ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom Of The Darkness

    ลำดับตอนที่ #1 : นครดาร์คเอลฟ์(Dark Elf)

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 49


    ตอนที่ 1 นครดาร์คเอลฟ์(Dark Elf)

    (Dark Elf)

    ในดินแดนทางใต้สุด แนวเชิงเขาที่ซึ้งเป็นป่าทึบหลังเชิงเขาแห่งความมืดเป็นที่อยู่ของกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งที่เรียก ตัวเองว่า ดาร์ค เอลฟ์(Dark Elf) ที่รวมกลุ่มกันอาศัยอย่างสงบสุขหลังสงครามสามดินแดนคือ เอลฟ์(Elf) ดาร์คเอลฟ์(Dark Elf) และมนุษย์(Human) และหลังจากพ่ายแพ้กลับมาก็ได้อพยพมายังดินแดนใหม่หลังเขาที่มีแต่ความมืดที่ซี่งแสงสว่างส่องไม่ถึงโดยปกติชาวดาร์คเอลฟ์ มีลักษณะ สีผิวเขียวช้ำถึงดำตามอายุขัยรูปร่างสูงโปร่งมีผมสีขาวและมีส่วนน้อยที่จะมีผมสีดำต่างจากพวกเอลฟ์ ที่มีผิวสีขาวเนียนซีดสูงผมสีทองประกายเงางามและทั้งนี้เนื่องจากสองชนเผ่าได้เคยร่วมเผ่าพันธุ์เดียวกันมาก่อนลักษณะทางกายภาพเลยไม่ได้แตกต่างกันมากนัก

    “เฮ้.....เรเว็นหลานรักจะไปไหนน่ะหะ!!!”ชายชราตะโกนถามหลานชายด้วยความสังหรณ์ใจว่าจะต้องไปก่อเรื่องอีกเป็นแน่

    “ก็ไปช่วยชาวบ้านซื้อของที่ตลาดไงคร้าบบบ!!!!!!” เรเว็นตอบด้วนสำเนียงสุภาพแล้วก็วิ่งหายลับไปยังกลางเมืองโอ้...ชายชราตกใจที่ได้ยินประโยคดังกล่าวเพราะไม่เคยได้ยินที่สุภาพจากปากของหลานมาก่อน

    เรเว็นเป็นเด็กวัยรุ่นกำพร้าพ่อแม่ซึ้งเสียชีวิตในสงครามสามดินแดนซึ่งถูกพบโดยชายชราแล้วถุกเก็บมาเลี้ยงในฐานะหลานชายคนหนึ่ง เรเว็นเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่งและที่สำคัญเค้าเป็นตัวประหลาดของสายตาของคนที่นี่โดยร่างกายของเขามีสายเลือดครึ่งหนึ่งที่เป็นเอลฟ์ และอีกครึ่งหนึ่งเป็นดาร์คเอลฟ์และลักษณะพิเศษที่ชาวดาร์คทั่วไปไม่มีคือมีผมเป็นสีทองประกายเงางามเป็นที่รังเกียจของคนในหมู่บ้านและทุกคนก็เรียกเรเว็นว่า

    “ไอ้ตัวซวย”

    แล้วเรเว็นก็วิ่งมาหยุดที่ร้านขายของในตลาดร้านหนี่ง ซึ่งมีชิลเลน(Shillen) หญิงสาววัย18ผู้เป็นรักแรกของเขาเป็นเจ้าของอยู่

    “สวัสดี ชิลเลน” เรเว็นเอ่ยขึ้น

    “อ่าว!!! เรเว็นมาทำอะไรที่นี้ ?” ชิลเลนกล่าวเมื่อเห็นเรเว็น

    “มาหาเธอไง”

    “ได้ไงเดี๋ยวแม่ก็ฆ่าเธอหรอก” เธอพูดหยอกล้อ

    “ถ้าแม่เธอไม่เอามีดวิ่งไล่น่ะนะ” เรเว็นเล่นกลับ

    “อยากได้มีดของฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” เฟเรียผู้เป็นมารดาของชิลเลนพุดขึ้นมาทันใด ทำให้เรเว็นผละหนีด้วยความตกใจ

    “อ้าแฮะๆๆ”เรเว็นร้องเสียงหลง

    “แม่คะ อย่าค่ะ”ชิลเลนร้องห้ามเฟเรียผู้เป็นมารดาของตน

    “เออ...ไปนะครับคุณแม่...เอ้ย!! คุณเฟเรีย” เรเว็นบอกกับเฟเรียแต่สายตายเหล่มองที่ ชิลเลนอยู่จนเดินไปชนกับ บราโก้(Brago)ชายหนุ่มในวัยเดียวกันแต่แตกต่างทางฐานะกันอย่างสิ้นเชิง บารโก้เป็นผู้ที่มีฝีมือการปะดาบไม่แพ้ใครในบรรดาชายหนุ่มในรุ่นกันรวมทั้งเรเว็นด้วยเช่นกัน

    “อุ๊บ...โอ้ยยย”บราโก้ร้องออกมาด้วยความเจ็บบวกกับความตกใจ พร้อมกับทำหน้ายี้ใส่เรเซ้นผู้ต่ำต้อยในสายตาของเขา

    “เรเว็น! นี่แกอีกแล้วเหรอ!”

    “นี่แกจะเดินชนข้าวันละกี่รอบหะ”

    “เออ...”เรเว็นมีสีหน้าที่เกรงในตัวบราโก้

    “ไม่ต้องมาเออ...หลีกไปฉันจะไปท่องเที่ยว”เรเว็นหลีกทางให้บราโก้เดินเชิดจากไป

    ใบหน้าของเรเว็นเปลี่ยนเป็นหน้า เศร้าสลด และเดินออกนอกตลาดไปตามทางที่จะไปถึง วิหารซิสท์

    ที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจเพียงแห่งเดียวของชาวดาร์คเอลฟ์ และเขาก็เดินมาถึงประตูบานใหญ่สูงกว่า4เมตรที่มีเถา ไม้เลื้อย เขาเปิดประตูเข้าไปข้างในวิหารที่เต็มไปด้วยแสงเทียน และเบื้องหน้าปรากฎ ก้อนใหญ่เรียงกันเป้นแถวเป็นแนวเพื่อที่จะให้บุคคลผู้ซึ่งมายังวิหารแห่งนี้ได้นั่ง เรเว็นเดินไปตามทางเส้นกลาง จนพบเห็นรูปปั้นสูงใหญ่ถือพลองยาวเกินศีรษะผ้าคลุมยาวลากพื้น ที่ฐานสลักไว้ว่า “Hades”ที่หมายถึงชื่อเรียกเทพเจ้าแห่งความตาย และเรเว็นก็คุกเข่าลงด้วยความสิ้นหวัง เขาไม่ได้อยากเป็นเช่นนี้เลย

    “ทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนี้ พวกเขาเห็นผมเป็นตัวประหลาด ผมไม่ได้อยากเป้นตัวประหลาดซักหน่อย” เรเว็นร้องต่อหน้าเทพฮาเดส

    “เรเว็นน้อยเอ๋ย เจ้าไม่ได้เป็นตัวประหลาดซักหน่อย เจ้าเป็นคนพิเศษต่างหาก” เสียงดังมาจากความมืดเบื้องหลังปรากฎร่างชายชรา ซึ่งสวมผ้าคลุมยาวดั่งเทพฮาเดสเว้นแต่ไม่ได้ถือพลอกยาวเท่านั้น

    “ข้าไม่ไช่คนพิเศษ”

    “ท่านก็คงจเห็นสิ่งที่ชาวบ้านทำกับไว้กับผมล่ะสิ ท่านคงไม่เคยเจอมัน”เรเว็นเริ่มมีน้ำเสียงที่สูงขึ้น

    “ที่พวกเขาไม่รู้ต่างหากว่าเจ้าเป็นใคร” ชายชราตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    “แล้วข้าเป็นใคร”เรเว็นเบาเสียงลง

    “เจ้าเป็นลูกของซายุส((Zaus)กับเจ้าหญิงมาริโอนา(Mariona) ชายชราบอกเขได้เพียงเท่านี้

    “ซายุส...มาริโอนา...???”

    “แล้วเขาเป็นใคร?”เรเว็นทวนและถามขึ้นมาอีกครั้ง

    “เขาเป็นผู้ให้กำเนิดเจ้า”ชายชร พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    “และจงภูมิใจไว้เถิด ว่าซักวันทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป”

    “จงสงบใจไว้เถิดอย่าคิดมากไปเลย” ชายชราปล่อยเรเว็นไว้เพียงลำพังซักครู่เรเว็นก็ลุกและเดินจากไป

    “เฮ้อ....ชายชราถอนหายใจเบาๆ”

    ***************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×