ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
PLAYING WITH FIRE ♡ #เฉิงจัส #หนงคุน IdolProducer

ลำดับตอนที่ #10 : PLAYING WITH FIRE : 9 (REWRITE)

  • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 61


 

 

 

กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ร่างของจัสตินนอนหายใจหอบเมื่อถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจนหมดแรง ยังไงเขาก็สู้ช่ายสวี่คุนไม่ได้ยิ่งแปลงร่างเป็นหมาป่าไม่ได้ เป็นแวมไพร์ก็ทำอะไรแทบไม่ได้เหมือนกัน กำลังของเขาก็คงไม่ต่างจากพวกมนุษย์เท่าไหร่

 

จัสตินสถบบ่นตัวเองในใจเรื่องที่เขาประมาทเกินไปและไม่ระวังตัวอย่างที่ฟ่านเฉิงเฉิงและเฉินลี่หนงกำชับทุกครั้งตอนที่ไปไหนมาไหนคนเดียว จริงๆเขาก็ไม่ได้ประมาทแต่สวี่คุนพูดหว่านล้อมจนเชื่อใจ ใบหน้าที่ปกติไม่ค่อยแสดงอาการอะไรวันนี้กลับมีแต่รอยยิ้มจนอดแปลกใจไม่ได้ จัสตินคิดไม่ถึงหรอกว่าอีกฝ่ายจะสะกดรอยตามมาแล้วทำมาเป็นบังเอิญเจอกันถึงตอนแรกจะตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยแต่พอสวี่คุนพูดดีๆก็อดไม่ได้ที่อยากจะผูกมิตรกับอีกฝ่าย ยังไงมีมิตรก็ดีกว่ามีศัตรูเพราะคิดแบบนั้นเลยมานอนเจ็บอยู่ตรงนี้

 

“ลุกขึ้นมาสิ!”  เอื้อมไปดึงคอเสื้อของจัสตินขึ้นมาจ้องดวงตาของลูกหมาป่าก่อนจะยิ้มแสยะ

“คุณต้องการอะไร”

“ออกไปจากชีวิตเฉิงเฉิงซะ” มือเลื่อนไปบีบต้นคอขาวค่อยๆออกแรงบีบจนคนถูกกระทำเหมือนจะขาดอากาศหายใจ

“แค่กๆ ปะ..ปล่อย”

“บอกมาสิว่าจะไสหัวไปฮวงหมิงฮ่าว!” ช่ายสวี่คุนออกแรงบีบมากกว่าเดิมแม้จัสตินจะดิ้นไปมาเพราะกำลังจะขาดอากาศหายใจจริงๆ

 

จัสตินรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายหัวสมองขาวโพลนและเจ็บคอจนไม่สามารถเอ่ยประโยคใดออกไปได้ ทำได้แค่พยายามแกะมือของสวี่คุนออกแต่มันก็ไม่ขยับสักนิด ใบหูผุดขึ้นมาจากผมสีเข้มมันกระดิกไปมาพร้อมกับหางฟูๆ เสียงครางหงิงๆในลำคอดังออกเบาหวิว

 

“นายเลือกเองนะ” สวี่คุนสบตากับจัสตินด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “งั้นก็ตายไปซะ!

 

โครม!

 

ร่างของช่ายสวี่คุนลอยหวือไปอีกฝั่งพร้อมกับร่างของใครบางคนที่โผล่มาทันเวลาพอดิบพอดี แต่ถึงอย่างนั้นสวี่คุนก็ไม่ได้เจ็บสักนิดเมื่อร่างของคนที่เข้ามาขวางรับความเจ็บนั้นไว้แทน

 

“เข้ามายุ่งทำไมลี่หนง!” สวี่คุนลุกขึ้นตะคอกใส่ลูกจ่าฝูงเสียงดังลั่นป่า

“แล้วพี่ทำแบบนี้ทำไม” ลี่หนงตะคอกกลับด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์

เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าไหล่ของสวี่คุนที่พยายามจะพุ่งเข้าหาจัสตินอีกครั้ง สวี่คุนหันไปต่อยที่หน้าของลี่หนงจนหมาป่าเซไปตามแรง

“ถ้าพี่ทำแบบนี้จะมาหาว่าผมใจร้ายทีหลังไม่ได้นะ”

 

เฉินลี่หนงกลายร่างเป็นหมาป่าตัวใหญ่ขนสีน้ำตาลอ่อนแซมเข้ม ดวงตาสีอ่อนจ้องมองหน้าของสวี่คุนก่อนจะอ้าปากกระฉากเสื้อแล้วลากสวี่คุนไปในป่าท่ามกลางความงงงวยของจัสตินที่นอนเจ็บอยู่ไม่ไกล

 

“ปล่อยนะลี่หนง!

 

กรรรรจ์!

 

ร่างของสวี่คุนถูกลากไปตามทางในป่าใหญ่จนเนื้อตัวเปรอะเปื้อน แม้จะดิ้นยังไงก็ไม่หลุดจากคมเขี้ยวของหมาป่าตัวใหญ่ที่กำลังโมโห ไม่รู้ว่าถูกลากไปลึกแค่ไหนแต่ก็มากพอที่จะได้กลิ่นของหมาป่าเต็มไปหมด

 

ตุบ

 

ความเจ็บแล่นเข้ามาที่ขาขวามือมันกระแทกกับพื้น สวี่คุนเงยหน้ามองเฉินลี่หนงในร่างของหมาป่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นอีกร่างของอีกฝ่าย ตัวใหญ่กว่าที่คิดไว้เยอะแถมตอนนี้ยังดูไม่เหมือนเฉินลี่หนงคนที่เขาสามารถควบคุมได้ ดวงตาสีฟ้าดูน่ากลัวเมื่อเผลอสบตาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ สวี่คุนไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองหวาดกลัวพวกหมาป่าได้ถึงขนาดนี้

 

“ถ้าจัสตินตายขึ้นมาพี่จะทำยังไง” เสียงทุ้มพูดขึ้นในร่างของหมาป่า

“ก็ดีไงให้มันตายๆไปซะฉันไม่จำเป็นต้องสนใจชีวิตมัน” สวี่คุนตอบด้วยความโมโห

“พี่โหดร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วลี่หนง นายต่างหากที่รักฉันจนโง่มองไม่เห็นว่าฉันเป็นคนแบบไหน” น้ำเสียงสั่นแต่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

 

หมาป่าตัวใหญ่ก้าวเท้าเข้าไปใกล้ถึงสวี่คุนจะถอยหลังแต่สุดท้ายก็จนมุมเมื่อแผ่นหลังชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองมาโดยไม่กะพริบสักนิดถ้าแวมไพร์หนุ่มสังเกตก็จะเห็นความเศร้าที่ซ่อนอยู่ในแววตาดุดัน

 

เฉินลี่หนงเลียที่ข้างแก้มใสอย่างปลอบโยนเพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ทำร้ายแวมไพร์ตรงหน้าไม่ลง ถึงจะโกรธขนาดไหนก็ทนเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ไม่ได้หรอก

 

“อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม”

ช่ายสวี่คุนยกมือลูบกลุ่มขนนุ่มสีน้ำตาลของหมาป่าตัวใหญ่ ความรู้สึกในหัวตีกันไปมาจนสับสนเมื่อถูกร้องขอด้วยสายตาอ้อนวอน

“ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้โหดร้ายได้โปรดอย่าทะ

“กรรรจ์!!!

ร่างของหมาป่าล้มลงไปเมื่อถูกมีดขนาดหนึ่งช่วงแขนแทงเข้าที่สีข้าง เลือดสีแดงสดเริ่มไหล่ซึมผ่านเส้นขนสีน้ำตาล

“เฉินลี่หนง!” สวี่คุนตะโกนเรียกชื่อหมาป่าตัวใหญ่ตรงหน้าด้วยความตกใจ

 

สวบสวบ..

 

เสียงย่ำเท้าของคนมาใหม่ทำให้สวี่คุนหันไปมอง เจ้าของมีดเล่มนี้ยืนกอดอกมองลูกจ่าฝูงที่กำลังเจ็บปวด

 

“พวกหมาป่าก็ยังไม่ได้เรื่องเหมือนเดิมเลยว่าไหม” รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าแล้วหันไปเลิกคิ้วขอความเห็นจากสวี่คุนที่นั่งกอดหมาป่าตัวใหญ่

“ทำบ้าอะไรของนายวะหลัวเจิ้ง” สวี่คุนตะคอกแล้วหันไปสนใจแผลของหมาป่า

“ก็มันมาขัดขวางแผนการของนายควรฆ่าทิ้งซะด้วยซ้ำ”

แวมไพร์หนุ่มตวัดมองหลัวเจิ้ง “เฉินลี่หนงไม่ใช่คนที่นายควรยุ่ง”

“ไม่เอาน่าสวี่คุนไอ้หมาตัวนี้มันจะทำให้แผนของท่านพังหมด หรือว่านายไม่อยากได้เฉิงเฉิงแล้ว” หลัวเจิ้งพยายามพูดกล่อมให้สวี่คุนคล้อยตาม

 

กรรรรรจ์

เฉินลี่หนงในร่างหมาป่าลุกขึ้นมามองหน้าของแวมไพร์ที่เขารู้จักผ่านๆ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองแวมไพร์ทั้งสองสลับกันไปมา

 

“นายเป็นอนาคตจ่าฝูงแน่หรอเฉินลี่หนง ตลกเป็นบ้า” เสียงทุ้มบอกพร้อมกลั้วหัวเราะเหมือนมันเป็นเรื่องตลก

“นายไปได้แล้วหลัวเจิ้งตรงนี้ฉันจัดการเอง” สวี่คุนบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

กึก!

หลัวเจิ้ง สวี่คุนและลี่หนงมองใครบางคนที่กระโดดลงมาจากต้นไม้สูงใหญ่ อีกฝ่ายมองตาลี่หนงก่อนจะไล่ไปที่แผลค่อนข้างใหญ่

“เมื่อไหร่จะเลิกลอบกัดคนอื่นแบบนั้นซะทีหลัวเจิ้งคิดว่าเก่งนักรึไง”

คำพูดยียวนสามารถกวนอารมณ์แวมไพร์มหนุ่มเจ้าของชื่อให้โกรธได้ในพริบตา รอยยิ้มเล็กๆนั่นอีกเหมือนจะท้าทายเป็นในๆ

“องครักษ์หมามาแล้วหรอ”

“ไม่เอาน่านายรู้จักชื่อฉันดีนะหลัวเจิ้ง”

“ใครจะลืมคนที่ฉันเคยผสมพันธุ์ได้หลงล่ะเจิ้งรุ่ยปิน”

 

 

 

 

ฟ่านเฉิงเฉิงถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อต้องเห็นจัสตินในชุดของโรงพยาบาลนั่งมองหน้าเขาตาไม่กะพริบ บาดแผลตามร่างกายหลายจุดโดยเฉพาะรอยที่คอชัดเจนจนคิดว่าช่ายสวี่คุนเอาจริงและนั่นหมายถึงสงคราม เขาพยายามติดต่อลี่หนงแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้จนต้องให้ปู่ฝานตามหาลูกจ่าฝูงที่หายเข้าไปในป่ากับสวี่คุนให้เขา

 

คลาดสายตานิดเดียวจัสตินก็เกือบตายทำให้เขารู้ว่าคงละสายตาจากลูกหมาตัวนี้ไม่ได้จนกว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลง

 

“เจ็บมากไหม” ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแล้วเอื้อมมือไปลูบไล้แก้มขาวเบาๆ

“เจ็บแต่เหมือนจะตายเลย ให้ตายเถอะสวี่คุนเอาจริง” จัสตินบ่นแล้วก็ซบหน้าลงบนฝ่ามือใหญ่

“ลี่หนงคงจัดการไปแล้วแต่มันมีคนอื่นอยู่ด้วยฉันได้กลิ่นและคิดว่าน่าจะรู้จักดี” เฉิงเฉิงบอก

“แล้วจะเอายังไงต่อไป”

ฟ่านเฉิงเฉิงนั่งลงบนเตียงประคองสองข้างแก้มก่อนจะเคลื่อนเข้าไปกดจูบลงบนหน้าผากมน จัสตินไม่ควรเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องบ้าบอของตระกูลเขา ไม่จำเป็นต้องมาเจ็บตัวไม่เว้นแต่ละวันแบบนี้ด้วยซ้ำ

“อยากไปจากฉันไหม”

“ฉันสัญญากับพ่อนายว่าจะดูแลนายแต่ดูสินายต้องมาเจ็บตัวแบบนี้มันไม่โอเคเลย” ฟ่านเฉิงเฉิงพูดแล้วจ้องดวงตากลมที่สั่นระริก

“ฉันไม่มีใครแล้ว” จัสตินบอกเสียงสั่น

“นายยังมีฉันไงเจ้าลูกหมา ฉันอยู่ตรงนี้”

 

จัสตินโผเข้ากอดแวมไพร์ต้นตระกูลและถูกอีกฝ่ายกอดตอบจนจมหายเข้าไปในอ้อมอกแกร่ง ฟ่านเฉิงเฉิงยกยิ้มเมื่อเห็นลูกหมาป่าขี้แยกำลังตัวสั่นเทาเพราะร้องไห้และสะอื้นไม่หยุด

“ร้องไห้แบบนี้เดี๋ยวตาก็บวมหรอกยิ่งขี้เหร่อยู่ด้วย” ฟ่านเฉิงเฉิงก็เป็นคนประเภทนี้ถึงจะเป็นห่วงยังไงก็ขอให้ได้แหย่เจ้าลูกหมาให้หน้ามุ่ย

 

ลูกหมาป่าหน้ามุ่ยปากอิ่มยับยู่จนโดนแวมไพร์หนุ่มใช้ริมฝีปากแตะที่อวัยวะเดียวกันเบาๆก่อนจะผละออก นัยน์ตาสีเข้มจ้องดวงหน้าหวานที่กำลังเขินอายเพราะสีของแก้มแดงเรื่อหรือไม่รู้เพราะแดงจากบาดแผล

 

ประตูห้องพักถูกเปิดออกด้วยฝีมือใครบางคนที่เดินเข้ามา ฟ่านเฉิงเฉิงเลิกคิ้วก่อนจะยกยิ้มให้แล้วผละออกจากร่างเล็กที่หลับตาปี๋อยู่ตอนนี้

 

“ลมอะไรหอบมาถึงนี่กันครับฟ่านปิงปิง”

เจ้าของชื่อหัวเราะหึในลำคอมองเจ้าน้องชายตัวดีแล้วหันไปสบตากับร่างเล็กที่มองเธอด้วยสายตาสงสัย

“ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้วจะไม่ให้ห่วงน้องชายได้ยังไงกันฟ่านเฉิงเฉิง” เธอนั่งลงบนโซฟาตัวยาวถอนหายใจนิดๆแล้วบอกให้น้องชายมานั่งข้างๆ

 

ใบหน้าสวยราวกับภาพวาดมองหน้าจัสตินอีกครั้งเธอสำรวจมองแล้วยิ้มให้กับคนเจ็บที่ทำหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท่าทางพวกนั้นทำให้ฟ่านปิงปิงนึกเอ็นดูคนรักของน้องชายตัวเอง เหมือนลูกหมาอย่างที่เฉิงเฉิงเคยบอกไม่มีผิด

 

“ฉันเป็นพี่สาวของฟ่านเฉิงเฉิง”

“ทะ ที่เป็นดาราหรอครับ” จัสตินถามตะกุกตะกักเพราะคุ้นหน้าเธอเหลือเกิน

“ใช่ ดีใจจังที่น้องสะใภ้รู้จักฉันด้วย”

” จัสตินเบิกตากว้างเมื่อถูกแทนด้วยสรรพนามที่น่าขัดเขิน

“คะ คือว่าไม่ใช่สะใภ้นะครับผมแค่ผม

“น้องชายฉันไม่ใช่คนประเภทรักใครไปทั่วหรอกนะฮวงหมิงฮ่าว เจ้าหมอนี่ห่างจากฉันเป็นหลายสิบปีเลี้ยงมาเหมือนลูกทำไมจะไม่รู้นิสัยใจคอ” ฟ่านปิงปิงเอ่ยขัด

“ไม่เอาน่าคุณอย่าไปทำให้เจ้าลูกหมากดดันสิ” เฉิงเฉิงแตะที่ไหล่ของพี่สาวแต่เธอแค่หันไปหัวเราะ

“รู้ไว้นะฮวงหมิงฮ่าวว่าแวมไพร์อย่างฟ่านเฉิงเฉิงถ้าไม่รักล่ะก็อย่าหวังว่าหมอนี่จะอ่อนโยน”

 

แค่ประโยคสั้นๆแต่สามารถทำให้จัสตินใจเต้นรัวเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอฟ่านเฉิงเฉิง เขาหลบสายตาของสองพี่น้อง ปกติแค่รับมือกับเฉิงเฉิงคนเดียวก็แทบจะบ้าตายแต่พอมาเป็นคู่แบบนี้มันทำให้รู้สึกเกร็งจนหายใจไม่ทั่วท้อง

 

จัสตินไม่ได้คิดไปเองว่าฟ่านปิงปิงดูน่ากลัวและดูทรงพลังแปลกๆ

 

“ฉันไม่ได้น่ากลัว ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะน้องสะใภ้”

จัสตินตาโตเมื่ออีกฝ่ายพูดตอบราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“เธออ่านใจคนอื่นได้” เฉิงเฉิงไขข้อข้องใจ

 

แล้วความลับของตระกูลฟ่านที่จัสตินไม่เคยรู้และแทบไม่มีใครรู้ก็ถูกเปิดเผย จัสตินพยายามหาคำตอบว่าทำไมตระกูลฟ่านถึงได้มีสิทธิ์เป็นผู้ทรงอำนาจนอกจากเงินและธุรกิจใหญ่ๆมันต้องมีอย่างอื่นเข้ามาเป็นตัวช่วย

 

และตัวช่วยของตระกูลฟ่านดูพิเศษ

 

“ส่วนน้องชายของฉันเขาเก่งเรื่องพลังจิต”

 

จัสตินคิดไม่ออกว่าพลังจิตของฟ่านเฉิงเฉิงมันเป็นแบบไหน สะกดจิต หรือว่ามากกว่านั้นและคำตอบที่ได้รับก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองอาจจะต้องประเมินต้นตระกูลใหม่

 

“พลังจิตทุกอย่างตั้งแต่สะกดจิตไปจนถึงหยั่งรู้อนาคต หมอนี่ไม่เคยบอกหรอว่าเห็นเธอก่อนที่จะได้เจอกันในร้านสะดวกซื้อนั่นเสียอีก”

 

 

 

 

 

 

 

 

tbc

 

 

ตอนนี้ตัวละครมาเยอะมาก มันไม่เชิงฟิคสู้อะไรหรอกค่ะ

ทำให้มันดูพิเศษเฉยๆ เราคิดว่าคงมีหลัวเจิ้งกับรุ่ยปินอีกคู่

คือจับเพราะชอบแค่นั้นเลย แต่ก็จะไม่เน้นมากนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ สวี่คุนใกล้จะโดนดุแล้วค่ะ ขอไปดูคิวก่อนว่าจะมาก่อนเฉิงจัสไหม หุหุ

#เล่นกับไฟเฉิงจัส

 


แนะนำตัวละคร

จัสติน ครึ่งหมาป่ากับแวมไพร์

ฟ่านเฉิงเฉิง แวมไพร์ต้นตระกูล

ลี่หนง หมาป่า (จ่าฝูงในอนาคต)

สวี่คุน แวมไพร์

หลัวเจิ้ง แวมไพร์

รุ่ยปิน หมาป่า

ฟ่านปิงปิง แวมไพร์

ปู่ฝาน แวมไพร์

แจฮยอน nct แวมไพร์






B
E
R
L
I

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture