ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
REVENGE OF LOVE : หนี้แค้นแทนรัก (เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย)

ลำดับตอนที่ #12 : คนที่คิดถึง

  • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 49




โต๊ะทำงานที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องเต็มไปด้วยเอกสารและเศษกระดาษรกรุงรัง   ภายในห้องมืดสลัวและอับชื้น   ห้องที่ครั้งหนึ่งน่าจะเคยเรียบร้อยสวยงามเต็มไปด้วยเศษระดาษและกองแฟ้มเอกสาร   หนังสือพิมพ์เดลี่พรอเฟ็ตกางกระจัดกระจายยู่ทั่วฟ้อง

ที่มุมห้องหนึ่ง   โซฟาและโต๊ะเล็กรับแขกถูกตั้งอยู่   บนโต๊ะนั้นมีเศษกระดาษที่ถูกฉีกและเป็นก้อนกลมเกลื่อนกลาด   กระป๋องเบียร์และขวดเหล้านาาๆยี่ห้อร่วมสิบกระป๋องตั้งตระหง่านและล้มลงนอนบุบบี้อยู่บนโต๊ะบ้าง   บนโซฟาปรากฏร่างสูงนอนหลับอยู่เงียบๆ   แว่นตาของเขาเอียงกระเท่เร่   ผมยุ่ง   ร่างกายผมแห้งจนเกือบจำเค้าไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งชายผู้นี้เคยหล่อเหลาแข็งแรง   ในมือของเขามีกรอบรูปอันหนึ่งทาบไว้บนอก   ชายหนุ่มนอนหลับสนิทและไม่สนใจชายผมแดงที่เดินเข้ามาในห้องเลย

"อะไรกันเนี่ย" รอนอุทานอย่างตกใจและมองกราดไปรอบห้อง   เขาเตะเศษกระดาษและกระป๋องเบียร์ไปให้พ้นทาง   รอนขมวดคิ้วและมองสภาพของเพื่อนรักที่ดูแทบไม่ได้เลย   เชายื่นมือไปดึงกรอบรูปนั้นออก   ทันใดนั้นเองที่ร่างที่สงบนิ่งของชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นทันที

"อย่ามายุ่ง!!" แฮร์รี่ตวาดลั่นและกอดกรอบรูปนั้นไว้   รอนเห็นเต็มตาว่ามันเป็นรูปของหญิงสาวผมสีน้ำตาลป็นลอนสวย   ดวงตาสีน้ำตาลของเธอเต็มไปด้วยความสุข  รอยยิ้มกว้างสดใสน่ารักปรากฏบนใบหน้า

"นายเป็นหนักแล้วนะแฮร์รี่!" รอนพูดอย่างกลุ้มใจ   แฮร์รี่บกมือขึ้นกุมศีรษะด้วยความปวดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์   รอนนั่งลงบนโซฟาและมองเพื่อนรักอย่างเหนื่อยใจ

"นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่" แฮร์รี่ถามและล้มตัวลงนอน   รอนมองแฮร์รี่แล้วส่ายหน้า

"เมื่อคืน" รอนตอบ "ขี่ไม้กวาดมาจากแคลิฟอร์เนียเชียวนะ...รู้ว่านายเป็นบ้ายู่ที่ปารีสเนี่ย" รอนดูเหนื่อยมาก   เขาพิงหลังกับโซฟา   แฮร์รี่มองเพื่อนนิดหนึ่งแล้วเลี่ยงมองไปทางอื่น

"นายเป็นบ้ารึแฮร์รี่" รอนถามเน้นเสียง

"เปล่า!" แฮร์รี่พูดเบาๆ

"ไม่งั้นนายจะเมาเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้เหรอ   คิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่...ฮึ! หนีมาเงียบๆแบบนี้มีอะไรกันแน่แฮร์รี่   บอกฉันสิทำไมนายต้องรีบบินมาจากแคลิฟอร์เนียตรงมาที่ปารีสแบบนี้......นาย...."

"เฮอร์ไมโอนี่หายไป" แฮร์รี่พูดเบาๆอย่างเจ็บปวด   รอนอึ้งไปทันที

"ว่าไงนะ!!" รอนลุกพรวดขึ้นทันที   แฮร์รี่รู้แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้

"เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเฮอร์ไมโอนี่โทรมาหาฉันบอกให้ฉันช่วยไปหาเธอหน่อย   เธอดูเหมือนคนไร้สติ  หวาดกลัว   แต่พอฉันมาถึงที่นี่......เธอก็หายไปล้ว" แฮร์รี่เสยผมที่ยุ่งเหยิง  เขาทำหน้าราวกับโลกจะถล่มเอาเสียพรุ่งนี้   รอนเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างเหน็ดเหนื่อย

"แล้วเธอหายไปได้ยังไง!" รอนกัดฟันถาม   แฮร์รี่ส่ายหน้า

"ฉันคิดว่า...เธอคงไม่ได้เต็มใจไป  เพราะตอนที่ฉันมาถึงทีนี่น่ะ...ประตูและหน้าต่างเปิดอยู่  ตู้เก็นรองเท้าก็เปิดไว้...ดูเหมือนเตาผิงจะเพิ่งดับด้วยนะ" แฮร์รี่อธิบาย   รอนถอนหายใจเอือกใหญ่และรู้สึกหนักใจเป็นอย่างมาก   ตอนนี้สิ่งที่รอนกำลังคิดอยุ่นั้นเขาแน่ใจว่าแฮร์รี่เองก็คิดแบบนั้นด้วยเช่นกัน...เพียงแต่เขาไม่อยากพูดออกมาเท่านั้น

"แฮร์รี่...นายคิดว่า..เฮอร์ไมโอนี่ถูกพวกมัลฟอยจับตัวไปใช่มั้ย" รอนพูดอย่างประหม่า ทันใดนั้นเองแฮร์รี่ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น   รอนรีบชักเท้าขึ้นมาบนโซฟาอย่างตกใจ   แฮร์รี่กัดฟัน  ใบหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ   เขาหันมามองรอนอย่างเครียดแค้น

"ถ้ามัลฟอยมันทำอะไรเฮอร์ไมโอนี่ล่ะก็...! ฉันจะฆ่ามัน!" แฮร์รี่พูดอย่างเจ็บแค้น   เขาพยายามระงับสติอารมณ์ขณะที่รอนหรี่ตาลงอย่างพิจารณา  

"แฮร์รี่...นายรู้ตัวรึเปล่า" รอนพูดอย่างเป็นปริศนา   แฮร์รี่หันมามองรอนอย่างไม่เข้าใจ  

"นายหมายความว่าไง" แฮร์รี่ถาม  เขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อรอนกระตุกยิ้มที่มุมปาก

"นายรักเฮอร์ไมโอนี่..." รอนบอก   แฮร์รี่นิ่งอึ้งไปทันทีกับความจริงที่เขาเองไม่เคยรับรู้..........

.......ไอหนาวเกาะกระจกใสจนเป็นฝ้า...เฮอร์ไมโอนี่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาด้านหนึ่งของมุมห้องที่เธอถูกจองจำเอาไว้    ในอ้อมกอดของเธอนั้นคือหนังสือเล่มหนึ่งที่เปิดอ้าไว้อยู่.....ถึงแม้ว่าความทุกข์ส่วนหนึ่งที่ไม่ต้องถูกพันธนาการจะหายแล้วแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังดูซูบผอมอย่างแปลกประหลาด   หนำซ้ำผิวของเธอก็เริ่มขาวซีดแข่งกับผิวของคนที่พาเธอมาที่นี่...มัลฟอย

เธอขยับตัวนิดหนึ่ง...หนังสือที่กอดไว้เลื่อนไถลลงเล็กน้อย  เหมือนจะรู้ตัว  เฮอร์ไมโอนี่กระชับมันแน่นขึ้นอีก และหลับต่ออย่างเป็นสุข...

แต่คนที่นั่งจ้องอยู่ไม่ได้เป็นสุขเลย...เธอดูสวยแม้กระทั่งในเวลานี้   ความงดงามน่ารักอย่างที่ไม่เคยลดลง...เธอดูน่ารักน่าทะนุถนอมในยามที่ไม่ได้ลุกขึ้นมาต่อปากต่อคำกับเขา...เธอกอดหนังสือที่เขาเป็นคนเลือกให้เธอเอาไว้...เธออ่านมัน...ช่างเป็นความจริงที่น่าดีใจที่สุดในโลก

มัลฟอยคุกขเอยู่ข้างโซฟาที่เฮอร์ไมโอนี่งีบหลับมาได้พักหนึ่งแล้ว   ความจริงอยากจะปลุกเธอขึ้นมาชวนทะเลาะเสียหน่อย  แต่เมื่อเห็นว่าเธอกำลังหลับสบาย...แถมยังหลับได้น่ารักขนาดนี้...เขาจึงใจดำปลุกเธอไม่ลง

ใบหน้าขาวนวลอยู่ตรงหน้า...แม้เธอจะซูบซีดลงไปมากแต่ความสวยของเธอก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่นิด...มัลฟอยหลงเคลิ้มไปกับความละมุนละไม...เขาก้มหน้าลงไปใกล้กับใบหน้าของเธอ...ลมหายใจอุ่นๆของเธอเขาสามารถสัมผัสได้..ริมฝีปากสีชมพูจางๆเชิญชวนเขา...มัลฟอยไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้...เขาก้มหน้าลงไปอีก   หวังจะได้สัมผัสกับริมฝีปากนั้น

"ทำอะไร!" ริมฝีปากสีชมพูนั้นเยอขึ้น   ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววดุดัน   มัลฟอยชะงักใบหน้าของเขาไว้...เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาโพลงมองมัลฟอย   ทั้งสองจ้องกันนิ่ง...สายตาของเฮอร์ไมโอนี่เต็มไปด้วยความเย็นชา   แต่มัลฟอยกลับผยอยิ้มที่มุมปาก

"ตื่นซะแล้ว...คนสวย" มัลฟอยกระหยิ่มพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าชู้   เฮอร์ไมโอนี่เงื้อหนังสือขึ้นหมายจะฟาดลงกลางศีรษะของชายหนุ่ม   มัลฟอยเบี่ยงหน้าหลบ   เขาจับข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้และนอนกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน

"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!" เฮอร์ไมโอนี่โวยวายดิ้นสุดแรง   มัลฟอยหัวเราะลั่นราวกับเป็นบ้าและกระชับกอดเฮอร์ไมโอนี่แน่นขึ้นอีก

"เอาสิ! ออกไปให้ได้เลยนะ...แต่ขอบอกให้รู้ว่าฉันเองก็ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อยอย่างที่เธอคิดหรอก..ออกไปให้ได้สิ! แม่คนเก่ง!" มัลฟอยหัวเราะชอบใจ   เขาไขว้ขามาเกี่ยวขาของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ไม่ให้เธอลุกหนีไปได้   ทั้งสองกอดปล้ำกันอยู่บนโซฟา  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นสุดแรง   ทั้งทุบทั้งตีก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้

"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นเธอเจอดีแน่!" เฮอร์ไมโอนี่ขู่ฟ่อ   แต่มัลฟอยกัลบทำราวกับไม่รับรู้อะไร

"เออ...ถ้าออกไปไม่ได้ก็นอนกันอยู่แบบนี้แหละ" มัลฟอยพูดอย่างขบขัน   เฮอร์ไมโอนี่ขบฟันแน่นอย่างโกรธจัด   มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ที่พยายามดิ้นออกไปจากอ้อมกอดของเขา   เขายิ้มนิดหนึ่ง...เป็นยิ้มที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็น...แต่เขาก็อยากจะยิ้มแบบนั้นให้เธอ

"ปล่อยเถอะ...มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้มัลฟอยหดหู่    เธอหยุดดิ้นแล้วแต่เขายังไม่ยอมปล่อยเธอไป...แต่มัลฟอยกลับกอดเธอแน่นขึ้นอีก   เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ขัดขืนอะไร....แต่เธอก็ไม่ได้พอใจที่จะอยู่ในอ้อมกอดของเขา   เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าสถานการณ์มันควรจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้...ยิ่งเธอและเขาด้วยแล้ว...เหตุการ์แบบนี้เป็นสิ่งที่ผิดและไม่ควรจะเกิดขึ้น

"ถ้าฉันบอกว่าไม่ปล่อยล่ะ" มัลฟอยไม่กวนโมโหเหมือนเคย   เขากระซิบที่ข้างหูเธออย่างเสียใจ

"เธอรู้ดีว่า...เธอไม่ควรจะทำแบบนี้" เฮอร์ไมโอนี่บอก   มัลฟอยก้มลงมองเธอ...กลิ่นผมหอมๆเหมือนจะเชิญชวนเขา   มัลฟอยหลับแน่น...เขาไม่อยากจะปล่อยเธอไป

"แต่ฉันอยากจะทำ" มัลฟอยต่อต้าน   เฮอร์ไมโอนี่มองนิ่งไปที่ทางอื่น

"เธอบอกว่าเธออยากจะกอดฉันอย่างนั้นเหรอ..." เฮอร์ไมโอนี่พูดและหัวเราะเบาๆในลำคอ   เรื่องทุกอย่างดูจะตลกและแปลกประหลาดขึ้นทุกวัน...เธอเองก็แปลกที่ไม่ยอมขัดขืนเขา

"ใช่!" มัลฟอยพูด   เฮอร์ไมโอนี่ใจหายวาบ...เขาพูดอะไรออกมา  เขาต้องไม่รู้ตัว!

"เธอพูดอะไรออกมาน่ะ..." เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดอย่างร้อนรน   เธอรีบผลักมัลฟอยออกและลุกขึ้นยืน   แต่มัลฟอยกลับดึงข้อมือของเธอเอาไว้...เขาลุกขึ้นนั่ง   จังหวะเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนี่ล้มลงนั่งบนตักของเขาพอดี

"นี่!" เฮอร์ไมโอนี่รีบร้อง   มัลฟอยแตะนิ้วที่ปากของเธอ

"เธออย่าเพิ่ง...พูดอะไรจะได้มั้ย..." มัลฟอยสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มๆของเฮอร์ไมโอนี่   เธอนิ่งไป...แต่ดวงตายังคงเบิกกว้างอย่างไม่เข้าใจ

มัลฟอยมองใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างหลงใหล...ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เต็มไปด้วยความทะนงตนและความกล้าหาญ...แม้มันจะฉายแววเศร้าบ้างในบางครั้ง...มันก็ไม่เคยทำให้ความหลงใหลของเขาที่มีต่อเธอน้อยลงเลย...ริมฝีปากที่เขาคิดมานานแล้วว่าอยากจะสัมผัสอีกสักครั้ง..และอยากให้เนิ่นนานกว่านี้...เขาหลงใหลทุกอย่างที่เป็นเธอ...จนแทบห้ามใจไม่ได้

"นี่!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง   แต่มัลฟอยรีบฉวยโอกาสจูบที่แก้มของเธอ   เฮอร์ไมโอนี่ผงะนิดหนึ่งอย่างตกใจ   มัลฟอยถอนริมฝีปากออก...เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาของเธอ....แววตาของเฮอร์ไมโอนี่ที่แข็งกร้าวอ่อนลง...เหมือนกับดวงตาสีฟ้าซีดนั้นสะกดเธอเอาไว้   มัลฟอยจูบที่เปลือกตาของเฮอร์ไมโอนี่..จูบที่หน้าผากเนิ่นนาน...เขามองที่ริมฝีปากของเธอ...และประชิดหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ

เฮอร์ไมโอนี่ผงะนิดหนึ่ง   เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ...มัลฟอยวางมือลงบนแก้มของเฮอร์ไมโอนี่  เขาประชิดหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นอีก   เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงหน้าหนี   มัลฟอยขับใบหน้าของเธอให้หันมา...และพยายามจะประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง

"อย่า..." เฮอร์ไมโอนี่ร้องเบาๆและผลักอกมัลฟอย   ชายหนุ่มนิ่งอึ้งปินดหนึ่ง   เฮอร์ไมโอนี่หันมามองมัลฟอยอย่างลำบากใจ   เธอเก็บหนังสือที่ตกอยู่ที่พื้นและรีบเดินไปที่อีกด้านหนึ่งของห้อง   มัลฟอยถอนหายใจ..เขาชันกายลุกขึ้นและเสยผมอย่างเหนื่อยใจ

"เธอ...ไม่ควรจะทำแบบนี้นะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา   มัลฟอยมองด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่....รอให้เธอพูดต่อ

"ทำไม...."

"เธอรู้ดีว่าเพราะอะไร.." เฮอร์ไมโอนี่ตอบด้วยคำตอบที่สั้นกระทัดมากที่สุด   มัลฟอยชะงักไปนิดหนึ่ง   แต่เขาก็พยักหน้าและลุกขึ้นยืน

"หนังสือนี่น่ะ..." เฮอร์ไมโอนี่พูด   มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่   เธอถอนหายใจนิดหนึ่ง

"เอ่อ...สนุกมากเลยนะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างเขินๆ   มัลฟอยอึ้งไปพักหนึ่ง   ไม่คิดว่าเขาจะได้ยินคำพูดนี้จากปากเธอ   เขาเผลอยิ้มออกมา...และยิ้มกว้างเมื่อเฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขา

"เธออ่านจบหมดแล้วเหรอ" มัลฟอยถามเมือเฮอร์ไมโอนี่กอดหนังสือทั้งสามเล่มนั้นไว้ในอกและเดินมาหาเขา   เฮอร์ไมโอนี่หยักหน้าและส่งหนังสือคืนให้เขา   มัลฟอยรับหนังสือมา...เขามองอยู่ครู่หนึ่งอย่างชั่งใจก่อนที่จะมองเฮอร์ไมโอนี่ที่เหมือนกับเสียดายอยู่ครู่หนึ่ง

"ตามมาสิ..." มัลฟอยพูดและเดินที่ประตู   เขาเปิดประตูออก   เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย

"จะไปไหน" เฮอร์ไมโอนี่ถามซื่อๆ

"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอชอบอ่านหนังสือแบบไหนน่ะ...เธอไปเลือกเองดีกว่า" มัลฟอยพูดอย่างไม่ใส่ใจ..แต่เขาเผลอหลุดเก๊กอยู่แล้วเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างและเดินมาที่เขา...มัลฟอยรีบหันหลังและเดินออกไปจากห้องโดยที่มีเฮอร์ไมโอนี่เดินตาม...และตลอดทางที่เดินนั้นเขาก็ต้องแกล้งมองไปทางอื่น..เพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงจัดไว้ไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่เห็น

มัลฟอยเดินนำหน้าเฮอร์ไมโอนี่มาตลอดทาง...เฮอร์ไมโอนี่สงสัยอยู่ว่ามัลฟอยไม่กลังหรือว่าเธอจะแอบฉวยโอกาสนี้หนี...แม้มันจะไม่ได้อยู่ในหัวของเธอตอนนี้ก็ตาม

ในที่สุดมัลฟอยก็พาเฮอร์ไมโอนี่มาถึงห้องสมุด...เขาร่ายคาถาด้วยเสียงเบาๆอยู่สองสามคำประตูก็เปิดออก   มัลฟอยดันหลังเฮอร์ไมโอนี่นิดหนึ่งให้เธอเดินเข้าไป...ห้องสมุดนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงห้องสมุดที่ฮอกวอตส์นิดหนึ่ง   กลิ่นไม้มะฮอกกานีหอมอ่อนๆโชยเข้ามาแตะจมูก   แสงจากดวงตะวันสีเหลืองหม่นจางๆลอดเข้ามาในห้องด้วยหน้าต่างบานใหญ่สูงจรดเพดาน   เฮอร์ไมโอนี่แอบทึ่งเล็กน้อยในใจแต่ก็ทำหน้าเหมือนกับไม่ได้แสดงอาการเท่าไรนัก   มัลฟอยทำหน้าเบื่อๆแล้วนั่งลงที่โซฟาเตี้ยๆตัวหนึ่ง

"เชิญหยิบได้ตามใจเลย...เผื่อมันจะทำให้เธอรักที่นี่ขึ้นมาบ้าง" มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงมีความหมาย   เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาอย่างขบขันปนสมเพชตัวเอง

"ไม่มีวันหรอก" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงต่ำก่อนจะสะบัดแล้วผมทำท่าจะเดินเข้าไปในระหว่างชั้นหนังสือ

"จะดีมากเลยนะถ้าเธอเว้นชั้นหลังสุดเอาไว้" มัลฟอยบอกด้วยเสียงเรื่อยๆแล้วมองปลายเท้าที่กระดิกไปมาของตัวเอง   เฮอร์ไมโอนี่โผล่หน้ามานิดหนึ่งก่อนจะหายเข้าไปในชั้นหนังสือ

น่าจะมีรถเข็นแบบในซูเปอร์มาเก็ต   เฮอร์ไมโอนี่คิด   เพราะตอนนี้หนังสือทุกเล่มราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอหยิบมันไปอ่าน   เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองอยากอ่านทุกเล่ม   แต่ครั้นจะทำท่าตื่นเต้นหอบหนังสืออกไปเต็มมือมัลฟอยคงได้ใจและหัวเราะเยาะเธอ   เฮอร์ไมโอนี่จึงพยายามระงับใจเอาไว้ไม่ให้เผลอแบกชั้นหนังสือทั้งชั้นไปอ่านที่ห้อง

"มิน่าล่ะ..." เฮอร์ไมโอนี่พึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อเธอเดินมาถึงชั้นหนังสือที่อยู่หลังสุดของห้อง   มันเต็มเอียดไปด้วยหนังสือว่าด้วยเรื่องของศาสตร์มืด   ไม่บอกก็รู้ว่าทำไมที่นี่ถึงมีหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์มืดมากขนาดนี้...ก็นี่บ้านของใครล่ะ   หัวหน้าผู้เสพความตาย...

"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่จำเป็นต้องมาตรงนี้" เสียงพูดเรียบดังขึ้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งโหยง...เธอหันกลับไปด้านหลัง   มัลฟอยยืนกอดอกมองเธออย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก   เฮอร์ไมโอนี่นึกกลัวขึ้นมานิดหนึ่งว่าเขาจะทำอะไรเธอ   แต่เมื่อเห็นว่ามัลฟอยเอาแต่จ้องเธอเท่านั้น   เฮอร์ไมโอนี่ยืดตัวขึ้นและยิ้มเยาะ

"ไม่สงสัยเลยนะว่าทำไมมีเยอะแยะขนาดนี้..." เฮอร์ไมโอนี่เย้ยหยัน   มัลฟอยเขม่นตาหรี่เล็ก   เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย

"นี่ไม่ใช่..." มัลฟอยกำลังจะบอกว่าหนังสือทั้งหมดนี่ไม่ใช่ของเขา   แต่ถ้าบอกไปเธอคงจะเชื่อหรอก...อีกอย่างไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอกเฮอร์ไมโอนี่ว่าเขาไม่มีความสนใจเรื่องศาสตร์มืดเลย

"แรงบันดาลใจเยอะขนาดนี้เธอคงคิดจะฆ่าใครอีกล่ะสิ" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางใช้นิ้วลูบไล้ไปตามสันหนังสืออย่างพินิจ   รอยยิ้มนิดๆปรากฏอยู่บนใบหน้า   เป็นรอยยิ้มที่ทำให้มัลฟอยรู้สึกหงุดหงิด

"ใช่...เธอก็รู้ใช่มั้ยว่าจะเป็นใคร" มัลฟอยพูดอย่างเจ็บแสบ   เขายิ้มอย่างเหนือกว่า   เฮอร์ไมโอนี่มองเขาตาขวางอย่างน่ากลัว   มัลฟอยยิ้มเยาะอย่างยะโส

"ถ้าคิดจะทำอะไรแฮร์รี่ล่ะก็...ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าให้หยุดคิดซะ   เพราะถ้าเขาเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียวฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่" เฮอร์ไมโอนี่ขู่อย่างเจ็บใจ   ตอนนี้เธออยู่ในสถานการณ์ที่ด้อยกว่า   เขาเป็นผู้คุมเกมส์...ยิ่งคิดว่าแฮร์รี่กำลังไม่ปลอดภัยก็ยิ่งแค้น

"เป็นห่วงกันจริงนะ   น่าคิดมั้ยล่ะว่าตอนนี้มันอยู่ข้างนอกกำลังทำอะไรอยู่ถ้ารู้ว่าแฟนตัวเองหายตัวไปน่ะ" มัลฟอยไม่ได้ยิ้มแล้วในตอนนี้   เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บใจไปกับคำขู่ของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าหรอก   แต่ความคิดที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นห่วงแฮร์รี่ทำให้เขารู้สึกร้อนใจหระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก   พูดง่ายๆก็คือเขากำลังรู้สึกหงุดหงิดที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นห่วงแฮร์รี่

"ถ้าแฮร์รี่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่เขาจะไม่ปล่อยเธอไว้!" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงดัง

"เออ! ก็อยากจะรู้นักว่ามันจะทำอะไรได้!" ยิ่งเฮอร์ไมโอนี่เชิดชูแฮร์รี่ขนาดนี้มัลฟอยก็ยิ่งหงุดหงิด   คิดว่าจะทำดีด้วยซะหน่อย   พอเจอแบบนี้ความคิดนั้นก็หายไปทันที

"แฮร์รี่เขาเหนือกว่าเธอเยอะเลยมัลฟอย...เธอไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอก!"

"โธ่เว้ย!" มัลฟอยคำรามลั่น   เขาจับข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ตรึงไว้กับชั้นหนังสือ  เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นหนีแต่มัลฟอยก็ยิ่งบีบข้อมือเธอแรงขึ้น   มัลฟอยรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก...โกรธจนอยากจะทำให้ผู้หญิงปากเก่งคนนี้เจ็บที่สุด

"จะบอกให้ว่าสักวันหนึ่งไอ้คนที่เธอบูชาเทิดทูนนักหนาน่ะจะต้องตายด้วยน้ำมือของฉัน!"

"เธอทำอะไรเขาไม่ได้หรอกมัลฟอย! เพราะเธอน่ะมันก็แค่ไอ้ขี้โม้ไม่ได้เรื่อง   เธอเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้วด้วย! เธอน่ะมันก็แค่ไอ้ทุเรศ" เฮอร์ไมโอนี่ตวาดกลับอย่างดุเดือด   มัลฟอยกัดฟันกรอด   พยายามระงับจิตใจเต็มที่ที่จะไม่ทำรุนแรงกับเฮอร์ไมโอนี่

"หุบปาก!"

"แฮร์รี่เหนือกว่าเธอเสมอ...เขาดีกว่าพวกสารเลวแบบพวกเธอ   เขาเก่งกว่าพวกเธอ  และสักวันเขาจะลากคอพวกแกทุกคนเข้าไปอยู่ในอัซคาบัน!!!"

"เงียบนะ!" มัลฟอยตวาดลั่นก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรุนแรง   เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นสุดแรงและพยายามเตะขา   มัลฟอยปล่อยข้อมือเฮอร์ไมโอนี่ให้เป็นอิสระแต่กลับดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่น   เฮอร์ไมโอนี่ทุบหลังของมัลฟอยอย่างแรง  แต่จูบของมัลฟอยกลับปนบปน่นมากขึ้น

"จำไว้! ฉันนี่แหละที่จะฆ่าไอ้พอตเตอร์ของเธอ!!!" มัลฟอยพูดเมื่อถอนริมฝีปากออกมา   แต่ไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้หายใจมัลฟอยก็ประทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง   เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นและกำเสื้อที่ด้านหลังของมัลฟอยแน่น   ความรู้สึกขยะแขยงและรังเกียจอัดแน่นจนกลายเป็นความโทสะ   เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถขัดขืนได้   ขณะที่มัลฟอยยังคงจูบอยู่อย่างนั้นเพื่อให้สมกับความโกรธของเขา

ปัง!!!!!!

มัลฟอยผลักประตูห้องอย่างแรงจนน่ากลัวว่าจะพัง   เขาบังคับลากเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้องเอะอะโวยวายเข้ามาในห้อง   ใบหน้าของเขาดูโหดเหี้นมและไร้ความปราณี   เขาไม่รู้สึกเมตตาผู้หญิงที่เขากำลังออกแรงลากอยู่นี่เลย...เพราะเธอทำให้เขาโมโหและเดือดดาลเปนอย่างมาก

"โอ๊ย!!" เฮอร์ไมโอนี่ร้องเมื่อมัลฟอยเหวี่ยงเธอลงไปที่เตียง   เฮอร์ไมโอนี่รีบยันกายลุกขึ้นและส่งสายตาอาฆาตแค้นให้มัลฟอย   มัลฟอยย่างสามขุมเข้าไปใกล้เฮอร์ไมโอนี่และโน้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ

"ฉันจะฆ่าเธอให้ได้! ฉันรับรอง!" เฮอร์ไมโอนี่ตะเบ็งเสียงอย่างโกรธแค้น

"แต่ตอนนั้นฉันคงะฆ่าไอ้พอตเตอร์ของเธอไปแล้วล่ะ!" มัลฟอยสวนกลับ   เฮอร์ไมโอนี่เหวี่ยงมือไปหมายจะตบหน้ามัลฟอย   แต่ชายหน่มจับข้อมือเธอไว้และดึงเธอเข้ามาจูบอย่างหนักแน่น   เมื่อเขาผละริมฝีปากออกเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

"หัดรู้ตัวซะบ้างว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไร! รู้ด้วยว่าเธออยู่ในฐานะที่จะต่อปากต่อคำกับฉันไม่ได้...อย่ายกย่องเทิดทูนไอ้พอตเตอร์ให้ฉันฟังอีก! ไม่อย่างนั้น..." มัลฟอยใช้นิ้วแตะปากเฮอร์ไมโอนี่   เธอเบี่ยงหน้าหลบ   แต่มัลฟอยจับคางเฮอร์ไมโอนี่ให้หันกลับมา

"ฉันจะทำมากกว่าจูบ!!!" เขาตวาดลั่นข่มขวัญเฮอร์ไมโอนี่ไว้ก่อนที่จะรีบออกจากห้องไป   เฮอร์ไมโอนี่มองตามด้วยสายตาเคียดแค้น   เธอรีบถูกริมฝีปากของตัวเองด้วยหลังมืออย่างขยะแขยง...น้ำตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดและความกดดันไหลออกมา...ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะซุกหน้าลงกับเตียงและร้องไห้อย่างเดือดดาล

"เธอมันสารเลว! ฉันขอสาบานว่าฉันจะฆ่าเธอให้ได้! ฉันจะฆ่าเธอให้ได้!มัลฟอย!" ในวันนั้น...เฮอร์ไมโอนี่ได้สาบานกับตัวเองไว้...โดยใช้แรงอาฆาตแค้นทั้งหมดที่เธอมีเป็นแรงผลักดัน...แต่ในวันต่อไป...ไม่มีใตรรู้ว่าจะเป็นอย่างไร   ความแค้นนั้นอาจจะจบลง..หรือดำเนินต่อไปไม่มีใครรู้ได้...และไม่รู้อีกเนกันว่าหัวใจที่เต็มไปด้วยความแค้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นความรักได้หรือไม่...

อ่า...รู้สึกว่าไอ้ระบบใหม่นี่มันจะมีปัญหาไปถึงไหน  ทำไมเราอัพตอนใหม่แล้วตรงหัวเรื่องมันยังไม่ขึ้นเป็นอันดับแรกอีก แล้วอย่างนี้ใครเขาจะรู้ว่าเราอัพเรื่องแล้ว เออ...ช่างมันเหอะ

แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามผลงานอยู่นะคะ  ทุกคอมเมนท์และทุกคะแนนโหวตเป็นแรงใจของข้าพเจ้า  ขอบคุณมากๆ

อ่า...รู้สึกว่าไอ้ระบบใหม่นี่มันจะมีปัญหาไปถึงไหน  ทำไมเราอัพตอนใหม่แล้วตรงหัวเรื่องมันยังไม่ขึ้นเป็นอันดับแรกอีก แล้วอย่างนี้ใครเขาจะรู้ว่าเราอัพเรื่องแล้ว เออ...ช่างมันเหอะ

แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามผลงานอยู่นะคะ  ทุกคอมเมนท์และทุกคะแนนโหวตเป็นแรงใจของข้าพเจ้า  ขอบคุณมากๆ

อ่า...รู้สึกว่าไอ้ระบบใหม่นี่มันจะมีปัญหาไปถึงไหน  ทำไมเราอัพตอนใหม่แล้วตรงหัวเรื่องมันยังไม่ขึ้นเป็นอันดับแรกอีก แล้วอย่างนี้ใครเขาจะรู้ว่าเราอัพเรื่องแล้ว เออ...ช่างมันเหอะ

แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามผลงานอยู่นะคะ  ทุกคอมเมนท์และทุกคะแนนโหวตเป็นแรงใจของข้าพเจ้า  ขอบคุณมากๆ

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture