ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักได้ไหมพ่อคนไฮโซ?

    ลำดับตอนที่ #11 : ไฮโซแป้ง

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 67


    ร่างเพรียวบางเปิดประตูรถสปอร์ตสีแดงลงมาอย่างมั่นใจ หล่อนอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงเข้มความยาวเลยเข่ามานิดหน่อย อยู่บนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว และแว่นกันแดดที่ปิดบังใบหน้างดงามไว้ครึ่งหนึ่ง ริมฝีปากบางทาทับไว้ด้วยลิปสติกสีแดงสดเข้ากันกับชุดที่หล่อนสวมอยู่ เพราะความเป็นคนผิวขาว และรูปร่างดีอยู่แล้ว ทำให้หล่อนดูสวยโฉบเฉี่ยว และเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น ไม่ว่าหญิงสาวจะก้าวเดินไปทางไหนก็มีแต่สายตาหลายคู่หันมองตาม

    “นางแบบหรือเปล่า? สวยจัง” หล่อนชินซะแล้วกับคำชื่นชมจากคนรอบข้าง ถ้าไม่ได้ยินแบบนี้สิ ถือว่าแปลก

    หญิงสาวก้าวเดินอย่างมาดมั่น ตรงไปยังห้องเสื้อสุดหรู ที่แค่เห็นหน้าประตู คนธรรมดาไม่อาจเฉียดใกล้ เพราะในนั้น มีแต่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ที่ออกแบบด้วยห้องเสื้อ และดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ราคาชุดอย่างต่ำหลักหมื่น

    “สวัสดีค่ะ คุณแป้ง! มีอะไรให้รับใช้รึเปล่าค่ะวันนี้?” พนักงานสาวที่อยู่ในส่วนหน้า รีบวิ่งเข้ามาทำความเคารพหล่อน เพราะหญิงสาวเป็นถึงลูกค้า วีไอพีของทางร้าน และมีแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังเป็นของตัวเองอยู่ที่ร้านนี้ด้วย

    “แค่มาเช็คตลาดน่ะค่ะ ช่วงนี้มีอะไรใหม่บ้างรึปล่าค่ะ?” หล่อนต้องการมาสำรวจตลาดด้วยตัวเอง อยากรู้ว่า ในช่วงเวลาปัจจุบัน ความนิยมของลูกค้าส่วนใหญ่ นิยมเสื้อผ้า แบบไหน? โทนสีอะไร? เพื่อที่ได้ออกแบบมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

    หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในห้องเสื้อเกวินทร์อยู่สักพักหล่อนจึงขอตัวกลับออกมา หญิงสาวมองนาฬิกาข้อมือสุดหรูที่สวมใส่อยู่

    ยังมีเวลาอีกสองชั่วโมง กว่าจะถึงเวลานัดคุยงานกับทางบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านการออกแบบแฟชั่นชื่อดัง

    หล่อนอยากจะเดินเล่นฆ่าเวลาอีกสักพัก หันซ้ายหันขวา ก็ไปสะดุดตาเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งดูเหมือนกำลังให้ความสนใจอยู่กับอะไรบางอย่าง ด้วยความสงสัย หล่อนจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ที่แท้ก็เป็นร้าน ขายเสื้อผ้ามือสอง มีหญิงสาวอายุราวยี่สิบต้นๆสองคน ท่าทางคล่องแคล่ว และขายสินค้าเก่งมาก แค่หล่อนมายืนมองไม่ถึงห้านาที หญิงสาวทั้งสองก็สามารถปิดการขายสินค้าไปได้ไม่ต่ำกว่าห้าชิ้นแล้ว หล่อนยืนมองเพลินๆ จนมารู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่พบว่ากระเป๋าที่สะพายอยู่ถูกใครคนหนึ่งกระชากไป

    “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย! โจรขโมยกระเป๋า!” หล่อนเห็นหลังเจ้าขโมยนั่นไวๆ วิ่งไปทางแหล่งชุมชน แถวนี้มีตลาดขายสินค้าตอนเย็น ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน เจ้าขโมยนั่นอาศัยที่คนเยอะวิ่งหลบไปปะปนกับคนจำนวนมาก หล่อนพยายามวิ่งตามไป แต่ติดที่วันนี้แต่งตัวจัดเต็มมานี่สิ เพราะต้องไปคุยงานต่อ ไม่อย่างนั้นหล่อนคงได้ไปลากคอไอ้หัวขโมยนั้นด้วยตัวเองแล้ว

    เสียงร้องของหล่อนเรียกความสนใจจากผู้คนแถวนั้น มีพลเมืองดีหลายคนอาสาติดตามไปให้ และหนึ่งในนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งวางเสื้อที่ถืออยู่ในมือรีบวิ่งตามเจ้าหัวขโมยคนนั้นไปอีกทาง เพราะรู้เส้นทางในตรอกซอกซอยแถวนี้ดี ทำให้หล่อนสามารถเดาได้ว่าเจ้าหัวขโมยจะต้องใช้เส้นทางไหน และดันเป็นโชคร้ายของเจ้านั่นที่ดันวิ่งมาเจอทางตันเข้าพอดี

    “คืนกระเป๋ามาซะดีๆ!” หญิงสาวร้องตะโกนออกไป สังเกตุเห็นเจ้าหัวขโมยเป็นเป็นเพียงวัยรุ่นชาย น่าจะอายุราวๆสิบหกหรือสิบเจ็ดปี เท่านั้น เพราะอีกฝ่ายสวมหมวกปิดบังใบหน้าไว้ ทำให้หล่อนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าอีกฝ่ายได้ แต่ท่าทางที่ดูผอม หล่อนเดาว่าจะน่าเป็นพวกติดยาที่อาศัยฉกชิงวิ่งราวไปวันๆ

    อีกฝ่ายไม่พูดอะไร แต่ล้วงบางอย่างมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์สีซีดสกปรกที่สวมอยู่นั้น วัตถุบางอย่างปรากฎอยู่ตรงหน้า เป็นโลหะมันวับสีเงิน ความคมของมันคงไม่ต้องพูดถึง หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ อีกฝ่ายมีอาวุธซะด้วย แต่หล่อนมีสองมือเปล่าดันวิ่งตามมันมาแบบไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น คิดเพียงอยากจะช่วยคน และทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น

    ร่างผอมบางของเด็กหนุ่มไม่รอช้า เมื่อด้านหลังเป็นกำแพงไม่มีทางให้หนีอีก ก็ตัดสินใจพุ่งสวนมา ชักมีดที่อยู่ในมือเข้าแทงใส่หญิงสาวตรงหน้าทันที

    ครั้งแรกพลาดเป้า อีกฝ่ายพลิกตัวหลบคมมีดไปได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนจะเตะโครมเข้าไปที่ชายโครงของอีกฝ่ายเต็มแรง เพราะไม่ทันระวังและประมาทว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง จึงโดนลูกเตะเข้าไปเต็มแรง มีผลให้เซเสียหลักล้มกองไปนอนตัวงอร้องครางโอดโอยอยู่ที่พื้นทันที กระเป๋าถือที่ขโมยมาได้ก็กระเด็นไปตกอยู่อีกทาง หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นเจ้าโจรหมดฤทธิ์ชั่วคราวจึงเดินอย่างใจเย็นไปเก็บกระเป๋าที่ตกอยู่ขึ้นมาถือไว้ แต่จังหวะที่หล่อนจะหันกลับมา กลับต้องตกใจขีดสุด เมื่อเจ้าวัตถุแหลมคมโผล่อยู่ตรงหน้าในระยะที่หล่อนไม่อาจหลบหลีกได้พ้นอีก

    “ฉีก!!” เสียงวัตถุนั้นแทรกตัวเข้าสู่เนื้อส่วนหนึ่งภายในร่างกาย เลือดสีแดงไหลทะลักออกมาจากบาดแผลตรงหัวไหล่ด้านหลังดูน่าสยดสยอง หญิงสาวกัดฟันจับข้อมือผอมบางแต่ยังมีเรี่ยวแรงมากมายนั่นกระแทกเข้ากับเข่าของตัวเองอยู่หลายครั้งในที่สุดมีดในมืออีกฝ่ายก็ร่วงหลุดไปได้ หล่อนต่อสู้กับอีกฝ่ายด้วยมือเปล่าอยู่อีกไม่นาน ท่าทางเจ้าหัวขโมยที่ดูสะบักสะบอมไม่นานก็ถูกเตะเข้าปลายคางจบสลบเหมือดไป

    ในที่สุดเจ้าหัวขโมยซึ่งเป็นวัยรุ่นที่ชอบฉกชิงวิ่งราวอยู่เป็นประจำแถวนั้นก็ถูกจับได้และนำส่งตำรวจ

    ปกฉัตรได้กระเป๋าคืน แต่หล่อนก็ต้องยกเลิกนัดเจรจาธุรกิจสำคัญไป เพราะต้องพาหญิงสาวผู้เป็นพลเมืองดีและเป็นเป็นผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเอง หล่อนรอผลการรักษาจากคุณหมอ ไม่นานคุณหมอหนุ่มหน้าตี๋สวมแว่นตาค่อนข้างหนาก็ออกมาแจ้งผลการรักษา

    “คนป่วยปลอดภัยแล้วครับ แต่ต้องให้พักรอดูอาการก่อน เพราะบาดแผลค่อนข้างลึกมาก และคนเจ็บก็เสียเลือดไปมาก”

    “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ช่วยดูแลรักษาให้ดีที่สุดนะคะ เรื่องค่าใช้จ่ายดิฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” ปกฉัตรอยากจะเข้าไปเยี่ยมหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บ หล่อนรู้สึกชื่นชมความกล้าหาญ และความบ้าบิ่นของอีกฝ่าย ที่เป็นผู้หญิงแท้ๆ แถมมือเปล่าก็ยังเก่งกล้าสามารถเตะต่อยเจ้าหัวขโมยจนสลบเหมือดลงได้ แต่คงต้องรอให้อาการหล่อนดีขึ้นกว่านี้ก่อน หญิงสาวจึงขอตัวกลับก่อน

    “ถ้ามีอะไรเร่งด่วน ช่วยติดต่อมาที่เบอร์นี้นะคะ” ปกฉัตรหยิบนามบัตรส่งให้หญิงสาวอีกคน หล่อนคงเป็นเพื่อนกันกับหญิงสาวคนที่กำลังนอนหลับยังไม่ได้สติ สองสาวนักขาย ที่สามารถขายสินค้าได้เก่งและน่าชื่นชมในสายตาของหล่อนสองคนนั้น 

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×