ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
ALL OF MY FICTION [DoubleB Nielong]

ลำดับตอนที่ #10 : GOT7 [JARK] - Hello Baby

  • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 58


19 ก.พ. 58
28 ก.พ. 58 แก้ไขครั้งที่ 1



เนื่องจากโอพีวีอันนี้ค่ะ #JARK : HELLO BABY เลยได้ฟิคเรื่องนี้มา เจ้าของโอพีวีคุณ PARTNER IN CRIME ยุตามมารยาท แต่เราแต่งจริงค่ะ ดำเนินเรื่องอาจเร็วไปหน่อย ตอนท้ายๆ สับสนนิดนึงด้วย เพราะแต่งตอนง่วง หัวแล่นตอนง่วงค่ะ แต่มือไม่ค่อยสัมพันธ์กับสมองเลยค่ะ 555 มโนนะคะว่าผู้ชายเรื่องนี้ท้องได้ค่ะ Mpreg ค่ะ 














 
- - - - Hello Baby - - - -






















 

"ครับป๊า..."

 

(...)

 

"...ทำไมอ่า..."

 

(...)

 

"...เสียดายอ่ะ"

 

(...)

 

"ครับ สวัสดีครับ"

 

มาร์ค ต้วน ก้มมองสมาร์ทโฟนในมือพร้อมรอยยิ้ม เขาเพิ่งคุยกับป๊ะป๋าเสร้จน่ะ ตอนนี้ป๊าทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ เขาเลยต้องอยู่ที่กาหลีคนเดียว อันที่จริงประเทศเกาหลีก็เป็นต่างประเทศสำหรับเขาเหมือนกันนะ นี่เขาอยู่ที่ต่างประเทศมาหกจ็ดปีแล้วมั้งเนี่ย เมื่อกี๊ป๊าโทรมาบอกว่าคริสต์มาสนี้คงไม่ได้มาหาเลยโทรมาเมอร์รี่คริสต์มาสกับเขาแทน แล้วเขายิ้มทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะป๊ามาไม่ได้ไง เสียดงเสียดายอะไรกัน ไม่มีอ่ะ ไอ่ที่พูดไปเมื่อกี้มันการแสดงทั้งนั้นแหละ

 

ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขาดีใจที่ป๊ามาหาไม่ได้น่ะเหรอ? ก็นั่งน่ารักกินไอศกรีมอยู่ตรงหน้าเขานี่ไง

 

"ม๊าคะ..." เด็กน้อยตรงหน้าเอ่ยขึ้นพลางมองมาทางเขา

 

มาร์คส่งยิ้มให้ลูกสาววัยสี่ขวบของตน อ่านไม่ผิดครับ ลูกสาว ลูกสาวของมาร์ค ต้วน คนนี้ คลอดออกมาเองเลยครับ

               

เขาอยู่เกาหลีมาจะได้เจ็ดแปดปีแล้ว จนกระทั่งป๊าต้องย้ายไปทำงานที่ประเทศอื่น เขาจะตามไปด้วยก็ได้ แต่เขาหลงไหลแสงสีของเกาหลีจนต้องออกปากขอป๊าว่าขออยู่ที่นี่ ด้วยความที่เป็นลูกรักไง ป๊าตามใจ จนเขามาพบกับคนๆ นึง พ่อของบยอลน่ะ

 

เราคบกันอยู่กี่ปีก็จำไม่ได้ แล้วพวกเราก็เลิกกัน เขาก็จำไม่ได้อีกนั่นแหละว่าเลิกกันทำไม ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า จำได้แค่ว่าตอนเลิกกันเนี่ยไม่ได้เลิกกันด้วยดีเลยสักนิด แม้จะไม่รู้ว่าเลิกกันเพราะอะไร แต่พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไร หน้าหมอนั่นก็ลอยมาทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นมาได้ทุกครั้งไป

 

หลังจากเลิกกันได้ไม่กี่เดือนเขาก็ตั้งท้อง อย่ามองกันยังงั้นสิ เขาไม่ได้ใจแตกซะหน่อย โอเค ยอมรับก็ได้ว่าเขาปล่อยตัว ก็ตอนนั้นมันก็วัยรุ่นป่ะ ทำอะไรไม่ทันคิดน่ะ

 

แล้วเขาไม่ได้บอกให้ป๊ารู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองท้อง ไม่กล้าบอก กลัวโดนด่า กลัวป๊ากับม๊าเสียใจ โทรไปหาป๊าพอได้ยินเสียงป๊าแล้วก็อดร้องไห้ไม่ได้ เขาเคยถามป๊าว่าถ้าเขาทำตัวน่าผิดหวังป๊าจะโกรธเขาไหม คำตอบของป๊าทำให้เขาเสียใจมากเลยล่ะ ผิดหวังกับตัวเองสุดๆ

 

'ป๊าเชื่อว่าลูกจะไม่ทำให้ป๊าผิดหวังหรอก ลูกก็เป็นคนแบบนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นา'

 

ป๊าเชื่อในตัวเขาขนาดนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าป๊าจะเสียใจขนาดไหนถ้ารู้ว่าเขาทำตัวแบบนี้

 

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เคยคิดจะเอาเด็กออกหรอกนะ เด็กคนเดียวเขาเลี้ยงได้ แต่ก็นะ พูดน่ะมันง่าย เขาเจอเรื่องลำบากตั้งแต่คลอดเลยล่ะ ตั้งแต่ไปแจ้งเกิดเพราะเขาเป็นคนต่างชาติเลยยุ่งยากนิดหน่อย เขาต้องเลี้ยงลูกสาวอยู่คนเดียวทั้งที่เลี้ยงเด็กไม่เป็น ดีตรงที่บยอลเลี้ยงง่ายไม่ค่อยร้องงอแง แต่ขนาดเลี้ยงง่ายเขายังว่ามันไม่ง่ายเลยนะการเลี้ยงเด็กทารกน่ะ

 

เพราะเขาเป็นผู้ชายเลยไม่มีน้ำนมให้ลูกกิน หนทางเดียวก็คือนมผงซึ่งแพงแสนแพง แค่บยอลคนเดียวเดือนนึงนี่เล่นเอาเงินเดือนเขาหายวับไปเลย ใช่ว่าไม่เคยใช้เงินที่ป๊าส่งมาให้ แต่ตอนที่ยังไม่ท้องเป็นเขาที่บอกป๊าเองว่าจะทำงาน ไม่ต้องส่งเงินมาให้ก็ได้ แต่ป๊าก็โอนมาให้เขาเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเงินที่พอใช้สำหรับคนๆ เดียวไปให้พ้นเดือนเท่านั้น

 

เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องทำงานหนักขึ้นอีกเพื่อเลี้ยงอีกหนึ่งชีวิต เวลาจะไปทำงานก็จะเอาบยอลไปฝากไว้กับคุณป้าข้างห้อง ถึงเขาจะอดกินบ้างอดนอนบ้าง แต่สำหรับลูกสาวของเขาแล้วที่ต้องได้กินอิ่มนอนหลับสบายนั้น เขาทนได้

 

จากวันที่รู้ตัวว่าท้องวันนั้นจนถึงตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้ว ลูกสาวของเขาก็สี่ขวบแล้ว บยอลเป็นเด็กแข็งแรง สี่ขวบกำลังช่างพูดเลยล่ะ

 

"...พรุ่งนี้บยอลจะได้ของขวัญมั้ยคะ?" เด็กน้อยเอ่ยถามต่อ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันคริสต์มาส ม๊าเอินบอกบยอลว่าถ้าบยอลไม่ดื้อคุณซานต้าจะเอาของขวัญมาให้ล่ะ

 

"บยอลอยากได้อะไรเอ่ย?"

 

"บยอลอยากได้ตุ๊กตาค่ะ ตุ๊กตาคุณหมีตัวใหญ่ๆ ที่ห้างเมื่อวันนั้นไงคะ บยอลอยากเอามานอนกอด"

 

หืม? ตุ๊กตาเหรอ? ม๊าไม่มีเงินซื้อให้หรอกนะบยอล

 

"บยอลไม่อยากกอดม๊าแล้วเหรอคะ?" ว่าขึ้นเสียงเศร้าพร้อมเบะปากบอกลูกสาวว่าตนเสียใจ

 

"เปล่านะๆ บยอลอยากกอดม๊า..." ตัวเล็กเงียบไปก่อนจะพูดต่อเบาๆ "...แต่บยอลก็อยากกอดคุณหมีเหมือนกันนี่นา"

 

มาร์คหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนเอื้อมมือหยิบกระดาษไปเช็ดปากให้ลูกสาวตน

 

"กลับบ้านกันเนอะ" มาร์คว่าขึ้น แต่บยอลกลับทำท่าทางงอแง

 

"กินอีกถ้วยได้มั้ยคะ?"

 

มาร์คเลิกคิ้วขี้น "เดี๋ยวไม่สบายนะ คุณซานต้าไม่ชอบเด็กไม่แข็งแรงหรอกเนอะ" พูดจบบยอลก็ลุกขึ้นยืนทันที เดินนำม๊าตัวเองออกไปแต่ไม่วายสายตายังคงหันไปมองไอศกรีมในตู้อย่างเสียดายระหว่างทางกลับบ้านบยอลก็พูดถึงเพื่อนที่โรงเรียนไม่หยุด

 

"วันนี้แบมแบมถูกตีด้วย"

 

"แบมแบมเพื่อนห้องทานตะวันน่ะเหรอ?" ถามขึ้นมาเพราะบยอลชอบเล่าวีรกรรมของเพื่อนคนนี้ให้เขาฟังเสียเหลือเกิน บยอลพยักหน้าตอบคำถาม "...ทำไมแบมแบมถึงโดนตีล่ะ?"

 

"แบมแบมดื้อ แบมแบมเอาปลาของคุณครูแทคยอนมาวางไว้บนโต๊ะ..." เล่ามาพร้อมทำท่าทางประกอบ "...แบมแบมบอกว่าเดี๋ยวปลาจะจมน้ำ แบมแบมช่วยปลาไว้ค่ะ" มาร์คหลุดหัวเราะออกมา เด็กสี่ขวบอะไรคิดแบบนั้น มีแต่เด็กแก่แดดเท่านั้นแหละ

 

กลับมาถึงห้องก็อาบน้ำก่อนเป็นอย่างแรก มาร์คกางโต๊ะญี่ปุ่นรอบยอลเอาการบ้านมาให้สอน

 

"คุณครูให้วาดรูป" ในอ้อมแขนมีสมุดวาดรูปกับกล่องสีหลายกล่อง

 

"วาดรูปอะไรเอ่ย อ่านให้ม๊าฟังหน่อยเร็ว"

 

"จงวาดภาพ...คริส....คริส...คริส..."

 

"คริสต์มาส" มาร์คบอกลูกสาวที่อ่านคำยากๆ ไม่ออก

 

"วาดภาพ...คริสต์มาส...แล้ว...ระ...ระบายสีให้สวย...งาม" มาร์คหอมแก้มบยอลเป็นรางวัล บยอลชอบอ่านหนังสือเลยอ่านหนังสือเก่ง เขาชอบให้บยอลอ่านหนังสือที่เป็นเล่มมากกว่าอ่านจากพวกไอแพดนะ ถึงเขาจะชอบพวกอุปกรณ์ไอทีก็เถอะ แต่เขาชอบหนังสือที่ทำมาจากกระดาษมากกว่า

 

มาร์คช่วยบยอลวาดภาพก่อนจนเสร็จ ทั้งคู่นั่งดูการ์ตูนจนถึงเวลาเข้านอน เขาเข้าครัวไปอุ่นนมให้บยอลดื่มก่อนจะเล่านิทานให้ตัวเล็กฟัง

 

มาร์คก้มลงหอมแก้วลูกสาว ยกผ้าห่มมาห่มให้ ก่อนจะนอนลงข้างๆ แล้วกอดแก้วตาดวงใจของตนเอาไว้

 

เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะรักเด็กคนนี้ได้มากขนาดนี้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มาร์คกำลังนั่งเหงื่อแตกพลั่กอยู่ตรงหน้าป๊ากับม๊า ใช่!! ป๊ากับม๊ามาเซอร์ไพรส์คริสต์มาสเขาถึงห้อง แต่หารู้ไม่ว่าจะโดนเซอร์ไพรส์ซะเอง

 

เมื่อเช้ามีเสียงกดกริ่งที่หน้าประตู เขาเดินไปเปิดประตูก็แทบจะลมจับ เห็นป๊ากับม๊ากับโจอี้ยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าห้อง ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายอะไรโจอี้ก็วิ่งพรวดเข้ามาในห้องแล้วร้องเอะอะเสียงดังว่า 'เส่อไพร๊ซึ~' ป๊ากับม๊าตามเข้ามา ก่อนจะพากันเดินสำรวจห้องจนมาถึงห้องนอนที่บยอลกำลังหลับอยู่ 
 

ม๊านั่งลงบนเตียงก่อนจะร้องกรี๊ดลั่นเมื่ออะไรบางอย่างใต้ผ้าห่มขยับ ป๊าเปิดผ้าห่มออกก่อนจะผงะเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงของเขา

 

ม๊าหันมาตีเขาปากก็พร่ำว่า 'ยังเด็กอยู่เลย' 'อยากตายเหรอ?' 'พ่อแม่เขาไม่ว่ารึไง' 'ทำไมทำตัวแบบนี้' 'ลูกต้องไปหาหมอนะ' 'โรคจิต!' ไอ่ประโยคหลังเป็นของโจอี้นะ

 

ก่อนที่เขาจะกลายเป็นตาเฒ่าทารกหลอกเด็กมาทำมิดีมิร้ายในสายตาของคนในครอบครัว เขาเลยต้องยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง หลังจากนั้นป๊ากับม๊าก็นั่งเงียบจ้องเขาอยู่แบบนี้ไง

 

"แล้วทำไมไม่บอก...เอ่อ...พ่อยัยหนูด้วยล่ะ" เป็นม๊าที่พูดออกมา ม๊ามองไปที่หลานสาวด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะหันกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เหมือนจะฆ่าคนได้เพื่อเค้นคำตอบ

 

"คือ...ผม..."

 

"ไปหาหมอนั่นซะ ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยก็ดีจะได้ช่วยกันดูแล"

 

"ไม่เอานะป๊า!"

 

"งั้นแกอยู่นี่ต่อไปก็ได้..." ป๊าพูดขึ้น มาร์คเกือบยิ้มออกมาแล้วเชียวถ้าไม่มีอีกประโยตตามมา "...แต่ฉันกับม๊าแกจะเอายัยหนูไปอยู่ด้วย"

 

"ไม่ให้ไป!" มาร์คนี่ลุกขึ้นยืนเลยครับ

 

เขาเลี้ยงมาตั้งสามสี่ปีอยู่ๆ จะมาพรากลูกไปจากเขาได้ไงเล่า

 

"งั้นเลือกเอา" ป๊าตัดบทเมื่อเขาอ้าปากจะต่อรอง

 

เขานั่งเงียบมองบยอลที่กำลังเล่นกับโจอี้อย่างสนุกสนาน เขาไม่อยากพาบยอลไปเจอกับหมอนั่นเลย แต่ก็ไม่อยากแยกกับบยอลเหมือนกัน ยอมให้ป๊าพาบยอลไปพนันได้เลยว่าป๊าไม่ยอมให้เขาตามไปอยู่ด้วยหรอก

 

"อี้เอิน..." ม๊าเรียกเขา สายตาจริงจังจ้องมองมาที่เขา ไม่มีแววโกรธหรือผิดหวังอยู่ในนั้นเลย "...ลูกต้องคิดนะ ลูกต้องบอกเขา ต้องให้เขารับรู้ว่าเขาต้องมีส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ม๊ารู้ว่าเราดูแลตัวเองได้ ดูแลยัยหนูได้ แต่ม๊าอยากให้คิดไปไกลๆ ไม่ใช่พรุ่งนี้ เดือนหน้าหรือปีหน้า แต่ต้องคิดในระยะยาว ลูกเราโตขึ้น เราจะยังอยู่เหมือนเดิมแบบนี้ไม่ได้นะ คิดถึงลูกเอาไว้สิ"

 

มาร์คหันไปมองที่บยอลอีกครั้ง บยอลเคยถามเขาบ่อยๆ เหมือนกันว่าพ่อของตนไปไหน เขายิ้มและโกหกลูกออกไปว่าทำงานอยู่ต่างประเทศ อีกนานกว่าจะได้กลับ เขาโกหกแบบนี้มาตลอดสี่ปี แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโกหกไปได้อีกนานเท่าไร ทั้งที่เขาบอกลูกเองว่าการโกหกมันไม่ดี แต่เขากลับทำเสียเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากตกลงกับป๊าแล้วว่าจะยอมไปอยู่กับพ่อของบยอล เขาก็ต้องระเห็จออกมาจากห้องที่เขาอยู่มาตลอด ป๊ายึดคีย์การ์ดเอาไว้ แถมสั่งพนักงานของคอนโดไว้อีกว่าถ้าเห็นเขาให้จับโยนออกไปข้างนอกได้เลย

 

เพราะเหตุนี้มาร์คต้วนกับลูกสาวถึงได้มายืนอยู่หน้าบ้านหลังนี้ไง บ้านของหมอนั่นน่ะ พ่อของบยอลน่ะ

 

รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกในหนังของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สักประเทศนะ ที่นางเอกมากดกริ่งหน้าบ้านพระเอก ยืนรออยู่หลังประตูรั้วเหล็ก มืออีกข้างก็จูงมือลูกน้อยที่พระเอกไข่ทิ้งไว้แล้วหนีไป ชะเง้อคอมองหาคนในบ้านว่าเมื่อไรจะเปิดประตู หันไปปลอบลูกที่ร้องงอแงว่าเดี๋ยวก็ได้เข้าไปข้างในแล้ว

 

ขอโทษเถอะ! ชีวิตต้วนอี้เอินไม่ได้รันทดขนาดนั้น ถึงภาพที่เห็นจะออกมาคล้ายๆ ที่ว่าไปก็เถอะนะ แต่เขาไม่ได้มาที่นี่เพราะอยากให้หมอนั่นมันมารับผิดชอบอะไรหรอก เขามาเพราะโดนบังคับต่างหากล่ะ

 

ยืนรอสักพักก็มีคนเดินออกมาเปิดประตู มาร์คมองเจ้าของร่างนั้นตาไม่กระพริบ เขาจำได้ดีว่าหมอนี่เป็นใคร

 

"มาร์ค" เสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้นอย่างประหลาดใจ

 

"สวัสดีแจ็คสัน"

 

หมอนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ ทั้งหน้าตา รูปร่าง น้ำเสียง แววตาแบบนั้น นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้เห็นมัน

 

มาร์คจำใบหน้าของอีกคนไม่ได้หรอก ก็มันตั้งหลายปีแล้ว แต่พอมาเจอแบบนี้เขากลับจำได้ว่าอีกคนไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงเหมือนเดิม เหมือนเมื่อก่อน

 

"ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย?" เขาถามขึ้น แจ็คสันพยักหน้าก่อนจะหลีกทางให้ เจ้าตัวเพิ่งสังเกตว่ามาร์คจูงมือเด็กหญิงหน้าตาน่ารักมาด้วย เขามองตามทั้งสองคนก่อนจะตามเข้าบ้านไป

 

วันนี้มาร์คอนุญาตให้บยอลเล่นไอแพดได้ เขามองตามลูกสาวไปก่อนจะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่เพิ่งละสายตามาจากบยอลเหมือนกัน

 

บรรยากาศตอนนี้อึดอัดยิ่งกว่าตอนโดนป๊ากับม๊าสอบสวนอีกนะ เขากับหมอนั่นได้แต่มองหน้ากันไปมาอยู่สักพัก

 

"ม๊าคะ บยอลหิวจัง" บยอลเดินเข้ามส เจ้าตัววางไอแพดที่เปิดการ์ตูนทิ้งไว้ก่อนจะปีนขึ้นตักคนเป็นแม่ มาร์คก้มมองนาฬิกาก็อุทานออกมาเบาๆ เที่ยงแล้วด้วย

 

แจ็คสันมองมาร์คกับเด็กหญิงสลับกัน ถ้าเมื่อกี้เขาฟังไม่ผิด เด็กคนนี้เรียกมาร์คว่า...

 

"ม๊าคะ"

 

"เดี๋ยวม๊าทำกับข้าวให้กินเนอะ" โอเคชัดเจน "...ขอยืมใช้ห้องครัวหน่อยได้มั้ย?"

 

มาร์คหันไปถามแจ็คสัน อีกคนก็พยักหน้าอนุญาต เขามองแฟนเก่าของตนที่จูงมือเด็กหญิงเดินไปที่ครัว

 

แจ็คสันมองแผ่นหลังนั้น อยู่ๆ ความรู้สึกคิดถึงก็เอ่อล้นขึ้นมา แผ่นหลังที่เขาเคยนอนมองเวลาที่อีกคนตื่นแต่เช้ามาทำอะไรให้เขากิน แผ่นหลังที่ดูวุ่นวายเพราะกำลังสาละวนอยู่กับวัตถุดิบตรงหน้า แผ่นหลังบางที่เขาชอบสวมกอด

 

มาร์คยังคงเหมือนเดิม มาร์คยังคงน่ารัก น่ากอด ยังคงทำให้เขาละสายตาไม่ได้ดังเดิม

 

แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคืออีกคนมีลูกติดมาด้วยเนี่ยสิ

 

"ลูกนายเหรอ?"ถามออกไปด้วยประโยคงี่เง่า มาร์คพยักหน้าตอบรับ

 

"ลูกนายด้วย"

 

"ฮะ?" แจ็คสันคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาด

 

"She is your daughter" คราวนี้มาร์คพ่นภาษอังกฤษใส่เขา

 

"เอ~" วันนี้วันอะไรนะ 1 เมษารึเปล่า? "...ซอลมา"

 

มาร์คมองแจ็คสันที่ทำหน้าตาไม่เชื่อที่เขาพูดด้วยสายตาเบื่อหน่าย

 

"พาไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะ" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงไม่แคร์อะไร ทำให้แจ็คสันไม่รู้จะเชื่อดีรึเปล่าว่าอีกคนพูดจริง เขามองหน้าเด็กหญิงที่กำลังเล่นตุ๊กตาอยู่

 

บยอลเงยหน้ามองคนแปลกหน้าด้วยความสงสัย คุณลุงคนนี้หน้าคุ้นจัง มองไปมองมาก็เผยยิ้มออกมา

 

"คุณลุงคนนี้..." บยอลชี้นิ้วไปที่แจ็คสันก่อนจะหันไปทางแม่ตน "...ม๊าคะ คุณลุงคนนี้หน้าเหมือน..."

 

"บยอลคะ" มาร์คเรียกชื่อลูกสาวเพื่อปราม เขากลัวว่าเด็กหญิงจะพูดในสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ออกไป

 

บยอลวิ่งไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าตนก่อนจะรื้อหาของบางอย่าง อยู่ไหนนะ อยู่ไหนหว่า บยอลเอามาด้วยนี่นา

 

"อ๊ะ! เจอแล้ว" แจ็คสันมองตามแผ่นหลังเล็กๆ นั้น เขาหน้าตาเหมือนอะไรที่เจ้าตัวพูดถึงกันนะ

 

"บยอลคะ" มาร์คละมือจากอาหารหันไปมองลูกสา;ของตนที่หยิบแผ่นกระดาษม้วนๆ ออกมาจากกระเป๋า นี้ยังเก็บมันใส่กระเป๋ามาด้วยเหรอเนี่ย

 

"คุณลุงคนนี้หน้าเหมือนคนที่ม๊าเอารูปแปะผนังห้องไว้เลยค่ะ" บยอลเดินไปทางแจ็คสันก่อนจะยิ้มให้

 

แว๊บนึงทำให้แจ็คสันนึกถึงรอยยิ้มของตัวเองเมื่อยังเด็กซ้อนขึ้นมา แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือมาร์คเอารูปเขาติดผนังห้องไว้ด้วยเนี่ยสิ ยังคิดถึงเขาอยู่ยังงั้นเหรอ?

 

"บยอลคะ ไม่หิวเหรอ?" มาร์คเรียก แต่เจ้าตัวก็ไม่สนใจยื่นม้วนกระดาษให้แจ็คสัน เขากางมันออกก่อนจะยิ้มออกมา มองไปทางแฟนเก่าด้วยสายตาล้อเลียน

 

ม้วนกระดาษนี้เป็นรูปเขาขนาดเกือบเท่าตัวจริง เขาเกือบคิดแล้วว่ามาร์คยังคงคิดถึงเขาถ้ากระดาษแผ่นนี้ไม่มีรูเล็กๆ อยู่เต็มแผ่นไปหมด นี่มันรอยลูกดอกชัดๆ แล้วที่เห็นชัดๆ เลยก็ตรงหน้าผากกับกลางลำตัว ไม่รู้ว่าถ้าโดนเองจริงๆ ตรงไหนจะเจ็บกว่ากัน

 

"บยอลเอานี่มาด้วยค่ะ" แล้วเด็กสาวก็ชูลูกดอกปลายแหลมขึ้นมา แจ็คสันมองตามก่อนทำหน้าเหวอ นี่มาร์คเอารูปเขาไปเป็นเป้ายิงลูกดอกเนี่ยนะ?

 

มาร์คแย่งไปถือไว้ทันทีพลางดุลูกสาวของตน แต่บยอลยังคงหัวเราะชอบใจ

 

"บยอลมาทานข้าวเลยนะ" มาร์คบอกเสียงดุ บยอลพยักหน้าก่อนเดินไปนั่งทานข้าวอยู่เงียบๆ

 

แจ็คสันมองเด็กหญิงเคี้ยวข้าวจนแก้มยุ้ย เขายิ้มให้ภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งมาร์คเรียกเขาไปคุยที่ห้องนั่งเล่นไม่ไกลจากครัวเท่าไร

 

"มีอะไรเหรอ?" เรียกเขาออกมาแล้วไม่พูดอะไรเนี่ยนะ

 

มาร์คถอนหายใจใส่คนตรงหน้าไปทีนึง เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงดี ยอมรับเลยว่าฟอร์มเขาเยอะ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ ตอนนี้เลยคือเขาไม่มีที่ไปแล้ว เงินติดตัวน่ะเหรอ? มีแค่ไม่กี่วอนหรอก ไปไหนไม่รอดแน่ๆ ถ้าแค่ตัวเขาเขาจะไม่ห่วงหรอก แต่นี่เขาต้องดูแลบยอลด้วย ป๊ารู้ว่าเขาไม่อยากพาลูกไปลำบาก 


ป๊านี่รอบคอบจริงๆ

 

"เด็กคนนั้นเป็นลูกของนาย" เขาบอกออกไป แจ็คสันเงียบไปครู่นึงก่อนจะหัวเราะขึ้นมา

 

"มันเลยเอพริว ฟูลส์ เดย์มาแล้วนะ" เสียงหัวเราะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นยิ้มจืดๆ เมื่อมาร์คไม่ได้มีอารมณ์จะมาตลกด้วย

 

มาร์คกรอกตาก่อนเล่าเรื่องให้แจ็คสันฟังทั้งหมด อีกคนนั่งฟังอย่างตั้งใจ สีหน้าจริงจังที่เขาไม่รู้ว่าแจ็คสันจะทำเป็นปรากฏอยู่บนหน้า อีกคนพยักหน้าทุกคำพูดที่เขาเล่า จนกระทั่งเขาเล่าจบแจ็คสันก็ขมวดคิ้วใช้ความคิด

 

"งั้นเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของฉันอ่ะดิ"

 

มาร์คถอนหายใจอีกรอบก่อนพยักหน้า อยากจะตะโกนใส่หน้ามันเหลือเกินว่า ก็เออน่ะสิ! แต่กลัวบยอลจะตกใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากทุกอย่างกระจ่างแล้วแจ็คสันก็พาเขากับบยอลไปที่ที่นึงที่หมอนั่นเรียกว่าบ้าน แจ็คสันบอกว่าเขาย้ายออกจากบ้านหลังเมื่อกี้แล้วเพราะอินดี้ เออ เอากับมัน -_- จนในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงนี้ หน้ารถบ้านคันไม่เล็กไม่ใหญ่

 

"ไอ้นี่น่ะเหรอที่นายเรียกว่าบ้าน?" มาร์คชี้ไปที่รถบ้านคันกลางเก่ากลางใหม่ที่อยู่ตรงหน้า

 

"ย่าห์ หยาบคายที่สุด เรียกไอ้นี่ได้ไง" แจ็คสันท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนจนมาร์คกรอกตาใส่ไปทีนึง

 

"บยอลคะ นี่บ้านใหม่เรา บยอลชอบไหม?" มาร์คคคุกเข่าลงตรงหน้าลูกสาวก่อนเอ่ยถาม เด็กหญิงมองไปทางรถบ้านก่อนจะยิ้มกว้างพยักหน้าตอบ

 

เหมือนในทีวีเลย บยอลอยากอยู่บ้านแบบนี้แหละ ม๊าเอินรู้ใจบยอลที่สุดเลย ว่าแต่...คุณลุงคนนี้เขาเป็นใครนะ บยอลไม่เห็นรู้จักเลย?

 

"ม๊าคะ คุณลุงคนนั้นใครเหรอคะ?" ถามออกไปพร้อมชี้นิ้วไปทางแจ็คสันที่เก็บกองผ้าที่กองอยู่บนเตียงหน้ารถบ้าน

 

มาร์คมองแจ็คสันสลับกับลูกสาวของตัวเอง เขายังไม่ได้คิดเลยว่าจะตอบลูกสาวว่ายังไง แจ็คสันมองตอบเขาสายตาบ่งบอกว่าบอกไปเถอะ มาร์คพยักหน้านิดหน่อยก่อนจะจูงมือเด็กหญิงไปนั่งบนเตียงที่แจ็คสันเพิ่งจัดระเบียบ มาร์คอุ้มบยอลให้นั่งตักก่อนจะเริ่มพูด

 

"บยอลรู้มั้ยคะว่าป๊าหนูอยู่ไหน?"

 

"ป๊าไปทำงานที่ต่างประเทศ อีกนานกว่าป๊าจะกลับ" บยอลตอบเขาแต่เจ้าตัวสนใจตุ๊กตาที่วางอยู่บนเตียงมากกว่า

 

"ตอนนี้ป๊ากลับมาแล้วนะ บยอลรู้รึยังเอ่ย?" ถามออกไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น บยอลเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาด้วยแววตาดีใจอย่าปิดไม่มิด

 

ม๊าเอินพูดจริงๆ เหรอ? บยอลจะได้เจอหน้าป๊าแล้วใช่มั้ย? ป๊าจะหน้าตาเป็นยังไงน๊า ป๊าจะหน้าเหมือนบยอลรึเปล่า ป๊าจะดูเท่รึเปล่า?

 

"ม๊าพาบยอลไปหาป๊านะคะ" เด็กหญิงเขย่าแขนมาร์คอย่างตื่นเต้น มาร์คหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหอมแก้มลูกสาวไปทีนึงอย่างหมั่นเขี้ยว

 

"ป๊าอยู่นี่กับเราแล้วไงคะ บยอลลองมองไปที่ลุงเสื้อแดงคนนั้นสิ" ว่าแล้วก็ชี้นิ้วไปที่แจ็คสันที่ยืนยิ้มบางๆ อยู่หน้าประตูรถบ้าน

 

เขามองภาพมาร์คกับลูกสาว...ของเรา มาร์คยิ้มเหมือนเมื่อก่อนเลย บยอลเองก็เหมือนกัน รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของบยอลนั่นมันรอยยิ้มของเขาชัดๆ ตาของเขา จมูกก็ของเขา เว้นก็แต่เขี้ยวที่ได้ม๊ามาน่ะนะ

 

"มานี่เร็วค่ะ" แจ็คสันนั่งคุกเข่าลงกวักมือเรียกเด็กหญิงให้เดินมาหา มาร์คปล่อยบยอลลงจากตักแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังคงลังเลอยู่ดี คนนี้น่ะเหรอป๊าของบยอล? บยอลไม่ได้ไม่ชอบนะ บยอลแค่รู้สึกแปลกๆ บยอลไม่เคยเจอป๊าเลย อยู่ๆ จะให้เข้าไปกอดบยอลทำตัวไม่ถูกหรอก แต่บยอลก็ค่อยๆ เดินเข้าไปหาแจ็คสันก่อนจะยืนอยู่แบบนั้น

 

"บยอลลองเรียกป๊าสิคะ" มาร์คเดินเข้ามาจับไหล่บยอลไว้คล้ายจะปลอบโยน

 

"ป..." บยอลรียกไม่ออกหรอก เด็กหญิงเงยหน้ามองหน้าม๊าเอินของตัวเองก่อนจะบอกว่าเธอเรียกอีกคนว่าป๊าไม่ได้ มันไม่ชิน บยอลเรียกไม่ได้ แจ็คสันที่นั่งฟังอยู่ก็ยื้มแห้งก่อนจะมองหน้ามาร์คแล้วยิ้มสดใสขึ้นมานิดหน่อยเมื่อคิดอะไรได้

 

"บยอลไม่เรียกป๊าก็ได้ บยอลเรียกป๊าว่ากากาแทนดีมั้ย?"

 

เด็กหญิงคิดนิดหน่อยก่อนจะตอบออกมา "ค่ะ กากา" บยอลตอบรับเสียงดังแล้วเดินเข้าไปกอดคอแจ็คสันได้ฟังแบบนั้นมาร์คหันขวับไปมองหน้าแจ็คสันทันที ทำไมต้องเรียกกากาล่ะ? อยากทำอะไรกันแน่? มันจะไม่อะไรเลยถ้าแจ็คสันไม่ให้บยอลเรียกตัวเองว่ากากา กากาที่เขาเคยเรียกตอนยังคบกันอยู่

 

"นายจะเรียกด้วยก็ได้นะ" แจ็คสันเงยหน้ามายิ้มให้เขาก่อนจะอุ้มบยอลเข้าบ้านไปทิ้งมาร์คยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

 

เหอะ! กากงกากาอะไร เขาลืมไปแล้วเถอะว่าเคยเรียกหมอนั่นแบบนั้นน่ะ ลืมไปแล้วด้วยว่าตอนนั้นเขาหลงรักเจ้าของชื่อเรียกที่เขาเรียกได้คนเดียวขนาดไหน

 

มาร์คสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆ ออกจากหัวไปก่อนจะหิ้วกรเะป๋าเดินเข้าไปในรถบ้าน สถานที่ที่ครอบครัวจริงๆ กำลังจะเริ่มขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เขาสบประมาทแจ็คสันเกินไป

 

เขาไม่คิดว่าแจ็คสันจะดูแลบยอลได้หรอกนะ แต่ตอนนี้ผ่านมาได้เดือนกว่าแล้ว แจ็คสันที่กะตือรือล้นในวันแรกๆ ที่รู้ตัวว่ามีลูกสาวมาอยู่ด้วยยังไง ทุกวันนี้แจ็คสันก็ยังคงเป็นแบบเดิม บ่อยครั้งที่เขาต้องไปทำธุระแล้วต้องทิ้งบยอลไว้กับแจ็คสันสองคน แรกๆ เขาก็ไม่ไว้ใจหรอกนะ กลัวหมอนี่ดูแลลูกเขาไม่ดี กลัวว่าตอนที่เขาไม่อยู่แจ็คสันจะปล่อยให้ลูกเขาอยู่คนเดียวแล้วตัวเองออกไปเที่ยวเล่น แต่ก็เปล่าเลย วันนั้นกลับมาจากธุระ เขาแอบยืนมองแจ็คสันที่กำลังเล่านิทานให้บยอลฟังอยู่บนที่นอนในรถบ้าน บยอลหลับไปแล้ว แจ็คสันพับหนังสือนิทานเก็บก่อนจะจูบหน้าผากลูกสาว มองบยอลด้วย

สายตาอ่อนโยน สายตาที่เคยมองเขาเมื่อหลายปีก่อนนั้น ตอนที่ยังคบกันอยู่ เพียงเท่านั้นหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมาอีก

 

ถ่านไฟ...ที่เขาคิดว่ามันดับไปแล้ว ตอนนี้มันกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่

 

ก็ดีแล้วที่แจ็คสันกับบยอลเข้ากันได้ดี ที่สำคัญบยอลติดแจ็คสันมากกว่าเขาอีกมั้ง อะไรก็กากา กากาอย่างนู้น กากาบยอลอย่างนี้ กากา กากา

 

'กากา บยอลอยากไปเดินเล่นจัง'

 

'กากา บยอลอยากนอนดูดาวด้วย' เพราะแจ็คสันให้เขากับบยอลนอนในรถบ้าน ส่วนเจ้าตัวนอนที่เตียงข้างนอกคนเดียว ตอนกลางคืนบยอลชอบถามเขาบ่อยๆ ว่าทำไมไม่ให้แจ็คสันมานอนด้วย พอเขาบอกว่าที่ไม่พอบยอลก็บอกกลับมาอีกว่า

 

'เราก็ไปนอนข้างนอกกับกากาสิคะ'

 

อะไรก็คิดถึงแต่กากาเลยนะบยอล ลืมม๊าไปแล้วสินะ

 

"วันนี้กากาไปส่งบยอลนะ" นั่นไง

 

นี่มาร์คชักจะน้อยใจลูกสาวตัวเองแล้วสิ เขายืนทำกับข้าวอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่บยอลยังเดินผ่านเขาไปหาแจ็คสันที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันเหมือนครอบครัวแล้วน่ะ หมายถึงครอบครัวจริงๆ นะ ครอบครัวที่มีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว มีแม่เป็นแม่บ้านและลูกสาวที่น่ารัก 

เขาทำตัวเหมือนแม่บ้านจริงๆ นั่นแหละ ตื่นเช้ามาทำอาหาร ปลุกบยอลไปอาบน้ำก่อนจะปลุกแจ็คสันต่อ แจ็คสันเป็นไปส่งบยอลที่โรงเรียน

 

"ไปส่งที่ไหนเอ่ย?" แจ็คสันวาดแขนมาอุ้มบยอลไปนั่งตักก่อนจะหอมแก้มไปทีนึง

 

"ไปหาคุณป๊าต้วนค่ะ คุณป๊าบอกว่าอยากให้บยอลไปหา คุณม๊าคิดถึง"

 

บยอลหมายถึงป๊ากับม๊าของมาร์คนั่นแหละ ท่านรู้แล้วว่าตอนนี้พวกเขามาอยู่ด้วยกันอย่างสงบแล้ว ท่านเลยมักจะพาบยอลไปนอนด้วยที่บ้านบ่อยๆ และนั่นทำให้เขากับมาร์คอยู่ด้วยกันสองคนบ่อยๆ เหมือนกัน

 

"บยอลไม่อยากให้ม๊าไปส่งด้วยเหรอคะ?" มาร์คหันไปถามพร้อมสีหน้าเศร้าๆ

 

"อยากสิคะ บยอลอยากให้ม๊าไปด้วย" เด็กหญิงว่าเสียงดังพลางส่งยิ้มน่ารักไปอ้อนม๊าของตัวเอง

 

"กากา บยอลอยากไปเล่นของเล่นที่มอลล์ก่อนจัง" แต่ไม่ทันไรลูกสาวตัวน้อยที่เขาเลี้ยงมากับมือตั้งหลายปีก็หันไปสนใจแจ็คสันที่เพิ่งเจอกันแค่เดือนเดียวอีกครั้ง แจ็คสันตอบตกลงก่อนจะขอค่าตอบแทนเป็นจุ๊บแก้มสองข้างจากบยอล

 

เกมเซนเตอร์ในมอลล์คือทีที่บยอลอยากมาเล่น วันนี้คนไม่เยอะเท่าไรบยอลเลยสนุกเหมือนทั้งโซนเป็นของตนคนเดียว มาร์คนั่งมองแจ็คสันกับบยอลเล่นบ้านบอลอยู่ด้วยกัน ถ้าจะให้เจาะจงลึกลงไปเขาไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไรนัก ถ้าเรียกรวมๆ เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังรู้สึกดี หนึ่งเดือนที่ย้ายมาอยู่กับแจ็คสันเขาก็ไม่เหนื่อยเท่าเมื่อก่อน แถมยังสบายขึ้นเยอะเมื่อมีคนมาช่วยเล่นกับบยอล พูดคุยกับบยอล เพราะเขาไม่ค่อยพูดเท่าไรบยอลเลยแทบจะไม่ค่อยพูดเวลาเจอคนแปลกหน้าเหมือนกัน แต่ตอนนี้บยอลกล้าคุยกับคนแปลกหน้ามากขึ้น คงต้องยกความดีความชอบในส่วนนี้ให้แจ็คสันแหละที่ชวนบยอลคุย พาบยอลไปเปิดหูเปิดตาบ่อยๆ

 

มาร์คหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงบยอลหัวเราะแจ็คสันที่ทำท่าแหวกว่ายอยู่ใบ้านบอลอย่างบ้าคลั่ง เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แจ็คสันก็ยังคงเป็นแจ็คสันอยู่ดี ยังคงเป็นคนเดิมที่เขารู้จัก แจ็คสันละจากบยอลเดินตรงมาหาเขาพลางนั่งลงข้างๆ ผมยื่นขวดน้ำไปให้อีกคนดื่ม

 

"สนุกมั้ย?" ถามออกไปขำๆ อีกคนส่ายหัวก่อนจะหัวเราะเบาๆ

 

"เห็นเด็กนั่นมั้ย?" แจ็คสันชี้ไปที่เด็กชายคนนึงกำลังเล่นอยู่กับบยอล อายุน่าจะเท่าๆ กันนั่นแหละ เขาหันไปถามแจ็คสันว่าเด็กคนนั้นทำไม? "...ไอ่เปี๊ยกนั่นชอบบยอลแน่ๆ เลย"

 

มาร์คหลุดหัวเราะออกมา นี่แจ็คสันหวงลูกเหรอเนี่ย

 

"หัวเราะอะไรเล่าอี้เอิน" มาร์คหยุดหัวเราะทันที

 

"ใครให้นายเรียกฉันแบบนั้นไม่ทราบ" แจ็คสันยักไหล่ก่อนจะลากเขาไปหน้าตู้ชู๊ทบาสเล็กๆ

 

"เล่นกัน"

 

"ไม่เอา"

 

"ถ้าไม่เล่นจะเรียกอี้เอินต่อนะ" มาร์คตวัดสายตามองก่อนจะหยิลูกบาสมาปาใส่แจ็คสัน

 

"ไม่สน ฉันไม่เล่น"

 

โยนบาส แอร์ฮอกกี้ ทุบตัวตุ่น แม้กระทั่งลากเขาเข้าไปเล่นในบ้านบอลกับบยอลแจ็คสันก็ทำจนได้สินะ แค่ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เขาใช้ร่วมกับแจ็คสันมันทำให้เขายิ้มออกมาได้มากขนาดนี้เชียวนะ เขารู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนย้อนกลับไปเมื่อห้าหกปีก่อน ส่งเสียงโหวกเหวกไม่อายใครเมื่อแจ็คสันแกล้งเขา โวยวายเสียงดังเมื่อแจ็คสันแหย่เขา หัวเราะเสียงดังเมื่อแจ็คสันทำท่าตลกๆ ให้ดู ยิ้มกว้างๆ เมื่อแจ็คสันชมว่าเขาทำกับข้าวอร่อย กอดอีกคนแน่นๆ เมื่อเจ้าตัวอ้อนเขาเหมือนเด็กน้อย

 

อยู่ๆ เขาก็คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นขึ้นมา จนบ่อยครั้งที่เผลอคิดไปว่าอยากให้ช่วงเวลานั้นย้อนคืนกลับมา

 

พวกเขานั่งรถไปส่งบยอลแล้ว อยู่ทักทายป๊ากับม๊านิดหน่อยก่อนจะโดนเจ้าของบ้านไล่กลับเพราะมืดแล้ว ไม่รู้ทำไมป๊ากับม๊าไม่ยอมให้เขานอนที่บ้านด้วยก็ไม่รู้ นั่งแท็กซี่มาถึงหน้ามอลล์ที่เมื่อกลางวันเขาก็บอกแจ็คสันให้กลับไปก่อนเพราะจะแวะวื้อของสักหน่อย แต่อีกคนก็ไม่ยอมสุดท้ายเลยต้องปล่อยเลยตามเลย มาร์คขี่สเก็ตบอร์ดที่ไปค้นเจอมาจากที่บ้านนำเข้าไปในมอลล์

 

"จะซื้ออะไรเหรอ?" แจ็คสันเดินตามเขามาช้าๆ ก็ถามขึ้น

 

"ตุ๊กตาน่ะ บยอลอยากได้ตั้งแต่คริสต์มาสแล้ว" มาร์คว่าพลางไถสเก็ตบอร์ดไปทางแผนกของเล่นเด็ก มองหาตุ๊กตาสีขาวก่อนจะไถสเก็ตบอร์ดเข้าไปเอื้อมมือจะคว้าตุ๊กตามาแต่แจ็คสันดันกระโดดคว้ามันไปก่อน

 

"ตัวนี้เหรอ?" มาร์คพยักหน้าพลางทำหน้ายู่ ไถสเก็ตบอร์ดหนีอีกคน หิ้วสเก็ตบอร์เดินดูของไปเรื่อยเปื่อย มีคนสะกิดหลังเขาหันไปดูก็แทบร้องลั่นเมื่อเจอแจ็คสันใส่หน้ากากมนุษย์เขียวเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาเสียจนเขาตกใจ

 

"เล่นอะไรของนายเนี่ย"

 

"เห็นนายทำหน้ามุ่ยฉันไม่ชอบ"

 

มาร์คยู่หน้าใส่อีกคนอีกครั้งก่อนจะแย่งตุ๊กตาอุ้มไปจ่ายเงิน เพราะมอลล์อยู่ไม่ไกลจากบ้านของพวกเขาเท่าไร ทั้งสองคนเลยตัดสินใจเดินกลับบ้าน มาร์ควางตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่ไว้บนเตียงในรถก่อนจะเตรียมของทำกับข้าว เขาไม่ได้สนใจแจ็คสันที่นั่งมองดาวอยู่ข้างนอก

 

"แจ็คสันกินข้าว!" ตะโกนเรียกออกไปอย่างไร้ความโรแมนติก

 

อีกคนตอบรับก่อนจะเดินเข้ามายกถาดข้าวไปตั้งไว้ข้างนอก แจ็คสันมองอาหารที่ทำง่ายๆ สองสามอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะก็ยิ้มกว้างออกมา ก็นี่อาหารโปรดเจ้าตัวเขาเลยนี่นา ไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงได้ทำของชอบแจ็คสัน ทั้งๆ ที่คิดว่าลืมเรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่ายไปแล้วแท้ๆ แต่เขากลับทำทุกอย่างออกมาเองโดยธรรมชาติเสียนี่

 

"อ้า~"

 

แจ็คสันตักข้าวมาจ่อปากเขาก่อนออกเสียงอ้าเพื่อบอกให้เขาอ้าปาก มาร์คหัวเราะ

ก่อนจะรับข้าวคำโตเข้าปาก แจ็คสันยิ้มก่อนจะอ้าปากเป็นเชิงบอกให้เขาป้อนบ้าง มาร์คตักข้าวป้อนอีกคนก่อนจะลงมือกินข้าวของตัวเอง ทั้งสองคนนั่นกินข้าวอยู่เงียบๆ จนกระทั่งแจ็คสันยกถาดข้าวไปวางไว้ข้างใน เขาเดินออกมาเห็นมาร์คเงยหน้ามองดาวอยู่ ดวงตาโตใสแจ๋ว ริมฝีปากหยักยกยิ้มบางๆ เขามองไล่ไปทั่วใบหน้านั้นอย่างหลงไหล เขาคิดถึงเมื่อก่อนเหลือเกิน เมื่อตอนนั้นที่เขาสัมผัสอีกคนได้ เมื่อตอนนั้นที่เขากอดอีกคนได้ เมื่อตอนนั้นที่เขาบอกรักมาร์คได้ ตอนนั้น

 

"นี่"

 

"หือ?" มาร์คตอบรับคำที่อีกคนเรียก

 

"สนใจกันบ้างสิ"

 

มาร์คถอานหายใจก่อนจะหันไปหาแจ็คสัน เขาเบิกตาโพลงเพราะสัมผัสจู่โจมที่ริมฝีปากเขาทำให้เขานิ่งค้างไป แจ็คสันจูบเขา จูบที่มีแค่รสสัมผัสจากริมฝีปากอีกคนไม่มีการรุกล้ำใดๆ ยกมือจะดันอีกคนออกก็ถูกมืออีกฝ่ายกอบกุมเอาไว้ จะหันหน้าหนีมืออีกข้างของแจ็คสันก็จับล็อคเขาไว้เสียก่อน ดูดดุนริมฝีปากเขาจพอใจแจ็คสันก็ละจูบออก

 

มาร์คก้มหน้าหายใจหอบ นานเท่าไรแล้วนะที่เขาไม่ได้จูบกับใครเลย นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้จูบกับแจ็คสัน นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้ นานแล้วที่หัวใจเขาไม่ได้ทำงานหนักขนาดนี้ เขามองหน้าแจ็คสัน อีกคนจ้องตาเขาอยู่แน่วแน่จนเขาเองที่ต้องหลบสายตานั้น เขาไม่อยากจะคิดเข้าข้าง ตัวเองแต่รสจูบนั้นของแจ็คสันมันกำลังบอกเขาว่าอีกฝ่ายก็คิดเหมือนที่เขาคิด

 

"นายทำบ้าอะไรเนี่ย" แสร้งโวยวายเพราะทำอะไรไม่ถูก

 

"นายไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง?"

 

"รู้สึกอะไรล่ะ?" ถามกลับเสียงห้วน แจ็คสันนั่งขัดสมาธิหันหัวเข่ามาชนเขา อีกฝ่ายจ้องเข้ามาในตาเขานิ่งๆ มันแน่วแน่เสียจนเขาอยากจะหลบสายตาแต่ก็ทำไม่ได้

 

"ใจเต้นแรง..." แจ็คสันว่าขึ้นยกมือขวาของตนทาบลงที่อกซ้ายของเขา อีกคนยกยิ้มเมื่อสัมผัสได้ว่าใจของเขาเต้นแรงมากขนาดไหน "...แบบนี้" อีกคนว่าต่อพลางจับมือเขาไปวางทาบที่หน้าอกของตน มาร์คจะชักมือกลับแต่อีกฝ่ายจับมันไว้แน่น

 

เขานั่งนิ่งรับรู้การเต้นของหัวใจของแจ็คสันที่เต้นถี่เสียเหลือเกิน เขาไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองนะ แต่หัวใจของเรามันเต้นเป็นจังหวะเดียวกันล่ะ แต่แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าอีกคนกำลังจะบอกอะไรเขา เงยหน้ามองแจ็คสันที่มองเขาอยู่ก่อน แจ็คสันกำลังยิ้ม ยิ้มแบบเมื่อก่อนที่ชอบยิ้มให้เขา อีกคนโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ มาร์คย่นคอหนีลมหายใจอุ่นๆ นั้นพลางหลับตาปี๋ แจ็คสันไม่ได้ทำอะไรนอกจากจุ๊บมุมปากเขาเบาๆ

 

"รักนะ"

 

ไม่รู้ตัวเลยว่ามุมปากตัวเองยกขึ้นมาเยอะแค่ไหน เขาพยายามกลั้นยิ้มแล้วนะ แต่มันกลับทำไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องยิ้มออกมาอย่างอดไม่ไหว ก้มหน้าลงอีกครั้งพยักหน้าเบาๆ เหลือบตามองอีกคนที่ยิ้มอ้อนเขาอยู่

 

"อยากฟังมั่ง"

 

มาร์คกัดปากตัวเองแน่น ก็บอกแล้วว่าเขาน่ะฟอร์มเยอะ ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่พูดไม่ออกมากกว่านะ

 

"กากา" ก็มันอายนี่นา ให้บอกว่ารักเหมือนกันไม่ไหวหรอกนะ

 

แต่แค่นี้แจ็คสันก็ยิ้มกว้างแล้ว เขารวบตัวมาร์คมากอดแน่นก่อนจะเอนตัวล้มนอนลงบนเตียง

 

ความสุขเอ่อล้นในรอบหลายปี ก็ตั้งแต่เลิกกันเลยล่ะเขาเพิ่งมีความสุขมากขนาดนี้

 

รักอี้เอินนะ




















 

- - - - Hello Baby - - - -





 

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture