้น……เป็นพวกเดียวกับอาจารย์หน้าหนวดนั้นแหงมๆ
“ดิชั้นเป็นผู้ปกครองของเด็กคนนี้ค่ะ….ไม่ทราบว่าลูกชายดิชั้น….”
‘เอี๊ยดด’
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะกล่าวจบ ประตูห้องปกครองก็ดังขึ้นอีก คนที่เพิ่งมาใหม่ ร่างกายสูงใหญ่นั้นมีผ้าก๊อซสีขาวแผ่นใหญ่แปะไว้ตรงหน้าผาก บ่งบอกว่าคงถูกของแข็งกระแทกมาเป็นแน่
“อ้าว มาแล้วหรออาจารย์ ทำแผลเรียบร้อยแล้วใช่มั๊ย”
“ครับ รองอาจารย์ใหญ่”
“เอาล่ะ มาครบกันแล้วนะ เชิญ….” รองอาจารย์ใหญ่กล่าวเชิญคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ให้มายืนที่มุมโต๊ะทำงาน ใกล้ๆกับคู่กรณีตัวเล็ก
“คุณนายเชว ลูกชายของคุณ ทำร้ายร่างกายอาจารย์พละของเราจนศีรษะแตก ต้องเย็บถึงสิบสามเข็ม ผมในฐานะอาจารย์ฝ่ายปกครอง และรองอาจารย์ใหญ่ จึงจำเป็นต้องเชิญคุณมา….”
“อ๊ะ!! เจ็บนะแม่!” เสียงเล็กร้องแหวออกมากลางอากาศ เมื่อเนื้อน้อยๆตรงท้องแขนโดนผู้เป็นแม่บิดเอา
“ดิชั้นต้องขอโทษจริงๆนะคะรองอาจารย์ใหญ่ที่อบรมลูกไม่ดี”
“ครับ และที่ผมเชิญคุณมาวันนี้ เพราะว่าลูกชายของคุณก่อเรื่องเอาไว้ภายในเดือนนี้นับรวมก็เก้าครั้งแล้ว ผมถือว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะหักแค่คะแนนพฤติกรรม ถ้าหากมีครั้งหน้า ผมคงจะต้องพิจารณาพักการเรียกลูกชายของคุณนะครับ”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะไม่ให้ลูกชายก่อเรื่องอีก เอ้า! ขอโทษคุณครูเค้าสิ” ฝ่ามือเรียวตีเพี้ยเข้าที่แขนน้อยๆ ของลูกชายตัวเล็กที่ยังคงก้มหน้าก้มตา
“รู้แล้วแหละนะ….ขอโทษฮะคุณครู” ร่างเล็กโค้งต่ำจนศีรษะแทบจะชนกับหัวเข่า กล่าวขอโทษคุณครูพละตัวสูงที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จามาแต่ต้น
หลังจากถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองอบรมอีกเล็กน้อย ร่างเล็กก็ถูกแม่บังเกิดเกล้าลากตัวออกมาจากห้องปกครอง สายตาดุๆ ส่งให้กับไอตัวดีที่ตอนนี้ไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิดอะไรแม้แต่น้อย
“ดื้อใหญ่แล้วนะ ไปทำร้ายคุณครูแบบนั้นได้ยังไง”
“โถ่แม่ มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยนะ หนูไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย”
“ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำเค้าหัวแตกเลยเนี่ยนะ!”
สองแม่ลูกยืนเถียงกันอยู่หน้าห้องปกครอง ครู่หนึ่งคุณครูที่กำลังเป็นประเด็นของทั้งสองก็เปิดประตูตามออกมา
เพราะมัวแต่นึกโมโหลูกชายตัวดีที่เล่นซนขนาดไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น คุณนายเชวเลยไม่ทันมองหน้าตาของคุณครูพละตั้งแต่ทีแรก ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งกับเสื้อพละสีฟ้า กางเกงวอร์มขายาวสีเทาช่วยเสริมให้ช่วงขานั้นยาวขึ้นอีก สายตาของคนเป็นแม่จ้องมองใบหน้าคุณครูพละนิ่ง เหมือนจะนึกอะไรบางอย่าง จนไอตัวป่วนที่ยืนข้างๆ กระตุกชายเสื้อของแม่ตัวเองยิกๆ แล้วกระซิบข้างหูเบาๆ
“ไม่ต้องคิดหาพ่อใหม่ให้หนูนะแม่”
“แกนี่!”
“โอ้ย!!” ร่างเล็กร้องเสียงหลง จู่ๆมือพิฆาตก็ฟาดมาได้ เจ็บนะแม่!
“ค…คยูฮยอนใช่รึเปล่า?”
คุณครูพละส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ เมื่อหญิงสาวตรงหน้ายังไม่ลืมเลือนกัน ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
“คยูฮยอนจริงๆด้วยสินะ ดีใจจัง ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย”
“ยี่สิบปี….ได้แล้วมั้ง”
“ตายจริง นานขนาดนั้นเลยหรอ คยูฮยอนจำแม่นเหมือนเดิมเลยนะ”
.
.
.
.
.
“คยูฮยอนมาเป็นครูที่นี่เองหรอกหรอ” ทั้งสามชีวิตเดินมาเรื่อยๆ ตามทางเดินของโรงเรียนมัธยมยูอิน คนสองคนที่ไม่ได้เจอกันนาน ถามสาระทุกข์สุขดิบกันและกัน
“อื้ม”
“แต่ทำไมถึงเป็นครูพละได้ละ สมัยเรียน คยูฮยอนเก่งภาษานี่นา”
“คนเรา มันมีจุดพลิกผันกันได้ ..ผมก็เหมือนกัน เอาไว้มีเวลา จะไว้เล่าให้คุณฟังนะ ดารา”
“เล่าตอนนี้เลยไม่ได้หรอฮะซอนแซงนิม ผมกับแม่ว่างฟัง”
“เชวทงเฮ!!”
“แหม…ก็อยากรู้นี่แม่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวไว้ทงเฮเรียนกับซอนแซงนิมเมื่อไหร่ ค่อยเล่าให้ทงเฮฟังนะ….แล้วทงเฮก็จะไม่เล่าให้แม่ฟังด้วย”
“โอย ฉันละปวดหัวจริงกับเจ้าลูกคนนี้” ซนดารา ทำท่าจะลมจับ เมื่อต้องต่อกรกับเจ้าลูกชายตัวแสบ เถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้ ไปเอานิสัยมาจากใครกันนะ
RRrrrrr
เสียงเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าสะพายแบรนด์หรูดังขึ้น ทำให้ซนดาราต้องเอ่ยขอโทษคู่สนทนา ก่อนจะเบี่ยงตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อรับสายของสามี
“ว่าไงคะคุณ”
[ดารา คุณไม่อยู่บ้านหรอ ผมโทรเข้าบ้าน คุณนมบอกว่าคุณออกมาข้างนอก]
“ค่ะ ฉันมาโรงเรียนของลูกชายตัวดีของคุณนั่นแหละเชวซีวอน”
[ตาทงเฮไปก่อเรื่องอะไรอีก]
“มะ…แม่! อย่าบอกคุณป๊านะ!” ร่างเล็กลุกลี้ลุกลน กระตุกแขนเสื้อแม่ตัวเองยิกๆ เมื่อรู้ว่าบทสนทนาของมารดากับบิดากำลังพูดถึงเขา ดวงตากลมโตถอดแบบจากแม่ไม่มีผิดเพี้ยน ส่งสายตาอ้อนวอนอย่างสุดซึ้ง
คนเป็นแม่ส่งสายตาเขียวปั๊ดกลับไปให้ เมื่อเชวทงเฮกำลังขอร้องให้ตนเองช่วยปิดบังความผิด
“ไว้ฉันจะเล่าให้ฟังคะ คุณมีอะไรรึเปล่าคะโทรหาฉัน”
[ผมจะโทรมานัดเวลากับคุณอีกทีสำหรับดินเนอร์มื้อนี้ ไหนๆคุณก็อยู่กับลูกแล้ว รับตาทงเฮมาด้วยเลยแล้วกัน เจอกันห้าโมงเย็นที่ร้านเดิมของเรานะ]
“ค่ะซีวอน แล้วเจอกันนะคะ”
[ผมรักคุณนะที่รัก]
“ฉันก็รักคุณคะ”
หลังจากมารดาวางสาย ตามปกติแล้วทงเฮมักจะส่งสายล้อเลียนพ่อกับแม่ที่ชอบหวานออกสื่อกันเสมอ แต่เนื่องจากครั้งนี้คนเป็นแม่พูดจาเข้าหู ช่วยชีวิตเค้าไว้ด้วยการไม่ฟ้องคุณป๊าถึงวีรกรรมครั้งที่เก้าของทงเฮ หัวทุยๆกับเส้นผมนุ่มนิ่มสีน้ำตาลไหม้จึงเอนซบคุณแม่อย่างออดอ้อน
“เค้ารักแม่ที่สุดอะ”
“น้อยๆหน่อยเชวทงเฮ อยู่ต่อหน้าคุณครู ก็หัดอายเค้าบ้าง”
“แหม คนกันเองทั้งนั้น เนอะๆ ซอนแซงนิม” คยูฮยอนหลุดขำหน่อยๆ ให้กับความฉอเลาะของเด็กชายทงเฮ นิสัยทะเล้น แบบนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าทงเฮได้มาจากใคร เหมือนกับซนดาราที่เขารู้จักไม่มีผิดเพี้ยน
เพราะความทะเล้นออกนอกหน้า ทำให้ซนดาราเองก็ทนไม่ไหว มือเรียวจึงตีก้นลูกชายตัวดีไปหนึ่งเพี้ย ร่างเล็กร้องแหวกลางอากาศ ขณะที่กำลังทำหน้าระรื่นใส่คุณครูพละ
“คยูฮยอน เราต้องไปก่อนนะ นัดกับซีวอนเอาไว้นะ”
“ครับ”
“ทงเฮ ไปเอากระเป๋า แล้วกลับพร้อมแม่เลย คุณป๊าของเธอรออยู่” ทงเฮทำท่าตะเบ๊ะรับ แล้ววิ่งฉิวออกไปจากบริเวณนั้นทันที จึงมีเพียงแค่คยูฮยอนกับซนดาราเท่านั้น ที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองในขณะนี้
“เอ่อนี่นามบัตรเรา ไว้คยูฮยอนมีอะไร หรือเจ้าทงเฮก่อเรื่องอะไรอีก ก็โทรหาเราได้นะ” มือแกร่งรับนามบัตรของคนตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มอ่อน และก่อนที่เพื่อนเก่าจะเดินจากไป เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“สุขสันต์วันเกิดนะครับดารา”
“คยูฮยอนจำได้ด้วย…ขอบใจนะ” ซนดารายิ้มแย้มทันที เมื่อไม่คิดว่าเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันถึงยี่สิบปี จำวันเกิดของเธอได้
ผมต้องจำได้สิครับ ในเมื่อมันเป็นวันเกิดของผู้หญิงที่ผมรักที่สุด
มันเป็นวันสำคัญสำหรับผม วันที่พระเจ้าส่งคุณมาเพื่อเป็นผู้หญิงที่ผมหลงรักหมดหัวใจ
.
.
.
.
“แม่กับซอนแซงนิมรู้จักกันตอนไหนหรอ” ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม เอ่ยถามคนเป็นแม่ที่กำลังขับรถตรงไปยังที่นัดหมายกับสามี
“แม่กับคยูฮยอน รู้จักกันนานแล้วแหละ ตั้งแต่เรียนมัธยมปลายโน้น”
“นานกว่ารู้จักกับคุณป๊าอีกหรอ” ซนดาราเหลือบมองลูกชายตัวน้อยหน่อยๆ แววตาใสแจ๋วของทงเฮ มีแววอยากรู้อยากเห็นเต็มประดา หญิงสาวเลยยิ้มก่อนตอบ
“นานกว่า แม่กับคยูฮยอนเรียนที่เดียวกันตั้งแต่มัธยมต้น แต่เพิ่งจะมารู้จักกันก็ตอนมอปลาย แถมตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราก็เรียนคณะเดียวกันอีก”
“โห เขามาจีบแม่รึเปล่าเนี่ย”
“ทำไมคิดว่างั้นละ”
ทงเฮเดาะลิ้นก่อนตอบ “ก็แม่ของทงเฮสวยนี่~” ร่างเล็กหัวเราะคิกอย่างมีความสุข อดไม่ได้ที่ซนดาราจะเอื้อมมือไปบิดแก้มนิ่มของลูกชาย
“เราก็สวยเหมือนกันแหละ”
“ไม่นะแม่ หยุดพูดเลย เพราะไอ้ยองอุนมันพูดแบบนี้แหละ มันหาว่าทงเฮเป็นเด็กตุ๊ด ทงเฮเลยต่อยมันคว่ำเลย”
“อะไรนะ นี่ไปต่อยเพื่อนด้วยหรอ” ซนดาราแทบจะเหยียบเบรกกะทันหัน เมื่อได้ยินวีรกรรมของลูกชายที่ยังไม่ได้รับรายงาน
“ก…ก็ วันนี้ ที่ทงเฮทำกระถางต้นไม้หล่นใส่หัวซอนแซงนิมนั่นแหละ เพราะไอยองอุนมันจะแก้แค้นทงเฮ ทงเฮก็เลยวิ่งหนีไปชนกระถางต้นไม้ตรงระเบียง ตกลงไป…โป๊ะเช๊ะ!! ใส่หัวซอนแซงนิมที่อยู่ชั้นหนึ่งพอดีเลย แฮะๆ” ทงเฮเล่า ยกนิ้วขึ้นมาจิ้มกันจึกๆ
ซนดาราอยากจะเอาศีรษะโขกกับพวงมาลัยแรงๆสักที เมื่อได้รู้ที่มาที่ไปของแผลบนศีระษะของคยูฮยอน เชวทงเฮทโมนจริงๆ ต่อยเพื่อนจนคว่ำแล้วยังจะไปสร้างปัญหาให้คุณครูผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีก
“นั่นแหละ แม่อย่าไปบอกคุณป๊านะ ทงเฮไม่ใช่คนผิด มันเป็นอุบัติเหตุ”
“จะรับไปพิจารณาแล้วกัน ถ้าทำตัวดี ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้”
“อะไรกัน!!”
“คุณป๊าาาาาาา!” ร่างบอบบางของเด็กชายอายุสิบเจ็ด วิ่งถลาเข้าสู่อ้อมกอดของบิดาทันทีที่พบหน้า คนบ้านนี้เขากะเวลาถูกกันเสียจริง พอรถของซนดาราจอดเข้าที่หน้าร้านอาหาร เชวซีวอนก็ลงมาจากรถพอดี
ใบหน้าหวานสวยเหมือนมารดาไม่มีผิดเพี้ยนซุกอยู่ในอ้อมกอดของคนที่ตัวเองเรียกว่าคุณป๊า เชวทงเฮออดอ้อนพ่อจนหน้าหมั่นไส้ จนซนดาราที่เดินตามมาทีหลังอดตีก้นลูกชายไม่ได้
“อ๊ะ! คุณป๊าดูสิ แม่ทำร้ายทงเฮแหละ อิจฉาละซี่~ ที่คุณป๊ารักทงเฮมากกว่า คิก”
“มันน่านักนะ” เชวซีวอนบิดแก้มลูกชายด้วยความหมันเขี้ยว ก่อนจะดันตัวบอบบางของลูกชายตัวน้อยออก แล้วผละไปเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ พร้อมกับหยิบดอกไม้ช่อโตออกมา
“สุขสันต์วันเกิดครับที่รัก”
หญิงสาวรับดอกไม้ช่อสวยมาไว้ในมือ รอยยิ้มกว้างแสนสวยประดับบนใบหน้าด้วยความรู้สึกยินดี ตลอดเวลาที่รักกันมา เชวซีวอนทำให้เธอมีความสุขเสมอ
“เลี่ยน~” เสียงห้าวน้อยๆ ร้องล้อเลียนพ่อกับแม่ที่บังอาจมาหวานใส่กันต่อหน้าทงเฮ ร่างเล็กอมยิ้มแก้มตุ่ยเมื่อเห็นทั้งพ่อและแม่รักกันหวานชื่นขนาดนี้
“ไปกินข้าวดีกว่า คุณป๊ากับแม่เลิกหวานเมื่อไหร่ ก็ตามเข้าไปนะ ทงเฮไปก่อนละ” พูดจบก็เดินลิ่วๆ เข้าไปยังร้านอาหาร ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทั้งสองต้องส่ายหัวกับความทะเล้นของลูกชายสุดที่รัก
.
.
.
.
.
“เอ่อ คุณคะ วันนี้ฉันไปโรงเรียนของตาทงเฮ”
“แม่!” ทงเฮที่กำลังจะเอาลอปเตอร์เค้าปากต้องยิ้มค้าง ไม่รู้ว่าที่แม่พูด กำลังจะฟ้องเรื่องทงเฮให้ป๊าฟังหรือจะพูดเรื่องอื่นกันแน่
“ฉันเจอคยูฮยอนด้วยคะ”
“คยูฮยอน?...โจคยูฮยอนคนนั้นนะหรอ”
“ค่ะ ไม่ได้เจอกันเสียนาน เค้าไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ยังดูเหมือนเดิมไม่มีผิด”
“อ้าว นี่คุณป๊ารู้จักซอนแซงนิมด้วยหรอ”
“รู้สิเจ้าตัวเล็ก ตอนคุณป๊าจะเข้าไปทำความรู้จักของแม่เรา ก็ผ่านทางคยูฮยอนนี่แหละ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นแฟนกับแม่เรา แต่ไปสืบมาเลยได้ความว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น”
“อ๋อ~” ทงเฮร้องอ้อ ยิ้มเรียงฟันซี่ขาว ก่อนจะตักลอปเตอร์เข้าปากอย่างสบายใจ ...ก็แม่ไม่ได้จะแฉเรื่องของทงเฮนี่นา
“แล้วคยูฮยอนเป็นยังไงบ้าง สอนอยู่ที่โรงเรียนของทงเฮใช่มั๊ย”
“ใช่ค่ะ แต่น่าแปลกนะคะ คยูฮยอนสอนวิชาพละ ไม่ได้สอนภาษาอย่างที่ควรจะเป็น”
“ทำไมละแม่ ซอนแซงนิมเก่งภาษาหรอ”
“ใช่นะสิ ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็สอบเข้าด้วยคะแนนอันดับหนึ่งเชียวนะ คยูฮยอนน่ะ เก่งภาษามาก พูดได้ตั้งห้าภาษา แต่จะให้เก่งที่สุดนะ ก็ต้องภาษาอังกฤษ”
“โห” สมองน้อยๆกำลังประมานผล เมื่อได้รับรู้ข้อมูลใหม่ของคุณครูพละ
“แล้วคุณได้ถามเขารึเปล่า ว่าหลังจากนั้น เขาหายไปไหนมา”
“หาย? ซอนแซงนิมหายไปไหนหรอ”
“ก็ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ตอนปีสองเทอมสอง จู่ๆ คยูฮยอนก็ดรอปเรียนเอาไว้ แล้วหายหน้าหายตาไปเลย แม่กับเพื่อนๆก็ติดต่อไม่ได้”
“อื้ม พอหลังจากพ่อกับแม่คบกันได้ไม่นาน พ่อก็ว่าจะเลี้ยงขอบคุณคยูฮยอนสักหน่อย ที่ทำให้พ่อได้คบกับแม่ แต่แล้วก็หายไปเลย”
“ทงเฮว่ามันแหม่งๆนะ”
“ยังไงฮะ เจ้าตัวเล็ก”
“ไม่รู้ ไม่เดาดีกว่า คุณป๊า~ ทงเฮอยากทานเนื้อชิ้นนั้นจังเลยฮะ” เสียงใสร้องอ้อนพ่อ สายตาวิ้งวับส่งไปยังเสต๊กเนื้อชิ้นใหญ่น่าทานบนจานของเชวซีวอน
ทงเฮอาบน้ำปะแป้งหอมฉุยแล้วก็ตรงมาโรงเรียนปกติ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงที่วันนี้คุณครูเวรที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนจะเป็นคุณครูคยูฮยอนที่มีเรื่องกับทงเฮไปเมื่อวาน
“ซอนแซงนิม สวัสดีฮะ” ใบหน้าหวานสวยฉีกยิ้มสดใสแบบเด็กร่าเริง(เกิน)ทั่วไป คยูฮยอนเหมือนโดนขโมยลมหายใจ ยืนนิ่งเหมือนเสาไฟ เมื่อรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกศิษย์ซ้อนทับเข้ากับใบหน้าของอีกคน
“ซอนแซง………..นิ ม…?”
กว่าจะหลุดออกจากภวังค์ได้ คนตัวเล็กตรงหน้าก็ต้องลงทุนโดดหยองๆ แล้วโบกมือไปมาเพื่อเรียกสติ
“สวัสดีทงเฮ”
“ซอนแซงนิมเป็นเวรวันนี้หรอฮะ”
“อื้ม ครูเป็นเวรวันนี้”
“งั้นก็ตั้งใจทำงานนะฮะ ซอนแซงนิม สู้ๆ!” บอกจบก็วิ่งตัวปลิวเข้าโรงเรียนไปเลย คยูฮยอนหัวเราะเบาๆ ให้กับคนตัวเล็กที่วิ่งหลังไวๆ ไปกลางสนามหญ้าแล้ว เหมือนกันไม่มีผิดเลยนะ …ซนดารา
.
.
.
.
TBC...
Hudchild Talk
โกรธเรามั๊ยคะ ที่ให้ซีวอนมีภรรยาเป็นผู้หญิง
อย่าโกรธเลยนะ มันเป็นแค่บทบาทสมมติ ><’
ถ้าบ้านไหนมีลูกชายแบบเชวทงเฮ คงปวดหัวตาย -*-
ไม่ได้ถอดแบบความแมนของคุณพ่อเชวมาเลย
เอ่ออ อ ขอถามหน่อยนะคะ อยากอ่านเรื่องนี้แบบใสๆ หรือดราม่า หว่า
10/05/55
ความคิดเห็น