ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8 Only one girl รู้ตัวบ้างรึเปล่า? [120%]
Chapter 8
Only one girl
รู้ตัวบ้างรึเปล่า?
“บางทีเราอาจจะไม่เคยรู้ตัวเลยว่า
เราอาจเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขามอง”
1 ชั่วโมงผ่านไป
ฉันผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีฝนก็หยุดแล้วด้วย จะได้กลับบ้านสักที
“เรนะ กลับบ้านเหอะ” ฉันเดินไปเขย่าแขนเรนะที่หลับไม่รู้เรื่อง เธองัวเงียปัดไม้ปัดมือสะเปะสะปะ ฉันเลยเขย่าแขนเธอแรงขึ้น และมันก็ได้ผล! เรนะลืมตามองหน้าฉันด้วยสีหน้างุนงง
“กลับบ้าน”
“อ้าว ฝนหยุดแล้วเหรอ” เรนะขยี้ตาก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ เธอเดินโงนเงนไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปรอฉันข้างหน้าร้าน ฉันเลยรีบจัดการคว้ากุญแจที่อยู่ในลิ้นชักแล้วตามเธอออกมา
“ล็อกเลยนะ เจ๊กลับแล้วใช่มั๊ย?” ฉันหันมาถามเรนะ เธอพยักหน้าให้เบาๆ ฉันว่าเรนะคงจะง่วงมากนะเนี่ย ยืนยังจะล้มเลย - -^
กึก!
ฉันจัดการดึงประตูเหล็กแล้วกดล็อกกุญแจเป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อหันมาอีกครั้งก็พบว่า……….
ซ่า!
ฝนตกลงมาอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ฉันขี้เกียจเปิดร้านอีกครั้ง ทำให้ความคิดหนึ่งผุดขึ้น
วิ่งตากฝนกลับบ้านเหอะ!
“เรนะ กลับบ้านกัน”
“ห๊า!? ไม่ๆๆ ทาครีมมาเยอะ เดี๋ยวครีมออก” เรนะรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ ฉันฟังคำพูดเรนะแล้วอยากจะพาเธอไปอาบน้ำซะเดี๋ยวนี้ จะได้ไม่ต้องกลัวครีมออกอีก
“งั้นจะยืนอย่างงี้เหรอ?”
“อื้ม แต่ฉันวิ่งไปซื้อร่มจากร้านข้างๆให้ก็ได้นะ” เรนะบอกก่อนวิ่งผ่าฝนออกไป ไหนบอกว่ากลัวครีมออกไงเล่า - -^
ฉันเลยตัดสินใจวิ่งตามเรนะ ไหนๆก็เปียกไปคนนึงแล้วก็เปียกกันให้หมดนี่แหละ
“นี่! วิ่งตากฝนแบบนั้นเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เสียงทุ้มอันแสนคุ้นหูดังขึ้น ทำให้ฉันหยุดวิ่งแล้วหันหลังกลับมามองหาเจ้าของเสียงทันที
และก็ใช่เขาจริงๆด้วย
เขายังคงแต่งตัวสบายๆเหมือนเดิมคือเสื้อแขนยาวตัวบางๆ แต่วันนี้เขาใส่กางเกงขายาวมาสินะ มือหนึ่งถือร่ม ส่วนอีกมือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง
ทำไมดูเท่อย่างนี้นะ…
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาพิจารณาใครสักหน่อยนะริโกะ!
“ยืนตากฝนแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดตายกันพอดี” เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วก้าวฉับๆตรงมาหาฉันทันที
แต่ฉันได้ยืนมองเขาด้วยสีหน้างุนงง ตอนนี้รู้สึกแสบตาจริงๆเพราะน้ำฝนไหลเข้าตาไม่หยุดเลยน่ะสิ
“เดินไปด้วยกันนี่แหละ อย่าปฏิเสธ!” เขายื่นร่มมาบังฝนให้ฉันก่อนเดินเข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งรั้งเอวฉันให้ขยับเข้าใกล้เขาอีกด้วย
ฉวยโอกาสที่สุด!!
ฉันกำลังจะอ้าปากโวยวายใส่เขาแต่โดนเขาตวัดสายตาดุใส่ แล้วอย่างงี้ฉันจะไปกล้าพูดอะไรเล่า - -^
------------------------------------------------------[50%]------------------------------------------------------
“นี่นาย! จะกางร่มให้มันได้อะไร เปียกกันทั้งคู่แบบนี้น่ะ” ฉันพูดขึ้นพลางเหลือบมองไปที่แขนเสื้ออีกข้างของเขาซึ่งมันเปียกชุ่มจนแนบเนื้อ นั่นคงเป็นเพราะเขาพยายามกางร่มให้ฉันล่ะมั้ง ทั้งๆที่ตัวฉันก็เปียกตั้งแต่แรกแล้วก็ยังมากางให้ฉันอีก - -^
“ก็ดีกว่าไม่กางเลยไง” เขาตอบห้วนๆ ฉันอยากจะต่อยหน้าเขาจริงๆ พูดภาษาคนไม่เป็นรึไง?
“ฉันถือร่มให้มั๊ย?” ฉันพูดอ้อมแอ้ม ในใจก็รู้สึกเกรงใจหมอนี่อยู่เหมือนกัน พยายามกางร่มให้ฉันจนตัวเองเปียกไปด้วย ถ้าเป็นในนิยายนี่แหละโคตรพระเอก!
“หัดดูความสูงตัวเองหน่อย ถ้าเธอถือร่มก็เปียกกันหมด” เขาพูดแล้วตวัดสายตาคมมามองหน้าฉัน
ฉึก!
เจ็บปวดที่สุด! ฉันไม่ได้เตี้ยนะ ฉันแค่ตัวเล็ก ._. อยากจะกรีดร้อง~ ใครมันจะไปสูงเปรตแบบนายเล่า!
“งั้นนายก็กางคนเดียวเลยไป!” ฉันกระแทกเสียงก่อนเดินลิ่วๆนำหน้าเขาไปทันที มันน่าโมโหมั๊ยล่ะ คนอุตส่าห์จะช่วยแท้ๆ!
“นี่! จะรีบเดินไปไหนห๊ะ!? ” เสียงทุ้มและเสียงฝีเท้าของเขายังคงดังไล่หลังฉันมาติดๆ ฉันรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น
“หยุดได้แล้ว!” เขาพูดแล้ววิ่งมาคว้าข้อมือฉันไว้ ฉันหันขวับมาจ้องหน้าเขาทันที แต่สีหน้าเขาก็ยังคงนิ่งไม่ฉายแววสำนึกผิดแต่อย่างใด นั่นทำให้ฉันยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น
เขาชอบพูดจาไม่เข้าหูอย่างนี้ประจำและฉันก็โกรธที่เขาพูดอยู่ร่ำไป ถ้าหมอนี่หัดพูดจาดีๆเหมือนคนอื่นเขาก็คงจะดี!
“จะวิ่งมาทำไม? เปียกหมดแล้วเนี่ย” เขาพูดพลางก้มลงมองดูสภาพตัวเอง เปียกกันทั้งคู่น่ะสิ ยิ่งเขาใส่เสื้อบางๆแล้วด้วยเมื่อเสื้อเปียกจนแนบเนื้อขนาดนั้น มันทำให้เห็นรูปร่างเขาอย่างชัดเจน
ทำไมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาแบบนี้นะ?
“ร่มก็มีทำไมไม่กาง?” ฉันเลิกคิ้วแล้วปรายตาไปมองร่มที่เขาถือไว้ในมือ
“ถ้ามัวแต่กางร่มแล้วจะตามเธอทันมั๊ย?”
“ใครใช้ให้ตาม?”
“โอเคๆ ยอมๆ…….” เขาชูมือขึ้นยอมแพ้แล้วโน้มตัวมากระซิบฉันเบาๆว่า “ขอโทษ”
“ไปไหนก็ไปเลยไป!” ฉันพยายามจะผลักเขาออก แต่เขาเอามือมาโอบรอบเอวของฉันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบด้วยซ้ำ ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอ่อนๆที่รินรดอยู่ต้นคอของฉัน ถึงแม้ฝนจะตกจนทำให้ฉันรู้สึกเริ่มจะหนาวๆ แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
“เลิกทำตัวให้ฉันห่วงสักทีจะได้มั๊ย?” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยออกมาเบาๆก่อนดึงตัวฉันเข้าไปกอด คำพูดของเขาหมายความว่ายังไงกัน?
เขาเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ?
ฉันก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าที่จะสบตาเขา สายฝนที่โปรยปรายลงมาดูท่าว่าจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ ไอเย็นๆจากน้ำฝนมันน่าจะทำให้ฉันรู้สึกหนาว
แต่มันไม่ใช่เลย…
เพราะไออุ่นจากเขาทำให้ฉันรู้สึกร้อน ไม่สิ.. ฉันรู้สึกเหมือนกับลังจะละลายอยู่ตรงนั้นเลยด้วยซ้ำ
ผู้ชายที่ดูไม่มีหัวจิตหัวใจและดูเยือกเย็นขนาดนี้ แต่ทำไม…ฉันถึงรู้สึกอบอุ่นขนาดนี้
[Night’s part]
ผมยังคงกอดเธอไว้หลวมๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้แคร์ความรู้สึกของเธอขนาดนี้ ทั้งๆที่ผมไม่เคยแคร์ความรู้สึกใครเลย ยิ่งเมื่อหน้าสวยงองุ้มด้วยความไม่พอใจ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกและต้องพูดขอโทษทุกครั้งไป ทั้งๆที่ผมไม่เคยพูดขอโทษเลยด้วยซ้ำ…
แต่เจ้าตัวเขาจะรู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าเธอเป็นคนเดียวที่ผมห่วง…
[END]
“ปล่อยได้แล้ว เปียกกันหมดแล้วเนี่ย” ฉันพูดแทรกขึ้นแล้วดันอกเขาออกเบาๆ ร่างสูงตรงหน้ายังคงจ้องหน้าฉันนิ่ง
ไม่รู้ว่าในแววตาคู่นั้นกำลังคิดอะไร? ฉันเดาไม่ออกเลยจริงๆ…
Writer talk!
กรี๊ดดดด!!! เขินม้วนๆๆๆ >///<
ไถ่โทษเต็มที่กับตอนนี้ ฮ่าๆๆ
เม้นต์ๆๆๆนะคะ Please!
คำแนะนำ :: ถ้าอยากเขินมากขึ้นให้ตั้งใจฟังเพลง (หน้าบทความ)
Yama Kat
ความคิดเห็น