e-receipt e-receipt
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    A cold day in July. #เพื่อนโสดห้ามจีบ (end. | มี e-book)

    ลำดับตอนที่ #1 : 00 / Prologue, (KP’s POV)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 67


    บทนำ

    (KP’s POV)

     

    เสียงร้องเพลงที่แสนคุ้นหูพร้อมเสียงกีตาร์โปร่งถูกแทรกด้วยเสียงคลื่นและลมกระทบหาดทรายในเวลาห้าทุ่มกว่า คืนนี้ผมอยู่กับผู้ชายที่ชื่อเขตต์อีกเหมือนเคย ช่วงนี้ตัวติดกับพี่เขาจนจะไม่แปลกใจเลยหากมีคนเข้าใจผิดว่าคบกัน

    ก็แหงดิ ชายโสดสองคน หน้าตาโคตรดี เคมีโคตรได้เลย คงไม่แปลกอะไรถ้าหากมีใครหน้าไหนมันเข้าใจผิด! แต่!-ความจริง!-น่ะ!-เหรอ! หึ! เปล่า เปล่าเลย

    ถ้าผมคบกับพี่มัน ฟ้าคงผ่าตาย

    ถ้าฟ้าผ่าแล้วยังไม่ตาย ผมยอมไปผูกคอตายใต้ต้นมะเขือเลยโว้ย

    ผมนั่งฟังเพลงที่พี่เขตต์กำลังร้องพร้อมนั่งเกลากีตาร์โปร่งอย่างใจลอย ร้องอะไรไม่ทราบ ไม่ค่อยได้จับใจความเนื้อเพลง แค่รู้ว่าเพราะดีก็โอเค...แน่นอนว่าต้องเพราะอยู่แล้วในเมื่อคนเล่นมันเป็นนักดนตรีที่เล่นประจำที่ร้านเหล้าเชียวนะเฮ้ย

    เอาเถอะ ช่างพี่มันก่อน

    สำหรับคืนเหงา คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการมานั่งทำตัวเหมือนพระเอกหนังสั้นริมทะเล ฟังเพลงเบา ๆ ฟังพี่ ๆ เพื่อน ๆ เกลากีตาร์โปร่งแล้ว

    จะว่าไปพี่เขตต์นี่มีความคล้ายพี่ชายบังเกิดเกล้าของผมอยู่หลายส่วน รสนิยมเอย แนวเพลงที่ชอบฟังเอย แต่ส่วนที่ต่างก็ต่างจัด ไกลยิ่งกว่าระยะทางที่โลกโคจรรอบตัวเอง

    ผมเวอร์

    แต่ก็คงเพราะสิ่งเหล่านี้จึงทำให้มาสนิทกันมั้ง พี่มันสนิทกับผม ส่วนผมก็นับถือพี่เขาไม่ต่างจากพี่ชายแท้ ๆ ส่วนพี่ชายบังเกิดเกล้าของผม...ช่างมันไปก่อน

    “สังคมลวงหลอก หลอกลวง…”

    ผมกระดกเบียร์กระป๋องราคาถูกที่กำลังเย็นได้ที่ลงคอ ไม่คิดจะพูดถ้อยคำมีสารประโยชน์ขึ้นมาขัดเพลงของพี่เขตต์ที่กำลังบรรเลงอย่างไพเราะ ขยับตัวนั่งเอนหลังมือยันเสื่อ พลางแหงนมองดาวบนท้องฟ้าที่แทบไม่เห็นเพราะสปอตไลต์แถวนี้ ส่วนพระจันทร์ยิ่งมองมันก็ยิ่งรู้สึกว่าโคตรแสนไกลเลยเว้ย พระจันทร์วันนี้ไม่ใช่จันทร์เต็มดวง แต่ก็เลยครึ่งดวงมาแล้ว

    พระจันทร์ข้างขึ้นทำให้นึกถึงใครบางคน

    “ไม่อาจหลุดพ้น สุดท้าย…”

    เพลงของพี่เขตต์จบลงพร้อมเสียงถอนหายใจของผมที่พรูออกมา

    “เฮ้อ”

    “เป็นเหี้ยไร”

    ผมเหลียวมองคนถามด้วยความหวังดีแต่แม่งพูดไม่เพราะเลย ให้ตาย ขัดมู้ด อยากด่า แต่ผมน่ะเหรอจะด่าพี่เขตต์

    คงงั้น

    คงด่า แต่ไม่ใช่คืนนี้

    “เซ็ง”

    “...?”

    “ชอบสาวเขาก็คิดว่าหยอกเล่น”

    “อ่อ”

    “เป็นโมเมนต์ที่เหี้ยฉิบหาย” ผมบอกพี่ที่เป็นเสมือนพี่ชายด้วยท่าทางเหมือนไม่ได้เครียดจริง ๆ

    “ปลงเว้ยมึง เดี๋ยวก็ชิน” พี่มันเอื้อมมือมาตบไหล่

    ส่วนผม ฟังแล้วได้แต่คิด ‘ก็แน่ดิ พี่แม่งแห้วจนเซียนแล้วไง’

    “ถามจริง ผมดูเหมือนพวกติดเล่นหรือไง” ผมเอ่ยถามพร้อมเหล่มองเพื่อรอคำตอบจากรุ่นพี่ สำหรับตัวเองแล้วคิดว่าไม่ ก็ปกติ

    พี่เขตต์มองผมเล็กน้อยราวกับกำลังพิจารณาให้ถ้วนถี่ก่อนขยับริมฝีปากเอื้อนเอ่ย

    “ไม่”

    “เออ เห็นไหม”

    “ไม่น้อย กูยังพูดไม่จบ”

    ว่าแล้ว…

    ผมหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจเพราะประโยคนั้น จากนั้นไม่ได้ต่อความยาว ผมคิดว่าสำหรับคนอื่นผมคงเข้าข่ายพวกชอบติดเล่น แต่สำหรับเธอผมคงเป็นแค่คนเงียบ หน้ามึน เพราะแบบนี้จึงค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองดูขรึม แต่ไหงสาวเจ้าบอกว่าผมหยอกเล่น

    ไม่เข้าใจเว้ย

     

    ‘จ้าวว่าเราจะเป็นมากกว่าเพื่อนกันได้ไหม’

    ‘เฮ้ย ทำไมถามเราแบบนี้’

    ‘เปล่า พีก็แค่สงสัย’

    ‘อืมมมม ได้ดิ’

    ‘เหรอ’

    ‘อือฮึ พีก็ไม่ใช่คนไม่ดี ทำไมเราต้องปิดโอกาสตัวเองด้วยอะ’

    ‘อ่อ’

    ‘...’ หลังจากนั้นเธอก็ละความสนใจ หันไปปรับสายกีตาร์ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมาเปลี่ยนวันนี้

    ‘งั้นเราเป็นมากกว่าเพื่อนกันตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม’

    ผมก็แค่ลองถามออกมา ไม่ได้ใช้ความกล้าอะไรทั้งนั้น พวกเราสนิทกันมานาน นานจนเหมือนเธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว หลังจากผมพูดจบ ภายในห้องคล้ายเงียบลง คนที่เอาแต่สนใจกีตาร์ไฟฟ้าของตัวเองในตอนแรกละความสนใจจากมันเพื่อเบนมาสนใจเพื่อนของเธอเอง ก็คือผม

    เธอดูแปลกใจ แต่สักพักก็หัวเราะใส่ ส่งยิ้มเจิดจ้ากลับมา

    ให้ตายเหอะ แสบตาว่ะ

    ‘เฮ้ย ทำไมพูดอะไรแบบนี้ ไม่ตลกนะ’

    เธอทำเสียงกระเง้ากระงอดอย่างที่ชอบทำ คือ...มันน่ารักจริง ๆ ได้โปรดหยุดที

    ‘ทำไมอะ ก็ถามดู ไม่ได้?’

    ‘ไม่ได้’ เธอพูดพร้อมถลึงตาใส่ เบื่อจริง ไอ้ท่าทางประกอบเพื่ออรรถรส

    ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ได้ แต่ไม่ได้ถาม

    ‘อำกันเล่นแบบนี้ สิบปียังไวไปอะ ไม่เชื่อหรอก’ พูดอย่างมั่นใจแล้วยังแลบลิ้นมาให้อีกด้วย ‘มา ๆ เตรียมซ้อมได้แล้ว พี่ต่งมาแล้วเธอ’

     

    ผมย้อนคิดก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ได้ และผมก็คงไม่เข้าใจ

    แต่ก็ช่างมันเถอะ

    ช่างมันเถอะเพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะได้หรือไม่ได้ ผมรู้สึกมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเรายังเหมือนเดิม ผมไม่ต้องมากังวลว่าพรุ่งนี้จะมีใครมาเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเธอหรือผม วาทกรรมรักเพื่อนจะเสียเพื่อนคงจริงสำหรับใครหลายคน แต่คงต้องละเว้นผมกับเธอเอาไว้

    ภัยความมั่นหน้าแล้วหนึ่ง

    เออ ถ้ามันสั่นคลอนก็ให้จ้าวมาเหยียบหน้าผมได้เลย ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นเว้ย ถึงจะพูดในใจก็นับ

    คิดเวิ่นเว้อจนมาถึงตรงนี้แล้วก็...

    อืม ใช่ครับ เธอชื่อจันทร์จ้าว

     

    เป็นเพื่อน

    เพื่อน ที่ชอบถ่ายรูปผมลงไอจีสตอรี่ แล้วติดแฮชแท็กว่า...

    #เพื่อนโสดห้ามจีบ

     

     

     

     

     

    #เพื่อนโสดห้ามจีบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×