คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
แกรนด์รอสเซลโฮเต็ล
นาโปลี อิตาลี
ร่างสูงในชุดสูทราคาแพงสีน้ำตาลทอดสายตามองผ่านกระจกบานใหญ่จากชั้นบนสุดของโรงแรม
ใบหน้าคมเข้มหลับตาลงเบาๆ คล้ายกับจะผ่อนคลายความตึงเครียดในหัวสมอง เขาเพิ่งจัดการกับเอกสารกองโตเสร็จสิ้นไปไม่กี่นาทีนี้
ลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งชมวิวเพื่อผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าควรจะจัดการกับมันอย่างไรดี
โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงคำพูดที่ดังก้องอยู่ในหัวสมองเวลานี้
'คืนก่อนที่แม่จะไปพบหลวงตา
แม่ฝันร้าย มันน่ากลัวมากเลยจ้ะ'
'หลวงตาบอกว่าลูกของแม่กำลังมีเคราะห์
ควรจะหาทางผ่อนหนักเป็นเบา'
'หลวงตาบอกว่าคนที่จะมาช่วยแบ่งเบาเคราะห์ให้ลูกก็คือ
คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตจ้ะ แม่ก็เลยอยากให้ลูกแต่งงาน'
'แต่งงาน!'
เขาถอนหายใจออกมาดังๆ
โดยไม่ลืมตา ตั้งแต่ที่ได้ยินคำว่าแต่งงานจากปากของมารดาสุดที่รัก อัลเฟรโด้
รอสเซลลินีก็แทบไม่ได้ย่างกรายกลับไปเยี่ยมบุพพการีอย่างที่เคยทำเป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้ว
เหตุผลน่ะเหรอ ร้อยแปดข้ออ้างที่จะคิดขึ้นมาอ้างได้
ยามที่มารดาหรือใครโทรศัพท์มาตามตัวให้กลับไปที่คฤหาสน์รอสเซลลินี
ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึงครอบครัวแต่อัลเฟรโด้ก็มั่นใจว่าในสถานการณ์เช่นนี้
เป็นใครก็คงต้องใช้วิธีนี้เช่นเดียวกันแน่ หาความวุ่นวายในภาระความรับผิดชอบมาเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องการแต่งงาน
ยิ่งนานเท่าไรยิ่งดี ยิ่งถ่วงเวลานานมากเท่าไรที่พอจะทำได้ก็ควรทำ
เพื่อให้มารดาสุดที่รักยอมตัดประเด็นเรื่องนี้ทิ้งไปซะ
หรือถ้าให้ดีไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไปเลยจะดีมาก
การอ้างเอางานมาบังหน้า
ด้วยหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจการใหญ่ของครอบครัว
ต้องบริหารจัดการธุรกิจโรงแรมแกรนด์รอสเซลโฮเต็ลที่มีสาขามามายทั่วโลก
คงไม่แปลกที่อัลเฟรโด้จะเดินทางไปในที่ต่างๆ บ่อยขึ้น เพื่อดูแลธุรกิจสำคัญที่มีมาตั้งแต่รุ่นของซัลวิโอ
รอสเซลลินีบิดาบังเกิดเกล้า
มันน่าจะได้ผล
และเขาคิดจะใช้วิธีนี้เป็นข้ออ้างที่จะทำให้เรื่องการแต่งงานเกิดขึ้นช้าที่สุดหรือไม่เกิดขึ้นเลยได้ยิ่งดี
ตอนนี้ยังไม่มีข่าวว่าพี่น้องคนไหนจะลงเอยกับใครเมื่อไร
หรือจะมีใครถูกจับคู่แต่งงานคลุมถุงชนอย่างที่คิดไว้แต่แรก
ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสทองสำหรัลอัลเฟรโด้ ที่จะใช้เรื่องงานที่รัดตัวอยู่ให้เป็นประโยชน์
เขาจะไม่มีวันเข้าสู่วงจรบ้าๆ
ของมารดาเด็ดขาด การแต่งงานเพื่อแก้ไขดวงชะตาเป็นเรื่องล้อเล่น
มันก็แค่ฝันร้ายและคงเป็นฝันที่น่ากลัวไปหน่อย
นางอนงค์รัตน์ถึงได้ต้องปรึกษากับผู้ที่นับถือ
จนกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีหมายมั่นที่จะจัดการกับลูกๆ ของตน
ไม่ได้การแล้ว
เขาต้องรีบทำให้ตารางชีวิตตัวเองยุ่งเหยิง ต้องรีบคิดโปรเจคใหม่ๆ
เพื่อเป็นการพัฒนารายได้ของโรงแรม
ต้องตรวจดูว่าสาขาที่ไหนมีรายได้ที่ไม่กระเตื้องขึ้นจนน่าตกใจ
ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องจริงจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่อัลเฟรโด้ก็มีวิธีที่จะทำให้มันดูคล้ายว่าจะมีปัญหา
เพื่อหาข้ออ้างในการเดินทางได้ และมันต้องเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป
เมื่อสรุปลงตัวได้ว่า
จะใช้การทำงานที่รัดตัวมาเป็นข้ออ้างให้กลับบ้านน้อยลง
เพื่อหลีกเลี่ยงพูดเรื่องการแต่งงานที่ไร้สาระ คนที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมทั้งปิดปากให้สนิทว่านี่คือข้ออ้างก็คือผู้ช่วยคนสนิทของท่านประธานหนุ่ม
คริสเตียน อบาเต้
ประตูห้องทำงานเปิดขึ้นเบาๆ
พร้อมกับร่างสูงในชุดสูทสีดำเข้มก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีเร่งรีบ
อัลเฟรโด้ลืมตามองด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ปกติแล้วคริสเตียนไม่เคยมีท่าทีลุกลี้ลุกรนเช่นนี้มาก่อน
แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรและเมื่อเห็นหน้าผู้ช่วยคนสนิทที่เข้ามาในจังหวะที่ถูกต้องแล้ว
จึงรีบเอ่ยปากสั่งให้ไปเตรียมการในเรื่องเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้
"นายมาก็ดีแล้วคริสเตียน
ฉันมีเรื่องจะให้นายไปจัดการอยู่พอดี"
"เมื่อครู่มาดามโทรศัพท์มาหาครับ
ถามว่าเรื่องที่จะนัดไปเยี่ยมคุณโซเฟีย คุณอัลเฟรโด้จะว่าอย่างไร" คริสเตียนรีบรายงานเรื่องสำคัญให้เจ้านายรู้ก่อนเป็นอันดับแรก
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้อัลเฟรโด้สั่งให้เขาเป็นผู้รับสายโทรศัพท์ของมารดา
และสั่งให้พูดเพียงประโยคเดียวสั้นๆ นั่นก็คือ
'คุณอัลเฟรโด้ติดประชุมยุ่งอยู่ครับ
ผมจะเรียนให้ทราบและให้โทรกลับไปหามาดามอีกทีนะครับ'
สองสามวันแรกนางอนงค์รัตน์ดูเหมือนว่าจะไม่ว่าอะไรกับคำตอบที่คริสเตียนแจ้งทุกครั้งที่โทรศัพท์มา
แต่พอมาวันนี้นางกลับไม่ฟังสิ่งที่เขาบอกเหมือนทุกครั้ง ซ้ำยังออกคำสั่งให้ถือกลับมาบอกเจ้านายสุดที่รักว่า
'บอกอัลด้วยนะจ้ะคริสเตียนว่าแม่คนนี้รออยู่
และอยากจะชวนลูกชายสุดที่รักไปเยี่ยมหนูโซเฟียด้วยกัน
หวังว่าอัลคงไม่ทำให้แม่คนนี้ต้องรอเก้อนะ
เธอก็ช่วยจัดตารางเวลาให้เจ้านายว่างสักสองสามชั่วโมงก็ได้นะจ้ะ คริสเตียน'
แน่นอนว่าคริสเตียนต้องรีบนำคำสั่งแกมบังคับของนายหญิงมาแจ้งให้เจ้านายรู้
และก็คงเป็นเขาอีกที่จะต้องนำคำตอบจากปากอัลเฟรโด้ ไปบอกให้นางอนงค์รัตน์ทราบว่าอัลเฟรโด้จะว่าอย่างไร
แต่ที่คริสเตียนสังหรณ์ใจก็คือ
ถ้าเจ้านายสุดหล่อไม่ตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง รับรองได้ว่านางสิงห์แห่งรอสเซลลินีต้องเยื้องกรายมาที่นี่แน่
และเมื่อถึงตอนนั้นเขาคงไม่อาจเป็นหนังหน้าไฟช่วยได้แน่
"บอกแม่ไปว่าฉันยังไม่ว่าง
อ้อ วันนี้เรียกประชุมหัวหน้าแผนกของโรงแรมทุกฝ่ายให้ด้วย
แล้วตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจัดตารางนัดประชุมกับหัวหน้าแผนกทุกสาขาของเราทั้งหมด
เอาวันละสองหรือสามสาขาก็ได้ บอกหัวข้อไปว่าฉันต้องการรู้เป้าหมายกำไรในไตรมาสหน้า
แล้วก็ทิศทางที่แต่ละสาขาจะเพิ่มรายได้เพื่อให้ได้ตามเป้า"
"เรื่องนี้เพิ่งจะส่งนโยบายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่ครับ
แล้วคุณอัลเฟรโด้ก็ยังบอกเองว่าพร้อมเมื่อไรให้นำกลับมารายงานให้ทราบ"
คริสเตียนงงกับคำสั่งใหม่
เขาจำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนท่านประธานหนุ่มเพิ่งมีนโยบายที่จะปรับปรุงโรงแรมในแต่ละสาขา
และแจกนโยบายการทำงานไปหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเป้าหมายการเพิ่มผลกำไรในไตรมาสหน้า
และให้แต่ละสาขาแจ้งมาว่าในท้องที่ของตนเองมีอะไรที่ต้องการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติม
เพื่อให้ทันสมัยหรือสามารถรองรับความต้องการของแขกที่มาพักให้ได้รับความพอใจสูงสุด
สมกับสโลแกนที่ว่า แกรนด์รอสเซลคือที่หนึ่งในใจคุณ
แต่มาวันนี้เขากลับได้รับคำสั่งใหม่
ที่ดูเหมือนว่าจะทำให้ชีวิตของท่านประธานหนุ่มแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก
สิบแปดชั่วโมงต่อวันที่อัลเฟรโด้ทุ่มเทเวลาให้กับงาน และงาน
และงานมากกว่าอะไรทั้งหมด
เวลาพักผ่อนของเจ้านายกำลังจะถูกลิดรอนด้วยโปรเจคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า
"นายก็ถามไปว่ามีที่ไหนพร้อมจะกลับมารายงานแล้วบ้าง
ถ้ายังไม่มีก็ตั้งขึ้นมาเลยว่าใครต้องรายงานวันไหน"
อัลเฟรโด้มั่นใจว่าเรื่องนี้คริสเตียนจัดการได้แน่อยู่แล้ว
แค่นี้ก็จะทำให้ตารางเวลาชีวิตของเขาเต็มแน่นเอี๊ยดด้วยเรื่องงาน
จนไม่มีเวลาจะกลับบ้านแน่ อย่างน้อยก็ภายในสามเดือนนี้
"ครับ
ผมจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้" คริสเตียนรับคำสั่งอย่างแข็งขันและเตรียมจะออกไปแจ้งข่าวนี้แก่คนอื่นต่อไป
"เดี๋ยว
แล้วเรื่องที่ให้ไปสืบตกลงไปถึงไหนแล้ว"
อัลเฟรโด้นึกได้ว่ามีอีกอย่างหนึ่งที่สั่งให้คริสเตียนไปจัดการ
"ได้เรื่องแล้วครับ
แต่ว่า เอ่อ คือ" ผู้ช่วยคนสนิทอ้ำอึ้งก้มหน้าไม่กล้าพูดต่อ
"แต่ว่าอะไร
หรือว่าทางโน้นหาสปอร์นเซอร์ที่จ่ายหนักได้มากกว่าเรา"
งานอีกชิ้นที่อัลเฟรโด้ตั้งใจว่าจะมาช่วยให้ชีวิตของตนวุ่นวายมากขึ้นไปอีก
นั่นก็คือการเข้าไปซื้อทีมฟุตบอลสโมสรหนึ่งมาบริหาร
ซึ่งกีฬาชนิดนี้เป็นความชื่นชอบส่วนตัวของเขา และใฝ่ฝันมาโดยตลอดว่าจะเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอลที่คว้าชัยในการแข่งขันระดับประเทศให้ได้
"ไม่ใช่เรื่องนี้ครับ
ทางสโมสรยินดีมากที่คุณอัลเฟรโด้จะเข้าไปสนับสนุนอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ว่า
เอ่อ..." คริสเตียนก้มหน้าอีกแล้ว
"มีอะไรก็ว่ามา
อย่าอ้ำอึ้ง"
"เพียงแต่ว่ามาดามสั่งระงับโปรเจคนี้
ถ้าคุณอัลเฟรโด้ไม่ตอบตกลงให้แน่ชัดว่าจะไปพบคุณโซเฟียวันไหนครับ"
"อะไรนะ"
อัลเฟรโด้อุทานด้วยความตกใจเมื่อได้ยินว่า
โปรเจคใหม่ของตนถูกมารดาบังเกิดเกล้าระงับคำสั่ง ให้ตายเหอะ แม่นะแม่
รู้เรื่องนี้เข้าให้จนได้
ในหัวสมองของอัลเฟรโด้คิดวางแผนทันที
เขารู้ทันเกมที่นางอนงค์รัตน์กำลังกระทำว่ามาจากสาเหตุใด มารดาสุดที่รักรู้เรื่องที่ใช้เงินส่วนตัวซื้อทีมฟุตบอลมาบริหาร
ซ้ำยังมาเหนือเมฆกว่าด้วยการใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการทำตามประสงค์ด้วย
เห็นทีว่าจะต้องรีบจัดการอะไรสักอย่างแล้ว
ก่อนที่ทุกอย่างในชีวิตจะถูกนางสิงห์แห่งรอสเซลลินียึดครองหมด
"นอกจากนี้
มาดามยังบอกอีกว่ากำลังจะเดินทางมาที่นี่ และสั่งให้คุณอัลเฟรโด้ห้ามไปไหน
ให้อยู่รอเจอก่อนถ้าหากว่ายังอยากเป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลเนเปิ้ลอยู่"
"อะไรนะ"
อัลเฟรโด้ตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง
นี่เขาคิดช้าไปหรือนี่
หรือว่ามารดาตลบหลังกลับได้เร็วกว่ากันแน่
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่อัลเฟรโด้ต้องคิดอีกต่อไปแล้ว
เพราะเวลานี้นางสิงห์แห่งรอสเซลลินีปรากฏตัวขึ้นที่หน้าห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
และเมื่อบอร์ดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องเปิดประตูให้นางก้าวเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
ที่ทำให้อัลเฟรโด้เย็นวาบไปทั่วแผ่นหลังด้วยความตกใจ
"ว่าไงจ้ะ
ท่านประธานแกรนด์รอสเซล คุณอัลเฟรโด้ รอสเซลลินี"
"แม่"
แนะนำมาเฟียของอิ่มอุ่นค่ะ
คุณอัลเฟรโด้ รอสเซลลินี
รับประกันความสนุกนะคะ
อีบุ๊คมีพร้อมโหลดแล้วค่า Click
และเพจไว้ติดตามผลงานกันนะคะ
ความคิดเห็น