ลำดับตอนที่ #10
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เงาแห่งรัตติกาล
ตอนที่ 10
เงาแห่งรัตติกาล
โดย
จิ้งจอกหางขาว
สายฝนโปรยปรายต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงยามดึก ค่ำคืนอันมืดมิดชวนให้บรรยากาศรอบพระราชวังยิ่งเงียบงัน ทว่าความเงียบนี้กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ณ ตำหนักฉางชุน
ที่พึ่งได้รับการจัดเตรียมให้เป็นที่พำนักของสนมฉางจ้าย ภายในห้องบรรทมมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ สาดเงาสะท้อนบนผนัง เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวผู้เพิ่งเข้าสู่ตำหนักใน
สนมฉางจ้ายยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกทองเหลือง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสงบเยือกเย็น แม้เหตุการณ์ในพระราชพิธีจะไม่เป็นมงคล แต่นางกลับมิได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นทำให้ข้าหลวงสาวที่เฝ้ารับใช้สะดุ้งตกใจ นางรีบก้มหน้าแนบพื้นด้วยความเคารพ ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างหวาดๆ
"พระสนมเพคะ ฝนตกหนักเช่นนี้ หม่อมฉันจะให้คนไปปิดหน้าต่างนะเพคะ"
เสียงสาวรับใช้สั่นเครือด้วยความหวาดกลัว
"ไม่จำเป็น"
สนมฉางจ้ายเอ่ยเสียงเรียบ นางยังคงจ้องมองกระจกโดยไม่ละสายตา
ข้าหลวงสาวลังเล แต่สุดท้ายก็จำต้องก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เงาในกระจก... เคลื่อนไหวผิดจังหวะ เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่สนมฉางจ้ายสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เงาของนางในกระจกแสยะยิ้ม ทั้งที่ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉย นางไม่สะทกสะท้านกับภาพที่เห็น นัยน์ตาดำขลับของนางจ้องมองเงานั้นราวกับจะท้าทาย
"ในที่สุด... เจ้าก็มาหาข้า"
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นราวกับลมพัดพา แต่ข้าหลวงสาวที่อยู่ข้างๆ กลับไม่ได้ยินสิ่งใดเลย เงานั้นมิใช่ของนางอีกต่อไป…
ด้านนอกพระตำหนัก
จางหย่ง กับ ขันทีกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตรวจตราพื้นที่วังหลวง ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปราย บรรยากาศโดยรอบชวนให้อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
"เจ้าได้ยินหรือไม่?"
ขันทีนายหนึ่งหยุดเดินก่อนเอ่ยถามเสียงเบา
"ได้ยินอะไร?"
"เสียง... เสียงกระซิบ เหมือนมีคนกำลังเรียกเรา"
ทุกคนชะงักกึก พวกเขาหันมองรอบกาย แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ กระทั่ง…
กึก!
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากทางเดินด้านหน้า เงาดำร่างหนึ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วพุ่งผ่านสายตาของพวกเขาไป ทิ้งไว้เพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ชวนขนลุก
"ใครอยู่ตรงนั้น!"
จางหย่งตะโกนขึ้น พลางเร่งฝีเท้าไปยังทิศทางที่เห็นเงา แต่สิ่งที่พบกลับมีเพียงรอยน้ำฝนบนพื้นทางเดิน ร่องรอยเท้า... ที่จมหายไปกับเงามืด
"กลับไปรายงานให้จางกงกวนเถอะ"
เสียงขันทีคนหนึ่งสั่นเครือ พวกเขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้าสู่วังหลวง คืนนี้… อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่มิอาจอธิบายได้ ---
ภายในพระตำหนักใหญ่
ฮ่องเต้หมิงเยว่ประทับอยู่บนบัลลังก์ ทอดพระเนตรสายฝนที่โปรยปรายจากบานหน้าต่าง เสียงรายงานของขันทีถูกส่งเข้ามาไม่ขาดสาย ตั้งแต่เหตุการณ์ในพระราชพิธี ไปจนถึงข่าวลือแปลกประหลาดที่แพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ... มีบางอย่างผิดปกติในตำหนักฉางชุน"
พระเนตรคมของพระองค์หรี่ลงเล็กน้อย ก่อนรับสั่งเสียงเรียบ
"ส่งองครักษ์ไปตรวจสอบ"
ค่ำคืนนี้... อาจไม่ใช่คืนที่เงียบสงบอีกต่อไป
เงาที่สอง
สายลมพัดแรงขึ้น ราวกับเสียงกระซิบของใครบางคนที่กำลังล่องลอยอยู่ในความมืด สนมฉางจ้ายยังคงยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก ทว่าคราวนี้ เงาที่สะท้อนกลับไม่ได้ขยับตามนางอีกต่อไป มันกำลังยิ้ม... ริมฝีปากของเงาในกระจกยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายแวววาวผิดธรรมชาติ ก่อนจะเปล่งเสียงกระซิบออกมา..."
ฉางจ้ายไม่ตอบ เพียงยกมือลูบเครื่องประดับที่ศีรษะเบาๆ สายตาของนางสงบนิ่ง แต่ภายในใจกลับเหมือนคลื่นใต้น้ำที่เริ่มปั่นป่วน เงานั้นไม่ใช่ของนาง… มันเป็นของอีกคน...
"ยินดีต้อนรับกลับสู่วังหลวง..."
เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดเข้ามาในตำหนัก โดยที่หน้าต่าง… ยังคงปิดสนิท!
เงาแห่งรัตติกาล
โดย
จิ้งจอกหางขาว
สายฝนโปรยปรายต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงยามดึก ค่ำคืนอันมืดมิดชวนให้บรรยากาศรอบพระราชวังยิ่งเงียบงัน ทว่าความเงียบนี้กลับแฝงไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
ณ ตำหนักฉางชุน
ที่พึ่งได้รับการจัดเตรียมให้เป็นที่พำนักของสนมฉางจ้าย ภายในห้องบรรทมมีเพียงแสงเทียนริบหรี่ สาดเงาสะท้อนบนผนัง เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวผู้เพิ่งเข้าสู่ตำหนักใน
สนมฉางจ้ายยืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกทองเหลือง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสงบเยือกเย็น แม้เหตุการณ์ในพระราชพิธีจะไม่เป็นมงคล แต่นางกลับมิได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นทำให้ข้าหลวงสาวที่เฝ้ารับใช้สะดุ้งตกใจ นางรีบก้มหน้าแนบพื้นด้วยความเคารพ ก่อนเอ่ยขึ้นอย่างหวาดๆ
"พระสนมเพคะ ฝนตกหนักเช่นนี้ หม่อมฉันจะให้คนไปปิดหน้าต่างนะเพคะ"
เสียงสาวรับใช้สั่นเครือด้วยความหวาดกลัว
"ไม่จำเป็น"
สนมฉางจ้ายเอ่ยเสียงเรียบ นางยังคงจ้องมองกระจกโดยไม่ละสายตา
ข้าหลวงสาวลังเล แต่สุดท้ายก็จำต้องก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เงาในกระจก... เคลื่อนไหวผิดจังหวะ เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แต่สนมฉางจ้ายสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เงาของนางในกระจกแสยะยิ้ม ทั้งที่ใบหน้าของนางยังคงเรียบเฉย นางไม่สะทกสะท้านกับภาพที่เห็น นัยน์ตาดำขลับของนางจ้องมองเงานั้นราวกับจะท้าทาย
"ในที่สุด... เจ้าก็มาหาข้า"
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นราวกับลมพัดพา แต่ข้าหลวงสาวที่อยู่ข้างๆ กลับไม่ได้ยินสิ่งใดเลย เงานั้นมิใช่ของนางอีกต่อไป…
ด้านนอกพระตำหนัก
จางหย่ง กับ ขันทีกลุ่มหนึ่งกำลังเดินตรวจตราพื้นที่วังหลวง ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปราย บรรยากาศโดยรอบชวนให้อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
"เจ้าได้ยินหรือไม่?"
ขันทีนายหนึ่งหยุดเดินก่อนเอ่ยถามเสียงเบา
"ได้ยินอะไร?"
"เสียง... เสียงกระซิบ เหมือนมีคนกำลังเรียกเรา"
ทุกคนชะงักกึก พวกเขาหันมองรอบกาย แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ กระทั่ง…
กึก!
เสียงบางอย่างดังขึ้นจากทางเดินด้านหน้า เงาดำร่างหนึ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วพุ่งผ่านสายตาของพวกเขาไป ทิ้งไว้เพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ชวนขนลุก
"ใครอยู่ตรงนั้น!"
จางหย่งตะโกนขึ้น พลางเร่งฝีเท้าไปยังทิศทางที่เห็นเงา แต่สิ่งที่พบกลับมีเพียงรอยน้ำฝนบนพื้นทางเดิน ร่องรอยเท้า... ที่จมหายไปกับเงามืด
"กลับไปรายงานให้จางกงกวนเถอะ"
เสียงขันทีคนหนึ่งสั่นเครือ พวกเขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้าสู่วังหลวง คืนนี้… อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่มิอาจอธิบายได้ ---
ภายในพระตำหนักใหญ่
ฮ่องเต้หมิงเยว่ประทับอยู่บนบัลลังก์ ทอดพระเนตรสายฝนที่โปรยปรายจากบานหน้าต่าง เสียงรายงานของขันทีถูกส่งเข้ามาไม่ขาดสาย ตั้งแต่เหตุการณ์ในพระราชพิธี ไปจนถึงข่าวลือแปลกประหลาดที่แพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง
"ฝ่าบาทพะยะค่ะ... มีบางอย่างผิดปกติในตำหนักฉางชุน"
พระเนตรคมของพระองค์หรี่ลงเล็กน้อย ก่อนรับสั่งเสียงเรียบ
"ส่งองครักษ์ไปตรวจสอบ"
ค่ำคืนนี้... อาจไม่ใช่คืนที่เงียบสงบอีกต่อไป
เงาที่สอง
สายลมพัดแรงขึ้น ราวกับเสียงกระซิบของใครบางคนที่กำลังล่องลอยอยู่ในความมืด สนมฉางจ้ายยังคงยืนนิ่งอยู่หน้ากระจก ทว่าคราวนี้ เงาที่สะท้อนกลับไม่ได้ขยับตามนางอีกต่อไป มันกำลังยิ้ม... ริมฝีปากของเงาในกระจกยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายแวววาวผิดธรรมชาติ ก่อนจะเปล่งเสียงกระซิบออกมา..."
ฉางจ้ายไม่ตอบ เพียงยกมือลูบเครื่องประดับที่ศีรษะเบาๆ สายตาของนางสงบนิ่ง แต่ภายในใจกลับเหมือนคลื่นใต้น้ำที่เริ่มปั่นป่วน เงานั้นไม่ใช่ของนาง… มันเป็นของอีกคน...
"ยินดีต้อนรับกลับสู่วังหลวง..."
เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดเข้ามาในตำหนัก โดยที่หน้าต่าง… ยังคงปิดสนิท!
เมื่อหมิงซื่อเล่าจบ พระชายาทรงร้องออกมาด้วยความกังวล
"แล้วชะตาชีวิตของหม่อมฉันจะเป็นเช่นไรเพคะ... เสด็จพี่?"
หมิงซื่อเอื้อมมือโอบกอดร่างอันบอบบางของพระชายาไว้แน่น ก่อนกล่าวปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"อย่าคิดมากเลย... ข้าจะดูแลเจ้าเอง"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น