ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [Step5] the dangerous man (: RW
บุลคลที่อันตรายอยู่ใกล้ตัวของผมทุกฝีก้าว เสียงฝีเท้าที่ลากผ่านพื้นดังอยู่ข้างหลัง เข้ามาใกล้เสียจนฟังถนัดหู แต่ก็ไม่แน่สิ่งที่อันตรายที่สุดอาจเป็นเงาของผมเอง..
“ครับ แล้วคุณซองมินสบายดีหรือเปล่า?”เสียงทุ้มถามกลับพร้อมรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
“ก็ดีนะ.. แค่ตอนนี้รู้สึกเหงานิดๆไม่มีเพื่อนคุยเลย”เสียงหวานตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ทิ้งท้ายไว้ให้อีกคนพอเข้าใจความหมาย
“ผมก็ไม่มีเพื่อนคุยเหมือนกัน น่าเศร้านะครับ”ร่างสูงแสร้งทำเป็นเหนื่อยใจแล้วถอนหายใจออกมาช้าๆ ซองมินมองการกระทำที่ไม่ได้จริงใจนั้นออกดีซึ่งเขาก็ชอบที่คยูฮยอนทำแบบนั้นซะด้วยสิ
“บ้างทีเราน่าจะทำความรู้จักกันอีกครั้ง นายว่าอย่างนั้นไหม”
“เห็นพูดอย่างนี้ทีไร เราก็ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากันซะที”สายตากรุ่มกริ่มบอกเป็นนัยๆว่าเรื่องที่พูดคืออะไร สำหรับภายนอกซองมินอาจดูเป็นกระต่ายที่รอคอยการไล่ล่าจากเขาแต่ในความจริงนั้นไม่เลย… ทุกครั้งที่หมาป่าอย่าเขาได้โอกาส กระต่ายตัวนี้ก็รอดไปได้เสมอ
“โธ่.. จะรีบร้อนไปไหน ฉันแค่ไม่อยากให้ใครเอาเล่นๆ แต่ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนก็น่าสนใจอยู่หรอก”..รู้ไม่ทันก็แปลกแล้ว คยูฮยอน
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไรล่ะครับ?”คนตัวสูงดูจะสนใจขึ้นมาทันที ใบหน้าหวานหันตามน้ำเสียงของคยูฮยอน.. คนที่ต้องการเพียงแค่สัมพันธ์สวาทชั่วข้ามคืนซึ่งเขาก็รู้ดี.. แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน ไร้ข้อผูกมัดทั้งร่างกายและจิตใจ
“อยากเป็นแบบให้ฉันไหม.. คยูฮยอน”สิ้นเสียงของซองมิน ราวกับว่าสุนัขทั้งสองจะรับรู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป เสียงเห่าหอนของมันดังขึ้นไม่หยุดแต่มันกลับฟังดูเป็นน้ำเสียงที่โหยหวนคล้ายว่ามันจะขาดใจ.. ตาทั้งสองแวววับไปด้วยน้ำตาใสคลอเอ่ออยู่ที่ดวงตาของมัน
“แวร์วูฟ แวมไพร์!”เสียงตะหวาดสุนัขที่ทำตัวเป็นเหมือนทาสรับใช้ทั้งสองดังขึ้นลั่นกรมตำรวจ สัตว์ทั้งสองตัวได้แต่หมอบนิ่งด้วยความเกรงกลัวต่อเจ้านาย
“มีอะไร เชิญไปพูดต่อที่ห้องรับรองของพ่อฉันก็ได้นะ..”
“ไปสิครับ หึ..” ใช่ว่าคยูฮยอนจะไม่รู้ว่ามันเสี่ยงมากเพียงใดที่จะเป็นแบบวาดให้ซองมิน.. มันทรมานมากเพียงใดที่ต้องเสียเลือดในร่างกายไปเพื่องานศิลป์ที่ซองมินรัก.. หากแต่ความเจ็บปวดพวกนั้นอาจให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ายิ่งกว่า หรือไม่เหตุผลของคยูฮยอนก็มีแค่เขาตกอยู่ในมนต์สะกดจากดวงลูกปัดสีชาน่าหลงใหลนั่นเข้า
…………… the prisoner & police …………..
ปอร์เช่คันที่ดำสนิทของฮันกยองแล่นออกจากสถานที่จัดงานศพของหญิงสาวผู้เป็นพี่อย่างรวดเร็วข้างๆกายของร่างสูงมีร่างบางที่อยู่ในสภาพดูย่ำแย่นั่งอยู่พร้อมกับกุญแจมือแน่นหนาที่คล้องข้อมือนั้นไว้ เครื่องปรับอากาศในตัวรถยังคงพ่นไอเย็นจัดจับคลุมไปทั่วด้านในของรถคันหรู
“…”มีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศในตัวรถที่ทำงานอย่างหนัก ร่างสูงหันมามองใบหน้าซีดเซียวของฮยอกแจก่อนจะเอ่ยถามออกมา
“ใกล้ตายแล้วหรือไง”
“ยัง”เสียงหวานตอบเพียงเบาๆแต่ยังคงความหนักแน่น ดวงตาที่ไม่สามารถลืมขึ้นได้เต็มที่เพราะคราบน้ำตาที่แห้งสนิทแล้ว มือยางทิ้งลงแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง ในสมองตอนนี้คิดเพียงว่าต่อไปข้างหน้าตัวเองจะเจออะไรต่อไป.. หึ! สะบัดเสียงเพราะอยากจะเล่นตัว มันไม่ได้มีค่าขึ้นมาหรอก
“ดี.. ให้มันเก่งอย่างนี้ตลอดไปเถอะ!”เสียงทุ้มว่าพลางเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใบหน้าหวานมองไปรอบๆเหมือนกับว่าเป็นที่ที่คุ้นเคย
“รออยู่ในรถ! ฉันรู้ว่านายหนีไม่ไหว แต่.. ถ้านายหายไปไม่ว่าใครเอาตัวนายไป ฉันจะจับตายทั้งหมด”ขายาวก้าวลงรถคันหรูไป ฮยอกแจเพียงแต่มองตามแล้วพิงลงกับเบาะรถ ข้อมือบางมีร่องรอยการกระชากทำให้นึกถึงภาพการทารุณร่างกายเมื่อครู่.. ไอ้ตำรวจระยำ มันจะเลวกันให้หมดทั้งกรมเลยใช่ไหม
“ตำรวจพวกนั้นก็เลวเหมือนมัน! ชั่วกันหมด เห็นแก่ได้”เสียงหวานเอ่ยย้ำเมื่อภาพของคนที่เดินเข้ามาในบ้านของเขา กอดจูบแม่ของเขาเสียเต็มรัก..และเลวร้ายที่สุด มันเป็นคนทำให้แม่ของเขาฆ่าพ่อได้ลง
“ลีฮยอกแจ.. ไปทำอะไรในนั้น”เสียงคุ้นหูของใครบางคนดังขึ้น น้ำเสียงที่เขาจำได้ดีไม่มีวันลืม.. ต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องอยู่ในสภาพแบบนี้
“พี่อึนฮยอก!!”
“เรียกซะดังเชียว.. จุ๊ๆ เดี๋ยวไอ้ตำรวจนั้นมันก็ได้ยินพอดี”ใบหน้าที่เหมือนร่างบางบนรถเหมือนฮยอกแจราวกับมองภาพในกระจกเงากำลังมองเข้ามายังร่างของน้องชายที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าขาดวิ่นคล้ายว่ามันจะเกิดจากการกระชากอย่างแรง ประตูรถที่ถูกล็อกไว้ด้านหลังถูกเปิดออกโดยง่ายทั้งๆที่ร่างสูงล็อกเอาไว้อย่างดี
“พี่จะมาช่วยผมใช่ไหม”เสียงหวานพูดอย่างมีความหวัง น้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นทำให้อึนฮยอกหัวเราะออกมาเบาๆ
“ดูเหมือนแกจะติดใจกับรสชาติของตำรวจคนนั้นนะ ฮยอกแจ”เสียงเรียบๆของผู้เป็นพี่ถามขึ้นเป็นนัยๆ ใบหน้าหวานของฮยอกแจหันกลับมามองอึนฮยอกที่นั่งพิงพนักของเบาะกว้างอย่างสบายใจ
“พี่พูดอะไร?”สีหน้างุนงงของฮยอกแจทำให้อีกคนรู้สึกหมั้นไส้อย่างบอกไม่ถูก มือบางจิกเข้าที่เส้นผมนุ่มนั้นอย่างแรงด้วยความเกลียดการกระทำไร้เดียงสาอยู่เป็นทุน
“ใสซื่อ บริสุทธิ์ แกเลิกทำสันดานแบบนี้สักทีเถอะ..ฉันสมเพชจนแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือดแล้ว”เสียงหวานว่าแล้วจิกศีรษะของน้องชายให้หันกลับมามองเขา สีหน้าที่ยู่ลงด้วยความเจ็บปวดทำให้อึนฮยอกยิ่งออกแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ปะ..ปล่อยผม!!!”
“ทีไอ้ตำรวจนั่นทำไมแกไม่เห็นจะร้องขอมันให้ปล่อยเลยสักทีนิด..ร่านไม่เลือกจริงๆเลยนะ น้องรัก!”น้ำเสียงกระแทกแดกดันดังขึ้นอีกครั้ง แววตาน่ากลัวของอึนฮยอกจ้องมองใบหน้าเรียวขาวของฮยอกแจด้วยความสะใจและมันก็ทำให้ร่างบางที่ถูกมองกลัวได้ไม่ยาก
“ผมไม่ได้ร่าน!! แม่ต่างหากที่เป็นแบบนั้น”เสียงหวานเถียงต่อไปไม่ว่าน้ำเสียงนั้นจะสั่นจนแทบกลายเป็นเสียงสะอื้นแล้วก็ตาม เขายังแคร์อึนฮยอกอยู่.. และยังคิดว่าอึนฮยอกเป็นพี่ชาย ถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออกการที่เขาจะลงมือฆ่าอึนฮยอกก็ไม่ใช่เรื่องยาก
“งั้นแสดงว่าแกติดเชื้อจากเค้ามางั้นสิ! ถ้าแกชอบฉันก็จะลองสงเคราะห์แกสักครั้ง!”เสียงหวานพูดพร้อมกับยื่นใบหน้าของตนเข้าใกล้ใบหน้าของอีกคน ริมฝีปากอิ่มสดประกบกับอย่างแนบแน่น ฟันซี่ขาวขบเบาๆเข้าที่ริมฝีปากล่างของฮยอกแจจนเลือดสีแดงสดซึมๆที่มุมปากอีกครั้ง เรียวเล็บยังคงจิกลงบนหนังศีรษะของผู้เป็นน้องเพื่อให้ใบหน้าหวานแนบชิดขึ้นอีก.. มันก็เคยเกือบสำเร็จแล้วไม่ใช่หรอ
“ฉันคงไม่เร้าใจเท่าตำรวจที่ชื่อฮันกยองนั่น.. แต่ฉันชักอยากจะรู้แล้วสิว่ามันน่ะเร้าใจสักแค่ไหนถึงเรียกเสียงครางอุบาทว์ๆจากแกได้ ไว้มีโอกาสฉันจะลองดูบ้างแล้วกัน”เหมือนประโยคนั้นจะพูดทิ้งท้ายไว้ให้ฮยอกแจเจ็บใจเล่น คนตัวเล็กก้าวออกมาจากรถคันหรูแล้วโบกมือให้ร่างของฮยอกแจที่อยู่ในรถ..ไม่นานแผ่นหลังที่คลุมด้วยผ้าคลุมสีดำก็หายไปลับตา..
“พะ..พี่อึนฮยอก ฮึก!”เสียงหวานพยายามจะเก็บเสียงสะอื้นนั้นไว้ ไม่อยากให้ใครเห็นด้านอ่อนแอของเขาอีกแล้ว..
ซ่า!!!!~ เสียงน้ำเย็นเฉียบผสมน้ำแข็งก้อนละเอียด ถูกสาดเข้าใส่ร่างบนเบาะข้างๆคนขับทันทีที่ร่างสูงเปิดประตู ไอน้ำที่เกิดจากการปะทะกันของอุณหภูมิระเหยเกาะกระจกรอบๆจนเป็นฝ้าไปหมด บางมือเช็ดน้ำใสๆนั้นออกจาใบหน้าก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น
“ทำบ้าอะไรของนาย!”
“ก็กลัวผู้ต้องหาจะตายซะก่อน ฉันก็เลยต้องเรียกสติให้”เสียงทุ่มว่าพลางโยนถังพลาสติกที่ใส่น้ำกับน้ำแข็งที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆลงบนพื้น ร่างบางได้แต่มองรอยยิ้มเหยียดๆของฮันกยองแล้วยิ้มออกมา..ยิ้มเพราะทุเรศตัวเอง
“ขอบคุณที่เป็นห่วง..แต่ไม่จำเป็น”ปฎิกริยานิ่งๆไร้ความรู้สึกที่ตอบกลับมา ทำให้ร่างสูงไม่พอใจเท่าไหร่ ขาก้าวได้แต่ก้าวขึ้นรถแล้วออกรถไปยังจุดหมายโดยไม่ให้บรรยากาศในรถมีเพียงเงียบและเหน็บหนาวเท่านั้น
เครื่องปรับอากาศที่ทำงานได้ดีอยู่แล้ว..ถูกเร่งอุณหภูมิความเย็นของตัวเครื่องเป็นระดับสูงสุด จึงไม่แปลกที่ร่างบางจะตัวขาวซีดอย่างเห็นได้ชัดเนื้อตัวที่เริ่มสั่นเทาจากความชื้นจากของเหลวใสที่เกาะอยู่ตามเนื้อผ้าอยู่ มือบางพยายามจะเคลื่อนมาแกะเสื้อของตัวเองออก
“ทำไมหนาวหรือไง..”ฮันกยองแกล้งถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าอุณหภูมิรถในตอนนี้ขนาดใส่เสื้อกันหนาวยังไม่ช่วยรู้สึกอุ่นเลย..
“มะ..ไม่!”เสียงหวานตอบด้วยความเหย่อหยิ่ง.. ใบหน้าขาวซีดเบี่ยงไปทางกระจกหน้าต่างบานใส ไอร้อนๆจากอุณหภูมิร่างกายปะทะกับความชื้นของน้ำเย็นเฉียบทำให้เกิดไอน้ำเกาะกระจก ร่างบางที่เริ่มตัวสั่นทิ่มด้วยความรู้สึกร้อนๆหนาวๆที่วูบไปทั่วทั้งกาย
“.. ไม่รู้สึกอะไรเลย”เสียงหวานพึมพำเบาๆกับตัวเอง สายตาคู่กลมมองกรอกไปยังทิวทัศน์นอกกระจกที่เลือนลางไปทุกที..ไม่รู้ว่าเพราะไอน้ำเกาะจนมันมัวไปหมด หรือเพราะสติที่กำลังหายไปอย่างช้าๆ จนภาพทั้งหมดกลายเป็นสีดำ
“ลีฮยอกแจ.. ตายแล้วหรือไงวะ ลีฮยอกแจ!!”คนตัวสูงที่เพิ่งรู้สึกว่าร่างบางไร้ปฎิกริยาตอบโต้เป็นเวลานานจนน่าเป็นห่วง มือหนาละจากพ่วงมาลัยรถแล้วสะกิดเรียกร่างบางอีกครั้ง
“พ่อครับ..ฮยอกแจหนาวครับ ฮึก… ขอกอดพ่อหน่อย”เสียงหวานละเมอออกมาเบาๆ น้ำตาหยดใสไหลลงจากตากลมที่ปิดสนิทอย่างไม่ตั้งใจ ร่างสูงมองใบหน้าหวานที่ดูไร้เดียงสานั้นอย่างพิจารณา.. ความรู้สึกแรกที่เข้ามาในหัวสมองมันเรียกว่า สงสาร งั้นหรอ?
“หึ..มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรอ!”มือหนาเพียงแค่กระชากเสื้อเปียกโชกของร่างบางออกเท่านั้น อย่างน้อยมันก็ทำให้ความชื้นบนร่างกายของฮยอกแจลดลงบ้าง
“ตายห่าไปแล้วใครจะชดใช้ให้ฉันล่ะ..”
…………… the prisoner & police …………..
รองเท้าหนังดำขลับยังคงเหยียบคันแร่งจนสุด เครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างหนักพาร่างสูงมาถึงคฤหาสน์ของตนเองแทนที่จะเป็นกรมตำรวจอย่างที่ควรจะทำ
“ตื่น! ลีฮยอกแจ..”มือหนาเขย่าร่างที่อยู่ในห้วงนิทราให้ตื่นขึ้น ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจว่าฮยอกแจเพียงแค่หลับไป..หรือร่างกายของฮยอกแจจะทนสภาพที่เจอไม่ได้จนสลบไปกันแน่
“…” ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ร่างสูงเดินลงจากรถแล้วเปิดประตูด้านของฮยอกแจออก คนตัวสูงพยุงตัวของร่างบางขึ้นจากเบาะแล้วพาเข้าไปในบ้าน ไร้แสงสว่าง ทุกอย่างตกอยู่ในความมืด มือหนากดสวิสต์ไฟข้างๆประตูบานใหญ่สีทองอร่าม
เมื่อพาร่างบางขึ้นไปยังชั้นสองของตัวคฤหาสน์.. มันช่างดูเงียบเหงา วังเวงและอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก ห้องนอนของหญิงสาวยังถูกจัดไว้อยากเดิม ไม่มีของชิ้นไหนถูกเคลื่อนย้ายออกจากที่ของมัน
“พ่อครับ พ่ออย่าเพิ่งไปนะ อย่าทิ้งฮยอกแจ!”มือหนาวางร่างบางบนเตียงสีขาว..ที่เปรอะเลอะด้วยคราบเลือดสีแดงเข้มหม่นๆ รอยเลือดทุกหยดยังคงอยู่บนผ้าปูเตียงกว้างของฮันฮโยจู.. รวมถึงหยดน้ำตาที่ฝังลงสู่ผ้า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่กลีบกุหลาบแห้งสีน้ำตาลที่เคยมันขาวบริสุทธิ์
พลั่ก!!! ร่างสูงโยนลงของฮยอกแจลงบนเตียงทันที เมื่อรู้ว่าฮยอกแจเพียงแค่หลับไปเท่านั้น
“ที่แท้ก็สำออย! ลากขึ้นมาให้เสียแรงจริงๆ”เสียงทุ้มสบถกับตัวเองด้วยความอารมณ์เสีย ร่างสูงทิ้งตัวบนเตียงลงข้างๆร่างบาง มือหนาคว้ากรอบรูปไม้สีน้ำตาลเข้มขึ้นมาพลางใช้มืออุ่นลูบเบาๆบนรูปภาพเก่าๆ รูปที่มีเด็กผู้ชายตัวสูงใบหน้าคมเข้มที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นกับหญิงสาวอีกคนยินคู่กัน รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขจนไม่สามารถลบภาพนั้นออกจากความทรงจำ
“ฮโยจู.. ขอโทษที่ผมต้องเอาร่างสกปรกๆของมันมาทับที่ของเรา ผมคิดถึงพี่นะครับ”น้ำเสียงอ่อนโยนพูดกับรูปภาพนั้นเบาๆก่อนที่ไฟในห้องจะดับลงพร้อมการปิดประตูของฮันกยอง..
…………… the prisoner & police …………..
“ไอ้คยู มึงอยู่ไหนวะ”เสียงทุ้มกรอกลงบนโทรศัทพ์สีดำสนิท..พออกมาจากในห้องฮันกยองไม่รีรอที่จะติดต่อกับเพื่อนสนิทของตนเพื่อชวนกันไปคลายเครียดที่ไหนสักที่
(( กูอยู่ในห้องท่านซกจิน มึงมีห่าอะไรอีก ปัญหาสุมหัวจริงๆนะมึงอ่ะ))ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย
“กูอยากไปแดกเหล้า แดกห่าเป็นเพื่อนกูที”
(( แล้วมึงไม่เอาตัวดาร์กโฮลิคมาส่งกรมก่อนหรือไง! เออ แล้วอีกอย่างตอนนี้กูก็ติดธุระนิดหน่อยว่ะ ))คยูฮยอนตอบอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มก่อนที่จะมีเสียงเล็กๆแทรกขึ้นมาราวกับจะแกล้งร่างสูงให้อับอายเล่น
[[ ฮันกยองโทรมาหรอ? ]]น้ำเสียงที่พอจะคุ้นหูฮันกยองอยู่บ้าง คล้ายๆว่าจะเป็นเสียงของลีซองมิน..
((ครับ ฮันกยองโทรมา..))แต่ยังไงซะ ก็ต้องตอบไปตามความจริงอยู่ดี.. ไอ้ฮันกยองถ้ากูเดาไม่ผิดมึงกำลังจะแซวกู ถ้ามึงไม่แซวกูยอมเสียหมาเลยเอ้า!
[[ เค้าชวนไปไหนล่ะ ฉันไปด้วยสิ ]]เสียงใสๆดังขึ้นแทรกเข้ามาตามสายอีกครั้ง
((แต่เรายัง.. ไม่ได้))น้ำเสียงทุ้มต่ำพูดด้วยความโอดครวญจนฮันกยองหัวเราะออกมาเบาๆ
“อะไรของมึงวะ! เดี๋ยวนี้มึงจะล่อของสูงนะ”
((สัส! เรื่องของกูเหอะ ไปก็ไป มึงนี่ขัดกูจริงๆ เหี้ยเอ้ย))
“ขอบคุณที่ชม เดี๋ยวเที่ยงคืนเจอกันที่ Zalot club “มือหนากดวางสายพลางยิ้มออกมาที่มุมปาก
“คิดถึงหน้าของนายนั่นแล้วทำให้ฉันอยากปลดปล่อยอีกจริงๆ น่าเสียดายที่หลับไปซะก่อน”มือหนาเช็ดที่มุมปากได้รูปเบาๆเมื่อนึกถึงใบหน้าขาวได้รูปกับริมฝีปากแดงสดนั้น รอนายฟื้นขึ้นมาก่อนเถอะ..ฉันจะทำลายร่างกายของนายให้แหลกคาร่างของฉันเลย หึ!
เรื่องที่จะไปผับก็อาจเป็นแค่ความคิดที่ว่า ไปหาคนฆ่าเวลาอยากก่อนแล้วกัน.. เผื่อว่ามันจะทำให้ส่วนนั้นของเขารู้สึกกระหายน้อยลงกว่านี้บ้าง
“ใจเย็นๆสิ ฮันกยอง..”เสียงทุ้มพูดแล้วยิ้มเล็กๆให้กับตัวเอง พลางเดินออกไปขึ้นรถคันหรูของตน..
…………… the prisoner & police …………..
“อึก อืม.. ที่ไหนกัน”คนตัวเล็กงัวเงียตื่นขึ้น สายตาคู่สวยกรอกไปมารอบๆห้องที่มืดสนิท มือบางพยายามจะขยับแต่ก็พบว่ามันถูกตรึงไว้กับอะไรบางอย่าง ออกแรงดึงไปดึงมา สายตาของร่างบางก็ต้องหันมองไฟในห้องของเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงที่ยืนอยู่หน้าประตู
“คุณ…”
“ลีฮยอกแจ.. เอ่อ ฉันช่วยหากุญแจให้”หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านเดินเข้ามาใกล้แล้วเปิดลิ้นชักออก มือของเธอคว้านหาสิ่งที่จะช่วยให้มือบางหลุดออกจากกุญแจมือสีเงินนั้น
“คุณรู้ว่าผมอยู่ในนี้..”เสียงหวานเอ่ยถามพลางมองใบหน้าที่ยกยิ้มอย่างใจดี ขณะที่เธอยังคงควานหาของในลิ้นชักต่อไป
“ฉันคิดว่าฮันกยองต้องพาเธอมาที่นี่ ฉันคาดไว้อย่างนั้นแล้วมันก็ไม่ผิดซะด้วยสิ”เธอตอบแล้วหันมายิ้มให้อีกครั้ง รอยยิ้มที่พอจะทำให้ฮยอกแจรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง
“เอ่อ..กระดาษนั้นผมของดูหน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเห็นว่าหญิงหลางคนหยิบกระดาษโน้ตเล็กๆบนโต๊ะขึ้นมาดูสีหน้าของเธอไม่ดีนัก ฮยอกแจจึงลองเอ่ยขอดูบ้าง.. ทำไมถึงดูกังวลขนาดนั้น
“เอ่อ..ได้สิ”มือของหญิงสาวยื่นกระดาษไประดับที่ฮยอกแจพอจะอ่านได้
‘อยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน.. นายก็เคยมาแล้วนี่ ห้องที่พี่สาวฉันตายไง หึ.. น่าอยู่ใช่ไหมล่ะ แล้วก็ไม่ต้องมองหากุญแจหรอกนะ มันอยู่ติดตัวฉันตลอดเวลานั่นแหละ ฉันไปหาความสุขสักพักจะกลับมาฟังเสียงครางหวานๆจากนายต่อแล้วกันที่สำคัญห้ามออกไปจากห้องนี้เพราะนายก็รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฮันกยอง’ มือบางกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้นเป็นริ้วๆ.. ยังหวังว่าจะได้ทำแบบนั้นอยู่อีกหรอ!
“เจ้าลูกชายฉันก็จริงๆเลย อโหสิให้เค้าด้วยนะ เค้าคงไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอถึงขนาดนี้หรอก”
“ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ.. สิ่งที่เค้าทำกับผมมันมากเกินกว่าจะให้อภัย”เสียงหวานตอบน้ำเสียงเรียบตามความจริง ผู้เป็นแม่ของร่างสูงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ
“ฉันไม่โกรธหรอก ฉันพอจะเข้าใจ”เสียงของเธอเอ่ยไว้แค่นั้นก่อนจะวางกระดาษลงบนโต๊ะ
“ขอผมอยู่คนเดียวได้ไหมครับ.. ถึงจะต้องอยู่ในสภาพอนาถอย่างนี้ก็เถอะ”เสียงหวานเอ่ยเบาๆ เมื่อมองร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงๆจากร่างสูงทั่วตัว ฮันกยองถอดเสื้อผ้าของเขาออกทั้งหมด มีเพียงผ้าห่มผืนที่มีรอยเลือดแห้งกรังปกปิดส่วนล่างฟๆไว้เท่านั้น
“อืม.." เธอพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกมาจากห้องนั้น
ฉันยังไม่เชื่อเธอสนิทใจหรอกนะ ลีฮยอกแจ.. แต่ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดมันตรงกับสิ่งที่ฉันคิดก็เท่านั้น.. เธออาจจะไม่ใช่ฆาตกรตัวจริง ถึงโอกาสที่ไม่ใช่เธอมันจะน้อยมากจนแทบเป็นศูนย์
…………… the prisoner & police …………..
เวลาเที่ยงคืนที่ Zalot Club
“เสียงดังน่ารำคาญจริงๆ”ซองมินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเท่าไหร่ตามนิสัยของคนที่ชอบความเงียบสงบรวมถึงความรู้สึกรังเกียจสายตาของทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่มองมาที่เขาราวกับจะกลืนเข้าไปได้ทั้งตัว
“รีบไปที่โต๊ะเถอะครับ..”คยูฮยอนบอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่แสดงถึงความไม่พอใจออกมาเช่นกัน ร่างสูงส่งสายตาเอาเรื่องกวาดไปรอบๆผับก่อนจะถือวิสาสะโอบไหล่บางไว้
“หึ..หึงหรือไง”เสียงเล็กๆเอ่ยกับร่างสูงแต่ก็ยอมให้คนตัวสูงโอบตัวเองโดยไม่อิดออด
“คงงั้นมั้งครับ ก็คนทั้งในร้านเล่นมองคุณซะขนาดนี้”
“แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ หื้ม?”ซองมินแกล้งถามขึ้นทำเอาคนตัวสูงเงียบไป.. ฟันแล้วทิ้งอย่างนายคงไม่คิดจะจริงจังกับใครสักคนหรอกใช่ไหม คยูฮยอน
“ไม่รู้สิครับ..”เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูขาวนั้นก่อนจะพาคนตัวเล็กไปยังโต๊ะหลบมุมสำหรับลูกค้า V.I.P. มันแทบจะมองไม่เห็นฟลอร์เต้นของผับแต่กลับเป็นทำเลที่ดีที่สุดและแพงที่สุดของผับ.. เพราะมันปลอดคนวุ่นวายและง่ายต่อการจะทำอะไรสักอย่างที่เป็นส่วนตัว
“ไอ้ฮันมันไม่มาสักทีนะครับ..นัดกูมาก็ชักช้าจริงๆ”ขณะที่ประโยคหลังร่างสูงพึมพำกับตัวเองเบาๆ มือหนาของใครบ้างคนก็ฟาดลงเข้าที่ศีรษะของคยูฮยอนทันที
“ไอ้ห่า!! สัตว์ตัวไหนตบหัวกู”ร่างสูงตะโกนขึ้นทั้งๆที่รู้ว่าใครเป็นคนทำเรียกว่าหลอกด่าก็คงไม่แปลก
“กูเอง ไอ้เพื่อนเหี้ย! นินทากูซะงั้น เอ่อ.. สวัสดีครับ คุณซองมิน”ร่างสูงตอบกลับ แล้วทักทายร่างเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีแดงสด
“สวัสดี ฮันกยอง.. สบายดีใช่ไหม มานี่ก็ถือว่าได้ตรวจผับตอนกลางคืนไปด้วย”
“ก็ดีครับ แต่คุณซองมินคงมีความสุขอยู่แล้วแต่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก”ฮันกยองตอบพลางยิ้มมุมปากให้ ซองมินหัวเราะรับเบาๆก่อนจะชวนให้ร่างสูงที่มาใหม่นั่งลง
“น้อง ขอวอสก้าสองขวด เอ่อ..แล้วก็แบบเดิมอีกแก้ว แรงๆนะ”เสียงของฮันกยองสั่งเด็กเสิร์ฟในร้านที่เดินผ่านมา ไม่นานเหล้าสีทองอร่ามสองขวดกับ ของเหลวสีอำพันเข้มก็ถูกวางลงพร้อมกับน้ำแข็งและแก้วเปล่าสองใบ
“มาๆ แม่งอยากแดกนักเชิญแดกให้ตับแข็งเลยมึง จัดไป!”มือหนารินของเหลวส่งกลิ่นฉุนลงใบแก้วของตัวเองกับซองมิน ฮันกยองหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาพลางเขย่าแก้วใสเบาๆเพื่อให้มันเข้ากันขึ้นอีก มือหนายกมันขึ้นลิ้มรสเล็กน้อยก่อนจะกระดกมันเข้าปากทั้งหมด
“ไอ้ห่า! ของมันแรง ไม่คิดจะรอชนแก้วกับกูเลยนะมึง”
“กูรู้ว่ามึงอยากจะชนกับซองมินสองคน ทำเป็นมาด่ากู!”คนตัวสูงพูดแล้วยิ้มให้น้อยๆ มือบางของซองมินหยิบแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำสีเหลืองทองขึ้นมา
“ชนสิ!”เสียงหวานว่าแล้วยื่นแก้วใสที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ไปตรงหน้าคยูฮยอน มือหนาหยิบแก้วของตนขึ้นมาอย่างไม่รีรอ แก้วใบใสกระทบกันก่อนที่ทั้งคู่จะดื่มมันเข้าไปในคราเดียว
“อย่าชวนฉันมาแบบนี้บ่อยๆนะ เดี๋ยวตายเร็ว”เพียงแก้วเดียวใบหน้าหวานก็เริ่มขึ้นสีชมพูจางๆเพราะฤทธิ์สุรา
“อะไรกันครับ คุณเมาแล้วหรอ?”คยูฮยอนถามพลางกระตุกยิ้มเยือกเย็น
“ไม่หนิ.. อีกแก้วสิ คยูฮยอน”มือบางรินเหล้าจากขวดลงใส่แก้วให้ร่างสูงช้าๆ แล้วรินให้ตัวเองต่อ ของเหลวสีทองถูกกรอกเข้าไปในร่างกายของทั้งสองอีกครั้ง
“ไอ้ฮัน มึงไม่แดกอีกไงวะ ชวนกูมาก็อย่าทำให้เสียเที่ยว”
“กูรอมึงเปิดก่อนไง”เสียงทุ้มว่าพลางหยิบที่เปิดขวดเหล้าขึ้นมา มือหนาเปิดขวดเหล้าที่ยังเต็มขวดขึ้นแล้วกระดกมันเข้าปากทั้งขวด ของเหลวสีสวยทยอยกันไหลลงสู่ลงคอของคนตัวสูงจนหมดขวด
“ฮ่าๆ จะไม่แบ่งกูเลยดิเนี่ย น้องเหมือนเดิมสามขวด!”คยูฮยอนหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปมองซองมินที่ยังเทเหล้าลงแก้วไม่หยุด ใบหน้าหวานกับดวงตาหวานเหยิ้มคู่นั้นดูยั่วยวนจนเค้าแทบอดใจไม่ไหว
“ซองมิน อย่ายั่วสิครับ”
“ก็เปล่านี่หน่า อ่า มีความสุขจัง”ร่างเล็กยกแก้วขึ้นพลางเทของเหลวในแก้วลงใส่โพลงปาก น้ำสีเหลืองทองไหลออกจากริมฝีปากบางผ่านผิวเนียนบริเวณซอกคอขาว ลูกกระเดือกเล็กสั่นเล็กน้อยเมื่อสุราที่ดื่มเข้าไปผ่านลำคอ.. หากนี่คือศิลปะ ภาพร่างกายของซองมินตอนนี้อาจเป็นภาพที่ดูเย้ายวนที่สุด น่าดูมากกว่าร่างกายที่เปลือยเปล่าทั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
“ซองมินอยากเต้นไหมครับ”ฮันกยองถามบ้างขณะที่เงียบมานาน คยูฮยอนมองพลางทำสายตาเคืองๆใส่
“เต้นหรอ..ไม่อ่ะเบียดก็เบียด”สายตาเล็กหรี่มองแล้วยกนิ้วขึ้นมากระดิกเชิงว่า ไม่ ตอนนี้สายตาของคนตัวเล็กดูจะโปรยยิ้มไปทั่วจนคยูฮยอนเริ่มฉุนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ดื่มกับผมสักแก้วได้ไหมครับ”จู่ๆเสียงของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น ร่างสูงของชายคนนั้นเดินมาใกล้โต๊ะของเขาแล้วยื่นแก้วไปให้ซองมิน
“อ่ะ อย่ายุ่งหน่า”เสียงเล็กพูดเหมือนปฎิเสธแต่ก็ดันยื่นแก้วของตัวเองขนกับแก้วของชายคนนั้นเสียดิบดี ใบหน้าหวานยิ้มหวานให้ตามคำชักชวนของผู้เข้ามาร่วมวงการสนทนาใหม่
“ซองมิน.. เฮ้ย! มึงอ่ะมาทางไหนไสหัวไปทางนั้นเลย”คยูฮยอนลุกขึ้นแล้วผลักร่างของชายแปลกหน้าออกห่างจากร่างเล็ก เหล้ากลิ่นฉุดกะเฉอะออกมาจากแก้วของชายหนุ่มคนนั้นจนเปรอะเนื้อตัวของซองมินที่ยังนั่งอยู่กับที่
“คยูฮยอน! ฉันเปียกหมดแล้ว”เสียงหวานตะคอกใส่อย่างอารมณ์เสีย
“ขอโทษครับ ซองมินอย่าโกรธผมเลยนะ ก็ไอ้บ้านี่มันมายุ่งกับคุณก่อน!”เสียงทุ้มเอ่ยแก้ตัวขณะที่ฮันกยองยังคงนั่งเก็บรายละเอียดของเหตุการณ์นี้ต่อไป..ปฎิกริยาแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเห็นได้ชัดของคยูฮยอน มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.. หรือว่าสิ่งที่เขาคิดจะถูกกันนะ
“มาครับ ผมถอดให้ดีกว่า”เสียงชายแปลกหน้าคนนั้นมันพูดต่อไป มือหยาบหนาพยายามจะถอดเสื้อที่เปียกออกจากร่างของซองมินทันที
“มึงถอยไป! อย่ามาเสือกกับพวกกู”เสียงทุ้มของคยูฮยอนบอกน้ำเสียงเรียบ สายตาที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่มันน่ากลัวเสียจนรู้สึกว่า..คนตรงหน้าอาจจะตายได้เพียงเวลาไม่กี่วินาที
“แล้วถ้ากูไม่ทำตาม มึงจะทำไมกู!”เสียงแหบของชายคนนั้นตะโกนกลับ ใบหน้าหล่อก็เพียงแค่กระตุกยิ้มเยือกเย็นให้เท่านั้น
“กูจะฝังกระสุนนี่ลงบนกบาลมึงน่ะสิ ถ้ามึงอยากโดนเจาะกะโหลกก็ลองดู”ปืนกระบอกสั้นสีดำสนิทถูกหยิบขึ้นจ่อศีรษะของชายคนนั้น.. ใบหน้าเหย่อเหยิ่งท้าทายเมื่อครู่เป็นเป็นสีหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้คยู มึงใจเย็นดิวะ ไอ้สัสนี่มันตกใจหมด มึงก็ทำเป็นเก่งเนอะเพื่อนกูแค่แกล้งเล่นๆเอง กลัวอะไรนักหนา”ฮันกยองพยายามพูดเสียงทะเล้นเพื่อไกล่เกลี่ยให้ไอ้เพื่อนรักอาการบ้าดีเดือดน้อยลงถึงรู้ว่ามันจะจริงจังก็เถอะ
“เหอะ.. กูไม่เล่นว่ะ”มือหนาเหนี่ยวไกลปืนทันที.. ลูกปืนที่อัดเต็มกระบอกมันพร้อมจะพุ่งใส่หัวของเป้าหมายได้เสมอ.. และแค่ลูกเดียวมันก็พอจะทำให้คนคนนึงสมองไหลออกมา
“มึงเย็นไว้ๆ ซองมินพูดอะไรหน่อยสิครับ”ฮันกยองเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยจริงของความช่วยเหลือจากคนที่มีสติเหลือน้อยที่สุด
“ถ้านายยิงฉันกลับจริงๆนะ มันเริ่มไม่สนุกแล้ว" ซองมินบอกเสียงเรียบ แขนเล็กกอดอกไว้แน่นพลางจองหน้าหล่อด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ คยูฮยอนค่อยๆลดมือลงช้าๆ แล้วกลับไปนั่งที่เดิม
“ไปไกลๆส้นตีนกูเลยไป รำคาญ!”เสียงทุ้มตะหวาดใส่ก่อนจะเก็บปืนให้เข้าที่ ฮันกยองถอนหายใจออกมาช้าๆ คนที่มีนิสัยทะเล้นไม่เคยจริงจังอย่างคยูฮยอนจะเอาปืนมาจ่อหัวใครมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆซะด้วย นี่ขนาดเพิ่งเจอกันกับซองมินอีกรอบก็หลงคนตัวเล็กเสียแล้ว.. ดูเหมือนต่อไปชีวิตของเขาคงจะเจอความลำบากกว่านี้
“ไอ้ห่านี่ มึงเป็นตำรวจนะเว้ย!”เสียงทุ้มเตือนคยูฮยอนหลังจากที่ชายคนนั้นเดินหน้าซีดออกไปจากร้าน…ยังโชคดีที่อยู่ในชุดลำลองนอกเครื่องแบบไม่อย่างนั้นคงได้ถูกตราหน้าว่าเป็นตำรวจรังแกประชาชนอย่างไม่มีเงื่อนไข
“เออ กูรู้ ไม่งั้นกูจะมีปืนมาจ่อกบาลมันไหมล่ะ! เสือกมายุ่งกับกู คนกำลังอารมณ์ดีๆ”
“คยูฮยอน.. ทำไมนายต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ”ซองมินเอ่ยถามขึ้นบ้างหลังจากที่วางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ ใบหน้าหวานดูเฉยชาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน.. ไม่มีแม้แต่อาการช็อคหรือตกใจนับว่าซองมินคุมสติได้เก่งมาก
“ไม่รู้ ผมแค่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายผมรู้แค่นั้นแหละ!!”เสียงทุ้มตอบด้วยความโมโห
“งั้นฉันคงวุ่นวายกับนายมากสินะ ถึงต้องทำเสียงแบบนั้นใส่ฉัน.. ถ้ารำคาญกันมากฉันกลับก็ได้”เสียงหวานตอบพลางลุกขึ้นเต็มความสูง มือหนารีบคว้าข้อมือบางไว้ทันที ฮันกยองกวาดสายตาไปรอบๆเผื่อมีอะไรสนุกๆให้ทำ.. แต่ มันจะเริ่มไม่สนุกแล้วสิ
“ซองมินครับ.. อย่าทำแบบนี้สิ”เสียงของคยูฮยอนอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ฮันกยองหัวเราะเบาๆกับการกระทำและหน้าหงอยๆของเพื่อนรัก เมื่อก่อนไม่ชอบใจใครก็เขี่ยทิ้งกันง่ายๆ .. พออยู่กับซองมินก็ทำให้แทบลืมภาพลักษณ์ของคยูฮยอนคนนั้นไปเลย
สายตาคมสะดุดเข้ากับเรือนร่างที่คุ้นตา.. ร่างที่เขาเพิ่งสัมผัสมาทุกรายละเอียดกำลังนัวเนียกับผู้ชายหน้าตาดีอีกสองสามคน มือบางขาวลูบคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างสนุกมือ สายตาที่น่ามองราวกับอาบด้วยมนต์สะกดจ้องมองมาที่ฮันกยอง..แล้วกระดิกนิ้วเหมือนชวนให้ลงมาสนุกด้วยกัน
“ลีฮยอกแจ!”คนตัวสูงกัดฟันกร่อดด้วยความโมโห ทั้งๆที่เขากำชับนักกำชับหนาแล้วว่าอย่าออกมาจากห้อง ร่างบางใส่เสื้อของเขาที่อยู่ในห้องของพี่ฮโยจูซึ่งมันใหญ่เกินตัวจนโชว์ไหล่ขาวน่าสัมผัส แล้วไหนจะกุญแจมือนั่นอีก.. หรือ เขาอาจจะพลาดตรงที่ว่าสองวันก่อนที่นอนกับพี่ฮโยจูเขาทำกุญแจสำรองของมันหายพอดี.. มันอาจจะตกอยู่บนเตียงนั่นก็เป็นได้
“….” เสียงเพลงยังดังต่อไปแต่ดูเหมือนฮันกยองจะแทบไม่ได้ยินอะไรเลย ตาคมยังคงจับจ้องร่างบางที่เริ่มเบียดเสียดสะโพกของตัวเองเข้าหาส่วนกลางลำตัวของชายหนุ่มข้างๆ ฟันสีขาวกัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างเย้ายั่วเสียงซี้ดที่ดังจนมาถึงโต๊ะของเขาทำให้ฮันกยองยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
“ไอ้ฮัน มึงจะไปไหน!”คยูฮยอนที่ยังคงพูดโน้มน้าวซองมินอยู่หันไปถามร่างสูงที่จ้ำอ้าวไปกลางฟลอร์เต้น แต่เค้ากับต้องละสายตาเมื่อซองมินกำลังพยายามจะแกะมือของเขาออก
“โถ่.. อะไรกันวะเนี่ย!!!”
…………… the prisoner & police …………..
“ลีฮยอกแจ!! ใครพานายออกมา!!! หมาตัวไหนมันลากนายออกมา”ร่างสูงปรี่เข้ามากระชากแขนบางออกมาจากวงพวกหื่นกามพวกนั้นทันที
“ออกมาเองน่ะสิ.. มือตีนฉันก็มีครบ”เสียงหวานพูดต่อไป แม้น้ำเสียงจะดูแปลกไปบ้างแต่มันก็นิดเดียวเท่านั้น
“หึ! ขนาดเสร็จจากฉันแล้วยังมีแรงออกมาร่านต่ออีกงั้นหรอ!”เสียงทุ้มกดเสียงต่ำเพื่อคุมสติให้อยู่ ใบหน้าที่ทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวมันยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียมากขึ้นอีก
“เสร็จหรอ? ตอนนั้นฉันเสร็จหรือเปล่านะ~”ร่างบางทำท่าครุ่นคิด..แววตาแลดูขี้เล่นจ้องมองร่างสูงแล้วใช้นิ้วจิ้มลงบนแผ่นอกแกร่ง
“งั้นก็ทำให้เสร็จซะสิ ฮันกยอง..” หึ.. แค่นี้ก็ไม่รู้งั้นหรอว่าฉัน ไม่ใช่ ฮยอกแจ
…………… the title & talk zone…………..
the title (ไตเติ้ล)
coming soon เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งของตอนหน้า..
"รอยบนตัวนาย..มันแดงมากกว่าเก่า รอยของใคร!!"
'และทำไมคนคนนี้ถึงไม่เหมือนฮยอกแจ ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้'
....................................................................
ใครเชียร์ฮันอึนเตรียมกรี๊ดเลยดีกว่ามั้ย (ยังมีไหมวะเนี่ย)
ครบแล้ว~ อ้ากก!!!! สงสัยว่าอึนฮยอกจะไม่ได้มาช่วย =[]=” แถมยังจะมาแย่งป๋าของน้องไปอีก กร๊าก!!! รันทศว่ะ ฮยอกแจ~ เดี๋ยวไม่อยู่อ่ะ ไปเชียงราย ไหนจะต้องสอบอีก ไม่แน่อาจจะมาอัพให้ค้างไว้อีกแล้วค่อยต่อตอนสอบเสร็จก็ได้ (ถ้ามีคนอยากอ่านอ่ะนะ) แอบย้ายไตเติ้ล ฮ่าๆ
(ทำการรีไรท์เมื่อ 1/10/10 ต้นฉบับ 30/9/09)
t
em
ความคิดเห็น