บ้าไปแล้ว! นายมันไม่ใช่จิตแพทย์เลยสักนิด! (นิยายแปล)

ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 คัมภีร์เทียนจี

ถนนเหอฟาง

ย่านการค้าที่คึกคักและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองหางโจว

ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์และห้างสรรพสินค้าทันสมัย สองข้างทางคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวตั้งแต่เช้าจรดเย็น แม้แต่บริเวณปลายถนนที่เงียบสงบกว่าส่วนอื่น ๆ ก็ยังมีผู้คนเดินผ่านเป็นระยะ

ทว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและดูดีคนหนึ่งกลับเลือกที่จะปิดร้านก่อนเวลา

ไม่กี่วันก่อน เฉินหยู ได้รับข่าวดีอย่างไม่คาดคิด

เขาได้รับมรดกเป็นร้านขายของเก่าจากคุณตาอาของแม่ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ

เขาเข้ามาดูแลร้านด้วยความยินดี แต่สิ่งที่รอเขาอยู่คือร้านที่แทบจะกลายเป็นห้องเก็บของที่เต็มไปด้วยข้าวของจิปาถะไปเสียแล้ว

สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในระหว่างที่เขากำลังจัดข้าวของ เขาเผลอไปชนเข้ากับชั้นหนังสือ ทำให้ช่องลับบนชั้นหลุดออกมา และหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งร่วงลงมาตรงหน้า หนังสือนั้นมีชื่อว่า "คัมภีร์เทียนจี"

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า "คัมภีร์เทียนจี" เป็นตำราลับที่สามารถเปิดเผยชะตาฟ้าได้ หากช่วยผู้คนเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพวกเขาได้สำเร็จ ผู้ใช้จะได้รับพลังบำเพ็ญเพียร จนในที่สุดสามารถบรรลุความเป็นเซียน

ตอนแรก เฉินหยูคิดว่ามันคงเป็นแค่หนังสือแต่งเรื่องไร้สาระ แต่เมื่อเขาลองเปิดอ่านด้วยความสงสัย เขากลับพบว่าเนื้อหาในหนังสือช่วยให้เขาเรียนรู้ “ความสามารถในการล่วงรู้ชะตา” ได้จริง!

ความตื่นเต้นพุ่งพล่านในใจ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะทดสอบความสามารถนี้ แต่ไม่นานนักเขาก็ต้องเจออุปสรรคสำคัญ ความสามารถนี้มีข้อจำกัด นั่นคือเขาจะต้องรอให้ผู้คนเดินเข้ามาหาเขาก่อน

ปัญหาคือ ใครกันจะมาหาชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าเพื่อทำนายดวงในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อีกแล้ว

หลังจากคิดทบทวนอยู่นาน เฉินหยูก็ปิ๊งไอเดีย นั่นคือการเป็น นักจิตวิทยา

โชคดีที่เขาเพิ่งจบการศึกษาด้านจิตวิทยามาพอดี

เขาจึงวางแผนว่าตราบใดที่มีคนมาขอคำปรึกษาด้านจิตวิทยา เขาจะใช้โอกาสนี้ช่วยพวกเขาทำนายชะตาชีวิตไปด้วย

เฉินหยูจึงเปลี่ยนร้านขายของเก่าให้กลายเป็นห้องให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา

แต่สิ่งที่เขามองข้ามคือ คนส่วนใหญ่ที่ต้องการคำปรึกษามักจะไปโรงพยาบาลหรือสถานบริการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง มากกว่าที่จะเข้าห้องปรึกษาเล็ก ๆ แบบนี้

ความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น เฉินหยูใช้เวลาอยู่ในร้านหลายวัน แต่ไม่มีใครหยุดเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว

จนกระทั่งสองวันก่อน เฉินหยูเห็นประกาศในแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด "หูอวี่" ที่เชิญนักจิตวิทยามาให้ความรู้เรื่องสุขภาพจิต เขาเห็นว่านี่อาจเป็นโอกาสเหมาะในการประชาสัมพันธ์ห้องปรึกษาของเขา

แม้คนดูส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่ในหางโจว แต่เขาก็สามารถให้คำปรึกษาผ่านวิดีโอออนไลน์ได้

เฉินหยูรีบติดต่อกับทางแพลตฟอร์มทันที แต่ก็ได้รับคำตอบว่ามีผู้สมัครจำนวนมากและขอให้รอการติดต่อกลับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ดูแลกิจกรรมเห็นรูปถ่ายของเฉินหยู พวกเขาก็ตัดสินใจเลือกเขาทันที

วันนี้ เฉินหยูจึงปิดร้านตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อขึ้นไปชั้นสอง เตรียมตัวสำหรับการถ่ายทอดสดในตอนเย็น

ด้วยความช่วยเหลือของแอดมินสาว เฉินหยูก็สามารถจัดการตั้งค่าอุปกรณ์ถ่ายทอดสดได้อย่างราบรื่น

เวลาหนึ่งทุ่มตรง เฉินหยูเริ่มเปิดห้องถ่ายทอดสด

โจวเข่อซิน เป็นสตรีมเมอร์เกมชื่อดังในแพลตฟอร์ม หูอวี่

ด้วยหน้าตาและรูปร่างที่สะดุดตา บวกกับสไตล์การถ่ายทอดสดที่เป็นกันเองและอารมณ์ขัน เธอจึงมีแฟนคลับติดตามจำนวนมหาศาล

แต่ช่วงนี้ โจวเข่อซินหายหน้าหายตาไปหลายวัน เนื่องจากเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย ทั้งกายและใจ

วันนี้เธอตั้งใจจะพักผ่อนอีกหนึ่งวัน แต่เมื่อเห็นในกลุ่มแชทว่ามีนักจิตวิทยามาให้ความรู้ในแพลตฟอร์ม เธอก็รีบถามผู้ดูแลทันทีว่าเธอสามารถขอวิดีโอคอลกับนักจิตวิทยาคนนั้นได้หรือไม่

เมื่อผู้ดูแลเห็นว่าโจวเข่อซินสนใจเข้าร่วมกิจกรรม ก็รีบอนุมัติทันที

นี่ถือเป็นโอกาสทองที่นักจิตวิทยาหน้าใหม่จะได้ร่วมพูดคุยกับสตรีมเมอร์ระดับแถวหน้า ซึ่งสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าการโปรโมตผ่านหน้าแรกเสียอีก

โจวเข่อซินที่ยังรู้สึกไม่สบายใจนัก จึงตัดสินใจลุกจากเตียงและเปิดไลฟ์

เธอรู้สึกว่านี่คือจังหวะที่เหมาะจะพูดคุยกับนักจิตวิทยาเพื่อหาทางออกให้ตัวเอง

ขณะที่เฉินหยูกำลังบรรยายเรื่องสุขภาพจิตในห้องถ่ายทอดสด จู่ ๆ ก็มีผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก เขาได้รับแจ้งเตือนคำขอวิดีโอคอลจาก โจวเข่อซิน

นี่คือโอกาสสำคัญที่เฉินหยูจะได้แสดงฝีมือ และเขาไม่ลังเลที่จะกดรับคำขอนั้นทันที...