ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Just for you [1]
ก่อนวันคริสมาส 1 อาทิตย์นานะได้จับจองเที่ยวบินไปยังชิคาโกเพื่อที่จะไปหาคนพิเศษของตนอย่างไร้ซึ่งการบอกกล่าวล่วงหน้าเหมือนกับทุกครั้ง เที่ยวบินที่นานกว่าสิบชั่วโมงทำเอาใจของหญิงสาวผู้นี้บินไปหาอีกฝ่ายล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ก้าวเท้าขึ้นเครื่อง
ทันทีที่เท้าแตะถึงพื้นร่างบางก็แทบจะเรียกได้ว่ากระโจนออกจากสนามบินเพราะความที่อยากจะเจอกับเจ้าของหัวใจของตนที่ตอนนี้คงยังนอนหลับสบายไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่าตนกำลังจะไปหาหลังจากที่เมื่อส่งอีเมล์หาเมื่อคืนวาน เมื่อออกมาจากอาคารผู้โดยสารก็เรียกรถแท็กซี่ให้จอดอย่างรวดเร็วและยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่จดที่อยู่ของที่พักของอีกฝ่ายให้กับคนขับรถ
รถโดยสารขนาดเล็กมาจอด ณ ตึกขนาดใหญ่ที่ตั้งสูงตระหง่านตาจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นอาคารที่พักอาศัย ถ้าหากไม่เข้าไปดูและมองแต่ภายนอกคงจะคิดว่าตึกหลังนี้เป็นอาคารสำนักงานไม่ก็บริษัทยักษ์ใหญ่อะไรซักอย่างอย่างแน่แท้ มาถึงตรงนี้ดูจะไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นถ้าหากเจ้าหน้าที่และพนักงานรักษาความปลอดภัยยอมให้นานะเข้าไปแต่โดยดี
ปี๊--------บ เสียงแหลมสูงจากเครื่องตอบรับภายในห้องดังขึ้นปลุกร่างบางที่ยังคงนอนหลับอยู่บนที่นอนนุ่มขึ้นมาจากภวังค์ฝันให้ลุกขึ้นมาตอบรับ
“....คะ...” “ขออภัยที่มารบกวนนะครับ แต่ว่ามีบุคคลน่าสงสัยท่านหนึ่งอยากที่จะพบกับคุณให้ได้น่ะครับ” พนักงานฝ่ายต้อนรับพูดออกมาทำให้ร่างบางสงสัยเป็นอย่างมากและหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่มาสวมใส่ก่อนที่จะลงไปยังชั้นล่างเพื่อที่จะเจอกับเรื่องที่ทำให้แปลกใจอย่างไม่น่าเชื่อ
“อายะจ๋า ช่วยชั้นหน่อยสิ” นานะยิ้มหน้าตายเมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมาหาหลังจาที่พนักงานติดต่อขึ้นไปและตอนนี้ตนก็ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยยืนขนาบข้างซ้าย ขวา เหมือนกับว่าเป็นผู้ร้ายคดีลอบวางระเบิดยังไงยังงั้น
“.........ต้องช่วยด้วยเหรอ? เธอน่าจะบอกนะว่าจะมาหาชั้นน่ะ” อายาโกะยืนมองอีกฝ่ายด้วยอาการคนนอนไม่พอแล้วความดันต่ำเล่นเอาอีกฝ่ายทำหน้าเหวอไปเลยด้วยอาการตกใจ
“ง่า....เอ่อ.....อย่าอารมณ์เสียสิจ้ะ อายะ เดี๋ยวเค้าเลี้ยงข้าวเช้านะ ไม่ว่าอะไรเค้าก็จะเลี้ยงหมดทุกอย่างเลยน๊า แต่ตอนนี้ช่วยเค้าหน่อยสิ” นานะทำเสียงออดอ้อนแต่หน้าตากลับแฝงไว้ด้วยความทะเล้นไม่เสื่อมคลาย
“.........อาหารจีนชุดใหญ่เป็นมื้อค่ำ” อายาโกะคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา
“OK ได้เลยจ้า จะชุดใหญ่ ชุดเล็ก หรือโต๊ะจีนเค้าก็จะเลี้ยง แต่ช่วยเค้าด้วยน๊า” นานะส่งสายตาวิงวอนดั่งลูกหมาไปให้อีกฝ่าย ใบหน้าที่เหมือนกับเลียนแบบทาช่ามาแทบจะทั้งหมดทำเอาอายาโกะอดที่จะขำอย่างไม่กลั้นเอาไว้ไม่ไหว
เมื่อปัญหาทุกอย่างเคลียร์เรียบร้อยอายาโกะก็พานักโทษสาวตัวแสบขึ้นมายังห้องไต่สวนซึ่งอยู่เกือบจะชั้นบนสุด พอถึงห้องแทนที่ นักโทษสาวจะสลดแล้วนั่งอยู่นิ่งๆกลับลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นเหมือนกับลิงจนสาวเจ้าของห้องอดที่จะรู้สึกหน่ายใจและกุมขมับไม่ได้
“เพิ่งจะเคยมาที่ห้องของเธอครั้งแรกเลยนะเนี่ย อายะ” นานะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างไปหมดเมื่อได้มาที่ที่พักของอายาโกะครั้งแรก
“ก็แหงล่ะ เธอไม่เคยมาที่ชิคาโกแล้วชั้นก็ไม่เคยชวนเธอมาด้วย” อายาโกะถอนหายใจเล็กๆกับท่าทางที่แสดงความเป็นเด็กของอีกฝ่าย
“........แล้วคิดไงถึงมาหาชั้นล่ะ นานะ ชั้นจำได้ว่าในเมล์เธอบอกว่าจะฉลองกับพวกเพื่อนที่มหาวิทยาลัยแล้วก็พวกชิอากิไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ชั้นคิดถึงเธอนี่นา ไม่เห็นเธอกลับไปญี่ปุ่นตั้ง 2 เดือนชั้นเลยเคลียร์ตารางเรียนช่วงคริสมาสจนถึงปีใหม่ให้ว่างจะได้มาหาเธอไง ส่วนเรื่องที่บอกในเมล์น่ะ....โก-หก-จ้า อายะ” นานะยังคงยิ้มหน้าตายโชว์ลักยิ้มอยู่เช่นเคย
“เธอเนี่ยน๊า ถ้าจะมาก็น่าจะบอกกันก่อนนะ ชั้นเพิ่งจะเคลียร์งานที่ต้องส่งเสร็จเมื่อตอนตี 2 เอง ถ้าหากผิวชั้นเสียไปจะทำไงยะ ยัยบ้า”
“.......งั้นอายะก็นอนต่อสิ ชั้นจะไม่กวนเธอหรอกนะ” อยู่ๆรอยยิ้มที่แฝงความนัยก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าที่ดูทะเล้นของนานะ
“อย่างเธอเนี่ยนะ.........ชั้นว่าเธอจะลักหลับชั้นสิไม่ว่า” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่ร่างบางก็ทิ้งตัวลงนั่งหลังพิงกับหลังของอีกฝ่ายที่ลงไปนั่งบนโซฟาตัวยักษ์
“ฮะ ฮะ ฮะ ยังไงชั้นก็ไม่กลายร่างเป็นหมาป่าพร่ำเพรื่อหรอกน่า อายะ” นานะคว้ามือของอายาโกะมากุมไว้และยกขึ้นมาจูบที่หลังมือเบาๆแต่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่ายตามปกติ
“.......อายะ.....อายะ....เฮ้ หลับแล้วเหรอ?” นานะหันไปมองเมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับมา อายาโกะที่พอนั่งพิงหลังกับอีกฝ่ายก็หลับแทบจะในทันทีก็ค่อยๆเลื่อนตัวลงมานอนหนุนตักของนานะ
นานะไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวนอกจากยิ้มอย่างดีใจที่อีกฝ่ายยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อสังเกตเห็นว่าทั้งเสื้อคลุมและชุดนอนของคนที่นอนหนุนตักนั้นบางจนเกินไปนานะก็ถอดเสื้อขนสัตว์ตัวหนาของตนออกมาห่มให้อีกฝ่ายทั้งที่ตนเองก็หนาวจนแทบจะทนไม่ไหวแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาหยิบผ้าห่มมาห่มเพราะกลัวว่าฝ่ายที่หลับนั้นจะตื่นขึ้นมา
ฮัดเช๊ยยยยยยยยย!!!
“เป็นอะไรมากไหมนานะ น้ำมูกไหลเชียว” อายาโกะล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบน้ำที่จมูกของอีกฝ่าย
“ก็นะ......แค่มีน้ำมูกเอง ยาก็กินแล้วด้วย กลับไปกินวิตามินซักหน่อยพรุ่งนี้ก็หายแล้วล่ะอย่าห่วงเลย อายะ” นานะคว้ามือของอีกฝ่ายขึ้นมากุมเอาไว้แล้วซุกเข้าไปในกระเป๋าของเสื้อโค๊ดตัวโคร่ง
“ทำแบบนี้เดี๋ยวรอบข้างก็มองแปลกๆหรอก นานะ” อายาโกะพยายามจะดึงมือกลับมาแต่ก็ไม่สำเร็จทำให้มือของนานะยิ่งกุมแน่นขึ้นไปอีก
“ใครจะมองก็มองไปสิ ชั้นน่ะรักเธอจริงๆนะ เธอเองก็รู้นี่ ใครจะมองยังไงชั้นก็ไม่สนหรอก” นานะคลี่ยิ้มหวานทำเอาอีกฝ่ายอดที่จะใจเต้นและหน้าแดงไม่ได้
“........เธอเนี่ยน๊า ยังบ้าไม่หายอีกนะไอ้นิสัยทำอะไรไม่คิดแบบนี้น่ะ” อายาโกะยกมือที่เหลืออีกข้างขึ้นมาปกปิดใบหน้าของตนเอาไว้อย่างไม่มิดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ฮะ ฮะ ฮะ ก็นะ ชั้นก็คือชั้น ชั้นเป็นของชั้นอย่างนี้มานานแล้วนี่นา” นานะเริ่มหัวเราะอย่างยียวนกวนคนข้างๆ
“จ้า จ้า” อายาโกะตอบกลับอย่างหงุดหงิดใจพลางคิดที่จะส่งคนข้างๆไปเข้าโรงพยาบาลโรคประสาทแก้อาการเพี้ยนเกินรับแบบนี้
การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของชายคนหนึ่งมาตั้งแต่เลี้ยวหัวมุมตึกข้างหน้าที่พักของอายาโกะมาโดยตลอดและดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่รู้ตัวเลยซักนิด จนกระทั่งจู่ๆชายคนนี้วิ่งเข้ามาและพยายามจะกระชากกระเป๋าถือใบเล็กจากวงแขนของอายาโกะ
“ว๊าย!!!” อายาโกะตกใจจนเผลอตัวร้องออกมาแต่ก็ไม่ยอมที่จะปล่อยมือจากกระเป๋าถือใบนี้ นานะที่หันกลับมามองคนข้างๆและจะตวัดปลายเท้าเข้าใส่ชายที่ไม่ประสงค์ดีผู้นี้ก็ถูกร่างของอายาโกะที่ถูกผลักกระเด็นมากระแทกใส่ร่างกายก่อนที่จะเสียการทรงตัวและล้มลงไปบนถนนที่มีรถยนต์วิ่งผ่านไปมาอย่างพลุกพล่าน
ในชั่วเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่รถยนต์ที่วิ่งผ่านมาจะพุ่งเข้าใส่นั้นทุกอย่างเหมือนกับภาพสโลวโมชั่นที่ทุกอย่างดูเชื่องช้าไปหมด แต่สิ่งที่นานะสนใจก็คือ อายาโกะที่หลับตาสนิทและกอดวงแขนของตนเอาไว้แน่น นานะแกะมือของอีกฝ่ายออกก่อนที่จะใช้แรงทั้งหมด ผลักให้ร่างของอีกฝ่ายออกห่างจากตนเองแล้วขึ้นไปอยู่บนฟุตบาทที่ปลอดภัยจากยานพาหนะขับเคลื่อนความเร็วสูง แรงผลักที่ดันให้อีกฝ่ายนั้นปลอดภัยกลับส่งผลให้ตัวนานะเองนั้นกระเด็นออกไปบนถนนมากกว่าเดิม
ร่างบางที่ถูกผลักจนขึ้นมานั่งบนฟุตบาทนั้นรีบหันกลับไปมองอีกฝ่ายแทบจะในทันที สิ่งที่เห็นและสิ่งที่ได้ยินนั้นทำให้อายาโกะอยากที่จะไม่ให้เป็นจริง
เสียงล้อรถยนต์เบียดกับถนนเพื่อที่จะเบรกอย่างกะทันหันจนเกิดเสียงแหลมสูงดังลั่นขึ้นอย่างที่ต้องเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง
หยดน้ำสีแดงเหมือนกับกลีบดอกกุหลาบแดงกระจายไปทั่วพร้อมๆกับร่างของคนที่คุ้นเคยลอยขึ้นมาตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้ายามเช้าที่ทำให้รู้สึกว่าวันนี้จะมีแต่เรื่องที่ดีๆเกิดขึ้น
ร่างที่ถูกย้อมเป็นสีแดงค่อยๆล่วงหล่นลงมาสู่พื้นคอนกรีตและนอนแน่นิ่งเหมือนกับว่ากำลังหลับอย่างที่ไม่มีใครจะสามารถปลุกให้ตื่นขึ้นมาได้อีก
เรียวปากที่หนักเหมือนกับหินค่อยๆขยับและกรีดร้องออกมาเหมือนจะขาดสิ้นใจ
ไม่นะ!!!!!!! นานะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ความคิดเห็น