ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
“ว้าว น้ำพุล่ะ! แม่คะ เราถึงแล้วใช่มั้ย” เด็กสาวตัวน้อยรีบไขกระจกหน้าต่างของรถยนต์คันสีดำลงแล้วโผล่หน้าออกไปสูดอากาศข้างนอกสถานที่ที่ไม่คุ้นตา แสงแดดยามสายสาดลงมาให้ไออุ่นพร้อมกับสร้างประกายให้เส้นผมสีส้มหยักศกไม่แพ้ดวงตาสีน้ำตาลใสซื่อของเด็กน้อยในตอนนี้
หากมองเลยผ่านน้ำพุไปจะพบอาคารสีขาวหลังใหญ่ที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมไม่เหมือนกับอาคารทั่วไป เพราะมันถูกสร้างเลียนการออกแบบของยุคที่แล้ว อาคารหลังใหญ่นั่นมีผู้คนเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา
“ซารี่ กลับเข้ามานั่งในรถดีๆก่อน” หญิงสาวที่นั่งข้างคนขับกล่าวเตือนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เรามาเที่ยวกันที่ไหนหรอคะ” เด็กน้อยที่ตอนนี้กลับมานั่งในรถแล้วเอียงคอถามอย่างน่ารัก
“พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่ะ ไม่รู้ว่าซารี่จะชอบที่แบบนี้รึเปล่านะ” ผู้เป็นพ่อเลี้ยวตัวรถเข้าสู่ลานจอดก่อนจะตอบ นานๆครั้งเขาจะมีโอกาสได้พาภรรยาและลูกมาเที่ยวที่ต่างเมืองแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าการพาลูกมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นเรื่องน่าเบื่อหรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากจะออกจากบ้านให้เสียเที่ยว
“”พิพิธภัณฑ์คืออะไรเหรอคะ”
หญิงสาวผู้เป็นแม่ซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างคนขับหัวเราะน้อยๆเมื่อได้ยินคำถามนั้น “ก็เป็นสถานที่ที่เราจะใช้เก็บของในอดีตน่ะแล้วก็จัดแสดงน่ะ”
“เหมือนห้องเก็บของบ้านเราเหรอคะ”
“ไม่ใช่หรอก บ้านเราไม่ได้เปิดจัดแสดงนี่จ๊ะ และของที่อยู่ที่นี่ก็มีค่ามากด้วย ซารี่อยากไปดูรึเปล่าล่ะ”
“อยากค่ะ!” เด็กหญิงตอบทันควัน ทำให้พ่อและแม่แอบยิ้มใหกันเงียบๆ เรื่องที่กลัวลูกจะเบื่อหรือไม่คงไม่น่ากังวลแล้ว
รถคันสีดำจอดลง เด็กน้อยก็จูงมือพ่อและแม่เข้าสู่อาคารแปลกตาหลังนั้น
“แม่คะ พ่อคะ ที่นี่เขาใช้เก็บอะไรหรอคะ” เด็กน้อยมองไปรอบตัวจนแทบจะหมุนคอได้ สิ่งของมากมายดูละลานตาในความคิดของเด็กอายุไม่กี่ขวบ
“เก็บของโบราณของยุคที่แล้วน่ะจ้ะ”
“ยุคที่แล้วคือยุคไหนเหรอคะ”
แม่ของเด็กน้อยหัวเราะออกมากับความไร้เดียงสาแสนน่ารักนั้น เธอย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน ก่อนจะถามออกมาว่า “ลูกเคยได้ยินคำว่าแวมไพร์ไหมจ้ะ”
.
.
.
“แฮ่ก...แฮ่ก อยู่ไหนแล้ว มันหายไปไหนแล้ว!”
ในตรอกยามค่ำคืนที่ความมือได้แผ่ปุกคลุมไปทั่ว ในสถานที่ซึ่งไร้ผู้คนผ่านสัญจรไปมา เป็นเพียงมุมเล็กๆในเมืองใหญ่ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ ชายคนหนึ่งได้หยุดวิ่งลงแล้วหอบหายใจ สายตาตื่นตระหนกสอดส่องไปรอบกายอย่างหวาดระแวง หยดเหยื่อไหลจากหน้ากลงสู่ปลายคางด้วยความกลัว
“อยู่ไหน! ‘มัน’อยู่ไหน! หนีพ้นหรือยัง หนีพ้นแล้วเหรอ” เสียงของเขาก้องกับกำแพงที่ฉาบด้วยปูน แต่ไร้ซึ่งคำตอบทั้งจากความเงียบรอบหายหรือกระทั่งอะไรบางอย่างที่เขาหนีมา
หลายนาที เขายืนอยู่ตรงนั้นจนอาการเหนื่อยหอบได้หายไป แต่ความกลัวยังคงอยู่ ขาก้าวไม่ออก เหงื่อกาฬยังไม่หยุดไหล
ฝุบ!
ฉับพลัน เงาดำบางอย่างก็ทิ้งตัวลงมาที่ด้านหลัง และกระชากเหยื่อเข้าสู่เงามืดของความหวัง
รัตติกาลได้ช่วยปกปิดกำบังให้กับสิ่งที่อยู่ภายในจนไม่อาจเพ่งมองเข้าไปเห็นสิ่งใด ...ไม่มีใครรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นภายใต้สถานที่ซึ่งไร้แสงพาดผ่านนั่น
ร่างหนึ่งกรีดร้องจากลำคอไร้เสียงที่ถูกบีบแน่นด้วยมือเพียงข้างเดียว ไร้ซึ่งทางรอด เลือดของเหยื่อกำลังถูกสูบออกจากร่างกายหยดแล้วหยดเล่าด้วยฟันเขี้ยวที่เจาะลงบนต้นคอ ทุกๆครั้งที่เลือดไหลออกจากร่างกาย ชีวิตของเหยื่อผู้น่าสงสารก็ราวกับถูกสูบตามไปด้วย
ที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยกระทั่งชีวิต
ผู้ล่าปล่อยร่างที่ซีดขาวเพราะไร้เลือดลงกับพื้นอย่างไม่ใส่ใจ แฝงตัวกับความมืดยามราตรีที่เป็นดั่งเครื่องมือแล้วหายตัวไป ทิ้งซากศพน่าสยดสยองไว้ที่ตรงนั้น เพื่อให้ใครมาพบมันในรุ่งเช้าที่แสงอาทิตย์จะกลับมาสาดส่องอีดครั้ง
แสงอาทิตย์ที่จะเริ่มวันใหม่
แสงที่จะเป็นเป็นการเริ่มคดีที่หนึ่งของฆาตกรที่ถูกเรียกกันว่า ‘แวมไพร์’
ความคิดเห็น