ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Episode 10
บีไอเดินออกจากบ้านของมินโฮก่อนจะเดินไปตามถนนที่ตอนนี้ผู้คนเริ่มออกมาเดินเล่น
ทำมาค้าขายกันแล้ว บีไอเดินฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับมองไปรอบๆ
เขารู้สึกดีที่ได้ออกมาข้างนอกหลังจากถูกขังไว้ต้องหนึ่งวันเต็มๆ
เดินมาได้ซักพักเจ้าตัวก็หยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่งก่อนจะเปิดมันเข้าไป
ภายในบ้านของจีวอนนั้นเงียบกริบ
สงสัยจีวอนคงไม่อยู่สินะไม่งั้นคงออกมาต้อนรับเขาแล้ว
บีไอค่อยๆเดินเข้าไปก่อนจะมองไปรอบๆห้องโถงก็พบว่าไม่มีใครอยู่คนตัวเล็กจึงเริ่มขึ้นไปสำรวจที่ชั้นสอง
บีไอเดินดูห้องต่างๆอย่างใจฉันก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าห้องสมุดในบ้านของจีวอนแล้วมองเข้าไปด้านในก่อนจะพบกับคนๆหนึ่งที่หน้าตารูปร่างเหมือนกับตัวเองอย่างกับแฝด
คนที่เขาตั้งใจมาหากำลังนั่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ที่โซฟาในห้องสมุด
บีไอหลบอยู่ข้างประตูก่อนจะหยิบแจกันดอกไม้ที่วางอยู่แถวนั้นมาปาลงพื้นเพื่อล่อให้ฮันบินออกมา
เพล้ง!!!
มันได้ผลเสียงแตกของแจกันทำให้ฮันบินหันไปมองที่หน้าประตูทันที
ฮันบินปิดหนึ่งสือในมือลงก่อนจะวางมันไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วค่อยๆเดินออกมาข้างนอกก็ไม่เจอใคร
ฮันบินเห็นแต่แจกันดอกไม้ที่แตกกระจายอยู่เต็มทางเดิน
“ลมก็ไม่พัด
บ้านนี้ก็ไม่มีแมวมันตกลงมาแตกได้ไงวะ” ฮันบินพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบถังขยะใบเล็กที่ตั้งอยู่ในห้องสมุดมาเก็บเศษแจกันที่แตกกระจายอยู่
คนตัวเล็กย่อตัวนั่งลงแล้วค่อยๆใช่มือหยิบมันอย่างใจเย็นเพื่อจะไม่ให้แก้วบาดมือ
บีไอออกมายืนอยู่ข้างหลังของฮันบินก่อนที่ฮันบินจะรู้สึกว่าเหมือนมีใครซักคนมายืนอยู่ข้างหลัง
ฮันบินสูดหายใจเข้าก่อนจะตัดสินใจหันไปมองด้านหลังของตัวเองก็เจอกับบีไอที่ยืนยิ้มให้เขาอยู่
“ไง ดอพเพลแกงเกอร์ของฉัน” บีไอเอ่ยทักในขณะที่ฮันบินกำลังอึ้ง
“เฮ้ย!!”
ฉึก!!
ด้วยความที่ตกใจเลยทำให้ฮันบินจะหงายหลังล้มลงไปกับพื้นแต่ฮันบินใช้มือข้างหนึ่งยันกับพื้นไว้เลยทำให้มือข้างนั้นของเขาไปโดนเข้ากับเศษแจกันที่แตก
ฮันบินรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือมาดูพบว่าเศษของแจกันบาดมือของเขาจนมีเลือดไหลออกมา
“หว่า
เจอกันครั้งแรกฉันทำนายเลือดออกเลยหรอเนี้ย?” บีไอมองฮันบินแล้วกระตุกยิ้มขึ้นมา
เขารู้สึกว่าเลือดของบีไอหอมมากกว่าเลือดที่เขาเคยกินปกติ
เมื่อคิดแบบนั้นตาของบีไอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทำให้ฮันบินรู้ว่าบีไอเป็นอะไร
“คุณเป็นใคร?” ฮันบินถามออกไปก่อนจะเริ่มมองหาทางหนี
“ฉันเป็นคนที่หน้าตาเหมือนนายไงฮันบิน
จะบอกว่าเป็นฝาแฝดก็ไม่เชิงเพราะฉันกับนายไม่ได้เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน
อีกอย่างฉันอยู่มานานกว่านายตั้งเกือบห้าร้อยปี จะพูดว่าไงดีล่ะ
คิดซะว่านายบังเอิญเกิดมาเหมือนกับฉันแล้วกันนะ” บีไอบอกยิ้มๆด้วยตาที่ยังเป็นสีแดงสด
“ผมไม่เข้าใจ ผมจะไปบังเอิญเกิดมาหน้าเหมือนคุณได้ยังไง เป็นแม่มดแล้วแปลงร่างมาแกล้งผมใช่มั้ย!?” ฮันบินบอกไปตามความจริง
เพราะยังไงตัวเขารู้ดีอยู่แล้วว่าไม่มีฝาแฝด
ถ้ามีก็ต้องอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็กๆแล้วสิ
“ฮ่าๆๆ
ความคิดนายตลกดีแฮะ นี้ จะว่าไปเลือดนายหอมดีนะ ขอฉันชิมหน่อยสิ”
พูดจบบีไอก็ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับเข้ามาประชิดตัวฮันบินทันที แต่ด้วยความที่ฮันบินมีสติอยู่เขาผลักบีไอออกไปก่อนจะวิ่งหนี
“ไม่มีใครเคยบอกนายหรือไงว่าวิ่งหนีแวมไพร์
วิ่งไปก็เหนื่อยเปล่า” ฮันบินวิ่งชนเข้ากับบีไอที่ตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
บีไอจับแขนคนตัวเล็กไว้ก่อนจะพลิกตัวฮันบินให้หันหลังชนกับตัวเองก่อนจะใช้มือรัดตัวฮันบินไว้ไม่ให้ดิ้นก่อนจะยกมือข้างที่ฮันบินโดนแจกันบาดขึ้นมาแล้วสูดดมกลิ่นเลือดอันหอมหวาน
“ปล่อยผมนะเว้ย!” ฮันบินดิ้นพยายามจะให้หลุดออกจากการรัดกุมของบีไอ
แต่มันเป็นเรื่องที่อยากเหลือเกิน
“น่า
อย่าให้ฉันสะกดจิตนายเลยนะ” พูดจบบีไอก็อ้าปากเตรียมจะฝังเขี้ยวลงไปที่คอของฮันบิน
ในขณะที่ฮันบินพยายามคิดหาวิธีการเอาตัวรอดก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
ฮันบินกระทืบเท้าลงไปที่เท้าของบีไอก่อนจะศอกเข้าที่ฝีข้างของบีไออีกที
“อั่ก! ไอ้บ้านิ!” ด้วยความเจ็บบีไอเผลอปล่อยให้ฮันบินเป็นอิสระก่อนที่ฮันบินจะรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเอง
แต่ยังไม่ทันจะปิดประตูบีไอก็มายืนอยู่หน้าประตูซะแล้ว
“ฉันจะเอาคืนนาย!”
บีไอบอกด้วยน้ำเสียงที่เริ่มโกรธก่อนจะก้าวขาเข้ามาให้ห้อง
แต่แล้วมันเหมือนมีอะไรบ้างอย่างมากั้นไว้ทำให้เขาไปไม่ได้
เมื่อเห็นแบบนั้นฮันบินถอนหายใจอย่างโลงอกก้มมองแผลที่มือของตัวเองแล้วรีบหาผ้ามาพันไว้
“หึ
บ๊อบบี้คงยกห้องนี้ให้เป็นชื่อนายสินะ” บีไอบอก
เพราะถ้าจีวอนไม่ยกชื่อนี้ให้ฮันบินเขาคงเข้าไปได้แล้วแบบนี้มีอยู่ทางเดียวก็คือต้องให้ฮันบินเชิญเขาเข้าไป
“เชิญฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้!” บีไอบอกเหมือนคำสั่ง
“เชิญเข้ามาให้โง่ทำไมล่ะ”
“ถ้านายเชิญฉันเข้าไปฉันสัญญาว่าจะไม่กัดคอนาย
แล้วจะอธิบายเรื่องที่ฉันหน้าตาเหมือนนายให้ฟังด้วย” บีไอเริ่มใช้วิธีที่ตัวเองใช้ล่อเหยื่อให้ออกมาเหมือนมันจะได้ผล
ฮันบินนิ่งคิดไปก่อนจะเดินมาที่หน้าประตู
“เชื่อได้หรอ? เมื่อกี้ยังอยากจะกินเลือดผมอยู่เลยนะ” ฮันบินถามอีกครั้งแล้วมองบีไอที่ตอนนี้ยืนพยักหน้าให้เขามั่นใจ ฮันบินไม่อยากให้บีไอเข้ามาแต่ความอยากรู้ของเขามันกระตุ้นบอกให้ตัวเขาอนุญาติให้บีไอเข้ามาในห้อง
แต่อีกด้านหนึ่งของความคิดก็เถียงอยู่ข้างในว่าบีไอนั้นเป็นจอมโกหก
“งั้นก็เข้---“
!!!
ยังไม่ทันที่ฮันบินจะพูดจบยุนฮยองก็มาอยู่ทางด้านหลังของบีไอก่อนที่จะจับหัวของบีไอไว้แล้วบิดมันอย่างแรง
บีไอสลบล้มลงไป ยุนฮยองมองฮันบินที่ตอนนี้ทำหน้านิ่งอยู่
ฮันบินกำลังคิดว่าเขาควรทำหน้ายังไงเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยฮันบิน?” ยุนฮยองถาม
ฮันบินเลยส่ายหน้ามาเป็นคำตอบก่อนจะมองบีไอที่ตอนนี้นอนสลบไปแล้ว
“นายนี้มาทีไรมีเรื่องเกิดขึ้นทุกทีให้ตายสิ” ยุนฮยองบ่นอย่างหัวเสีย
เขาไม่ชอบบีไอเอาซะเลยเพราะถ้าเจอบีไอที่ไหนมักจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเสมอ
อีกอย่างชอบมาเป็นฉนวนทำให้จีวอนและมินโฮทะเลาะกันอีกนั้นคือเหตุผลหลักที่ยุนฮยองไม่ชอบบีไอ
“นายคงอยากได้คำตอบจากเรื่องนี้สินะ
มาเถอะ ฉันจะบอกให้ฟัง”
ยุนฮยองบอกก่อนจะลากบีไอที่ตอนนี้สลบลงไปด้านล่าง
ฮันบินก้าวออกจากห้องแล้วเดินตามยุนฮยองไป
ดูเหมือนว่าเขาจะพอเข้าใจแล้วว่าทำไมมินอาถึงได้ทักเขาแบบนั้นในวันนั้น
แล้วไหนจะแทอุนที่มาหาเรื่องเขาอีก เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับคนที่ชื่อบีไอแน่ๆ
ฮันบินเชื่อแบบนั้น
ààààà
หลังจากที่ยุนฮยองจัดการโยนร่างที่ไร้สติของบีไอไว้ที่โซฟาก็พาฮันบินเข้าไปที่ห้องครัวของบ้าน
มันแปลกใช่มั้ยว่าบ้านของแวมไพร์ทำไมถึงมีห้องครัว ยุนฮยองบอกกับฮันบินว่า จีวอนเป็นคนชอบทำอาหารก็เลยมีห้องครัวติดไว้เผื่อวันไหนอยากทำจะได้ทำได้
แต่นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับฮันบินมาก
ไม่ใช่ว่าเรื่องที่แวมไพร์สามารถกินอาหารมนุษย์ได้
แต่สิ่งที่แปลกคือจีวอนชอบทำอาหาร ท่าทางแบบนั้นไม่น่าชอบทำอาหารเลยซักนิด
ระหว่างที่ยุนฮยองทำอาหารไปด้วยเขาก็ได้เล่าเกี่ยวกับเรื่องดอพเพลแกงเกอร์ให้กับฮันบินฟัง
โดยที่ตามตำนานบอกไว้ว่า
มันคือการที่เราเห็นคนๆหนึ่งในเวลาเดียวกันแต่คนล่ะสถานที่กัน
คนเก่าแก่มักจะบอกว่า ดอพเพลแกงเกอร์ คือชื่อเรียกของฝาแฝดผู้ชั่วร้าย
โดยจะนำภัยร้าย โรคภัยไข้เจ็บสิ่งที่ไม่ดีต่างๆมาให้ผู้พบเห็น
แต่ในกรณีที่ของฮันบินกับบีไอต่างกันออกไป
ทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันและไม่ได้เกิดมาจากท้องพ่อแม่เดียวกัน
จะเรียกว่าฝาแฝดก็ไม่เชิง บีไออยู่มานานมากกว่าฮันบินจะเกิดซะอีก
ยุนฮยองเลยบอกกับฮันบินว่า บีไอเป็นคนหน้าเหมือนของฮันบินซะมากกว่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ตามตำนานกล่าวถูกต้องนั้นก็คือ
นิสัยของดอพเพลแกงเกอร์ จะแตกต่างกัน อีกคนหนึ่งจะดีมาก
อีกคนก็จะเลวร้ายมากเช่นกัน
“ก็อย่างที่ฉันเล่าให้ฟังล่ะนะ” ยุนฮยองพูดพลางตักสเต๊กเนื้อที่ทำเสร็จใส่จาน
“สรุปง่ายๆก็คือ
บีไอเป็นคนหน้าเหมือนของผม แต่นิสัยไม่เหมือนกัน มีอายุมากกว่าผมเป็นร้อยๆปี
ซึ่งตอนนี้ผมเพิ่ง 18” ฮันบินบอกไปตามที่เข้าใจ
“ใช่แล้วล่ะ
แล้วหมอนั้นเลวร้ายมากกว่านายด้วย” ยุนฮยองบอกก่อนจะเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาแล้วมายืนตรงหน้าฮันบิน
“ก็ยังเข้าใจยากอยู่ดี” ฮันบินพัมพำ
“ไหนขอมือหน่อย
ฉันจะทำแผลให้” ยุนฮยองบอก
ฮันบินเลยยอมยืนมือไปให้ ยุนฮยองจัดการเอาผ้าออกแต่ก็พบว่าแผลที่โดนเศษของแจกันบาดนั้นหายไปแล้วเหลือแต่เพียงคราบเลือด
ฮันบินงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาจำได้ดีว่าเขามีแผลแต่ตอนนี้มันหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อ่า..
ฉันเข้าใจล่ะ ต้องเป็นผลจากการผูกชะตาแน่ๆ” ยุนฮยองบอกก่อนจะปล่อยมือฮันบินแล้วเลื่อนจานสเต๊กมาให้ฮันบิน
“กินสิ
ฉันทำให้นาย”
“ผมนึกว่าคุณจะทำกินเองซะอีก” ฮันบินมองจานสเต๊กที่น่ากินนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ
“ฉันกินเลือดนะ
ไม่กินของแบบนี้หรอกถ้าไม่จำเป็น” ยุนฮยองบอกยิ้มๆก่อนที่ฮันบินจะบอกขอบคุณแล้วจัดการกินสเต๊กตรงนั้น
ระหว่างที่กินไปนั้นฮันบินก็แอบมองยุนฮยองไปด้วย
ฮันบินรู้สึกว่ายุนฮยองเป็นคนใจดี เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ยุนฮยองชวนฮันบินคุยอยู่หลายเรื่องในระหว่างที่ฮันบินทานสเต๊กไปด้วย ทั้งสองคนดูสนิทกันมากขึ้น
ยุนฮยองเล่าชีวิตตัวเองให้กับฮันบินฟังก่อนที่ฮันบินจะรู้สึกถึงจีวอนว่าอยู่ใกล้มากขึ้น
“นายมาทำอะไรที่นี้!” เสียงของจีวอนดังขึ้นอยู่ในห้องโถงถ้าจะให้เดาบีไอคงตื่นแล้ว ยุนฮยองรีบเดินกลับเข้าไปในห้องโถงเหลือแค่ฮันบินที่ตอนนี้กำลังยืนล้างจานอยู่
“มาแล้วก็ดี
หมอนี้มาสร้างความวุ่นวายในบ้าน” ยุนฮยองบอกก่อนจะกอดอกแล้วยืนพิงเสา
“ฉันแค่อยากมาหาฮันบินก็เท่านั้นไม่ได้มาสร้างความวุ่นวายตรงไหน” บีไอบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน
“แน่ใจว่าอยากมาหา
ไอ้คำว่าอยากมาหาของนายน่ะรวมถึงการที่อยากกินเลือดฮันบินด้วยรึป่าว?” ยุนฮยองบอก
นี้ถ้าเขากลับมาไม่ทันเจอเหตุการณ์นี้ฮันบินคงไม่รอดแน่ๆ
“ว่าไงนะ?!”
ประโยคนั้นทำให้จีวอนหันมามองยุนฮยอง
บอกแล้วว่าใครห้ามแตะต้องฮันบินนอกจากเขา
“ก็อย่างที่บอกนั้นล่ะ
ตอนมาเจอก็เห็นบีไออยู่หน้าห้องของฮันบิน ทำท่าเหมือนเตรียมที่จะกัดคอฮันบินอยู่แล้ว” ยุนฮยองบอกไปตามความเป็นจริง
ทำให้จีวอนหันไปมองบีไอก่อนจะเข้าไปบีบคอคนตัวเล็กด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี้ถ้าไม่ยกห้องนั้นให้เป็นชื่อของฮันบินเจ้าตัวคงไม่รอดแล้วสินะ
จีวอนคิดแล้วแรงโมโหก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ มันเลยทำให้เขาบีบคอบีไอแน่นขึ้นไปอีก
“ปล่อยนะบ๊อบบี้ ปล่อย!”
“นายไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องของๆฉัน” จีวอนพูดพร้อมกับบีบคอบีไอแรงขึ้นไปอีกก่อนจะเหวี่ยงบีไอลงพื้นให้ถลาไปหาฮันบินที่เดินมาพอดี
“หึ
ถ้าฉันดันไปยุ่งกับของๆนายก็ขอโทษที
แต่ระวังไว้แล้วกันเพราะฉันอาจะจะทำให้ของๆนายเจ็บจนปางตายเลยก็ได้นะ” บีไอลุกขึ้นยืนโดยไม่มีทีท่าว่าจะเจ็บเลยซักนิด
“แล้วใครบอกหรอครับว่าผมจะยอมให้ทำ” พอพูดจบฮันบินก็จัดการยกขาถีบบีไอเลยทำให้ตัวของบีไอถลาไปข้างหน้าอีกครั้ง
“อย่าคิดนะว่าผมไม่รู้เรื่องที่คุณทำ
ผมพอจะเดาทุกอย่างออกแล้ว อย่างน้อยจะใช้ชื่อผมก็มาขออนุญาติน้อยสิ” ฮันบินตามไปต่อยเข้าที่หน้าของบีไอจนหน้าหัน
จีวอนยังคงยืนมองนิ่งๆเขารู้สึกได้ว่าตอนนี้ฮันบินกำลังโกรธ
บางทีเขาควรจะปล่อยให้ฮันบินระบายความโกรธบ้าง
“ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่สนุกน่ะสิ” บีไอพูดก่อนจะแสยะยิ้มออกมาแล้วต่อยส่วนฮันบินมา
แต่ฮันบินหลบได้ทันแล้วใช้ขาเตะเข้าที่หน้าท้องของบีไอจนตัวงอ
“อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับผมอีก
ผมไม่เคยไปทำอะไรให้คุณ” ฮันบินบอกก่อนจะเตะเข้าที่ข้อพับขาของบีไอทำให้ตัวเขาล้มลงไปกับพื้น
ยุนฮยองมองไปทางจีวอนที่ตอนนี้ยืนกอดอกดูพลางยิ้มมุมปากกับสิ่งที่เห็น
เขาส่งสัญญาณบอกว่าให้จีวอนมาหยุดทั้งคู่ได้แล้วแต่จีวอนได้แต่ยักไหล่ตอบกลับมาเท่านั้น
“เพราะงั้นครั้งนี้ถือว่าหายกันแล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก!” ฮันบินบอกก่อนจะต่อยเข้าไปที่หน้าของบีไอเป็นครั้งสุดท้าย
บีไอในตอนนี้โกรธมากดูได้จากการที่เขาเริ่มเปลี่ยนตาตัวเองให้เป็นสีแดงสดพร้อมกับเขี้ยวที่งอกออกมา
ฮันบินเริ่มถอยออกห่างบีไอเมื่อเห็นแบบนั้น เขาถอยออกมาเตรียมตั้งรับ
บีไอลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งสายตาที่แค้นมากมาให้ฮันบินก่อนจะพุ่งเข้าหาฮันบินด้วยความเร็ว
“พอแค่นี้ล่ะ! ออกไปจากบ้านของฉันได้แล้วบีไอ!” ยุนฮยองเอาตัวเองเข้ามาขว้างบีไอไว้
ไม่งั้นมือของบีไอคงล้วงทะลุเข้าไปหาหัวใจของฮันบินแล้วแน่ๆ บีไอสถบออกมาอย่างหัวเสียก่อนที่จะยิ้มเย็นยะเยือกไปให้ฮันบิน
“อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นี้นะที่รัก” บีไอพูดพลางยกยิ้มก่อนจะเดินไปตรงหน้าจีวอนที่ตอนนี้ยืนกอดอกมองอยู่
“นายควรระวังตัวไว้นะบ๊อบบี้” พูดจบบีไอก็หันหลังเดินออกจากบ้านไปทันที
ฮันบินถอนหายใจออกมาอย่างโลงอก จีวอนเดินกลับขึ้นไปด้านบนก่อนจะเข้าห้องตัวเองไป
เท่าที่รู้บีไอเรื่องการต่อสู้นั้นเก่งอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่มีทางที่จะอ่อนขนาดนี้
จีวอนเลยคิดว่าบีไอต้องมีแผนอะไรแน่ๆ แต่เขาสามารถที่จะรอได้
รอให้ถึงวันที่บีไอเผยแผนการให้เขาดูเพราะยังไงเขาก็รู้จุดอ่อนของคนๆนั้นอยู่แล้ว
ààààà
To Be Continued
ààààà
Talk :: มาแล้วว ขอโทษที่อู้ไม่ได้มาอัพวันอาทิตย์นะคะ
ยังรอกันอยู่ใช่มั้ย เราพยายามอธิบายเรื่องดอพเพลแกงเกอร์ให้ทุกคนเข้าใจนะ
แต่ถ้าใครที่งงถามกูเกิ้ลได้เลยนะคะ น่าจะเข้าใจมากกว่า
ดอพเพลแกงเกอร์ในเรื่องของเราไม่ได้เป็นตามตำนานทั้งหมดเราเอามาดัดแปลงเน้อ
ฮันบินกับบีไอจะต่างกันแค่ตรงที่ผมหน้าม้านะ ฮันบินจะเอาหน้าม้าลง แต่บีไอจะเซ็ตหน้าม้าขึ้น -0-
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วย มาลุ้นกันว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง รักคนอ่าน -..-
อ่านแล้วอยากหวีดก็เข้าไปสกรีมที่แท็ก #นิทานของฮันบิน ได้เน้อ เราอาจจะไปสปอยฟิคในแท็กนั้น -.-
หรือเม้นในนี้ก็ได้ ยังพูดคุยกับเราได้ที่ทวิตนะคะ ขอบคุณค่าาาา
ไปคอนกันมาสนุกมั้ยคะ? สำหรับเราสนุกมากเลย มันเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ลูกลิงทั้งเจ็ดน่ารักมากเลยเนอะ ใครลงหลุมจะเข้าใจความรู้สึกถึงการปวดเมื่อยไปตามตัวค่ะ 555555
ความคิดเห็น