แม่เลี้ยงเดี่ยวกับอัจฉริยะแฝดทั้งห้า
สาววัย17 ปี ถูกขายแปลกหน้าข่มขืนจนท้องลูกแฝดอัจฉริยะทั้งห้า โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเด็กนั้นคือผู้ใด
ผู้เข้าชมรวม
2,014
ผู้เข้าชมเดือนนี้
65
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ย้อนไปเมื่อ17ปีที่แล้ว หญิงสาวแม่เลี้ยงเดี่ยว ชื่อซูซ่านนางเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจนถูกรับเลี้ยงจากยายชราอายุ60ปี จนซูซ่านเติบใหญ่โตเป็นสาวอายุสิบเจ็ดหน้าตาสะสวยผิวขาวนวลผ่องสูงประมาณ 164 ซ.ม นางมีความใฝ่ฝันอยากจะหาเงินได้เยอะ ๆ เพื่อให้มีฐานะดีขึ้นจะได้ไม่ต้องลำบากนางจึงรับจ้างทำงานทุกอย่างเท่าที่สามารถจะทำได้ แม้กระทั้งงานก่อสร้างนางก็ยอมทำ แต่หากจะให้นางไปขายตัวนางไม่ยอม ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นสายตาแม่เล้าในยานทางเมืองลั่วหยางอยู่ห่างจากราชวังศ์ชิงประมาณหกลี้ ซึ่งเป็นแถบที่ผู้คนเที่ยวเยอะที่สุด อยู่มาวันหนึ่งซูซ่านอยากมาดูเทศการวันตรุษจีนนางจึงขอแม่นางเดินทางไปที่นั้น แม่นางนั้นเห็นว่านางเริ่มเป็นสาวแล้วคงอยากเที่ยวตามประสานารีนึกเหมือนดอกไม้ที่กำลังออกดอก อยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
“ไปเถิด อย่ากลับมามืดค่ำละกันมันอันตราย “ น้ำเสียงพลางบอกกล่าวในลำคอที่เบาดังใบไม้แห้งเหี่ยวกล่าว ตักเตือนบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ไม่ทันจะได้พูดอีกคำซูซ่านก็เดินออกจากเรือนเลยไม่ได้ยินสิ่งที่แม่จะพูดต่อไป จนเจอรถม้าผู้ที่พอมีฐานะมีรถม้าประจำบ้านกำลังออกเดินทางไปยังลั่วหยาง ทันทีที่เห็นซูซ่านวิ่งตามมาจึงหยุดรถม้าทันที ไม่รู้ว่านางนั้นวิ่งมาตามนานแค่ไหนแล้วเศรษฐีจึงเอ่ยถาม ในขณะที่นางเดินย่อเข่าปวดเมื่อยไปทั้งตัว
“ซูซ่านเจ้าอยากไปด้วยรึ “
ซูว่านพยักหน้าตอบรับแลดูหน้าเศร้าหมองกลัวว่าจะไม่ได้ไปด้วย ทันใดนั้นท่านเศรษฐีจึงยิ้มร่าเอ็นดูหญิงสาว พร้อมเปิดประตูรถม้าให้นางขึ้นมานั่งด้านใน ซูซ่านเห็นเช่นนั้นจึงเข้าใจรีบขอบคุณท่านเศรษฐีอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยน้ำเสียงสีหน้าแววตาที่ยังอ่อนต่อโลกใบนี้ ในระหว่างเดินทางนั้น หญิงสาวอายุราว45 ปี หรือท่านเศรษฐีที่ซูซ่านชอบเรียกแทนชื่อจริง นางได้เอ่ยถามซูซ่านว่าโตขึ้นนางอยากเป็นอะไร ซูซ่านจึงตอบอย่างมั่นใจว่านางนั้นอยากมีพื้นที่ดินหลายแปลงจะได้ปลูกพืชผักขายเองอยู่แบบสามัญชนทั่วไป เศรษฐีได้ฟังคำตอบของซูซ่านแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง
“เจ้าไม่อยากเข้าวังเป็นนางสนมรึ ผู้ใดก็อยากเป็นทั้งนั้น “
ซูซ่าน “ ไม่ข้าไม่เคยนึกถึงเรื่องนี่ ข้าเพียงนึกแต่ว่าหากท่านแม่ข้าแก่ตัวลงไปผู้ใดจะดูแลหากข้าออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ในที่ห่างไกล “
เศรษฐีได้ฟังคำตอบแล้วก็เอ็นดูหญิงสาวที่มีความดีไม่ทอดทิ้งผู้มีพระคุณและนางต่างจากสตรีทั่วไปมากหากโตขึ้นมากกว่านี้หากคิดจะมีคู่ครองต้องหาคนที่มีความคิดนิสัยใจคอเช่นเดียวกันไม่เช่นนั้นไปกันไม่รอด เศรษฐีจึงเอ่ยบทกลอนสุภาษิต สอนซูซ่านที่กำลังจะโตเป็นสาวให้ชายหมายตามองเชยชม
“แม้นหากชายใดหมายประสงค์มาหลงรัก
ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น อันความรักของชาย
นี้หลายชั้นเขาว่ารักรักนั้นประกาศใด “
“จำคำข้าไว้เจ้าอย่าได้หลงกลบุรุษเพียงเพราะคำว่ารัก หากชายผู้นั้นรักเจ้าจริงการกระทำมันบ่งบอกมากว่าคำพูด สิ่งที่ข้าบอกสอนเจ้าอย่าได้ลืมเป็นอันขาด “
ซูซ่าน “ ข้าจะไม่ลืมในสิ่งที่ท่านบอกสอนข้า “
“ดีแล้ว “
09.00 เมืองลั่วหยาง
ซูซ่าน “ท่านหญิงข้ายังไม่รู้จักซื่อของท่านเลย “
เฟยเถา “ ข้าชื่อว่าเฟยเถา “
ซูซ่านจึงเรียกน้าเฟยเถาอย่างเป็นทางการ แลมองหน้าเฟยเถาแล้วปิดฝ่ามือที่มีแผลแขนหลังไขว้กำมือซ่อนด้านหลังในท่ามกลางผู้คนที่กำลังเดินทางมาวันตรุจีน ด้วยเสื้อผ้าที่สง่างามมีแต่ซูซ่านที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาด ๆ ที่เก่าแล้ว นางจึงไม่กล้าเดินกับเฟยเถากลัวผู้อื่นจะนินทาเฟยเถาว่าเอาสาวรับใช้มาเที่ยวเตร่งานตรุจีนด้วยสภาพเหมือนหมาป่าที่ยังไม่อาบน้ำ เฟยเถาจึงเข้าใจทันทีเลยเดินจูงมือซูซ่านเข้ามาในร้านเสื้อผ้าให้เจ้าของร้านปรับแปลงแต่งโฉมให้งดงามที่สุดโดยเฟยเถานั้น บอกซูซ่านว่าจะออกค่าใช่จ่ายเอง
ซูซ่าน “ท่านน้า ข้าเกรงใจท่าน “ ซูซ่านยืนกอดเสาหน้าร้านไม่ยอมเข้าร้านนั่งย่อตัวลงเม้มฝีปากรัดแน่นก้มหน้าก้มหน้าก้มตาดูสภาพตัวเอง เลยได้แต่นึกในใจว่านางนั้นเป็นแค่หญิงยากจนไม่มีเงินทองจะคู่ควรแก่เสื้อผ้าพวกนี้หรือ เฟยเถาจึงย่อตัวนั่งเป็นเพื่อนนางจนซูซ่านมองไปรอบ ๆ ที่ผู้คนกำลังเดินผ่านมองนางด้วยสายตารังเกียจทันใดนั้นซูซ่านจึงรีบลุกขึ้นแล้วขอร้องให้เฟยเถาอย่าทำเช่นนี้
ซูซ่าน “ ท่านน้าท่านลุกขึ้นเถิด “
เฟยเถา “ ไม่ !จนกว่าเจ้าจะยอมแปลงโฉม “
ซูซ่าน “งั้นข้าจะทำงานแลกเงินเก็บทีละเล็กน้อยเพื่อหาเงินมาคืนค่าชุดที่ท่านเลือกให้ “ ซูซ่านกระซิบเสียงเบา ๆ อย่างร้อนใจ กลอกตาไปมาจนไม่กล้าสบตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา
เฟยเถา “ ก็ได้ เจ้าเข้าไปด้านในข้าจะรออยู่ด้านนอก “
เมื่อ เจ้าของร้านเห็นนางยืนหน้าตายตัวแข็งทื่อสายตามองดูเสื้อขาด ๆ ที่เป็นรูเล็ก ๆ และผมเผ้าที่รุงรังผิวหน้าทั้งลำตัวไม่เคยถูกเครื่องปะแป้ง เลยจับนางอาบน้ำขัดผิวข้อศอกและหัวเข่าที่ดำด้านเล็กน้อย
ซูซ่าน “ ข้าอาย “ ซูซ่านนั้นเขินอายเพราะไม่เคยแก้ผ้าให้ผู้ใดเห็นจึงคว้าเอาผ้ามาปิดลำตัวกอดอกรัดแน่นยืนชิดกำแพงขดตัวเล็กน้อย ดวงตาปรือสำเหลืองมองไปที่อ่างอาบน้ำ
“ข้าก็เป็นสตรี เหตุใดเจ้าต้องอาย “ เจ้าของร้านยืนค้ำเอวพยายามเอ่ยบอกให้ซูซ่านเข้าใจ
ซูซ่าน “ ข้า.... ? “ หลังจากนั้นนางก็ยอมเอาผ้าคลุมตัวออกนางคิดเสียว่านางนั้นอยู่ในห้องคนเดียวยอมลงอ่างอาบน้ำทั้งที่ตัวเกร็งไปหมดแล้ว
ผลงานอื่นๆ ของ ซ่อนร้าย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ซ่อนร้าย
ความคิดเห็น