ลำดับตอนที่ #10
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter I : ลองดี [100%] ฉบับรีไรท์


1
ลองดี
นายแท็กซี่หน้าหล่อโปรยยิ้มและสายตาอันชั่วร้ายจ้องมองฉันราวกับฉันเป็นตัวตลกตัวหนึ่ง มือของร่างสูงดึงแขนของฉันเพื่อให้เดินตามเขาไปเรื่อยๆ เขาดึงแขนของฉันไปหยุดอยู่ที่นึงที่นั่นไม่ไกลจากที่ห้องลงทะเบียนมากนัก ที่นี่คล้ายๆกับว่าจะเป็นสวนของโรงเรียนมีสวนดอกไม้ มีน้ำพุ แต่กลับไร้ซึ่งคน อาจจะเป็นเพราะช่วงปิดเทอมอยู่ก็ได้เลยทำให้ไม่มีคน
ตุ๊บ!
ร่างบางของฉันถูกร่างสูงผลักลงกับเก้าอี้สีขาวข้างน้ำพุ มือของร่างใหญ่จับแขนของฉันแน่นไม่ยอมปล่อยจนแขนของฉันแดงไปหมดแล้ว!
“ตาบ้าปล่อยฉันนะฉันเจ็บ T0T”
“ก็เพราะเธอลองดีกับฉันไงเธอถึงเจ็บ แล้วดูสิเธอทำเสื้อผ้าฉันเปื้อนหมดตั้งแต่รถแท็กซี่แล้ว”
“อ้าว..ก็ตอนนั่งรถแท็กซี่ฉันก็นึกว่านายเป็นโรคจิตปลอมตัวมานี่ ส่วนเรื่องเมื่อกี้นายเดินมาชนฉันเองไม่ใช่เหรอ!”
“เธอนั่นแหละที่เดินไม่ดูทาง ยัยผีหน้าจืด”
“น..นายว่าใครเป็นผีหน้าจืดนะ!”
“เธอนั่นแหละ”
“นาย!” ฉันผลักตัวของเขาล้มลงกับพื้นมือของเขาไปกระทบกับพื้นทำให้มือแผลถลอกเล็กน้อยแต่มันก็สมควรแล้วล่ะ “ฉันก็ไม่นึกเหมือนกันว่าคนอาชีพครูแบบนายน่ะทำกับคนที่เพิ่งเจอกันได้วันแรกขนาดนี้ แสดงว่านายมันก็แค่ไอ่คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้นแหละ” ฉันมองหน้านายนั่นด้วยความสะใจ แต่พูดแทงใจดำแบบนี้มันเจ็บน้อยไป
ตุ๊บ!
ในขณะที่ฉันเดินหลังไปแบบหยิ่งๆดันไปเดินสะดุดกับก้อนหินใหญ่ๆที่ไว้สำหรับตกแต่งสวนแล้วก็ล้มลงไม่เป็นท่า ฉันเสียเซลฟ์ได้ซะนี่ T_T
“ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นมาตอนที่ฉันลงไปล้มกับพื้นไม่เป็นท่า นี่!ฉันอุจส่าหัวเราะได้อีกเหรอ “สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ”
“นี่นายมันจะมากไปแล้วนะ!L”
“มันไม่มากไปหรอกสำหรับคนอย่างเธอ ฮ่าๆ”
“หยุดทะเลาะกันเถอะค่ะ…” น้ำเสียงใสๆพูดแทรกขึ้นมาตอนที่ฉันกับนายแท็กซี่กำลังจ้องด้วยสายตาอาฆาตเอาเป็นเอาตายต่อกัน ถึงใครมาห้ามฉันก็ไม่หยุดหรอกนะนายนี่มันทำเกินไปจริงๆ L
.”ไอหมอก!” นายแท็กซี่นั่นมองหญิงสาวด้วยสายตาที่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีเธอคนนั้นก็ยิ้มราวกับว่านายนั่นเหมือนเด็กซนๆคนหนึ่ง
เธอคนนี้หน้าเรียวยาวผมสีดำยาวผิวสีขาวเนียนละเอียดแต่งหน้าปัดแก้มเพียงเล็กน้อยถึงไม่แต่งหน้าเธอก็สามารถดูโดดเด่นได้จริงๆ
ยอมรับว่าเธอคนนี้…สวยมากๆ
“อ่ะ น้องคะ” เธอยื่นมือมาให้ฉันพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใสที่ดูเป็นมิตร
อึ๊บ
ฉันจับมือเธอแล้วลุกขึ้นมาพร้อมกับหันไปมองนายแท็กซี่นั่นที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นอยู่
“ผู้ชายอะไรกันฉันหกล้มแทนที่จะช่วยยังมาหัวเราะเยาะใส่แถมยังให้ผู้หญิงมาช่วยดึงฉันลุกอีกไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย”
“คนสำหรับเธอน่ะฉันไม่มีอารมณ์ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหรอกนะ”
“นี่นาย…”
“พอเถอะค่ะ! เลิกทะเลาะกันได้แล้วเดี๋ยวจะค่ำมืดกันซะก่อน” เธอพูดพลางปาดเหงื่อราวกับว่าเริ่มรำคาญเราสองคนแล้ว “ต้นน้ำคะ…มีแผลตรงไหนหรือเปล่าไหนดูหน่อยสิ” เธอจับมือของนายนั่นแล้วหงายขึ้นมาดูบาดแผลที่ถลอกเมื่อกี้ ส่วนนายนั่นก็ทำหน้าราวกับเด็กรอแม่ทำแผลให้ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย -_- “ตายละ! เป็นแผลด้วยเดี๋ยวไอหมอกจะไปทำแผลให้นะ”
“อย่างนี้สิต้องเรียกว่าผู้หญิงที่ดีJ ไม่ใช่เหมือนใครบางคนผลักจนเสื้อเปื้อนแผลถลอกแต่ไม่ยอมรับผิดชอบ แบร่” นายนั่นหันมาแลบลิ้นใส่ฉันด้วยความสะใจ พูดเหมือนนายไม่ได้ทำอะไรฉันเลยว่างั้นเหอะ…
“ขอตัวก่อนนะคะ ซาโยนาระ*” ฉันก้มหัวบอกลาเพราะทนหมั่นไส้นายนั่นไม่ได้ที่ทำตัวเป็นเด็กน้อยอ้อนผู้หญิง
ชิ…หมั่นไส้ชะมัด
ฉันเดินเตะทรายในระหว่างทางด้วยอารมณ์หงุดหงิด อะไรกัน...ฉันมาโรงเรียนวันแรกก็มีเรื่องกับกับเด็กนักเรียนที่นี่และผู้ชายที่พึ่งเจอกันวันแรกเท่านั้น แถมนายนั่นยังเป็นครูสุดฮอตของโรงเรียนนี้อีก ฉันอุตส่าห์วาดฝันไว้กับชีวิตที่เมืองไทยว่าฉันจะอยู่อย่างสงบสุขไร้ซึ่งการทะเลาะกับคนอื่นเหมือนเมื่อกี้ แต่นี้กลับไม่ใช่!
ฉันเดินออกมาหน้าโรงเรียนเพื่อรอรถเมลล์รอบเย็นหรือรถอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แท็กซี่! ฉันเกลียดแท็กซี่(หน้าหล่อ) T0T
“น้องคะยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ ?” เสียงใสๆเสียงเดิมดังมาจากข้างหลังพลางๆเอามือของเธอมาวางที่ไหล่ของฉัน
ฉันหันไปมองเธอคนนั้น เธอคนที่ห้ามฉันและนายนั่นทะเลาะกัน… แต่ข้างหลังไม่ใช่มีเธอคนเดียวสินะ กลับมีผู้ชายอีกสองคนอยู่ด้วย มีคนนึงที่ท่าทางตุ้งติ้งคล้ายๆกระเทย และอีกคนคือ นายแท็กซี่นั่น!
“ไปก่อนเถอะไอ่หมอกคนมันปากเก่งเอ้ยเก่งเดี๋ยวก็หาทางกลับเองได้” นายนั่นหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับทำหน้ายั่วประสาท นายนี่จะทำให้ฉันปรี๊ดแตกใช่ไหมเนี่ย -_-^
“นั่นสิไอหมอกเดี๋ยวน้องผู้หญิงคนนี้ก็กลับเองได้ ว่าแต่น้องคนนี้แต่งตัวแลดูโลโซจังแหะ เข้ามาอยู่โรงเรียนนี้ได้ยังไงเนี่ยเด็กทุนแน่ๆเลย ฮ่าๆๆ” นายผู้ชายตุ้งติ้งคล้ายกระเทยหัวเราะเยาะฉันไม่แม้แต่นายแท็กซี่นั่นยังหัวเราะไปด้วยเลย ฉันก็เด็กเข้ามาโดยใช้เงินแบบพวกเธอนั่นแหละ =_=;;
“อย่าไปว่าน้องเขาเลย ว่าแต่น้องจะกลับยังไงล่ะคะ”
“ก็คงต้องรอรถเมลล์รอบเย็นนี่แหละค่ะ เพราะตอนนี้เกิดอาการเกลียดรถแท็กซี่ขึ้นมา”
“จะรอจริงร้อ...ตอนนี้รถเมลล์รอบเย็นมันหมดแล้วน๊า” นายแท็กซี่นั่นหลบตาแล้วหันไปพูดในทางประชดประชันใส่ฉัน ก็ยังดีกว่าไปนั่งแท็กซี่แบบนายละกัน -_-“
“น้องคะเอาเป็นว่ากลับกับพี่นะคะ เพราะรถเมลล์รอบเย็นหมดแล้วแต่เดี๋ยวรถที่บ้านพี่ก็จะมารับแล้วดีกว่ากลับคนเดียวมันอันตรายนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับคนเดียวได้พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
เอียดดด!
รถลีมูนซีนคันยาวมาจอดอยู่ตรงหน้าพวกฉันคนขับลงรถมาเพื่อเปิดประตูให้
“น้องแน่ใจนะว่าจะไม่ไปกับพี่”
“ค่ะ”
“งั้นต้นน้ำฝากด้วยนะ” ผู้หญิงคนนั้นหันไปพูดพลางยิ้มหวานใส่นายต้นน้ำ สองคนนี้เป็นอะไรกันนะพูดแล้วยิ้มให้กันทุกที
“ว่าแต่…น้องชื่ออะไรนะคะ”
“ชื่อ มิซากิ ค่ะหรือจะเรียกว่า มิกิ เฉยๆก็ได้”
“ชื่อน่ารักดีนะคะ พี่ชื่อ ไอหมอกนะคะ พี่อยู่ชั้นปีที่3แล้ว ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอพูดอย่างอ่อนโยนพลางยิ้มหวานไปด้วยแล้วขึ้นรถซีลีมูนสีดำคันใหญ่ไป
“ส่วนฉันนะยะ ชื่อ เมย์ ยินดีที่ได้รู้จักย่ะ -0-” นายผู้ชายตุ้งติ่งหันมาแนะนำตัวใส่ฉันอย่างไม่เต็มใจ ฉันก็ไม่เต็มใจจะรู้จักเธอเหมือนกัน -_-^
“คุณหนูเมฆคร๊าบบ พูดย่ะยะแถมยังเรียกตัวเองว่าเมย์อีกต่างหากไม่ดีเลยนะครับ” คนขับรถพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีใส่นายเมย์นั่น นายนั่นลองจ้องสายตาหงุดหงิดใส่คนขับรถของบ้านตัวเอง
“อย่ามาสั่งสอนฉัน นายเป็นพ่อฉันหรือยะ!”
“เอ่อ…” คนขับรถนิ่งไปซักพักแล้วพลางยิ้มแหยะๆใส่นายเมย์
“ว้ายๆๆ ฉันอารมณ์เสียแล้วขึ้นรถดีกว่า”
บรืน…~
รถซีลีมูนคันใหญ่ออกรถออกไปทำให้ในที่นี้เหลือเพียงฉันและนายแท็กซี่บ้าเท่านั้น!
ทำไมบรรยากาศมันเงียบขนาดนี้เนี่ย…
ฉันต้องหาอะไรพูดบ้างแล้วล่ะ มันเงียบเกินไปจริงๆนะ =0=!
“เมื่อไหร่รถเมลล์จะมาซักที…”
“ฉันบอกแล้วไงว่ารถเมลล์รอบเย็นเนี่ยมันหมดแล้ว”
“…”
“อะไรกันเนี่ยจะมืดแล้ว” นายนั่นก้มลงไปดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตัวเอง มันก็จริงเพราะพระอาทิตย์มันก็เริ่มตกดินลงเรื่อยๆ… เมื่อไหร่รถอะไรก็ได้มันจะผ่านมาเนี่ย!
“นายก็กลับซะสิ มายืนทำหน้าเก๊กอยู่แถวนี้ให้มันได้อะไรหรือว่ารอรถเป็นเพื่อนฉัน ?”
“อย่าหวังเลยว่าฉันจะรอเป็นเพื่อนเธอ หน้าอย่างเธอฉันอยู่ด้วยก็ไร้ประโยชน์แต่ตอนนี้ฉันแค่รอบรรยากาศมันมืดๆก่อนค่อยกลับ มันเย็นสบายดี~” นายแท็กซี่เริ่มพูดเฉไฉไปเรื่อยๆ จะแก้ตัวล่ะสิจะอยู่เป็นเพื่อนฉันก็ว่ามาเถอะ “ฉันกลับแล้วดีกว่า เห็นหน้าเธอแล้วอารมณ์เสีย”
“ไอ่บ้า!”
“ขอให้เธอโชคดีมีชัยกลับบ้านไม่ได้แล้วกันนะ” ว่าเสร็จนายนั่นก็โบกมือพลางหัวเราะสะใจใส่ฉัน นี่นายยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ไหมหา !
บรืน…~
รถแท็กซี่เจ้าปัญหาเมื่อกี้ก็ถูกขับออกไปอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้ฉันยืนรออยู่คนเดียวหน้าโรงเรียนแบบนี้!
“เฮ้ย! นายจะไปจริงๆเหรอนายกล้าทิ้งผู้หญิงคนเดียวได้ยังไงยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ไหมหา =[]=” ฉันตะโกนตามรถแท็กซี่นั่น แต่ก็ไร้วี่แววของการตอบกลับมีเพียงเสียงลมเท่านั้นที่ตอบกลับมา
ฉันจะทำยังไงดี โรงเรียนก็ปิดหมดแล้ว…
เอาล่ะ..! ฉันคงต้องเดินไปเองแล้วล่ะ เดินไปในระยะทาง2กิโลเมตรกว่าๆนี่แหละ T_T
ฟิ้ว~
ตอนนี้มีเพียงแต่เสียงลมพัดผ่านมา แทบไม่มีเสียงรถโดยสารอะไรเลย จะขึ้นรถคนอื่นก็แอบเกรงใจ ฉันเดินมาได้ในระยะทางครึ่งกิโลแล้วมันใช้เวลานานมากและตอนนี้ก็มืดมาก! ถ้ารู้งี้ขึ้นรถพี่สาวคนนั้นไปก็คงจะถึงนานแล้วล่ะ ฉันไม่น่ามัวแต่หยิ่งเลย T_T
ตู้ม ตู้ม ตู้ม ♪
ฉันเดินผ่านมายังถิ่นที่เที่ยวกลางคืนแห่งหนึ่ง ข้างหน้าร้านต่างมีสาวๆสวยๆมารอรับบริการจากผู้ชายหลายๆคน ยิ่งตอนนี้มันก็มืดๆแล้วด้วยมันทำให้บรรยากาศน่ากลัวมายิ่งขึ้น
ขวับ
มีมือมือหนึ่งมาจับข้อมือของฉันเอาไว้แน่น นี่ไอ่บ้าที่ไหนมาจับฉันเนี่ย!
“ว่าไงจ๊ะน้องสาวเดินคนเดียวไม่เหงาเหรอมาอยู่กับพวกพี่ดีกว่า วี๊ดวิ๊ว~” ไอ่พวกผู้ชายตัวสูงหน้าหื่นหลายๆคนมายืนล้อมตัวฉันไว้ ไอ่พวกนี้มันจะทำอะไรฉันน่ะ =[]=!
“พวกนายต้องการอะไร!”
“ต้องการเธอไง วี๊ดวิ๊ว~” ถ้าฉันเดาไม่ผิดเหตุการณ์ในตอนนี้มันเหมือนฉันอยู่ในละครที่มีพวกนักเลงมารุมล้อมพวกสาวๆเพื่อพาไป…กรี๊ดดดด
“นายเอาอย่างอื่นไปเถอะ นี่ๆฉันมีหมดทุกอย่างเลยนะเงิน โทรศัพท์ นาฬิกาฉันมีหมดเอาไปเลยๆแต่อย่าทำอะไรฉันก็พอ”
“ไม่ได้หรอกสาวน้อยฉันไม่ต้องการของพวกนั้นฉันบอกแล้วไงฉันต้องการเธอ พวกแกจับสาวน้อยคนนี้ไว้!” อยู่ๆก็มีไอ่บ้าร่างใหญ่มารวบตัวฉันไว้ทั้งสองข้าง…ฉันต้องหาคนช่วยฉันแล้ว
“กรี๊ดดดดด ใครก็ได้ช่วยด้วย T0T”
“เฮ้ยปิดปากมันไว้!” ร่างยักษ์เอามืออันโสโครกของพวกมันมาปิดปากฉันเอาไว้ไม่ให้พูด แถวๆนี้เป็นถนนเปลี่ยวมากแต่สิ่งที่ฉันตะโกนออกไปเมื่อกี้มันก็น่าจะมีน่าจะมีคนได้ยินบ้างเซ่!
“เฮ้ย!... พวกแกหยุดนะ” เสียงทุ้มเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาขณะไอ่ยักษ์หลายๆตัวกำลังรวบตัวแล้วลากฉันเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง
พระเจ้า..มีคนมาช่วยชีวิตฉันแล้ว T^T
“มายุ่งอะไรด้วยหรือนายอยากตายเต็มทนหา !”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งหรอก แต่นายทำร้ายร่างกายผู้หญิงแบบนี้มันเกินไปไหม!”
“ช่วยด้วยค่า~ ไอ่พวกนี้มันจะปล้ำหนู !” ฉันหันไปขอความช่วยเหลือกับผู้ชายคนที่มาช่วยฉัน ไม่จริง…ภาพที่ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นคือ…
นายแท็กซี่!...
“ยัยผีหน้าจืด ={}=!”
“นายแท็กซี่!”
“พวกพี่ๆครับอยากทำอะไรกับยัยนี่ก็เชิญผมไม่กวนละ”
“อ้าวนายทำไมทำงี้ล่ะ สุภาพบุรุษน่ะยังมีอยู่ในตัวนายอยู่ไหม!”
ต๊วบ ต๊าบ ต๊วบ ต๊าบ!
เพียงพรึบตาหลังจากที่นายนั่นปัดความรับผิดชอบเท่านั้นไอ่ยักษ์บางตัวที่รวบตัวฉันไว้ก็ถูกซัดล้มกระจายกันไปหมดเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!
หมับ!
มีมือมือหนึ่งมาจับข้อมือของฉันไว้อย่างแน่น
“วิ่ง!” ร่างกายของฉันถูกดึงไปตามแรงวิ่งของคนคนนั้น แต่เมื่อฉันมองหันหลังกลับไปแล้วไอ่ยักษ์บางคนก็ยังคงวิ่งตามฉันกับนายนี่มา “ขึ้นรถ!” นายนั่นเปิดประตูหน้าของรถแท็กซี่คันนั้นให้ฉัน
“ทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ…”
“อย่าพูดมาก รีบๆขึ้นรถ!” ฉันขึ้นรถมาส่วนนายนั่นก็รีบขึ้นที่นั่งคนขับเลยทันทีส่วนไอ่ยักษ์บ้านั่นก็ตามมาแล้วไม่นะ
“ไอ่ยักษ์มันมาแล้วนายรีบๆขับสิ =[]=” ฉันหันไปเร่งนายนั่นที่กำลังสตาร์ทรถอยู่
“อย่าเร่งฉันสิฉันสตาร์ทรถไม่… เฮ้ย! ติดแล้ว”
บรืนน…
รถแท็กซี่ขับออกไปอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปเรื่อยๆทางไปคอนโดของฉันเอง
เพราะอะไรกัน…นายนี่ถึงช่วยฉัน ทั้งๆที่นายนี่เป็นคนเหมือนจะทิ้งฉันไปเลยเมื่อตะกี้แต่ก็แอบแค้นนะ พอรู้ว่าเป็นฉันนายนี่ก็ขาดความเป็นสุภาพบุรุษทันที หรือมันแค่ประชดเฉยๆนะ
“ทำไมเมื่อกี้นายถึงช่วยฉันล่ะ เมื่อกี้นายจะทิ้งฉันแล้วไม่ใช่หรือไง”
“ฉันแค่ทนขัดหูขัดตาไม่ไหว ที่เห็นไอ่พวกผู้ชายเห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้แล้วลากเข้าซอยไปน่ะ แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเป็นเธอ ถ้ารู้ก็ปล่อยไว้นั่นแหละเธอมันเก่งอยู่แล้วฉันรู้”
“แหมๆแล้วเมื่อกี้ใครกันนะที่จับแขนฉันแล้วพาหนีออกมาน่ะ”
“อ๋อ…ฉันก็แค่ไม่อยากให้มีข่าวหน้าหนึ่งว่าเด็กหญิงม.ปลายถูกลากเข้าซอยแล้วถูกข่มขืนน่ะJ”
“น..นาย แล้วว่าแต่นายไปทำอะไรแถวนั้นแถวนั้นมันมีแต่ เอ่อ… ผับบาร์ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันก็แค่แวะกินข้าวเฉยๆแล้วก็ออกมาก็ได้ยินเสียงเธอร้องขอความช่วยเหลือ เลยวิ่งไปช่วย”
“อ๋อ ฉันก็นึกว่านายไปจั๊กกะดิ๊วอะไรแถวนั้นซะอีก”
“จั๊กกะดิ๊วอะไรของเธอ -_-^” ก็แถวนั้นมันเป็นผับเป็นบาร์หนิยะจะให้ฉันคิดยังไง =_= “ที่ไปแถวนั้นก็แวะกินข้าวเฉยๆนั่นแหละ คนเรามันก็ต้องมีการหิวบ้างจริงไหม หรือว่าเธอไม่เคยหิว”
จ๊อกก…
“นั่นไง หิวล่ะสิ” แน่นอนล่ะยะฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยหนิตอนนี้มันก็ตอนเย็นแล้วด้วยน่ะ T_T
“เอ่อ..ประมาณนั้น”
“ให้ฉันจอดรถรอเธอแวะกินข้าวไหม”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวฉันค่อยกลับไปกินที่คอนโดก็ได้” ที่คอนโด ที่คอนโด…ตอนนี้ก็เหลือแต่มาม่าไม่กี่ซองหรือฉันจะแวะกินแถวนี้ดีเนี่ย ไม่ดีกว่าฉันต้องรีบๆกลับไปกลับไปเพื่อที่จะได้ไม่อยู่กับนายบ้านี่นายๆ
ว่าแต่ ในนี้แอร์ก็เย็นหิวก็หิวเสียงลมมันก็พัดมาชวนหลับดีแหะ
เอี๊ยดดด
“เธอถึงแล้ว ตื่นได้แล้ว”
“อือ…” ฉันรู้สึกว่ามีมือเย็นเฉียบมาจับที่แขนแต่ฉันก็สะบัดมันออกไป แต่มืออันเย็นเฉียบนั่นมันก็มาจับที่แขนของฉันอีก
“ถ้าฉันนับ1-3แล้วเธอไม่ตื่นฉันจะลากคอเธอลงจากรถจริงๆด้วย”
“…”
“1”
“…”
“2”
“..”
“3…”
“แว๊กกกก” เสื้อตรงคอของฉันเหมือนกับถูกดึงออกจากประตูรถทำให้ฉันสะดุ้งจากการนอนเมื่อกี้ ใครกันทำบ้าแบบนี้!
อ๋อ…นายแท็กซี่โรคจิตนี่นี่เอง นายได้เห็นดีกับฉันแน่!
“นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!” ในขณะที่ฉันร้องแว๊กนั่นมันทำให้นายต้นน้ำตกใจจนผลักฉันกลับขึ้นรถอีกครั้ง
“ก็เธอไม่ยอมตื่นยัยขี้เซา…”
“แต่นายไม่น่าทำขนาดนี้หนิ -0-“ ฉันพูดด้วยสีหน้างัวเงียพลางขยี้ตาไปด้วย
“ช่วยไม่ได้เพราะฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษพอที่จะอุ้มเธอขึ้นไปแบบพระเอกในนิยายได้”
“นายเป็นตุ๊ดรึไง -_-^”
“จะบ้ารึไง!” อ้าว…ก็นายนี่เป็นคนบอกฉันเองนะว่าตัวเองไม่ใช่สุภาพบุรุษและไม่ใช่พระเอกในนิยายด้วย มันเข้าข่ายตุ๊ดชัดๆ “ว่าแต่ห้องเธออยู่ตรงไหนน่ะ -_-“
“อยู่ชั้น 9 นายจะทำไม ?”
“กินข้าว…” หา! ว่าไงนะนายนั่นบอกจะมากินข้าวงั้นเหรอ แล้วเมื่อกี้หมาตัวไหนแวะกินแถวข้างทางแล้วล่ะ กระเพาะหมอนี่ทำตัวอะไร T[]T
“กระเพาะช้างจริงๆนายเนี่ย เมื่อกี้ก็เพิ่งกินไป” ฉันยิ้มแหยะๆใส่นายกระเพาะช้างนั่นกินแล้วกินอีก แต่ทำไมถึงหุ่นดีสุดๆ “แต่อย่าหวังว่าจะได้ขึ้นไปหรอกนะ ห้องฉันมันทั้งรกทั้งสกปรกอาหารก็มีแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นอกนั้นก็มีหนูเน่า”
“โสโครกจริงๆ…” ถ้าโสโครกแล้วนายขึ้นไปทำไมล่ะ “แต่ไม่เป็นไร ฉันรับได้”
“น..นาย”
“เอากุญแจห้องเธอมา”
“ห..หา !?”
“บอกว่าให้เอากุญแจห้องเธอมาไงเล่า!”
“แค่นี้ไม่เห็นต้องตะคอกใส่กันเลย” ฉันล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจดอกหนึ่งซึ่งมีพวงกุญแจรูปผีกระสือน่ารักที่สุด >_< (เอ่อ…)
“กุญแจบ้าอะไรของเธอเนี่ยมีผีกระสือด้วย บรื๋ออ…น่ากลัว”
“อะไรกันมันออกจะน่ารัก”
“น่ารักบ้าเธอสิ” นายต้นน้ำมองพวงกุญแจด้วยสายตาขยะแขยงสุดฤทธิ์ หยาบคายมันมันออกจะน่ารักน่าชังสำหรับฉัน “ฉันขึ้นไปละดีกว่า ปล่อยเธอพล่ามอยู่แถวนี้แหละ อืม…ห้อง 99 สินะ” นายนั่นมองดูห้องที่กุญแจก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟท์นี่นายก่ะจะไม่รอฉันเลยใช่ไหม!
“รอฉันด้วยสิ~” ฉันวิ่งขึ้นตามนายนั่นไป นี่ไปแบบยังไม่ได้รับอนุญาตจากฉันแถมยังไม่รอฉันอีกด้วย
ห้องหมายเลข 99
“นี่สินะ ห้องของเธอน่ะ” นายนั่นยืนมองหน้าห้องของฉันพลางหยิบกุญแจที่ฉันให้ไว้เมื่อกี้มาเปิดโดยพลการ
“อ้ะ…เดี๋ยวสิ”
แอดดดด ~
เสียงประตูเปิดออกทำให้เห็นสภาพของห้องที่แท้จริง…
ห้องนอนถูกทาสีด้วยสีชมพูอ่อน ผ้าม่านถูกตกแต่งด้วยลูกไม้สีชมพู บนผนังเต็มไปด้วยโปสเตอร์รูปนักร้องซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของญี่ปุ่น หรือ เทปเป น้องชายของฉันเอง ส่วนหน้ากระจกก็เต็มไปด้วยโน้ตบันทึกเวลาและการกระทำต่างๆ ผ้าห่มที่นอนถูกพับเก็บไว้เรียบร้อยต่างจากที่บอกไว้กับนายนั่นก่อนหน้านี่
“ไหนเธอบอกว่าห้องเธอรกเหมือนรังหนูไงมันก็สะอาดดีนี่…” นายนั่นเดินเข้าไปพลางสำรวจห้องนอนของฉันไปด้วย
“…”
“เหอะ เธอนี่บ้าผู้ชายจริงนะดูสิซื้อโปสเตอร์นักร้องญี่ปุ่นมาติดซะรอบห้อง”
“เอ่อนั่นมัน…”
“อะไร ?”
“เปล่า” ขืนฉันบอกไปว่านายนั่นจะพานักข่าวมารุมฉันไหมเนี่ย เพราะเรื่องที่ฉันย้ายมาเมืองไทยนั้นฉันไม่ได้บอกเพื่อนฝูงหรืออะไรเลย ที่ฉันย้ายมาเรียนที่นี่มีครอบครัวของฉันเท่านั้นที่รู้! ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้อีกว่า พี่สาวซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังมีเรื่องตบตีกับนักเรียนคนอื่นๆเรื่องน้องตัวเอง L
“ไหนดูสิในตู้เย็นมีอะไรกินบ้าง”
“เฮ้! นายถือวิสาสะเปิดตู้เย็นบ้านคนอื่นเลยเหรอห๊ะ”
“อืม..ใครจะทำไม -_-“
“แต่นายยังไม่ได้รับอนุญาตจากฉันเลยนะ!”
แอด ~
แสงสว่างและลมเย็นๆแผ่ซ่านออกมาจากตู้เย็น เพราะว่ามีคนเปิดโดยพลการ เขามองของในตู้เย็นซึ่งมันมีแต่ผลไม้บางอย่าง เช่น แอปเปิ้ล นอกนั้นก็มีแค่นมพร่องมันเนยกับน้ำเปล่าเท่านั้น
“อนาถจริงๆ…”
“ฉันบอกแล้วไงว่า… T^T”
“ไปต้มมาม่ามาให้ฉันกินเดี๋ยวนี้ -_-^”
“หา…”
“เดี๋ยวนี้!” นายนี่มันอะไรกันนะเพิ่งเจอกันวันแรกก็มีสิทธิ์มาสั่งฉันงั้นเหรอยะ แถมการเจอกันแค่วันแรกมันทำให้นายนั่นกล้าเสียมารยาทกับฉันได้หลายอย่างเลยรึไง! แล้วจู่ๆก็ดันอยากมาในห้องของฉันอีก
“นี่นายมันจะมากเกินไปแล้วนะ นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันเนี้ย” ความรู้สึกเหมือนมีลมออกมาจากหูอารมณ์มันก็เหมือนมีความร้อนมาสุมเหมือนจะอยากด่าคนตรงหน้าให้ได้ “แล้วอีกอย่างนะ เราพึ่งเจอกันวันแรกก็เข้าห้องกันซะแล้วเหรอ เข้ามาก็มาสั่งสั่งสั่ง หัดมีมารยาทซะบ้างสิแล้วก็ฉันไม่ใช่ขี้ข้านายนะ!” ฉันยืนจ้องผู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยนัยน์ตาเขม็งแต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่มีวี่แววว่าจะหวาดกลัวหรือสำนึกอะไรเลย
“ขอโทษทีนะ แต่ที่ฉันเข้ามาที่นี่ฉันจำเป็นจริงๆ อุ๊บ” นายนั่นเอามือปิดปากราวกับหลุดปากพูดอะไรซักอย่างออกมา จำเป็นงั้นเหรอ…
หรือว่านายนี่จะมาสืบข่าวเทปเปโดยใช้ฉันเป็นตัวกลาง ไม่นะ ไม่นะ O_o!
“ที่นายมาที่นี่เพื่อที่จะ…”
“ให้เธอตอบแทนน้ำใจฉัน!”
“หา…”
“เมื่อกี้ที่บอกว่าจำเป็นฉันพูดเล่น ฮ่าๆ และฉันก็รู้น่าคนบ้าๆอย่างเธอนะไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร”
“นายไปมีบุญคุณกับฉันตอนไหนเนี่ย!”
“อ้าว แล้วเมื่อกี้สุดหล่อคนไหนพาเธอหนีจากไอ่ยักษ์นั่นล่ะ”
“ช่วยกรุณาเอาคำว่าสุดหล่อไปโยนทิ้งถังขยะได้เลยถ้าจะใช้กับคนแบบนายน่ะ”
“หึหึ อย่าประชดหน่อยเลยใครใครหลายๆคนก็ว่าฉันหล่อนะJ
ใช่…ฉันยอมรับคนอย่างเขาน่ะหล่อจริงๆ แต่นิสัยนายนี่มันทำให้ความหล่อจากร้อยเปอร์เซ็นเหลือแค่สิบเปอร์เซ็น หล่อแต่นิสัยแย่แถมยังหลงตัวเองก็ไม่ไหวนะ =0=
ผู้ชายถ่อมตัว สุภาพ เรียบร้อย ในโลกนี้มันหายไปไหนหมดวะ!
“นี่เมื่อไหร่เธอจะตอบแทนบุญคุณฉันซักทีเนี่ย”
“ตอบแทนด้วยการต้มมาม่าให้นายกินเนี่ยนะ ตลกฮ่าๆ”
“ก็เธอมันจนนี่ทั้งบ้านมีแค่ มาม่า มาม่า มาม่า เหอะน่าเบื่อ”
“น่าเบื่อนายก็ไม่ต้องกินสิ”
“แต่ฉันจะกิน เธอจะทำไม -_-“
“เอ๊ะ…นายนี่”
เผด็จการ จอมบังคับ โหด บ้า โรคจิต ที่สุด เจอแบบนี้คนแบบฉันยอมไม่ได้ >O<!
“ถ้าเธอไม่ไปทำมาม่าให้ฉันตอนนี้เธอต้องอยู่ไฮสคูลบลูเบอร์รี่อย่างไม่มีความสุขแน่ หึหึ”
“เอะอะอะไรนายก็ขู่ให้ฉันอยู่ไม่สุขในโรงเรียนนี้อยู่นั่นแหละ ถามจริงเหอะนายเป็นเจ้าของโรงเรียนนี้รึไง ถ้าฉันจำไม่ผิดนายก็แค่ครูใหม่ต๊อกต๋อยเองไม่ใช่เหรอ” ฉันลุกขึ้นมาตะหวาดใช่นายนั่น แต่เขากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยซักนิดหน้าตายรึไงกันนะ “แล้วอีกอย่างนะถ้าฉันจำไม่ผิด…นายมันก็แค่ไอ่ตัวไม่ให้เกียรติผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”
“…”
“ทำไม เงียบทำไม…”
“ตลกว่ะ !” ฉันพูดพลางกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วมองมาที่ฉัน “เธอคิดว่าคำพูดแค่นี้มันจะทำให้ฉันสำนึกงั้นเหรอ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วที่ฉันดีกับทุกคนน่ะเธอไม่รู้เหรอว่าฉันแอ๊บน่ะ”
“…”
“แต่สำหรับเธอแล้วฉันคงไม่ต้องแอ๊บแสนดีก็ได้เปิดเผยเลยดีกว่า คนอย่างเธอมันงี่เง่าเกินไปฉันก็ไม่รู้จะแอ๊บไปเพื่ออะไร”
“…”
“ฉันน่ะนะ นิสัยเลวไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะว่า…”
“…”
“ฉันชอบผู้ชาย!”
ห๊ะ! โอย..อะไรกันเนี่ยผู้ชายสมัยนี้ไอ่พวกที่เหมือนจะไม่แมนก็แมน ไอ่พวกเหมือนจะแมนก็ไม่แมน หันไปกินผู้ชายกันเอง
และตอนนี้ต่อมรับสัญญาณกระเทยของฉันมันไม่มีแล้วจริงๆ T^T
“ฮ่าๆๆ” อยู่ๆนายนั่นก็หัวเราะดังๆขึ้นมาพาจิตที่ล่องลอยของฉันกลับมาดั่งเดิม
“ห..หัวเราะอะไรของนายน่ะ”
“ตลกคนโดนหลอก ฮ่าๆๆๆ”
หา…! ว่าไงนะใครโดนหลอกกัน =0= ?
“น..นายหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าเธอโดนฉันหลอกไง ฉันยังชอบผู้หญิงอยู่นะอีกอย่างฉันน่ะแมนทั้งแท่ง ฮ่าๆ”
“-_-+”
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิฉันยิ่งขำไปกว่าเดิม ฮ่าๆ”
“ฉันว่าที่นายเป็นแบบนี้ไม่ใช่นายเป็นกระเทยหรือเป็นเกย์หรอก มันเหมือนทางบ้านไม่สั่งสอนมากกว่านะ”
“…”
“ล้อเล่นน่า ทำหน้าซีเรียสไปได้”
“เหอะๆ” หลังจากที่ฉันพูดจบนั้นนายนั่นก็ได้แต่ทำหน้าซีเรียสอยู่ ส่วนฉันก็เดินไปหยิบมาม่าในตู้เก็บอาหาร เห้อออ ถึงจะพูดยังไงก็คงหนีไม่พ้นต้องต้มมาม่าให้นายนี่กินอยู่ดี
ครืออออ ~
“อ่ะ” ฉันหยิบถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มเมื่อกี้ไปให้นายแท็กซี่ที่กำลังเหม่อๆคิดอะไรอยู่ตรงโซฟา
“อ้าว นึกว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันซะแล้ว”
“ฉันก็แค่…ทำให้นายรีบๆกินแล้วรีบๆกลับเท่านั้นเอง”
ซู๊ดดดดด ~
ฉันซดบะหมี่พลางมองหน้านายแท็กซี่ที่กำลังกินอย่างซีเรียส เป็นอะไรของนายนี่นักหนานะตั้งแต่เมื่อกี้หรือฉันไปพูดอะไรแทนใจดำเขา…
“ขอโทษนะเมื่อกี้ฉันพูดอะไรให้นายคิดมากหรือเปล่า”
“ไม่นิ ฉันดูเหมือนคนคิดมากหรือไง”
“ใช่”
“ฉันไม่ได้คิดมากซะหน่อย J” นายนั่นโปรยยิ้มหวานออกมา สรุปทั้งหล่อทั้งยิ้มหวานแต่นิสัยแย่มากๆเลย เพราะยังงี้ความหล่อของหมอนี่เลยดูลดลงไปเลยสำหรับฉัน “ว่าแต่นะเธอเป็นคนต่างชาติหรือเปล่า”
“ดูออกด้วยเหรอ -_-“
“ก็ดูจากสำเนียงการพูดภาษาไทยของเธอมันไม่ชัดซักเท่าไหร่ แถมตอนพูดกับไอหมอกชื่อเธอมันก็ไม่เหมือนชื่อภาษาไทย แล้วหน้าตาเธอก็ออกไปโทนเอเชียตะวันออก”
“พอดีว่าฉันเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นน่ะ”
“…”
“แม่ฉันเป็นคนไทยแล้วไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นก็ไปเจอพ่อที่ญี่ปุ่น” ฉันวางถ้วยบะหมี่ลงพร้อมกับหันหน้าไปหาเขาเพื่อจะเล่าเรื่องทั้งหมด “พ่อของฉันน่ะนะเป็นศิลปินในชื่อดังของชาวญี่ปุ่นเลยล่ะตอนนั้นส่วนแม่ฉันเป็นผู้หญิงนอกวงการคนหนึ่ง แต่ทั้งคู่ก็รักกัน แล้วแต่งงานกัน จนออกมาเป็นฉันกับน้องชายนี่แหละ”
“รักข้ามแดนสินะ…น้ำเน่าสิ้นดี หึหึ”
“นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าอะไรน้ำเน่าไม่น้ำเน่าน่ะ แล้วอีกอย่างฉันอุตส่าห์เล่าให้ฟังนะนายมาว่าอย่างนี้ได้ยังไง”
“ฉันไม่ได้ให้เธอเล่าให้ฟังซักหน่อย เธอเล่าของเธอเองนะ อยากโง่เองนี่ -0-“
“น..นาย” ฉันอุจส่าเล่าให้เขาฟังแทนที่จะชมอะไรกลับมาด่าว่าน้ำเน่าซะงั้น ผู้ชายคนนี้เคยมีอารมณ์ซึ้งบ้างไหมเนี่ย “ต่อไปนี้ฉันจะไม่เล่าอะไรให้นายฟังแล้ว”
“ไม่ได้ขอให้เล่าซักหน่อย -_-^”
“รีบๆกินแล้วรีบๆออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว ตอนนี้มันก็จะดึกแล้วนะ”
“อ้าวไล่ฉันซะงั้น -_-^” นายนั่นซดบะหมี่พลางบ่นพึมพำ ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนกดดันโดยการมองหน้าเขาอย่างอารมณ์เสียอยู่นี่แหละ “ฉันไปแล้วก็ได้ แต่อีก 2 อาทิตย์ไฮสคูลจะเปิดเธออย่าหวังว่าเธอจะอยู่อย่างสุขสันต์ J”
“อีกละ กี่ครั้งกี่ครั้งนายก็ขู่แบบนี้คิดว่าฉันจะกลัวรึไงหา!”
“ไม่รู้ล่ะ แต่โทษฐานที่เธอทำฉันแสบมากในวันนี้ฉันก็จะทำเธอแสบในวันหน้าได้เหมือนกัน”
“…”
“ฉันไปละดีกว่า ส่วนถ้วยบะหมี่นี่ฝากทิ้งด้วยละกัน” เขาวางถ้วยบะหมี่ไว้บนโต๊ะกินข้าวของฉันแล้วเดินลับออกจากประตูไป ฉันก็ได้แต่คิดอยู่ว่า
อีกสองอาทิตย์ชีวิตในโรงเรียนแห่งใหม่ของฉันจะเป็นยังไงบ้างนะ…
*ซาโยนาระ ในภาษาญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันดีจะแปลว่า ลาก่อน แต่ถ้าแปลความหมายตรงตัวจากความรู้สึกของคนญี่ปุ่นจะอยู่ในกรณี จากกันโดยไม่รู้ว่าจะได้เจอกันหรือไม่ หรือได้อีกความหมายคือ การประชดประชัด ประมาณว่า “อย่าให้ฉันได้เจอเธออีก”


สงสารนางเอกเนาะ *0* แต่ไรเตอร์สะใจค่ะ กร๊ากกกก ~ <อย่าได้ใส่ใจอีนี่มันบ้า>

และโปรดติดตามตอนต่อไป เจ้าชายเย็นชา เทปเป เริ่มจะมีบทเข้ามาในตอนหน้าๆแล้ว!! J
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น