คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 7 :: ขังผมทำไม?
CHATER 7 :: ขังผมทำไม?
[Kyungsoo]
“เอาใบไม้มาบังไว้ดีมั้ย?”
จุนมยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ มินซอกกับแบคฮยอนยืนมองดูร่างเน่าเฟะของครูแทยอนด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ คล้ายกับว่าจะทำอย่างไรกับศพของครู...
ผมทรุดเข่าลงนั่ง น้ำหูน้ำตาไหล หูผมอื้อ กลิ่นเหม็นของเนื้อเน่าลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น ผมพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองอ้วกออกมา แต่ลมที่ถูกไล่มาจากกระบังลมส่งมาทางหลอดลมทำให้อาหารที่รอย่อยนั้นพุ่งออกมา ผมหันเข้าไปโคนต้นไม้ที่ใกล้ที่สุดเพื่ออ้วกเอาอาหารมื้อสุดท้ายออกมา...
“คยองซูไหวมั้ย?”
เสียงของชานยอลดังมาจากด้านหลัง ผมใช้มือปาดน้ำตาเบาๆก่อนจะลืมตาขึ้นและผมก็เห็น..ใครสักคนนอนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขามีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยไปหมด ฝูงแมลงวันแตกฝูงเมื่อผมอ้วกใส่ขุมทรัพย์อาหารของมัน
ผมกระโดดออกมาทันที...เสียงร้องไม่เป็นภาษาของผมดังขึ้นอย่างที่ผมเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมพิจารณาศพที่ผมเพิ่งอ้วกใส่เมื่อกี้...เสื้อผ้าที่สวมไส่มันดูคุ้นๆ มันเหมือนเสื้อผ้าของผมที่ใส่อยู่ตอนนี้!!!
“คยองซูเป็นอะไร?”
แบคฮยอนเขย่าแขนผมเบาๆ
“ศพ...ศพฉันอยู่ตรงนั้น โคนต้นไม้นั่น..ฉะ..ฉันตาย ฉันตายแล้ว”
แบคฮยอนมองผมด้วยสายตาหนักใจ
“นายยังไม่ตาย...และนายก็จะไม่ตายด้วย”
ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของแบคฮยอน เหมือนหูผมจะหายอื้อทันที ผมมองไปรอบข้าง จงแดนั่งพิงโคนต้นไม้มองผมด้วยสายตาเหยียดหยาม ชานยอลกับมินซอกยืนมองผมด้วยสายตาสงสัย จุนมยอนทำหน้าตกใจ เขาละล่ำละลักพูดออกมา
“นะ..นายเป็นเดจาวูใช่มั้ย?”
ชานยอลร้องเหวอออกมา แล้วพึมพำเป็นเชิงว่าเขาก็เคยเกิดอาการเดจาวูมาก่อน
“ไม่ใช่หรอก...เขาแค่สติกระเจิงนิดหน่อย เดี๋ยวเขาก็หาย”
แบคฮยอนบีบผมมือเบาๆ ผมเหมือนได้ยินเสียงหอนออกมาจากปากเขา แต่ตาของเขามองผมด้วยความเป็นห่วง
แบคฮยอนเป็นหมาป่า!!!!!
ผมสะบัดมือเขาทิ้ง แล้วถอยหลังไปหาชานยอล หลังของเขาชนกับอกชานยอล เขาจับไหล่ผมให้พลิกตัวไปหาเขา...แล้วเขาก็แยกเขี้ยวขู่ผม
ผมดิ้นเพื่อให้หลุดจากชานยอล พยายามที่จะวิ่งไปหาจุนมยอนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุดแต่จุนมยอนกลับแสยะยิ้มแล้วแยกเขี้ยขู่ผมอีกคน จงแดก็ด้วย!!!!
ผมร้องไห้โฮออกมาโดยไม่อาย ขาที่ก้าวออกไปกลับอ่อนแรง ผมเคยบอกแล้วว่าหนีไปยังไงก็ไม่รอด ยังไงผมก็ไม่รอด...และทุกคนหลอกผม ทุกคนคือหมาป่า!!! เขารวมหัวกันหลอกผม แล้วพวกเขาก็จะฆ่าผม
“คยองซู...นายเป็นอะไร?”
เสียงเย็นๆของมินซอกจากข้างหลังทำให้ผมดีใจยิ่งกว่าอะไร...เขายืนมองผมด้วยสายตาเอือมระอา
“พวกเขาเป็นหมาป่า....เขาจะฆ่าฉัน”
มินซอกถอนหายใจก่อนจะเดินไปหาแบคฮยอน
“พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละน่า”
ผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อมอง แบคฮยอนไม่ได้หอนแล้ว ชานยอลเองก็ไม่ได้ขู่อีกแล้ว จุนมยอนกับจงแดก็ยืนอยู่นิ่งๆ ทุกคนมองผมด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายและเอือมระอา...แล้วไอ้ที่ผมเห็นเมื่อกี้นี่มันคืออะไร?
“ตั้งสติหน่อยสิ นายจะถูกมันหลอกได้ง่ายๆเลยนะ”
แบคฮยอนดุผมเสียงแข็ง ทุกคนไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ผมเห็นอีก มินซอกเดินนำทางมาได้อีกไม่นานก็เห็นหลังคาของบ้านพัก...
ความรู้สึกเหนื่อยทุกอย่างเหมือนถูกเป่าออกไป พวกเราวิ่งไปที่บ้านพักแบบลืมเหนื่อย ยิ่งเข้าใกล้เรื่อยๆเสียงหัวเราะของแต่ละคนก็ยิ่งดังขึ้น
เมื่อมาถึงหน้าบ้านพัก สิ่งแรกที่พวกเราทำคือทิ้งตัวลงนอนบนพื้น ฟ้ามืดพอดี หลังจากที่หายเหนื่อยมินซอกก็เปิดประตูบ้าน พวกเราเข้าไปข้างใน ข้าวของข้างในบ้านกระจัดกระจายอยู่ตามมุมต่างๆ ข้างในมืดสลัวๆ แบคฮยอนเดินไปเปิดไฟ พวกเราไม่มีใครพูดอะไรกันอีก ทุกคนต่างไปรวมกันที่ห้องครัว แต่ผมกลับเป็นคนเดียวที่ทิ้งตัวลงบนโซฟาและหลับไป...
ผมลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นแบคฮยอนนั่งอยู่บนพื้นข้างโซฟาที่ผมนอนอยู่ มือของเขามีกิมจิกระป๋องกับข้าวเปล่าหนึ่งจานวางอยู่ตรงหน้า เขายิ้มให้ผมแล้วเลื่อนจานข้าววางบนโต๊ะชุดตัวเล็กข้างโซฟา
“เราไม่มีแก๊ส กินนี่ไปก่อนนะ”
ผมพยักหน้า แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวกับกิมจิใส่ปาก
“ฉันจะไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวรออยู่บนห้อง กินข้าวเสร็จแล้วตามขึ้นไปนะ”
แบคฮยอนยิ้มให้ผมแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป ผมกินข้าวกับกิมจิจนหมดด้วยความหิว แล้วจึงยกจานไปล้าง มินซอกกำลังปอกแอปเปิ้ลอยู่ในครัว
“นึกว่านายหลับซะอีก”
มินซอกทักผมเมื่อผมวางจานลงบนซิงก์ เขาปอกแอปเปิ้ลได้โดยที่เปลือกไม่ขาด ผมละสายตาจากแอปเปิ้ลแล้วมองหน้าเขาแทน
“อืม...ตื่นแล้ว ตื่นเมื่อกี้นี้แหละ”
มินซอกพยักหน้า เขายื่นแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นแล้วให้ผม ผมรับมากัดเข้าปาก รสเปรี้ยวอมหวานของแอปเปิ้ลทำให้ผมรู้สึกดีเพราะได้รับน้ำตาล มินซอกอมยิ้ม เขานั่งลงบนโต๊ะอาหาร ผมจึงเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆ เขาแกว่งขาไปมา ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดี
มินซอกกระพริบตาถี่เหลือเกิน เขาดูเหมือนเป็นอะไรที่ตา ผมเอียงตัวตามเขาเพื่อดู จริงๆด้วย ตาของเขาดูบวมผิดปกติ
“มินซอก...ตานายเป็นอะไร?”
มินซอกเผลอเอามือลูบตาข้างขวาทันที เขาจิ๊ปากเบาๆแล้วก้มหน้าจนคอชิดกับอก
“ฉันอดนอนมาหลายคืนแล้วไง...ช่างมันเหอะ”
ผมถอนหายใจออกมาเสียงดังจนมินซอกหันมามอง ถ้าเขาปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไปต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ ผมลุกขึ้นยืนแล้วหยิบทิชชู่บนโต๊ะอาหารมาปึกเล็กๆปึกหนึ่ง แล้วเอาไปอังกับฮีตเตอร์(เครื่องทำความร้อน)จากนั้นผมก็กลับมาที่มินซอกอีกครั้ง เขาหยุดแกว่งขาเมื่อผมเข้าไปใกล้ ผมวางทิชชู่ที่กำลังอุ่นจัดบนตาข้างที่บวมของเขา มินซอกยื่นมือมาจับทิชชู่ไว้ ผมจึงปล่อยมือจากทิชชู่
“ทำแบบนี้ดูนะ น่าจะช่วยได้ อย่างน้อยมันก็หายเจ็บ”
มินซอกพยักหน้า เขาไม่ได้ยิ้มแสดงคำพูดขอบคุณหรือความรู้สึกว่าหายปวดตาเลยสักนิด เขาอึกอักก่อนจะตอบด้วยเสียงอ้อมแอ้ม
“อะ...อื้ม”
“ดีขึ้นยัง?”
มินซอกพยักหน้า เขายกนิ้วโป้งขึ้นชูให้ผม ดีแล้วล่ะ เพราะเขาเป็นเพียงไม่กี่คนที่ผมไว้ใจ...
“ฉันไปก่อนนะ”
ผมเดินออกมาจากครัว แล้วขึ้นไปบนห้องนอน ชานยอลนั่งอยู่บนเตียงของจงอิน ส่วนแบคฮยอนยังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ
“นายมาทำอะไร?”
ชานยอลเบะปาก เขาดูดนิ้วอีกแล้ว เข้าใจนะว่ามันเป็นนิสัยแต่มันทำให้เขาเป็นพวกสมองกลวงเกินไปแล้ว
“มาไม่ได้เหรอ?...แบคฮยอนบอกว่าฉันนอนด้วยได้”
ชานยอลทำหน้ารู้สึกผิด เขาก้าวขาลงจากเตียงเหมือนจะกลับห้อง
“อ้าว จะไปไหน?”
เสียงแบคฮยอนที่พึ่งออกจากห้องน้ำดังขึ้น ชานยอลยิ้มกว้าง และเขาต้องฟ้องแบคฮยอนแน่ๆ ไอ้....
“เออ ช่างมันเหอะ!!!”
ผมตัดบทก่อนที่ชานยอลจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ผมเดินไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อผ้าไปอาบน้ำ ไม่มีใครสนใจผม แบคฮยอนคงรู้แน่ว่าผมงอนเขาอยู่ แต่นิสัยนี้ของผมก็ไม่เคยมีใครแก้ได้...นอกจากแทมิน
เสียงของแบคฮยอนกำลังคุยกำลังคุยกับชานยอลเสียงดังมาถึงในห้องน้ำ ผมรำคาญจนต้องเปิดฝักบัวให้แรงที่สุดแล้วตะโกนร้องเพลงแข่งกับเสียงทุกอย่าง
พอผมอาบน้ำเสร็จและเปิดประตูออกมาก็พบกับมินซอกที่กำลังยืนดูของตกแต่งในห้องอยู่ ชานยอลยิ้มดีใจเมื่อเห็นผม แบคฮยอนมองจับจ้องอยู่ที่มินซอกอย่างตั้งใจ เขาชำเลืองมองผมนิดหนึ่งก่อนจะกันไปจ้องมินซอกต่อ
“มีอะไรกัน?”
ผมใช้ผ้าขนหนูซับผมให้แห้งเบาๆ มินซอกยิ้มบางๆ
“ฉันมาชวนนายไปนอนด้วย”
“ห้ะ?”
ทั้งผม ชานยอล และแบคฮยอนร้องออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน มินซอกรีบโบกไม้โบกมือทันที
“ฉันหมายถึงไปนอนเป็นเพื่อน...ฉันไม่กล้านอนคนเดียว”
ผมพยักหน้าตอบรับ แอบได้ยินเสียงแค่นหัวเราะจากแบคฮยอน ทำไมล่ะ? ไม่อยากให้ไปใช่มั้ย? ก็ดีเหมือนกันถ้าผมต้องเห็นไอ้ชานยอลต่อไปผมคงนอนไม่หลับ เอาเป็นว่าไปนอนกับมินซอกก็ดีเหมือนกัน
“โอเค..”
มินซอกยิ้มพอใจก่อนจะกลับห้องไปก่อน แบคฮยอนรีบเดินมากระชากแขนผม
“อย่าไปนะ ขอร้องล่ะ”
“ทำไม”
แบคฮยอนเงียบ เขามองผมด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ทำไมจะไปไม่ได้...อย่ามาทำตัวงี่เง่าใส่ได้ป่ะ อคติอะไรนักหนา”
ผมสะบัดมือออกจากแบคฮยอนแล้วเดินไปที่ห้องของมินซอก ตรงโถงทางเดินที่สุดทางนั้นมีกระจกบานใหญ่ตรงหน้าประตูห้องของชานยอลที่ผมไม่เคยสังเกต ผมสำรวจตัวเองในนั้น...
แก้มที่เคยอวบของผมซูบเซียว ขอบตาดำคล้ำ ตาของผมแดงเรื่อ ผมเริ่มมีอาการปวดตาแบบที่มินซอกเป็น มือของผมแห้งกร้าน...
ผมเคาะประตูแล้วมินซอกก็เปิดอย่างรวดเร็ว เขายิ้มไม่พูดอะไรมากนอกจากขอเปิดไฟนอน ก็ดีเหมือนกัน เพราะผมเองก็กลายเป็นคนกลัวความมืดไปซะแล้ว
มินซอกพลิกตัวไปมา เหมือนเขาเองก็นอนไม่หลับ ผมพลิกตัวตะแคงไปหาเขาที่นอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่ เหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“นี่...นอนไม่หลับใช่มั้ย?”
มินซอกตะแคงตัวมาหาผม เขาพยักหน้า
“มีอะไรอยากเล่าให้ฟังมั้ย?”
มินซอกยิ้มแล้วส่ายหน้า แต่ตาของเขามีแววตาของคนที่มีเรื่องเป็นกังวลอยู่ เขายกมือขึ้นมาแล้วเริ่มนับนิ้ว คิดว่าคงนับแทนการนับแกะมั้ง
“อี...เอร้อ.....ซาน....ซื่อ”
ผมนึกถึงเรื่องที่เคยเป็นประเด็นคุยระหว่างผม แทมิน และแบคฮยอนอยู่ครั้งหนึ่ง...และผมก็สงสัยอยู่หลายเรื่อง
“นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอเวลานายโดนแกล้งน่ะ นายทำหน้านิ่งตลอดเลย”
ผมหลุดปากพูดเรื่องที่สงสัยออกไป มินซอกหยุดนับนิ้ว เขาหันมาหาผม...เขาทำหน้านิ่งอีกแล้ว
“ถ้าฉันไม่ตอบสนอง...พวกมันก็จะหมดสนุกและหยุดไปเอง”
เขาพลิกตัวกลับไปนอนหงายมองเพดาน แต่ผมก็เคยเห็นเขาร้องไห้...วันนั้นฝนตกตอนกลับบ้าน พวกเราลืมเอาร่มมาและหลายคนนั่งรอให้ฝนหยุดตก...แต่มินซอกกลับเดินลงบันไดมาแล้วเดินออกไปเลยโดยที่ไม่มีร่ม เสียงฮือฮาดังขึ้น นักเรียนชายและนักเรียนหญิงหลายคนหัวเราะเขา แต่ก็มีบางคนที่ทำหน้าเหมือนสงสาร เขาคงโดนแกล้งมาอีกแล้ว
“ทำไมเขาถึงโชคร้ายอย่างนี้...”
แบคฮยอนพูดขึ้นมาเรียบๆ แล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ ผมมองไปที่หน้าต่างข้างๆ ผู้หญิงที่ชื่อเฉิงเฉิงมองเขานิ่ง ทั้งคู่เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน...แต่ไม่มีอะไรที่เหมือนกันนอกจากนามสกุล เฉิงเฉิงมองมินซอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เธอกลับมานั่งที่โต๊ะเรียนโดยไม่พูดอะไร
“ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างนี้นะมินซอก”
ผมพูดออกมาเบาๆ แทมินถอนหายใจแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเพราะเฉิงเฉิงนั่งอยู่โต๊ะข้างๆเรา ผมหันกลับไปมองมินซอกที่กำลังเดินผ่านหน้าไป ไหล่ของเขาสั่นเทิ้มหลายคนคงคิดว่าเขาหนาว...แต่ดูจากหน้าของเขาทำให้ผมรู้สึกตัวชาทันที....
มินซอกร้องไห้...เขาจงใจเดินตากฝนเพื่อให้น้ำฝนปิดบังน้ำตา
แล้วจะไม่ให้ผมทำดีกับเขาได้ยังไง
เสียงหายใจของมินซอกที่นอนอยู่ข้างๆทำให้ผมอุ่นใจ ผมค่อยๆปล่อยตัวเองให้หลับไป...
▀�▀�▀�
เสียงคุยกันดังอยู่ข้างนอกห้อง ผมหันไปมองมินซอก เขานอนหันหลังให้ผม ลมหายใจสม่ำเสมอ นั่นก็แสดงว่าเขาหลับอยู่ ผมก้าวขาลงจากเตียง เพื่อออกไปดู...
ผมค่อยๆแง้มประตูออกไป ทุกคนกำลังเดินออกไปที่ห้องโถง แต่แปลกที่ไม่มีใครมาปลุกผมกับมินซอกเลย ทุกคนคุยกันอย่างเงียบๆและผมก็เห็นบุคคลใหม่ยืนอยู่ตรงนั้น ข้างๆชานยอล
ผมก้าวออกจากห้องเดินไปที่พวกเขา จุนมยอนเป็นคนแรกที่เห็นผม เขาสะกิดให้ทุกคนรู้ว่าผมมา
“นายมาคนเดียวเหรอ?”
“อืม...ทำไมมีอะไรไม่บอกอ่ะ”
ผมตะคอกใส่แบคฮยอนด้วยความฉุน เขาหลบตาผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเราลงมาที่ห้องนั่งเล่น ผมพยายามมองว่าคนที่มาใหม่นั้นชื่ออะไร..ดูเหมือนเขาจะชื่อเลย์นะ
“เอาล่ะ เล่ามาเลยว่านายไปไหนมา แล้วกลับมาที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันเหรอ...”
เลย์กลืนน้ำลาย เขามองไปรอบๆห้องก่อนที่จะเริ่มเล่า
“วันที่เกิดเรื่อง ฉันหนีออกมาหลังจากที่ไอ้หมาตัวนั้นมันถูกฉันขว้างของใส่ ตอนที่ฉันหนีฉันไม่ได้ดูเลยว่าใครไปยังไงบ้าง..มันตัวใหญ่มากเลย แต่ฉันก็หนีไปไหนได้ไม่ไกลมากหรอก พอเช้าฉันก็ย้อนกลับมา...แล้วก็เฝ้าดูบ้านอยู่ห่างๆ ยังไม่กล้าเข้ามา แล้ววันก่อนฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะกลับเข้ามาดีมั้ย...มินซอกก็กลับมา”
เลย์หยุดพูด ทุกคนเหมือนกำลังรอฟังเขาพูดต่อ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“แล้วไงต่อ...”
“อะ...เอ่อ คือ...”
เลย์อึกอัก เหมือนเขาจะไม่อยากพูด
“เออ แล้วนายรู้ได้ไงว่าพวกฉันอยู่ที่นี่”
แบคฮยอนถามขึ้นทำลายความอึดอัด เลย์สบตาแบคฮยอนแล้วยิ้ม
“ฉันเห็นไฟเปิดตั้งแต่หัววันแล้ว..เลยลองดูสถานการณ์ก่อนว่าเป็นใคร พอรู้ว่าเป็นพวกนายฉันเลยเข้ามา ฉันดีใจจริงๆที่เจอพวกนาย”
ทุกคนคุยกันอย่างออกรส มีแค่ผมที่นั่งเงียบเพราะไม่มีเรื่องคุย แบคฮยอนคงลืมผมไปแล้ว ลืมไปแล้วว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน...
ผมปลีกตัวออกมาอย่างเงียบๆ แล้วเดินกลับไปที่ห้องเพื่อไปนอน มินซอกยังคงนอนหลับอยู่ ผมค่อยทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วข่มตานอนอีกครั้ง...
▀�▀�▀�
เสียงเอะอะดังขึ้นอีกครั้งเมื่อผมหลับไปได้ไม่นาน มินซอกไม่ได้นอนอยู่ข้างๆผม เสียงขู่
คำรามสลับกับเสียงร้องเอ๋งของหมาดังอยู่ข้างนอกห้อง เสียงตะโกนผสานกันของเพื่อนๆผมสลับกันไป
มา ผมขาสั่นจนไม่กล้าลุกขึ้นยืน ภาพต่างๆซ้อนเข้ามาในหัวผม...ภาพคนตาย
.......ภาพที่เยจินตาย
......ภาพที่แทมินตาย
บรรยากาศที่น่ากลัวหลังจากที่มีคนตาย.....
เสียงประตูเปิดออก มินซอกเป็นคนเข้ามา
“คยองซู มานี่!!!”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากพูดอะไร มินซอกก็คว้าแขนผมไปที่ตู้เสื้อผ้าริมหน้าต่าง เขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วดึงเสื้อทุกตัวออกมาจากตู้
แล้วเขาก็พยายามดันผมเข้าไปในนั้น!
“โอ๊ย เจ็บ...มินซอกนายจะทำอะไรน่ะ”
ผมพยายามขัดขืนเขา ทั้งข่วนทั้งดิ้นแต่เขาก็แรงเยอะกว่าผม เขาผลักผมให้เข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า
ผมมองตาเขา....มินซอกไม่แม้แต่จะมองหน้าผม
น้ำตาผมไหลจนมองเห็นหน้ามินซอกไม่ชัด รู้แต่ว่าเขายัดผมใส่ตู้ได้สำเร็จแล้ว ผมพยายามดันตัวออกไปนอกตู้อีกครั้ง แต่มินซอกผลักหัวผมเข้ามา
ผมมองตาเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนประตูตู้ปิด...แววตาของเขานิ่งสงบ
....เขาไม่มองหน้าผม
ประตูตู้ปิดลงและเสียงของลวดหรืออะไรสักอย่างเกี่ยวกันแน่น ข้างในมืดและอับมาก ผมเขย่าประตูตู้แรงๆ แต่มันขยับเพียงเล็กน้อย
มินซอกขังผม...เขาขังผมทำไม?
ทั้งๆที่ผมไว้ใจเขาแท้ๆ...
เขาขังผมทำไม?
[Kyungsoo]
[Baekhyun]
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเดินและเปิดประตูอยู่ชั้นล่าง ชานยอลนอนอยู่บนเตียงเงียบกริบ เขาคงไม่รู้เรื่องสินะ ผมหยิบขวดมูสแต่งผมของชานยอลลงมาข้างล่างด้วย เพื่อดูว่ามีอะไร
ผมหยุดอยู่ตรงบันได ร่างสูงกำลังเดินเข้ามาในบ้าน แสงจันทร์จากข้างนอกสาดส่องเข้ามาทำให้ผมมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด...หรือว่าเขาคือหมาป่า?
คนๆนั้นเริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ทำให้ผมเริ่มเห็นเขาชัดขึ้นๆ และผมก็ต้องร้องเหวอเพราะคนๆนั้น...คือเลย์ที่ช่วยชีวิตผม!!!
“แบคฮยอน”
แต่เลย์ยิ้มดีใจที่เห็นผม เขารีบเดินตรงมาที่ผม ผมถอยหลังอย่างรวดเร็ว ก็ผมยังไม่ค่อยแน่ใจนี่นา...
“มีอะไร...นี่ฉันเองนะ”
เลย์ดูผิดหวังกับท่าทีของผม นัยน์ตาของเขาดูผิดหวังจริงๆ นี่ผมควรเชื่อใจเขามั้ย?
หลังจากที่เลย์อธิบายเรื่องคร่าวๆให้ฟัง ผมก็เริ่มเข้าใจ จึงเดินไปปลุกทุกคน ยกเว้นมินซอกกับคยองซู เพราะว่าผมไม่ไว้ใจมินซอก และถ้าผมไปปลุกคยองซู มินซอกก็อาจจะรู้ ตอนนี้ยังไม่เป็นไร มินซอกคงยังคิดว่าผมสงสัยคนอื่นอยู่...
พวกเรานั่งคุยกันสักพักคยองซูก็โผล่มา เขาเหมือนไม่พอใจอะไรอยู่ พอเริ่มง่วงพวกเราก็แยกย้ายกันไปนอน เลย์นอนกับจงแดและจุนมยอน
ผมนอนไม่หลับเลยลงมานั่งเล่นข้างล่าง สายตาของผมเหลือบไปเห็นเงาของร่างร่างหนึ่งมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้าน...ใครกัน?
ผมแอบไปซ่อนอยู่ข้างหลังโซฟาทันที เงาของคนๆนั้นใกล้เข้ามา เขาเกาตามตัว แล้วค่อยๆหมอบคลานเข้ามา...
ใช่แน่ๆ...
เป็นมันแน่ๆ...หมาป่าตัวนั้นแน่ๆ!!!
ผมกระชับกระป๋องสเปรย์แน่น มันค่อยๆเปิดประตูออกและคลานเข้ามาคล้ายกับหมาที่ย่องไปขโมยของ...
ผมเอื้อมมือไปเปิดไฟเพื่อดูว่าใครกันที่เป็นหมาป่า...ใจของผมเองเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ มือสั่นและหายใจติดขัด ผมกำลังจะได้รู้ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้วว่าใครคือหมาตัวนั้น...
อยากรู้จนใจจะขาด...
ผมตบสวิตซ์ไฟเบาๆ...
ให้ตายสิครับ...
สิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
ก็หมาป่าที่ผมว่าน่ะ...
.....ชื่อเซฮุนไงครับ
[Baekhyun]
ไรท์เตอร์ชื่อแป้งค่ะ
ไม่ใช่ลี่หรือจ๋า
มีคนทักเราผิดอ่ะ น้อยใจ ฮือออออออออออออออออออออ
ต้องขอโทษก่อนที่มาอัพช้ากว่ากำหนดนะคะ
เพราะว่าเราทำสมุดฟิคหายที่โรงเรียน
และไอ้ที่สำคัญคือ..ใช้สมุดโรงเรียนเขียน
5555555555555555555555555555555555555555
ต้องมานั่งแต่งใหม่หมดเลย แต่งไว้เกือบจบแล้วด้วย เสียดายพล็อตมากอ่ะ ฮือออออออ
จำพล็อตเดิมไม่ได้แล้วด้วย ฮือออออออออออออออออ
--------------------------------------------------------------
เป็นไงคะ เดาถูกกันบ้างมั้ย? 55555555
จากที่ตามส่องอ่านในแท็กก็เดาถูกกันหลายคนเลยนะ เก่งๆ
ปริศนา :: เงา
เนื่องจากก่อนหน้านี้อัพไว้เพียงความว่างเปล่า ต้องขอโทษด้วย หิหิ
แต่ตอนนี้ไม่หลอกล่ะๆ 5555555555
ก็คะแนนโหวตมันลดอ่ะ เลยแกล้งนิดนึง ขำๆ
คะแนนโหวตลดครับได้ยินมั้ยพี่น้อง
อัพครั้งหน้ายังไม่รู้กำหนดนะคะ
น่าจะสักวันที่ 5
เผื่อหาสมุดฟิคเจอ
มีอะไรให้ดูอีกล่ะ
จูบตูดรัวๆๆๆๆๆๆๆๆ
Ha .ha
ความคิดเห็น