ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11: Atonement (ขอบคุณ และขอโทษ) ft. Hankyung x Hyukjae
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งคนที่อยู่ข้างในและคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านข้างนอกอย่างเรียววุคและซีวอน
“แต่งห่งแต่งห่าอะไร”เสียงหวานที่ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่าเป็นของใครดังลอดออกมาจากประตูบ้านเรียบๆชนิดไม่เกรงกลัวอะไร
“แต่งงานไง”บุคคลที่ไม่เคยนับเป็นพ่อพูดเรียบๆ
“ไม่แต่ง!!!”คิมฮีชอลตวาดลั่นอย่างโมโห
“ยังไงก็ต้องแต่ง”
“ใครเป็นคนคิดเรื่องการแต่งงานบ้าๆนี่?!”เสียงหวานตวาดลั่นเหมือนเดิม
“ฉันกับพ่อของฮันกยอง...”
“แล้วไม่ถามความเห็นของพวกผมเลยเหรอครับ?”สำเนียงเปร่งๆดังขึ้นมาอย่างนอบน้อมแต่บ่งบอกถึงความโกรธจัด
“ใช่! อีกอย่าง ทำไมฉันต้องทำตามทำตามที่นายบอกด้วยหละ?”ฮีชอลถามเรียบๆแต่กวนประสาท
“เพราะนาย...”
“นายไม่ใช่พ่อฉัน! ฉันไม่แต่ง!!!”
เอี๊ยดดดดดดดดดดด...
ประตูบ้านถูกกระชากเปิดออกมาด้วยฝีมือของคนที่อยู่ในบ้าน ซีวอนและเรียววุคที่ยืนอยู่ข้างนอกเบิกตากว้าง
มีเพียงคนเปิดประตูเท่านั้นที่มีสีหน้าเรียบๆที่ยากต่อการคาดเดาว่าร่างบางตรงหน้าคิดอะไรอยู่
“Oh. People.”เสียงหวานพูดเรียบๆก่อนที่จะเดินชนไหล่ร่างสูงจากไป
ชเวซีวอนหันหลังไปจะวิ่งตามร่างบางแต่มือเล็กของบุคคลข้างๆตนกลับฉุดเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆเป็นเชิงห้าม
“บางที พี่ฮีชอลเขาต้องการแค่จะอยู่คนเดียว”
ดวงตาคมเข้มมองตามแผ่นหลังเล็กของร่างบางจนลับสายตาก่อนที่จะลอบถอนหายใจเบาๆคนเดียว
เรียววุคปล่อยแขนแกร่งร่างสูงแล้วถอนหายใจบ้าง
“เฮีย...แล้วถ้าเฮียทำแบบนี้ แล้วจารย์ฮยอกเขาไม่...เจ็บเหรอฮะ? เฮียก็รู้...”เรียววุคเงียบเสียงลงเมื่อเห็นสีหน้าว่างเปล่าของร่างสูงโปร่ง
“เฮียไม่รู้...เรียววุค...เฮีย...คิดว่าเฮียน่าจะลืมไปได้แล้ว...เฮียขอตัว”พูดจบก็เดินขึ้นบันไดชั้นสองปึงปังจากไป
ผู้เป็นพ่อเงียบอยู่สักพักก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปเปิดทีวีดู
คิมเรียววุคถอนหายใจอีกรอบกับบรรยากาศอึดอัดที่เพิ่งก่อตัวหลังจากที่คิมฮีชอลผู้เป็นพี่ผละจากไป
“จารย์ฮยอก...นี่ใช่ลีฮยอกแจ ครูสอนวิชาชีวะของพวกปี1 กับ 2ใช่ไหม?”ใบหน้าหวานของร่างบางเล็กพยักหน้า
ชเวซีวอนเลิกคิ้ว
แล้วลีฮยอกแจมาเกี่ยวอะไรกับไอ้แปะบรรลัยนี่วะ?
“คือจารย์ฮยอกกับเฮียฮันกยองเขา...หงะ...เมื่อ3ปีก่อน...”
เรียววุคถอนหายใจก่อนที่จะพูดต่อไปว่า
“....สองคนนั้นเคยเป็นแฟนกันฮะ”
-----------5%-----------
“เราเลิกกันเถอะ”
“ท ทำไมหละฮันกยอง”
“ฉัน...ต้องกลับเมืองจีน...”
“ม ไม่จริง...ฮันกยอง...ร เรายังรักกันได้...”
“...ฉันขอโทษ...ฮยอกแจ...ฉันขออะไรอีกอย่างได้ไหม?”
“ว ว่ามา...”
“ช่วยลืมเรื่องของเราสองคนไปด้วยเถอะ”
ประโยคสนทนาของตนกับบุคคลที่ตนรักดังก้องวนเวียนอยู่ในหัวมาเป็นเวลานาน
ทั้งเหตุการณ์ สถานที่ สีหน้าหรือแม้แต่น้ำ
เสียง...มันยังคงชัดแจ่มแจ้งราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่
ทั้งๆที่ผ่านไป3ปีกว่าแล้ว...
ร่างเล็กของลีฮยอกแจนั่งอยู่บนโซฟาสีขาว ดวงตากลมๆสีนิลเหม่อลอยออกไปข้างนอกหน้าต่างก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
ช่วยลืมเรื่องของเราสองคนไปด้วยเถอะ
ผิดไหม? ที่ยังลืมไม่ได้
ผิดไหม? ที่ยังจำได้ชัดถ้อยชัดคำ
ผิดไหม? ที่ยังรอคอยมาสามปี
ผิดไหม? ที่เลือกที่จะรอ?
ดวงตาของร่างเล็กร้อนผ่าว หยาดน้ำใสก่อตัวขึ้นก่อนที่จะไหลลงมาช้าๆ
ร้องไห้อีกแล้ว...
3 ปีแล้วสินะ...ที่ต้องร้องไห้คนเดียวโดยไม่มีเขาคนนั้นคอยอยู่เช็ดน้ำตาให้
ฮันกยอง...ฉันคิดถึงนาย...
“เฮ้ย! แบบนี้จารย์ฮยอกก็เจ็บตายเลยอะดิ”คิมแจจุงตะโกนเสียงดังลั่นก่อนที่มือเรียวของร่างบางข้างๆจะเอื้อมมาปิดปากของคนสวยอย่างรวดเร็ว
“เบาๆหน่อยก้ได้ไอ้ห่า! จะเสียงดังไปทำพระแสงอะไร!?!?!”เสียงหวานกระซิบเข้าที่หูเบาๆพร้อมกับใบหน้าหวานที่แยกเขี้ยวใส่
“แล้วนายจะทำยังไงต่อไปฮีชอล?”เสียงของสองฝาแฝดผู้หน้าตาไม่เหมือนกันแม้แต่น้อยดังขึ้นพร้อมกัน
เจ้าของชื่อถอนหายใจก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของตนอีกครั้ง
ขาเรียวยกขึ้นมาพาดเอาไว้บนโต๊ะพร้อมกับโยกเก้าอี้ที่ตนนั่งเล่น
“ฉันว่าเฮียก็คงแอนตี้เรื่องแต่งงานห่านี่เหมือนฉันนั่นแหละ
พวกแกว่าไง? แจจุง? ซองมิน? ดงแฮ?”เจ้าของชื่อพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงเห็นด้วยเมื่อเสียงหวานของฮีชอลเรียกชื่อไล่ไปทีละคน
ครืดดดดดดดดดดดดดด...
“Good afternoon students.”สำเนียงภาษาอังกฤษดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าของเสียงรูปหล่อที่ช่วงนี้หน้าเริ่มออกหวานเล็กน้อยเดินเข้ามาในห้อง ดงแฮยิ้มรับอยู่คนเดียวหลังห้อง
ลีดงแฮยิ้มหวานทุกครั้งที่เจอกับคิมคิบอม อาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษ
เป็นรอยยิ้มที่แม้แต่เพื่อนซี้อย่างฮีชอลและแจจุงหรือฝาแฝดอย่างซองมินยังไม่สามารถคาดถูกเลยว่าคิดอะไรอยู่ในใจ
“วันนี้เราจะมาเรียนเรื่อง...”
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังไปเป็นครั้งที่สามก่อนที่จะเงียบเสียงหายไป
ร่างบางลุกขึ้นเก็บกระเป๋าก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อมีเสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่านักเรียนหญิงดังออกมาจากประตูทางเข้า
“ฮีชอล...ของแกหวะ”แจจุงแซวเล่นๆพร้อมกับเดินออกจากห้องไปทิ้งให้เจ้าตัวยืนงงอยู่สักครู่ก่อนที่จะก้าวขาฉับๆไปยังหน้าต่างห้องทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับสิ่งที่ตนห้องภายในวงล้อมของเหล่านักเรียนหญิง
ฮันกยองยืนพิงรถBMWสีดำอยู่หน้าประตูโรงเรียน!!!
ดูเหมือนว่าหนุ่มจีนจะรู้ตัวว่าโดนจ้อง
เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะฉีกยิ้มชนิดละลายใจสาวได้ให้ร่างบาง
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากห้องเรียนไป
เป็นเรื่อง!
“เฮียมาทำอะไรที่นี่ฮะ?”เสียงหวานพร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินมาโดยมีเหล่าบรรดาผู้รุมล้อมที่พากันเปิดทางให้
คนที่ถูกเรียกยิ้มหวานให้อีกรอบ
“ถ้ามารับจารย์ฮยอกแล้ว...เขายังไม่...”
“ฉันมารับนายนั่นแหละ คิมฮีชอล”
O_O! ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับประโยคเมื่อครู่
ไม่ใช่เพราะคำตอบแต่เป็นสรรพนามที่หนุ่มจีนรูปหล่อติ๋มตรงหน้าใช้เรียกกับตน!
สมัยก่อนแทนตัวเองว่าเฮีย...ตอนนี้ทำไมแทนตัวเองว่าฉันวะ?!?!!!
“เกิดอะไรขึ้นหนะ...นาย!!!”เสียงของชเวซีวอน
อาจารย์ฝ่ายปกครองและอาจารย์ประจำห้องคิงปี4ดังขึ้นมา
เหล่านักเรียนต่างพากันเบิกทางให้ก่อนที่จะรีบสลายตัวหายไปเมื่อร่างสูงกวักมือไล่
ข้างหลังของซีวอนมีเหล่าบรรดาผู้ช่วยอาจารย์ฝ่ายปกครองอีกสามคน
คิมคิบอม
โจคยูฮยอนและจุงยุนโฮวิ่งมาก่อนที่จะหยุดอยู่ข้างๆและมองหน้าเพื่อนรักของตนที่จ้องหน้าหนุ่มจีนอย่างเคียดแค้นสลับกันร่างสูงโปร่งที่ยืนพิงรถชิวๆ
“ซีวอน...มันเกิดอะไร...”
“ฮันกยอง!!!”
เสียงหวานออกห้าวดังลั่นขึ้นมากลบประโยคคำถามของคยูฮยอน ซีวอนตาโตไม่แพ้ฮีชอลที่สะดุ้งก่อนที่จะยืนนิ่งราวกับรูปปั้น
เจ้าของเสียงวิ่งมาก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเดินดุ่มๆมายืนประจันหน้ากับเจ้าของชื่อ
“ฮันกยอง...ฮันกยองจริงๆใช่ไหม?”
หยาดน้ำใสก่อตัวขึ้นบนเบ้าตาของร่างเล็ก ทุกคนอึ้งยกเว้นซีวอน
ฮันกยองและฮีชอลที่ต่างพากันนิ่งเงียบไม่ขยับเขยื้อนราวกับรูปปั้น
“จารย์ฮยอก...”เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อร่างเล็กที่ยืนร้องไห้เงียบๆอย่างแหบพร่า
“นายกลับมาหาฉัน...ฉันคิดถึงนาย...ฮัน...”
“ใครบอกว่าฉันมาหานาย”
ฮยอกแจสะดุ้งก่อนที่จะรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมาปักกลางหัวใจ
ร่างเล็กยืนนิ่งก่อนที่จะเข่าทรุดไปกองกับพื้นอย่างหมดแรง
“ฉันมาหาฮีชอล”
คนที่ถูกเข้าไปมีเอี่ยวตาถลนทันที
แค่นั้นไม่พอ
ร่างสูงโปร่งของฮันกยองก็เดินเข้ามาคว้าตัวร่างบางแล้วดันเข้าไปในรถที่เปิดประตูอ้ารอเอาไว้ก่อนที่จะอ้อมไปยังประตูรถอีกข้าง
เสียงโวยวายและทุบกระจกปังๆจากร่างบางดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
“อีกอย่างนะ ลีฮยอกแจ...”
เจ้าของชื่อเงยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาขึ้นมามองก็พบกับสายตาเย็นชาจากฮันกยองที่ถูกส่งมา
“ฉันกับฮีชอลจะแต่งงานกัน”
และรถBMWคนนั้นก็แล่นจากไป
ดวงตากลมสีนิลมองรถคนนั้นจากไปแต่ประโยคของร่างสูงโปร่งยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของตน
ฉันกับฮีชอลจะแต่งงานกัน
ฮันกยอง...
ผิดไหม? ที่ยังจะรักนาย?
ผิดไหม? ที่ฉันยังจำเรื่องของเราสองคนได้ดีตลอด
“อาจารย์ฮยอกแจ”เสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูเป็นห่วงและนุ่มนวลของร่างสูงดังขึ้นมา
มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ของเจ้าตัวที่ดังออกมาไม่ขาดสาย
ลีฮยอกแจ อาจารย์สอนวิชาชีวะปี1และปี2นั่งร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนใจต่อใครทั้งสิ้น
เสียงร้องไห้ของร่างเล็กดังกังวานไปนาน...เสียงร้องไห้แห่งความเจ็บปวด...
เพราะผู้ชายนิสัยไม่ดีที่ชื่อฮันกยอง
-----------30%-----------
“เฮียพูดอะไรออกไป รู้ตัวบ้างไหม?!!”เสียงหวานดังลั่นออกมาอย่างโมโหสุดๆทันทีที่ประตูรถเปิดล้อก
ประตูรถBMWสีดำคันหรูถูกเปิดออกมาก่อนที่จะปิดลงเสียงดัง
“ฮีชอล! ฟังฉันก่อน!!”
ไม่มีคำตอบจากเจ้าของชื่อ
ร่างบางเดินปึงปังขึ้นบันไดชั้นสองไปก่อนที่หนุ่มจีนจะวิ่งตามขึ้นมาทัน
ประตูไม้บานเก่าๆก็ถูกปิดใส่หน้าของฮันกยองเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้ง
“ฮีชอล! เฮ้ คิมฮีชอล!!!”
ปัง ปัง ปัง ปัง!!!
ฮันกยองตะโกนลั่นพร้อมกับมือหนาที่ทุบประตูรัวเสียงดัง
“ไปตายซะ!!!”
เสียงหวานตะโกนดังลั่นออกมาจากในห้องอย่างกราดเกรี้ยว
ฮันกยองชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะลดมือลงไว้ข้างกาย
“ฉันขอโทษ...ยังไงก็...สบสติอารมณ์ด้วย...บาย”
และเสียงฝีเท้าหนักๆก็ซาลงเรื่อยๆ
คิมฮีชอลนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงนอนสีขาว ใบหน้าหวานก้มหน้านิ่งก่อนที่จะถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกว่าแล้ว
จะทำยังไงดี...
ทำไมเฮียต้องทำแบบนี้ด้วย...
ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นรูปถ่ายที่อยู่ในลิ้นชักที่เปิดอ้าเอาไว้
หยาดน้ำใสก่อตัวขึ้นบนเบ้าตาร่างบางทันที
รูปเขา เรียววุค
ฮันกยองและอาจารย์ฮยอกแจกำลังยืนยิ้มอย่างมีความสุข
ร่างบางและร่างบางเล็กผู้เป็นน้องยืนกอดคอกันพร้อมกับฉีกยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุข
ข้างๆเป็นรูปของบุคคลที่นับถือราวกับพี่ชายอย่างฮันกยองและลีฮยอกแจ
อาจารย์ที่รักที่สุดยนกอดกันเป็นคู่รัก
“เวรเอ้ย”เสียงหวานสบถพึมพำเบาๆอย่างปวดร้าว
ความรู้สึกผิดเอ่อล้นขึ้นมาเต็มหัวใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่ผิดเลย
แต่มันก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี...ที่ทำให้บุคคลที่เขารักและเคารพต้องมาเป็นแบบนี้
ทั้งฮันกยองที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ทั้งฮยอกแจที่ต้องมาเจออะไรที่เจ็บๆแบบนี้
เป็นเขา...เขาก็ร้องไห้เลือดตากระอักเหมือนกันนั่นแหละ!
ก๊อก ก๊อกๆ
“พี่ฮะ...เกิดอะไรขึ้นฮะ”เสียงหวานของผู้เป็นน้องดังลอดประตูไม้บานเก่ามา
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองต้นเสียง
“ไม่มีอะไร...พี่อยากอยู่คนเดียว...”
เสียงเคาะประตูเงียบหายไปก่อนที่จะมีเสียงถอนหายใจของผู้เป็นน้องที่ยืนอยู่หลังประตูดังขึ้นมา
“พี่อย่าคิดมากนะฮะ...พี่ไม่ผิด...แต่พี่ฮันผิด”
เรียววุค...ยิ่งพูดมันก็เหมือนยิ่งตอกย้ำ
รู้ว่าไม่ผิดเลย แต่บางที...การที่เรามาโดนหางเลขแบบนี้...มันก็รู้สึกผิด
อาจารย์ฮยอกแจ...จะเกลียดเราไหมนะ?
ผมขอโทษครับ...
ก๊อกๆ ก๊อกๆ ก๊อกๆ ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!
เสียงเคาะประตูที่เคยเบาอยู่เป็นระยะนานกลายมาเป็นเสียงใครบางคนเคาะประตูเสียงดังลั่น ร่างบางที่นอนเผลอนอนหลับไปสะดุ้งตื่นก่อนที่จะรีบวิ่งไปเปิดประตูที่โดนทุบเสียงดังราวกับจะพังเข้ามาให้ได้
เอี๊ยดดดดดดดดด
มือหนาที่กำลังจะทุบประตูเป็นครั้งที่ร้อยกว่าชะงัก
ดวงตาคมเข้มเบิกกว้างกับบุคคลที่เปิดประตูออกมา
ดีนะที่หยุดทัน...ถ้าช้ากว่านี้นี่คง...
“ครับ?”
ดวงตากลมโตมองหน้าร่างสูงเป็นเชิงสงสัยกับการมาเยือนของซีวอน
“นาย...จะแต่งงานกับฮันกยองจริงๆเหรอ?”
ฮีชอลชักสีหน้าไม่พอใจทันทีที่ได้ยินประโยคของร่างสูง
“จารย์ถ่อมาถึงบ้านผมเพียงเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องใช่ไหมฮะ? จารย์ก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วนี่ฮะ”
“นาย...จะแต่งงานกับฮันกยอง...สินะ”
ร่างบางใจหายวูบกับประโยคเมื่อครู่
ไม่รู้ทำไมหน้าอกด้านซ้ายต้องรู้สึกเจ็บราวกับมีน้ำเย็นมาสาดด้วยนะ
“อาจารย์ฮยอกแจเขาร้องไห้เจียนตาย แล้วนายกลับมาทำแบบนี้เนี่ยนะ? นายรู้ไหมว่าอาจารย์ฮยอกแจเขาเจ็บขนาดไหน?”
คำด่าทอมากมายพรั่งพรูออกมาจากปากของชเวซีวอน
คำด่าทอที่มาจากการมองเพียงมุมเดียว
มองแค่ฮยอกแจที่นั่งร้องไห้โดยไม่มองมาที่คนโดนหางเลขอย่างฮีชอลเลย
“จารย์คิดอย่างนั้นเหรอฮะ?”เสียงหวานถามเบาๆอย่างแหบพร่า
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงที่เงียบไปหลังจากที่โดนขัดประโยคของตน
“...”ไม่มีคำตอบจากร่างสูงมีเพียงดวงตาคมเข้มที่ส่งสายปวดร้าวมาให้
ฮีชอลก้มหน้านิ่งอีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ผมนึกว่า...อาจารย์จะเชื่อใจผมเสียอีก”
ความเงียบโรยตัวรอบๆทั้งสองคน ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตน
ดวงตากลมโตร้อนผ่าว
มือเรียวเอื้อมไปปิดประตูช้าๆก่อนที่จะช้อนดวงตาขึ้นมามองหน้าร่างสูง
“ผมขอตัวฮะ”
ประตูบานไม้ปิดสนิทอย่างนุ่มนวล ซีวอนยืนนิ่งมองประตูไม้เก่าๆบานนั้นเงียบๆก่อนที่จะหันหลังกลับและนั่งลงพิงประตูไม้บานนั้น
เรา...ไม่เชื่อใจฮีชอลงั้นเหรอ?
แต่ฮีชอลและไอ้แปะฮันกยองทำฮยอกแจร้องไห้...
“อาจารย์ซีวอนครับ”เสียงหวานของเรียววุคดังขึ้น
เจ้าของชื่อหันหน้าไปมองร่างเล็กที่ยืนอยู่หน้าห้องตัวเอง
คิมเรียววุคยิ้มแห้งๆก่อนที่จะปิดประตูเบาๆแล้วเดินมานั่งข้างๆตน
“ทะเลาะอะไรกับพี่ฮีชอลหรือเปล่าครับ?”
ร่างสูงเหม่อลอยออกไปแทนคำตอบ
“อาจารย์ฮะ...อาจารย์มองแค่มุมๆเพียงเท่านั้นเอง...”
ชเวซีวอนหันหน้ามองอย่างงุนงง คนร่างบางเล็กมองออกไปข้างหน้า
“อาจารย์มองแค่ว่าจารย์ฮยอกเขารักเฮียและต้องมาเจ็บเพราะเฮียต้องมาแต่งงานกับพี่ฮีชอล
ซ้ำยังมาพูดจาทำร้ายจิตใจจารย์ฮยอกเขาอีก...แต่จารย์มองแค่ความรู้สึกของจารย์ฮยอกคนเดียวเท่านั้น...”
เรียววุคสูดหายใจก่อนที่จะเล่าต่อไป
“...แต่จารย์ไม่ได้มองในความรู้สึกของพี่ฮีชอลเลย...จารย์ก็ทราบดีนี่ฮะ...”
“...พี่ฮีชอลเขาอยากแต่งงานซะที่ไหนหละ”
ชเวซีวอนถอนหายใจออกมายาวๆแล้วลุกขึ้นยืน
นั่นสิ...เขาลืม...เขาลืมคิดถึงความรู้สึกของฮีชอลไปเสียสนิท!
เขาหน้ามืดไปเพราะโกรธที่ฮันกยองไปพูดแบบนี้ใส่ฮยอกแจ
เขาด่าทอร่างบาง...
เขาทำผิดมหันต์เลย
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาเต็มหัวใจของร่างสูง
ถ้าย้อนเวลาได้ เขาจะไม่หน้ามืด...เขาจะไม่ทำแบบนั้นหรอก...
ถ้าย้อนเวลาได้นะ...
“ฮีชอล”ร่างสูงเรียกชื่อคนในห้องเบาๆพร้อมกับเคาะประตูเบาๆสองครั้ง
“ผมอยากอยู่คนเดียว!!!”เสียงหวานดังลอดออกมาจากประตูเสียงดังทันทีที่คนในห้องได้ยินเสียงเคาะประตู
ใบหน้าหล่อคมหันมามองเรียววุคที่นั่งกอดเข่าเหม่อลอยออกไปข้างหน้าก่อนที่จะเงยหน้ามาพร้อมกับยิ้มหวาน
“ปล่อยพี่เขาเอาไว้เถอะครับ”
“จะดีเหรอ?”
คิมเรียววุคยิ้มหวานแทนคำตอบ
“ไม่มีใครอยู่คนเดียวได้ตลอดไปหรอกฮะ”
-----------50%-----------
ร่างบางเดินโซซัดโซเซออกมายืนอยู่หน้าประตูบ้าน
ดวงตากลมโตดูคล้ำและบอบช้ำบ่งบอกถึงการร้องไห้เบาๆอยู่คนเดียวเป็นเวลานานจนเผลอหลับไปทั้งคืน
มือเรียวเอื้อมไปเปิดประตูบ้านเตรียมตัวจะไปโรงเรียน
เอี๊ยดดดดดดดดดด...
“อาจารย์ซีวอน?”
เจ้าของชื่อในชุดสูทสีดำยืนตีหน้าขรึมต่อหน้าตน
มือหนาซุกอยู่ในกางเกงสีดำของตน
ดวงตาคมเข้มพินิจพิจารณาร่างบางที่ยืนงงๆเล็กน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่จะมาหยุดอยู่หน้าตำหนิเดียวบนใบหน้าหวาน
ดวงตาคล้ำ...นี่เมื่อคืนคงร้องไห้สินะฮีชอล...
ชเวซีวอนยืนประจัญหน้ากับคิมฮีชอล
ความเงียบเข้าปกคลุมพร้อมกับความอึดอัดที่โถมเข้ามาสู่บุคคลทั้งสอง
ริมฝีปากหนาอ้าปากจะพูดแต่ก็หุบไป
ร่างบางที่เคยสบตากับชายหนุ่มตรงหน้าหลบสายตาไปมองที่อื่นมีเพียงดวงตาคมเข้มที่ส่งสายตาปวดร้าวและรู้สึกผิดมาให้คนตรงหน้า
เพราะต่างคนต่างก็รู้สึกผิด...ต่อสิ่งที่ตนทำ...
“ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น
รักที่ให้กัน
เหมือนโดนกั้นขวางทางไป
อย่าเลยอย่ารู้ว่าฉัน
ขาดเธอจะเป็นอย่างไร
แค่รู้ไว้ว่าโลกทั้งใบ จะให้เธอคนเดียว”
เสียงเพลงดังมาจากวิทยุสีดำเก่าๆจากในห้องครัวยิ่งช่วยทำให้บรรยากาศระหว่างซีวอนและฮีชอลย่ำแย่มากยิ่งขึ้น
ร่างสูงถอนหายใจเบาๆก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาเท้าสะเอวตามแบบฉบับพระเอกเวลาต้องการจะพูดอะไร
ฮีชอลหลุบสายตาต่ำลงกว่าเดิม
ดวงตากลมโตจับจ้องไปยังรองเท้าของตัวเองเป็นเวลานาน
ในใจนึกภาวนาอยากให้ตัวเองมีเวทมนตร์จะได้หายตัวไปจากบรรยากาศน่าอึดอัดนี่เสียที
นายมาที่นี่ทำไมชเวซีวอน?
“จารย์มาทำอะไรที่นี่ฮะ”เสียงหวานของเรียววุคทำลายบรรยากาศความอึดอัดหายไปหมด
“มารับ...”
ปีบ ปี๊บ ปี๊บ!!!
เสียงแตรรถดังลั่นขึ้นมากลบประโยคของร่างสูง
เรียววุคชะโงกหน้าขึ้นไปมองต้นเสียงพร้อมๆกับซีวอนที่หันไปมอง
ฮีชอลค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะสบถออกมาเบา
“Sh*t.”
ดวงตาคมเข้มจ้องเขม็งไปยังอาคันตุกะผู้มาใหม่ในรถBMWสีดำคันหรู
“เวรเอ้ย”ร่างสูงสบถออกมาทั้งๆที่ตนเป็นอาจารย์ และลูกศิษย์อีกสองคนก็อยู่ข้างหน้าตนแต่ตอนนี้ ชเวซีวอนไม่สนอะไรแล้ว
“นายอีกแล้วเหรอ?”ฮันกยองถามเสียงเบื่อหน่ายก่อนที่จะมองหน้าร่างสูงอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
เช่นเดียวกับดวงตาคมเข้มที่จ้องหน้าตนอย่างโกรธแค้น
เพราะมัน! ทำให้เขากับฮีชอลเป็นแบบนี้!!
ถ้าไม่มีมัน...ฮีชอลคงไม่ต้องร้องไห้อย่างรู้สึกผิดต่อฮยอกแจอย่างนี้หรอก!!!
ถ้าไม่มีมัน...เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด!!!
“ฮีชอล...”เสียงหนุ่มจีนอ่อนลงเมื่อร่างบางเดินชนไหล่ซีวอนมาหาตน
ใบหน้าหวานมีสีหน้าว่างเปล่า ริมฝีปากเรียวกัดเข้าหากัน
ร่างบางสูดหายใจก่อนที่จะตะโกนใส่หน้าดังลั่น...
“Piss off!”
สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ...Piss off แปลว่า 'ไสหัวไปซะ!'
คิมฮีชอลสบถพรืดออกมาอย่างหงุดหงิดพร้อมกับเดินจากไป ทั้งฮันกยอง
เรียววุคและซีวอนต่างพากันมองตามแผ่นหลังของร่างบาง
“เหอะ ไอ้หมอนั่นมันเนื้อหอมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? มีทั้งคู่หมั้นมาเฟียร้อยล้านจากเมืองจีนแล้วก็อาจารย์สุดหล่อผิดจรรยาบรรณ์มาจีบ
เนื้อหอมไม่เบา แม่งทั้งหล่อทั้งรวยเสือกไม่เอา ส้นตีน!”เสียงแหบๆของชายแก่ดังออกมาจากบ้าน
เจ้าของเสียงเดินมายืนข้างๆผู้เป็นลูกชายด้วยท่าทีสบายๆก่อนที่จะสบตามองหน้าซีวอนและหันไปมองยังบุคคลอีกคนในรถคันหรู
'คู่หมั้นมาเฟียร้อยล้านจากเมืองจีน' ยิ้มทักทายก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกมา
“สวัสดีครับคุณลุง”
“ว่าไงฮันกยอง มารับฮีชอลเหรอ?”ชายหนุ่มถามอย่างอารมณ์ดี
“ครับ”ร่างสูงโปร่งยิ้มรับแห้งๆพร้อมกับพยักหน้า
“เหอะ ดูท่านายก็คงมารับฮีชอลเหมือนกันนี่”ชายหนุ่มเบนสายตาไปยังร่างสูง
‘อาจารย์สุดหล่อผิดจรรยาบรรณ์’สะดุ้งกับสายตาก่อนที่จะกระตุกยิ้มอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนัก
“ผิดจรรยาบรรณ์? ไม่ทราบว่าคุณหมายความว่าไงครับ?”
ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังแทนคำตอบก่อนที่จะหน้ามามองร่างบางเล็กที่ตีสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
“เออ ฝากเอาเรียววุคไปส่งโรงเรียนด้วย”ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง
ร่างบางเล็กเดินฝ่าวงล้อมออกไปยืนรอซีวอน
ร่างสูงหันหลังกลับช้าๆและเดินจากไปเมื่อไม่ได้คำตอบ
“ที่ฉันว่านายผิดจรรยาบรรณ์หนะ...
ร่างสูงหยุดเดินหลังจากที่ได้ยินประโยคจากชายหนุ่มวัยทองที่ตะโกนไล่หลังมา
“...มันเป็นที่นายต่างหากนะ...มันจริงไหมหละ?...”
ชเวซีวอนยืนนิ่ง
“...อาจารย์อย่างนาย...”ชายหนุ่มหัวเราะหึๆในลำคอเป็นเชิงสมเพชเล็กน้อย
“...ดันไปรักลูกศิษย์อย่างไอ้ฮีชอลมัน”
“แบบนี้มันไม่ผิดจรรยาบรรณ์สถาบันครูบาอาจารย์ที่นายมาหรอกเร้อะ?”
ดูเหมือนมันจะใช้เวลานานมากสำหรับซีวอนที่จะตอบประโยคซ้ำเติมปนคำถามจากชายหนุ่ม
ใบหน้าคมคายค่อยๆหันหน้ามามองและยิ้มออกมา
“แล้วผมบอกคุณตอนไหนว่าผมมาจากสถาบันครูบาอาจารย์อะไรนั่น?”
-----------70%-----------
“อาจารย์ฮยอกแจชัวร์นะครับว่าไม่เป็นไร...ผมไปสอนแทนอาจารย์ให้ก็ได้นะครับ”
เจ้าของชื่อส่ายหน้าเล็กๆก่อนที่จะลุกพรวดแล้วเดินไปหน้าประตูห้อง
ครืดดดดดดดดดด...
“อาจารย์ฮยอกแจ ผมว่าอย่าไปสอนวันนี้เลยนะครับ”
ใบหน้าหวานออกห้าวหันมามองต้นเสียงก่อนที่จะยิ้มให้แห้งๆ
“ขอบคุณในความหวังดีครับอาจารย์คิบอม...แต่ผมคงไม่สอนไม่ได้หรอกครับ
ขอตัวนะครับ”พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทิ้งให้คิมคิบอมมองตามไปอย่างเป็นห่วง
ไม่ใช่ว่าไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่า...
“อรุณสวัสดิ์คิมจุนซู”
“อ อ อ อ อ อรุณสวัสดิ์ค ค ค ค ค ครับ อ อ อ อาจารย์ฮยอกแจ O_O”คิมจุนซู หัวหน้าห้องคิงปี4หน้าหวานหน้าซีดเล็กน้อยเมื่อคนตรงหน้าตน
“ทำไมทำหน้าอย่างงั้นหละจุนซู โอ้ะ อาจารย์ซีวอน! อรุณสวัสดิ์ครับ!”
เจ้าของชื่อเบิกตากว้างกับคนตรงหน้าก่อนที่จะพยักหน้าอย่างตะกุกตะกักแล้วปราดเข้าห้องไปทันที
“หมีแพนด้าปลอมตัวมาป่าววะ?”บุคคลที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพักครูกระตุกยิ้มบนมุมปาก
“เมื่อคืนโทรไปก็ร้องไห้หนัก...น่าสงสารหวะ”ร่างสูงของชเวซีวอนทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตรงข้างกับคิมคิบอม
“ร้องไห้? ทำไมช่วงนี้มีแต่คนร้องไห้ตาคล้ำวะ?...”
“นายหมายความว่ามีคนร้องไห้จนตาคล้ำอย่างกับแพนด้าอีกคนด้วยเหรอ?”
ไม่ทันที่ร่างสูงอ้าปากจะตอบคำถามชายหนุ่ม
ประตูห้องก็เปิดออกมาอีกครั้ง อาคันตุกะหนุ่มรูปหล่อคนก็เดินเข้ามาในห้องพักครู
ทันทีที่แตะเท้าเข้ามาในห้องพักครู
โจคยูฮยอนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ก็ปราดไปยังโทรศัพทสีขาวข้างๆคิมคิบอมที่นั่งมองอย่างงุนงง
มือหนาคว้าหูโทรศัพท์มาก่อนที่มืออีกข้างจะกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว
“โทรหาใครหนะคยูฮยอน?”
เจ้าของชื่อหันมามองตามคำถามของซีวอน
“สวนสัตว์ดุสิต”
ชเวซีวอนเลิกคิ้วอย่างงุนงง
“โทรไปทำไม?”
“หมีแพนด้าหลุดออกมาเที่ยวเล่นอยู่ในโรงเรียนสองตัว
โทรตามให้มาจับกลับสวนสัตว์ไง”
“ไอ้กวนตีน =[]=“ซีวอนและคิบอมสบถออกมาเบาๆ
ครืดดดดดดดดดดดด...
“พวกแก! นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ?!!”เสียงทุ้มต่ำดังลั่นขึ้นมาทันทีที่ประตูห้องพักครูเปิดออกมา
จุงยุนโฮ
ทั้งสามคนหันมามองอาคันตะกุที่เพิ่งเข้ามาใหม่อย่างงุนงง
“เกิดอะไรขึ้นกับลีฮยอกแจ...แล้วก็...คิมฮีชอล?”
“หืม?”คยูฮยอนและคิบอมส่งเสียงครางอย่างงุนงงในลำคอมีเพียงซีวอนที่ถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเดินไปหน้าห้อง
“ตาคล้ำอย่างกับร้องไห้มาทั้งคืน”ยุนโฮเปรยออกมาเบาๆก่อนที่ทั้งสามคนในห้องจะมองไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง
ใบหน้าคมคายของชเวซีวอนพยักหน้าช้าๆ
“เรื่องของไอ้เมื่อวานอะไรนั่นเปล่า?”ยุนโฮถามเรียบๆ ซีวอนพยักหน้าอีกครั้ง
“ไอ้หมอนั่นจะแต่งงานกับคิมฮีชอลจริงๆเหรอ?”คิบอมถามบ้าง
“น่าสงสารอาจารย์ฮยอกแจ”คยูฮยอนเปรยออกมาช้าๆ
สามหนุ่มที่เหลือพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย
ครืดดดดดดดดดดด
ชเวซีวอนเปิดประตูห้องก่อนที่จะเดินออกไปท่ามกลางความสับสนงุนงงจากบุคคลข้างหลัง
“รู้สึกช่วงนี้มันไม่พาผู้หญิงมานอนบ้านเลยหวะ...มันเปี๋ยนไป๋หวะ”จุงยุนโฮหันมาพูดกับชายหนุ่มอีกสองคน
“เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง”คิมคิบอมได้แต่พยักหน้าเงียบๆตามความเห็นของโจคยูฮยอน
“คิบอม...นายผอมลงรึเปล่าเนี่ย? ดูสวยขึ้นนะเนี่ย”ยุนโฮทัก เจ้าของชื่อหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนที่กระแอมเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
โจคยูฮยอนเปรยตามองเพื่อนสนิทผู้เงียบขรึมของตน
นับวันจะยิ่งเหมือนเคะมากกว่าเมะ...
ไม่เที่ยวผับ ทำแต่งาน ไม่เคยนอนกับใคร สุภาพเรียบร้อยและขี้อาย
ตกลงมันเป็นอุเคะหรือเซเมะกันแน่เนี่ย?!?!!!
“เพราะว่าวันศุกร์นี้จะเป็นวันปิดเทอมแล้ว...ขอให้นักเรียนทุกคนพยายามตั้งใจเรียนยันวันสุดท้ายนะ”ประโยคคำสั่งแกมขอร้องในช่วงสุดท้ายทำเอานักเรียนทุกคนต่างพากันโวยลั่นทันที
แต่เสียงดังโหวกเหวกก็ต้องเงียบหายไปเมื่อร่างสูงหน้าห้องเงยหน้าพร้อมกับสายตาโหดๆที่กวาดตามองไปรอบๆห้องก่อนที่จะไปหยุดอยู่ตรงนักเรียนผมแดงหน้าหวานตาคล้ำที่หนังหลังสุดของห้องริมประตู
คิมฮีชอลนั่งเงียบอยู่คนเดียว
ดวงตากลมโตที่คล้ำเขียวฉายแววเศร้าสร้อยและเหม่อลอยออกไปไกล
ร่างบางถอนหายใจก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมากุมขมับแล้วเท้าโต๊ะ
ตอนนี้...ไม่เหลือเค้าเดิมของคิมฮีชอลที่เคยกวนประสาท
ตะโกนโหวกเหวก หลับในห้อง ชวนเพื่อนคุย ไม่ตั้งใจเรียนแล้ว...
แม้แต่ตัวของซีวอนเองยังต้องขอยอมรับว่าเขาคิดถึงฮีชอลตัวแสบที่ชอบทำให้เขาหวั่นไหวมากที่สุดในตอนนี้!!!
ครืดดดดดดดดดดดดดดด...
ดววตาคมเข้มละสายตาจากร่างบางแล้วหันไปมองอาคันตุกะผู้มาใหม่
จุงยุนโฮยืนมองร่างบางเรียบๆก่อนที่จะหันมาสบตากับซีวอนเป็นเชิงเข้าใจกัน
ใบหน้าคมคายพยักหน้าก่อนที่จะหอบแฟ้มเดินออกไปจากห้องเรียน ยุนโฮเดินเข้ามาแทนที่ซีวอนก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบๆบ้าง
“เอาหละ...หน้า 89 ย่อหน้าที่ 10...โบอา ลองอ่านสิ”
“รัก ยังร้องเรียกเธอซ้ำๆ ล้านคำในทุกนาทีที่หายใจ
ก็ไม่รู้ชีวิตจะอยู่ถึงไหน วันสุดท้าย...คือวันที่ลืมเธอ
ลบไม่ได้หรอกใจมันสั่งให้จำ...”
เสียงเพลงดังผ่านวิทยุขนาดจิ๋วในห้องพักครูทำเอาร่างเล็กสะดุ้งก่อนที่จะรู้สึกถึงร้อนผ่าวตรงเบ้าตา
หยาดน้ำใสเอ่อล้นเบ้าตาสวย
เสียงทุ้มต่ำของอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์สบถออกมาพลางลุกขึ้นไปหาวิทยุตัวนั้น
ปิ๊บบบบบบ...
“ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันจะยังรักเธอ ไม่ว่าเธอกับฉันวันนี้จะอยู่แสนไกล
ก็ยังจะรออย่างมีความหวัง
ยังคงไม่เปลี่ยนไป
ไม่ว่าใครจะมองว่าฉันงมงาย
ฉันก็ยังเหมือนเดิม...”
หยาดน้ำใสไหลอาบแก้มเนียนทั้งสองแก้ม ลีฮยอกแจสะอื้นไห้เบาๆ
มือเล็กยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆอย่างรวดเร็ว
โจคยูฮยอนสบถพรืดออกมาอย่างสงสารแกมหงุดหงิด
มือหนาหยิบรีโมทแล้วจ่อไปยังวิทยุเครื่องนั้น
ปี๊บบบบบบ...
“I always needed
time on my own
I never thought I'd need you there when I cry
And the days feel like years when I'm alone
And the bed where you lie is made up on your side...”
คยูฮยอนแทบจะตกเก้าอี้
ไม่ว่าจะเปิดไปช่องไหนก็เจอแต่เพลงเศร้าตอกย้ำคนอกหักตลอด! สุดท้ายร่างสูงโปร่งก็จำใจกดปิดวิทยุเครื่องนั้นก่อนที่จะหันมาทางลีฮยอกแจที่นั่งหันหลังกลับให้ตน
ร่างสูงโปร่งวางมือลงบนไหล่เล็กของฮยอกแจ
ใบหน้าหวานออกห้าวๆที่เต็มไปด้วยน้ำตาหันมามองคยูฮยอน
“ฮึก...”
“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ฮยอกแจ...อยากร้อง...ก็ร้องออกมาเถอะ”เสียงของคิบอมดังขึ้นมาจากประตูห้อง
เจ้าของชื่อพยักหน้าช้าๆก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร
เสียงร้องไห้ของลีฮยอกแจดังก้องกังวานไปทั่วห้องพักครู
เป็นเสียงร้องไห้ของคนที่...หัวใจแตกสลาย
“อาจารย์! อาจารย์ยุนโฮ!!!”เสียงหวานสองเสียงสลับกันเรียกชื่อร่างสูงข้างหน้า
เจ้าของชื่อหันมามองอย่างงุนงง
“มีอะไร?”จุงยุนโฮถามเสียงเรียบพร้อมกับมองร่างบางทั้งสองร่างที่หอบแฮ่กๆ
คนแรก...คิมฮีชอลที่ใบหน้าดูซีดเซียวและดวงตาคล้ำ
อากัปกิริยาดูแตกต่างไปจากวันเก่าๆ ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าสร้อยอยู่ตลอดเวลา
และอีกคน...คิมแจจุงที่นช่วงระยะหลังนี้แทบจะไม่มองหน้าตนเลยไม่ว่าจะเจอกันระหว่างทางโดยบังเอิญ
คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อคราวโจ๋เรนเจอร์อะไรนั่นแน่
“จารย์...อ อาจารย์...ฮยอกแจ...เป็นยังไงบ้างฮะ?”เสียงหวานของคิมฮีชอลถามเบาๆ ยุนโฮเลิกคิ้วก่อนที่จะยิ้มแห้งๆ
“แค่ร้องไห้หนักจนตาคล้ำ...เหมือนนายนั่นแหละ”ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะกลอกตาขึ้นไปบนฟ้าอย่างสุดเซ็ง
“ฉิบหายแล้วฮีชอล!!”คิมแจจุงตะโกนลั่นพร้อมกับชี้นิ้วไปยังข้างหน้าตน
มือเรียวอีกข้างเขย่าแขนเพื่อนรักนามฮีชอลให้หันมามองตามตน ดวงตากลมโตของฮีชอลหันไปมองก่อนที่จะเบิกตากว้าง
“บรรลัย!!”จุงยุนโฮหันไปตามที่แจจุงชี้และฮีชอลมอง ร่างสูงสบถเลิกคิ้วอย่างแปลกใจก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆ
“ตัวต้นเหตุมาแล้ว”
ร่างสูงโปร่งของหนุ่มจีนเดินดุ่มๆมาหาทั้งสามคนพอดีกับที่ร่างสูงของชเวซีวอนกึ่งเดินกุ่งวิ่งมาสมทบ
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันก่อนที่จะส่งสายตาเป็นสงครามเย็น
“มาทำอะไรที่นี่”ชเวซีวอนถามเสียงเรียบอย่างโหดๆ ฮีชอล
แจจุงและยุนโฮได้แต่ยืนดูสงครามเย็นที่มีร่างสูงรูปหล่อสองคนฉะกัน
“มารับฮีชอล”
“ฮีชอลจะกลับกับฉัน”ซีวอนพูดต่อทันทีที่ฮันกยองพูดจบ ใบหน้าหวานขึ้นสีหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อยเมื่อมือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางของตน ดวงตากลมโตมองไปยังมือของร่างสูงก่อนที่จะมองไปยังใบหน้าคมคายของซีวอนที่จับจ้องไปยังฮันกยองอย่างประหัดประหาร
เหมือนจะรู้สึกว่าถูกมอง
ดวงตาคมเข้มเหลือบไปมองร่างบางที่ตนจับข้อมืออยู่ก็พบกับดวงตากลมโตที่ส่งสายตาตัดเพ้อและน้อยใจมาให้
นาย...ยังคงโกรธไม่หายสินะ...
มือหนาปล่อยข้อมือร่างบางอย่างช้าๆ
ฮันกยองลอบมองอย่างสะใจก่อนที่จะกระตุกยิ้ม
“ว่าไงหละ? ฮีชอล...จะกลับกับใคร?”ฮันกยองหันมาถาม
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมามองเรียบๆ
“เฮียทำบ้าอะไรของเฮีย?”เสียงหวานถามอย่างหงุดหงิดและสั่นๆบ่งบอกถึงความโกรธ
“ฉัน...”
“เฮียเป็นบ้าอะไรของเฮีย? เฮียฮันกยองที่ผมรู้จัก...ไม่ใช่คนแบบนี้”ประโยคสุดท้ายฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังสุดๆ
“ที่ฉันทำไปทั้งหมด...”หนุ่มจีนหันมามองร่างบางพร้อมกับสายตาจริงใจจนฮีชอลใจหายวูบ
“...เพราะฉันรักนาย”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสี่คนแทนคำตอบ
คิมฮีชอลยืนตาเบิกกว้างอย่างตกใจพอๆกับจุงยุนโฮ คิมแจจุงและชเวซีวอน...
“ม ไม่จริงใช่ไหม?”เสียงสั่นของบุคคลที่หกดังขึ้นมา
ทุกคนหันขวับไปมองก่อนที่จะเบิกตากว้างอีกครั้ง
ลีฮยอกแจยืนร้องไห้อยู่โดยไม่อายใคร!
“ฮยอก.../อาจารย์ฮยอกแจ”ฮันกยองและฮีชอลเรียกชื่อคนตรงหน้าเบาๆราวกับกระซิบ
เจ้าของชื่อรีบเช็ดน้ำตาก่อนที่จะเดินมาหาลูกศิษย์สุดที่รักของตน
“ฮีชอล...ฮึก...ดูแลฮันกยองดีๆนะ”พูดจบจบฮยอกแจก็หันหลังกลับไปแล้ววิ่งออกไปทันที
“เฮียฮันกยอง!”คิมแจจุงตะโกนเรียกชื่อร่างสูงโปร่งตรงหน้าพร้อมกับเดินเข้าไปจะเอาเรื่องแต่กลับถูกมือหนาของจุงยุนโฮดึงเอาไว้แล้วลากออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ
“ฮีชอล...ฉันรักนายจริงๆนะ”ฮันกยองพูดอีกครั้งพลางเดินมาหาร่างบางที่ยืนก้มหน้านิ่ง
มือเรียวยกขึ้นห้ามไม่ให้หนุ่มจีนเดินเข้ามาใกล้ตนมากกว่านี้
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาเย็นชาก่อนที่จะเค้นหัวเราะออกมาอย่างสมเพช
“รักผมจริงๆเหรอเฮีย?”คิมฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฮันกยองพยักหน้าช้าๆ ร่างบางหัวเราะดังขึ้นกว่าเก่าราวกับคนบ้า
“That's bullshit.”ร่างบางเอ่ยเสียงเรียบ ฮันกยองทำหน้างุนงง
“ม หมายความว่าไงฮีชอล?”
“มันเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเองแหละฮะ...เฮียลองไปนึกทบทวนหัวใจเฮียดู...ว่าใครกันแน่ที่เฮียเฝ้ารอคอยมาตลอด...”
“จารย์ฮยอกยังอยู่ที่เดิม...ที่อยู่เดิม...ผมไปหละ”
พูดจบก็เดินชนไหล่ของฮันกยองไปยังหน้าประตูโรงเรียน
“คิมฮีชอล!”ร่างบางหยุดเดินแล้วหันมามองเจ้าของเสียงที่ค่อยๆชะลอความเร็วมาเดิน
“ครับ?”
“ไปส่งไหม?”ชเวซีวอนถามออกไปอย่างมีหวังแต่ก็หัวใจแทบแตกสลายเมื่อใบหน้าหวานยังคงสีหน้าเรียบ
“ไม่เป็...”ประโยคต่อไปถูกกลืนหายกลับเข้าไปในปากเมื่อริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มหวานอย่างเป็นธรรมชาติออกมา
คิมฮีชอลยิ้มหวานแล้วเดินกลับมาหาร่างสูง
“รบกวนด้วยนะฮะ”
หยาดน้ำตาไหลออกมาอีกระลอกเมื่อเหลือบไปเห็นรูปคู่ของเขากับฮันกยองยืนกอดกัน
ที่รอมาตลอด3ปี...คือความเจ็บปวด น้ำตาและหัวใจที่แตกสลายสินะ
ที่รอมาตลอด3ปี...คืออย่างนี้เองหนะเหรอ?
ฮันกยอง...มันเป็นความฝันใช่ไหม?
นายยังรักฉันใช่ไหม?
ลีฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะเบิกตาอย่างงุนงงเมื่อเห็นวัตุถุกลมๆสีชมพูลอยผ่านหน้าต่างคอนโดตนไป
มือเล็กรีบยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกก่อนที่จะอ้าปากกว้างกับภาพตรงหน้า
ลูกโป่งหลากสีสันลอยผ่านหน้าต่างตนไป
บนลูกโป่งเหล่านั้นมีตัวอักษรเขียนเอาไว้ว่า...
...ผมขอโทษ...
“ฮันกยอง!”ฮยอกแจร้องลั่นออกมาพร้อมกับรีบเปิดหน้าต่างแล้วชะโงกหน้าลงไป
บุคคลต้นคิดและเจ้าของชื่อยืนยิ้มหราอยู่ข้างล่าง
ในมือมีช่อดอกกุหลาบจำนวน15ดอกมัดอยู่
ลีฮยอกแจผุดหายเข้าไปในบ้านและในเวลาต่อมาก็โผล่มาอยู่ข้างล่างในไม่กี่อึดใจ
“ฮยอกแจ...ผม...”
หมับบบบบบบบบบ...
คำขอโทษถูกกลืนหายไปเมื่อเจ้าของชื่อที่ยืนร้องไห้อยู่กระโดดมากอดโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
“ไอ้แปะบ้า!”คำด่าเพียงคำเดียวแล้วตามด้วยการปล่อยโฮอย่างซาบซึ้งใจอีกหลายระลอก
ฮันกยองยิ้มแห้งๆพร้อมกับกอดร่างเล็กตอบ
แค่กลับมา...พร้อมกับรอยยิ้ม...แค่นี้ก็เกินพอแล้ว...
เคยมีคนบอกเอาไว้...ดอกกุหลาบ15ดอกหนะ...แทนคำขอโทษ
“ขอโทษที่ทำให้นายร้องไห้นะ...ฉันมันหน้าโง่...ขอโทษจริงๆ...”
“ขอแค่นายกลับมายิ้มให้ฉัน
กอดฉัน...เหมือนเดิมแค่นี้ก็แทนคำขอโทษได้แล้วหละฮันกยอง”
เอี๊ยดดดดดดดด...
รถสปอร์ตสีแดงคันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านสีขาวหลังเล็ก
“ขอบคุณที่มาส่งครับ”คิมฮีชอลพูดเรียบๆพร้อมกับมือเรียวที่เอื้อมจะไปเปิดประตูแต่กลับเปิดไม่ออก
ใบหน้าหวานหันไปมองคนข้างๆตนอย่างหงุดหงิด
“ได้โปรดจารย์ เปิด!”เสียงหวานขอร้องแกมบังคับ ชเวซีวอนหัวเราะเบาๆพร้อมกับมองหน้าร่างบาง
“ขอโทษที่ด่านายเรื่องฮันกยอง...ขอโทษที่เข้าใจนายผิด...”ซีวอนพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยและเจ็บปวด
ไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า มือเรียวเอื้อมมาแตะมือหนาแล้วบีบเบาๆ
ใบหน้าหล่อคมเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางที่ยิ้มหวานให้
“แต่สุดท้ายเรื่องมันก็จบลงด้วยดีนี่อะจารย์”ริมฝีปากหนายิ้มตามอย่างอดใจไม่ได้
“แต่จารย์ฮะ เปิดหน่อยเหอะนะ”คิมฮีชอลพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อม
ร่างสูงกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มือหนาอีกข้างชี้ไปยังแก้มของตนแทนคำตอบ
“...แต่จารย์ต้องเปิดนะ!”ใบหน้าหล่อพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ฮีชอลสบถพรืดก่อนที่จะรีบโน้มตัวไปหอมแก้มร่างสูงอย่างรวดเร็วและรีบผละออกทันทีราวกับต้องของร้อน
ฟรึ่บบบบบบบบ...
กลอนประตูรถเด้งออกมาทันที
มือเรียวรีบเปิดประตูรถออกมาแล้วรีบผละออกมาจากรถทันที
“ฮีชอล~”เจ้าของชื่อโน้มใบหน้าเข้ามาในรถอย่างงุนงง
“อยากเป็นกาแฟกระป๋องอะ!”ซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงราวกับเด็กๆอารมณ์ดี
ใบหน้าหวานเลิกคิ้วอย่างงุนงง
“จะได้เป็นที่หนึ่งในใจคุณไง!”
“เป็นไปคนเดียวเหอะ!”
ปังงงงงงงงงงงง!!
มือเรียวปิดประตูรถเสียเต็มแรงโดยไม่แคร์ว่าประตูรถจะพังหรือเปล่า...ช่างปะไร
ไอ้หมอนั่นมีเงินจ่ายอยู่แล้ว!!
อยากเป็นกาแฟกระป๋องอะ!
จะได้เป็นที่หนึ่งในใจคุณไง!
ประโยคสองประโยควนเวียนอยู่ในใจ
ฮีชอลยิ้มหวานอยู่คนเดียวก่อนที่จะหัวเราออกมาเบาๆราวกับคนบ้า
เน่าได้ใจ เสี่ยวได้โล่มากชเวซีวอน!!!
--------------------------------------------------------------------------------
เม้นเกิน100+เม้นแล้ว!!!
ดีใจมากๆ x] x]]~
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและคอยเป็นกำลังใจให้ซ๊องเสมอ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆนะคะ
Thank you for everything x]
3ความคิดเห็น