ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9: Destiny (พรหมลิขิต)
“ขาวๆ กลมๆ อวบๆ =[]=;;”
...
“ขาวๆ กลมๆ อวบๆ =[]=;;”
...
“ขาวๆ กลมๆ อวบ =[]=;;”
น่าน! มันยังไม่เลิก! = =^
คิมฮีชอลสบถพึมพำในใจ ดวงตากลมโตตวัดไปมองร่างบางผู้เป็นน้องที่นั่งมองซาลาเปาไส้ครีมที่ไอ้หมานามเยซองมาให้เมื่อวาน
“ขาวๆ กลมๆ อวบๆ =[]=;;”
ร่างบางกลอกตาไปมองข้างบนอย่างเซ็งจัดก่อนที่มือเรียวจะคว้าแก้วน้ำส้มมาดื่มอึกๆอย่างเบื่อหน่ายกับคิมเรียววุคผู้เป็นน้อง
...ที่ตอนนี้กำลังนั่งท่องประโยคนั้นมาซ้ำๆซากๆและนั่งยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้า!!!
ทำไมหนะเหรอ?
ก็เพราะว่าวันนี้มันไปเดทกับไอ้เยซองหนะสิ!!!
ก๊อกๆๆๆๆ
ฮีชอลสะดุ้งเบาๆก่อนที่จะสบถออกมาอย่างหงุดหงิด
ร่างบางเดินลากขาไปแล้วเปิดประตูบ้านออก
ดวงตากลมโตที่เคยเบิกกว้างหรี่ลงเล็กน้อยเป็นเชิงหงุดหงิดก่อนที่จะกัดริมฝีปากด้านล่างเสียจนเลือดซิบ
ใบหน้าหวานบูดบึ้งเล็กน้อย
ไอ้ห่า...ทำซะอารมณ์บ่จอยตั้งแต่เช้าเชียวนะ
ร่างบางสบถพึมพำในใจระหว่างที่มองดูบุคคลข้างหน้าอย่างเหยียดๆ
มีแค่คนๆเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถหงุดหงิดได้ทุกเช้า...
“ไอ้เยซอง!”
“ครับ
นั่นชื่อผมครับรุ่นพี่”เจ้าของชื่อพูดพร้อมกับรอยยิ้มพิฆาตใจที่ทำให้สาวๆละลาย แต่กับร่างบางนั้นไม่ได้ผล
ฮีชอลกลอกตาขึ้นไปมองข้างบนอีกครั้งก่อนที่จะหันไปมองนาฬิกาบ้านแล้วหันกลับมามอง
“มึงมาทำไม!”
“มารับเรียววุคไปเดทครับ^^”
“เออ เรื่องนั้นกูรู้...นัดว่าจะมารับเก้าโมง มึงมาทำไม 8.15?!?!!”ร่างบางตะโกนลั่นอย่างเหลืออดจนเรียววุคสะดุ้งแล้วหันมามอง
เยซองหัวเราะเบาๆก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างใจเย็น
“เผื่อฉุกเฉินไงครับ”
“ฉุกเฉินยังไงของมึง?!!”ร่างบางตะโกนลั่นอย่างโกรธจัดผิดกับคนร่างใหญ่ที่ยืนยิ้มอย่างไม่รู้ร้อน
“ก็สมมุติว่ารถติด
หรือไม่ก็รอยายแก่ข้ามถนน มันเสียเวลานานไงครับ
ผมเลยต้องกะเวลาเอาไว้...กันไว้ดีกว่าแก้นะครับรุ่นพี่”
“อะไรก็ช่าง
มึงดูแลเรียววุคดีๆหละ”ร่างบางพูดพร้อมกับเดินเข้าบ้านไปคว้ากระเป๋าเป้สีดำก่อนที่จะเดินออกมาประจันหน้ากับเยซองที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน
“มึงออกไปจากบ้านกูก่อน! ยังไม่เก้าโมงมึงห้ามเข้ามา!”ฮีชอลกล่าวเสียงเรียบ เยซองก้าวกลับไปหน้าประตูอย่างุนงง
“ทำไมหละครับ?”
“เผื่อฉุกเฉิน...แบบอะไรก็ช่าง กันไว้ดีกว่าแก้! เก้าโมงแล้วค่อยเข้ามาได้”
พูดจบก็เดินชนไหล่เยซองเดินจากไป
เรียววุคที่เพิ่งวิ่งมาหน้าบ้านกับเยซองที่เซเล็กน้อยหันไปมองร่างบางก่อนที่จะตะโกนเสียงดัง
“ไปไหนฮะพี่?!?!”
ใบหน้าหวานหันมามองเสียงตะโกนของผู้เป็นน้องก่อนที่จะตะโกนกลับอย่างเซ็งๆ
“ทำงานหาเงินเลี้ยงแดกตัวเองโว้ย!”
----------10%----------
ตึกChoi Groupตั้งตระหง่าอยู่หน้าคิมฮีชอล
ร่างบางถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดเข้าไปในตัวตึก
“อ่าว ฮีชอล สวัสดี^^”เสียงใสของพนักงานสาวดังขึ้นมาทันทีที่ฮีชอลเดินเข้ามาในตึก
“สวัสดีครับพี่ยุนเฮ”ฮีชอลกล่าวทักทายเสียงใสแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 8
หญิงสาวมองตามร่างบางจนสุดสายตาแล้วหันมาหยิบโทรศัพท์สีขาว
นิ้วเรียวกดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจก่อนที่จะแนบหูของหล่อน
“คุณซีวอนคะ คุณฮีชอลกำลังขึ้นไปชั้น8 แล้วนะคะ”
~เอ้า
แห่มาเป็นกองทัพ เรารับประกันยี่ห้อ ไม่เกี่ยงโลซ้อ ไฮซ้อ ไม่ต้องรีรอรีบติดต่อ
แจ๋ว~
ร่างบางขมั่กเขม้นในการถูใช้ไม้ม้อปถูห้องน้ำชายชั้น8 จนพื้นเป็นเงาวับ
คิมฮีชอลในเสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อนกำลังถูห้องน้ำอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะอารมณ์หงุดหงิดเมื่อเช้า
“ฮ่วย! ถูอีหยังของเอ็งอะ ถูซะเงาแว้บวับยังกับในโฆษณา!”เสียงของเพื่อนร่วมงานของตนดังขึ้น ใบหน้าหวานหันมามองเพื่อนร่วมงานจากแถบอีสาน
”ก็กูถูของกู
เสือกอะไรด้วยวะไอ้ดองวุค ห้องน้ำผู้หญิงมึงอะ ถูเสร็จแล้วเหรอ?”ฮีชอลแหวใส่อย่างเหลืออด
“ข้อยยังถูบ่อเสร็จเว้ย
เออ...ที่แวะมาหาเอ็งอะ คือท่านประธานเค้าอยากผมเอ็ง”
ใบหน้าหวานเอียงคอเป็นเชิงสงสัย
นิ้วเรียวชี้มาที่ตน
“เออ เอ็งนั่นแหละ!
คิดว่าพูดอยู่กับใคร?!?!”
“ประธานบริษัทChoi
Groupเนี่ยนะ อยากเจอกู?”
“เออ!”
“ทำไมวะ?”
“ข้อยจะไปรู้เอ็งมั้ย? ฮ่วย!”
“เออๆ”ร่างบางพูดพร้อมกับวางไม้ม้อปและถังน้ำเอาไว้ซะอย่างนั้นก่อนที่จะเดินไปยังอ่างล้างหน้าเพื่อล้างหน้าและเดินออกไปจากห้องน้ำไป
คิมฮีชอลเลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปตามทางเดินก่อนที่จะมาหยุดอยู่หน้าประตูสีขาวบานใหญ่ ข้างหน้าประตูบานนั้นมีโต๊ะเลขาส่วนตัวตั้งอยู่ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองร่างบางแล้วยิ้มให้
“คุณนี่เองคิมฮีชอล...ประธานรออยู่ข้างในแล้วคะ”หญิงสาวพูด
เจ้าของชื่อพยักหน้าแล้วเอื้อมมือไปแตะลูกบิดก่อนที่จะชะงักกับประโยคต่อไปของเลขาสาวคนสวย
“โลกนี้กลมจริงๆนะคะเนี่ย”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...
“มารยาทหนะมีมั้ย? หัดเคาะประตูซะบ้างสิ”น้ำเสียงและประโยคที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากคนร่างสูงข้างหน้าที่ยืนหันหลังให้เขาและมองหน้าต่างบานใหญ่ข้างหน้าตน
ฮีชอลใจหายวูบ
โลกนี้กลมจริงๆนะคะเนี่ย
เฮ้ย...อย่า บอก นะ ว่า...
เจ้าของเสียงหันหน้ามามอง
ใบหน้าคมคายที่ชวนคุ้นเคยหันมาแล้วยักคิ้วให้ร่างบางข้างหน้า
”ว่าไงหละคิมฮีชอล”
ชเวซีวอน!!
----------20%----------
สยิว ดิสคอฟว้าวรี่
“มองทำไม
รู้เว้ยว่าเมียกูสวย!”
เสียงทุ้มต่ำของคนร่างสูงใหญ่ข้างๆคนร่างบางเล็กทำเอาผู้คนที่จับจ้องร่างบางเล็กพากันหันหน้าหนีอย่างหวาดกลัว
“เมียอะไรของรุ่นพี่หนะครับ?”คนร่างเล็กข้างๆหันมามองเจ้าของเสียง
“ก็นายไง คิมเรียววุค”ไม่ว่าเปล่ามือหนาก็เลื่อนมาโอบสะโพกบางของเจ้าของชื่อ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเล็กน้อย
“ผมไม่ใช่เมียของรุ่นพี่สักหน่อย=///=“เรียววุคบ่นอุบอิบ
ร่างใหญ่หัวเราะเบาๆ
“แต่อีกหน่อยก็ได้เป็น”
ใบหน้าหวานหันไปอีกข้างๆ
แต่แก้มใสกลับมีสีชมพูแดงระเรื่อ
เยซองหัวเราะเบาๆอีกครั้ง
เพราะนายไร้เดียงสาแบบนี้ ฉันถึงสนใจนายไงหละ
คิมเรียววุค
คิมฮีชอลตาโตเป็นรอบแรกของวัน
อารมณ์หงุดหงิดเมื่อเช้าหายเป็นปลิดทิ้งกลายมาเป็นอารมณ์ฉงนสนเท่ห์ทันที
มือเรียวยกขึ้นมาตบหน้าตัวเองหลายๆครั้ง
ไม่ใช่! นี่ไม่ใช่ความฝัน
นี่คือความจริง!
อ้ากกกกกกกกกกก ไม่จริง!!!
จากที่ตบหน้าตัวเองจนแก้มนวลมีรอยนิ้วมือแดงๆประทับอยู่กลายมาเป็นหยิกแก้มตัวเองแต่ก็ต้องน้ำตาเล็ดเพราะความเจ็บ
ที่เห็นและเป็นอยู่...คือชเวซีวอน!
ตัวจริงเสียงจริง!!!
ร่างบางสบถพรืดออกมาอย่างไม่เคารพร่างสูงที่ยืนมองตนพร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากแม้แต่น้อย
”ทำอะไรหนะคิมฮีชอล?”
ดวงตากลมโตหันมามองร่างสูงก่อนที่ใบหน้าหวานจะขึ้นสีแดงระเรื่อ
“จารย์มาอยู่นี่ได้ไงฮะ?”ฮีชอลถาม
“สมองระดับA* เกือบทุกวิชาอย่างนายน่าจะรู้นะว่าฉันเป็นประธานบริษัทนี้”
ร่างบางเซไปสองสามก้าวก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนโซฟาสีขาวอย่างหมดแรง
สมองเริ่มต้นประมวลตามที่ร่างสูงพูดเอาไว้เมื่อครู่
“Choi Group...ชเว...ชเวซีวอน...เช็ดดดดดด!”ฮีชอลตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับเด้งตัวออกจากโซฟาราวกับเป็นของร้อน มือเรียวชี้หน้าประธานบริษัทก่อนที่ใบหน้าหวานจะซีดเผือก
“จ
จารย์เป็น...ประธานบริษัทนี้...”
ถึงว่าทำไมชื่อบริษัทนี้มันถึงโคตรคุ้นๆเลย
ทำไมนึกไม่ออกวะ!!
ใบหน้าคมคายพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงว่าใช่ก่อนที่จะเดินดุ่มๆมาหาร่างบางที่ถอนหายใจ
มือไม้ปล่อยลงแนบลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ผมขอลาออก=_=lll”
ไม่ทันที่จะหันหลังแล้วเดินก้าวไปยังประตู
มือหนาจากคนร่างสูงก็เอื้อมมาโอบกอดร่างบางเอาไว้จากข้างหลัง
“แล้วนายจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอมได้หละ? ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายและค่าอื่นๆ แล้วไหนจะอนาคตของตัวเองอีกหละ...อยู่คนเดียวก็ลำบากอย่างงี้แหละเนอะ”
ซีวอนพูดไปพร้อมกับโน้มใบหน้ามาเกยไว้ที่ไหล่บางของฮีชอล
เขารู้...ว่าฮีชอลต้องทำงานหาเงินหนักกว่าใครคนอื่นเพื่อนำมาใช้เป็นค่าเทอมและค่าอย่างอื่นโดยที่บุคคลที่ชื่อ
‘พ่อ’ที่ร่างบางเกลียดหนักหนาไม่เคยยื่นมือเข้ามาชวยแม้แต่น้อย
เขารู้...ว่าฮีชอลต้องทำงานทุกวัน ร่างบางทำงานหมดไม่ว่าจะเป็นพนักงานขายของ คนทำความสะอาดหรือแม้แต่งานอย่างอื่นยกเว้นงานตามผับ
เขารู้แล้วหละ
สาเหตุที่โดดเรียนบ่อยๆก็เพราะต้องไปทำงานที่ตนสมัครเอาไว้ เพื่อหาเงิน
เขาสงสาร...คนในอ้อมกอดนี้อย่างจับใจ
“จารย์...จารย์เป็น FBI หรือว่า CSI หรือเปล่าเนี่ย?”เสียงหวานดังลอดเข้าโสตประสาทมา
“ทำไมเหรอ?”ซีวอนถามขำๆ
“จารย์ชักจะรู้เรื่องผมมากเกินไปแล้วนะ=______=^”
ร่างสูงกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“ก็เรื่องของคนพิเศษจะไม่ให้ไม่รู้ได้หละ?”
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงก่ำอีกครั้งพร้อมกับหัวใจเจ้ากรรมที่เต้นระรัวราวกับกลองศึก
ชเวซีวอนอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าสีแดงของร่างบาง
“ว ว่าแต่ไอ้Choi
Groupนี่มันเป็นธุรกิจของตระกูลจารย์ ล
แล้วจารย์มาทำงานเป็นครำไมอะ?”ร่างบางถามเบาๆ
“ก็ฉันชอบสอนนี่
แล้วอีกอย่าง...ถ้าไม่ได้มาทำงานเป็นครู ฉันจะได้เจอนายไหมหละ?”
หัวใจที่เพิ่งสงบลงเมื่อครู่กลับมาเต้นอย่างบ้าระห่ำอีกครั้ง
“ก็ผมทำงานบริษัทจารย์...ก็เจอกันแล้...”
“แต่เจอกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้องที่ดูเหินห่างกันนี่...ดูเหมือนสวรรค์จะชอบให้พวกเราเจอกันนะว่ามั้ย?”
ซีวอนพูดขัดประโยคของคนในอ้อมกอดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดมากขึ้น
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองคน
มีเพียงเสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอเท่านั้น
ร่างบางถอนหายใจเบาๆแล้วหัวเราะออกมาราวกับประโยคเมื่อครู่เป็นเรื่องตลก
”นั่นหนะสิฮะ...ตอนแรกพวกเราสองคนก็เป็นอาจารย์กับนักเรียน
ตอนนี้ก็เป็นเจ้านายกับลูกน้อง...แต่จารย์ว่าไหมฮะ ว่าทำไมสวรรค์ถึงเล่นตลกแบบนี้”
ร่างบางสะบัดตัวหลุดออกจากอ้อมกอดของซีวอนอย่างง่ายดายแล้วหันหน้ามาประจันหน้ากับใบหน้าหล่อคมที่ฉายแววงุนงง
“เล่นตลกยังไง?”คนร่างสูงหล่อถามอย่างประหลาดใจ
“ชเวซีวอน...อาจารย์ฝ่ายปกครองและอาจารย์ประจำห้อง...ประธานบริษัท Choi
Group ที่รวยติดอันดับต้นๆของโลก...”
น้ำเสียงหวานที่ฟังดูห่างเหินและปวดร้าวดังออกมาจากริมฝีปากเรียวของร่างบางข้างหน้า
ดวงตากลมโตฉายแววเศร้าเล็กน้อย ที่ไม่รู้ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...
“จารย์เป็นเหมือนเทพบุตรที่เพอร์เฟ็คคนหนึ่ง...รูปหล่อบ้านรวยแถมยังเก่ง...”
เจ้าของเสียงที่ชื่อคิมฮีชอลลากสังขารตัวเองเดินไปทรุดลงบนโซฟาสีขาวอีกรอบ ซีวอนมองตามไปแต่ไม่พูดอะไร
“ผม...คิมฮีชอล
เด็กกำพร้านักเรียนเลวๆคนหนึ่ง
บ้านก็จนเป็นแค่พนักงานทำความสะอาด...เป็นมนุษย์เดินดิน...”
“นายจะกำลังพูดว่าอะไรฮีชอล?”ซีวอนถามอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามอง
“สวรรค์มันเล่นตลกจริงๆ จารย์ว่าไหมฮะ?”
“ยังไง?”
คิมฮีชอลถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ ริมฝีปากเรียวสีชมพูเหยียดยิ้มอย่างสมเพชในตัวเอง ฮีชอลมองหน้าร่างสูงอีกครั้งก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าออกมาว่า...
“ทำไมสวรรค์มันให้จารย์อยู่สูงกว่าผมตลอดเลย”
----------40%----------
ซีวอนชาวาบไปทั้งตัวกับประโยคที่ดูห่างเหินแต่แฝงไปด้วยความปวดร้าวจากปากของร่างบางที่นั่งหน้าเศร้าอยู่บนโซฟาสีขาวข้างหน้าตน
มันก็จริง...อย่างที่ฮีชอลว่ามา...
เขา...อยู่ตำแหน่งที่สูงกว่าฮีชอลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือประธาน
ฮีชอล...เป็นแค่นักเรียนและพนักงานทำความสะอาดที่ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน
ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ในปัจจุบันและอดีตมันช่างสูงกว่าตำแหน่งของร่างบางราวฟ้ากับเหว!!!
คิมฮีชอลเจ้าของร่างบางใบหน้าหวานนั่งหน้าเศร้าอยู่บนโซฟาสีขาวข้างหน้าตน
สักพักร่างบางก็ลุกขึ้นมายืนราวกับลืมหายใจ
ให้ตายเถอะโรบิน!
เขาเผลอพลั้งปากพูดออกไป!!
จะพูดให้สมเพชทำไมฟะ?!?!!
“ผมขอตัว”ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับกระซิบก่อนที่จะเดินไปยังประตู มือเรียวเอื้อมหมายจะจับลูกบิดประตู
“แล้วยังไงหละ?”
“เสียงของร่างสูงทำเอาฮีชอลหยุดการกระทำ มือเรียวลดลงแนบลำตัวพร้อมกับใบหน้าหวานที่หันมามองด้วยสายตางุนงง
ชเวซีวอนยืนยิ้มอยู่ข้างหน้า
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งให้คนตรงหน้าของเขา
“นายคิดว่าสวรรค์เล่นตลก...ฉันเห็นด้วยก็จริง แต่ฉันกลับขอบคุณสวรรค์มากกว่าด้วยซ้ำ!”
“ทำไมอะจารย์?”ใบหน้าหวานเอียงคอเป็นเชิงสงสัย
ร่างสูงยิ้มร่าแทนคำตอบ
เมื่อคิ้วของร่างบางเริ่มขมวดเข้าหากันเลยรีบบอกไปเพราะกลัวคนตรงหน้าจะโวยลั่น
“ขอบคุณที่ทำให้เราสองคนมาเจอกัน...เหมือนพรหมลิขิต...”
“...”
“...ให้ชเวซีวอนได้มาเจอกับคิมฮีชอลอีกครั้ง”
----------45%----------
ประโยคจากริมฝีปากหนาของร่างสูงเมื่อครู่ดับลมหายใจร่างบางไปเสียสนิท
มีเพียงเสียงหัวใจเต้นระรัวกลับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำ
ให้ตายเถอะโรบิน!
พรหมลิขิตจริงๆเสียด้วย...
ทั้งที่เป็นอาจารย์โรงเรียนเขา
เป็นอาจารย์ประจำห้องเขา และยังเป็นเจ้านายเขาอีกด้วย!!
“สวรรค์...กัดกูไม่ปล่อยจริงๆ”ร่างบางพึมพำเบาๆ
ทั้งๆที่หมั่นไส้แต่กลับเกลียดไม่ลง...ราวกับสวรรค์จงใจแกล้งให้เจอกัน
ซีวอนกลั้วหัวเราะเบาๆพร้อมกับเดินมาข้างหน้าร่างบางก่อนที่มือหนาจะคว้าข้อมือร่างบางแล้วดึงให้ลุกขึ้น
ใบหน้าหวานมองใบหน้าหล่อคมอย่างงุนงง
“ฉลองที่พรหมลิขิตให้เรามาเจอกันอีกครั้ง...ไปเที่ยวกันเถอะ^^”
สยิว ปลาร้าก้อน
ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวั่กไขว่กันในห้างสรรพสินค้าชื่อดังสุดๆในเกาหลีแล้ว ร่างสูงใหญ่และร่างบางเล็กต่างนั่งประชันหน้าตรงข้ามกัน บนโต๊ะที่คั่นกลางทั้งสองคนมีอาหารมากมายหลายชนิดเรียงรายอยู่
“เยซองขา~”เสียงเจี้ยวจ้าวของหญิงสาวที่อยู่ดีๆโผล่เข้ามาขัดจังหวะการกินข้าวของทั้งสองคน
มิหนำซ้ำเจ้าของเสียงซึ่งเป็นหญิงสาวแสนสวยในเสื้อผ้าสั้นสุดขีด
ร่างบางเล็กที่อ่อนต่อโลกอันแสนกว้างได้แต่นั่งตากระพริบมองหน้าร่างสูงใหญ่ข้างหน้าถูกหญิงสาวกอด
“เธอ ป เป็นใครหนะ! ออกไปเซ่!!!”ผู้ถูกกอดตะโกนลั่นพร้อมกับดิ้นขลุกขลักแต่หญิงสาวมือปลาหมึกกลับไม่ปล่อยซะงั้น
“อะไรกัน? จำมีซองไม่ได้แล้วเหรอคะเยซอง?”หญิงสาวถามพร้อมกับสีหน้ายั่วยวนปนเศร้าใจ
“เธอเป็นใคร?”
“มีซองยังจำลีลาอันเร้าใจบนเตียงของเยซองได้อยู่เลยนะคะ!”
เรียววุคที่ยกแกวน้ำขึ้นมาดื่มสำลักทันที
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่หน้าซีด
หญิงสาวยิ้มอย่างมีชัยพร้อมกับนั่งลงบนตักอย่างถือสิทธิ์
“เยซองคะ
ถ้าเยซองจำไม่ได้...เราไปเริ่มกันอีกครั้งก็ได้นะคะ
ตรงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นไงคะ? เร้าใจดีไหมคะ?...”
ใบหน้าหวานหน้าแดงก่ำ
มือเรียววางแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างเงียบๆ
ไม่รู้ทำไมรู้สึกโมโหคำพูดและการกระทำของหญิงสาวคนนี้นัก!
หยุดพูดสักทีเซ่!!!
เรียววุคร้องตะโกนในใจ
หญิงสาวเมื่อหันมามองร่างบางเล็กก็มองหน้าอย่างดูถูก
“เยซองคะ คนนี้ก็คบเพื่อหวังฟันแล้วทิ้งสินะคะ”
ร่างบางเล็กสะดุ้งเฮือก
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของชื่อด้วยสายตาผิดหวังและไม่อยากเชื่อ
รุ่นพี่เยซองที่ดีกับเราที่แท้ก็เป็นคนแบบนี้หนะเหรอ...?
สิ่งที่รุ่นพี่หวังก็มีเพียงฟันแล้วทิ้งงั้นเหรอ?...
เรามันโง่เองที่ไม่ยอมเชื่อฟังพี่ฮีชอลเสียแต่แรก
ดวงตาสีดำของร่างบางเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาใสที่เริ่มไหลอาบแก้มนวล ไม่รู้ทำไมต้องร้องไห้ด้วย...
ก่อนที่มีซองหรือเยซองจะพูดอะไรต่อไปอีก
เสียงหวานอีกเสียงก็ดังลั่นขึ้นมา
“พล่ามเสร็จยังคะ?”
มือบางเรียวรีบยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาลวกๆก่อนที่จะหันไปมองเจ้าของเสียงที่แสนจะคุ้นเคยที่ไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ได้...
"จ้องทำไมคะ? หน้ากูเหมือนแม่มึงเหรอ?"
พี่ชายตัวแสบของเขา...คิมฮีชอล?!?!!!!
----------50%----------
ใบหน้าหวานมองหน้าหญิงสาวบนตักของเยซองอย่างสมเพชและเหยียดหยาม
ดวงตากลมโตที่จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาและรังสีความเย็นยะเยือกอย่างน่ากลัวแผ่ออกมาจากร่างบาง
คิมฮีชอลละสายตาจากหญิงสาวมามองเยซองที่นั่งมองตนอย่างกลัวๆ
เป็นครั้งแรกที่เขากลัวร่างบางที่แสนเย็นชาและน่ากลัวที่ชื่อคิมฮีชอล!!!
“แกเป็นใคร นังกระเทย กล้าดียังไงมาด่าฉัน?!?!”หญิงสาวที่ทนไม่ไหวกับประโยคด่าทอเมื่อครู่ลุกขึ้นจากตักของเยซองแล้วชี้หน้าด่าร่างบาง
เจ้าของประโยคด่ามีซองหัวเราะเบาๆก่อนที่จะหันไปมองหน้าร่างสูงที่ยืนมองตนอย่างอึ้งๆ
“โทษฮะ ลืมไปเลยว่าจารย์มาด้วย...เอาเป็นว่า...”
ฮีชอลถอนหายใจแล้วยิ้มให้ ความเย็นชาเมื่อครู่หายไปเหลือเพียงความอ่อนโยนจนซีวอนสามารถสัมผัสได้
“Just watch and see...enjoy the show^^”
เรียววุคมองหน้าพี่ชายตนอย่างอึ้งๆ
ไม่น่าเชื่อ...รอยยิ้มที่อ่อนโยนและอบอุ่นราวกับทำให้โลกทั้งใบที่เคยมืดมิดกลายมาเป็นสว่างไสวนั่น...
รอยยิ้มที่ฮีชอลมักจะมอบให้เขาคนเดียว...มอบให้อาจารย์ฝ่ายปกครองโรงเรียนเขาที่ไม่รู้มาอยู่กับพี่เขาได้ไง?!!!!
“มองหน้าทำไม? หน้าเหมือนแม่มึงเหรอ? อีเวร!”ทันทีที่ร่างบางหันกลับมา
ความเย็นชาก็กลับมาอย่างรวดเร็ว
คิมฮีชอลช่างเปลี่ยนโหมดได้รวดเร็วปานความเร็วแสงเสียจริง=
=^
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!”หญิงสาวคู่กรณีกรีดร้องเสียงดังจนทุกคนเอามือปิดหูรวมถึงฮีชอลด้วย
“กรี๊ดทำพระแสงอะไรวะ? กูไม่มีธุระกับมึง ไสกบาลออกไปได้เลย กูมีธุระกับไอ้เวรนี่”มือเรียวชี้หน้าเยซองที่ก้มหน้าด้วยสีหน้าผิดๆ
เรียววุคมองตามที่พี่ชายแสนโหดของตนชี้
“มึงมีธุระอะไรกับผัวกู?!”มีซองกรีดร้องเสียงดัง ร่างบางชะงักก่อนที่จะเปรยสายตาไปมองเรียบๆ
“ผัว? ไอ้ซาลาเปาควาย! มึงตาต่ำขนาดเอาคนหน้าตาทุเรศกว่าส้นตีนกูไปเป็นเมียอีกเหรอวะ?!”
“แก! แกรู้มั้ยว่าพ่อชั้นเป็นใคร?!!”หญิงสาวพูดประโยคที่ชอบใช้ และแน่นอนทุกย่อมขอโทษเธออยู่แล้ว
เพราะพ่อเธอเป็นถึงประธานบริษัทท่องเที่ยวชื่อดัง!
ร่างบางเงียบกริบทำให้หญิงสาวได้ใจ ก่อนที่มีซองจะอ้าปากเพื่อด่าต่อ คิมฮีชอลก็หัวเราะอย่างสมเพชขัดขึ้นมา
“โอ้ยยย ฮะๆ
ไม่เคยเจอคนโง่เท่าแกมาก่อนเลย”
“ทำไม? แกรู้มั้ยพ่อชั้นเป็นใครชื่ออะไร?
นังกระเทย?!?!!!”
แต่คิมฮีชอลกลับหัวเราะหนักยิ่งขึ้นราวกับเป็นเรื่องตลก
หญิงสาวยืนหน้าแดงอย่างโกรธจัด
“ไอ้ลูกเนรคุณ!
ชื่อพ่อมึงยังเสือกจำไม่ได้! แล้วจะไปรู้มั้ยว่าพ่อหล่อนอะชื่ออะไร?!!!!”
เรียววุคกระตุกยิ้มที่มุมปาก
เยซองหัวเราะเบาๆ ซีวอนหัวเราะดังลั่น
หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้างกับประโยคเมื่อครู่...
ทุกครั้งที่หล่อนพูดแบบนั้นจะมีแต่คนกลัว
แต่ไอ้กระเทยนี่เป็นคนแรกเลยที่กล้าพูดแบบนี้กับหล่อน!!!
“พ
พ่อฉันเป็นประธานบริษัทท่องเที่ยวนะยะ!!!”หญิงสาวตวาดลั่นอย่างเหลืออด มีซองยิ้มอย่างมีชัยและรอดูปฏิกิริยาของร่างบางข้างหน้า
“แค่เนี้ย? แล้วมาเบ่ง? ขอโทษเหอะ มึงรู้ปะ?...”
ฮีชอลเว้นวรรคพร้อมกับเดินหันหลังกลับไปมองซีวอนที่มองตนอย่างงุนงง มือเรียวสอดเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งแล้วซบใบหน้าหวานลงบนแขนแกร่งของร่างสูง
“คนเนี้ย ประธานบริษัทChoi Group...แล้วก็...”
หญิงสาวตาโตแล้วมองหน้าซีวอน
ไม่น่าเชื่อ....! เพราะบริษัทพ่อเธอกลายเป็นบริษัทกระจอกๆไปเลยเมื่อเทียบกับChoi Group
คิมฮีชอลกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะปล่อยไม้ตายออกไป
“ชเวซีวอนหนะ ผัวกูเอง!”
----------60%----------
มีซองกรีดร้อง เรียววุคตาโต
เยซองลุกขึ้น ร่างสูงของชเวซีวอนสะดุ้งราวกับโดนไฟฟ้าช้อตก่อนที่จะแข็งทื่อ
“ฉ ฉันไม่เชื่อ!”หญิงสาวกรีดร้อง
ร่างบางเบ้ปาก
“งั้นคงต้องโชว์ให้ดูสินะถึงจะเชื่อ”เสียงหวานพูดอย่างเบื่อๆ
และก่อนที่ซีวอนจะได้อ้าปากพูด มือเรียวก็คว้าเนคไทก่อนที่จะกระชากให้ใบหน้าหล่อคมมาประจันหน้ากับตน และก่อนที่มีซองจะกรีดร้องหรือเรียววุคจะเอามือปิดปากตน ริมฝีปากของร่างบางก็รีบประกบเข้ากับริมฝีปากหนาเย็นของซีวอนทันที!
ดวงตาคมเข้มเบิกโตอย่างตกใจกับจูบอย่างสายฟ้าแลบของร่างบางก่อนที่จะกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ก็ดูเหมือนว่าคิมฮีชอลจะเพิ่งจูบคนเป็นครั้งแรกหนะสิ!
“เหมือนท่าจูบนายแกดูเก้ๆกังๆเลย อีนังกระเทย”มีซองพูดเยาะเย้ยหลังจากที่ร่างบางรีบผละออกมาจากซีวอน
ใบหน้าหวานมองอย่างเคียดแค้นไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง
ก็เออสิ!
เมื่อกี้จูบแรกกูนะโว้ย!
ร่างสูงมองร่างบางที่เพิ่งจูบตนอย่างขำๆ ใบหน้าหวานโกรธจัดอย่างทำอะไรไม่ได้
เห็นทีคงต้องช่วยเสียหน่อยแล้วสินะ...
“ฮีชอลเค้าอายหนะ...”เสียงทุ้มต่ำของร่างสูงดังขึ้น ทุกคนหันไปมองซีวอนที่เอื้อมมือหนาข้างหนึ่งมาคว้าเอวร่างบางให้เข้ามาชิดกับตนแล้วเลื่อนมาจับท้ายทอยแทน มือหนาอีกข้างหนึ่งเชยคางให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองตน
“ของจริงหนะ...มันอันนี้ต่างหาก!”
แต่ก่อนที่คิมฮีชอลจะอ้าปากถาม
ริมฝีปากหนาก็ประกบเข้ากับริมฝีปากเรียวเล็กของร่างบางอีกครั้งพร้อมกับลิ้นร้อนที่ส่งมาเกี่ยวตวัดกับลิ้นเล็กอย่างหิวกระหาย
“อื้ออออ...”ร่างบางครางเสียงหวาน
ลิ้นเล็กผลักไสไล่ลิ้นร้อนของร่างสูงแต่ยิ่งผลักไสมากเท่าไหร่ กลับกลายเป็นเกี่ยวรัดราวกับจะเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น!!!
ใบหน้าหวานถอยหนีแต่กลับทำไม่ได้ดั่งใจคิดเพราะมือหนาที่จับท้ายทอยของตนไม่ให้ไปไหน
ชเวซีวอนผละถอนริมฝีปากแล้วดูดริมฝีปากล่างของร่างบางจนเป็นสีแดงก่อนที่จะถอนจูบออกก่อนที่จะประทับริมฝีปากลงบนปากร่างบางอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง
“นี่แหละ ของจริง”
มีซองตาโตเหมือนกับเรียววุคผู้เป็นน้อง
มือเรียวบางของเรียววุคยกขึ้นมาปิดปาก แม้แต่เยซองเองก็มองอย่างอึ้งๆ
ชเวซีวอน
อาจารย์ฝ่ายปกครองและอาจารย์ประจำห้องคิงปี4เพิ่งจูบกับคิมฮีชอล
เด็กนักเรียนแสนแสบและผู้กุมอำนาจมืดหลังม่านดำของโรงเรียนอย่างดูดดื่ม!!!
“พระเจ้า...”ร่างบางเล็กเปรยขึ้นออกมาเบาๆเมื่อพี่ชายตนที่อึ้งไปเล็กน้อยยิ้มออกมาพร้อมกับเขย่งเท้าไปหอมแก้มผู้ที่เพิ่งตีตราว่าเป็นสามีตน
“เชื่อยัง?”คิมฮีชอลเปลี่ยนโหมดอย่างรวดเร็ว
จากที่ช้อกไปเพียงเสี้ยววินาทีกลายมาเป็นโหมดเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม
“...”หญิงสาวตาค้างสุดๆก่อนที่จะหันไปหาเยซองอย่างขอความช่วยเหลือ
“อะไร? ก็บอกแล้ว...”
“...เธอแค่พวกที๋ฉันฟันแล้วทิ้ง...”
ร่างสูงใหญ่เดินผ่านหญิงสาวที่มองตนอย่างโกรธๆ
เยซองเดินมาแล้วโอบไหล่เรียววุคที่ตัวแข็งทื่อ
“แต่คนนี้หนะ ตัวจริง”
----------65%----------
มีซองกรีดร้องอีกรอบ
เรียววุคผู้โดนอ้างหน้าแดงอย่างอึ้งๆเล็กน้อยก่อนที่จะโดนตบหน้าหันโดยฝีมือของหญิงสาว
หญิงสาวเงื้อมือขึ้นจะตบหน้าอีกรอบ
แต่กลับโดนมือเรียวของบุคคลอีกคนหนึ่งคว้าเอาไว้
“ทำ อะ ไร ของ มึง?”คิมฮีชอลถามด้วยน้ำเสียงช้าๆและเย็นชา
ดวงตากลมโตมองอย่างโกรธชนิดเรียบๆและเย็นชา
มีซองใจหายวูบกับสายตาที่แสนน่ากลัวของร่างบาง หญิงสาวสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมของฮีชอล
มือเรียวของร่างบางผลักไหล่ของหญิงสาวจนเซไปหลายก้าวก่อนที่จะมองหน้าหล่อนอย่างคาดโทษ
“กูไม่ทำอะไรมึง เพราะไม่อยากเป็นไอ้หน้าตัวเมียทำคนสันดานต่ำช้าอย่างมึง...”ฮีชอลพูดเว้นเอาไว้ก่อนที่มือเรียวจะหยิบโทรศัพท์สีแดงของตนขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์และกรอกเสียงเข้าไป
“ฮัลโหล โบอา...แกอยู่ไหนเนี่ย?
เออ มาปลาร้าก้อนชั้น3 ร้าน The Foodได้ปะ? เออๆ รู้ดีนี่ว่าจะให้ทำอะไร เร็วๆด้วย”
โทรศัพท์สีแดงถูกเก็บเข้าไปในกางเกงยีนส์อีกครั้ง ใบหน้าหวานยิ้มให้หญิงสาวอย่างมีชัยเหนือกว่า ซีวอนและเยซองได้แต่ยืนมองอย่างงุนงง มีเพียงเรียววุคที่โดนโอบกอดเท่านั้นที่หน้าซีดโดยที่ไม่มีสังเกตุ
“ฮีชอล มีไรวะ?”เสียงหวานอีกเสียงดังขึ้น
หญิงสาวในเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาเด้พสีดำเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบๆปนหงุดหงิดเล็กน้อย
หญิงสาวอีกคนมองหน้าเรียววุคที่ตัวสั่นหน้าซีดด้วยความกลัวราวกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปก่อนที่จะหันไปมองเยซองอย่างเหยียดๆโดยใช้สายตากับที่ฮีชอลมักจะใช้มองเยซอง
แล้วค่อยหันไปหาบุคคลที่เรียกตัวหล่อนมาทำให้หล่อนเสียเวลาช้อปปิ้ง!
ดวงตากลมโตเบิกโตอย่างงุนงง
“อ อาจารย์ซีวอนO_O”
“กวอน...โบอา?”ร่างสูงเรียกชื่อแล้วมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างตกใจ
ดวงตากลมโตเบิกโตอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ
วันนี้มันวันรวมญาติกันหรือไงฟะ?!
กวอน โบอา นักเรียนหญิงห้องคิงปี4 ผู้ที่เรียบร้อยที่สุดในห้องกลับกลายมาเป็นสาวเปรี้ยวเมื่ออยู่ข้างนอก
“เด็กห้องคิงปี4หนะ มีหน้ากากอยู่สองหน้ากาก...อย่างโบอาเนี่ย ในโรงเรียนเป็นคนเรียบร้อย
แต่พอนอกโรงเรียนแล้ว...มือขวาผมเองฮะ^^”
ใบหน้าคมหล่อหันมามองร่างบางในอ้อมกอดของตนอย่างงุนงงก่อนที่จะทบทวนกับประโยคของร่างบางอีกครั้ง
มือขวางั้นเหรอ?
“ฮีชอลเป็นหัวหน้าแก็งเด็กสยิวคะอาจารย์ซีวอน”
แก็งเด็กสยิว...แก็งที่ยิ่งใหญ่และน่ากลัวที่สุดในสยิว...
หัวหน้าที่แทบจะไม่มีใครรู้จักและเห็นหน้า
คนๆนั้นคือคิมฮีชอล?!!
กวอน
โบอาหันหน้ามามองมีซองแล้วหันกลับไปสบตากับร่างบางก่อนที่จะกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“คนนี้หนะเหรอที่กล้าตบน้องสุดรักสุดหวงของแกอะ?”ใบหน้าหวานพยักหน้า
โบอายิ้มเยาะก่อนที่จะส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงจิ้จ้ะในลำคอเป็นเชิงน่าสมเพช
หญิงสาวเดินตรงไปหามีซอง
มือเรียวจิกเข้าที่ผมสีน้ำตาลไฮไลท์ของมีซองแล้วกระชากให้มีซองเงยหน้าขึ้นมามองหล่อน
“ข้อแรกเลยนะ...คิมเรียววุคน้องชายของคิมฮีชอลหนะ
เป็นคนที่คิมฮีชอลรักและหวงแหนที่สุด...จำใส่กบาลเอาไว้เลยนะ...ว่าถ้าทำร้ายเรียววุคหละก็
พวกฉันเอาคืนเป็นเท่าตัว!!!”
พูดจบพร้อมกับมือเรียวที่สะบัดใส่หน้าของมีซองจนเจ้าตัวล้มลงไปกองกับพื้น
โบอาถลาไปจิกผมของมีซองให้เงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่จะรัวฝ่ามือสะบัดใส่หน้าไปไม่ยั้ง!!!
“ไปกันเถอะฮะ
ทางนี้โบอาจัดการแล้ว”ร่างบางพูดพร้อมกับหันหลังกลับแล้วหันมามองซีวอนที่ยืนมองนักเรียนของตนที่เคยเรียบร้อยกลายมาเป็นโหมดโหดอย่างอึ้งๆ
“ไม่ต้องห่วงฮะ
แก็งโบอามันคุมปลาร้าก้อนฮะ เราไปกันเถอะ...เยซอง! พาเรียววุคแล้วตามกูมา!!!”
ร่างบางหันไปตวาดลั่นใส่เยซองแล้วเดินนำออกไปจากร้านอาหาร
เรียววุคหันไปมองเจ้าของชื่อด้วยความสงสารปนเห็นใจ
เยซอง...ทำให้เรียววุคร้องไห้...และโดนตบ...
โทษ...ตายห่า!!!
----------80%----------
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเชียบและเย็นชาข้างหลังห้างสยิว
ปลาร้าก้อนนั้น มีเพียงเสียงลมหายใจของบุคคลทั้งสี่
คนที่หนึ่ง คิมฮีชอล
ร่างบางใบหน้าหวานผมสีแดงนั่งอยู่บนโต๊ะหินอ่อน
ดวงตาลกมโตจ้องไปยังร่างสูงใหญ่ที่ก้มหน้าก้มตาอย่างหวาดกลัวร่างบางและสายตาเย็นชาแสนน่ากลัวนั่น
รัศมีเย็นยะเยือกยิ่งกว่าน้ำแข็งทำเอาบุคคลอีกสามคนพากันปิดปากเงียบอย่างเกรงกลัว
แม้แต่คนที่นั่งข้างๆร่างบางยังอดไม่ได้ที่จะต้องแอบเหลือบดูว่าคนข้างๆตนจะเปิดปากพูดเมื่อไหร
ชเวซีวอนนั่งตรงเก้าอี้ข้างๆร่างบาง ใบหน้าคมคายและดวงตาคมเข้มหันมามองคิมฮีชอลผู้แสนน่ากลัวในตอนนี้เป็นระยะๆ
คิมเรียววุคนั่งข้างขวาข้างๆร่างบาง
ใบหน้าหวานซีดอย่างเห็นได้ชัด
ถึงร่างบางเล็กจะตัวสั่นอย่างหวาดกลัวมากเท่าไหร่แต่เจ้าตัวก็ไม่กล้าเปิดปากพูดแม้แต่น้อย
บุคคลสุดท้ายยืนก้มหน้านิ่งอย่างหวาดๆกับสายตาคมกริบที่ถูกส่งมา
“ไอ้ซาลาเปา...”เสียงหวานเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างเรียบๆและเย็นชา เจ้าของชื่อค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง
ไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อไป
หมัดจากร่างบางก็ปล่อยมาประจันกันใบหน้าหล่อๆของเจ้าของชื่อทันที
ร่างสูงใหญ่เซไปแต่ไม่ล้ม ของเหลวสีแดงข้นไหลออกมาจากริมฝีปากหนาของเจ้าตัว
“เยซอง!”ร่างบางเล็กตะโกนเรียกคนเจ็บอย่างลืมความหวาดกลัวทั้งสิ้น
เรียววุยืนขึ้นพร้อมกับทำท่าจะวิ่งไปหาร่างสูงใหญ่ที่เช็ดเลือดตรงมุมปากของตนแต่มือเรียวของร่างบางผู้เป็นพี่กลับยื่นมาขวางเป็นเชิงไม่ให้มายุ่ง
“ถ้าสมองเด็กคิงของมึงจำได้
กูเคยบอกว่าถ้ามึงทำให้เรียววุคเสียใจ...กูจะบึ้มบ้านมึง จำได้มั้ย?!!”คิมฮีชอลตวาดดังลั่นจนเรียววุคสะดุ้งแล้วมองพี่ชายตนอย่างหวาดๆ แม้แต่ซีวอนเองยกแอบกลัวนิดๆกับร่างบาง
เยซองพยักหน้าก่อนที่จะลงไปนอนกองกับพื้นอีกครั้งเมื่อร่างบางเสยหมัดอีกครา
“มึงทำเรียววุคร้องไห้...แล้วก็โดนตบ...”ร่างบางพูดเสียงเรียบพร้อมกับใช้เท้ายันหน้าอกร่างสูงใหญ่ไม่ให้ลุกขึ้นมา
ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าเรียบๆของเยซองอย่างเย็นชาไม่แพ้กัน
ไม่มีคำพูดจากคนที่โดนต่อยจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากอย่างเยซอง
“...กูเปลี่ยนจะแล้ว กูจะไม่บึ้มบ้านมึง...”ฮีชอลทิ้งช่วงเอาไว้ก่อนที่จะถีบยอดอกเยซองให้ลงไปนอนกองกับพื้นอีกครั้ง
“...กูจะตื้บมึงแท.../อย่านะ!”
คิมเรียววุคตะโกนขัดผู้เป็นพี่อย่างบ้าบิ่นก่อนที่จะหน้าซีดเมื่อทบทวนว่าตนได้ทำอะไรลงไป
ร่างบางที่โดนขัดค่อยๆหันหน้ามามองอย่างเยือกเย็น
ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังร่างบางเล็กของผู้เป็นน้อง
“ทำไมหละ?”ฮีชอลถามเรียบๆ
“พี่...ร รุ่นพี่เยซองเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่...พ
พี่ก็ต่อยเขาไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ล
แล้วผู้หญิงที่ชื่อมีซองอะไรนั่นหนะ พี่ก็ให้พี่
โบอาไปตบแทนแล้วไม่ใช่เหรอ? แค่ร้องไห้กับโดนตบ...ผม...ไม่เป็นไรหรอก!
ถ ถ้าผมโดนมากกว่านี้พี่จะฆ่ารุ่นพี่เขาเลยใช่ไหม?!?!!!”เรียววุคถามเสียงสั่นๆ
“ใช่”ร่างบางตอบทันทีที่น้องชายของตนจบประโยค เรียววุคเข่าทรุดทันทีก่อนที่จะเริ่มต้นร้องไห้
ซีวอนนั่งยองๆปลอบร่างบางเล็กที่นั่งร้องไห้
คิมฮีชอล...ผู้เป็นพี่...เข้มแข็งและบ้าดีเดือด
คิมเรียววุค...ผู้เป็นน้อง...อ่อนแอและอ่อนต่อโลก
สองคนนี้เป็นพี่น้องที่ช่างต่างกันอะไรเช่นนี้ ให้ตายเถอะโรบิน!!!
“ห่าเอ้ย”ร่างบางสบถออกมาเบาๆก่อนที่จะผละเท้าตนออกจากอกของเยซองแล้วเดินมาหาเรียววุคที่นั่งร้องไห้แล้วนั่งยองๆข้างหน้าน้องชายตน
“พี่แค่ไม่อยากให้นายต้องมาเจ็บ...พี่ห่วงนาย
ก็นายเป็น...ครอบครัวคนสุดท้ายของพี่นี่”ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง!
“เห็นแก่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนะ
พี่จะปล่อยไป...แต่ถ้ามันทำให้นายร้องไห้หรือโดนตบอีก...”
คิมฮีชอลลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมองไปยังด้านซ้ายของมุมตึกสยิว ปลาร้าก้อน ไม่กี่อึดใจร่างของโบอาก็เดินมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยตบจนแก้มแดงแจ๋ เลือดออกที่มุมปาก ผมเผ้าย่งเหยิงราวกับคนบ้า
ดูดีๆ คนนั้นก็คือมีซองนั่นเอง!
“....มันจะเป็นแบบยัยนั่น”
พูดจบก็พยักหน้าให้โบอา
หญิงสาวยิ้มกว้างก่อนที่จะทึ้งผมมีซองแล้วลากออกไปจากที่นี่เพื่อจะพาไปปล่อยหน้าป้ายรถเมล์
คิมเรียววุคยืนขึ้นมาแล้วโผเข้ากอดร่างบาง
ร่างสูงมองอย่างอิจฉานิดๆก่อนที่จะท่องในใจตนเงียบๆว่า...
กอดกันแบบพี่น้อง
แต่ที่ฮีชอลกอดเรา เค้ากอดแบบคนพิเศษ วะฮะฮ่าๆ
“กลับบ้านกันเถอ...”
ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ดๆๆๆ
เสียงนกหวีดดังขัดประโยคของเรียววุค ผู้เป็นน้องผละออกจากอ้อมกอดแล้วเบ้ปากราวกับเด็กๆก่อนที่จะหันไปมองต้นเสียงนกหวีดเหมือนที่พี่ชายตนและร่างสูงทำ
ตำรวจชาวเกาหลีท้องถิ่นคนหนึ่งเดินมาหาร่างบางพร้อมกับใบหน้าดุๆเล็กน้อย
”ทำร้ายร่างกายกันเมื่อครู่! ปรับ 2,000 วอน!!!”
ใบหน้าหวานของฮีชอลหันไปมองผู้เป็นน้องแล้วมองหน้าซีวอนที่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะหยิบกระเป๋าตังค์
ร่างบางยิ้มให้พร้อมกับมือเรียวที่เอื้อมไปแตะมือหนาเป็นเชิงห้าม
”2,000 วอนเหรอฮะ?”ร่างบางถามอีกครั้งพร้อมกับหันไปมองเยซองที่ค่อยๆพยุงตัวแล้วเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะโบกมือลาเรียววุคด้วย เรียววุคหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข
ร่างบางยิ้มกับตัวเองเมื่อน้องชายของตนกลับมายิ้มได้เหมือนเดิมก่อนที่มือเรียวจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของตนบ้างแล้วควักเอากระเป๋าตังค์สีดำออกมาแล้วเปิด
เรียววุคชะโงกหน้าขึ้นไปก่อนที่จะมองใบหน้าหวานของผู้เป็นพี่อย่างรู้ทัน
ทั้งสองคนยิ้มให้กันก่อนที่เรียววุคจะเดินไปแล้วดึงร่างสูงให้ออกมาห่างๆ
มือเรียวหยิบแบงค์พันสองใบมาแล้วยื่นให้ตำรวจคนนั้นเพื่อจ่ายค่าปรับก่อนที่จะรีบเก็บกระเป๋าตังค์ใส่กางเกงยีนส์ของตนแล้วหันมาตะโกนใส่ซีวอนที่ยืนมองอย่างงุนงง
“จารย์! เผ่น!!!”
พูดจบก็วิ่งหนีผ่านหน้าร่างสูงอย่างรวดเร็ว
ซีวอนมองตามไปอย่างงุนงงก่อนที่จะพบว่าเรียววุคเองก็กระชากแขนของตนให้วิ่งตามก่อนที่จะปล่อยมือซีวอนแล้ววิ่งตามผู้เป็นพี่ไป
ร่างสูงวิ่งตามไปอย่างช้าๆเพราะอยากรู้ว่าทำไมคิมฮีชอลคนนี้ถึงได้วิ่งหนีตำรวจคนนั้นทั้งๆที่จ่ายเงินไปแล้ว...
ปี๊ดๆๆๆ ปี๊ดๆๆๆๆ
ใบหน้าหล่อคมหยุดวิ่งก่อนที่จะหันไปมองตำรวจคนนั้นที่วิ่งตามมา
ในมือของตำรวจคนนั้นถือแบงค์พันที่มีรูปโดเรมอนยืนยิ้มอยู่ทั้งสองใบ...
ชเวซีวอนหัวเราะดังลั่นอย่างเข้าใจทันทีแล้วออกวิ่งสุดแรงเกิดเพื่อตามร่างบางทั้งสองคนหนีตำรวจ
ทำไมหนะเหรอ? ก็ไอ้ 2,000 วอนที่คิมฮีชอลจ่ายหนะ...
...มันเป็นแบงค์กาโม่หนะสิ!!!
--------------------------------------------------------------------------------
ซินเกือบตื้บเย่แว้วววว...
สาวกเย่โล่งใจกันเป็นแถวววว~~~
100%ส้ากกาที!!!
ซ๊องจะขอพักเบรกจากฟิกนี้หน่อย
จะไปแต่งตอนจบของMy Oneแล้วก็อัพฟิกใหม่ด้วยคะ
^__________________________________________^
ความคิดเห็น