คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 4 ( 100 )
หนึ่งคืนที่ผ่านไป ห้องพักวีไอพีสุดหรูของโรงแรมระดับห้าดาวของแกรนด์รอสเซลโฮเต็ลซึ่งมีราคาแพงติดอันดับในโลก
ก็ไม่สามารถดึงดูดความน่าสนใจจากครองขวัญได้แม้แต่น้อย ทุกวินาทีเฝ้ามองแต่ประตูเพื่อรอว่าเมื่อไรคริสเตียนจะกลับเข้ามาพาเธอไปพบเขา
สาวน้อยลุกขึ้นเดินไปมาด้วยความร้อนใจและแทบจะทนรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
"คุณ"
ครองขวัญรีบวิ่งไปที่ประตู ทันที่ที่ได้ยินเสียงคริสเตียนเปิดประตูห้องเข้ามาหา
"เขาว่าไงบ้างคะ
ได้ข่าวโซเฟียไหม" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนเพราะเป็นห่วงเพื่อน
และอยากจะรู้เหลือเกินว่าตอนนี้อัลเฟรโด้ตามหาโซเฟียไปถึงไหนแล้ว
"เราแกะรอยคุณโซเฟียได้บ้างแล้ว
และตอนนี้กำลังระดมคนตามหากันอยู่ครับ"
คริสเตียนบอกตามที่อัลเฟรโด้สั่งให้พูดได้
เจ้านายหนุ่มกำชับว่าห้ามพูดเรื่องความคืบหน้าในการหายตัวไปของโซเฟียให้ใครฟัง
เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ใครเป็นใคร
และไม่รู้ว่าใครจะมีส่วนรู้เห็นต่อการหายตัวไปครั้งนี้หรือไม่
อัลเฟรโด้ยังระบุมาด้วยว่า จะเป็นคนอธิบายให้ครองขวัญรู้เอง
เพื่อจับตามองว่าเจ้าหล่อนจะมีส่วนรู้เห็นต่อการหายตัวไปของคุณหนูเบลลูชชี่หรือไม่
ดังนั้นคริสเตียนจึงไม่พูดอะไรมาก
"ขอให้โซเฟียปลอดภัยอย่าเป็นอันตรายเลย
แล้วเจ้านายคุณจะทำไงต่อคะ เพื่อนฉันจะได้กลับมาวันนี้ไหม" ครองขวัญถามต่อด้วยความอยากรู้
เขาเป็นถึงมาเฟียที่มีอิทธิพลมากมายมหาศาล
ถ้าแกะรอยได้แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากในการพาตัวเพื่อนรักกลับมา
ขอให้โซเฟียอย่าได้พบเจอเรื่องร้ายใดๆ เลย
"เรื่องนี้คงต้องถามคุณอัลเฟรโด้เองแล้วล่ะครับ
เชิญ" ผู้ช่วยหนุ่มหลีกทางให้พร้อมกับเดินนำไปก่อน
ครองขวัญไม่รอช้ารีบเดินตามคริสเตียนไปทันที
อัลเฟรโด้พิศดูใบหน้าหวานที่กำลังจ้องมองหน้าตนในเวลานี้เพื่อรอฟังคำตอบด้วยความคาดหวัง
ทันทีที่ครองขวัญเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาได้นั้น
เจ้าหล่อนก็เอาแต่ถามไม่หยุดซ้ำยังออกคำสั่งโน่นนี้ที่จะให้เขาไปตามหาตัวโซเฟียให้เจอโดยเร็วที่สุดอีกด้วย
"คุณใจเย็นอยู่ได้ไงคะ
คนหายไปทั้งคนแบบนี้ คุณเป็นสามีประสาอะไรไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับการหายตัวไปของภรรยาตัวเองเลย"
ครองขวัญรัวคำพูดแกมประชดออกมาอย่างไร้ความเกรงใจ
เธอพอรู้มาบ้างว่าสุภาพบุรุษที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร
ทรงอิทธิพลมากแค่ไหนในสถานที่แห่งนี้
แต่ครองขวัญก็ไม่สนและยิ่งไม่ไว้หน้าหรือหลงเหลือความเกรงกลัวใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่ออัลเฟรโด้ไม่คิดจะกระตือรือร้นตามหาตัวเพื่อนรัก
"เธอรู้อะไรเกี่ยวกับการหายตัวไปของโซเฟียบ้าง"
ท่านประธานหนุ่มย้อนถามอย่างใจเย็น
ถึงอัลเฟรโด้จะรู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไรที่ครองขวัญถามไม่หยุด
และใช้น้ำเสียงที่ออกคำสั่งซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำมาก่อน
แต่เขาก็ไม่ได้สั่งให้คริสเตียนลากตัวเธอออกไป
ซ้ำยังอดทนฟังคำประชดเหน็บแนมนั้นได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
ที่สำคัญมันรู้สึกดีด้วยซ้ำไปที่ได้เฝ้าดูเจ้าเรียวปากอิ่มขยับไปมาบนใบหน้าหวาน
เผลออดคิดไม่ได้ว่าถ้าริมฝีปากนั้นมาขยับไปมาอยู่บนเรือนร่างของตนแล้วมันจะดีแค่ไหน
"ฉันไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
คุณช่วยบอกฉันทีได้ไหมว่า คุณจะตามเพื่อนฉันกลับมาได้เมื่อไร"
ครองขวัญจ้องหน้าเขาไม่วางตา
"ตอบฉันก่อนว่าโซเฟียพูดอะไรกับเธอบ้าง
ก่อนการหายตัวไป"
"ไม่พูดอะไรเลยค่ะทุกอย่างปกติ
และฉันแน่ใจว่าไม่มีใครรู้เรื่องการหนีครั้งนี้ แต่เอ๊ะ..." หญิงสาวเอะใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
"อะไร"
อัลเฟรโด้รีบถามด้วยความอยากรู้
"คุณทำอะไรเพื่อนฉันหรือเปล่า
ทำไมโซเฟียถึงหนีไปแบบนี้ หรือว่าคุณบังคับให้เธอแต่งงานด้วย"
ใช่แล้ว
ทำไมครองขวัญไม่เอะใจเรื่องนี้ เธอเองก็แปลกใจไม่ใช่น้อยที่จู่ๆ
โซเฟียก็โทรศัพท์ไปบอกว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเพื่อนเก่าสมัยเด็ก
เท่าที่จำได้ชื่อของอัลเฟรโด้ไม่เคยหลุดออกจากปากเพื่อนรักให้ได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าจะสงสัยว่าเพราะอะไรถึงได้มีการแต่งงานแบบสายฟ้าแล่ป
แต่ครองขวัญก็ไม่พูดอะไรนอกจากแสดงความยินดีกับข่าวมงคลของเพื่อนรัก
และรับปากว่าจะเดินทางมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวในวันงานให้
เรื่องการหายตัวไปของโซเฟียนั้น
ครองขวัญเพิ่งคิดได้เมื่อครู่นี้เองว่า
บางทีอาจไม่ใช่การลักพาตัวอย่างที่ใครหลายคนสงสัย
เพราะจนบัดนี้ยังไม่มีฝ่ายตรงข้ามหรือใครแสดงตัวว่าคุณหนูแห่งตระกูลเบลลูชชี่อยู่ในกำมือ
และต้องการการแลกเปลี่ยนใดๆ ทั้งสิ้น
ดังนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าการหนีงานวิวาห์ครั้งนี้เป็นเพราะเขา
"ฉันไม่เคยบังคับใครทั้งนั้น"
น้ำเสียงห้วนดุของชายหนุ่มทำให้คริสเตียนที่ยืนอยู่มุมห้องต้องเงยหน้ามอง
เพื่อสังเกตสถานการณ์ว่าตอนนี้เจ้านายของตนเป็นเช่นไร
"การแต่งงานเกิดจากความเต็มใจของโซเฟียเอง
ไม่มีการบังคับอะไรทั้งนั้น"
ถ้าอย่างนั้นอะไรเป็นสาเหตุในการหายตัวไปของโซเฟียเล่า
ครองขวัญคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก
"ตกลงเธอไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม"
อัลเฟรโด้ถามย้ำอีกครั้ง
"โซเฟียไม่ได้พูดหรือทำอะไรที่แปลก
ผิดปกติเลยใช่ไหม"
"ไม่มีค่ะ"
ครองขวัญส่ายหน้า
ไม่มีความผิดปกติใดที่เธอรู้สึก
คืนก่อนงานวิวาห์ทุกอย่างเป็นปกติ โซเฟียดูสดใสและสวยงามสมกับที่จะเป็นเจ้าสาว
แม้แต่เช้ามืดของวันวิวาห์เจ้าสาวคนสวยก็ทำทุกอย่างปกติ
ไม่มีอะไรให้เอะใจหรือสงสัยเลยแม้แต่น้อย
"ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว
คริสเตียนส่งเธอกลับห้องไป" อัลเฟรโด้ลุกขึ้นยืนพร้อมที่จะออกข้างนอกต่อ
คริสเตียนรีบมาพาครองขวัญกลับไปที่ห้อง
แต่หญิงสาวยืนกรานว่าจะไม่นั่งรอฟังข่าวเฉยๆ
"ไม่นะ
ฉันไม่กลับไปที่ห้อง" ครองขวัญไม่เดินตามคริสเตียนไป
แต่กลับเดินมาหาอัลเฟรโด้แทน
"ฉันขอไปตามหาโซเฟียด้วยได้ไหมคะ"
"เธอควรไปรอที่ห้อง
แล้วฉันจะให้คริสเตียนไปส่งข่าวเป็นระยะ" ชายหนุ่มยืนยันคำเดิม
"ไม่ค่ะ"
ครองขวัญตะโกนลั่นห้อง
"ฉันจะไม่รอฟังข่าวที่นี่
คุณต้องพาฉันไปส่งที่บ้าน"
"ทำไมต้องไปส่งที่บ้าน
ทำไมถึงอยู่ที่นี่ไม่ได้"
ท่านประธานหนุ่มเริ่มไม่ไว้วางใจสาวน้อยตรงหน้าเสียแล้ว
ทีแรกเขาคิดว่าครองขวัญน่าจะไม่รู้เรื่องการหายตัวไปของโซเฟียจริงอย่างที่พูด
แต่เมื่อดูจากท่าทีร้อนรนของเธอแล้ว
มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าหล่อนอาจจะรู้เห็นอะไรกับเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย
"เพราะฉัน
เอ่อ ฉันจะกลับไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่" สาวน้อยหลบตามองที่พื้น
ให้ตายซิ
หัวใจเธอแทบจะหลุดออกมาจากอก ใจสั่นทุกครั้งที่สบตากับเขา
ผู้ชายบ้าอะไรนัยน์ตาช่างมีแรงดึงดูดเสียจนแทบจะระทวยเมื่อต้องอยู่ต่อหน้า
"เธอคงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณป้าอยู่ที่โรงพยาบาล
ที่บ้านไม่มีใครให้เธอต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนอีกแล้ว"
"อะไรนะคะ
คุณแม่เข้าโรงพยาบาลงั้นเหรอ ตั้งแต่เมื่อไรแล้วอาการท่านเป็นไงบ้าง"
สีหน้าและน้ำเสียงสาวน้อยแสดงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
"คงไม่เป็นอะไรมาก
เธอไปรอที่ห้องก่อน ถ้ามีอะไรฉันจะให้คริสเตียนไปตามเอง"
"ขอฉันไปหาคุณแม่ที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ
ฉันสัญญาว่าจะไม่วุ่นวายหรือรบกวนท่านเลย" แววตาสาวน้อยเปล่งประกายอย่างเห็นได้ชัด
"ได้ไหมคะ"
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเมื่อครู่
แปรเปลี่ยนเป็นคำหวานหูที่ทำให้อัลเฟรโด้รู้สึกพอใจขึ้นมาทันที
"เธอกลับไปรอที่ห้องก่อนนะ
ครองขวัญ" อัลเฟรโด้ยืนยันคำเดิมหนักแน่น แม้จะรู้สึกพอใจในน้ำเสียงหวานหู
แต่คนอย่างเขาก็ไม่เคยโอนอ่อนให้ผู้หญิงคนไหนมากล่อมได้ง่ายๆ
"ไม่นะ
คุณ ฉันอยากไปเยี่ยมคุณแม่"
อัลเฟรโด้ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาสั่งให้คริสเตียนพาครองขวัญกลับไปที่ห้องตามเดิม
"คุณไม่มีสิทธิ์กักขังฉันนะ
ตาบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปโรงพยาบาล" ครองขวัญโวยวายลั่นห้อง
ร้องตะโกนไล่หลังคนที่เดินออกไปต่อหน้าด้วยความโมโห
แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องกลับไปรอฟังข่าวเช่นเดิม
ฝากเพจนักเขียนด้วยค่ะ
อิ่มอุ่น
ฝากลิงค์อีบุ๊คนะคะ
|
|
|
ความคิดเห็น