ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
บ้าไปแล้ว! นายมันไม่ใช่จิตแพทย์เลยสักนิด! (นิยายแปล)

ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 เขาไม่ใช่จิตแพทย์ธรรมดาๆ

  • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 67


เฉินหยูเลือกปิดไลฟ์สดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ผู้ชมที่มีอยู่หลายแสนคนไม่คาดคิดว่าเขาจะทำเช่นนี้

“ไม่ใช่ว่า หูอวี๋ บอกว่าเซิร์ฟเวอร์ไม่มีวันล่มเหรอ? ทำไมดันมาล่มเอาในช่วงสำคัญแบบนี้ล่ะ?”

“หรือว่าพิธีกรปิดไลฟ์เอง?”

“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางหรอก”

“ห้องนี้มีคนดูตั้งสองแสนกว่าคน เขาน่าจะใช้โอกาสนี้เรียกแฟนคลับแทนที่จะปิดไลฟ์เงียบๆ แบบนี้ สงสัยพิธีกรคงจะเบลอไปแล้ว”

“ความจริงมีแค่หนึ่งเดียว พิธีกรใช้ทั้งนักแสดงและบทที่เตรียมมา และมันได้ถูกใช้จนหมดแล้ว”

ผู้ชมที่มีความสามารถในการวิเคราะห์แบบนักสืบบอกว่า เหตุผลที่เฉินหยูปิดไลฟ์กะทันหันเป็นเพราะนักแสดงที่จ้างมานั้นถูกใช้จนหมด หากมีคนอื่นมาปรึกษาอีก เฉินหยูคงต้องหลุดโป๊ะ

“พวกนายวิเคราะห์ได้เก่งมาก สมเหตุสมผลจริงๆ”

“แต่ฉันว่าไม่น่าจะใช่การแสดงนะ ลองคิดดูสิว่า พี่โจวเป็นพิธีกรใหญ่ขนาดนั้น เฉินหยูจะไปจ้างเธอมาแสดงได้ยังไง? แล้วรอฝนใต้ต้นซากุระที่เป็นลูกเศรษฐี เขาจะมาช่วยเล่นละครกับเฉินหยูทำไม?”

เมื่อครู่นี้ รอฝนใต้ต้นซากุระเพิ่งโอนเงินห้าล้านหยวนให้ ทุกคนเห็นกันหมด

การที่เขาหยิบเงินห้าล้านออกมาได้อย่างง่ายดายแสดงว่าเขาไม่ได้ขาดเงินเลย

“บางทีพวกเขาอาจจะเป็นทีมเดียวกัน เงินที่โอนไปก็แค่ย้ายจากมือซ้ายไปมือขวา”

“ใช่แล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นแบบนั้น”

“การที่หมอจิตวิทยาทำนายโชคชะตาให้คน มันต้องเป็นบทใหม่แน่ๆ”

ข้อความนี้ทำให้ผู้ชมคนอื่นๆ พากันเห็นด้วย

สำหรับคนทั่วไปแล้ว หมอจิตวิทยามีความลึกลับอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ใช่เทพเจ้า ที่จะทำนายยาที่มีส่วนผสมของแอมเฟตามีนได้

“แล้วการที่รอฝนใต้ต้นซากุระให้ทิปเป็นจำนวนมากไม่ใช่ของปลอมหรอกเหรอ?”

“ดูจากคุณแล้ว คงเป็นนักศึกษาจบใหม่ทั้งซื่อและไร้เดียงสา นั่นเขาเรียกว่าค่าโฆษณา”

“รอฝนใต้ต้นซากุระอาจจะเป็นลูกคนรวยจริงๆ และอาจจะเป็นคนที่ก่อตั้งทีมนี้ขึ้นมา”

“พวกนายพลาดประเด็นสำคัญไป ประเด็นคือแค่มีอะไรสนุกๆ ให้ดู จะเป็นบทละครหรือไม่มันสำคัญหรือไง?”

ห้องถ่ายทอดสดเงียบลงทันที

ใช่แล้ว

ถ้ามีอะไรสนุกๆ ให้ดู มันจะเป็นบทละครหรือไม่ มันสำคัญหรือ?

ไม่สำคัญเลย

ไม่ว่าจะเป็นโจวเข่อซินหรือรอฝนใต้ต้นซากุระ

แค่เห็นสีหน้าของพวกเขาเมื่อครู่นี้ก็น่าขำแล้ว

แค่คิดถึงมันก็ยังทำให้ผู้ชมฮาไม่หยุด

“พวกนาย รีบไปกันเถอะ พี่โจวลงวิดีโอใหม่ในไลฟ์สดแล้ว”

“ไปเร็ว ไปดูกัน”

“ฮ่าฮ่า มีเรื่องสนุกอีกแล้ว”

ในพริบตา ผู้ชมที่เหลือในไลฟ์สดของเฉินหยูต่างก็ย้ายไปห้องไลฟ์ของพี่โจว

หลังจากที่โจวเข่อซินปล่อยวิดีโอใหม่ ผู้ชมหลายแสนคนก็เข้ามาชมทันที

วิดีโอมีความยาวประมาณสามนาที

สถานที่ถ่ายทำคือหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

โจวเข่อซินถือใบตรวจสุขภาพในมือ

เธออธิบายผลตรวจจากโรงพยาบาล

ทุกอย่างที่เฉินหยูกล่าวไว้ถูกต้องทั้งหมด

ยาที่เธอทานตอนเป็นหวัดและแซนด์วิชที่เธอกินมีส่วนผสมของแอมเฟตามีนจริงๆ

และหลังจากการตรวจเลือด

ในร่างกายของโจวเค่อซินก็มีสารแอมเฟตามีนเช่นกัน

หลังจากพูดถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว โจวเค่อซินก็หยิบใบแจ้งความออกมา

อันอันถูกตำรวจจับกุมแล้ว

หากมีข่าวใหม่ โจวเค่อซินจะรายงานให้ผู้ติดตามของเธอทราบทันที

ในตอนท้ายของวิดีโอ โจวเข่อซินได้กล่าวขอบคุณเฉินหยูอย่างจริงใจ

ตามที่หมอบอก ถ้าเธอยังคงบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีแอมเฟตามีนต่อไปอีกไม่นาน สารเคมีจะทำให้สมองของเธอเสียหายจนไม่สามารถฟื้นคืนได้

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเป็นบ้า

แต่ก็จะทำให้มีปัญหาการพูดและการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าอย่างรุนแรง

ใบตรวจสุขภาพและใบแจ้งความมีตราประทับสีแดง

จึงทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง

“พวกที่บอกว่าพี่โจวเป็นนักแสดง ออกมาหน่อยสิ”

“ถ้าพวกเขากล้าออกมา ฉันก็กล้าถ่ายทอดสดกินขี้”

“อันอันมันหลงผิดไปแล้ว คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้ออกมา”

“ขอให้ข้อมูลไว้นิดหน่อย การวางยาพิษโดยเจตนาหากมีความผิดร้ายแรง อาจถูกตัดสินจำคุกสิบปีขึ้นไป หรือแม้กระทั่งจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษประหาร”

“ฉันนึกถึงคำพูดหนึ่งขึ้นมาทันที ขอบคุณรูมเมทที่ไม่ฆ่าฉัน”

หลังจากที่ผู้ชมได้แลกเปลี่ยนความเห็น

แนวคิดที่ว่าเฉินหยูและโจวเข่อซินกำลังแสดงละครตามบทที่เขียนไว้ก็ดูไร้เหตุผล

การติดสารเสพติดเป็นเรื่องที่ล้อเล่นไม่ได้

นักเขียนบทและนักแสดงคงไม่กล้าเล่นอะไรแบบนี้กับตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น การจับกุมอันอันมีใบแจ้งความจากตำรวจยืนยัน

การวางแผนให้โจวเข่อซินดื่มยาที่มีส่วนผสมของแอมเฟตามีน จากนั้นก็สังเวยพิธีกรอีกคนที่มีอิทธิพลไม่น้อยลงไป

นี่มันเป็นแผนการบ้าอะไรกัน?

เมื่อเทียบกับพิธีกรเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จัก

อันอันถือว่าเป็นพิธีกรใหญ่คนหนึ่งทีเดียว

จะบอกว่าเป็นการสังเวยตัวเองก็พูดได้เต็มปาก

คิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้

แนวคิดที่ว่าทั้งหมดนี้เป็นบทละครและการแสดงถูกยกเลิกไป

เฉินหยูกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในสายตาของผู้ชม

“เพื่อนๆ ใครรู้บ้างว่าเฉินหยูทำงานที่โรงพยาบาลไหน?”

“ฉันเริ่มสงสัยว่า เขาอาจไม่ใช่หมอจิตวิทยาธรรมดาๆ แต่เป็นปรมาจารย์ศาสตร์ลี้ลับที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ชาวบ้าน”

“นายข้างบน อ่านนิยายเซียนมากไปแล้ว สมองคงเพี้ยนแล้วล่ะ”

“พิธีกรอาจจะเป็นนักสืบเอกชนที่ถือข้อมูลลับแปลกๆ ไว้มากมาย และใช้มันเพื่อสร้างกระแสและดึงดูดความสนใจ”

ทันทีที่พวกเขากล่าวกันเช่นนี้

ผู้ชมก็เริ่มถกเถียงกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเฉินหยู

ไม่ว่าจะเป็นนักสืบ ปรมาจารย์ศาสตร์ลี้ลับ นักข่าวสายปาปารัสซี่ หรือหมอดู

ทุกความเป็นไปได้ที่พวกเขานึกออกต่างถูกพูดถึงทั้งนั้น

แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาแน่ใจ

เฉินหยูไม่ใช่จิตแพทย์ธรรมดาแน่ๆ

...

ในร้าน

เฉินหยูนั่งหลับตาขัดสมาธิอยู่บนพื้น

เหตุผลที่เขารีบปิดไลฟ์สด ไม่ใช่เพราะเขาอยากเล่นสนุก

แต่เป็นเพราะเขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้น

หลังจากที่ช่วยเปลี่ยนโชคชะตาของสองคนไป พลังแห่งบุญกุศลและโชคลาภก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง

หากเขาไม่รีบแปรเปลี่ยนพลังเหล่านี้

อีกไม่นาน

เฉินหยูอาจจะกลายเป็นเครื่องจักรไอน้ำที่พ่นไอสีขาวออกมาทั่วตัว

“รู้สึกสบายจัง!”

เมื่อพลังบุญกุศลและโชคลาภถูกดูดซึมจนหมด เฉินหยูก็รู้สึกเบาสบายอย่างบอกไม่ถูก

ร่างกายของเขารู้สึกเบาสบาย ราวกับได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ

พลังบุญกุศลและโชคลาภนำประโยชน์มาให้เฉินหยูมากมายจนนับไม่ถ้วน

ความเข้าใจในวิถีแห่งการฝึกฝนของเขาก็ได้ก้าวไปอีกขั้น

สุขภาพร่างกายและอายุขัยของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

บทนำของคัมภีร์เทียนจี ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า

หากต้องการฝึกเป็นเซียน ต้องเริ่มจากการฝึกพลังลมปราณภายใน

เมื่อสะสมพลังลมปราณเป็นพื้นฐานแล้ว จึงสามารถฝึกเป็นเซียนได้

แต่ในยุคสมัยนี้ที่พลังวิญญาณในโลกเบาบางเหลือเกิน

หากฝึกฝนตามปกติ เฉินหยูอาจไม่สามารถก้าวข้ามขั้นตอนการฝึกลมปราณภายในได้ตลอดชีวิต

การปรากฏตัวของคัมภีร์เทียนจี๋ได้เปิดเส้นทางลัดให้กับเฉินหยู

ไม่จำเป็นต้องหาสถานที่ที่มีพลังวิญญาณอยู่

เพียงแค่ช่วยเหลือผู้อื่นให้เปลี่ยนโชคชะตาอย่างต่อเนื่อง

อีกไม่นาน เฉินหยูก็จะสามารถก้าวข้ามขั้นตอนการฝึกลมปราณภายในได้

และเข้าสู่วิถีของการเป็นเซียนอย่างเต็มตัว

เมื่อรู้สึกหิว เฉินหยูจึงลงไปเปิดประตูร้าน เตรียมออกไปหาซื้ออาหาร

“ขอโทษนะครับ ที่นี่มีใครทำนายดวงชะตาไหม?”

ชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวและใช้ไม้เท้าเดินเข้ามาในร้าน

เฉินหยูแสดงสีหน้างงงวย

ข้างนอกมีป้ายติดไว้ชัดเจนว่าที่นี่คือร้านให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา

แต่ชายชรากลับเดินเข้ามาถามเรื่องการทำนายดวงแทน

หรือว่าออร่าหมอดูของเขามันชัดเจนขนาดนี้แล้ว?

ปิดบังยังไงก็ไม่มิดแล้วเหรอ?

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture