คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่6 สืบความจริง1
คืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งที่เฟิงลี่ไม่กล้าเข้าห้องส่วนตัว เพราะมัวแต่หลบเลี่ยงสามีของผู้อื่นนามว่าหลิวอี้
เดิมทีชายผู้นี้พยายามเข้าหานางด้วยเหตุบังเอิญเดินผ่านมาบ้าง ข้ออ้างสมเหตุสมผลบ้าง แต่เฟิงลี่ก็หลบเร้นซ่อนตัวได้ทุกครั้งโดยไม่เสียเวลาเผชิญหน้า เพราะว่านางไม่เก่งเรื่องพูดจาโต้ตอบเพื่อเบี่ยงเบนอันใด การถอยให้ห่างเข้าไว้จึงจะดี
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลิวอี้จึงเพิ่มระดับความร้ายกาจ เขารอให้จิ่วเม่ยนอนหลับจนสนิทแล้ว จึงย่องมาที่ห้องของเฟิงลี่
เมื่อไม่เห็นเจ้าของห้องดังคาด เขาจึงแอบจุดกำยานรัญจวนเอาไว้ แล้วกลับออกไปคล้ายไม่เคยแอบเข้ามา ก่อนจะไปซุ่มตัวดักอยู่ด้านนอก รอเวลาที่เฟิงลี่กลับเข้าห้อง
หากแม่นางน้อยเข้าห้องแล้วสูดดมแค่ไม่ถึงครึ่งถ้วยชา รับรองได้ว่านางต้องร้อนรุ่มจนเนื้อตัวสั่นระริก มีความต้องการเฉกเช่นหญิงแพศยาร่านราคะ ปรารถนาการร่วมรักกับบุรุษจนทนไม่ไหว ทั้งยังต้องปรนเปรอเริงสวาทอย่างร้อนแรงเร้าใจจนรุ่งสาง
ท่ามกลางกลิ่นกำยานโชยคลุ้งภายในห้องนอนของเฟิงลี่ หลิวอี้กำลังคิดถึงแผนการตนเองด้วยหัวใจเต้นระส่ำ พร้อมคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ตรงมุมมืดข้างเรือนหนึ่ง
ส่วนเฟิงลี่เพียงขุดโพรงนอนหลับอยู่ใต้ดินห่างออกไปจากเรือนตนไกลโข บริเวณนั้นเป็นสวนป่าท้ายเรือนจากทุกหลัง ไร้ใครสังเกตเห็นทั้งนั้น
ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น การนอนบนต้นไม้ไม่ดีเท่าใด จำต้องหาที่นอนที่อบอุ่นเข้าไว้ แย่งมดงานแมลงร้ายในหลุมนี่ล่ะ
เฟิงลี่จึงไม่อาจล่วงรู้ว่าหลิวอี้แวะเวียนเข้ามาที่ห้องของนางตลอดทั้งคืน กระทั่งพลั้งเผลอสูดดมกำยานเข้าไปมากมาย
สุดท้ายเป็นเขาเองที่ถูกฤทธิ์รัญจวนของกำยานเล่นงาน จนท่อนเนื้อช่วงล่างกลางลำตัวปวดหนึบแทบคลั่ง ต้องวิ่งกลับไปหาภรรยาของตัวเองแทบไม่ทัน ปลุกนางขึ้นมาร่วมรักจนหมดแรง
เดิมทีการที่บุรุษผู้หนึ่งจะรับอนุสักคนมิใช่เรื่องใหญ่ หากแต่กฎระเบียบยังคงมี การยอมรับของภรรยาเอกย่อมสำคัญ แต่หากนางไม่ยอมรับ สามีจะถือวิสาสะพาเข้ามาเลยก็ย่อมได้ ทว่านั่นต้องเป็นการสมยอมของฝ่ายสตรีผู้เป็นอนุด้วย
เพียงแต่เฟิงลี่นั้นกลับไม่ยินยอมพร้อมใจง่ายๆ
และจิ่วเม่ยเองก็ไม่ยอมรับง่ายๆ เช่นกัน
ที่สำคัญสตรีสองคนรักกันดุจพี่น้อง หลิวอี้จึงต้องเล่นเล่ห์ใช้เพทุบายเช่นนี้ เผื่อว่าจะสำเร็จในสักวัน
หลังจากนั้นภรรยาแต่ละคนจะทะเลาะเบาะแว้งอันใดก็เป็นเพียงเรื่องหลังเรือน ขอแค่ทุกนางปรนนิบัติบนเตียงได้ดีก็พอ บุรุษล้วนไม่ใส่ใจเรื่องยิบย่อยทั้งสิ้น
หลิวอี้นั้น เขาชอบเฟิงลี่มาก ชอบตั้งแต่ได้เจอครั้งแรกที่บ้านเดิมของจิ่วเม่ย แต่ตัวเขาเป็นคู่หมั้นของจิ่วเม่ยแล้วการจะรับอนุก่อนแต่งภรรยาย่อมไม่เหมาะสม ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงว่าอีกฝ่ายอายุน้อยยังไม่ปักปิ่นและเป็นคนของคู่หมั้น เขาก็ยิ่งไม่อาจกระทำ จำต้องรอหลังแต่งงานสักปีสองปีค่อยรับเป็นอนุ เขาย่อมรอได้
ทว่าเฟิงลี่ยิ่งโตยิ่งงดงามโดดเด่นยากจะหักห้ามใจมิให้อยากครอบครองจริง ๆ แต่จนใจที่สามีต้องเกรงใจภรรยาอยู่บ้าง ทั้งยังไม่กล้าหักหาญน้ำใจเฟิงลี่ที่อายุเพียงสิบสี่ปี
อีกทั้งชื่อเสียงยามทำการค้ายิ่งต้องคำนึงเข้าไปใหญ่ หากเขากระทำการอุกอาจรุนแรงจนเกินไปก็เกรงว่าจะกระทบต่อชื่อเสียงอันดีงามของเขาในแวดวงการค้า
เมื่อคิดไปคิดมา คิดวกวนหลายตลบ หลิวอี้จึงตัดสินใจเอ่ยกับจิ่วเม่ยตามตรงโดยไม่คิดจะปิดบังอีกต่อไป
เขาเลือกบอกนางในค่ำคืนหนึ่ง
“ข้ามีเรื่องจะสารภาพ”
จิ่วเม่ยถูกสามีจับตัวให้นั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องส่วนตัว นางมองหน้าเขาอย่างตั้งใจฟัง ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาจะสารภาพเรื่องอะไร
เขาคงกำลังจะยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำว่าชอบเฟิงลี่ คงเหนื่อยเต็มทีกับแผนการตื้นเขินที่กระทำอยู่ทุกวัน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หญิงสาวจึงรีบเอ่ยขัด “ท่านพี่ ข้ายังไม่อยากฟัง หากท่านเอ่ยออกมา ข้าเกรงว่าจะทนใจกว้างไม่ไหว อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมาเลยเจ้าค่ะ”
เพราะสามีบอกซ้าย นางไม่กล้าบอกขวา แต่ถ้าหากเขาไม่บอกอะไรออกมา นางก็ไม่ต้องคล้อยตามเช่นกัน
หญิงสาวกล่าวจบพลันลุกขึ้นจากเก้าอี้ คิดจะเดินออกไปนอกห้องแห่งนี้ทันที ไม่ยินดีรับฟังความต้องการของสามีที่นางยากจะปฏิเสธ เพราะไม่อาจกลายเป็นภรรยาใจแคบให้ผู้คนครหา
แต่หลิวอี้รีบจับมือฮูหยินเอาไว้ ให้นั่งลงไปใหม่ พลางเอ่ยอย่างร้อนรนว่า “ไม่ผิด! ข้าชอบเฟิงลี่”
จิ่วเม่ยได้ฟังแล้วก็เม้มปากแน่น ชะงักงันนิ่งเงียบไป
หลิวอี้สังเกตปฏิกิริยาของหญิงคนรัก พบว่านางไร้ท่าทียินยอมให้เขารับเฟิงลี่เป็นอนุจริงๆ ก็รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง
ต่อมาจึงกัดฟันบอกความจริงอีกหนึ่งประการ
“อาเม่ย ...เจ้าฟังข้านะ เดิมทีถูกเฟิงลี่ปฏิเสธโดยการหลบหน้าและเจ้าที่เป็นภรรยายังไม่ยอมรับมานานร่วมปี ตัวข้าเริ่มคิดจะถอดใจแล้วจริงๆ ทว่าความคิดพลันเปลี่ยนไปเมื่อข้าสืบจนรู้แน่ชัดว่าพี่สาวของเฟิงลี่อยู่ที่ใด”
วาจานี้ทำจิ่วเม่ยเบิกตามองสามีทันที “ท่านว่าอะไรนะ?”
ห้องส่วนตัวในเรือนนอนของหลิวอี้กับจิ่วเม่ยอยู่ลึกจากเรือนใหญ่ห่างออกมาจากห้องอื่นไกลโข เสียงพูดคุยแม้ดังมาก ทว่าไม่อาจเล็ดลอดออกมาจนถึงด้านนอกได้
แต่กระนั้นชายหนุ่มยังคงกระซิบเสียงเบา “ข้าบอกว่าสืบจนรู้แล้วว่าพี่สาวของเฟิงลี่อยู่ที่ใด”
“ท่านพี่...”
จิ่วเม่ยให้รู้สึกทั้งตกใจและน้อยใจนัก นางตัดพ้อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“หากรู้แล้วว่าพี่สาวของเฟิงลี่อยู่ที่ใด ท่านก็ควรจะรีบส่งตัวนางออกไปให้พี่สาวโดยเร็ว นี่ท่านชอบนางถึงเพียงนี้เลยหรือ คิดจะยึดนางเอาไว้ถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? แล้วข้าเล่า! ไยไม่นึกถึงจิตใจของข้าบ้าง ท่าน...”
“อาเม่ย” หลิวอี้รีบเอ่ยตัดบท “ข้ามีเหตุผลที่ทำเช่นนี้ ข้าชอบเฟิงลี่ก็เหตุผลส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะฐานะของพี่สาวนางไม่ธรรมดา แต่เป็นถึงบุตรสาวบุญธรรมของชินอ๋อง”
“หา!”
นิยายเรื่องนี้ฉบับอีบุ๊ค คลิก>>>
|
ความคิดเห็น