คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่6 สืบความจริง2
“อาเม่ย...ข้ามีเหตุผลที่ทำเช่นนี้ ข้าชอบเฟิงลี่ก็เหตุผลส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะฐานะของพี่สาวนางไม่ธรรมดา แต่เป็นถึงบุตรสาวบุญธรรมของชินอ๋อง”
“หา!”
สาเหตุที่หลิวอี้สืบจนรู้เพราะเขาได้ไปติดต่อกับสหายเพื่อร่วมหุ้นทำกิจการแพรพรรณและเครื่องประดับที่หัวเมืองทิศเหนือ ร้านนั้นค่อนข้างใหญ่ห่างไกลจากคฤหาสน์ของเขา แต่ทำเลดีมาก แค่ได้ส่วนแบ่งสองต่อเจ็ดยังนับว่าดีเลิศแล้ว ทว่านั่นมิใช่ประเด็น
ประเด็นก็คือเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ยามไปเจรจาเรื่องการค้าแพรพรรณกับสหาย เขาบังเอิญได้พบเห็นสตรีงดงามนางหนึ่ง นางผู้นั้นแต่งกายงดงามหรูหราท่าทางสูงศักดิ์ไม่ธรรมดา รถม้าที่นั่งมาก็คันใหญ่โออ่า มีองครักษ์ตัวโตคุ้มกันรอบกายน่ายำเกรงยิ่ง
นางมาพร้อมสาวใช้หลายคน เดินแช่มช้าด้วยกิริยาสูงส่งเข้ามาที่ร้านเครื่องประดับแล้ววาดนิ้วชี้แบบไม่เกี่ยงราคา
สิ่งของแต่ละอย่างที่นางเลือกล้วนแล้วแต่มีระดับชั้นเลิศ ราคาไม่อาจประเมินได้ทั้งสิ้น
แต่เรื่องนั้นยังไม่น่าตื่นตะลึงเท่ากับใบหน้าสะคราญโฉมของนาง เขาที่มองอยู่ถึงกับต้องเบิกตากว้าง เพราะนางผู้นั้นมีใบหน้าแบบเดียวกับเฟิงลี่ทุกประการไม่ผิดเพี้ยน
หลิวอี้ในยามนั้นจึงฉุกคิดถึงเรื่องราวของเฟิงลี่โดยละเอียด นางบอกว่ามีพี่สาวฝาแฝดอยู่คนหนึ่งซึ่งหายตัวไปหลังจากที่พวกนางเจอชายวัยกลางคนที่แต่งกายหรูหราดูดีคล้ายเศรษฐีนอนบาดเจ็บอยู่ พวกนางพี่น้องเข้าช่วยเหลือยื้อชีวิตไว้ได้ ทว่าหลังจากเฟิงลี่ออกไปหาสมุนไพร กลับมาก็ไม่พบใครแล้ว
ทั้งคนเจ็บทั้งพี่สาวล้วนหายตัวไป…
คาดเดาได้ว่าพี่สาวอาจถูกชายเศรษฐีผู้นั้นนำไปชุบเลี้ยง
หลิวอี้จึงใช้เวลาตามสืบเนิ่นนานตลอดสี่เดือนอย่างยากลำบาก กระทั่งได้ล่วงรู้ประวัติอันน่าเหลือเชื่อของสตรีร่ำรวยนางนั้น นางผู้มีใบหน้าเหมือนเฟิงลี่ทุกประการ
นางคือท่านหญิงหยี่ซิน
เป็นบุตรสาวบุญธรรมของชินอ๋องเจิ้งเทียนฉี
มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าชายวัยกลางคนในวันนั้น ก็คือท่านอ๋องสูงศักดิ์ผู้นี้
ผู้คนส่วนใหญ่ของเมืองหลวงล้วนรู้กันดีว่าชินอ๋องผู้นี้ยิ่งใหญ่ปานใด มีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหน ทรงเป็นผู้เปี่ยมคุณธรรม เป็นที่รักใคร่ของไพร่ฟ้า
และที่สำคัญยังเป็นถึงพระเชษฐาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
สิบกว่าปีก่อนสูญเสียพระชายาและบุตรไปพร้อมกันทำให้ผู้คนเป็นห่วงอย่างยิ่ง ได้แต่ส่งกำลังใจผ่านกำแพงวัง พระองค์จึงยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่แต่งงานใหม่ ผู้คนยิ่งชื่นชมและเลื่อมใส โดยเฉพาะฮ่องเต้ที่ใส่ใจท่านอ๋องยิ่งกว่าใคร ต่อมาเกิดอุบัติเหตุตกหน้าผา โชคดีได้เด็กหญิงคนหนึ่งช่วยชีวิตเอาไว้
เด็กหญิงคนหนึ่ง มิใช่เด็กหญิงสองคน
พระองค์พาตัวเด็กหญิงคนนั้นกลับมาแล้วประกาศก้องไปทั่วเมืองหลวงว่านางคือวีรสตรีน้ำใจงาม จากนั้นก็รับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรม มอบบรรดาศักดิ์เป็นถึงท่านหญิงหยี่ซิน
คนทั้งเมืองต่างรักและเคารพชินอ๋อง จึงรักและยกย่องท่านหญิงผู้นี้อย่างล้นเหลือเช่นกัน
ภายใต้แสงเทียนส่องสว่าง ทั่วห้องสลัวราง จิ่วเม่ยมองใบหน้าหล่อเหลาของหลิวอี้เงียบงัน เห็นสีหน้าของเขาคล้ายตื่นเต้นปานนั้น นางจึงเอ่ยถามออกไป
“ท่านพี่...เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ ไยท่านไม่รีบส่งเฟิงลี่ไปให้ท่านอ๋องเล่า เห็นได้ชัดว่าคนที่ช่วยชีวิตท่านอ๋องจริงๆ คือนาง หาใช่พี่สาวผู้สวมรอยยึดความดีความชอบเพียงผู้เดียวไม่ การส่งเฟิงลี่ให้ท่านอ๋อง ท่านยังจะได้รางวัลอีกมากโขเชียวนะ”
แม้จิ่วเม่ยไม่ยินดีในเรื่องที่เฟิงลี่เป็นที่ต้องตาต้องใจของสามี หากแต่ก็ไม่คิดปิดกั้นโอกาสอันดีต่ออนาคตของอีกฝ่าย
เพราะถึงอย่างไรเฟิงลี่ก็ไม่มีความผิดจากการที่สามีนางไปรักไปชอบจนอยากรับเป็นอนุให้นางช้ำใจอยู่ทุกวันเช่นนี้
หากแต่เรื่องนั้นหลิวอี้กลับเห็นต่าง เขาส่ายหน้าน้อยๆ แล้วรีบเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เรื่องไม่ง่ายดายปานนั้น”
เห็นภรรยาเผยสีหน้าไม่ยินยอมเพิ่มมากขึ้น หลิวอี้รีบดึงนางมากอดอย่างรักใคร่ พลางโน้มน้าวต่อไป
“การเข้าถึงบุคคลสูงศักดิ์แม้ไม่ง่ายดายและยากที่จะทำให้พวกเขาเชื่อถือในทันทีทว่าก็มิใช่ว่าจะไม่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่” หลิวอี้ถอนหายใจ “เฮ้อ...เจ้าไม่เข้าใจเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่”
จิ่วเม่ยได้ฟังพลันกะพริบตา นางไม่เข้าใจจริงๆ นี่นา
หลิวอี้รีบพูดต่อ “หากข้าได้เฟิงลี่เป็นภรรยาอีกคนของข้า แล้วค่อยเปิดเผยความจริงออกไปต่อท่านอ๋องว่าเฟิงลี่คือวีรสตรีที่แท้จริงของพระองค์ บุญคุณช่วยชีวิตพระองค์ยังอยู่ตรงนี้อีกคน ยามนั้นเฟิงลี่ที่เป็นคนของข้าแล้ว และยังเป็นคนของท่านอ๋องด้วยในภายหลัง การค้าของสกุลหลิวย่อมเจริญเติบโตขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด เพราะได้อำนาจล้นฟ้าของท่านอ๋องช่วยค้ำจุนปะไร”
จิ่วเม่ยจึงเข้าใจได้ในที่สุด ได้ยินสุ้มเสียงแฝงความยินดีของสามีดังขึ้นอีกว่า
“ทีนี้ เจ้าคงเห็นดียินยอมให้เฟิงลี่เป็นภรรยาอีกคนของข้าได้แล้วใช่ไหม?”
หญิงสาวไร้คำใดจะเอ่ย หากนางไม่ยินยอมนั่นย่อมมิใช่การเป็นเพียงแค่สตรีจิตใจคับแคบเท่านั้น หากแต่เป็นถึงภรรยาที่ขัดขวางความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของสามี
ทั้งยังอาจจะเป็นตัวโชคร้ายทำลายการค้าของตระกูล
เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ มีเพียงแต่ต้องพยักหน้ารับเท่านั้น
“เจ้าค่ะ ท่านพี่”
หลิวอี้ให้รู้สึกโล่งใจนัก เขารักสตรีไม่ผิดจริงๆ
“อาเม่ยคนดี เจ้าเป็นฮูหยินที่เข้าใจสามีที่สุด”
จิ่วเม่ยอมยิ้ม หลิวอี้ยิ่งยิ้มกว้างพลางเอื้อมมือขึ้นมาลูบเรือนผมเรียบลื่นนุ่มมือของภรรยา “มาเถอะ เข้านอนกัน”
หญิงสาวช้อนตามองชายหนุ่ม เห็นแววตาของเขากรุ้มกริ่มปานนั้น คำชวนเข้านอน คงมิใช่แค่นอนหลับเสียแล้ว
จิ่วเม่ยแย้มยิ้มอ่อนหวาน สีหน้าเผยความขัดเขิน
หลิวอี้ไม่รอช้า เขาลุกขึ้นยืนแล้วโน้มตัวลงโอบอุ้มภรรยา ก่อนพาเดินไปที่เตียงอย่างเร็ว ปลดผ้าม่านลงอย่างไว
เสียงเสียดสีของเสื้อผ้าเกิดขึ้นชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นพลันถูกแทนที่ด้วยเสียงครวญครางอันแสนรัญจวนและเย้ายวนใจ
ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหอบกระเส่าสลับคลอเคล้ากับเสียงคล้ายสะอื้นไห้และเสียงหอบครางทุ้มต่ำ
หลังผ่านพ้นช่วงเวลาอันแสนสุขสมถึงขีดสุด ฝ่ายบุรุษถอนกายร้อนผ่าวจากเนื้อนุ่มอุ่นชื้นและพลิกตัวหลับลึกไปแล้ว ทว่าฝ่ายสตรีกลับลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ
ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดการณ์ใด…
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>
|
ความคิดเห็น