ลำดับตอนที่ #11
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Special 7 : Loli Yandere เด็กน้อยผู้คลั่งแม่
Special 7 : Loli Yandere เด็กน้อยผู้คลั่งแม่
' เทเรซ่า มิสทีเรียสซ่า โมสาร์ท '
นั่นคือชื่อของเด็กคนนั้น เด็กหญิงตัวน้อยวัยเจ็ดขวบผู้มีผิวสีเทาอมชมพูอ่อนกับเส้นผมสีดำทมิฬดั่งอัญมณีนิลดำที่เหมือนผู้เป็นแม่ เด็กน้อยไร้เดียงสาผู้มักจะชอบโอบอุ้มกอดตุ๊กตานกฮูกสีขาวไปไหนมาไหนตลอดพร้อมกับสีหน้าที่ราวกับนางฟ้าตัวน้อยจอมขี้เซาคนหนึ่ง เด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่ว่าคุณแม่จะไปไหนเธอก็จะคอยติดตามไปทุกที่เสมอเหมือนลูกเป็ดที่คอยตามแม่เป็ดก็ไม่ปาน เทเรซ่าเป็นเด็กดีมักจะคอยทำตามที่ครอบครัวและผู้เป็นแม่สั่งสอนเสมอมาอย่างไม่มีท่าทีขัดข้องหรืออารมณ์เสียแต่อย่างใด แม้ท่าทางของนางฟ้าตัวน้อยนี้จะมีความเอื่อยเฉื่อยหรือเฉื่อยชาทางด้านคำพูดและท่าทางแต่กลับมีความน่ารักน่าเอ็นดูอย่างน่าประหลาด
เทเรซ่าเป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อยและเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาของใครหลายๆคนในโลกจอยเทล แม้เทเรซ่าจะเป็นเหมือนหลานสาวที่แสนน่ารักของแบล็คแค่ไหนแต่คนเป็นแม่อย่างคุโระก็อดห่วงและกังวลเกี่ยวกับอาการของ 'ลูกสาว' ของเธอไม่ได้เลย
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เทเรซ่ามักจะตามติดคนเป็นแม่อย่างคุโระเสมอ คุโระกะจะเข้าไปในเมืองอันเดอร์กราวเหมือนเช่นปกติ แม้จะมีบ้างที่เธอจะไปเยี่ยมชมเมืองมนุษย์เพื่อดูความเรียบร้อยและคอยเฝ้าระวังภัยจากพวกมนุษย์ที่คิดรุกรานต่อครอบครัวของเธอแต่คุโระเองก็คอยระวังพวกมอนสเตอร์บางประเภทเช่นเดียวกัน
และทุกๆครั้งที่ออกไปข้างนอกคุโระจะต้องจูงมือลูกสาวตัวน้อยของเธอไว้เสมอเพื่อกันไม่ให้หลงทาง
"เทเรซ่า ลูกแน่ใจหรอจ้ะว่าจะออกไปกับแม่น่ะ"
"หนูจะไป..."
"แต่ถ้าออกไปอาจจะไม่ได้เหมือนการเที่ยวเท่าไหร่นะลูก แม่จะออกไปตรวจความเรียบร้อยแค่นั้นเอง"
"ไม่ว่าคุณแม่...จะไปที่ไหน..หนูก็จะไปทั้งนั้นค่ะ..."
และแน่นอนว่าทุกครั้งที่คุโระกล่าวเช่นนี้เพราะว่าที่คุโระออกไปก็ไม่ได้เหมือนเที่ยวซะทีเดียว และอาจจะน่าเบื่อด้วยแต่เทเรซ่าก็มักจะตอบแบบนี้ทุกครั้งเสมอจนคนเป็นแม่ก็ต้องยอมไป
แม้เทเรซ่าจะรู้ว่าคุโระมีจอยแอสเรียลเป็นสามีอีกคน แต่เทเรซ่าเองก็ไม่เคยว่าอะไรอาจจะมีการถามบ้างว่า 'รักคุณแม่มั้ย' แต่จอยแอสเรียลก็ตอบกลับอย่างหนักแน่นและยังยิ้มให้เทเรซ่าอีก แต่เทเรซ่าก็ไม่เรียกเขาว่าพ่อ...
สำหรับเทเรซ่าแล้วการที่เด็กจะยอมเรียกคนๆนั้นว่าพ่อได้มันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ แม้ลูกของเธอจะรู้ว่าเธอมีคนรักอีกคนแต่ลูกสาวของเธอก็ไม่คิดจะเรียกคนๆนั้นว่าพ่อตั้งแต่แรกที่ทราบ เทเรซ่าจะยอมเรียกคนๆนั้นว่าพ่อก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายแสดงให้เห็นว่าคู่ควรกับคุณแม่และจะไม่ทำร้ายคุณแม่จริงๆ
เพราะเทเรซ่าเป็น 'ยันเดเระคลั่งแม่'
และเพราะความคลั่งแม่แบบนี้นี่เองที่แม้ไม่มีผลต่อคุโระ แต่มันจะมีผลต่อคนรอบข้างถ้าหากเทเรซ่าเล็งเห็นหรือพบว่าคนๆนั้นเป็นศัตรูหรือคิดร้ายกับเธอไม่ก็ครอบครัว ไม่ว่าใครคนๆนั้นก็มักจะจบไม่สวยทั้งสิ้น เทเรซ่านั้นแม้จะคลั่งแม่แต่ก็รักครอบครัวมากๆและพร้อมที่จะปกป้องครอบครัวรวมถึงคนที่แม่รัก
แต่บางที...คุโระเองก็รู้สึกว่าเหมือนจูนิเปอร์หลานชายของเธอจะดูสนิทกับเทเรซ่ามาก
"อะพี่คุโระ~ โอ้! เทเรซ่าหลานรักกกกกก"เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งคู่จึงรีบวิ่งตรงมาหาสองแม่ลูกแห่งมิสทีเรียสซ่าทันที คุโระมองรุ่นน้องสาวของเธอที่ดูแล้วเหมือนจะไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นรุ่นน้องที่น่ารักสำหรับเธอเสมอและอาจจะมีบ้างที่รุ่นน้องของเธอทำให้เป็นห่วงอยู่อย่างเช่นชอบปีนต้นไม้แล้วลงมาไม่ได้(?)
"สวัสดีค่ะน้องแบล็ค มาซื้อของกับหนูจูนิเปอร์หรอคะ"คุโระถามแล้วหันไปเห็นลูกชายของรุ่นน้องเธอที่เดินมาด้วยกัน
"ฮะ! แล้วพี่กับหลานก็มาตรวจตราเหมือนเดิมหรอฮะ?"
"ค่ะ"
"พี่นี่ก็พักบ้างสิฮะ!! เดี๋ยวสุขภาพจะแย่เอานะ!"รุ่นน้องสาวของเธอพูดดุคล้ายๆลูกหมาน้อยตนนึงในสายตาคุโระ หญิงสาวยิ้มให้บางๆและบอกไม่เป็นไรและขอบคุณที่เป็นห่วง ส่วนเทเรซ่าก็ยังคงจ้องมองทั้งสองแม่กับน้าพูดคุยกันอย่างเงียบๆ
"สวัสดีครับเทเรซ่า"จูนิเปอร์เอ่ยทักทายเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนผิดจากตอนแรกที่ดูนิ่งๆ
"สวัสดีค่ะ...พี่จูนิเปอร์..."เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวทักทายตอบด้วยนํ้าเสียงเอื่อยเฉื่อยคล้ายคนง่วงนอนกับสีหน้าที่ยังคงเรียบเฉยเช่นทุกครา
"วันนี้น้องมากับคุณแม่เหมือนเดิมใช่มั้ยครับ"
"เฝ้าคุณแม่..."คำตอบของเด็กหญิงตัวน้อยนั้นแม้คนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นคำพูดของเด็กแต่ถ้าในมุมมองคนที่เคยอยู่หรือผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาจะเข้าใจทันทีว่าความหมายของเทเรซ่านั้นมัน 'เอาจริง'
"อย่างงั้นหรอครับ เทเรซ่าคงเป็นห่วงคุณแม่มากเลยสินะครับ"
"ค่ะ..."
บทสนทนาระหว่างเด็กต่างวัยทั้งสองนั้นแม้ว่ามันอาจจะดูสั้นๆ แต่มันกลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นบางอย่าง แม้เทเรซ่าจะดูพูดน้อยแต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด เพราะสำหรับเทเรซ่าแล้วเพื่อนคุณแม่ก็คือครอบครัวของเธอ ยิ่งเป็นจูนิเปอร์ต่างโลกแล้วอาจจะต้องใช้เวลาสักเล็กน้อยในการปรับตัว เพราะส่วนหนึ่งที่นี่ไม่ใช่โลกของเด็กน้อยตั้งแต่แรก
บางทีในช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เทเรซ่าอยู่ที่นี่สัก 2-3 วัน จูนิเปอร์ก็ดูมีชีวิตชีวามากกว่าแต่ก่อนเยอะมาก หากเป็นคนอื่นล่ะก็แม้ต่อให้จะมีผู้หญิงมาทักหรือพูดคุยสนิทสนมกับเขาก็อย่าได้หวังว่าจะคุยแบบสบายๆ แม้แต่เจโรน่าที่เป็นลูกของฟริกส์และเคยพยายามที่จะตีสนิทกับเขาและพยายามอ่อยเขามาตลอดยังไม่สามารถทำให้จูนิเปอร์เปิดใจหรือพูดคุยได้เลย
ต่อให้เจโรน่าแสดงท่าทีที่ดูไร้เดียงสา มั่นใจและดูกล้าแสดงออกมากแค่ไหนก็ตามหรือไม่ก็แสดงความบ้าบิ่นนิดๆหน่อยๆก็ไม่อาจทำให้นํ้าแข็งในตัวเขาละลายลงได้...
แต่กับเทเรซ่า...เพียงแค่ได้สบตาครั้งแรกและเพียงแค่เทเรซ่าแปะแก้มเขาเพราะความที่เทเรซ่าไม่ชอบสีหน้าจูนิเปอร์เย็นชา ก็ทำให้นํ้าแข็งในตัวเขาละลายลงได้แล้ว
คุโระเองก็แอบห่วงลูกเหมือนกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากคอยจับตาดูอยู่ห่างๆ เพราะถ้าสามีคนที่ 2 ของเธอหรือโมสาร์ทรู้ว่าจูนิเปอร์ชอบเทเรซ่าตั้งแต่ 7 ขวบก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะพวกขุนนางในสมัยก่อนแบบโมสาร์ทนั้นพวกบุรุษที่อายุมากกว่า 18-20 ขึ้นไปมาขอแต่งงานกับเด็กที่อายุไม่ถึง 14 ปีมันจะเป็นพวกไม่หวังดี และแบบจูนิเปอร์นั้นคุโระเองก็ไม่รู้ว่าสามีของเธอจะคิดอย่างไรเหมือนกัน นอกเสียจากว่าเด็กเหล่านั้นจะถูกจับหมั้นหมายตั้งแต่เด็ก
หลังจากที่พูดคุยตามประสาพี่น้องแบบเต็มอิ่มเสร็จแล้ว คุโระได้บอกกับลูกสาว ซึ่งเทเรซ่าเองก็ตอบรับแล้วบอกกับเด็กหนุ่ม
"แล้วเจอกันค่ะ...พี่จูนิเปอร์..."
"ครับ แล้วเจอกันครับ"
เป็นอันจบสิ้นตบท้ายด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนของจูนิเปอร์ที่ส่งมอบให้กับเด็กหญิงตัวน้อยจนบางทีคุโระเองก็แอบหมั่นไส้นิดนึง แม้จะรู้ว่าจูนิเปอร์หลานชายของเธอจะคล้ายๆกับโลกหลัก แต่ก็ใช่ว่าคุโระจะไม่ทดสอบทั้งโลกหลักและโลกนี้เสียหน่อยนิ ใครมันจะยอมให้รักกันแบบสบายๆไม่ทราบ
หลังจากที่กลับมาจากการตรวจตราเสร็จแล้วพร้อมกับในมือของเทเรซ่าที่มีขนมสายไหมรสสตรอว์เบอร์รี่ติดมือมาเนื่องจากระหว่างทางที่กำลังเดินดูนั้นหญิงสาวก็ได้ยินเสียงท้องร้องที่ดังมาจากลูกสาวของเธอจนคุโระก็แอบอมยิ้มขำๆนิดๆไม่ได้เลยซื้อขนมสายไหมกับช็อกโกแลตให้เทเรซ่าได้ทานด้วยเลย
"กลับมาแล้วหรอครับคุโระ"เสียงทุ้มนุ่มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยขึ้น ซึ่งนั่นก็คือสามีและเป็นถึงคนรักคนแรกของเธอที่บัดนี้เป็นถึงสามีที่เธอทั้งรักทั้งหลงพอๆกับที่เธอรักสามีอีกสองคนเลยล่ะ จอยแอสเรียลเดินมาพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนเช่นทุกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะทำงานเสร็จมาเหมือนกัน
"ค่ะ คุณเพิ่งทำงานเสร็จงั้นเหรอคะ"คุโระตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
"ครับ แต่ดูเหมือนว่าระหว่างที่พวกคุณออกไปตรวจตราหนูเทเรซ่าคงจะหิวนะครับ"จอยแอสเรียลพูดพร้อมกับมีรอยยิ้มที่ขบขันด้วยความเอ็นดูนิดหน่อยยามมองใบหน้าของเด็กน้อยตัวเล็กๆที่กำลังยืนกินสายไหมขณะจูงมือผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนตุ๊กตา(?)
"ฮึๆ เห็นงี้เทเรซ่าค่อนข้างกินจุนิดหน่อยนะคะ แต่ถ้าให้เทเรซ่ากินเยอะขนาดนั้นเดี๋ยวก็กินข้าวเย็นไม่ได้หรอกค่ะ"
"นั่นสินะครับ"
"คุณแม่...หนูกินเสร็จ..แล้ว"เทเรซ่าตัวน้อยพูดพร้อมชูไม้สายไหมขึ้น แต่แววตานั้นเหมือนจะบอกว่าหนูกินหมดแล้ว หนูเก่งมั้ยคะ? จนผู้เป็นแม่อดที่จะยิ้มขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้เลย
"เก่งมากจ้ะเทเรซ่า กินเก่งจังเลยนะลูกเนี่ย"
"กินเยอะๆ...โตไวๆค่ะ..."
เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวอย่างไร้เดียงสาซึ่งเรียกเสียงหัวเราะน้อยๆของทั้งสองได้ดีแม้เทเรซ่าจะมีสีหน้างุนงงสงสัยว่าตนพูดอะไรผิดไป ก่อนที่สามีของคุโระจะบอกว่างานเสร็จแล้วเขาอยากจะพาทั้งคู่ไปพักผ่อนสักหน่อย คุโระเองก็อยากจะพาเทเรซ่าเที่ยวชมเมืองนิดหน่อยเนื่องจากมาครั้งแรก แม้คุโระจะเดินมาเหนื่อยๆแต่ด้วยความที่ยังมีจิตของคุโระคนเดิมอยู่เลยยังมีแรงเล่นเอาสามีเธอนั้นอดที่จะยิ้มขำๆไม่ได้เลย แต่สำหรับเทเรซ่าแล้ว....คุณแม่ไปไหนหนูก็ไปด้วยทั้งนั้น---
และใช่...แน่นอนว่าหลังจากนั้นทั้งสามก็ได้ออกไปเที่ยวชมเมืองด้วยกัน...
"แกรู้มั้ยว่าราชินีองค์ใหม่ของเผ่ามอนสเตอร์นั่นน่ะงามมากเลยนะเว้ย"
"เออ! แม่*ไม่น่าไปแต่งงานกับไอ้องค์รัชทายาทนั่นเลยว่ะ เป็นแค่มอนสเตอร์แพะที่กินหญ้าไปวันๆแท้ๆไม่รู้ทำไมผู้หยิงคนนั้นถึงเลือกมันวะ"
"กูก็ว่างั้นแหล่ะ คิดว่าเป็นองค์รัชทายาทและตอนนี้ก็เป็นราชาแล้วยังทำเป็นเก๊กให้สาวๆดูอีก โคตรทุเรศว่ะ"
มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในตรอกซอยหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งรวมพวกนักเลงรวมกลุ่มกันอยู่ คำพูดของพวกเขาที่เต็มไปด้วยคำดูถูกเหยียดหยามและชิงชังต่อองค์ราชาแห่งแดนมอนสเตอร์กับคำพูดที่แทะโลมต่อราชินีแห่งเหล่ามอนสเตอร์นั้น...เป็นคำพูดที่ทั้งน่ารังเกียจและไม่สมควรพูดกับสตรีหรือราชินีเลยสักนิดๆ...
และมันจะยิ่งชั่วไปกว่านั้นคือการที่พวกเขาใช้คำพูดส่อไปในทางคุกคามทางเพศ...
และเป็นคำพูดที่ไม่ควรพูด...ถ้าไม่รู้ว่ามี 'ใคร' กำลังแอบมองอยู่
*แกร๊ง!*
"นั่นใครน่ะ!!!"เสียงที่เหมือนมีกระป๋องตกลงมาทำให้พวกนั้นหันไปมองตามเสียงและเอ่ยขึ้น แต่ก็ไม่พบร่างของใครเลย มีเพียงแค่ความว่างเปล่า...พร้อมกับเหมือนบรรยากาศรอบๆดูจะเปลี่ยนไปด้วย...
บรรยากาศที่อึมครึม...กลับเต็มไปด้วยความวังเวง...และเหมือนมีสายตาอำมหิตส่งมาทางพวกเขาทางใดทางหนึ่งทำให้เหล่านักเลงที่ปากดีในตอนแรกๆก็เริ่มหนาวสั่นด้วยความกลัว
"แกเป็นใครก็ออกมาดิวะ!! อยากมีเรื่องหรือไง!!"
"พวกคนคิดร้ายต่อคุณแม่....ไม่สมควรมีชีวิต..."
เสียงหวานใส...ที่บัดนี้แฝงไปด้วยความอำมหิตและจิตสังหารที่แผ่ออกมา ร่างของเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านหลังของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบพร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม...และความอันตรายที่เด็กเจ็ดขวบไม่คิดว่าจะมีได้ปรากฎขึ้น
"ด-เด็กหรอ---"
"พวกพี่ชาย...สมควรตาย พวกพี่ที่คิดร้ายต่อคุณแม่ พวกที่บังอาจดูถูกว่าที่คุณพ่อของหนู มันต้องถูกกำจัด!!!!"
หลังจากนั้นในพื้นที่นั้นก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องอันโหยหวน ความกลัวและความเจ็บปวดที่ดังไปทั่ว แต่กลับไม่มีผู้ใดที่จะได้ยินหรือสนใจมันเลยสักนิดราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงเหล่านั้นเลย...
ในเวลาผ่านไป 4 วันต่อมา ได้มีคนพบศพของพวกมนุษย์และเศษฝุ่นที่คาดว่าเป็นของมอนสเตอร์ถูกฆ่าตายอยู่ในซอกตึก เพราะมีคนผ่านมาแล้วได้กลิ่นอะไรเหม็นเน่าเลยมาดูก็พบว่ามีศพอยู่ที่นี่จึงไปแจ้งให้ทางผู้นำได้ทราบ แน่นอนว่าเมื่อทั้งราชาของแดนมนุษย์รวมถึงราชากับราชินีแห่งเหล่ามอนสเตอร์ได้มาพบเข้าก็ถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจและไม่อยากเชื่อสายตา เพราะสภาพศพพวกนั้นมันถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายและอำมหิตถึงที่สุด...
บนกำแพงมีข้อความที่ถูกเขียนด้วยเลือดว่า...
' พวกคิดร้ายต่อครอบครัวคนสำคัญ...มันสมควรตาย '
ข้อความนั้นก็ทำให้เหล่าประชากรพากันตกใจและกลายเป็นข่าวใหญ่พอสมควร ไม่มีใครรู้ว่าใครคือคนที่ฆ่านักเลงเหล่านี้ แต่คนส่วนมากกลับคิดว่าต้องเป็นฝีมือของคนที่มีความสามารถ อายุน่าจะราวๆ 20-30 ปีได้ถึงจะทำขนาดนี้....
แต่สำหรับคุโระแล้ว...เธอไม่คิดอย่างงั้น....
ดวงตาสีนิลของหญิงสาวค่อยๆหันเหลือบไปมองลูกสาวคนแรกของเธอที่ตอนนี้ถูกพวกลูกของตัวหลักคอยปิดตาและพยายามไม่ให้เด็กน้อยมองเห็นภาพอันแสนโหดร้ายเหล่านั้น เด็กน้อยเส้นผมสั้นสีดำที่ยังคงยืนกอดตุ๊กตาและมองด้วยความนิ่งเฉย แม้จะถูกบดบังโดยคนเหล่านั้นก็ตาม...
บางที...เธอเองก็คิดว่าควรพยายามหาทางไม่ให้เทเรซ่าออกมาพบเจอกับพวกคนเลวๆอีก...มิเช่นนั้นฟริกส์กับเจโรน่าก็อาจจะ 'ตายเร็ว' รวมถึงอาจจะไม่ดีต่อสภาพจิตใจของเทเรซ่าเท่าไหร่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น