ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอเพียงใจรักมั่น真诚的爱[จบ]

    ลำดับตอนที่ #10 : จำไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 67


    เวลาผ่านไปอีกครู่หนึ่งทหารทุกนายก็ถูกหัวหน้าหน่วยเรียกให้มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมถัดมาคือการขี่ม้า  แต่ละคนจะได้ผลัดเปลี่ยนกันขี่ม้าตามกติกาของหัวหน้าหน่วย และหลิวหลีก็ยังคงสามารถทำได้ดีอีกเช่นเดียวกัน เพียงแต่...

    ถ้าไม่บังเอิญหันไปสบตากับใครบางคนเข้า นางก็คงไม่โดนม้าดีดจนร่างกระเด็นตกลงจากหลังม้า  โชคยังดีที่นางเคยถูกม้าดีดจนตกจากหลังม้าอยู่บ่อยครั้งในกาลก่อนเมื่อยามที่เคยฝึกที่จวนของตระกูล ทำให้รู้จังหวะของการตกลงมาได้เป็นอย่างดีจึงมิได้บาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ผลที่ได้ คือ ถูกทำโทษ

    หลิวหลีถูกทำโทษโดยการให้ไปยืนกางแขนยกขาขึ้นหนึ่งข้างอยู่ตรงกลางของลานกว้างอย่างโดดเดี่ยวไกลออกไป  

    อา...

    ช่างดียิ่ง

    ถูกทำโทษเยี่ยงนี้

    ช่างดียิ่ง

    นางจะได้ออกมาจากสายตาคล้ายจับผิดนั่น

    จูหยวนจางกำลังจับผิดนางหรือไม่

    เขาจำนางได้หรือไม่

    นางกำลังกังวล

    หากเขาจำนางได้

    เขาต้องไล่นางกลับไปอย่างแน่นอน

    ไม่!

    นางไม่อยากกลับไป

    อุตส่าห์ทำมาถึงขนาดนี้

    นางไม่ยอม!

    หลิวหลียืนกางแขนยกขาหนึ่งข้างร่ำร้องอยู่ในใจตลอดเวลา

     

    และการที่หลิวหลียืนอยู่คนเดียวตรงกลางลานกว้างยิ่งทำให้จูหยวนจางพินิจพิจารณานางได้ง่ายยิ่งขึ้น 

    ยามเมื่อนางอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารนางช่างกลมกลืนได้อย่างน่าอัศจรรย์ทำให้เขาไม่สามารถวิเคราะห์นางได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

    แต่ยามนี้

    นางยืนเด่นอยู่ตรงนั้น

    เขาจะทำอย่างไรกับนางดี

    ทำอย่างไรดี...

    จูหยวนจางคิดอยู่อย่างนั้นพลางจ้องมองภรรยาของตนในคราบของบุรุษอย่างไม่วางตา

                "เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหรือไม่ อาหลิ่ว อ่ะ กินน้ำก่อน" เสียงอาต้วนยังคงเอ่ยขึ้นอย่างใส่ใจในตัวสหายอย่างหลิวหลีหลังจากนางได้กลับเข้ามายังกลุ่มทหาร แม้นางจะมิได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดแก่เขาเลย แต่เขาก็ยังดูแลเอาใจใส่นางเป็นอย่างดี  

    อาต้วนผู้นี้ช่างมีน้ำใจ นางคิดพลางยิ้มส่งให้อาต้วนอย่างจริงใจขณะรับน้ำมาดื่มกินตามคำ  ทั้งสองนั่งพักอยู่ด้วยกันไม่ไกลจากสายตาของใครบางคน ท่าทางสนิทสนมนั่นทำใครบางคนจ้องมองอย่างสังเกต

    จูหยวนจางยังคงนั่งมองภรรยาของเขาที่อยู่ในคราบบุรุษอยู่อย่างไม่วางตา

    เสียงครวญครางหวานใสพลันดังขึ้นมาในโสตประสาทของเขา  ชายหนุ่มรีบสลัดเสียงในมโนสำนึกนั้นออกไป  อยู่ค่ายทหารอย่างนี้เขาจะทำสิ่งใดได้กัน ต่อให้นางแสดงตัวตนที่แท้จริงกับเขาก็ตามที

    "ท่านรองแม่ทัพจู  สนามประลองพร้อมแล้วขอรับ" เสียงของหัวหน้าหน่วยดังขึ้นดึงสติและสายตาของจูหยวนจางให้ออกมาจากร่างของบุรุษผู้หนึ่ง  เขาเพียงพยักหน้าน้อยๆด้วยสีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา

     

    รอบบ่ายนี้การแสดงฝีมือของทหารใหม่แต่ละคนนั้นจะเป็นการประลองฝีมือการต่อสู้ตามที่แต่ละคนถนัด แม้ใครที่ต่อสู้ไม่เก่งก็ไม่เป็นไรเพราะแค่ต้องการประเมินพื้นฐานของแต่ละคนเพียงเท่านั้น  

    การต่อสู้ของแต่ละคู่ผ่านพ้นไปเป็นอย่างดี  ในที่สุดก็มาถึงคู่ต่อสู้ที่จูหยวนจางรอชม นั่นก็คือบุรุษผู้หนึ่งที่เขามั่นใจว่าเป็นภรรยาพระราชทานของเขาปลอมตัวมา 

    จูหยวนจางนั่งอยู่บนตั่งไม้เหนือกลุ่มของทหารที่ล้อมวงกันให้กำลังใจแต่ละคู่ที่เข้ามาตรงกลางวงเพื่อแสดงฝีมือ  สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไร้อารมณ์ใดๆมีเพียงสายตาที่บ่งบอกได้ว่าอยากรู้ถึงใครบางคนว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์ยามนี้

    "เริ่มได้" เสียงดังฟังชัดของหัวหน้าหน่วยตะโกนขึ้นเป็นสัญญาณให้การต่อสู้ของคู่หลิวหลีในคราบของอาหลิ่วได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน 

    คู่ต่อสู้ของหลิวหลีนั้นทั้งตัวโตกว่าหลิวหลี ทั้งแข็งแกร่งกว่าหลิวหลี เมื่อเขาเหวี่ยงแขนมาแต่ละที หลิวหลีต้องใช้สมองอันน้อยนิดของนางประมวลผลระหว่างหลบเลี่ยงกับรับแรงปะทะแล้วส่งกลับ แต่เวลาไม่ได้มีมากพอที่จะให้เสียเวลาคิด สัญชาตญาณของนางจึงทำให้นางกระโดดโหยงหลบไปไกล

    เขาวิ่งเข้าหาหลิวหลีหวังเหวี่ยงแขนฟาดฝ่ามือมาอีก หลิวหลีก็กระโดดหนีอีก เขาตามมาอีกหลิวหลีก็หมุนตัวหลบอีก เขาเข้ามาหลิวหลีหลบ เขาตามหลิวหลีหนี ภายในวงก็แคบเหลือเกินหนีไปหนีมาก็จนมุม สุดท้ายเมื่อคู่ต่อสู้ทำท่าขยับแขนขยับขาเข้าใส่หลิวหลี หญิงสาวจึงตัดสินใจฝ่าฝูงชนวิ่งหนีออกไปนอกกลุ่มอย่างไม่คิดชีวิต

    นางวิ่งไปไกลลิบไม่สนใจกฎกติกาใดๆ สร้างความขบขันให้บรรดาทหารคนอื่นที่นั่งชมเป็นอย่างมาก

    จูหยวนจางที่ตั้งใจรอชมฝีมือของนางถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้สุดชีวิตด้วยใบหน้าเรียบเฉยท่าทางเคร่งขรึม เขามิได้แปลกใจแต่อย่างใด  ดีที่นางปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนมิเช่นนั้นคงมีคนสงสัยในตัวนางเป็นแน่กับวิธีการต่อสู้อย่างนั้น

    "เจ้าจะวิ่งไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้!" หัวหน้าหน่วยตะโกนอย่างไม่ลดละไปทางหลิวหลีที่หนีไปตั้งท่าเสียไกล หญิงสาวในคราบอาหลิ่วทำได้เพียงก้มหน้างุดๆเดินกลับเข้ามายังกลุ่มตามเดิม

    อายก็อายแต่ยังดีกว่าโดนหมัดเจ้าตัวโตนั่น นางคิดในใจ

     

     

    "เจ้าชื่ออะไร" หัวหน้าหน่วยคำรามใส่หน้าหลิวหลีทันทีที่หญิงสาวเดินเข้ามายังกลุ่ม 

    เงียบ

    ไม่มีคำตอบ

    หลิวหลีไม่อยากเอ่ยคำใดออกมาด้วยเกรงว่าน้ำเสียงหวานใสของนางจะสะดุดหูใครบางคนที่นั่งอยู่บนตั่งไม้ไม่ไกลนั่น

    "เจ้าชื่ออะไร ตอบ!" เสียงแหกปากตะเบ็งใส่หูหลิวหลีจนหญิงสาวต้องห่อไหล่เอียงหน้าย้ายหูหนี ด้วยเกรงว่าพลังของเสียงนั้นจะทำร้ายใบหูของนาง  

    อาต้วนที่นั่งชมอยู่นอกวงไม่ไกลเห็นอาการห่อไหล่เอียงหัวหลบอย่างนั้นของสหายจึงตะโกนตอบแทน "อาหลิ่วขอรับ  เขาชื่ออาหลิ่ว เขามีปัญหาเกี่ยวกับการพูดขอรับท่านหัวหน้า"

    "หือ! อย่างนั้นรึ" หัวหน้าหน่วยได้ยินดังนั้นจึงเบาเสียงลงก่อนแสดงความเห็นใจบุรุษตรงหน้าพลางเอ่ย "อา...ช่างเถอะ  เจ้าห้ามวิ่งหนีออกไปนอกกลุ่มอีก รักษากฎกติกาให้ดี มันสำคัญมาก เข้าใจหรือไม่"

    จบคำของหัวหน้าหน่วยหลิวหลีรีบพยักหน้าหงึกๆก่อนจะรีบกลับหลังหันเพื่อเดินกลับไปรวมตัวกับกลุ่มทหารที่นั่งล้อมวงอยู่ในทันที

    ในขณะที่หลิวหลีกำลังเดินเข้าไปยังกลุ่มเพื่อนทหารอย่างโล่งใจ เสียงเข้มของผู้หนึ่งพลันดังขึ้น

    "หยุด!"

    หลิวหลีชะงักเท้าทันที  นั่นเสียงของจูหยวนจาง!

    "เจ้าชื่ออาหลิ่วรึ" เสียงทุ้มต่ำเนิบนาบของจูหยวนจางเอ่ยขึ้นขณะลุกขึ้นจากตั่งไม้แล้วเดินอย่างสุขุมเข้ามาใกล้หลิวหลีในรูปโฉมของอาหลิ่ว  

    หญิงสาวค่อยๆหันหน้ากลับไปหาเขาอย่างเก็บข่มอาการระแวดระวังระหวาดระแวงเอาไว้อย่างที่สุด

    "มีปัญหาเรื่องการพูดด้วย" เสียงทุ้มต่ำเรียบเรื่อยของจูหยวนจางยังคงเอ่ยขึ้นเมื่อมาหยุดยืนตรงด้านหน้าของหลิวหลี 

    สายตาคมปลาบจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวนิ่งๆอย่างหยั่งเชิงและวิเคราะห์  สีผิวเข้มขึ้น หนวดนี่ก็เหมือนมาก ช่วงไหล่บึกบึน หน้าอกหายไป  แต่กลิ่นกายนาง...

    หลิวหลีทำได้เพียงก้มหน้ามองพื้นตัวเกร็ง

    "หน่วยก้านดี" เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูของจูหยวนจางเอ่ยขึ้นพลางตบไหล่ข้างหนึ่งของหลิวหลีเป็นการกระทำของหัวหน้าที่พึงกระทำกับลูกน้อง  "เรื่องการพูดมิใช่ปัญหา  เจ้าว่าจริงหรือไม่ อาหลิ่ว" ประโยคท้ายเขาถามเสียงเข้มมาทางหลิวหลี  นางฉลาดไม่เบา คงกลัวเขาจำเสียงได้เป็นแน่ จูหยวนจางคิดในใจ

    หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสบตาของเขาที่ก้มมองลงมาที่นางนิ่งๆ สายตาของเขาไม่แสดงอารมณ์หรือความหมายใดๆ

    เขาจำนางไม่ได้

    เขาจำไม่ได้...

    ดียิ่ง!

    ดียิ่ง!

    หญิงสาวคิดในใจขณะส่งยิ้มแห้งๆพร้อมพยักหน้าหงึกๆตอบกลับไป 


    ******************

    ตอนต่อๆไปหลังจากนี้ แต่ละตอนจะยาวมากกว่านี้ค่ะ ^--^

    ฉบับ e-book ทั้ง Android และ Apple คลิก>>>www.mebmarket.com


    ขอเพียงใจรักมั่น真诚的爱
    หลี่หง
    www.mebmarket.com
    นางผู้ปักใจรักเพียงเขา ทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เขา แม้ว่าตนเองจะกลายเป็นคนโง่งมเขาผู้ที่มิได้สนใจใคร่ดีสตรีนางใด  แต่กับนาง ไม่รู้ทำไม...ชอบรบกวนหัวใจให้ได้คิดฟุ้งซ่านอยู่ตลอดเวลาหลิวหลี หญิงสาวผู้มีใจรักมั่นกับจูหยวนจางนางรักเขา ในที่สุด นางก็ได้แต่งงานกับเขา ได้เป็นภรรยาของเขาจูหยวนจาง ชายหนุ่มผู้เย็นชา ไร้ใจ เห็นความรักเป็นเรื่องโง่งมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขาเช่นนั้นหรือ อยากเป็นภรรยาของเขานักใช่หรือไม่ ได้เลย!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×