ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Birthday สุขสันต์วันมรณะ

    ลำดับตอนที่ #1 : Happy Birthday!

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 59


               เสียงเพลงบนโทรศัพท์มือถือดังขึ้น...

                ฮัลโหล

                ครับแม่ มีอะไรหรือครับ เอกชัยพูด

                ฮัลโหล ๆ ได้ยินหรือเปล่า

                รอเดี๋ยวนะครับแม่

               เอกชัยพยายามเดินฝ่ากลุ่มผู้คนที่เบียดเสียดกันอยู่ในผับ เพื่อออกมาหามุมที่เงียบพอที่จะคุยโทรศัพท์ได้ชัดเจนยิ่งขื้น เสียงเพลงดนตรีในร้านเปิดดังเสียจนทำให้การคุยโทรศัพท์เป็นปัญหา ในที่สุดเอกชัยเดินออกมาถึงหน้าร้านซึ่งเป็นจุดที่ห่างจากลำโพงมากพอสมควร

    ผับแห่งนี้เป็นเพียงตึกแถวห้องหนึ่งในจำนวนหลาย ๆ ร้านในระแวกเดียวกัน มีเก้าอี้ที่เป็นโซฟาอยู่เพียงไม่กี่ตัว นอกนั้นเป็นโต๊ะกลมตัวเล็ก ๆ สำหรับวางเครื่องดื่ม หน้าร้านตบแต่งด้วยกระจกใสพร้อมไฟชื่อร้านสีสดใส เอกชัยขยับแว่นตาที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของเขา ตอนเดินออกมาจากร้านเขาเบียดเสียดกับผู้คนเสียจนแว่นตาของเขาเขยื้อนผิดตำแหน่งไป เอกชัยพักหายใจครู่หนึ่งก่อนจะรับสายอีกครั้ง

                ครับแม่ แม่ว่าอะไรนะครับ

                ตอนนี้อยู่ไหนแล้วจ๊ะ

                ยังอยู่ในร้านอยู่เลยแม่ ผมบอกแม่แล้วไงว่าวันนี้จะมาเลี้ยงฉลองกับเพื่อน

                แม่รู้จ๊ะ แค่จะโทรมาบอกว่าอย่ากลับดึกมากนักเท่านั้นเอง

                ครับแม่ ไม่ดึกหรอก เดี๋ยวตัดเค้กเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะครับ

                จ๊ะ ๆ ก่อนที่แม่ของเอกชัยจะวางสาย เสียงของแม่เตือนด้วยความเป็นห่วง แล้วอย่าเมาให้มากนักนะ ขับรถขับราตอนเมามันอันตรายนะ

                ผมรู้แล้วครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เสียงตอบของเอกชัยดูหนักแน่นพอที่จะทำให้แม่พอเบาใจไปได้บ้าง เขามองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ เออแม่ นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว ผมต้องเข้าไปแล้วนะครับ

                จ๊ะ ๆ ไปสนุกกับเพื่อน ๆ เถอะ

                ครับแม่ แม่ไม่ต้องรอนะครับ นอนไปก่อนเลย

                ลูกจ๊ะ สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ

                ครับ ขอบคุณครับ

                เอกชัยกดวางสาย พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ เขาอดคิดไม่ได้ว่าแม่ยังคงดูแลเป็นห่วงเขาเหมือนกับเขาเป็นเด็กเล็กไม่มีผิด อีกไม่กี่นาทีเขาก็จะอายุครบยี่สิบปีแล้ว แม้เขาจะแสดงให้พ่อแม่ของเขาเห็นอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบมากเพียงไหนก็ตาม

    ผลการเรียนของเอกชัยเป็นที่หนึ่งในชั้นมาตลอดตั้งแต่อนุบาลจนถึงปัจจุบันในระดับอุดมศึกษา นอกจากนี้เขายังเป็นเด็กที่ขยัน ทำงานพิเศษในช่วงปิดเทอมอยู่เสมอ เขาไม่ได้พึ่งเงินทองจากทางบ้านมากเหมือนกับเด็กร่วมชั้นคนอื่น ๆ แม้ฐานะทางบ้านจะอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีก็ตาม

                เฮ้ย มัวทำอะไรอยู่ว่ะ เข้าไปได้แล้ว

                เพื่อนของเอกชัยคนหนึ่งตบบ่าของเอกชัยทางด้านหลังอย่างแรง เพื่อเรียกเขากลับเข้าไปข้างใน ตอนนี้เหลืออีกเพียงไม่ถึงห้านาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว คืนนี้เป็นการฉลองวันเกิดของเอกชัยในผับพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาเป็นครั้งแรก เขาไม่อยากจะพลาดมัน

                เฮ้ย ๆ เอกชัยมันกลับมาแล้ว เร็วเข้า เสียงเพื่อนคนหนึ่งเตือนเพื่อนที่กำลังรินเหล้าอยู่ในโต๊ะ

                พวกเพื่อนของเอกชัยที่โต๊ะรีบวางมือจากการผสมเหล้า เมื่อเอกชัยเดินเข้ามาถึงที่โต๊ะกลมเล็กที่พวกเพื่อนของเขานั่งอยู่ เสียงเพลงยังคงดังอย่างกึกก้อง แก้วเหล้าถูกว่าเรียงรายอยู่หน้าเพื่อนแต่ละคนเป็นรูปวงกลมโดยพร้อมเพรียง แต่ละแก้วถูกรินจนเต็มแก้ว

                เพื่อนคนหนึ่งมองนาฬิกา จะได้เวลาแล้ว

                ...ทุกคนถือแก้วเหล้าของตัวเองเตรียมพร้อม...

                หมดแก้วเลยนะโว้ย

                เพื่อนคนหนึ่งคะยั้นคะยอให้ทุกคนคล้องแขนกันและกันคล้ายกำลังงัดข้อกันอยู่ เพื่อให้ทุกคนหนีไม่ได้ เสียงเอะอะโวยวายภายในโต๊ะดังขึ้น ถึงอย่างไรก็ไม่ดังไปกว่าเสียงดนตรีที่กำลังเปิดอยู่

                “5…4…3…2…1” เพื่อน ๆ ต่างตะโกนพร้อมกันแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังก้อง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ เว้ย เอกชัย ฮา ฮา

                เอ้าดื่ม เสียงเพื่อนคนหนึ่งดังขึ้น

                ทุกคนรวมทั้งเอกชัยเจ้าของวันเกิดต่างยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกัน แขนที่ยกกันอยู่ต่างคล้องกันไปมา ขณะที่แต่ละคนยกแก้วขึ้นดื่มต่างกระแทกเบียดกันไปมา ทำให้การดื่มครั้งนี้เลอะเทอะไม่น้อย

                พรวด...

    เอกชัยสำลักเหล้าที่ดื่มเพราะไม่คิดว่าเหล้าแก้วนี้จะผสมในปริมาณที่มากขนาดนี้ ก็แน่ล่ะ พวกเพื่อนของเขาต่างผสมเหล้าในปริมาณที่มากกว่าปกติที่เขากินเกือบเท่าตัว พวกเพื่อนต่างหัวเราะและคะยั้นคะยอให้เอกชัยดื่มจนหมด เขาต้องใช้เวลาพักหายใจครู่หนึ่งก่อน นึกด่าพวกเพื่อนของเขาในใจ แต่สุดท้ายก็ยังดื่มจนหมดแก้ว

    เอกชัยรู้สึกว่ารสชาติของเหล้าช่างบาดคออะไรอย่างนี้ ไม่นานนักเขาก็เริ่มรู้สึกมึนหัว ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน เพื่อน ๆ ต่างรุมเข้ามาหอมแก้มเอกชัยแทนของขวัญวันเกิด แม้เพื่อนในกลุ่มเอกชัยจะเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่คงเป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้าทำให้คนเราทำอะไรพิเรนทร์ได้โดยไม่เขินอาย เอกชัยแม้ไม่ได้รู้สึกรังเกียจมากนัก แต่ยังอดทำท่าเช็ดหน้าเช็ดตาจากรอยจูบของเพื่อน ๆ ในกลุ่มไม่ได้

                สักพักหนึ่งเอกชัยก็รู้สึกมึนหัวอีกครั้งหนึ่ง เขาคิดว่าสภาพของเขาตอนนี้คงย่ำแย่ไม่น้อย จึงขอตัวมาเข้าห้องน้ำ เขาคิดว่าคงเป็นเพราะเหล้าแก้วเมื่อสักครู่เป็นแน่ จึงปล่อยให้พวกเพื่อนของเขายังคงสนุกสนานกันต่อไป ก่อนมาพวกเพื่อนยังแซวเขาว่าคออ่อนเหมือนผู้หญิง

                ไอ้พวกบ้าเอ้ย

                แม้จะเป็นงานวันเกิดที่ไม่มีขนมเค้ก ไม่มีของขวัญ ไม่มีคำอวยพร แต่แค่นี้ก็ทำให้เอกชัยมีความสุขในวันเกิดของตัวเองมากพอแล้ว เอกชัยเช็ดแว่นตาที่มีรอยหยดน้ำจากการฉลองเมื่อครู่นี้กับชายเสื้อ

                ติ๊ด ๆ!...

                เอกชัยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มีข้อความหนึ่งส่งเข้ามาเวลาเที่ยงคืนหนึ่งนาที ใครกันนะช่างส่งมาเวลาที่พอดิบพอดีขนาดนี้ เบอร์ที่ส่งเป็นตัวเลขสิบกว่าหลัก แสดงว่าคงต้องส่งผ่านมาทางอินเตอร์เน็ตเป็นแน่ เขากดดูข้อความซึ่งเป็นรูปขนมเค้กพร้อมกับคำอวยพรภาษาอังกฤษ

                เอกชัยเพ่งตาดูที่คำอวยพรอีกครั้งหนึ่ง นี่มันบ้าอะไรกัน ไอ้พวกชอบเล่นพิเรนทร์ คำอวยพรซึ่งควรจะเป็น Happy Birthday แต่กลับเป็น Happy Deathday!

                พรึบ!...

                จู่ ๆ ไฟในห้องน้ำก็ดับลงอย่างกระทันหัน เอกชัยสะดุ้งโหยงจนโทรศัพท์มือถือหลุดจากมือ มองไปที่สวิทซ์ไฟตรงประตูห้องน้ำผ่านความมืด แสงหนึ่งเดียวภายในห้องน้ำตอนนี้มาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ก็เพียงสามสิบวินาทีเท่านั้นก็ดับลง เขามองไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้น เขาอดรู้สึกหวาดหวั่นใจไม่ได้ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงควานหาโทรศัพท์มือถือ

                กึก.....กึก......กึก...

                เอกชัยสะดุ้งเฮือก ชักมือกลับ เสียงอะไรน่ะ มันเหมือนเสียงลากของอะไรสักอย่างดังมาจากในห้องส้วมห้องหนึ่ง แต่เขาไม่รู้แน่ชัดว่ามาจากห้องไหน เขาจำได้ว่าตอนเขาเข้ามาในห้องน้ำไม่มีใครนี่หน่า แต่เขาก็ไม่แน่ใจชัดว่าในห้องส้วมจะมีใครอยู่หรือไม่

                เอกชัยเพ่งตามองไปทางต้นเสียง สายตาของเขาค่อย ๆ ปรับเข้ากับความมืดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่เขายังคงมองไม่เห็นใครอยู่ดี เสียงกึกยังคงดังเบา ๆ อยู่ตลอดเวลา

    เอกชัยตัดสินใจว่าหากเขาเจอโทรศัพท์มือถือของเขาเมื่อไหร่จะรีบออกไปทันที เขาก้มลงไปยื่นมือความหาอีกครั้งหนึ่ง แต่แล้วเขากลับสัมผัสกลับบางสิ่ง มันเป็นเหมือนเมือกที่ทั้งนิ่มทั้งชื้น เอกชัยสะดุ้งโหยงอีกครั้งหนึ่ง หดมือกลับอย่างรวดเร็วแล้วรีบออกจากห้องน้ำโดยไม่หันหลังกลับมาอีก

                เอกชัยยืนหลับตาพิงผนังกำแพงห้องน้ำ หอบหายใจจากอาการตื่นเต้นเมื่อครู่ หัวใจของเขาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ นี่เราเมามากไปหรือเปล่า เอกชัยคิดพร้อมกับทุบหัวของเขาเอง เพราะที่ผ่านมา เขายังไม่เคยกินเหล้ามากมายขนาดนี้มาก่อน

                อยู่ ๆ เสียงหวี่ ดังที่ข้างหูของเอกชัย...

                เอกชัยลืมตาอีกครั้งหนึ่ง การลืมตาคราวนี้ทำให้เขาตกใจมากกว่าเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อครู่นี้อีก เขายืนตัวแข็ง ร่างทั้งร่างเย็นเฉียบ บรรยากาศในผับที่เมื่อครู่มีคนอยู่พลุกพล่าน เบียดเสียดกันเดิน เสียงเพลงดังสนั่นและแสงไฟระยิบระยับ แต่ตอนนี้กลับเงียบกริบและมืดสนิท ไม่มีหลงเหลือผู้คนอยู่เลยแม้สักคนเดียวรวมทั้งเจ้าพวกเพื่อนตัวดีของเขาด้วย

                นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย

                หรือว่านี่เป็นแค่การกลั่นแกล้งของเจ้าพวกเพื่อนของเขา แต่คนมันจะหายไปหมดแบบนี้ได้ยังไง เขาไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย เขาขยี้ตาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่เมื่อเขาเดินกลับไปที่โต๊ะตัวที่เขากับเพื่อน ๆ ฉลองวันเกิดกัน คราวนี้ตัวเขาแข็ง ใจสั่น แขนขาอ่อนแรง

                เป็นผู้หญิงคนหนึ่งผมยาวดำปิดหน้าปิดตา ชุดยาวขาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เขาเพิ่งนั่งเมื่อครู่ สองมือถือขนมเค้ก หญิงสาวนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน เอกชัยเห็นบางอย่างไหลออกมาจากบริเวณใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น มันค่อย ๆ ไหลย้อยลงไปยังขนมเค้าที่เธอถือ ขนมเค้กค่อย ๆ ถูกย้อมเป็นสีแดง

                ...เลือด! นั่นมันเลือดนี่หน่า

                ถึงตอนนี้เอกชัยหันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีออกจากที่นั่น เขาไม่สนแล้วว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เขารู้แต่เพียงว่าเขาต้องออกจากที่นี่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

                เพิ่งจะหันไป เอกชัยก็ต้องสะดุ้งโหยง ล้มหงายผงะลง ชนโต๊ะที่อยู่ด้านข้าง เศษขวดเศษแก้วบาดตามมือตามแขนเขาจนเลือดออกมาไม่น้อย ก็หญิงสาวคนนั้นมายืนอยู่ข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ พร้อมกับเค้กก้อนแดงก้อนนั้น

                เอกชัยมองกลับไปกลับมาด้วยความทั้งกลัวทั้งหวาดหวั่น ไม่ใช่! ไม่ใช่หญิงสาวคนนั้น หากแต่เป็นหญิงสาวสองคนที่เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน เขาคลานถอยหลังไปชนกับเก้าอี้ หันไปเจอหญิงสาวคนที่สามและเค้กสีแดงก้อนที่สามนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในที่สุดเค้าเห็นแล้วว่าบนขนมเค้กเขียนว่าอะไร

                Happy Deathday!

                เอกชัยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาลุกลี้ลุกลนลุกขึ้น ไม่สนใจกับเศษแก้วที่บาดตามเนื้อตัวเขา วิ่งออกไปทางประตูทางออก คนที่สี่แล้ว ผู้หญิงลักษณะเดียวกันคนที่สี่มายืนอยู่ข้างประตูทางออก เขาผงะเสียหลักแต่ยังคงวิ่งเซไปเซมาด้วยท่าทีหวั่นสะพรึงถึงขีดสุด สายตาอดมองกลับเข้าไปในผับไม่ได้

    เขาไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางทีตอนนี้เขาอาจจะเมามาก อาจจะนอนเมาไม่ได้สติอยู่ในห้องน้ำก็เป็นได้ หากพวกเพื่อนเขามาเห็นเขานอนเมาอยู่ในห้องน้ำ ก็คงจะปลุกเขาและเมื่อนั้นเขาก็คงจะตื่นจากฝันร้าย

    ขณะกำลังวิ่งข้ามถนน มีหญิงสาวคนที่ห้ายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เอกชัยร้องไห้เสียงดังอย่างไม่อาย หน้าตาบูดเบี้ยว ร้องไม่เป็นภาษาอย่างหมดหนทาง

                เอี๊ยด......ตุ๊บ...

                เขาไม่รู้สึกอะไรอีก เพียงรู้สึกชาไปทั่วร่างกาย ดวงตายังคงเบิกโพลงด้วยความกลัวสุดขีด ความมืดค่อย ๆ ปกคลุมร่างกายของเขา จนกระทั่งมันมืดมิดเสียจนไม่สามารถมองเห็นอะไรอีก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×